โดย อนงค์รดี

จุดเริ่มต้น

ท่ามกลางการจราจรที่แสนจะติดขัดเป็นกำลังสามในเย็นวันศุกร์แห่งชาติต้นเดือน กอปรกับมีฝนตกหนักในเมืองหลวง กรุงเทพมหานครที่เป็นศูนย์กลางทุกสิ่งทุกอย่างของประเทศไทย เบล บุญยกร เด็กสาววัย 20 ต้นๆในชุดนักศึกษา วิ่งกระหืดกระหอบออกมาจากห้องเลคเชอร์ ในมหาวิทยาลัยรัฐบาลที่มีชื่อเสียงแห่งหนึ่งโชคร้ายที่วันนี้อาจารย์เลิกสอนช้ากว่าปกติเกือบครึ่งชั่วโมงทำให้เธอต้องเร่งสปีดในการเดินทาง เพื่อไปให้ทันกับงาน part time ของเธอ

ในระหว่างที่วิ่งฝ่าสายฝนออกไปเพื่อที่จะไปขึ้นรถไฟฟ้าและยังต้องต่อรถไปถึงสตูดิโอของสถานีโทรทัศน์แห่งหนึ่งเด็กสาวหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาและโทรหา ต้น แฟนหนุ่มรุ่นพี่ซึ่งได้ทำงานอยู่ที่สตูดิโอที่เธอกำลังจะไปแห่งนั้น

“โหลพี่ต้นจ๋า บอกเจ๊อั้มด้วยนะ วันนี้เค้าช้าหน่อยพอดีอาจารย์ปล่อยเลทตอนนี้เพิ่งอยู่หน้ามอกะลังจะขึ้นรถไฟฟ้า...ไปหานะเธอแค่นี้นะ”

ไม่รอให้ผู้ฟังตอบกลับเบลรีบวางสายและเพิ่มความเร็วในการวิ่งขึ้นไปอีก เธอเกลียดการมาสายและแน่นอนวันนี้เจ้าหล่อนต้องทำเวลา

พอลลี่พนิตพิชา เซเลบ ชื่อดัง คลื่นลูกใหม่ของวงการบันเทิงไทย ขับรถ BMW M6 Gran Coupéสีแดง ความแรงและรูปลักษณ์ที่ภูมิฐานของรถบ่งบอกถึงรสนิยมของผู้ขับได้เป็นอย่างดีในการจราจรที่ติดขัด เนื่องจากรถเคลื่อนตัวได้ช้าเพราะมีน้ำท่วมขัง หล่อนมุ่งหน้ามายังสตูดิโอเพื่ออัดรายการสำหรับออกอากาศในวันรุ่งขึ้นปกติเธอจะไม่ขับรถเองเพราะมีผู้จัดการส่วนตัวดูแล หรือไม่ก็ พี่ยุทธ แฟนหนุ่มคอยเป็นสารถีรับส่ง

แต่จะเป็นด้วยความโชคร้าย หรือพรหมลิขิตนั้นเกินจะคาดเดาวั้นนี้ทั้งคู่ไม่ว่างที่จะคอยดูแลเธอ พี่ษา อุษา ผู้จัดการส่วนตัวขอลาอันที่จริงก็น่าจะเป็นเพราะว่า มีปัญหาระหองระแหงกันในวันก่อนความสัมพันธ์ระหว่างสองสาวนี้ค่อนข้างซับซ้อนและเข้าใจยาก และพอลลี่เองก็ไม่อยากจะเคลียร์ใจกันในตอนนี้

ส่วนคุณพี่ยุทธ รายนั้นก็ช่างเขาเถอะความสำคัญของหล่อนที่มีต่อเขาคงเป็นลำดับสุดท้าย ซึ่งเธอเองก็ชินชาเสียแล้ว

พนิตพิชาเป็นเซเลบที่กำลังถูกจับตามาก เพราะเธอดังเป็นพลุแตกเพียงชั่วข้ามคืน จากการ ดีบิวเล่นละครเรื่องแรกในบทบาทผู้หญิงเจ้าชู้และนอนกับผู้ชายไม่เลือกหน้าเธอตีบทแตกกระจุยถูกใจคอละครน้ำเน่าอย่างมาก ทั้งแม่ค้าแม่ขายตามตลาดและกระแสในโลกโซเชียล พูดถึงเธอแทบทุกสื่อ ทุกเวบ

‘น้ำขึ้นให้รีบตัก‘ พี่ษากล่าวผู้จัดการสาวเลยถือวิสาสะรับงานทุกงาน โดยไม่คำนึงถึงพอลลี่เลยว่า เธอไม่ใช่เครื่องจักรหรือหุ่นยนต์พอลลี่ต้องการการพักผ่อนและมีเวลาเป็นส่วนตัวบ้าง และนี่คือหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เธอมีปากเสียงกับผู้จัดการส่วนตัว

