Group Blog
 
All blogs
 
นิยายYuri วุ่นนัก...หลงรัก ซุปเปอร์สตาร์ 2(รีไร้ท์)

 Belle

บุญยกร

พอเลิกกอง สองหนุ่มสาวคู่รักเพิ่งได้มีโอกาสเสวนากัน

“เป็นไงวันนี้ เดินทางลำบากมั้ย” เป็นฝ่ายชายที่เริ่มการสนทนาก่อน

“ก็...นิดหน่อย สายไปสิบกว่านาที แล้วพี่ต้นล่ะ เหนื่อยมั้ยคะ”

“ไม่ ก็เดิมๆ”

ต้นตอบและรู้ดีว่าแฟนสาวจะไม่เล่าเรื่องการเดินทางในวันนี้ว่ามากับใคร แต่เขาก็ไม่เซ้าซี้ต่อเพราะให้ เกีรยติและถือว่าแม้จะเป็นแฟนกันแต่แต่ละฝ่ายก็ต้องมีพื้นที่ส่วนตัวของกันและกัน แต่ยังไงก็ยังอยากรู้อยู่ดี

“แล้วเสื้อตัวนี้ของใครน่ะ”เดาได้ไม่ยากว่ามันน่าจะเป็นของคุณพอลลี่เพราะมันเป็นยี่ห้อดังและน่าจะหลายสตางค์อยู่

“อ๋อ เสื้อนี่ยืมเขามาน่ะ พอดีเปียกฝนนิดหน่อยเดี๋ยวกลับไปซักก็จะคืนเขาแล้ว ไปเหอะพี่ต้น เบลเหนื่อยมาทั้งวันละกลับกันเถอะค่ะ”

หญิงสาวพูดเดินนำหน้าแฟนหนุ่มทั้งคู่ออกมาจากสตูดิโอและเบลก็ไม่ได้แสดงพิรุธอะไร อย่างที่ต้นพยายามจะสังเกตนี่เป็นครั้งแรกเท่าที่เขารู้และที่ไม่รู้ล่ะอีกกี่ครั้ง?

ใช่เบลพูดความจริงแต่มันเป็นเพียงครึ่งเดียว ไม่ได้บอกว่าเอาเสื้อมาจากใคร แต่ช่างเถอะ ปวดหัวเปล่าชายหนุ่มไม่อยากให้เรื่องเล็กน้อยหยุมหยิมมาสร้างความไม่ไว้ใจแก่กันและจะลามไปใหญ่โตในที่สุด

ความเป็นจริง เป็นเบลที่รู้ดีว่า พอลลี่กลับไปก่อนหน้านี้แล้วระหว่างที่เธอกำลังแต่งหน้าให้ เซเลบสาวทำตัวเฉยเมยไม่ได้พูดจาอะไรกับเธอเป็นพิเศษอาจเป็นเพราะอยู่กันหมู่มากก็เป็นได้ รู้จักกับดารานี่ทำตัวลำบากจังไม่รู้ว่าตอนไหนเธอกำลังเล่นละครอยู่บ้าง

“หาไรกินกันก่อนมั้ย” ต้นถามทั้งๆที่รู้ว่า การกินอาหารในช่วงดึกเป็นศัตรูตัวฉกาจของสาวๆ

“ไม่อ่ะ เบลเพลียๆ อยากจะนอนละ”

สาวรุ่นตอบตามจริงไม่คิดเอาใจแฟนเขาอาจหิวแต่แวะซื้ออะไรกินกันตายที่เซเว่นหน้าหอพักก็แล้วกัน

“เครๆ งั้นไปขึ้นรถ”

แฟนหนุ่มรุ่นพี่เห็นหน้าง่วงๆของหญิงสาว ก็ไม่อยากขัดใจสตาร์ทรถมอเตอร์ไซค์ Ducati 1098s สีแดงคันงามที่เขาซื้อต่อจากดาราหนุ่มขี้เบื่อคนหนึ่งที่อยากจะเปลี่ยนเป็นคันใหม่ ในราคาพิเศษที่ถูกกว่าท้องตลาดเกือบครึ่ง

ระหว่างทางไร้ซึ่งการสนทนา เพราะหากพูดกันไปก็คงได้ยินกันไม่ถนัด จากแรงลมที่ปะทะรถที่กำลังแล่นด้วยความเร็วและยังมีหมวกกันนิรภัยสองใบหนาเป็นอุปสรรคขวางกั้นอีก หญิงสาวโอบกอดคนรักไว้แน่น สัมผัสไออุ่นจากอากาศภายนอกที่ค่อนข้างเย็นภายหลังฝนตกในกลางดึกแต่ในใจกลับคิดถึงแต่ใบหน้าหวานๆของ ซุปตาร์สาวหน้าหวานคนนั้น ‘คุณพอลลี่’

