Group Blog
 
All blogs
 
นิยายYuri วุ่นนัก...หลงรัก ซุปเปอร์สตาร์ 9

The great Pretender
คนรักจอมลวง

ในสตูดิโอที่ห้องแต่งตัว เจ๊อั้มกำลังแต่งหน้าให้พนิตพิชาโดยมีบุญยกรเป็นผู้ช่วยดังเช่นทุกวัน
วันนี้สองสาวได้เจอกันและทักทายตามปกติ เบลเล่าเรื่องที่หาเพื่อนมาช่วยโครงการได้แล้ว พอลลี่ดีใจมากบอกกับเบลว่า อีกวันสองวันจะนัดคุย และให้เบลไปคิดข้อความบนเสื้อและกระเป๋ามาด้วย สองสาวสวยคุยกันอย่างสนิทสนม ทำให้เจ๊อั้มประหลาดใจว่า ไปสนิทกันตั้งแต่เมื่อไหร่

แต่ก็พอจะเดาเรื่องได้ไม่ยาก เพราะเซ๊นส์ของหล่อนบอกว่า พอลลี่ไม่น่าจะใช่แบบที่ผู้หญิงธรรมดาเขาเป็นกัน และก็น่าจะมีใจเอนเอียงกับผู้ช่วยสุดสวยรวยเสน่ห์ของเธอเป็นแน่ จากแววตาท่าทางเวลาที่อยู่กับสาวน้อย ส่วนบุญยกร เจ๊อั้มยังมองไม่ทะลุว่าหล่อน ‘ใช่’หรือไม่

ระหว่างนั้น พอลลี่เข้าไปเปลี่ยนเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนชุด มันเป็นชุดเดรสเปลือยหลังและโนบรา ที่น่าจะเซ็กซี่และโป๊ที่สุดที่เธอเคยใส่มา พนิตพิชาไม่มั่นใจที่จะใส่มันเท่าไหร่

แต่วันนี้คอนเซปรายการมันบังคับให้เธอต้องทำ ดาราสาวปลดชุดของเธอออก ละล้าละลังทำอะไรไม่ถนัด เธอจึงตะโกนเรียกบุญยกรเพื่อขอความช่วยเหลือ

“เบล เบล มาช่วยพี่แต่งตัวหน่อยสิ”

เด็กสาววางเครื่องไม้เครื่องมือเตรียมจะเดินไป

เจ๊อั้มรู้งานหยิบถุงพลาสติก ข้างในมีอะไรบางอย่างอยู่ส่งให้เบล หญิงสาวรับมาทำหน้าเป็นเครื่องหมายคำถาม เปิดออกดูมันเป็นซิลิโคนแปะหน้าอกกันโป๊
เบลถึงบางอ้อ ก่อนรีบจ้ำไปที่หน้าห้องเปลี่ยนชุด

“มาแล้วค่ะ พี่พอลลี่” หญิงสาวยืนรออยู่ที่หน้าห้อง

“มาช่วยพี่หน่อย เปิดเข้ามาเลยไม่ได้ล๊อค”

ดาราสาวเรียกให้เบลเข้ามา เด็กสาวเห็นว่าไม่เหมาะเลยยืนคิดอยู่ว่าจะเอาไงดี

“อ้าวเร็วๆสิ!”

เบลตัดสินใจรวบรวมความกล้าเพื่อเปิดประตู จะเป็นไรไปก็ผู้หญิงเหมือนกัน ใจคิดได้แต่มือไม้มันพาลสั่นซะอย่างนั้น

เมื่อเปิดเข้าไปก็เห็นดาราสาว เหลือแต่ชุดชั้นในโชว์เรือนร่างขาวโพลน สาวรุ่นตกตะลึงทำอะไรไม่ถูก ถุงในมือแทบจะหล่นดีที่คว้าไว้ทัน เด็กสาวพอเรียกสติคืนมาก็รีบปิดประตูรักษาความเป็นส่วนตัวให้ดาราสาว

“ตกใจอะไร เห็นพี่เป็นตัวประหลาดรึไง”