ในระหว่างที่รถติดสัญญาณไฟจราจรพนิตพิชาคลับคล้ายคลับคลาว่าคุ้นๆกับเด็กสาวเอวบาง แต่อกโตในชุดนักศึกษารัดรูปที่ดูท่าทางจะรอโบกรถแท๊กซี่อยู่ที่ป้ายรถเมล์

ไวเท่ากับความคิด พอลลี่ลดกระจกลงและตะโกนเรียกเด็กสาวคนนั้น

“น้อง...น้อง...น้องนั่นแหล่ะ”

“คะ”

สาวรุ่นในสภาพเปียกปอนไปทั้งตัว หันซ้ายแลขวาเมื่อไม่เห็นใครอยู่ใกล้จึงมองมาทางต้นเสียงที่รถคันแดงนั้น ภายใน คนขับเป็นผู้หญิงใส่แว่นกันแดดทั้งๆที่ฝนตกกำลังตะโกนเรียกเธออยู่

“จะไปสตูฯ รึเปล่า มา ขึ้นรถไปด้วยกัน”

พอลลี่พูดพร้อมถอดแว่นตาออก ทำให้นักศึกษาสาวรู้ได้ทันทีว่า นี่คือ ‘พอลลี่ พนิตพิชา’ ดาราที่ hot ที่สุดของ พ.ศ.นี้ ด้วย look แบบสมัยนิยมผสม Korean styleประกอบกับพรสวรรค์ในการแสดง ความเป็นมืออาชีพ และไม่มีเรื่องเสื่อมเสียทำให้เธอมีแฟนคลับเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงมีผู้จัดการส่วนตัวที่เชี่ยวชาญในการทำการตลาดผ่านsocial network พี่อุษาจะคอยอัพเดท Facebook,Instagram และจัดมีทติ้งออกงานอีเวนท์อยู่ตลอด ทำให้พอลลี่อยู่ในหน้าข่าวบันเทิงเสมอๆแม้เพิ่งจะมีละครออกอากาศเป็นผลงานหลักๆ เพียงเรื่องแรกและเรื่องเดียว

ส่วนงานใหม่ของเธอในตอนนี้ก็คือเป็นพิธีกรในรายการ ‘เม้าท์แตก’ รูปแบบรายการเป็นการทอล์คโชว์ของบุคคลในวงการบันเทิง,ไฮโซ ซึ่งพิธีกรคนเก่าได้ลาออกไปเลี้ยงดูลูก เป็นจังหวะให้คลื่นลูกใหม่เช่นเธอได้เสียบรายการที่เรตติ้งสูงเช่นนี้นับเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เธอเป็นที่รู้จักมากขึ้นในวงกว้าง

อย่างไรก็ตาม เธอยังใหม่มากต่อวงการนี้ และยังต้องเรียนรู้กับคำว่า ‘มายา’ นี้ต่อไป

“เอ่อหนูว่าไม่ดีมั้งคะ ตัวเปียก รถคุณจะเลอะ” เด็กสาวตอบปฎิเสธไป

“บ้าเอ้ย! รถเลอะก็ล้างได้ตัวเปียกไม่สบายไปจะเสียงานนะ”

เซเลบสาวให้เหตุผล สาวน้อยเก้ๆกังๆ ทำท่าคิดหนักมองไปข้างหน้าก็อ่อนใจ รถจอดยาวเป็นกิโลฯ

“เอ้าเร็วๆสิ ขึ้นรถ นี่เห็นมั้ยรถหลังบีบแตรไล่แล้ว”

สถานการณ์บีบบังคับให้เบลจำต้องตัดสินใจทันที เพราะหากเธอชักช้าก็จะต้องรอแท๊กซี่ซึ่งในยามเย็นและฝนตกเช่นนี้บุญยกรคงต้องรอรถจนใยแมงมุมขึ้นแน่ๆ คิดได้ดังนั้นนักศึกษาสาวกะโปโลจึงขึ้นรถซึ่งมีพลขับเป็นถึงบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ

“เธอนี่คิดนานนะเด็กน้อยไม่ไว้ใจฉันเหรอ” พนิตพิชาชวนคุย

“เปล่าค่ะเกรงใจ แต่ว่า พี่ เอ้ย คุณจำหนูได้เหรอคะว่าหนูทำงานอยู่ที่สตูฯ” เด็กสาวปฏิเสธพร้อมถามกลับในสิ่งที่อยากรู้

“ใช่ป้ำๆเป๋อๆอย่างเธอมีคนเดียวแหล่ะ อีกอย่าง เรียกพี่ก็ดีอยู่แล้วนะจะได้ไม่ดูห่างเหิน” ดาราสาวแซวเล็กๆ

“อ๋อ ค่ะ”

เบลรู้สึกประหลาดใจนิดๆ นี่เธอฝันไป หรือว่านี่ใช่ดาราจริงๆเหรอปกติคนเป็นดาราเขาจะหยิ่งกันนี่นา เด็กสาวเผลอคิดนานไปจนอีกฝ่ายกล่าวทัก