ต้นน้ำกับบุญยกรรู้จักกันมาได้ กว่า 3 ปี หลังจากเด็กมัธยมชาวเหนือแอดมิชชั่นเข้าคณะศิลปกรรมศาสตร์ สาขา fashion designจากเด็กบ้านนอกเข้ามาใช้ชีวิตอยู่ในกรุงเทพฯสาวรุ่นต้องปรับตัวและทัศนคติหลายๆอย่าง

ช่วงแรกๆ เบลพักอาศัยอยู่ที่หอพักอีกแห่งหนึ่ง ที่ค่อนข้างไกลจากมหาวิทยาลัยพอสมควรแต่ต่อมาเธอสู้กับค่าเดินทางและความเหนื่อยล้าไม่ไหวจึงได้ย้ายมาอยู่ที่หอพักที่ปัจจุบันนี้ พร้อมกับเพื่อนสนิทใน ก๊วนอีก 2 คนคือ โอปอ สาวสวยแต่ออกแนวห้าว คาสโนวี่ประจำคณะและรุ้ง พลอยรุ้ง แฟชั่นนิสต้าตัวแม่ และเรื่องลับๆคาวๆของเธอ โคโยตี้จอมเลื้อยค่าตัวหลักหมื่น

หลังจากย้ายมาที่หอพักนี้ เธอเจอพี่ต้นรุ่นพี่ที่คณะซึ่งพักอยู่ที่นี่ก่อนหน้า และเป็นต้นที่เริ่มมาตีสนิทเกี้ยวพาราสี ณตอนนั้นเบลมีชายหนุ่มมาเทียวไล้เทียวขื่อพร้อมๆกันถึง 3 คนแต่เป็นชายหนุ่มผู้นี้ที่เข้าเส้นชัย คว้าหัวใจของสาวน้อยมาครอบครองทั้งคู่เริ่มพัฒนาความสัมพันธ์ และคบกันในที่สุด ด้วยความที่อยู่อาศัยที่หอพักเดียวกันทั้งคู่จึงมีเวลาให้แก่กันเกือบจะตลอดเวลาจนกระทั่งต้นเรียนจบและได้เข้ามาทำงานที่สตูดิโอแห่งนี้

ระหว่างซอยเข้าหอพัก เบลเห็นโอปอ เพื่อนสาว แต่ที่จริงน่าจะเรียกเพื่อนชายมากกว่านั่งกินก๋วยเตี๋ยวเย็นตาโฟเจ้าอร่อย เธอจึงขอแฟนหนุ่มลงจากรถเพื่อเม้าท์มอยกับเพื่อนซี้ก่อน สองสาวโบกมือทักทายกันตามประสาต้นขี่มอเตอร์ไซค์คู่ใจไปยังที่พักและขึ้นไปรอแฟนสาวที่ห้อง

“ดึกป่านนี้แล้ว แกยังจะกินเตี๋ยวอีก ไม่กลัวอ้วนไงวะ” เบลทักเพื่อนสาวพร้อมตะโกนสั่งป้าแป๊ว

“ป้า ป้า เอาเส้นเล็กโฟแห้งพิเศษถุงนึง ขอน้ำซุปด้วยค่ะ”เธอไม่ลืมที่จะซื้อก๋วยเตี๋ยวไปฝากคนรัก เพราะเห็นถามหาว่าไปกินอะไรกันก่อนมั้ยสาวสวยกลับมานั่งที่โต๊ะของสาวห้าว

“ก็แหม ตะกี้พึ่งใช้พลังไปเยอะน่ะ ท้องร้องโจ๊กๆเลย แต่หาโจ๊กกินไม่ได้เลยมาโซ้ยเย็นตาโฟสักชาม”โอปอมีคำตอบแฝงนัย

“เหอ เหอ เพื่อนเรา มีกิจกรรมยามดึกอีกละ” เบลแซว

“รู้นะ คิดไรอ่ะ อิอิ ว่าแต่เป็นไงมั่งช่วงนี้ กับพี่ต้นของแกบ่อยมั้ย?” โอปอแซวกลับแต่แรงกว่า

“ไรยะบ่อย แกนี่ ทะลึ่งตึงตัง”

