Group Blog
 
All blogs
 
Tomboy next door ทอมนักปั่น


น้องนุชล้างหน้าแปรงฟันพอให้สดชื่น แม้ร่างกายจะยังดูว่าไหวใจแม้จะยังสู้แต่ความเหนื่อยล้าของสมองและสายตาที่จดจ้องอยู่แต่หน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลาหลายชั่วโมงก็ต้องการการพักผ่อนเธอเอนกายลงบนเตียง ไม่นานก็หลับไปง่ายดาย

ขวัญข้าวเดินมาที่โต๊ะทำงาน เก็บแก้วกาแฟและจานของว่างเตรียมจะไปล้างไหมเงินเห็นเข้าก็เอ่ยปากชวนสาวรุ่นลงไปเดินเล่นให้รู้จักบริเวณใกล้เคียงเผื่อคราวหน้าคราวหลังจะได้ไหว้วานให้ไปซื้ออะไรได้บ้าง

“พี่จะลงไปซื้อโจ๊ก จะไปด้วยกันมั้ย”

“ไม่ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวขวัญจะล้างถ้วยชาม เสร็จแล้วก็จะซักผ้า” ขวัญข้าวตอบตาก็มองไปที่ตะกร้าผ้าสองใบที่เสื้อผ้าของเจ้าของห้องกองเต็มจนเสื้อชั้นในสองสามตัวล้นออกมาเกลื่อนกราดที่พื้น นี่ขนาดว่าเด็กสาวช่วยหยิบมาจากเตียง โต๊ะเครื่องแป้งแล้วก็ห้องน้ำแล้วนะ

ไหมเงินมองไปที่ผลงานของตัวก็หน้าม้านไป จะว่าอายก็ไม่เชิงชีวิตคนโสดมันก็แบบนี้แต่เธอก็เห็นว่าไม่ใช่เรื่องที่สาวน้อยผู้อาศัยจะต้องมาเหน็ดเหนื่อยถือเป็นภาระใหญ่

“จะซักเองเหรอ เยอะนะนั่น ไม่ต้องหรอก ปกติพี่ส่งเขาซักนี่ก็ว่าจะหอบลงไป พอดีทำโน่นทำนี่จนลืมมันทุกที”ไหมเงินพูดเป็นเชิงปรามว่าไม่ต้อง แก้ตัวไม่เต็มปาก แต่ช่างปะไร สาวเมืองเดี๋ยวนี้เขาไม่ใช่แม่ศรีเรือนอย่างเมื่อก่อนแล้วไว้ค่อยมีแฟนแล้วค่อยหัดทำเรื่องพวกนี้ก็ไม่สาย ขวัญข้าวตอบโต้บทสนทนาไปแบบซื่อๆ

“ไม่เยอะหรอกค่ะ ถ้าเราซักสองสามวันที นี่คงหมกเป็นอาทิตย์เลยสิท่าขวัญทำได้ พี่ไหมไม่ต้องห่วงหรอก อีกอย่างจะได้ไม่ต้องเสียสตางค์ไปจ้างเขาซักรีดให้สิ้นเปลืองด้วย”

ไหมเงินรับฟัง แม้จะเข้าใจในความปรารถนาดีแต่ก็รู้สึกเสียหน้านิดหน่อย ทั้งยังรู้สึกว่าความเป็นส่วนตัวมลายหายไปแม่จอมยุ่งนี่เพิ่งมาอยู่คืนเดียวแท้ๆ ไหงมาเจ้ากี้เจ้าการเอากับเราซะมากมายแต่ครั้นจะปากไวตอบโต้ไปก็เห็นจะไม่ใช่เรื่องเดี๋ยวเขาจะหาว่าเป็นผู้ใหญ่ไร้เหตุผลเธอหยิบกระเป๋าสตางค์และเดินไปใส่รองเท้าเตรียมจะออกจากห้องไป

