Group Blog
 
All blogs
 
Messy hair สาวน้อยผมยุ่ง


“ว้าวๆ!ดาวพระศุกร์ตัวเป็นๆ เวอร์ชั่น 2015 แล้วไหมจะเป็นคุณภาคย์ป่าวนี่”

น้องนุชรับฟังเรื่องราวของขวัญข้าวจากปากของเจ้าตัว แล้วก็รู้สึกตื่นเต้น เธอหันมาแซวญาติสนิททีเล่นทีจริงด้วยรู้ดีว่าคนอย่างไหมเงินไม่หวั่นไหวไปกับใครง่ายๆแต่กับแม่เด็กน้อยแสนซื่อน่ารักน่าหยิกแก้มผู้นี้ลูกพี่ลูกน้องของเธอกลับทุ่มสุดตัว ถึงขนาดว่าจะเอามาอุปการะเป็นเรื่องเป็นราวมันต้องมี something wrong เป็นแม่นมั่น

“บร้าเหรอ!คุณภาคย์บ้าบออะไรกัน เสียงซาวน์แทรก ออริจินอลย่ะ”

ไหมเงินตอบเสียงสูง น้องนุชยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ส่วนคนโดนแซวอีกคนงงเต็กไม่รู้ผู้ใหญ่เขาเจรจาความอะไรกัน

สามสาวออกจากร้านมาถึงคอนโดของไหมเงินนักเขียนสาวถือโอกาสฝากตัวขวัญข้าว ไว้ที่ร้านทำผมของพี่สุที่ด้านล่างของคอนโดร้านนี้เขาเปิดกันยังสว่างเอาใจคนเมืองที่กว่าจะเสร็จธุระปะปังก็เกือบดึกดื่นค่อนคืน จัดแจงให้สาวรุ่นทำผมเป็นรูปเป็นทรงเสียหน่อยที่สำคัญ หล่อนอยากจะปลีกตัวออกมาคุยกับญาติสนิทเป็นการลับเฉพาะคนรู้ใจ

“พี่สุ นี่ขวัญข้าวเป็นน้องของไหมเองเธอพึ่งมาจากต่างจังหวัด ไม่ค่อยรู้ประสาอะไรพูดอะไรก็ไม่ต้องไปคล้อยตามเอาร้อยหราถอดรูทด้วยนะคะเดี๋ยวจะพาลให้เป็นงง พี่สุช่วยซอยผมให้ขวัญหน่อยนะคะเอาแบบโคเรียนหรือเจแปนนีสสไตล์ แบบไหนก็ได้ ตามใจพี่เลย ขวัญเดี๋ยวพี่มารับนะขึ้นไปจัดห้องก่อน รกมาก นอนเบียดกันสามคนคงไม่ไหว”

นักเขียนสาวบอกกับช่างทำผมคนสนิทก่อนจะหันมาพูดกับผู้อยู่ในความดูแล

“เดี๋ยวหนูขึ้นไปทำให้ก็ได้ค่ะพี่ๆงานยุ่งไม่ใช่เหรอ” เด็กรุ่นรีบเสนอตัวเธออยากจะทำอะไรตอบแทนพี่สาวที่แสนดีบ้าง

“เอาๆ ตามใจแต่ยังไงเธอก็ต้องทำผมก่อน เข้าใจ๊ พี่กับนุชจะออกไปคุยงาน เดี๋ยวมารับแล้วก็ไม่ต้องถามไรอีกแล้ว... ปวดหัว”

ไหมเงินตัดบท จูงมือลูกพี่ลูกน้องออกมาจากร้านมีเรื่องมากมายสารพันต้องปรึกษาความกัน

เดินมาพ้นรัศมีการรับฟังน้องนุชก็ยิงคำถามเข้าประเด็น

“ถามจริงเหอะไหมพิศวาสแม่กลอยใจนี่เข้าแล้วใช่ป่าววว?”