เบลแกล้งอินโนเซนต์ ในความเป็นจริงแม้สองหนุ่มสาวจะพักอาศัยอยู่ที่หอพักเดียวกันและใกล้ชิดกันมากแต่ทั้งคู่กลับไม่ได้มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งอย่างที่หลายๆคนเข้าใจ ดูภายนอกผิวเผินต้นอาจจะเหมือนผู้ชายทั่วไป กินเหล้า สูบบุหรี่ ติดเพื่อนฝูง เล่นดนตรี กีฬาแต่กับเรื่องนารี เขาให้เกียรติแฟนสาว รักด้วยความทนุถนอมมากว่าที่จะมุ่งไปในทางเรื่องอย่างว่าแม้เบลจะน่าฟัดขนาดไหนก็ตาม

“อ้าว ยังพูดทันไม่จบ แกก็คิดไปไกลซะละ ชั้นหมายถึงแกน่ะทะเลาะกับพี่ต้นบ่อยมั้ย” สาวห้าวหักมุมทำเป็นห่วงใย

“ก็ไม่ค่อยนะ คือไม่ค่อยได้คุยไรกันมากน่ะเลยไม่มีไรให้ต้องทะเลาะกัน” สาวน้อยตอบจริงจัง คู่นี้คุยกันวันหนึ่งๆไม่ถึง 10 ประโยค

“เหรอแก ชั้นว่า ทะเลาะกันบ้างมีปากเสียงกันบ้างไรบ้าง จบตูบเอ้ยตบจูบไรเงี้ย เงียบงันกันเกินไปมันไม่ดีนะแก”

โอปอแนะนำเพื่อนสนิทแบบคิดซื่อๆ ด้วยประสบการณ์ที่มากกว่าชีวิตคู่ที่ราบเรียบเกินไปจะนำมาซึ่งความน่าเบื่อและเป็นต้นตอสำคัญที่จะก่อปัญหาอื่นๆตามมา

“เออๆ พรุ่งนี้อย่าลืมนะแก เรานัดคุยกันเรื่องรายงานสิบโมงร้านกาแฟหน้ามอ ห้ามสายเด็ดขาด แล้วเจอกัน”

เบลตัดบท สาวๆเม้าท์กันมักกินเวลานาน เธอไม่อยากให้พี่ต้นคอยและที่สำคํญคือ กลัวเพื่อนจอมกามคนนี้ชวนคุยเรื่องใต้สะดืออีก ก็เจ้าหล่อนรู้เรื่องพวกนี้ซะที่ไหนกันอาศัยครูพักลักจำจากเวบไซต์เอามาเล่ากับเพื่อนแก้เก้อก็เท่านั้น

“เออ เออ พรุ่งนี้เจอกัน”

เบลเดินไปที่รถเข็นจ่ายเงิน และหิ้วถุงก๋วยเตี๋ยวกลับมาที่หอพัก ที่จริงสาวห้าวโอปอก็เคยคิดจะเคลมบุญยกร เพื่อนสาวอยู่เหมือนกัน หลังจากตกเบ็ดอยู่บ่อยๆ แต่ปลาไม่ติดเบ็ดโอปอไม่ใช่แบบที่เบลต้องการ

เบลเดินมาถึงที่ลานจอดรถหน้าตึก ได้เจอกับเพื่อนสาวอีกคน พลอยรุ้งกำลังจะก้าวลงจากรถ Audi A6 coupe สีดำ สุดหรูโดยมีชายวัยกลางคนท่าทางเสี่ยๆหน่อยหัวล้านพุงพลุ้ยห้อยพระด้วยสร้อยทองเส้นเขื่องแสบตาเดินมาเปิดประตูรถให้

แทบจะเป็นภาพปกติที่ฉายซ้ำๆ ที่เธอจะเห็นเพื่อนสาวในอิริยาบถนี้และเวลานี้ที่เปลี่ยนไปคือรถหรูหลากหลายยี่ห้อและพลขับที่ไม่เคยซ้ำหน้า!

สองคนต่างวัยพากันเดินจูงมือผ่านหน้าเธอไปเพื่อนสาวทำเป็นกะพริบตาและยิ้มกรุ้มกริ่มให้เบลพลอยรุ้งเป็นหญิงสาวสวยเพียบพร้อมทั้งฐานะ หน้าตาและรูปร่าง

ที่เธอทำตัวเหลวแหลกแบบนี้ เพราะมีปมเกลียดพ่อพ่อของเธอเจ้าชู้และมีเมียมาก ทำให้แม่เธอล้มป่วยและตรอมใจตายไปตั้งแต่เธอยังอยู่ชั้นประถมหลังจากนั้นพ่อมีแม่เลี้ยงคนใหม่และแน่นอนย่อมไม่กินเส้นกันทันทีที่รุ้งเข้ามหาวิทยาลัยได้ เธออ้างสิทธิ์ในการดูแลตัวเอง โดยการออกมาใช้ชีวิตลำพังอยู่ข้างนอกและไม่เคยกลับไปเหยียบบ้านอีกเลย แต่พ่อของเธอก็ยังคงส่งเสียค่าเล่าเรียนมาให้ทุกเดือนไม่ได้ขาดรุ้งกลับเอาเงินเหล่านั้นไปบริจาคให้เด็กกำพร้า