“เอาๆ จะทำอะไรก็ทำ แต่อย่าให้เลอะเทอะและเสียงดังนักนะพี่นุชเขานอนอยู่แล้วเดี๋ยวข้างห้องเขาจะมาโวยวายเอา”ขวัญข้าวพยักหน้ารับว่าเข้าใจ จะเอ่ยปากถามว่าพวกผงซักฟอกกับแปรงซักผ้าอยู่ตรงไหนก็ไม่ทันเสียแล้วประตูถูกปิดไปพร้อมๆกับร่างกะทัดรัดที่เดินลิ่วๆ

ไหมเดินมาที่ลิฟท์ ตลอดทางเจ้าตัวคิดถึงหนังสือที่อ่านจนเกือบจะจบความรักความผูกพันที่เด็กมีนามีต่อพัทรมาศมันช่างน่าประทับใจ ‘แต่เอ..ทำไมมันรู้สึกว่า คลับคล้ายคลับคลากับเรื่องของเรานะ ไม่ๆใครจะไปผูกพันกันก็ตามใจเถิด คงไม่ใช่เรากับยัยผมยุ่งนี่เป็นแน่’

ไหมเงินไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไปว่าความรู้สึกลบกับนิยายยูริที่มีอยู่เก่าก่อนในใจของเธอค่อยๆจางลงๆเมื่อร่างกะทัดรัดลงมาถึงชั้นล่างกดปุ่มเปิดประตูก็ได้ยินเสียงห้าวๆร้องเรียกเข้า

“ไหม” นักเขียนสาวหันขวับ สาวร่างเล็กในเสื้อเชิ้ตสีขาวแขนยาวกางเกงขาเดฟ ผมลงแว๊กซ์โคเรียนสไตล์ยืนไข้วขาอยู่ข้างรถจักรยานนะ..นี่มันสาวทอมคนเมื่อวาน! เล่นมาดักรอกันหน้าตึกเลยรึ? ท่าทางจะเอาจริงคนโดนทักตกใจเล็กน้อยเข็มขัดสั้นคาดไม่ถึงว่าในชีวิตจะมีสาวทอมมาจีบ!

“รู้ได้ไงว่าไหมอยู่ตึกนี้? หรือว่า...”นักเขียนชื่อดังคาดเดาได้ไม่ยากเพราะเธอก็ออกจะใช้มุกนี้บ่อยไปในนิยาย

“ฮะ เมื่อวานเราแอบตามมาดู วันนี้ไม่วิ่งเหรอ ไหมจะไปไหนล่ะเราไปส่งนะ” สาวห้าวระดมยิงคำถามต่อเนื่อง หลังจากเห็นว่าหญิงสาวที่เธอปลื้ม อยู่ในชุดที่ไม่เหมาะแก่การออกกำลังกายเท่าไหร่ใครเขาจะวิ่งกันในชุดกระโปรงเล่า

ไหมเงินพึงใจกับคำตอบ เธอชอบคนตรงๆ แต่ก็ยอกย้อนเอาตามถนัด

“แล้วถ้าจะไปพัทยาจะไปส่งหรือเปล่า?”

“ให้ไปถึงมอสโก ก็ไม่หวั่นฮะ” น้ำเสียงจริงจังออกตัวแรงล้อฟรีกันเลยทีเดียว ไหมเงินมองดูจักรยานคันงามกับการแต่งกายดูก็รู้ว่าไม่ใช่นักปั่นมืออาชีพแต่ก็ยิ้มหวานเป็นไมตรี

“คือเราหมายถึง...ถ้าไหมจะไปไหนไกลๆเราก็จะขับรถไปส่งไงฮะ” คนตรงหน้าออกตัวเกรงว่าสาวสวยจะรังเกียจเจ้าสองล้อกระจอกๆ รถราเธอก็มีอยู่นะ แค่ไม่ค่อยได้ใช้แต่ไหมเงินไม่ได้คิดดูถูกใครแบบนั้นจะขับเบนซ์หรือเดินเท้าแค่ไปถึงที่หมายได้ก็พอแล้ว

“แสดงว่าที่ทำงานอยู่แถวนี้สินะคะ”