“เพ้อเจ้อน่า! พิศวาสบ้าบออะไร เอาเวลามาคิดงานตัวเองเหอะนะร้อนจนลวกมือไม้ไปหมดแล้ว”

ไหมเงินปฏิเสธขยับแว่นหลบสายตาผู้ฟังหย่อนกายนั่งลงตรงเก้าอี้ยาวหน้าตึก ข้างๆแนวต้นโมกที่พร้อมเพรียงกันออกดอกสีขาวส่งกลิ่นหอมอ่อนๆไปทั่วบริเวณ

“เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนคืนนี้มีเวลาทั้งคืน นุชจะช่วยไหมคิดงานก่อนว่าแต่คุณบอสคอนเฟิร์มหรือยังว่าจะไปแน่นอนวันอาทิตย์น่ะ”

น้องนุชไม่วายทวงเอาความต้องการนั่งลงเคียงข้างกัน ไหมเงินหยุดคิดไปแวบหนึ่ง

“งั้น...เราคุยกันเรื่องนามปากกาให้จบ แล้วไหมจะโทรไปบอกบอสดีมั้ยแล้วค่อยถือโอกาสถามเรื่องวันทำบุญไปด้วย”

น้องนุชหูผึ่งหลังได้ยินชื่อชายหนุ่มที่แอบปลื้มมานาน รีบสาธยายงานด้วยความกระปรี้กระเปร่า

“เคร ที่ไหมส่งให้ดูมันก็ดีหมดนะแต่นุชว่าชื่อกัลยาจารีย์นี่ตัดออกไปก่อนเลยดีกว่า”

“ไมอ่ะ ก็ออกจะเพราะพิไล”ไหมเงินทำหน้าฉงนเธอต้องการคำอธิบายอุตส่าห์คิดมาอย่างดิบดี

“ถ้าให้เดาไหมเอามาจาก กัลยาที่แปลว่า สตรี ส่วน จารีย์ คือผู้ประพฤติดี

“ถูก!”

“ไหมแปลงมาจาก อัญจารีใช่ป่าว”

‘อัญจารี’ เป็นคำที่ใช้เรียกหญิงที่รักเพศเดียวกันมาตั้งแต่สมัยแรกเริ่มปัจจุบันมีมูลนิธิอัญจารีเพื่อสิทธิหญิงรักหญิง เกย์ กะเทย ทอม ดี้ คนข้ามเพศและอิสรภาพความหลากหลายทางเพศ

“เก่งนี่”

“นั่นแหล่ะ ฟังดูดี แต่ในความรู้สึกคำนี้มันจริงจังและเป็นสากลเกินไปแล้วยังมีกลุ่มที่เขาใช้ชื่อนี้ทำงานด้านสิทธิสตรี เพื่อเป็นการตัดปัญหาเราหลีกเลี่ยงไปเลยดีกว่า”

ไหมเงินพยักหน้าเข้าใจถ้าพูดถึงเรื่องความคิดอ่านและวิสัยทัศน์แล้วน้องนุชดูจะเหลื่อมกว่านิดๆ แต่ถ้าเป็นสำบัดสำนวนลูกล่อลูกชนในงานเขียนไหมเงินชนะเลิศ

“ส่วนอีกสองชื่อที่เหลือความหมายดีทั้งคู่ แถมบ่งบอกถึงความหวาน ทั้งรจเรขาและพิชามญชุ์ ไหมชอบอันไหนมากกว่าล่ะ นุชเลือกไม่ถูกเหมือนกัน”

“ไหมว่า รจเรขา ดูสวยหวานแต่แฝงไปด้วยความ เคร่งขรึมจริงจัง ส่วนพิชามญชุ์ ดูสดใส โฉบเฉี่ยว อ่อนวัยกว่า”

รจเรขา แปลว่าขีดเขียน ส่วนพิชามญชุ์ (อ่านว่า พิ-ชา-มน)แปลว่าผู้งดงามด้วยความรู้

“งั้นให้คุณบอสยอดรักตัดสินใจแล้วกัน”

น้องนุชสรุปความ สองญาติสนิทพยักหน้าให้กัน ไหมเงินคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาคมเดชน์ด้วยแอพพลิเคชั่นไลน์ มันฟรีนี่นา

“ว่าไงไหม ไม่โทรมาสักตีสองเลยล่ะ”

