Group Blog
 
All blogs
 
นิยายYuri วุ่นนัก...หลงรัก ซุปเปอร์สตาร์ 5(รีไร้ท์)

Three gangsters
แก๊งค์สามแซ่บ

การสัมภาษณ์วันนี้ เป็นเรื่องที่พนิตพิชาช่วยเจ้าของตามหาน้องหมาที่หายออกจากบ้าน ที่จริงเธอก็แค่แชร์รูปน้องหมาตัวนั้นที่หายไป ในเฟสบุคและอินสตาแกรม เผอิญว่าโชคดี กลุ่มแฟนคลับของเธอเองคลับคล้ายคลับคลาว่าจะเจอน้องหมาตัวนั้นถูกหมาเจ้าถิ่นรุมกินโต๊ะ จึงได้ติดต่อผ่านทางพอลลี่และช่วยประสานกันพาไปรักษาพยาบาล และตามหาตัวเจ้าของจนเจอในที่สุด เจ้าของน้องหมาโพสขอบคุณพอลลี่ และยกว่าเธอเป็นนางฟ้าใจบุญ ประกอบกับเธอได้สนับสนุนมูลนิธิช่วยเหลือสัตว์อยู่แล้ว เซเลบสาวจึงโด่งดังขึ้นไปอีก

เดือนหน้าพอลลี่มีโครงการเพื่อช้างเร่ร่อน และเจ็บป่วยพิการ เธอตั้งใจจะทำของที่ระลึกขาย เช่น เสื้อหรือหมวกและหาอาสาสมัครเพื่อร่วมกิจกรรม ทางรายการข่าวของสถานีแห่งหนึ่งจึงได้เชิญพนิตพิชามาสัมภาษณ์สด

ที่ร้านกาแฟหน้ามหาวิทยาลัยของบุญยกร สองสาวเพื่อนซี้มาถึงก่อนแต่ยังไม่ครบองค์ประชุม เบลและรุ้งนั่งรอโอปอที่กำลังตามมาสมทบ

บังเอิญว่าที่ร้านกำลังเปิดโทรทัศน์ และเป็นช่องเดียวกับช่วงที่พอลลี่กำลังให้สัมภาษณ์ ถึงโครงการช่วยเหลือช้างพิการและเจ็บป่วย
เจ้าของร้านเดินมากำลังจะเปลี่ยนช่อง แต่เบลขอไว้ พลอยรุ้งซึ่งปกติไม่ค่อยสนใจเรื่องบุญกุศลเท่าไหร่นัก ก็แน่ล่ะ หล่อนมาเสมอคิดว่าตัวเองเป็น ‘คนบาป’

“แกสนใจเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอ ชั้นว่าเค้าดูเฟคๆนะ สร้างภาพไงก็ไม่รู้”
รุ้งถามเพื่อนที่ไม่ละสายตาจากจอทีวี และตั้งข้อสังเกตดาราสาว

“ไม่หรอก คุณพอลลี่เขาเป็นคนดีจริงๆ” เบลแก้ต่างให้

“แกรู้ได้ไงวะ เบล ทำอย่างกับว่ารู้จักกะเขาดี อ๋อลืมไป แกแต่งหน้าให้เขาอยู่บ่อยนี่หว่า” รุ้งนึกขึ้นได้ว่าเพื่อสาวก็คลุกคลีอยู่กับวงการนี้อยู่บ้าง

“ก็ไม่ขนาดนั้น แต่เท่าที่สัมผัส เค้าก็ไม่ได้สร้างภาพนะ” เบลตอบตามความรู้สึก

“เออ ของแบบนี้ต้องดูกันนานๆ ปากบอกว่าเป็นคนดี ถือศีลกินเจทำบุญทำทาน นุ่งขาวห่มขาวเข้าวัด ที่แท้ทำตัวเลวๆเยอะไป ดูอย่างอีตาเสี่ยเมือคืนดิ แม่ม กลัวเมียชิบ... ทำตัวเป็นผู้ใหญ่ใจดี เลี้ยงนมโรงเรียนเด็กยังไม่พอ ดันมาอุปการะ ค่าหน่วยกิตชั้นอีก” รุ้งร่ายยาว