“ฮะเราเป็นมัณฑนากรหุ้นกับเพื่อนเปิดออฟฟิศอยู่ที่ทาว์นโฮมถัดจากนี้ไปสองกิโล” สาวห้าวค่อยๆบอกข้อมูลส่วนตัวกับคนที่ตั้งใจจีบแต่ก็ไม่เกินคาด แต่งตัวแนวๆ ใช้ชีวิตอินดี้ๆแบบนี้ก็ต้องทำงานเทือกๆนี้แหล่ะจะให้เป็นสาวแบงค์สาวห้างก็จะขัดบุคลิกไปมาก ไหมเงินยังไม่รับคำชวนเธอยังสนุกกับการต่อคำ

“จะไปส่งไหมแล้วไม่ไปทำงานช้าเหรอ”

“เจ้าของกิจการนะฮะ อย่าว่าแต่สายเลย ลาสิบวันเดือนนึงยังได้” แม้รูปประโยคจะดูเหมือนโอ้อวดแต่ไหมเงินเข้าใจว่าเจ้าตัวไม่ได้เจตนาจะสื่อความเช่นนั้น

“แหมๆ ลูกน้องรู้เข้าจะหมดศรัทธาเอานะคะมีเจ้านายอู้แบบนี้” นักเขียนสาวสัพยอกเล็กๆแต่ก็โดนสวนหมัดหนักๆกลับมาเข้าให้

“ก็คนตรงหน้ามีค่าพอให้อู้นี่ฮะ”

“ไหมจะไปซื้อโจ๊ก” นักเขียนสาวเบี่ยงหน้ามาอีกทางบอกจุดหมายที่ต้องการไป และจุดหมายในใจที่วาบความคิดขึ้นมา

‘ก็ดี อยากจะมาจีบเค้าเองนะ จะได้ถือโอกาสศึกษาพฤติกรรมไปเลยไหนๆก็ตกกระไดหัวใจพลอยโจนแล้ว’

“ก็ขึ้นรถสิฮะ” ทอมสาวยิ้มร่า สมอุราที่คนหน้าหวานรับไมตรีรีบกระโจนขึ้นคร่อมจักรยานคู่ใจ มือจับมั่นเข้าที่แฮนด์ ปากก็ร้องเรียกเชิญชวนนักเขียนสาวก็เดินมาที่รถ เมื่อหย่อนกายซ้อนท้ายเหมาะเจาะ สาวห้าวก็ปั่นออกไปแม้วิวสองข้างทางจะไม่ โรแมนติกเหมือนในมิวสิควีดีโอ ที่แวดล้อมไปด้วยหมู่ดอกไม้และถนนสวยคดโค้งแต่ไหมเงินก็เกือบๆจะ ‘ฟิน’ ภาพความทรงจำใสๆวัยเด็กผุดขึ้นมาเนิ่นนานที่ไม่ได้ซ้อนท้ายจักรยานใครแบบนี้ ‘หรือว่านิยายเรื่องใหม่ของเราจะให้พระเอกเป็นจารชนสองล้อดีนะ ไม่ๆ อย่าลืมสิไหม เธอต้องเขียนเรื่องยูริเข้าใจ๊? งั้น...ตัวพระก็ต้องเป็นแม่ทอมคนนี้สินะ’ คนซ้อนท้ายมโนไปเรื่อยตามท้องเรื่อง

“จะให้ไหมเรียกคุณว่าอะไรคะแม่นักปั่น”

“นึกว่าจะไม่สนใจถามชื่อแซ่กันเสียแล้ว”คนถีบแขวะนิดๆเหลียวหลังมาชำเลืองมองที่ตาใสๆ จนรถเบ้ซ้ายเบ้ขวาไปมา

“ก็คนเขาอุตส่าห์มารอนี่นา จะให้ไม่ถามก็ดูใจดำไปหน่อย ไหมไม่ใช่พวกไร้หัวใจนะคะ”คนซ้อนตอบน้ำเสียงจริงจัง

“ถ้ามีหัวใจ แล้ว...จะเปิดรับเรามั้ยฮะ” ตรงเกินไปมั้ยนั่นนี่กำลังจีบศิลปินอยู่นะนักเขียนสาวต้องการชั้นเชิงมากกว่านี้ไม่ใช่ขวานผ่าซากเว้ากันตรงๆ ‘ไม่ตื่นเต้นไม่เร้าใจเลย’ ไหมเงินพึมพำในใจ