“คิดอะไรน่ะนี่ วันนี้ทำไมเข้างานช้า หรือว่าโดดเรียนแอบหนีไปเที่ยวกับเพื่อนจนคิดจะเบี้ยวงานเด็กสมัยนี้น้า ความรับผิดชอบไม่มีเล้ย” ดาราสาวถามเป็นเชิงตำหนิ

“ไม่ใช่แบบนั้นนะคะวันนี้อาจารย์ปิดคอร์ส เลยเลิกช้า...ฮัด...ชิ้ว”

เด็กสาวหลุดจามออกมา คงเป็นเพราะเธอตากฝนนานเกินไปจนเปียกโชกไปทั้งตัวทั้งยังต้องมานั่งรถแอร์เย็นฉ่ำอย่างนี้อีก

“หนาวเหรอ”

พอลลี่ถาม มือซ้ายก็ปรับปุ่มแอร์ให้อยู่ในระดับต่ำสุด พอได้จังหวะเธอก็เอื้อมมือควานไปที่เบาะหลังเพื่อเอาอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่ถนัดนักเพราะขับรถอยู่จึงต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ

“คุณหาอะไรอยู่เหรอหนูช่วยนะ” เบลอาสาเพราะเห็นว่าจะเป็นอันตรายต่อการขับขี่

“อือ หยิบเสื้อแขนยาวสีดำที่เบาะหลังให้หน่อยสิ”

“ได้ค่ะ”นักศึกษาสาวขยับตัวเอื้อมไปหยิบเสื้อที่เบาะหลัง แต่เนื่องจากสัมภาระเยอะมากทำให้ต้องใช้เวลาในการสอดส่ายสายตาหาพอสมควร ทันใดนั้น เบลก็เหลือบไปเห็นบางสิ่งบางอย่าง มันคือ กางเกงทอม!!วางท้าทายสายตาอยู่ที่พื้นด้านหลังฝั่งคนขับ

เด็กสาวตะลึงงันไปราว สิบวินาที ที่ตกใจมิใช่เธอไม่เคยเห็นมันเด็กสาวรุ่นก็พอๆคุ้นๆบ้างจากหนังโป๊ที่เธอเปิดดูในอินเตอร์เนตแต่ที่เจ้าหล่อนตกใจและประหลาดใจสุดๆก็คือ นี่มันอะไรกันทำไมมีของลามกแบบนี้มาอยู่ในรถของดาราสาวคนนี้ได้นะ จะว่าเป็นอุปกรณ์ประกอบฉากก็ไม่น่าใช่เพราะ คุณพอลลี่ไม่ได้เป็นดาราเอวี สักหน่อย

เซเลบสาวเห็นว่าเด็กน้อยเงียบไป เป็นช่วงรถติดไฟแดงพอดี เธอจึงเอี้ยวตัวมาช่วยหาอีกแรงพอเหมาะกับจังหวะที่ เด็กสาวเรียกสติกลับคืนมา และฉวยคว้าเอาเสื้อได้ทำท่าจะหันตัวกลับมานั่ง บังเอิญเกินบังเอิญ ทั้งสองได้สบตากันในระยะประชิดแทบจะเรียกได้ว่า จมูกชนจมูกเลยทีเดียว นั่นทำให้ สาวน้อยรู้สึกช็อคเป็นทวีคูณกับความสวยของเซเลบสาวคนนี้ไม่มีที่ติจริงๆ คุณพอลลี่สวยแบบธรรมชาติ และแน่นอนล้านเปอร์เซ็นต์เธอไม่ได้ศัลยกรรมตามที่ดาราคนอื่นนิยมทำกัน

เพราะเบลเป็นผู้ช่วยของช่างแต่งหน้าชื่อดังของเมืองไทยเธอสามารถแยกแยะได้ว่า ใครสวยแบบแม่ให้มา หรือพึ่งมีดหมอ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนของว่าที่ซุป’ตาร์ ดึงดูดเด็กน้อยให้เสมือนต้องมนต์สะกด

ขณะที่พอลลี่เอง แม้จะรู้สึกตกใจเล็กๆ แต่นักศึกษาสาว ผู้ช่วย เมคอัพอาร์ติส คนนี้ เป็นเด็กหน้าใสปิ๊ง วิ้งวิ้ง สมวัย ช่วงชีวิตนักศึกษาเป็นวัยที่โตเป็น สาว เต็มที่ และแน่นอน เป็นวัยที่ ‘น่ากิน’ ที่สุด...เพลโต...มิได้กล่าวไว้ แต่เธอคิดได้เอง