“รู้ ว่าต้องดูกันยาวๆ แต่เซ้นส์มันบอกว่าเขาจริงใจ” บุญยกรยังคงยืนยันความคิดตนเอง
“เออ ไอ้คุณหนูโลกสวย ระวังโดนเขาต้มจนเปื่อยแล้วจะเสียใจทีหลัง” พลอยรุ้งผู้ผ่านโลกมาเยอะกล่าวทิ้งท้าย

“ช่างเถอะ ไปวิจารณ์ใครเขามากๆก็ไม่ดี พวกเราเองก็ไม่ได้วิเศษไปกว่าเขาหรอก ว่าแต่โอปอมันถึงไหนแล้วเนี่ย” สาวสวยหยิบมือถือมาดูเวลา

“ถามมันเองเลยดีกว่า นั่นมาละ”

โอปอเปิดประตูร้านเดินเข้ามา พร้อมกับเด็กรุ่นน้องหน้าตาบ้องแบ๊ว แม่เสือสาวดาวมหาวิทยาลัยทักทายเพื่อนสาวทั้งสอง

“เฮ้ โทษทีวันนี้ช้า มัวแต่รอน้องเขาแต่งตัว”

สาวเท่ห์รีบโยนความผิดไปให้คนที่ทั้งสองไม่คุ้นหน้า จะได้โดนด่าแบบไม่ถนัดถนี่
“เออๆ ว่าแต่ใครอ่ะ น่ารักจัง ยิ้มก็มีเสน่ห์” พลอยรุ้งถาม

“ชื่อฝ้าย รุ่นน้องเฟรชชี่ คณะมนุษย์ฯ เดี๋ยวจะพาน้องเขาไปดูหนัง” โอปอแนะนำคู่ควงคนใหม่ พร้อมหันไปบอกเด็กสาว

“รอพี่ตรงนี้ก่อนนะ ขอทำรายงานแปป แล้วค่อยไปหาไรอร่อยๆกินกัน”

“ค่ะ”

รุ่นน้องหน้าใสรับคำอย่างว่าง่าย เพราะหวังของที่มาล่อตรงหน้า
“เอาล่ะ เสียเวลากันมามากละ เริ่มเลยละกัน”

เบล กระตุ้นเพื่อนๆและหยิบเอาเอกสารในกระเป๋าออกมาวางบนโต๊ะ
“อ้าว! เดี๋ยวสิขอพักก่อน เหนื่อยนะเนี่ย”

โอปอหาเรื่องอู้ หล่อนไม่ค่อยชอบออกความคิดเห็นเท่าไหร่ โดยเฉพาะเรื่องอะไรๆที่เกี่ยวกับวิชาการ แต่ถ้าเป็นวิชากามละก็ สาวเท่ห์สู้ขาดใจ

“ได้ ห้านาที”

เบลตอบและหยิบแทบเล็ตขึ้นมาเช็คเฟสบุ๊ค ส่วนรุ้งก็เดินไปที่อ่างล้างหน้าด้านหลังร้านเพื่อสำรวจตัวเอง หล่อนต้องดูดีอยู่ตลอดตลอด

“รุ้ง นมแกที่ทำมาเป็นไงวะ เจ๋งป่ะ”

โอปอถาม ด้วยความที่สามสาวสนิทกันมาก จึงคุยเรื่องส่วนตัวได้ทุกเรื่องไม่เว้นเรื่องใต้สะดือ

“ก็ดีนะแก แรกๆมันก็แปลกๆ เดินเหินก้มนั่งไม่ค่อยสะดวก พอเข้าที่เข้าทางก็ปกติ ถามไอเบลมันก็ได้ มันเคยเห็นแล้ว”