เธอหาเงินเรียนด้วยตัวเอง แม้มันจะดูแย่ๆหน่อยก็ตามรุ้งไปสมัครเป็นโคโยตี้ตามสถานบันเทิงยามราตรี ระดับ ‘hi-end’ที่คนมีคลาสและต้องกระเป๋าหนักเท่านั้นที่จะไปเที่ยวได้ลำพังแค่ค่าเปิดเมมเบอร์ก็กว่าครึ่งแสนแล้ว ด้วยความที่ โพรไฟล์เริ่ด เป็นนักศึกษารูปร่างนางแบบ สูงโปร่ง อกโตเอวคอด สะโพกผาย เรียวขาสวย ร่างกายไร้ตำหนิทำให้เธอเป็น ตัวท๊อปของที่นี่ ความจริงเธอไม่มีเงินเดือนหรอกแต่มีค่าจ้างเป็นรายวันและ option พิเศษรวมไปถึงการขายดริ้งค์ และแน่นอน พวกนักท่องราตรีจะรู้กันดีว่าโคโยตี้หรือที่เรียกกันสั้นๆว่าน้องโค ‘เสียเป็นแสนแขนไม่ได้จับ’นั้นเป็นเรื่องจริง เพราะใครที่คว้าพลอยรุ้งไปกกกอดได้คนๆนั้นจะต้องใจถึงและเงินถึงยิ่งกว่า ความเป็นสาวกลางคืนทำให้รุ้ง เป็นคนเขี้ยวลากดิน ไม่สิฝังลงดินเลยต่างหากรุ้งทันเล่ห์เหลี่ยมผู้ชายทุกกระบวนท่า แต่กว่าเธอจะผ่านมาอยู่ ณ จุดนี้ได้ก็เสียอะไรไปไม่น้อยทีเดียว

พลอยรุ้งเป็นเพื่อนสาวที่มาสนิทสนมกัน ที่หอพักแห่งนี้หลังจากทักทายกันในยามวิกาลบ่อยครั้ง หากใครเห็นเธอในชุดนักศึกษาจะต้องประหลาดใจเพราะรุ้งแทบเปลี่ยนเป็นคนละคนโดยสิ้นเชิงชีวิตช่วงกลางวันของหล่อนจะเป็นคุณหนูลุคไฮโซ ใช้ของแบรนด์เนม พูดภาษาอังกฤษเป็นไฟมีเพียงเพื่อนสาวสองคนเท่านั้นที่รู้ตื้นลึกหนาบางและเบื้องลึกเบื้องหลังของหล่อน

ความจริงรุ้งเป็นคนหัวดีมาก เธอมีความจำแบบ photographic memory คือความจำเสมือนกล้องถ่ายรูปพลอยรุ้งจดจำทุกอย่างและทุกรายละเอียดได้ แม้เห็นหรือได้ยินเพียงเสี้ยววินาทีความเป็นนักศึกษา เป็นโพรไฟล์ชั้นเลิศที่หนุ่มๆนักเที่ยวปรารถนาซึ่งในวงการนักเที่ยวเป็นที่รู้กันดีว่า สาวไซด์ไลน์ ที่มีโค้ดเรียกกันว่า ‘ม้าลาย’ คือหมายถึง สาวๆในชุดนักศึกษาขาวสลับดำนั่นเอง สามารถเรียกค่าตัวได้สูงยิ่งถ้าเป็นสถาบันที่มีชื่อเสียงด้วยแล้วก็จะยิ่งเพิ่มมูลค่าให้สินค้ามีชีวิตเหล่านี้ได้มาก

เดือนๆหนึ่งพลอยรุ้งสามารถหาเงินได้หลักแสนและใช้เงินเหล่านั้นหมดไปกับ เฟอร์นิเจอร์ประดับกาย เพื่ออัพเกรดให้ตัวเองดูดีและแน่นอนผู้หญิงไม่เคยหยุดสวย บางทีเบลไม่เจอหน้ารุ้งเป็นเดือนๆในช่วงปิดภาคเรียนเพราะเจ้าหล่อนแอบไปทำศัลยกรรมมา ทั้ง ปาก คาง จมูกเรียกได้ว่าถ้าใครมาเห็นรูป before and after แล้วอาจตกใจแทบตกเก้าอี้ทีเดียวเดิมทีรุ้งก็สะสวยไม่แพ้ใครอยู่แล้ว บางทีอาจจะเป็นโรคประหลาด ‘เสพติดศัลยกรรม’ ก็เป็นได้