ด้วยประสบกามเอ้ยประสบการณ์ที่มากกว่า ทำให้ ดาราสาวควบคุมสติได้ดี แต่แวบคิดในใจว่า อยากแกล้งเด็กขึ้นมาพอลลี่จงใจที่จะ ‘ฟรีซ’ อิริยาบทแบบนี้เอาไว้เธอจ้องตานักศึกษาสาวไม่กะพริบ สาววัยใสน่าไซ้ร์ผู้มีหน้าตาเกลี้ยงเกลาแก้มอมชมพูไร้เครื่องสำอาง ผู้หญิงเวลาตัวเปียกนี่เซ็กซี่ที่สุดแล้ว... สำหรับเธอ

ปริ้น...ปริ้นนน สองสาวสะดุ้งเฮือก

เสียงแตรจากรถคันหลัง เปรียบเสมือนคำสั่ง ‘คัท’ จากผู้กำกับที่เรียกสติจากทั้งคู่คืนมาพอลลี่กลับไปประจำการและเคลื่อนรถออกไป

“ขอโทษค่ะ หนูซุ่มซ่ามตามเคย” สาวมหาวิทยาลัยตอบแก้เขิน ใจยังเต้นแรง

“แต่ชั้นอยากให้เธอซุ่มซ่ามแบบนี้บ่อยๆนะน่ารักดี”

เฮ้ย! ไรวะเนี่ย อยู่ๆก็มาชมเค้าเขินนะเว้ยย เด็กสาวเบี่ยงหน้าออกทางหน้าต่าง รู้สึกแปลกๆ วูบวาบที่ใบหน้าหายใจไม่ค่อยสะดวก แบบอธิบายไม่ถูก มือที่หยิบเสื้อมากำแน่นเกร็ง

อันที่จริงเธอก็ถูกเพื่อนๆรุ่นพี่ที่คณะหรือต่างคณะแซวอยู่ทุกวี่วันแถมก็มีหนุ่มแวะเวียนมาจีบไม่ได้ขาด แต่เธอก็ไม่ได้รู้สึกวาบหวิวตื่นเต้นเทียบเท่าตอนนี้เลย แม้กระทั่งพี่ต้น แฟนหนุ่มคนปัจจุบันของเธอเบลก็ยังไม่มีความรู้สึกได้มากเท่านี้

“นี่เสื้อน่ะ คลุมไว้ซะ จะได้ไม่หนาว อีกอย่างเธอน่ะโป๊หมดแล้ว เห็นไปถึงไหนต่อไหนว่าแต่ เสื้อในลายการ์ตูนสวยดีนะ ชั้นชอบ” พอลลี่ยังไม่หายสนุกรุกไล่สาวน้อยอีกคำรบ

อุต๊ะ! ทำไมทะลึ่งได้อีกนี่ยังจะมาแอบส่องนมเค้าอีก บ้าบอที่สุด! เบลคิดในใจหน้าแดงซ่าน หูอื้อกับประโยคที่ได้ยินเธออายสุดชีวิตแต่ก็พยายามที่สุดเหมือนกันที่จะควบคุมมันไว้

“เอ่อขอบคุณมากค่ะ แล้วหนูจะซักคืนให้นะคะ”

เบลตอบแต่มันไม่ไหวจริงๆที่จะสู้หน้า เธอยังคงมองออกไปนอกกระจกรถ หัวใจเต้นแรงกว่าเดิมอีก2 จังหวะ

“ไม่ต้องหรอกชั้นให้ จะได้เอาไว้ระลึกถึงกัน อ้อ!อีกอย่างเวลาจะพูดจะจากับผู้ใหญ่ต้องมองหน้ารู้มั้ย เด็กน้อยคนอื่นเค้าจะว่าเอาได้ ว่าไม่เคารพผู้อาวุโส เบลหันมาพยักหน้าตอบรับ

เซเลบสาวเห็นดังนั้นก็เอามือซ้ายของเธอมาที่แก้มใสวัยกระเตาะเบาๆเป็นเชิงตำหนิ

“นี่เพิ่งอบรมไป ใครเขาบอกให้พยักหน้ากับผู้ใหญ่ รู้มั้ยมันไม่สุภาพ เด็กน้อยคราวหน้าต้องตอบรับเป็นวาจานะจ๊ะ”

เอ๋นี่เธอกำลังอยู่กับคุณหญิงป้ารึไง ถึงได้เจ้ากี้เจ้าการกับมารยาทของเธอนัก แต่ช่างปะไรถือซะว่านั่งฟังบรรยายวิชามารยาทไทยแล้วกัน เด็กสาวคิดในใจและเป็นฝ่ายพอลลี่ที่ร่ายต่อ

“แอดไลน์ชั้นไว้ด้วย เผื่อวันหน้าจะได้ติดรถมาด้วยกันอีก Pollybellisario ไลน์เฟส อินสตาแกรม ทั้งหมดใช้ชื่อเดียวกัน พี-โอ-ดับเบิ้ลแอล-วาย-บี-อี-แอล-แอล-ไอ-เอส-เอ-อาร์-ไอ-โอ”แม่สาวน้อยหยิบโทรศัพท์มากดไลน์แอพลิเคชั่น แอดเป็นเพื่อนอย่างว่าง่ายขืนอิดออดมีหวังโดนบ่นอีกชุดใหญ่