เจ้านายจอมจิกแดกดัน เพราะตอนนี้มันก็เกือบห้าทุ่มเข้าไปแล้วไหมเงินทำท่าทางล้อเลียนด้วยใบหน้า ทำเอาน้องนุชยิ้มขำๆ ก่อนจะรายงานความคืบหน้า

“คุณบอสคะ ไหมได้ชื่อแล้วนะ... นามปากกาที่เรียกร้อง”

“ดี พิมพ์ส่งมานะ ตอนนี้เรายุ่งอยู่ มีอะไรอีกมั้ย” เสียงเพลงดังกระหึ่มสอดแทรกเข้ามานี่นะยุ่ง? แต่ก็อาจเป็นได้ คุณบอสอาจกำลังเอนเตอร์เทนลูกค้า

“วันอาทิตย์ตกลงคุณบอสเฟิร์มแล้วนะคะ” ไหมเงินอยากให้น้องนุชฟังจากปากชัดๆ

“อือๆ เราเคยผิดนัดไหมด้วยหรือ แค่นี้นะ”

สายถูกตัดไป ไหมหันมามองที่ญาติสนิทที่กำลังนั่งเพ้อยิ้มแก้มอมชมพูแทบแตก มโนไปไกล...

“เอ้า! จัดการให้แล้วนะ ที่เหลือหล่อนก็สานต่อเอาเองเตือนแล้วก็ไม่ฟังเลยยัยนี่”

ไหมพูดส่ายหัวหงึกๆ พร่ำบอกตั้งหลายครั้งแล้วว่าบอสเป็นเกย์ เมื่อจบเรื่องของตนน้องนุชได้ทีถามเอาความ ถึงเรื่องที่ค้างคาใจ

“แล้วไหมจะเอายังไงกับน้องน้อยหน้ามนจะเก็บไว้เป็นนางบำเรอในคอนโดแบบนี้รึ?เกิดยัยป้ามหาภัยเขาตามมาทวงสิทธิ์คืนระวังจะโดนทับแบนตายนะ”

นักเขียนบทสาวเตือนแกมหยอกเย้า ไหมเงินก็เป่าปากดังเพราะรู้ว่าเรื่องมันจะต่อจากนี้ไปอีกยาว...ไกล...

“พูดให้มันดีๆหน่อย ไหมเอาน้องเขามาอยู่ด้วยเพราะไม่มีที่ไปครั้นจะปล่อยให้ใช้ชีวิตข้างถนนก็เสียคนเปล่าๆดูจากแววตาและการพูดจาพาทีก็รู้ว่าไอคิวอีคิวพอมีฝึกหัดให้หยิบโน่นจับนี่ค้นหาตัวเองสักพัก ก็อาจจะโบยบินไปเผชิญโลกข้างนอกได้”ไหมเงินตอบน้ำเสียงจริงจัง

น้องนุชลุกขึ้นเดินกลับไปที่ร้านทำผม พูดทิ้งท้ายให้ญาติสาวรู้ตัว

“ไหมจะหลงรักแม่สก๊อยร้อยชั่งนี่เข้าให้...ไม่ช้าหรอก”

“เอ๊ะ! เป็นไรเนี่ย วนเวียนแต่พูดถึงเรื่องนี้ไหมไม่ใช่ เลสนะอีกอย่างที่ช่วยขวัญข้าวด้วยเพราะสงสาร”

ไหมเงินชักไม่สนุกด้วย แรกทีเดียวคิดว่าลูกพี่ลูกน้องแซวแบบคะนองปากแต่นี่เล่นมุกเดิมซ้ำไปซ้ำมาย้ำมันอยู่นั่นแล้ว จนชักจะรำคาญเหมือนกันเธอลุกเดินตามน้องนุชมาติดๆ

“นั่นแหล่ะ...มันจะแปรเปลี่ยนเป็นรักชอบ ไหมคิดดูนะผู้หญิงสองคนที่ต่างก็น่ารักมีเสน่ห์ ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันเกือบๆจะทั้งวันมันก็ต้องมีสปาร์คกันบ้างไรบ้าง”