เมื่อสองเดือนก่อน พลอยรุ้งก็เพิ่งมาปรึกษาบุญยกร เรื่องทำหน้าอกแต่เป็นเบลที่ โนคอมเม้นท์ กับเรื่องนี้ไม่ใช่เพราะไม่มีความรู้แต่เข้าใจเพื่อนดีว่าถึงห้ามอย่างไรยัยตัวแสบก็คงไม่ฟังอยู่ดี คล้อยหลังประมาณอาทิตย์เศษเบลเป็นบุคคลพิเศษคนแรกที่ได้เห็นมันหลังจากพักฟื้นและรูปร่างเข้าที่เข้าทางพร้อมใช้งานรุ้งก็เรียกเบลมาที่ห้องและจัดการ เปิด นมให้เพื่อนสาวพิจารณาบุญยกรตะลึงกับเต้าคู่งามที่เห็นตรงหน้า เพราะมัน ‘ใหญ่’มากจริงๆ ขนาดที่ว่าของเธอกลายเป็นเด็กน้อยไปเลย ทั้งๆที่เบลก็จัดอยู่ในประเภท ‘อึ๋ม’ เหมือนกันหลังจากพินิจพิเคราะห์ทั้งทางสายตาและสัมผัสด้วยมือมันใหญ่และเต็มไม้เต็มมือก็จริง แต่มันก็ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเท่าไหร่ก็กลมบล็อกซะขนาดนั้น

กระนั้นก็เถอะ มันก็ดู เซ็กซี่มากๆ ยิ่งเวลาเดินในชุดนักศึกษารัดๆติ้วๆมันจะเด้งดึ๋งๆยั่วยวนหนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่ ตั้งแต่นักบินยันวินมอเตอร์ไซค์แม้กระทั่งสาวแท้สาวเทียมก็ยังต้องเหลียวมองด้วยความอิจฉา หลังจากอัพไซส์มา เธอก็โพสลงเฟสบุ๊คปรากฎว่ายอดไลค์เฉียดแสน กลายเป็นเน็ตไอดอล ข้ามคืน พลอยรุ้งชอบใจมาก หล่อนยังเอ่ยปากชวนเบลให้ไปเป็นเพื่อนเพื่อช่วยดูและเลือกลายสักเบลพยายามห้ามปรามแต่ไร้ผล แถมรุ้งยังว่ากลับมาอีกว่า การสักมันเป็นศิลปะขั้นสูงทั้งยังเป็นความใฝ่ฝันของเธอ

ด้วยความที่สนใจในศิลปะเป็นทุนเดิมรุ้งได้ศึกษาและรู้ถึงประวัติของการสักบนเรือนร่างของมนุษย์มันมีต้นกำเนิดครั้งแรกจากบริเวณเมืองโอซาก้าของประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีสภาพเป็นเกาะและชาวยุ่นสมัยก่อน มีพื้นเพเป็นชาวประมง และเวลาจะจับปลา พวกเขาจะดำน้ำลงไปจับทำให้คิดค้นวิธีการหลอกปลาขึ้นมาโดยสักตัวเป็นลายเกล็ดปลาเพือให้ปลาเข้าใจว่าเป็นพวกเดียวกัน และนี่คือการสักครั้งแรกของโลก ต่อมามีการแพร่กระจายของวัฒนธรรรมจนมาถึงการสักที่เป็น แฟชั่นในปัจจุบัน

เมื่อละสายตาจากรุ้ง บุญยกรก็จะเดินขึ้นตึกสายตาเหลือบไปเห็นด้านข้างเป็นโต๊ะหินอ่อนมีกลุ่มวัยรุ่นทั้งหญิงชายกำลังกินเหล้าสูบบุหรี่ร้องรำทำเพลงกันอย่างครื้นเครง ภาพที่เห็นตรงหน้าเป็นภาพที่เธอชินตาสำหรับชีวิตวัยรุ่น เด็กสาวมีจิตใจที่แน่วแน่เธอตั้งใจที่จะเรียนให้จบและจะตอบแทนบุญคุณ พ่อกับแม่ให้ดีที่สุดตลอดระยะเวลาที่จากบ้านมา บุญยกรก็ปฏิบัติตัวได้ดีมาตลอด ไม่แม้เว้นแต่เรื่องพี่ต้นทางบ้านก็รับรู้ว่าเป็นแฟนกัน