“ของหนูชื่อBellejubjub ค่ะกำลังแอดไปเดี๋ยวคงขึ้น” เธอกดปุ่มพิมพ์พร้อมบอกชื่อไลน์ของเธอ

“ชื่อเบลเหรอ นั่งรถมาตั้งนาน ลืมถามไปเลย แปลว่า สวยสินะ เข้าใจตั้งนี่สวยสมชื่อจริงๆ”

พอลลี่เปิดเกมรุกอีกระลอก Belle เป็นภาษาฝรั่งเศสที่ภาษาอังกฤษยืมมาใช้แปลว่า สาวน้อยผู้สวยงามไม่รู้ว่าคำๆนี้ถูกคิดมาเพื่อเธอหรือเธอเกิดมาเพื่อสิ่งนี้

“ค่ะพ่อหนูตั้งให้ แต่แกคงคิดว่าเป็นระฆังมากกว่า เพราะพ่อชอบเข้าวัด”

ประโยคนี้ เรียกเสียงหัวเราะจากเซเลบสาวได้ฮาใหญ่สาวน้อยเองก็ขำไปกับมุขของตนเอง ความประหม่าอายค่อยๆลดลง

บังเอิญมากที่ชื่อของทั้งคู่พ้องเสียงกันและความหมายใกล้เคียงกัน ชื่อโซเชียลเน็ตเวิร์คของพอลลี่ คือ bellisario เป็นภาษาละตินแปลว่าสวย คม ดุดัน พนิตพิชาได้แรงบันดาลใจในการใช้ชื่อนี้มาจากพ่อของเธอที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านภาษาศาสตร์ และเธอชื่นชอบชื่อนี้มาก

ระหว่างทางมีเสียงเพลงเปิดคลออยู่ตลอด ซึ่งล้วนเป็นเพลงเก่าทั้งลูกทุ่งและลูกกรุง หลายๆเพลงก็เก่ามากตั้งแต่ทั้งสองยังไม่ลืมตาดูโลกเลยด้วยซ้ำ

ไม่แปลกหรอก เพราะพอลลี่ชอบเพลงเก่าคลาสสิคโดยเฉพาะเพลงลูกทุ่งเธอชอบเป็นชีวิตจิตใจ ว่างเมื่อไหร่เป็นต้องหาโอกาสฟัง ขนาดเสียงเพลงริงโทนรอสายเข้าในโทรศัพท์ของ ซุป’ตาร์สาวยังเป็นเพลงลูกทุ่งเลย

ด้วยความที่ชอบมากนี่เองทำให้พอลลี่ศึกษาประวัติความเป็นมาของเพลงเหล่านั้น เธอจึงรู้ข้อมูลมากแทบจะเรียกได้ว่าเป็นเอตทัคคะทางด้านเพลงเก่าไทยเลยก็ว่าได้พนิตพิชาเคยเกือบเข้าแข่งขันรายการแฟนพันธุ์แท้ลูกทุ่งไทยมาแล้วก่อนเธอจะเข้าวงการแต่ช่วงที่ทีมงานติดต่อมา เธอติด ซัมเมอร์คอร์สที่นิวซีแลนด์ เลยชวดไป

อินโทรเพลงดังขึ้นพอลลี่ร้องตามอย่างอารมณ์ดี “พรจ๋าพรคืนนี้ขอนอนบ้านพรจะได้มั้ย”

เบลรู้สึกประหลาดใจเล็กๆ สาวไฮโซสมัยใหม่ จะสามารถร้องลูกทุ่งเป็นกะเค้าด้วยเท่านั้นยังไม่พอ มีลูกเอื้อนลูกคออีกต่างหาก

“คุณพอลลี่ชอบเหรอคะ เพลงพวกนี้ เหมือนเบลเลย” พูดจบสองสาวก็หัวเราะกันครื้นเครง พอลลี่นึกสนุกเธอกดปุ่มฟอร์เวิร์ดเพลงใหม่ทันที มันเป็นเพลงของครูสุรพล สมบัติเจริญหนึ่งในตำนานเพลงคลาสิคไทย

“สวยก็จริงนะน้องไผมองเขายังต้องแอบชม

คิ้วโก่งละดั่งวงพระจันทร์เธอกันมันหรือมันจึงได้กลม

ปากคอคิ้วคาง สวรรค์ช่างปั้นเหมาะสมหางตาเจ้าคม

ใช่พี่แกล้งกล่าวชมบ่แม่นดอกนางเอย”

พอลลี่ร้องไปเหลือบมาสบตากับสาวน้อยไปพลาง ส่วนทางด้านเบลหน้าแดงก่ำ หล่อนคิดไม่ถึงว่าจะเจอมุขนี้นี่มันยุค ไซเบอร์แล้ว แต่กระนั้นแม้จะน้ำเน่าและป้าไปหน่อยก็เหอะมันกลับกระแทกใจเธออย่างแรง!!