พอลลี่แหย่สาวน้อย ก็ชุดชั้นในของหล่อนมันช่างเซ็กซี่ยั่วน้ำลายซะเหลือเกินโชว์เต้าขาวๆออกมาตั้งครึ่งค่อนลูก โอ้ย! ทั้งหุ่นก็เฟิร์มสุดๆ หน้าอกที่เต่งตึงรับกับเอวคอด หน้าท้องไร้ไขมัน

และเมื่อมองเบื้องต่ำ เด็กสาวแทบหัวใจวาย เมื่อเห็นเซเลบสาวใส่กางเกงในแบบเปิดเป้า! ลายลูกไม้สีขาวสลับดำ แต่ตรงสามเหลี่ยมกลับโล่งเตียน

“ว้าย!” บุญยกรร้องออกมาแต่ตาก็ยังจ้องอยู่บริเวณนั้น

“อ้าว จ้องอยู่นั่นแหล่ะ เร็วเข้าใกล้เวลาแล้ว” พอลลี่เรียกสติสาวน้อย

“ค่ะ เอ่อ...พี่พอลลี่ต้องถอดบราออกก่อนนะคะจะได้ปิดอันนี้”

หญิงสาวพูดอย่างกระดากอายพร้อมยื่นซิลิโคนให้พอลลี่ เบลคิดในใจทำไมตอนรุ้งให้ดูนมไม่ยักตื่นเต้นเท่าตอนนี้เลย ทั้งๆที่มันก็น่าจะ เซมเซม

เซเลบสาวปลดบราตัวเองออก เต้าคู่งามกลมกลึง ยอดปทุมถันลอยเด่นอวดคนมอง เบลอายสุดชีวิต ปากแห้ง น้ำลายเหนียวคอ

ด้านพนิตพิชาก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน เลือดสาวสูบฉีดไปทั่วร่าง รู้สึกเสียเปรียบเล็กๆที่ไม่ได้เห็น ของ ของสาวน้อยหน้ามนอกโตคนนี้บ้าง

“ทำไมมีอะไรแปลกเหรอ ของแท้แม่ให้มาเลยนะไม่ได้ทำ”

ดาราสาวภูมิใจนำเสนอ พูดไปก็เท่ากับเป็นการกระตุ้นราคะของตัวเอง

“ปะ...เปล่าค่ะ ขอโทษนะคะ”

เบลตอบเสียงสั่น พร้อมเอาซิลิโคนปิดเต้านมของดาราสาวทีละข้าง เริ่มจากด้านซ้าย

เด็กสาวผู้อ่อนประสบการณ์ มือไม้สั่นอย่างกับคนเป็น พาร์กินสัน ระหว่างที่ปิดซิลิโคนมือเจ้ากรรมก็ดันไปโดนกับก้อนเนื้อนุ่มนิ่มเข้า สร้างความหวามไหวให้กับทั้งคู่ที่สุด

จากการสัมผัสมันต่างจากของรุ้งที่ดูกระด้างมือ มันก็นิ่มมือเหมือนของตัวเธอเอง สาวรุ่นมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่าเป็นของแท้แน่นอน

พนิตพิชาก็อารมณ์กระเจิดกระเจิง ลมหายใจถี่และแรงทำเอาหน้าอกคู่งามกระเพื่อมตามแรงหายใจ เด็กสาวกลั้นใจปิดแผ่นซิลิโคนอีกข้างอย่างทุลักทุเล

“สาวๆ เสร็จรึยัง”

เห็นสองสาวเงียบไปเจ๊อั้มจึงตะโกนเรียก

“ค้า ใกล้แล้วค่า”

เบลตอบพร้อมผูกสายเสื้อด้านหลังให้เซเลบสาว ความที่พอลลี่ตัวสูงกว่าเธอประมาณ 5 เซ็นติเมตรบวกกับความสูงของรองเท้าอีกสามนิ้ว ทำให้เด็กสาวต้องเอื้อมสองมือเพื่อผูกเชือก

อารามที่เป็นคนซุ่มซ่ามอยู่แล้ว จังหวะที่ผูกเสร็จเด็กสาวเดินถอยหลังและลื่น! พอลลี่มือไวคว้าเอวสาวน้อยมากอดไว้ได้

“เอ่อ ขอโทษค่ะ หนูซุ่มซ่ามประจำ”