“นี่จะจีบไหมเหรอ อย่ามาเสียเวลากับไหมเลย ไหมไม่ใช่ดี้นะคะแล้วก็คงไม่มีวันเป็นด้วย” คนปั่นนิ่งไปพักหนึ่งไหมเงินก็ไม่เห็นสีหน้าและแววตาเสียด้วย เลยไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดอย่างไรพอรถข้ามสี่แยกมาก็บอกชื่อตัวเอง

“น้อยหน่าฮะ”

“ชื่อน่ากินจัง กลางดงหรือเปล่าคะ” นักเขียนสาวหยอกเอินเป็นที่รู้กันว่า น้อยหน่าที่ตลาดกลางดง อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมาเป็นน้อยหน่าที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศ

“ฮิฮิ... ไม่ใช่หรอกฮะ น้อยหน่ากลางใจต่างหาก” ไหมเงินฟังแล้วก็ขำกลิ้งลิงกับหมาก็คนตรงหน้าไม่ลดละความพยายามดูเข้าสิทำกิริยาท่าทางให้เหมือนว่าเป็นหนุ่มฟ้อมาเกี้ยวสาว นักเขียนสาวชักสนุกเพิ่งจะรู้ว่าสาวๆเขาจีบกันแบบนี้นี่เอง ‘ดีๆ จะได้เอาไปใช้ในงานเสียเลย’นี่ล่ะผลพลอยได้ที่เธอเล็งเอาไว้

สาวผมสั้นมัวแต่หันมาคุยเล่นหัว ไม่ได้สนใจทางข้างหน้าสักเท่าไหร่จักรยานเจ้ากรรมก็กระแทกเข้ากับหลุมบ่อขนาดใหญ่

“ปั๊กก!” ร่างเล็กที่นั่งซ้อนท้ายมาเกือบจะหล่น เดชะบุญที่มือไวรวบเอวคนขี่ไว้แน่นรถเสียหลักเพราะสมดุลไม่มี แต่น้อยหน่าก็ประคองแฮนด์ไม่ให้ล้มไว้ได้เธอชะลอรถเข้าข้างทางและหันมาดูว่าสาวสวยเป็นอะไรหรือไม่

“โอ้ย! ขี่ดูทางหน่อยสิคะ” ไหมละมือออกจากเอวนุ่มๆโวยเข้าให้กับคนไม่ระวัง นี่เกิดมีรถใหญ่สวนมาคงได้กระโดดหนีตายเป็นแน่

“ขอโทษฮะ เพราะเป็นเธอ...เลยเผลอใจลอย” สาวห้าวเริ่มออกรถอีกครั้ง

“นี่ใจคอจะหยอดมันทุกช็อตเลยหรือไงคะ คำหวานไหมก็ชอบฟังอยู่นะแต่ถ้ามันมากไปก็เลี่ยนหู” ไหมเงินพูดกระแทกเสียง ส่งเป็นนัยว่าเริ่มขุ่นเคือง

ใช่ ฟังบ่อยๆมันก็ไม่ตื่นเต้นน่ะซี คิดจะจีบคนอย่างไหมเงินง่ายดายเสียที่ไหน หนุ่มจริงทั้งแท่งต่างทดท้อใจมาหลายรายแล้วน้อยหน่าได้ยินเข้าก็หน้าถอดสี จ๋อยรับประทาน รู้ตัวเข้าว่าเยอะไปจริงๆ

รถมาหยุดที่ร้านโจ๊ก ไหมเงินสั่งพิเศษใส่ไข่สองฟองมาสี่ถุงปาท่องโก๋สองถุง น้อยหน่าหน้าเสียอย่างเห็นได้ชัดกำลังใจแทบไม่เหลือหรอเมื่อเจอเข้าให้สองเรื่องซ้อนๆเธอคิดไปไกลว่าสาวสวยคนนี้คงซื้อกลับไปให้แฟนแน่เป็นแช่แป้งร่างอรชรแบบนี้ใครจะยัดทะนานเข้าไปตั้งสี่ถุง!รอสักพักเมื่อได้ของครบถ้วนนักเขียนสาวก็จัดแจงแบ่งสรรเอาปาท่องโก๋ถุงหนึ่งมารวมเข้ากับโจ๊ก และยื่นให้คนตรงหน้า