“เพลงอะไรเหรอคะ”วัยรุ่นไม่เข้าใจ ด้วยความอยากรู้ เจ้าหล่อนไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยรู้แต่ว่ามันเพราะดี

“สวยจริงน้อง”

พอลลี่พูดเน้นน้ำเสียงและมองมาที่หน้าคนสวย ต้องการบอกว่าเป็นเช่นนั้นจริงทำเอาคนฟังดั่งโดนมนต์สะกดซ้ำอีกครั้ง

“เอ่อ...ชื่อเพลงตรงๆดีนะคะคนสมัยก่อนนี่เก่งมากเลย ให้เบลคิดทั้งชาติก็ไม่อาจประดิษฐ์ประดอยถ้อยคำแบบนี้ได้” เบลพูดแก้เก้อพยายามหาเรื่องเปลี่ยนประเด็น เธอไม่อยากโดนต้อนเข้ามุม เท่านี้ก็เปิดตำรารับไม่ทันแล้ว

“ว่าแต่คุณพอลลี่ชอบเพลงอะไรที่สุดเหรอคะ”

“ที่สุดเหรอจริงมันก็มีหลายเพลงนะ อืม... นี่เลย เพลงนี้”เซเลบสาวตอบพร้อมกดปุ่มทันทีเพลงขึ้นมาเป็นเพลง‘จูบไม่หวาน’ต้นฉบับของศรชัย เมฆวิเชียร

“...”

สาวน้อยทำให้ตัวเอง ตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากอีกครั้ง ถามอะไรไม่ถามเหมือนเตะหมูเข้าปากหมา! พนิตพิชาเห็นเด็กสาวจนแต้ม เงียบไป เธอจึงหาทางลงให้

“แล้วเธอล่ะ” เด็กสาวมีคำตอบในใจอยู่แล้วจึงสวนกลับไปทันใด

“ไม่รักไม่ว่าค่ะ ของ ทนงศักดิ์ ภักดีเทวา เพราะมากพ่อเคยบอกกับเบลว่าเพลงนี้ในยุคนั้นสมัยนั้นดังมาก สถานีวิทยุทุกคลื่นจะต้องเปิดอย่างน้อยทุกชั่วโมง ตลอดทั้งวัน”

พอลลี่คิดภาพตามพยายามนึก แต่นึกเท่าไรก็นึกไม่ออกมันติดอยู่ที่ริมสมอง เธอเสิร์ชหาเพลงนี้ใน Thumb drive แต่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอมันตกสำรวจจากลิสต์ของเธอได้อย่างไร

“ร้องยังไงนะ ชั้นนึกไม่ออก”

“รู้รู้อยู่ มิควรคู่กับจอมใจ วาสนาเราแสนไกลหนักหนา...” เด็กสาวฮัมเพลงขึ้นมา เซเลบชื่อดังยังทำหน้านึก

“ร้องต่อซิ เอาท่อนฮุคเลย ใกล้ละๆ” ดาราสาวเริ่มคุ้นๆหู

“ให้คิดเลิกรักไป...เหมือนให้ตาย...มันโหดร้ายเกินไปแก้วตา” เท่านั้นสาวทรงเสน่ห์ ก็ดีดนิ้ว เธอนึกออกแล้ว!

“จอมใจ ไม่รักก็ไม่ต้องรักต้องฝืน จอมใจไม่ชื่น ก็ไม่ต้องฝืนเวทนา”ทั้งสองสาวร้องประสานเสียงกันและยิ้มสวยให้กันอย่างสุขใจ

“ดีเลย เธอรู้จักเพลงเก่าๆแบบนี้ ไว้เรามาหาเวลาคุยกันนะถ้าไม่ใช่วัยลุงป้าล่ะก็หาคนคุยยากมาก”

“ค่ะ ด้วยความยินดี” สาววัยทีนตอบรับทันควันเพราะเธอเองก็เจอปัญหาแบบนี้เหมือนกัน

รถเลี้ยวเข้ามาในสตูดิโอ พร้อมกับฝนที่หยุดสนิทแล้ว

“เคร ถึงละ เอาล่ะชั้นจอดรถก่อน เธอลงไปได้ละ รีบไม่ใช่เหรอ”พอลลี่พูด

“ค่ะ สวัสดีค่ะ ขอบคุณในทุกอย่างสำหรับวันนี้นะคะ” สาวน้อยกล่าวอำลาพร้อมยกมือไหว้เปิดประตูรถเตรียมตัวจะลง แต่ก็ต้องชะงักเมื่อดาราสาวรั้งแขนเธอไว้

“เดี๋ยวก่อน หันมานี่ซิ ขอมองหน้า แปปนึง จะได้ไม่ลืมกัน”พอลลี่ต้องการจบตอนนี้อย่าง เพอร์เฟ็กต์