ยายโก๊พูดแก้เขิน พอลลี่ยังไม่ปล่อยมือ เธอพยุงสาวน้อยให้ยืนตรง
ทันใดนั้นเซเลบสาวก็บรรจงหอมแก้มสาวน้อย จอมเปิ่นอย่างทนุถนอม เบลช็อกตาค้าง ไร้คำพูดใดๆยืนตะลึงอยู่อย่างนั้น

“ขอบใจนะจ๊ะสาวน้อย ไปได้ละ”

พูดจบซุบตาร์สาวก็เปิดประตูเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนชุดและเดินออกจากห้องแต่งตัวไป ทิ้งให้เด็กสาวยืนเซ่ออยู่อย่างนั้น

แน่นอนมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอถูกหอมแก้ม แต่มันเป็นครั้งแรกในชีวิตที่เธอถูกกระทำโดยเพศเดียวกัน!

เจ๊อั้มพอจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไร จึงลุกเดินไปดูเบลที่ห้อง ในทางพฤตินัยเธอเปรียบเสมือนผู้ปกครองของสาวน้อย เธอไม่มีวันยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกเด็กในคอนโทรลเด็ดขาด

ทั้งๆที่รู้ว่าพอลลี่ไม่ได้เป็นคนมีพิษมีภัยอะไร แต่หล่อนก็ไม่อยากให้สาวน้อยผู้ช่วยคู่ใจไปมี ซัมทิง กับเซเลบผู้โด่งดังจนเกินงาม อีกอย่างอีตาต้นก็นั่งหัวโด่อยู่ใกล้ๆ เกิดอะไรขึ้นมาสตูฯได้ลุกเป็นไฟแน่ๆ
แต่ลึกๆอีกความรู้สึก ช่างแต่งหน้าชื่อดังกลับแอบจิ้นคู่นี้ ก็ดูซิ ออกจะน่ารักสวยเพอร์เฟกต์กันทั้งคู่ ยัยเบลนี่ถ้าจับแต่งองค์ทรงเครื่องหน่อยก็เป็นดาราวัยทีนได้สบายๆ

หลังบันทึกรายการ เจ๊อั้ม ขอคุยกับพอลลี่ต่อ เปล่าหรอกเธอไม่ได้จะพูดเรื่องในห้องเปลี่ยนเสื้อ แต่ว่าหล่อนมีข่าวดี

“เจ๊อยากขอความช่วยเหลือน้องพอลลี่หน่อยค่ะ”

“เอ๋ มีอะไรเหรอคะ” ซุปตาร์ทำท่าสงสัย

“คือเจ๊ได้เป็นผู้จัดแล้วน้า” ผู้จัดก็คือ ผู้ผลิตรายการทั้งละครและรายการทั่วไปเพื่อป้อนรายการให้กับสถานีโทรทัศน์นั่นเอง

“เหรอคะ เป็นข่าวดีที่สุดในรอบปีเลยนะเนี่ย พอลลี่ดีใจด้วยนะคะ ว่าแต่เป็นละครหรือรายการคะ”
เซเลบสาวตื่นเต้นที่คนสนิทได้เติบโตในวงการอีกระดับ

“ละครเจ๊สู้ไม่ไหวหรอกใช้ทุนเยอะ เจ๊ยังรวยไม่พอ”

พอลลี่พยักหน้า ใช่ เป็นผู้จัดละครไม่ใช่เรื่องเล็กๆ นอกจากเงินถึงแล้วยังต้องมีชั่วโมงบินสูงและบารมีมากพอด้วย

“รายการจ้ะ เป็นรายการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์เจ๊ได้การท่องเที่ยวฯ เป็นสปอนเซอร์หลัก เขาอยากทำไปเผยแพร่ต่อที่ต่างประเทศด้วย ผู้ใหญ่ของช่องก็เลยอนุมัติทันที พิธีกรเป็นคนของการท่องเที่ยวฯ เขาจะจัดประกวดหาเด็กใหม่ส่วนแขกรับเชิญก็เปลี่ยนไปทุกเทป” เจ๊อั้มสาธยาย