“นี่ค่ะ ค่าปั่นมาส่ง ส่วนปาท่องโก๋ให้เป็นค่ามุกแล้วกัน ห้าบาทสิบบาทคริคริ”

น้อยหน่ารับถุงโจ๊กมา ยิ้มแห้งๆ แววตายังดูเศร้าสร้อยเธอปั่นกลับมาส่งสาวสวยถึงหน้าคอนโด โดยไม่ปริปากหยอกล้อเหมือนกับตอนขาไปไหมเงินก็สังเกตได้ แต่ก็ไม่อะไรมาก ถ้าแค่นี้ถอดใจกันเสียแล้วก็อย่าหวังจะได้แอ้ม

ขากลับมักจะเร็วกว่าขาไปเสมอ น้อยหน่าเองก็รู้สึกเช่นนั้นรถจักรยานพาสองสาวมาถึงหน้าคอนโด สาวผมสั้นใจหายเล็กๆต่อไปนี้ก็คงได้แต่มาเฝ้ารอเหมือนหมาชะเง้อมองเครื่องบิน

“ไหมมีแฟนแล้วเหรอ” เกินจะกลั้น คำถามสำคัญหลุดจากปากน้อยหน่า นักเขียนสาวเอาบทสนทนายอดฮิตมาใช้

“มีหรือไม่ไม่สำคัญหรอก มันสำคัญที่ตรงนี้”

หล่อนตอบชี้หัวแม่มือมาที่หัวใจของตน ให้คนฟังไปตีความตามที่ปรารถนา

“ขอบคุณนะคะน้อยหน่า” นักเขียนสาวกล่าวเพียงสั้นๆเอาคีย์การ์ดออกมาเตรียมจะเปิดประตู เสียงแหลมเล็กไล่หลังมา

“ให้เรามารับทุกวันได้หรือเปล่า”

ร่างกะทัดรัด ยิ้มพึงใจที่ตัวเองยังมีมนต์เสน่ห์ให้แม่นักปั่นฮึดสู้ก่อนจะหันกลับมาปั้นบั้นหน้าชนิดที่สวยที่สุด ยิ้มเก๋ๆหวานๆสะบัดผมนิดนึงราวกับเป็นเซเลบมีชื่อ เจรจาความกับคนมุ่งมั่น

“ไหมลงมาไม่ค่อยเป็นเวลาหรอกค่ะ ถ้ามาแล้วไม่เสียเวลาคอยก็ตามใจ”ทอมนักปั่นรับฟังเม้มปากคิดไปไกล ‘เดาใจแม่สาวสวยนี้ไม่ออกจริงๆตอบอะไรไม่เคยผูกมัดตัวเองเลย...ฉลาดเป็นบ้า

“เอาไลน์ไปแล้วกัน แต่ห้ามหยอดห้ามจีบทางไลน์นะ ไหมบอกไว้ก่อนเวลาทำงานไหมต้องการสมาธิ...อย่างมาก” นักเขียนชื่อดังหาไม้มาไว้ให้แล้วที่เหลือก็ตอกเสาเข็มวางรากฐานสร้างสะพานเอาเองก็แล้วกันเธอเน้นๆคำที่ประโยคสุดท้าย ยื่นโทรศัพท์ให้ น้อยหน่ารับมา สีหน้าสดชื่นขึ้นหลังจากกดเบอร์โทรออกค้างไว้ก็ส่งคืนให้เจ้าของ ไหมเงินรับมาก่อนจะส่งยิ้มแสนหวานและกล่าวทิ้งท้าย

“ถ้าจะจีบไหม ต้องรับได้กับสิ่งที่ไหมเป็นนะคะ”

“เราจะทำให้ไหมเห็นรู้สึกและเข้าใจได้ว่าเราจริงใจ” น้อยหน่าปรับโหมดเป็นจริงจังแววตามุ่งมั่น หล่อนเพิ่งคิดได้ว่าจะจีบไหมเงินจะมาทำตัวเป็นแม่จอมเจ้าชู้คงไม่เหมาะร่างทะมัดทะแมงปั่นจักรยานโลดแล่นไปบนถนนทอดยาว เส้นทางหัวใจมันคงไม่ราบเรียบแบบนี้แน่นอน...