ปิดภาคเรียนคราวที่แล้ว ทั้งคู่ก็กลับไปบ้านของแฟนสาวโดยต้นมีไปถ่ายหนังสั้น ซึ่งมีโลเคชั่นสวยๆของภาคเหนือทำโปรเจคสุดท้ายก่อนจบด้วย

ระหว่างทางเธออาจมีวอกแวกไปบ้างตามประสาเด็กอยากรู้อยากลอง แต่ก็ยังประคับประคองให้อยู่ในทางกอปรกับ เบลเป็นคนฉลาดทัศนคติดีและที่สำคัญได้รับโอกาสที่ดีทำให้เธอดูโตกว่าเพื่อนคนอื่นๆในรุ่นเดียวกัน ทั้งความคิดและจิตใจ

ต้นนั่งรออยู่ที่ม้านั่งหน้าหอพัก กำลังนั่งเล่นไอแพดอยู่

“พี่ต้นขา”

ต้นสะดุ้งเฮือก ปิดหน้าจอแทบไม่ทัน ที่แท้เขากำลังดูคลิปโป๊ที่เพื่อนส่งมาให้ทางไลน์อยู่

“เรียก ยังกับนางนาก ตกใจหมด” ชายหนุ่มรีบเปลี่ยนประเด็นไม่อยากให้แฟนสาวจับได้

“นี่ เบลซื้อเย็นตาโฟมาให้กินซะตอนร้อนๆ จะได้ขึ้นไปนอน” หญิงสาวโชว์ถุงก๋วยเตี๋ยวให้ดูต้นรับมา

“ขอบใจมากค่ะ น่ากินจัง”

“ความจริง เบลไม่อยากให้พี่กินไรหนักๆตอนดึกเลย มันไม่ดีรู้มั้ย”

สาวน้อยพูดออกมาด้วยความเป็นห่วง

“ไมอ่ะ”

ชายหนุ่มอยากรู้เหตุผล และแฟนสาวของเขาก็มักจะให้คำตอบที่ดีเสมอ

“หลังอาหาร ควรมีเวลาพักอย่างน้อย สามสี่ชั่วโมงให้กระเพาะอาหารได้ทำงาน ก่อนจะนอน ถ้ากินแล้วนอนเลยอาหารจะไม่ย่อยและเป็นสาเหตุสำคัญของโรคที่คนมักเป็นกันมากๆในตอนนี้คือ โรคกรดไหลย้อน”สาวน้อยตอบฉะฉาน

“ถ้างั้น พี่ก็นอนดึกหน่อยได้มั้ย”

“ค้า แต่อย่าบ่อยนะมันจะติดเป็นนิสัย”

“อือ เบลขึ้นไปนอนเถอะ พี่ขอดูดบุหรี่อีกตัว” ต้นน้ำไล่แฟนสาวไปนอน

เบลเดินเข้าตึกไป ถึงหน้าห้องเปิดประตู หลังจากนั้นก็เดินไปเก็บข้าวของพร้อมถอดเสื้อคลุมสีดำที่ยังคงมีกลิ่นน้ำหอม Chanel ของผู้ให้ติดตรึงอยู่และทำให้ผู้รับนึกถึงหน้าเซเลบสาวขึ้นมาจับใจ

ป่านนี้เจ้าหล่อนคงนอนไปแล้วพรุ่งนี้ก็ไม่ได้เจอกันอีกเพราะไม่มีคิวถ่ายทำ แต่เอ จะไปคิดถึงเขาทำไมนะสาวน้อยสลัดภาพยิ้มเก๋ๆของพนิตพิชาจากหัว

เธอเริ่มถอดเสื้อรัดรูปออก ปลดกระดุมทีละเม็ดทีละเม็ดและกระโปรงจนเผยให้เห็นบราลายการ์ตูนสีชมพูเข้าชุดกันกับกางเกงชั้นในลายเดียวกัน จากนั้นก็จัดการอาภรณ์ที่เหลือจนเปลือยเปล่า

เบลเดินไปที่หน้ากระจกบานใหญ่ ทำการสำรวจรูปร่างตัวเอง หมุนตัวซ้ายขวา

“เริ่มมีพุงนิดๆรึเปล่านี่ยัยเบลสงสัยต้องออกกำลังกายซะบ้างแล้ว”