“เจ๊อย่าบอกนะคะว่าจะให้พอลลี่เป็นแขกรับเชิญคนแรก” พอลลี่รู้ทาง

“แน่นอนที่สุด อย่าปฏิเสธเจ๊เลยนะนะ เทปแรกถ่ายที่อัมพวาใกล้ๆนี่เอง ค้างคืนเดียว ยัยเบลก็ไปด้วยนะ”
เจ๊อั้มหาตัวช่วยเร่งการตัดสินใจ แต่สาวน้อยทำหน้าเหรอหรา อะไรกัน ไม่ยักรู้เรื่องนี้มาก่อนเลย
เซเลบต้องการความแน่ใจจากปากเจ้าตัว

“จริงเหรอจ๊ะเบล” นั่นไง งานงอกจนได้

“ค่ะ ก็อย่างที่เจ๊บอก”

เด็กสาวตอบ หางตาเหลือบไปมองผู้มีอุปการะคุณรู้สึกได้ถึงพลังงานบางอย่าง เธอต้องตามน้ำไปก่อนเพราะถ้าบอกว่าไม่รู้ไป เจ๊อั้มด่าหูชาแน่

“เดี๋ยวน้า ขอพอลลี่ดูคิวก่อน พี่อุษาก็ไม่อยู่ แปปนะคะ” เซเลบสาวเปิดโทรศัพท์มือถือเข้าออร์แกไนเซอร์เช็คตารางเวลา

“เทปถ่ายเมื่อไหร่คะ”

“เจ๊อยากให้เราตอบตกลงก่อน เพราะรู้ว่าเราไม่ค่อยมีเวลา จากนั้นถึงจะเซ็ตว่าเอาวันไหนกันดี”
เจ๊อั้มให้เครดิตดาราสาว พยายามโน้มน้าวสุดๆ

“ไปอัมพวาก็ต้องมีตลาดน้ำ เสาร์-อาทิตย์ อืม...พอลลี่ว่างวีคหน้ากับวีคถัดไปค่ะ” ซุปตาร์แจงคิว

“ได้ งั้นเจ๊จองคิวเลยนะ เสาร์ 28 กับอาทิตย์ 29 พอลลี่เดี๋ยวเอาเบอร์นก ธุรกิจกองถ่ายของพี่จากเบลเลยนะ คิดค่าตัวยังไงก็แจ้งเขาไปได้เลยไม่ต้องเกรงใจ เอ่อ...แต่ไม่ได้ผ่านอุษารายนั้นเค้าจะโกรธเจ๊มั้ยนะ”

เจ๊อั้มพอเดาสถานการณ์ออก

“ไม่เป็นไรค่ะ เรื่องนี้พอลลี่ตัดสินใจเองได้”

ขืนบอกพี่อุษารายนั้นไม่เห็นด้วยแน่ๆ ดาราสาวคิดในใจ

“โอเค มีอะไรก็คุยได้ตลอดนะ เจ๊ทำงานง่ายๆสบายใจได้ ไปเถอะ เจ๊ไม่กวนเวลาแล้ว ขอบคุณจากใจนะจ๊ะแม่นางฟ้า” เจ๊อั้มยิ้มดีใจกับงานใหม่ของหล่อน พอลลี่สวัสดีลา และโบกมือกู๊ดบายสาวน้อย ทำสัญญาณว่าค่อยไลน์คุยกัน เบลยิ้มตอบและเก็บข้าวของเตรียมกลับหอ เป็นจังหวะเดียวกับที่ต้นน้ำแฟนหนุ่มเดินเข้ามารอพอดี

อุษามารับเซเลบสาวตามเวลานัดหมาย รออยู่นานพอควร แปลกใจที่แฟนสาวยังไม่ลงมา ทั้งๆที่ก็เลยเวลาแล้ว จึงตัดสินใจโทรตาม

ยังไม่ทันจะกดปุ่มโทรคนรักก็เดินมาถึงรถ ทั้งคู่มุ่งหน้ากลับบ้านทันที อุษาสังเกตเห็นว่าวันนี้พอลลี่อารมณ์ดีมาก ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาตลอดทาง ทั้งที่ปกติเธอจะหลับ ไม่ก็นั่งหงอยเพราะเหนื่อยล้ามาทั้งวัน

หน้าหอพัก พลอยรุ้งลงจากรถ Honda HR-V สีดำป้ายแดงพร้อมกับชายวัยยี่สิบปลายๆเจ้าของรถหน้าใหม่