“เอ่อ..ค่ะ” ผู้ช่วยช่างแต่งหน้าทำได้เพียงหันมาอย่างว่าง่าย ทั้งสองมองกันพอแก่เวลาและเป็นพอลลี่ที่เอ่ยปาก

“โอเค เรายังต้องได้เจอกันอีก สาวน้อย ไปได้แล้ว”

“อ๋อ ค่ะ กู๊ดบาย”

เบลเปิดประตูรถลงมาโบกมือลา และเป็นจังหวะเดียวกับที่ ‘ต้น’ หนุ่มร่างกายกำยำผิวสองสี ความสูงตามมาตรฐานชายไทยหน้าตาธรรมดาแต่ดูสะอาดสะอ้าน ผมยาวมาดเซอร์ออกมาสูบบุหรี่ บริเวณที่จัดไว้ให้สิงห์อมควันโดยเฉพาะที่ลานจอดรถมอเตอร์ไซค์ข้างๆมุมตึกถัดจากที่จอดรถยนต์ไปไม่ไกลกันนัก และกำลังจะโทรตามแฟนสาวของเขาด้วยความเป็นห่วงเพราะนี่ก็เลยเวลาที่เธอควรจะมาถึงได้พอสมควรแล้ว เขาได้ทันเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ตั้งแต่รถเลี้ยวเข้ามาจนถึงคุณพอลลี่ก้าวออกมาจากรถชายหนุ่มรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยถึงปานกลางว่าเบลสุดที่รักติดรถมากับเซเลบสาวผู้สูงศักดิ์ได้อย่างไร

แต่ก็ยังรู้สึกโล่งอกที่คนขับเป็นผู้หญิงเพราะถ้าหากว่าเธอมากับผู้ชายล่ะก็ งานนี้มีเคลียร์กันยาวแน่ๆ ต้นดับบุหรี่และเข้าไปในสตูฯคล้อยหลังแฟนสาวราวๆห้านาที

เบลที่เข้ามาก่อนหน้า ทักทายทีมงานตามปกติแน่นอนว่าเธอด้อยอาวุโสที่สุดและด้วยความเป็นคนมีน้ำใจ ตั้งใจ และใส่ใจเธอจึงเป็นที่เอ็นดูของทุกคนเบลรีบตรงรี่ไปที่ห้องแต่งตัวเพื่อไปหาเจ๊อั้มเจ้านายของหล่อนเจ๊อั้มเป็นเมคอัพสไตล์ลิสต์ชื่อดังคนหนึ่งของวงการและเป็นที่รู้กันดีโดยไม่ต้องอาศัยผลวิจัยว่าร้อยละเก้าสิบของผู้ที่ทำอาชีพนี้เป็นเพศที่สาม อาจเป็นเพราะพวกหล่อนรู้ดีว่าทำอย่างไรให้ผู้หญิงดูสวยและถูกใจผู้ชายความเข้าใจในสองเพศนับเป็นคุณสมบัติหนึ่งของอาชีพนี้

เจ๊อั้มรู้จักเบลที่ร้านขายหนังสือมือสอง ในตลาดนัดจตุจักรตอนที่เด็กสาวกำลังถามหาหนังสือนิยายของ Agatha Christy ซึ่งเป็นนักเขียนนวนิยายชาวอังกฤษที่ดังมากที่สุดคนหนึ่งของโลกจากผลงานแนวสืบสวนสอบสวนเจ๊อั้มชั่วโมงบินสูงและหล่อนรับรู้ได้ด้วยทั้งจิตสำนึกและจิตใต้สำนึกในทันทีที่เห็นว่าเด็กสาวผู้นี้ ‘มีของ’

เจ๊อั้มเอ่ยปากให้ยืมหนังสือ และทั้งคู่ได้สานสัมพันธ์กันเรื่อยมาจนกระทั่งชวนเบลมาเป็นผู้ช่วยของเธอแลกกับการเป็นที่ปรึกษาส่วนตัวในเวิร์คชอปของเด็กสาวเกี่ยวกับการออกแบบ และ เจ๊อั้มยังได้ให้เงินพิเศษสำหรับค่าเดินทางและค่าขนมเล็กๆน้อยๆ

“สวัสดีค่ะเจ๊อั้มเบลต้องขอโทษจริงๆค่ะที่ไม่ได้โทรศัพท์บอกด้วยตัวเองว่าวันนี้เบลมาช้าเพราะอาจารย์ปล่อยเลทมากๆ”เบลรีบขอโทษขอโพยผู้มีพระคุณและผู้ที่เธอเคารพดั่งบุพการี

“อือ ชั้นรู้จากอีตาต้นแล้ว คราวหน้าก็ระวังหน่อยนะคนเราไม่ควรทำผิดเรื่องเดิมเป็นครั้งที่สอง”