พลอยรุ้งตะโกนตอบมาจากหลังร้าน

“เหรอแก ใหญ่ป่ะ” โอปอตื่นเต้นหันมาถามที่เบล

“โคตร! อ่ะ” เบลตอบ ก็เธอเป็นผู้หญิงเห็นนมคนอื่นจะไปตื่นเต้นอะไร

“แล้วแกล่ะ เบลไม่เห็นค่อยไปไหนมาไหนกับพี่ต้นเลย” สาวเท่ซักต่อ

“พี่เขางานเยอะน่ะ”
เบลตอบสั้นๆเพราะมันไม่มีอะไรจะอธิบายขยายความ วันๆหนึ่งเจอกันที่สตูดิโอแล้วก็แค่ตอนเช้าไม่มีอะไรเลย

“เหรอ ระวังพี่ต้นน้ำเขาแอบไปกินคนอื่นหรือโดนคนอื่นคาบไปกินนะ แล้วจะมานั่งน้ำตาเช็ดหัวเข่า” โอปอเตือนเพื่อนด้วยความหวังดี

“แกนี่ เสื้อยืด ยกทรงกางเกงใน กระโปรงจัง!” บุญยกรปล่อยของ

“ไรของแกวะ บ้าเปล่า” โอปอยังไม่เก็ท

“เขาเรียกด่าเป็นชุดไง”
เธอพูดจบก็หัวเราะชอบใจ ไม่ได้ชอบใจมุกแป้กๆของตัวเอง แต่ชอบใจที่เพื่อนตามไม่ทัน ทุกทีเบลจะเป็นลูกไล่โอปอซะมากกว่า

“เอาเข้าจริงนะ ถ้าพี่ต้นจะไปเจอคนที่ดีกว่าชั้นก็โอ”

เบลพูดขึ้นมาลอยๆแต่สีหน้าท่าทางบ่งบอกว่าหล่อนทำเช่นนั้นจริง

“แกพูดอย่างกับว่า แกไปเจอคนใหม่แล้ว”
โอปอมองหน้าเพื่อนสาว สงสัยในเหตุผล

“ยังไงวะ?” เบลไม่รู้ความหมายที่เพื่อนต้องการจะสื่อ
“มันเป็นเหตุผลที่ดูดีมากเพื่อน” สาวห้าวเปิดประเด็น ดูดชาเย็นหนึ่งอึกก่อนจะพูดต่อ

“ร้อยละเก้าสิบของการบอกคนรักให้ไปหาคนใหม่ที่ดีกว่า แท้ที่จริงแล้ว เป็นการเปิดทางสะดวกให้กับตนเอง”

ผู้มากประสบการณ์รักจี้ใจดำเพื่อนซี้ มองเข้าไปในนัยน์ตาใสเพื่อค้นหา
เบลไม่หลบสายตา เพราะเพื่อนยิ่งพูดยิ่งงงยิ่งไม่เข้าใจ

“แกเอาทฤษฎีอะไรมาอ้างวะ เปิดทางสะดวก?”

“เอาแบบละเอียดนะ ถ้าคู่รักที่คบกันดีราบรื่นเข้าใจซึ่งกันและกัน แล้วอยู่ๆมาวันหนึ่ง มีอีกฝ่ายมาบอกว่า ที่รัก ถ้าเธอไปเจอคนใหม่ที่เขาดีกว่า ก็สามารถไปจากชีวิตฉันได้ นั่นเท่ากับว่า เขาคนนั้นต้องการจะบอกกับคนรักว่า เขาเจอคนที่ดีกว่าแล้ว และที่รัก เธอออกไปจากชีวิตฉันได้แล้ว” คาสโนวี่สาวร่ายยาว

“แกคิดว่าชั้นเจอคนใหม่งั้นเหรอ แกก็เห็นวันๆ ชีวิตชั้นไม่อยู่กับพวกแกก็อยู่กับพี่ต้น” เบลยังโต้เถียง

“ก็ใช่ จะเล่านิทานให้ฟังเรื่องหนึ่ง มีตาแก่คนหนึ่งอยู่ อพาร์ตเมนต์ใช้ชีวิตหลังเกษียณกับภรรยาสาว ทั้งคู่อยู่ในห้องสี่เหลี่ยมแทบจะยี่สิบสี่ชัวโมง เรื่องอาหารการกินจะมีลูกๆดูแล เว้นแต่ในช่วงเช้า ตาแก่จะไปออกกำลังกายที่สวนสาธารณะส่วนกลาง วันหนึ่งที่ชายแก่ตายไป มีสาววัยรุ่นคนหนึ่งอุ้มลูกมาขออ้างสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติ ชั้นจะเล่าแค่นี้”