ไหมเงินหอบหิ้วอาหารเช้ามุ่งตรงมาที่ห้องเริ่มรู้สึกง่วงเข้านิดๆ เดี๋ยวทานโจ๊กเสร็จเธอจะงีบเสียหน่อยแต่เมื่อนึกถึงนิยายที่อ่านข้างไว้กำลังถึงช่วงที่สนุกก็ตั้งใจว่าจะอ่านเสียให้จบก่อน จะว่าไปตาบอสนี่จิตมาก คนมันไม่มีอะไรอยู่ในหัวเลยแล้วจะให้เขียนนิยายออกมาได้อย่างไร

นักเขียนสาวจมอยู่กับความคิดตนเปิดประตูห้องเข้ามา ถอดรองเท้าไว้เก็บที่ตู้สังเกตเห็นว่ามันดูเรียบร้อยผิดปกติทั้งยังมีกลิ่นหอมอ่อนๆ มองไปรอบๆห้อง ก็ดูสะอาดสะอ้านข้าวของที่เคยวางระเกระกะก็ถูกจัดวางให้เป็นระเบียบ ผิดแผกแปลกตาอย่างชัดเจน เธอเดินผ่านหน้าห้องน้ำเพื่อจะตรงไปยังส่วนครัวหูของเธอได้ยินเสียงน้ำไหล ในใจก็คิดว่าแม่สาวน้อยคงเผลอเปิดน้ำทิ้งไว้เดี๋ยวเจอตัวแม่จะต้องบ่นเสียหน่อยพอชะโงกหัวไปดูที่หน้าประตูห้องน้ำก็ต้องตกใจสุดชีวิต

“ว้ายย!ตาเถร!”

ถุงโจ๊กอุ่นๆหลุดจากมือหล่นถึงพื้นโชคดีที่ไม่แตกแต่ตอนนี้สิ สติของหล่อนแตกกระเจิงไหมเงินรีบเอามือปิดหน้าพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะเบี่ยงตัวหนีแต่ขาเท้ามันตายขยับเขยื้อนเคลื่อนกายไม่ได้ เพราะเห็นภาพบาดตาบาดใจ บาดอารมณ์สาวรุ่นกำลังเปลือยกายอาบน้ำหันหลังขาวๆอวดเอวคอด และสะโพกผายกลมกลึง สมส่วนสมวัย

ขวัญข้าวได้ยินเสียงร้องก็ตกใจไม่แพ้กันรีบวิ่งออกมาดูด้วยเป็นห่วงพี่สาวผู้อุปการะ เสียงร้องโหวกเหวกของญาติสาวทำให้คนนอนหลับอย่างน้องนุชลืมตาขึ้นถลันตัวมาดูเหตุการณ์เช่นกัน

“พี่ไหม ๆ เป็นอะไรคะ อ้าวดูซิ ถุงโจ๊กหล่น ตกแตกหรือเปล่านี่”ร่างเปลือยทรุดลงนั่งยองๆเก็บถุงโจ๊กและลุกยืนขึ้นกลิ่นหอมอ่อนๆจากสบู่หรือเป็นกลิ่นกายสาวรุ่นก็แยกแยะวิแคะวิเคราะห์ไม่ออกรู้เพียงว่ามันช่างรัญจวนใจไหมเงินมองลอดผ่านแว่นตาและตามรอยแยกของฝ่ามือเห็นร่างของผิวสองสี เนื้อผิวละเอียดร่างที่ยังเปียก หยดน้ำเป็นเม็ดๆสลับกับคราบฟองสบู่ เกาะตามร่างกายแล้วนั่นอกคู่งามเป็นกระเปาะน้อยๆ โอ้ย!! อยากจะบ้าตาย