ทันทีที่เดินลงมาจากรถ รุ้งก็โดนมือลึกลับฉุดเอาไว้ ชายหนุ่มที่มาด้วยตกใจคิดว่าเป็นพวกมิจฉาชีพ

“เฮ้ย ทำไรแฟนกูวะ” ชายหนุ่มไม่พอใจอย่างแรงพยายามปกป้องรุ้ง

“แฟนมึง แต่เนี่ย เมียกู”

พูดจบก็สาวมัดเข้าที่หน้าอย่างจัง ชายหนุ่มที่มากับโคโยตี้สาวล้มลงทำให้อีกฝ่ายพรวดเข้ามาซ้ำ และเกิดการตะลุมบอนขึ้น พลอยรุ้งตกใจพร้อมตะโกนเรียกให้คนช่วย กลับมีแต่พวกไทยมุง
เจ้าของมือลึกลับนั้นคือบอย หนุ่มหน้าเกาหลีจอมตื้อนั่นเอง การต่อสู้ยังคงชุลมุน และไม่รู้ว่าใครจะกำชัยเพราะรูปร่างและความสูงทัดเทียมกัน

จนกระทั่งมีชายหนุ่ม บิดมอเตอร์ไซค์เสียงดังคำรามทำท่าจะพุ่งชน คู่กรณีตกใจจึงแยกออกมาได้ เป็นต้นนั่นเองที่มาห้ามทัพ ชายหนุ่มทั้งสองอยู่ในสภาพสะบักสะบอมเสื้อผ้าเลอะเทอะหลุดลุ่ย รุ้งกรี๊ดลั่น

“ไป กลับไปกันได้แล้ว ทั้งคู่เลย”

คู่กรณียอมเลิกรา บอยเดินไปอีกทางและชี้หน้าไปที่รุ้งทำหน้าตาอาฆาตแค้น ส่วนชายหนุ่มที่มากับโคโยตี้ก็เดินขึ้นรถกลับไป เบลที่ลงรถมาก่อนรีบวิ่งมาดู

“อะไรกันวะแก เกิดศึกชิงนางเหรอ” เพื่อนซี้หน้าตาตื่น

“เออ แม่...บ้ากันทั้งคู่ พวกผู้ชายก็เงี้ย ชอบใช้แต่กำลัง ควายเอ้ย!”

คนตอบกำลังหัวเสียสุดๆ ทางด้านต้นคนมาช่วยเหมือนโดนด่าไปด้วยจึงเดินขึ้นตึกไปก่อน เมื่อเห็นว่าเหตุการณ์ไม่น่าจะมีอะไรแล้ว

“ขอบคุณนะพี่ต้น” รุ้งตะโกนไล่หลัง ชายหนุ่มมาดเซอร์เดินเท่ห์ๆไป ไม่หันมามอง

“แล้วแกเป็นไรปะเนี่ย ดูซิ” เบลห่วงเพื่อนสาว

“ไม่อ่ะ เซ็งว่ะ ไว้ค่อยคุยกันนะ ขอบใจแกกะพี่ต้นมาก“ พลอยรุ้งพูดทำท่าจะเดินขึ้นหอ

“เดี๋ยวสิ รอก่อน” บุญยกรเดินตามเพื่อนสาวมาติดๆ

“คืนนี้ให้ลงมานอนเป็นเพื่อนมั้ย”

“ไม่อ่ะ แกไปดูพี่ต้นเหอะ บายเพื่อน” พลอยรุ้งยังไม่หายหงุดหงิดเธออยากอยู่คนเดียว

“เออเออ พรุ่งนี้เจอกัน” เบลไม่เซ้าซี้ ทั้งคู่เดินเข้าตึกและแยกย้ายกันไป

ที่บ้านพอลลี่ สองสาวลงจากรถเดินจูงมือและไปนั่งคุยงานกันต่อที่ห้องรับแขก เห็นพลนั่งอยู่ที่ชิงช้าหน้าบ้าน พอลลี่จึงขออุษามาคุยกับน้องชายตัวดีก่อน หล่อนยังขาดกำลังสำคัญอีกคน