“หมายความว่า ช่วงที่ไปออกกำลังกาย ชายแก่แวบไปหาสาวๆ”

“ใช่ จากการสืบประวัติ ชายแก่อยู่ชั้นที่ยี่สิบ ทุกเช้าเขาจะกดลิฟท์ลงมาที่ชั้นหก ไม่เคยลงมาออกกำลังกายเลย นี่คือตัวอย่าง” โอปอจิบน้ำอีกรอบคอเริ่มแห้งเพราะพูดมายาว

“ชั้นกำลังจะบอกแกว่า โอกาสและเวลามันมีเสมอในการเจอะเจอคนใหม่ โดยที่แกจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตามที แต่ถ้าลองว่าแกคิดที่จะให้พี่ต้นไปเจอคนใหม่แล้วล่ะก็ ในความคิดของชั้นที่บอกแกได้ตอนนี้คือ แกอาจจะรักพี่ต้นน้อยลงหรือไม่ก็แกปันใจให้กับคนอื่น ก็เท่านั้น” โอปอสวมบทนักจิตวิเคราะห์
เบลฟังอย่างตั้งใจ คิดถึงความรู้สึกที่แท้จริงในตอนนี้

“จะว่าไปแกก็อาจถูกครึ่งหนึ่งนะโอปอ” สาวเท่มองมาที่เพื่อนซี้ อยากรู้

“อนาคตมันเป็นสิ่งไม่แน่นอนเพื่อนรัก คนเราพบกันเพื่อลาจาก และชั้นก็คิดว่าเรายังเด็กเกินไปที่จะคิดถึงอนาคตที่มันแสนไกลอย่างนั้น ชั้นรู้แค่ว่าพี่ต้นดูแลชั้นได้อย่างดี และเราก็มีความสุขกันตามสมควร ส่วนที่ว่าถ้าชั้นจะมีใครใหม่ เอาเป็นว่าจะบอกแกให้รู้ก่อนคนแรกเลยดีมั้ย”

บุญยกรตอบแบบเคลียร์ๆ ทำเอาโอปอไม่อยากซักไซ้ต่อ

“เรื่องรักๆใคร่ๆแกนี่ที่หนึ่งเลยว่ะเพื่อน”
พลอยรุ้งเดินออกมาพูดกับโอปอ หลังจากไปปัดแก้มทาลิปเพิ่ม หลังจากนี้ เสี่ยคนเมื่อคืนจะพาเธอไปถอยไอโฟนตัวใหม่ล่าสุด เพื่อเป็นของขวัญสำหรับผลงานเมื่อคืน

“รุ้ง รับปากชั้นอย่างได้ป่ะในฐานะเพื่อนรักกัน” โอปอถามสายตาวิงวอน

“ไรวะ แต่ถ้าเป็นแกกะเบลขอร้องชั้นถึงต้องไปกินข้าวกะมาริโอก็จะทำให้”
แม้จะพูดติดตลกแต่พลอยรุ้งจริงใจ เธอเหมือนมีเพื่อนสองคนนี้เท่านั้นบนโลก ส่วนพ่อ เธอไม่เคยคิดว่ามีมานานแล้ว

“ขอดูนมแกหน่อยดิ ชั้นอยากเห็นว่ะ เผื่อจะให้น้องฝ้ายไปทำบ้าง”
ตานี้เลยหัวเราะลั่นกันออกมาทั้งร้านทั้ งขำในท่าทางอยากรู้อยากเห็นและแววตาแสนหื่นของสาวมั่น ทั้งน้องฝ้ายเองที่รู้ว่าตัวโดนล้อ