เจ๊อั้มตอบพร้อมสั่งสอนเล็กน้อยเวลาเป็นนักเรียนทำผิดอย่างมากก็แค่โดนตำหนิเพราะสมัยนี้เขาห้ามครูทำโทษด้วยการเฆี่ยนตีแล้วแต่เมื่อโตขึ้นมาเจอชีวิตจริงเวลาทำผิดในหน้าที่การงานเพียงแค่ครั้งเดียวอาจร้ายแรงถึงขั้นโดนไล่ออก หรือซ้ำร้ายกว่านั้นอาจโดนฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายกลายเป็นคดีความใหญ่โตได้

เป็นเจ๊อั้มนี่เองที่คอยให้คำแนะนำดีๆในการใช้ชีวิต และพยายามทำให้ เพชรที่ยังไม่ได้เจียรนัยเม็ดนี้เป็นเพชรที่เปล่งประกายเจิดจรัสให้ได้

ลำพังเด็กสาวบ้านนอกอย่างเธอ ถ้าไร้ซึ่งคนอุปการะและอัพคลาสขึ้นมาก็คงเป็นการยากที่จะยกระดับฐานะด้วยตัวเธอเอง แต่เป็นเพราะเจ๊อั้มเห็นแววเธอจึงให้ความเมตตา และรักเบลดั่งน้องร่วมอุทร

เบลเก็บข้าวของเปลี่ยนชุด และเตรียมอุปกรณ์ให้พรักพร้อมที่จะทำงานเป็นที่รู้กันว่าอาชีพที่เกี่ยวข้องกับเบื้องหลังการถ่ายทำ (backstage and post production) ไม่ว่าจะเป็นช่างไฟ ฝ่ายศิลป์ ช่างแต่งหน้า รวมไปถึงเด็กเสริ์ฟน้ำ เด็กยกของบุคลากรเหล่านี้จะต้อง มาทำงานก่อนและกลับทีหลังเสมอ ห้ามขาด ลา มาสาย ส่วนดาราพิธีกร แขกรับเชิญที่ออกหน้ากล้องอาจจะมาช้าหรือแม้กระทั่งไม่มาเลยก็เป็นหน้าที่ของ โปรดิวเซอร์หรือผู้กำกับรายการที่จะต้องแก้ปัญหาเป็นกรณีๆไปเด็กสาวได้เรียนรู้การทำงานแบบมืออาชีพที่หาดูในตำราได้ยากยิ่งต้องมาสัมผัสและปฏิบัติจริงเท่านั้นจึงจะได้เห็นเบื้องหลังของการทำงานที่บ่อยครั้งมิได้สวยสดงดงามราบเรียบดังที่ผู้คนทั่วไปมักเข้าใจ

การบันทึกเทปแต่ละครั้งใช้เวลานานมากแต่ก็มีบางเทปที่แทบจะไม่เกิดปัญหาอะไรเลย เจ๊อั้มบอกว่า วงการบันเทิงมันยั่วยวนใครๆก็อยากเข้ามาสัมผัสแม้เพียงกระพี้แต่มันก็ไม่เสมอไปหรอกที่คนที่เข้ามาคลุกคลีจะมีความสุข เพราะทุกอาชีพนั้นมีความเหมือนกันอย่างหนึ่งก็คือมันมีปัญหาในการทำงานเกิดขึ้นอยู่ตลอด ยิ่งมากคนก็ยิ่งมากความ ที่สำคัญก็คือความเป็นมืออาชีพและความอดทน การทำงานจึงจะสำเร็จลุล่วงไปได้

ในกองวันนี้ ต้น ต้นน้ำ ทำหน้าที่เป็น switching คือคนที่คอยตัดสลับมุมกล้องไปมาซึ่งในการถ่ายทำแต่ละฉากอาจจะมีกล้อง สองสามหรือสี่ตัวและผู้ที่ทำหน้าที่นี้จะต้องคอยเฝ้าหน้าจอมอนิเตอร์ และเปลี่ยนเป็นมุมมองของกล้องแต่ละตัวระหว่างการถ่ายทำซึ่งจะต้องอาศัยไหวพริบและความชำนาญค่อนข้างมากทีเดียวเพราะเขาผู้นั้นจะต้องรู้จังหวะจะโคนในการถ่ายทำ รู้ว่าช่วงไหนควรนำเสนอภาพจากมุมกล้องใดไกลหรือใกล้ มีไม่น้อยที่ switchingเก่งๆได้มีโอกาสก้าวขึ้นมาเป็นผู้กำกับซึ่งเป็นสุดยอดปรารถนาของผู้ที่ทำงานเบื้องหลังทุกผู้ตัวคนใฝ่ฝันอยากจะเป็นและแน่นอนว่าต้นเองก็เป็นหนึ่งในนั้น

Create Date : 12 กุมภาพันธ์ 2558
Last Update : 17 เมษายน 2558 13:06:30 น.		3 comments
Counter : 3569 Pageviews.
Share Tweet