“เขียนบทมากไปจนเพี้ยนแล้ว นี่มันชีวิตจริงนะค้าบ” ไหมเงินเถียงคอเป็นเอ็นมั่นใจล้านเปอร์เซ็นต์ว่ามันจะไม่มีวันเกิดขึ้นเด็ด

“เอาๆ ก็คอยดูต่อไปแล้วกัน”

กลายเป็นตอนนี้ต่างฝ่ายต่างมั่นใจในความคิดตนไหมเงินจะต้องตกหลุมรักแม่หนูน้อยสก๊อยเกริ์ล ส่วนน้องนุชปฏิบัติการมิสชั่นอิมพอสสิเบิ้ลแอบปลื้มบอสแอ๊บสาว

ทั้งคู่เดินกลับมาที่หน้าร้านทำผม เปิดประตูกระจกเข้ามาเป็นจังหวะเดียวกับที่ขวัญข้าวยืนหมุนตัวกระโปรงพริ้วไสวดูร่างของตนเองจากผลงานพี่สุอยู่ที่หน้ากระจกบานใหญ่

ไหมเงินต้องหยุดฝีเท้าไว้ตรงนั้นตะลึงงันน้องนุชที่เดินตามหลังมาก็ชนเข้าให้เพราะไม่ทันระวัง

“อุ๊ย! หยุดไมตรงนี้ ไหม...ไหม”

“....”

ไร้เสียงตอบ แต่เมื่อน้องนุชเมียงมองไปเบื้องหน้าเห็นสาวรุ่นในลุกส์ใหม่ไฉไลก็ยิ้มเยาะ

‘เห็นมั้ยล่ะ ไม่ทันจะขาดคำ ไหมเอ๋ย แกเสร็จแม่สาวน้อยทรงเสน่ห์นี้แน่ๆ’

“โอ้โห! พี่สุเสกมนต์อะไรไปคะนี่แปลงโฉมเด็กบ้านๆให้เป็นนางฟ้าเดินดินได้เห็นทีนุชจะต้องมาใช้บริการบ้างแล้ว”

“ไม่ได้ทำอะไรมากเลยค่ะ น้องเขาสวยอยู่แล้วแค่จัดแต่งผมเผ้าให้เข้ารูปเข้ารอยหน่อยก็เท่านั้นนี่ถ้าหนูขวัญไม่ได้เกิดมาเพื่อสิ่งนี้ พี่ก็ปั้นไม่ไหวหรอกค่ะดูสิคะ...เป๊ะเว่อร์” ช่างผมพูดถ่อมตัวในผลงาน ยกความดีให้กับลูกค้าวัยทีน

จากเดิมที่ผมกระเซิงยาวถึงกลางหลังดูไม่เป็นทรงพี่สุปรับเปลี่ยนลุกส์นิดหน่อย ซอยให้สั้นลงคืบหนึ่ง ตามสมัยนิยมขวัญข้าวอยู่ในทรง messy หนึ่งในสไตล์ที่นิยมที่สุดในยุคนี้พ.ศ.นี้ไหนๆมันก็ยุ่งๆอยู่แล้วพี่สุซอยให้เข้ารูปกับใบหน้ารูปไข่ ตาคมเฉี่ยว จมูกเชิดรั้นก็อย่างที่เห็นลงตัวสุดๆอ่า

ไหมเงินยังไม่ขยับเขยื้อนเคลื่อนไหว จนญาติสนิทต้องเอ่ยปากพร้อมกับสะกิดเข้าที่ต้นแขนของคนที่ยืนขวางหน้าเข้าเบาๆ

“แฮ่มๆ! จะเข้าไปข้างในได้ยัง นี่ยุงจะหามไปอยู่แล้วนะไหม...ไหม”

“อือ... อ้อ!พอดีเมื่อยน่ะเลยหยุดพัก”

ไหมเงินแก้ตัวแถจนสีข้างถลอกปอกเปิก เธอก้าวเดินเข้ามาในร้านความน่ารักของคนเปลี่ยนลุกส์ทำให้เจ้าหล่อนไม่กล้าสบสายตาอีกพรางก็รำพันในใจบ่นว่าตัวเอง