หญิงสาวรำพันกับตัวเอง ใช้มือลูบไล้ไปที่หน้าท้องน้อยสาวรุ่นเริ่มจินตนาการไปถึงภาพบนรถภาพความใกล้ชิดชนิดเนื้อแนบเนื้อกับซุปเปอร์สตาร์ ทำเอาอารมณ์สาวกระเจิดกระเจิงมือไม้เริ่มสัมผัสบนเรือนร่างโดยอัตโนมัติ เสียงครางเบาๆลอดออกมาจากลำคอ เคลิ้มไปสักพักพอได้สติ สาวรุ่นก็หยุดการกระทำดังกล่าว และบ่นกับตัวเองอีกครั้ง

“บ้าไปแล้วเรา คิดถึงคุณพอลลี่แล้วมาทำอะไรแบบนี้ เฮ้อ”

บุญยกรไม่เข้าใจอาการของตัวเอง เดินเข้าห้องน้ำไป

ระหว่างที่เบลชำระล้างร่างกายมีไลน์ของเธอดังขึ้นมา พาลให้นึกสงสัย เพราะปกติเวลาดึกขนาดนี้ โทรศัพท์ของหล่อนจะไม่มีใครติดต่อมา

ชายหนุ่มยังคงนั่งอยู่ที่ม้าหินอ่อน ทอดความคิดไปไกลสูบบุหรี่มวนต่อมวนบ่งบอกว่าเครียดจัด วันนี้ลูกแมวน้อยของเขามีหลายอย่างแปลกๆไป ต้นดีดบุหรี่ทิ้งไปพร้อมกับความคิดไร้สาระอย่างไรเสียเขาควรไม่ต้องมากังวลกับเรื่องเล็กน้อยพรรณนี้ ชายหนุ่มผมยาวลุกขึ้นคว้าหมวกกันน๊อคและเดินเข้าที่พักไป

นักศึกษาสาวนุ่งกระโจมอกออกมา เธอนั่งลงที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งทาครีมบำรุงผิวก่อนนอน ระหว่างนั้นสายตาก็เหลือบไปเห็นว่ามีข้อความไลน์ ที่ยังไม่ได้อ่านค้างอยู่ที่หน้าจอโทรศัพท์ เด็กสาวจึงกดดู

Pollybellisario “อย่าลืมทานยานะสาวน้อย ตากฝนมาเดี๋ยวจะไม่สบาย จะอดเจอหน้าใครบางคนนะ”

Pollybellisario ส่ง สติ๊กเกอร์ Goodnight kiss มาให้

บุญยกรอ่านข้อความยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ สนุกและเป็นสุขกับการต่อความ

Bellejubjub “ขอบคุณในความเป็นห่วงนะคะฝันดีเช่นกันค่ะ My idol”

หลังส่งข้อความสาวน้อยทา night cream ที่เจ๊อั้มซื้อให้อีกรอบก่อนจัดแจงข้าวของบนโต๊ะ ปิดไฟทุกดวงและล้มตัวลงนอน หมดไปอีกวันกับชีวิตยุ่งเหยิงของนักศึกษาบ้านนอกในเมืองกรุง

พรุ่งนี้จะเป็นอย่างไรก็ไม่รู้และที่จริงมันไม่เคยมีวันพรุ่งนี้ เพราะเราไม่เคยตื่นมาแล้วเป็นวันพรุ่งนี้เราตื่นมาเป็นวันนี้เสมอ พระพุทธองค์ทรงสอนให้เราอย่าคิดถึงอดีต อย่าคิดถึงอนาคตให้จับจิตและมีสติอยู่กับปัจจุบัน เด็กสาวคิดถึงคำแม่สอน และผลอยหลับไป

ณบ้านหรูมูลค่าหลายสิบล้านบาทย่านทำเลทอง ‘ท้องมังกร’ ของกรุงเทพฯถนนเลียบทางด่วน เอกมัย-รามอินทรา บนห้องส่วนตัวของพนิตพิชา แสงไฟสลัวๆเคล้าคลอด้วยเสียงเพลงลูกกรุงคลาสสิค บ่งบอกว่า เจ้าของห้องยังไม่หลับพอลลี่ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ไม่ต่างจากคนที่เธอกำลังคิดถึงหลังจากได้รับข้อความตอบกลับทางไลน์ เซเลบสาวซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง เธอชอบเบล สาวน้อยหน้าใสกะโปโลคนนี้และชอบมาก อาจเป็นเพราะหล่อนกำลังมีปัญหากับคนรักอยู่ หรืออย่างไรก็ไม่ทราบได้คนรักที่ว่าไม่ได้หมายถึงพี่ยุทธ ยุทธนาชายหนุ่มผู้ที่เป็นคนรักในแบบที่คนที่บ้านเธออยากให้เป็นคนรักที่แท้จริงของเจ้าหล่อนก็คือ อุษา ผู้จัดการส่วนตัวคู่ใจของเธอนั่นเอง