“แกนี่ ใครเขาจะให้ดูง่ายๆ เอางี้ แกต้องทำรายงานตัวนี้แทนในส่วนของชั้น แลกกัน เอามั้ย” รุ้งเสนอข้อแลกเปลี่ยน เธอไม่เคยทำอะไรให้ใครฟรีๆ

“อ้าวแล้วกัน ทีไอเบลมันยังได้ดูเลย ลำเอียงนี่หว่า” โอปอตัดพ้อ

“เบลมัน วีไอพีเว้ย มันเป็นผู้ตรวจรับงาน ใช่ป่ะ” รุ้งให้เหตุผลและหันหน้ามาที่เบล
“พอละๆ เล่นกันต่อคงได้แก้ผ้ากันกลางร้าน” บุญยกรตัดบทเพราะเสียเวลากันไปมากแล้ว
“ตกลงว่าจะทำหัวข้ออะไร คิดออกกันยัง”
บุญยกรสวมมาดผู้นำเริ่มจริงจัง สามสาวปรับโหมด แม้พวกหล่อนจะแก่นกะโหลกกะลาแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ด ดูภายนอกไม่เอาไหน แต่ถึงเวลาต้องตั้งใจ ทั้งหมดก็สู้ขาดใจ

“ชั้นว่า เป็น สังคมวิทยากับโลกยุคปัจจุบันดีมั้ย”
โอปอรีบเสนอความเห็น วันนี้ทั้งสามสาวเจ้าเสน่ห์ต้องสรุปหัวข้อรายงานวิชาสังคมวิทยา ซึ่งเป็นวิชาเลือกเสรีที่บุญยกรคะยั้นคะยอให้อีกสองสาวลงเรียน พวกหล่อนต้องเขียน outline ส่งอาจารย์ในคาบหน้าพร้อมกับพรีเซนต์ เบลพยักหน้ารับยังไม่ออกความเห็นใดๆ และจดหัวข้อไว้ในแทบเล็ตแล้วเงยหน้าขึ้นหันมาทางพลอยรุ้ง

“พฤติกรรมของวัยรุ่นไทยต่อโซเชียลมีเดีย” โอปอหันมามองเพื่อนโคโยตี้ตาโตประมาณว่า ‘เริ่ดค้า’

เบลเทคโน้ตเป็นข้อสอง จากนั้นก็เงยหน้าขึ้นมา

“อิทธิพลของวัฒนธรรมยุโรป ต่อการออกแบบแฟชั่น ศึกษากรณีผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ช่วงปี 1990-2015”
บุญยกร พูดพร้อมบันทึกหัวข้อของตนเองลงแทบเล็ต

“เฮ้ยสุดยอดอ่ะเพื่อน เท่มาก ยังกะหัวข้อวิทยานิพนธ์เลย ใครคิดให้แกวะ” โอปอไม่เชื่อหูตัวเอง เบลมันอัจฉริยะจริงๆ

“นี่แก ไม่คิดจะให้เครดิตกันบ้างเลยไง ชั้นคิดเอง คิดได้เมื่อคืน อยู่ดีๆก็คิดออก” บุญยกรตอบ เธอได้แรงบันดาลใจมาจาก someone
หลังจากพิจารณาทั้งสามหัวข้อทั้งหมดก็ลงความเห็น

“ชั้นว่าเอาหัวข้อแกแหล่ะ โอเค มาเริ่มเขียน outline กัน” รุ้งสรุปให้
จากนั้นสามสาวก็ช่วยกันระดมสมอง เพื่อเขียนเค้าโครงรายงาน และแบ่งหน้าที่ให้รุ้งไปพิมพ์ ส่วนโอปอไปหาเอกสารอ้างอิงเพิ่มเติมที่ห้องสมุด และบุญยกร ในฐานะที่น่าจะรู้เรื่องมากที่สุดป็นผู้พรีเซ๊นต์

ไม่นานการสัมภาษณ์สดก็เสร็จสิ้นลง พอลลี่หัวเสียเล็กน้อยที่พิธีกรจอมเสี้ยมมักโยนคำถามงี่เง่าชวนหัวเสีย และวกหาเรื่องเธอตลอด ในห้องแต่งตัวก่อนจะกลับ พนิตพิชามีโอกาสพบกับพิธีกรชายจอมสร้างกระแสคนนั้น เซเลบสาวจึงเอาความ