“ไงจ๊ะน้องชายสุดเลิฟ” ผู้เป็นพี่ทักทายอารมณ์ดี

“เสียงหวานมาแบบนี้มีอะไรจะใช้ก็ว่ามา” ยอดขุนพลดักคอพี่สาว

“ตกลงปลงใจหรือยังเรื่องโครงการน่ะ” พอลลี่เข้าเรื่อง

“อือ จะไปวันไหนก็บอกมา” น้องชายมาดกวนตอบ

“ดีใจจัง แกไม่เคยทิ้งพี่เลย” เซเลบสาวยิ้มละไม

“รู้ก็ดีแล้ว ระวังตัวไว้ด้วย ผมไม่ได้เกิดมาปกป้องพี่ได้ตลอดเวลา”
ชายหนุ่มอยากจะพูดซึ้งๆ แต่มันก็พูดได้เท่านี้

“แล้วแกเป็นไง คิดงานออกยัง” เป็นฝ่ายพอลลี่ที่ห่วงใยน้องชายบ้าง

“งานน่ะ ไม่เท่าไหร่หรอก กลุ้มใจเรื่องอื่นมากกว่า”
ยอดขุนพลมองไปข้างหน้าในความมืด คล้ายจะบอกกับพี่สาวว่าเขามองไม่เห็นทาง

“เรื่องสาวใช่มั้ย” พลพยักหน้าน้อยๆ

“คือผมไม่รู้ว่าจะจีบเขายังไง ไม่ใช่ไม่กล้านะ แค่มันคิดออกมาเป็นคำพูดไม่ได้” เด็กเนิร์ดที่วันๆหมกตัวอยู่แต่ในห้องสารภาพ

“ก็ชวนคุยในสิ่งที่เรารู้สิ แล้วก็ค่อยๆศึกษาเขา” ผู้เป็นพี่ชี้แนะ

“ทำแล้ว แต่เหมือนอยู่คนละโลกไงไม่รู้ คุยกันคนละภาษา”

“อืม ถ้าแกเปลี่ยนเขาไม่ได้ก็เปลี่ยนตัวเอง แต่ถ้ามันลำบากนักก็ไปหาใหม่เถอะ” พอลลี่สอนน้อง

“ก็ว่างั้นแหล่ะ ไปละไปหาใหม่ดีกว่าเบื่อคนหน้าเก่าๆ” พลปรับโหมดมาเป็นทะเล้นอีกครั้ง แสดงให้เห็นว่าเขาปกติแล้ว พอลลี่เดินตามน้องชายเข้าบ้านไป
อุษากำลังเล่นโทรศัพท์รอเธออยู่

“อ้าว เสร็จแล้วเหรอคะที่รัก” สาวอวบวางมือถือและหันมาสนใจคู่รัก

“ค่ะ งานเป็นไงบ้าง พรุ่งนี้” พอลลี่ตรวจความเรียบร้อยเช็คคิวงานให้ตรงกัน

“ไม่มีอะไรอัพเดทหรือแคนเซิล ทุกอย่างยังเหมือนเดิมจ้ะ”
อุษาพูด หยิบซองเอกสารออกมาจากกระเป๋าและยื่นเอกสารเกี่ยวกับการชำระภาษีให้ พนิตพิชาเซ็นต์

“แล้วนี่พี่ให้คุณณภัทร ตรวจดูแล้วนะคะ”
คุณณภัทรคือผู้สอบบัญชีของบริษัทพ่อเธอ ทำงานรู้ใจกันมาตั้งแต่ภูผาเริ่มตั้งตัวใหม่ๆ

“จ้ะ” อุษาตอบสั้นๆ ก็เธอไม่รู้จะปั้นเรื่องยังไง เซเลบสาวอ่านเอกสารคร่าวๆ ความจริงเธอไม่ได้อ่านด้วยซ้ำ แค่ดูว่าที่เซ็นต์ชื่ออยู่ตรงไหน เธอเซ็นต์ชื่อและส่งกลับไปให้ผู้จัดการสาว


“พี่มีเรื่องอยากรบกวนพอลลี่น่ะ”

อุษาวางเอกสารในมือนั่งลงข้างๆแฟนสาว ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ

“พี่ใช้เงินเก่งนะ คราวก่อนก็เพิ่งเบิกเงินเดือนล่วงหน้าไป” ซุปสตาร์สาวพูดน้ำเสียงเรียบ ก็เมื่อต้นเดือนเธอเพิ่งเซ็นต์เช็คเงินเดือนล่วงหน้าให้คนรักไปหกเดือน นี่ยังไม่นับรายได้สามสิบเปอร์เซ็นต์ที่เป็นส่วนแบ่งอีก โดยอุษาอ้างว่าเอาไปซ่อมบ้าน

“ครั้งนี้จะเอาไปทำอะไรอีก” ไม่มีอะไรน่ากลัวเท่าคนหน้าด้าน อุษาไม่อายที่จะไถเงินแฟนสาว
“พี่ขอยืมล้านนึง จะเอาไปลงทุนขายของออนไลน์กับเพื่อนน่ะ”

พอลลี่ไม่มีอาการตระหนกตกใจ ไม่แม้กระทั่งถามรายละเอียดว่าจะเอาไปค้าขายอะไร เธอรู้อยู่แล้วว่ารูปการณ์มันต้องเป็นแบบนี้ และคิดว่าจะให้โอกาสเป็นครั้งสุดท้าย สำหรับคนที่ชื่ออุษา พอลลี่เปิดกระเป๋าสุดหรูหยิบสมุดเช็คออกมา และเขียนยอดเงินไปให้สองล้านบาท!

เงินก้อนนี้ถูกมากสำหรับการพิสูจน์ใจคน และเธอก็ไม่คิดจะให้อะไรกับผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว ที่แล้วมาถือว่าเป็นค่าจ้างและค่าปลุกปั้นให้เธอเป็นดาว ถ้าเงินก้อนนี้จะสามารถทำให้คนๆหนึ่งกลับตัวกลับใจได้ พอลลี่ก็ยินดี แต่เธอคงลืมไป การลงทุนกับใจคนเป็นสิ่งที่เสี่ยงที่สุด!

อุษารับเช็คมามือไม้สั่น ลำพังชาตินี้ทั้งชาติเธอทำมาหากินเองคงไม่สามารถหาได้ ไหนจะรถเบนซ์สุดหรูที่มีใช้ฟรีๆอีก คอนโดที่เธออยู่ก็เป็นของพอลลี่ โง่ๆซื่อๆแบบนี้เธอยังหลอกกินได้อีกนาน...

พอลลี่ยังไม่เข้านอน แม้เวลาจะล่วงเลยมาเกือบค่อนคืน ส่วนอุษาก็หลับไปนานแล้ว หลังจากอัพสเตตัสบนเฟสบุ๊คและอินสตาแกรม เธอจดสรุปงานของตนเอง และยังมีบางสิ่งที่ต้องเร่งสะสาง โครงการช่วยเหลือช้างของเธอนั่นเอง

เซเลบสาวเหลือบดูนาฬิกาที่ชายหนุ่มว่าที่คู่หมั้นให้ มันบ่งบอกว่าตอนนี้เป็นเวลาตีสอง ไม่รู้ว่าสาวน้อยคนนั้นจะนอนหรือยัง เธออาจะกำลังมีบทรักกับแฟนหนุ่มมาดเซอร์คนนั้น คิดแล้วใจก็พาลให้อิจฉา ทั้งคู่ดูเหมาะสมและรักกันดี

นี่อาจเป็นเหตุผลให้ดาราสาวไม่กล้าออกตัวแรง เดินหน้าจีบสาวน้อยแก้มใสอย่างจริงจัง กลิ่นกายของสาวน้อยยังติดตรึงใจเธออยู่เลย เรื่องของหัวใจมักมาก่อนเหตุผลเสมอ ว่าแล้ว ซุปตาร์สาวก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมา อดใจไม่ไหวจริงๆ อย่างน้อยขอส่ง สติ๊กเกอร์ไปก็ยังดี

Pollybellisario “ส่งติ๊กเกอร์ have a good dream”

“....เงียบ”

ก็แน่ล่ะดึกป่านนี้ใครเขาจะยังไม่หลับไม่นอน เซเลบสาวถอนหายใจ วางโทรศัพท์ลง เดินไปข้างเตียงที่มีแฟนสาวจอมละโมบนอนคุดคู้ใต้ผ้าห่มอุ่นอย่างสบาย