‘ทำไมเราต้องรู้สึกแปลกๆ กับยัยเด็กกะโปโลนี่ด้วยนะ? กะแค่ทำผม โอ้ยยย! ไหมเอ๊ย...สงสัยเก็บคำพูดของนุชมาคิดมากไป บ้าไปใหญ่แล้วเรา’

นักเขียนชื่อดังพยายามสลัดเรื่องไม่เป็นเรื่อง ออกจากหัวสมองรีบเปลี่ยนประเด็น เธอล้วงกระเป๋าเตรียมจะจ่ายเงิน จะได้ขึ้นห้องไปเสียทีอยู่ตรงนี้รู้สึกว่าสถานการณ์ไม่ปลอดภัยกับหัวใจของตัวเอง

“พี่สุคะ เท่าไหร่คะ”

“ไม่เป็นไรค่ะน้องไหม อย่าลืมสิว่าเรามีเรื่องติดค้างกันอยู่”

พี่สุยกมือปฏิเสธไม่คิดค่าบริการไหมเงินทำหน้างงกับคำพูดก่อนจะยิ้มออกมา นึกขึ้นได้ว่าพี่สุรับปากจะทำผมให้ฟรีๆเพราะคราวก่อน ไหมเงินหอบเอาหนังสือของสำนักพิมพ์มาลังโตเพื่อให้ลูกค้าของร้านได้อ่าน ความจริงพี่สุก็เป็นแฟนคลับตัวยงแกมีผลงานของไหมเงิน รัตนพรวดีทุกเล่ม ทุกคอลเล็กชั่น

“อ๋อค่ะๆ ขอบคุณพี่สุมากนะคะ” นักเขียนสาวยกมือไหว้สวยเดินมาใกล้กับสาวรุ่นยิ่งดูก็ยิ่งน่ารักแฮะ

“เป็นไงคะ ถูกใจมั้ยเอ่ย?”

แฟนคลับถามไถ่ถึงผลงาน นั่นสินะ คำน้อยยังไม่หลุดจากปากเลยขวัญข้าวจ้องมาที่ใบหน้าเนียนของผู้อุปการะ เธอเองก็อยากจะรู้คำตอบเช่นกัน

“แหม ฝีมือพี่สุเป็นหนึ่งในตองอูอยู่แล้วไหมเอาใครมาทำผมกับพี่ก็ออกมาดีทุกคนแหล่ะค่ะ ดึกแล้วไว้วันหลังจะมาใช้บริการใหม่นะคะ ไปๆ ขวัญเรากลับกันได้แล้วพี่ๆยังมีงานต้องสะสางอีกเยอะ”

ไหมเงินกล่าวลาพี่สุ และหันมาบอกกับสาวน้อยที่ตอนนี้หน้าง้ำงอ

‘จะชมกันบ้างสักนิดก็ไม่มี ใช่สิ... เรามันก็แค่เด็กข้างถนน’

สาวรุ่นรำพันก็ไม่เข้าใจตัวเองเช่นกันว่าเหตุใดจึงอยากฟังคำชมของพี่สาวใจดีนัก เดินหน้าบึ้งตามผู้ใหญ่ออกไปน้องนุชตาไวเสมอ เธอสังเกตได้แม้เป็นเพียงชั่วหางตาคู่นี้ไม่แคล้วได้ลงเอยกันเร็ววัน

สามนารีมาถึงห้องพักไหมเงินกับขวัญข้าวก็เริ่มต้นทำงานด่วนจานร้อนทันที นี่ก็ครึ่งค่อนคืนเข้าไปแล้ว

ส่วนเด็กน้อยก็ไม่รู้จะทำอะไร แม้จะรู้สึกง่วงนิดๆ แต่จะให้หลับนอนตรงไหนเจ้าของห้องเขายังไม่ได้บอกกล่าวเลย ครั้นแล้วก็คิดได้ เธอเดินเข้าไปในห้องน้ำเริ่มต้นทำความสะอาดต่อ

“ขยันแบบนี้ เอาใจไปเลยดีกว่านี่ถ้าไม่ติดว่าที่บ้านนุชมีแม่บ้านอยู่แล้วนะ นุชได้ขอตัวไปแน่ๆแต่ถ้าเป็นอย่างนั้นไหมเองจะให้หรือเปล่า”

น้องนุชเห็นสาวรุ่นทำตัวไม่ดูดายขันแข็งแบบนี้ก็ไม่วายเอ่ยปากชมต่อหน้าผู้อุปการะ พร้อมทั้งหยอกเย้าหวังเช็คอาการไปในตัว

“ไม่ให้!”