“พี่ มีอะไรกับหนูหรือเปล่า เล่นหนูตลอดเลย”

“เปล่านี่ พี่ก็แค่ถามตามสคริปต์ที่โปรดิวซ์เขาส่งมา” พิธีกรชื่อดังตอบทั้งๆที่ความเป็นจริงใครๆเขาก็รู้กันทั้งบาง ว่าตานี่ชอบแทรกบทพูดเอง

แต่ด้วยความเป็นเซเลบชื่อดัง ชอบทำข่าวสร้างภาพช่วยเหลือชาวบ้าน ทำข่าวดราม่าเรียกน้ำตา คนดูทางบ้านจึงชอบและไม่มีใครกล้าทักท้วง หมอนี่จึงหยิ่งผยองและคอยกลั่นแกล้งคนอื่นอยู่ตลอด เพราะลึกๆแล้วอิจฉาสาวน้อยผู้เป็นคลื่นลูกใหม่ พร้อมจะกลบรัศมีคนหน้าเก่าอย่างเขา

“ไม่มีก็ดีค่ะ แต่คราวหน้าขอหนูดูสคริปต์ก่อนนะคะ” พนิตพิชาพูดเป็นเชิงปราม

“อันนี้น้องก็ต้องไปคุยกับโปรดิวเซอร์เองนะ”
จอมแทงข้างหลังโยนเรื่องไปให้คนอื่นและเห็นท่าไม่ดีจึงเบี่ยงตัวหลบไปโดยไม่กล่าวคำอำลาใดๆทั้งสิ้น

อุษาที่รออยู่ด้านนอกยกนาฬิกาขึ้นดู ตัดสินใจเดินเข้ามาตามเพราะเห็นว่าช้าไปมาก สาวอวบไม่ทันได้เห็นเหตุการณ์ แต่ก็ทันได้เห็นหน้าบึ้งๆของคนรัก แม้หล่อนจะไม่ฉลาดเท่าไหร่ก็พอเดาออกว่าเกิดอะไรขึ้น

“ช่าง แม่.. เหอะ ไอ้เควี่ยนี่ มันขี้อิจฉา ใครๆเขาก็รู้”
อุษาสบถ ไม่คิดให้เกียรติคนที่บังอาจมารังแกนางฟ้าของหล่อน

“ค่ะ ไปไหนกันต่อดีเอ่ย พี่ยุทธติดงานพอลลี่ว่างตลอดวันเลยล่ะ” เซเลบเอ่ยปากชวนคนรักหาเรื่องแก้เซ็ง

“ใช่สิพี่มัน นัมเบอร์ทูตลอดกาล พอใครต่อใครไม่ว่างค่อยคิดถึง” สาวห้าวตัดพ้อ

“เป็นเบอร์สองที่น่ารักที่สุดในโลกเบย!” พอลลี่แซวใช้มือน้อยๆจับที่แก้มเจ้าเนื้อเบาๆ
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของอุษาก็ดังขึ้น เป็นเบอร์แปลกๆที่ไม่ได้บันทึกเอาไว้ แต่ก็ต้องรับเผื่อว่าจะเป็น เอเจนซี่รายใหม่ๆที่ติดต่อเข้ามา หลังจากดูพอลลี่ทางโทรทัศน์เมื่อสักครู่

“สวัสดีค่ะ อุษา ผู้จัดการส่วนตัวของพอลลี่ พนิตพิชาค่ะ” อุษารับสายเดินห่างออกมา

“ค่ะ ได้ค่ะ งั้นอีกสักสองชั่วโมงอุษาจะเข้าไปพบนะคะที่...”
พอลลี่ฟังไม่ค่อยชัดเท่าไหร่ เพราะแฟนสาวเดินไปค่อนข้างไกล ส่วนตัวเธอเองก็ไม่ได้ให้ความสนใจอะไรมากนัก เพราะไม่อยากรับงานเพิ่มอีกแล้ว เธอเหนื่อยเหลือเกิน และยังไม่อยากให้ตัวเองช้ำมากเกินไป ออกหน้าจอบ่อยๆใช่ว่าจะดี คนสมัยนี้เบื่อง่ายดาย