วันนี้ทั้งสองสาวไม่ได้มีกิจกรรมรักกันเพราะพอลลี่รู้สึกแย่ เกินกว่าจะแสดงออกซึ่งความรักผ่านสัมผัสทางกายได้ โอกาสครั้งสุดท้ายที่เธอหยิบยื่นให้นี่คนบนเตียงจะรู้ไหมนะ หรือจะโยนมันทิ้งไปอย่างเคยๆ
ช่างเถอะ อีกไม่นานเธอคงได้รู้คำตอบ พนิตพิชาล้มตัวลงบนเตียงสอดกายใต้ผ้าห่ม

ทันใดนั้นเหมือนเสียงสวรรค์ โทรศัพท์เธอดังขึ้น แต่ดีใจได้ชั่วครู่ก็พลันคิดไปว่า มันอาจเป็นแฟนหนุ่มของเจ้าหล่อนที่ส่งมามากกว่า หากเป็นเช่นนั้นจริงมันน่าจะซ้ำเติมความรู้สึกของคนรอให้ยิ่งเหงา

เซเลบสาวพยายามข่มตาหลับ นับหนึ่งยังไม่ทันจะถึงสิบ จิตใจมันว้าวุ่นเกินบรรยาย ท้ายที่สุดเธอก็ลุกจากเตียงหยิบโทรศัพท์มาดู

Bellejubjub “ยังไม่นอนอีกเหรอคะ พี่สาว”

พนิตพิชาดีใจสุดประมาณ รีบตอบกลับไป

Pollybellisario “ยังค่ะ คิดอะไรเพลินๆ”

Bellejubjub “คิดไรเหรอบอกเค้าบ้างสิ”

Pollybellisario “คิดถึงแก้มใสๆ”

Bellejubjub “บร้า”

Pollybellisario “แล้วชอบรึเปล่า”

Bellejubjub “บ้า พี่พอลลี่บ้าไปแล้ว”

Pollybellisario “ที่เป็นแบบนี้เพราะใครบางคน”

Bellejubjub “จะไปนอนแล้วนะ คุยไรก็ไม่รู้”

Pollybellisario “อ้าว อย่าเพิ่งจิ เค้าจะคุยงานหน่อย”

Bellejubjub “ค่ะ ว่ามา”

Pollybellisario “พรุ่งนี้เย็นถ้าเพื่อนว่างนัดมาเลยนะ จะได้คุยกันเป็นเรื่องเป็นราว”

Bellejubjub “ยังไม่ชัวร์นะคะ คือเพื่อนไม่ค่อยจะว่าง”

Pollybellisario “อือ เจอเบลคนเดียวก็ได้”

Bellejubjub “ค่ะ คิดออกแล้วนะ เวิร์ดดิ้ง”

Pollybellisario “อะไรน้า อยากรู้จุงเบย??”

Bellejubjub “เพราะมีเธอจึงมีฉัน โลกนี้น่าอยู่เพราะเรามีกัน”

Pollybellisario “เข้าท่านะ แต่มันยาวไป อันนี้สกรีนที่กระเป๋าแล้วกัน”

Bellejubjub “ค่ะ มี beautiful mind อีกคำ”

Pollybellisario “ก็โอนะ ทำฟ้อนท์มาให้พี่เลยนะ”

Bellejubjub “ค่ะ”

Pollybellisario ”ง่วงละ ไปนอนดีกว่า ขอบคุณนะจ๊ะสำหรับทุกอย่าง”

Bellejubjub “ค่ะ บาย”

พอลลี่วางโทรศัพท์ลง ในใจอิ่มเอม อย่างน้อยๆในช่วงเวลาร้ายๆก็ยังมีเรื่องให้พอชื่นใจได้บ้าง ยิ่งได้พบเจอพูดคุยก็ยิ่งชอบเด็กสาวคนนี้มากขึ้น

เซเลบสาวล้มตัวลงนอนอีกครั้ง คราวนี้ไม่นานนักก็หลับลงง่ายดายจากสภาพจิตใจที่สงบลง



Create Date : 24 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 24 กุมภาพันธ์ 2558 8:01:29 น. 0 comments
Counter : 1029 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.