นักเขียนสาวเผลอตอบออกไปเสียงเขียวแก่ๆ ตามความรู้สึกภายในที่เป็นเจ้าข้าวเจ้าของโดยอัตโนมัติ น้องนุชหลุดขำออกมา แต่ไหมเงินก็แก้ตัวพัลวัน

“เอ่อ...ไหมหมายถึงว่า ก็นุชมีแม่บ้านอยู่แล้วไงเล่า”

“เหอเหอเหอ เอาๆ แม่คนปากแข็ง แต่ใจน่ะอ่อนระทวยปวกเปียกโง่นเง่น มาๆทำงานกันดีกว่า”

ไหมเงินเขินไปนิดหน่อย ที่แม่ญาติสนิทรู้เท่าทันเธอไปเสียทุกเรื่องทั้งคู่ปรึกษาหารือกันเนิ่นนาน น้องนุชก็ก้มหน้าก้มตาอยู่กับหน้าจอและคีย์บอร์ด....

นี่ไม่ใช่ครั้งแรก ที่ไหมเงินจะต้องมาช่วยน้องนุชปั่นงานแต่ความช่วยเหลือของเจ้าหล่อนก็เป็นเพียงแค่ช่วยคิดพล็อตเก๋ๆกับบทสนทนาบางช่วงบางตอนให้เท่านั้นด้วยเพราะวิธีการเล่าเรื่องของไหมเงินค่อนข้างจะสลับซับซ้อนและแอดวานซ์เกินไป อีกทั้งเนื้อเรื่องก็ไม่ใช่แนวตลาดผู้จัดกับทางช่องไม่ใคร่ชอบเรื่องประเภทนี้นัก

ต่างกับน้องนุช เธอเข้าใจบริบทของสังคมไทยดีแม้เรื่องที่เธอเขียนมันจะวนเวียนอยู่กับแค่เรื่องตบจูบ แย่งผัวแย่งเมียเจ้าหญิงเจ้าชาย และผีสางนางไม้ที่เธอไม่ค่อยถนัดแต่ก็ต้องทำเพราะเป็นไฟท์บังคับแต่ทำอย่างไรได้ในเมื่อสังคมมันเป็นแบบนี้ ละครแนวตลาดมันจับต้องเข้าถึงได้ง่ายการันตีถึงเรทติ้ง ซึ่งหมายถึงทางสถานีก็สามารถขายเวลาให้เอเจนซี่โฆษณาได้ราคาคำว่าอุดมการณ์หลายครั้งก็สู้อุดมเงินไม่ได้

น้องนุชเคยเขียนบทแนวสร้างสรรค์สังคม เป็นเชิงธรรมนิยายสอนใจคำชมก็ได้รับอยู่หรอกนะ แต่เรทติ้งต่ำเตี้ยเลียดินบรรดาผู้จัดต่างก็เข็ดกันเป็นทิวแถว ไม่มีใครกล้าผลิตงานลักษณะนี้ออกมาอีก

มีอีกคราวหนึ่ง น้องนุชนำพล็อตเรื่องของไหมเงินมาดัดแปลงเป็นบทละครเนื้อเรื่องสืบสวนสอบสวนตามที่ไหมเงินถนัด โดยมีตัวเอกเป็นนักวิทยาศาสตร์แต่ผู้จัดบอกให้ไปปรับแก้เป็นแนวไสยศาสตร์เสี่ยนี่ กลายเป็นคนเห็นวิญญาณสืบคดีได้จากผีบอก... เล่นเอาน้องนุชบอกเลิกศาลาแทบไม่ทันงอนผู้จัดคนนั้นเป็นแรมปีทีเดียว