หลังจากที่ทะเลาะกันวันก่อนป่านนี้แล้วยังไม่มีโอกาสปรับความเข้าใจกันเลย ไม่สินะ โอกาสและเวลาน่ะมีเสมอแต่ตัวหล่อนเองต่างหากที่ไม่คิดจะทำส่วนอีกฝ่ายก็มีทิฐิไม่ต่างกันจึงไม่ยอมติดต่อมา จะอย่างไรเสียเรื่องการงานก็เป็นไฟท์บังคับที่จะต้องเจอหน้ากันอยู่ดีถึงตอนนั้น ไม่เธอก็พี่ษา คงลืมๆมันไปแบบทุกคราวและกลับมาดีกันตลอดๆ ทันใดนั้นเสียงไลน์ก็ดังขึ้น

“Good night นะครับคนดีพรุ่งนี้ถ้าว่างพี่จะรับไปทานข้าว”

“เฮ้อ!” ซุป’ตาร์ ถอนหายใจเฮือกใหญ่มันไม่ใช่ข้อความจากคนที่เธอกำลังคิดถึงแต่มาจากคนที่กำลังคิดถึงเธอ นี่เป็นอีกเรื่องที่ เซเลบสาวกลัดกลุ้ม

แม้พี่ยุทธ จะเป็นคนที่พ่อและแม่ของเธอปรารถนาให้เกี่ยวดองด้วยเพื่อความเหมาะสมทางธุรกิจและสถานะหน้าตาทางสังคม ส่วนตัวพี่ยุทธ์เองก็ ‘ดีพอ’ ที่เธอจะอยู่ด้วยแล้วมีความสุขอย่างที่ผู้หญิงคนหนึ่งพึงจะมีได้และแม้จะมีเหตุผลอีกร้อยพัน มันใช้ไม่ได้เลยกับเรื่องของหัวใจ ที่เป็นความรู้สึกเธอไม่อาจรักใครได้ด้วยสมอง

พี่ษาเคยถามเธอว่าหากเปลี่ยนเพศพี่ยุทธได้ให้เป็นหญิงหล่อนจะรักเขาไหม พอลลี่ตอบกลับไปว่าที่รักได้หรือไม่ได้รักมันไม่เกี่ยวกับเรื่องเพศ แน่นอนพนิตพิชาเป็นเลส เป็นมานานและคงเป็นต่อไปตราบสิ้นใจ และถ้าเธอจะรัก ใครสักคน แม้กระทั่งพี่ยุทธเองต่อให้เขาเป็นเกย์ ไบเซ็กซวล ชายแท้หรืออะไรก็ตามเธอก็ยังรักเขาอยู่ดีอุษาไม่เข้าใจในรักที่หลากหลายของหล่อน

สองวันก่อนก่อนที่พ่อและแม่เธอจะเดินทางไปต่างประเทศ ก็เรียกดาราสาวเข้าไปคุยจริงจังเกี่ยวกับเรื่องนี้พนิตพิชาผลัดผ่อนมาหลายครั้ง ตั้งแต่เธอเรียนจบปริญญาตรีและหาเรื่องประวิงเวลาหนีไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศส สองปีถัดมา หลังจากเรียนจบพอลลี่ก็ดันจับพลัดจับผลูได้มาเป็นดาราดังซะอีก ซึ่งนี่เป็นข้ออ้างอันสุดประเสริฐที่เธอจะทอดเวลาออกไป แต่มันก็คงไม่ได้นานไปกว่านี้เท่าไหร่

วันเวลาที่ผ่านไปเรื่อยๆก็เท่ากับวันเวลาที่กำหนดการหมั้นหมายใกล้เข้ามา พอลลี่รู้ดีเธอจะต้องหาวิธีการทำลายมันให้ได้ แม้ตอนนี้จะยังมืดแปดด้าน คิดอะไรไม่ออกเลย แต่อย่างน้อย ณ บัดนาวขอให้เธอได้ทำตามหัวใจตัวเอง อยู่กับความน่ารักสดใสของวัยว้าวุ่นบ้างว่าแล้วเธอกลับคิดแผนการจีบเด็กสาวได้เป็นฉากๆดังคนเขียนบทมือทองอะไรที่ทำมาจากแรงบันดาลใจ มักจะดีที่สุดเสมอ...




Create Date : 13 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 23 กุมภาพันธ์ 2558 22:44:06 น. 0 comments
Counter : 1524 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.