ระหว่างรอผู้จัดการ พนิตพิชาเปิดมือถือดูเฟสบุ๊คและ เวบบอร์ดต่างๆ มีคนเข้ามาให้กำลังใจเธออย่างล้นหลาม เพราะคนดูทีวีก็ไม่ได้กินหญ้าแทนข้าว และเข้าใจว่าเธอถูกรังแก ทีนี้เลยกลายเป็นคดีพลิก พิธีกรชื่อดังกำลังถูกกระแสตีกลับ แบบที่เขาเรียกว่า แพ้ภัยตัวเอง


ซุปตาร์ไล่อ่านข้อความแบบสะใจเล็กๆ แต่อีกใจก็ไม่วายห่วงตัวเองขึ้นมา คราวหน้าเธอโดน ‘จัดหนัก’ แน่ๆ ความจริงพอลลี่ไม่อยากตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์ กับใครเลย เพราะวงการบันเทิงมันอยู่ยาก

จู่ๆเธอก็คิดถึงสาวน้อยหน้ามนคนน่ารักขึ้นมา เพราะนึกขึ้นได้ว่า ตัวเองกำลังอยู่ในห้องแต่งตัวที่ปกติเธอจะเห็นสาวน้อยจอมโก๊ะหยิบนั่นจับนี่อยู่ตลอด แต่ที่นี่เป็นอีกสถานีหนึ่ง

พนิตพิชาต้องการทีมงานอาสาสมัครมาช่วยโครงการ จึงกดโทรศัพท์ไลน์ไปหาน้องนักศึกษาสาว

Pollybellisario “Hi สาวน้อย”
Bellejubjub “ค่ะ”
Pollybellisario “ว่างมั้ยบ่ายนี้ มีเรื่องอยากคุยด้วย”
Bellejubjub “หมายถึงจะให้เบลไปหาเหรอ ที่ไหนคะ”
Pollybellisario “เจอกันบ่ายสอง Siam square/bye”
Bellejubjub “ค่ะ”

เมื่อนัดแนะกันเสร็จก็เป็นจังหวะเดียวกับที่อุษาเดินกลับเข้ามา
“พอลลี่จ๋า มีผู้ใหญ่ท่านนึงสนใจโครงการของเราน่ะ อยากเป็นสปอนเซอร์ให้ พี่จะไปพบบ่ายนี้ แต่เราไปต้องไปหรอกนะ ไว้พี่จัดการเอง”

อุษาบอกข่าวและจัดแจงทำหน้าที่เสร็จสรรพ

“อ้าว ว่าจะชวนไปกินติมซะหน่อย ว้า! อดเลย” พนิตพิชาเซ็งๆ

“ไม่เห็นเป็นไรนี่ ไว้คราวหน้าก็ได้” อุษาแกล้งทำเป็นเสียดายทางสีหน้า

“อืม แต่ว่าทำไมเราต้องหาสปอนเซอร์ด้วยล่ะ ในเมื่อมันเป็นแค่โครงการเล็กๆ อีกอย่างเงินบริจาคจากพอลลี่เองก็น่าจะพอแล้ว”
พนิตพิชาชักไม่ค่อยเห็นด้วย เธอไม่อยากให้คนนอกเข้ามาวุ่นวาย โดยเฉพาะเรื่องเงินๆทองๆ ผลประโยชน์ที่ไม่เข้าใครออกใคร

“ก็ดีแล้วไง โครงการจะได้ออกมาดีๆ พอลลี่เองก็ไม่ควรปฏิเสธศรัทธาของผู้มีน้ำใจใช่มั้ย”
อุษารีบให้เหตุผล ยังไงเธอก็ต้องให้คนรักเออออให้ได้ เพราะสาวมั่นมีเป้าหมายที่ใหญ่กว่านั้น