“เอาล่ะ เพิ่มตัวร้ายเข้ามาให้นางเอกหึงหวง มีงอนกัน หนีไปหลอกให้คนดูลุ้น แต่นางเอกก็ต้องแอบๆช่วยพระเอกจนคลี่คลายแล้วสุดท้ายค่อยเฉลยว่าเป็นแค่ญาติห่างๆกัน”

ไหมเงินร่างโครงเรื่องบนกระดาษระหว่างนั้นน้องนุชก็แก้งานเก่าเสร็จพอดี

“เคร ใจมากนะไหม ไม่ได้ไหมนุชตายหยังเขียดแน่ๆ” น้องนุชขอบอกขอบใจลูกพี่ลูกน้องผู้ที่อยู่ในแวดวงเดียวกันยกใหญ่

“แล้วขออนุญาตกับเจ้าของบทประพันธ์เดิมหรือยังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงตอนจบ”

มีงานเขียนบางชิ้นที่ ผู้ประพันธ์ไม่ยินยอมให้มีการดัดแปลงหากจะนำไปสร้างภาพยนตร์หรือละครโทรทัศน์ เจ้าของลิขสิทธิ์บางรายถึงกับระบุไว้ในสัญญาอนุญาตห้ามปรับหรือแก้กันไว้เลยทีเดียว

“อือ เจ๊อ้อยแกตกลงกับอาจารย์ไว้ตั้งแต่ขอซื้อลิขสิทธิ์แล้วแกก็รู้นี่ เรื่องเดิมตอนจบมันเศร้าจะตายขืนยืนตามหนังสือพระนางไม่ได้กันนี่วิกแตกแน่ๆ นี่แหล่ะเป็นปัญหาใหญ่ของนุชเลยไม่รู้จะเอายังไงดี”

การแก้ไขบทประพันธ์ที่ได้รับความนิยม ย่อมเป็นการสุ่มเสี่ยงทั้งคำวิพากษ์วิจารณ์จากสาธารณชนและชื่อเสียงของผู้เขียนบทโทรทัศน์บางกรณีเกิดเรื่องมาม่า (ศัพท์แสลงของพวกที่เล่นเวบบอร์ดหมายถึงเรื่องดราม่าเป็นกรณีถกเถียงใหญ่โต:ผู้เขียน)มีคนชื่นชมก็ย่อมมีผู้ติเตียน น้องนุชตระหนักดีไม่ใช่ว่าเธอจะรับฟังคำบริภาษไม่ได้ แต่อารมณ์ศิลปินบางครั้งรับรู้คำวิพากษ์ในด้านลบมากๆก็นอยด์กิน ไม่เป็นอันทำอะไรไปนับสัปดาห์

“เอาน่า ตอนนี้นุชต้องเขียนบทเพิ่มก่อน ยังมีเวลาให้คิดแล้วนุชก็ทำได้ทุกที” ไหมเงินให้กำลังใจญาติสนิท เพราะทุกคครั้งเธอก็ผ่านมันมาได้

“แต่ครั้งนี้มันรู้สึกไม่ค่อยมั่นใจเลย...” นักเขียนบทมือทองเปรยๆก่อนจะมุ่งสมาธิไปที่งานตรงหน้า ไหมเงินเหลือบดูเวลาก็เกือบๆตีสามแล้วเวลานี้สำหรับศิลปินอย่างพวกเธอถือว่าปกติสำหรับการขีดเขียนแต่กับอีกหนึ่งสมาชิกหน้าใหม่ล่ะ นั่นสิ เธอลืมเด็กสาวไปเสียสนิทใจ

ไหมเงินละสายตาจากคอมพิวเตอร์ หันไปมองรอบๆห้องมองหายัยผมยุ่ง ตายแล้ว!มานอนแอ้งแม้งอยู่หน้าห้องน้ำ โธ่! แม่จอมซื่อ ง่วงก็ไม่บอกร่างเล็กเดินไปที่คนหลับ จัดการปลุกให้ขึ้นมานอนบนเตียง สาวรุ่นวังเงียยืนโงนเงนถามเข้าว่าจะดีเหรอ ไม่ทันได้ฟังคำตอบก็ร่วงผลอยไป ไหมเงินส่ายหน้านี่ตกลงเธอรับดูแลสาวอายุยี่สิบเอ็ดหรือว่าสิบเอ็ดขวบกันแน่เมื่อจัดแจงท่าทางให้สาวน้อยเข้าที่เข้าทางแล้วไหมเงินก็กลับมานั่งทำงานเป็นเพื่อนกับน้องนุชต่อว่าแล้วก็ได้ฤกษ์เริ่มต้นอ่านหนังสือพ็อคเก็ตบุคสองเล่มของคุณบอสเสียที...

“เสร็จแล้ว!!” น้องนุชตะโกนดังลั่นหลังจากที่ปั่นงานจนเสร็จไปแล้วสี่สิบห้าเกินครึ่งทาง ด้วยความเคยชินเช่นกันเธอลืมนึกไปว่ามีสาวน้อยนอนอยู่

“อื้อออ” ขวัญข้าวรู้สึกตัวเปิดเปลือกตาขึ้นขยับกายยันร่างขึ้นมานั่งเห็นผู้อุปการะกำลังนอนคว่ำอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ ส่วนพี่นุชก็เดินไปห้องน้ำล้างหน้าล้างตาเมื่อสังเกตเห็นว่ามีอีกคนนอนอยู่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าตนทำเสียงดังรบกวน

“อุ๊ย! ขอโทษค่ะ พี่ดีใจไปหน่อยนอนเถอะนะ ไม่มีอะไรหรอก”

สาวผมยุ่งลุกลงมาจากเตียงทั้งไหมเงินและน้องนุชต่างจ้องมองดูอากัปกิริยา

“กี่โมงแล้วคะนี่” สาวรุ่นถามคนที่นอนอ่านหนังสืออยู่ไหมเงินหยิบนาฬิกาปลุกยกมาให้ดู บ่งบอกว่าหกโมงเช้า ขวัญข้าวตกใจพี่สาวคนสวยทั้งสองคงไม่ได้นอนและตื่นมาแน่ๆ

“นี่พวกพี่ๆอย่าบอกนะคะว่าไม่ได้นอน! คนหรือเครื่องจักรกันล่ะนั่น” ลูกพี่ลูกน้องทั้งสองต่างก็หัวเราะออกมาแทบจะพร้อมกันน้องนุชปลีกตัวไปเข้าห้องน้ำ ส่วนไหมเงินก็ปิดหนังสือที่อ่านไปใกล้จบลุกขึ้นนั่งตอบคำถามเจ้าหนูจำไม

“ฮิฮิ ปกติชิวๆสำหรับพวกพี่ ยิ่งดึกงานยิ่งไหลไม่เห็นต้องตกใจเลยไม่ใช่เรื่องแปลกสักหน่อย”

“ก็พี่พรรณแกนอนทั้งวันทั้งคืน นิ่งเป็นหลับขยับเป็นกินหนูไม่ชินนี่คะ” สาวรุ่นพาดพิงไปถึงผู้อุปการะคนก่อน ประโยคนี้สะดุดหูคนฟังไหมเงินอยากจะรู้ถึงความรู้สึกส่วนลึกของสาวน้อยหัวยุ่ง

“คิดถึงเขาหรือเปล่า?”

“...”

ขวัญส่ายหน้า ไม่ได้ตอบอะไรออกมา สีหน้าซีดลงไปพลัน ไหมเงินถอดแว่นออกสังเกตเห็นจากการจดจ้อง ในดวงตาคมไม่สามารถซ่อนความรวดร้าวไว้ได้นอกจากจะไม่คิดถึง หล่อนคงมีความทรงจำที่ไม่ดีนักนักเขียนมีชื่อได้แต่รู้สึกผิดที่ไปฟื้นฝอยหาตะเข็บ และย้ำเตือนกับตัวเองว่าจะไม่ไถ่ถามถึงอดีตของสาวน้อยน่าสงสารอีกต่อไป




Create Date : 22 พฤษภาคม 2558
Last Update : 22 พฤษภาคม 2558 9:21:22 น. 0 comments
Counter : 595 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.