“อือ ตามใจพี่ละกัน แต่บอกไว้ก่อนเลยนะ อย่าให้เกิดเรื่องเน่าๆเด็ดขาด พอลลี่เบื่อ” ดาราสาวพูดดักคอน้ำเสียงจริงจัง

“ค่าที่รัก คืนนี้เจอกันนะ อาบน้ำตัวหอมๆนอนดูหนังฟังเพลงรอ พี่ทำงานเสร็จแล้วจะไปหา”

อุษาหยอดทำเอาเซเลบสาวหน้าแดง หลังจากทะเลาะกันพักหลังๆ ก็ไม่ค่อยมีจังหวะใกล้ชิดกันนัก คืนนี้พี่อุษาคง ‘จัดเต็ม’ กับเธอแน่ๆ

เซเลบสาวคิดถึงบทรักอันเร่าร้อนก็วูบวาบ พยายามไม่เพ้อ เพราะนี่คือสถานที่ต่อหน้าธารกำนัล อีกอย่างกำแพงมีหูประตูมีช่อง เกิดใครมาเห็นหรือได้ยินอะไรเข้าซวยแน่ๆ
“พี่ไปเถอะ นัดผู้ใหญ่ไว้อย่าให้เขาคอย แล้วเจอกันค่ะ” สาวอวบพยักหน้าดีใจหลายที่พอลลี่ไม่อะไรมากกับหล่อน

ก่อนไปผู้จัดการทิ้งกุญแจรถไว้ให้ดาราสาว ส่วนตัวเองนั่งแท๊กซี่ไป

“ตกลงตามนี้นะ นี่เสร็จแล้ว เอาท์ไลน์คร่าวๆของเรา รุ้งแกเอาไปพิมพ์ด้วย ทำ power point ให้เรียบร้อยเลยนะ คืนนี้จะแวบไปดูที่ห้อง ส่วนแกโอปอ ไปหา reference เพิ่มที่ห้องสมุดและเสิร์ชอากู๋ด้วย เจอภาษาอังกฤษก็เก็บไว้แล้วส่งเมล์มาให้ชั้น” บุญยกรสั่งงานเพื่อนอย่างคล่องแคล่วฉะฉาน เธอได้รับความไว้วางใจจากเพื่อนให้เป็นผู้นำ ด้วยความคิดและวิธีการทำงานที่นำหน้าเพื่อนๆไปมาก

“เคร ตามนี้ คื้นนี้เจอกัน ชั้นจะพยายามทำตัวให้ว่าง” พลอยรุ้งแวะไปเติมหน้าอีกรอบก่อนจะลาเพื่อนทั้งสองออกจากร้านไปลัลล้ากับบรรดาหนุ่มๆของเธอ

“ชั้นก็จะไปแล้วเหมือนกัน มื้อนี้แกเลี้ยงใช่มะ ขอบใจนะเพื่อน ไปน้องฝ้ายเราไปหาไรสนุกๆทำกันดีกว่า”

โอปอสาวจอมหื่นลากลับไปอีกคน ทิ้งให้เบลที่กำลังอ่านไลน์ยิ้มๆเพ้อๆอยู่คนเดียว
พอเงยหน้าขึ้นมา แก๊งค์สามสาวก็สลายโต๋กันหมดแล้ว สาวรุ่นเก็บข้าวของและเดินไปจ่ายเงิน

หลังจากแยกย้ายกันไป เบลก็มุ่งหน้าไปสยามสแควร์ทันทีเพราะนัดหมายกับ the special one ซุปตาร์จอมป่วนหัวใจผู้โด่งดังนั่นเอง แต่แปลกแฮะ สาวนักศึกษาไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเท่าไหร่

ทำไมเธอถึงได้กระตือรือร้นที่จะไปเจอ เจ้าหล่อนเสียเหลือเกิน ทั้งๆที่ยังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องที่จะไปคุยคือเรื่องอะไร อีกอย่างเพิ่งจะได้คุยกันจริงจังก็เมื่อวานนี้เอง




Create Date : 17 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2558 23:04:23 น. 0 comments
Counter : 743 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.