“นี่นี่ ทำไมอาบน้ำไม่ปิดประตูลงกลอนล่อเสือล่อตะเข้หรือไง เป็นสาวเป็นนางหัดอายซะบ้างซี”

ไหมเงินเอ็ดเข้าซุ่มเสียงสั่นเทิ้มน้องนุชมองจากระยะไกลยังอดขำไม่ได้ ร่างเปลือยไม่สนใจเดินดุ่มๆมาวางถุงโจ๊กก่อนจะเดินเบียดแทรกกายของคนที่ยืนขวางประตูปอยผมน้อยๆที่ยุ่งเหยิงเกี่ยวเฉี่ยวผ่านหน้าผู้อุปการะไปเพียงไม่กี่เซ็นติเมตร

“เอาน่าไหม... เด็กมันยังไม่ประสาความอีกอย่างเรามันก็ผู้หญิงด้วยกันทั้งนั้น จะโวยวายทำไม” ลูกพี่ลูกน้องสาวไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่สมัยอยู่หอพักมหาวิทยาลัยเห็นเพื่อนๆโป๊เปลือยจนตาเปื่อยแล้ว

“ไม่ประสาบ้าอะไร นี่ยี่สิบเอ็ดแล้วนะแล้วดูสิอะไรๆ มันเด็กที่ไหน” เจ้าของห้องปิดประตูให้ดังปังเกินจะกลั้นในความหวามไหว ขวัญข้าวสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะเปิดก๊อกชำระล้างร่างกายต่อ

“อะไรๆ นมต้มเหรอ ว้าเสียดายจังนุชไม่ทันได้เห็น”ลูกพี่ลูกน้องแซวเข้าให้ไหมเงินหน้าแดงก่ำพอเรี่ยวแรงเริ่มกลับมาก็มานั่งข้างๆคนเพิ่งตื่นแล้วสองสาวก็หัวเราะออกมาพร้อมๆกัน ขันในความใสซื่อของเด็กสาว ขวัญข้าวนุ่งกระโจมอกออกมาเมื่อเห็นผู้ใหญ่เขาหัวเราะกันน้ำตาเล็ดเจ้าตัวก็บ้าจี้หัวเราะตามไปด้วยกว่าพายุหัวเราะจะสงบก็เล่นเอาเมื่อยกรามเลยทีเดียว

“นี่ แม่สาวน้อย คราวหน้าก็หัดปิดประตูเสียบ้างเราโตแล้วนะ เกิดพี่มีแขกเหรื่อเข้าล่ะงามหน้าเชียว” น้องนุชอบรมคนแสนซื่อขวัญข้าวพยักหน้ารับ เดินไปแกะโจ๊กเตรียมไว้ให้

“ผู้ใหญ่เขาสอนก็จำไว้นะคนเราไม่ควรทำผิดเรื่องเดิมเป็นครั้งที่สอง” ไหมเงินกำชับ

“หนูไม่ได้ทำอะไรผิดสักหน่อย กะแค่อาบน้ำนี่นะ”สาวผมยุ่งเริ่มจะทำให้เรื่องยุ่ง เมื่อต่อล้อต่อเถียงด้วยมั่นใจว่าตนไม่ผิด

“นี่ แม่ตัวแสบ!”ไหมเงินตวาดแว๊ด น้องนุชไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่เอื้อมมือมาจับเข้าที่ต้นแขนของคนเคืองเป็นเชิงห้ามปราม

“เอาๆ ท่าทางจะโมโหหิว กินโจ๊กกันดีกว่ากำลังร้อนๆไม่ใช่หรือไปๆ” สองญาติสนิทลุกขึ้นจากเตียงไหมเงินยังหน้าบึ้ง

“ชงกาแฟให้กินหน่อยสิ เอาเข้มๆเลยนะ” นักเขียนสาวพูดขึ้นลอยๆแต่คนรับคำสั่งรู้ดี เธอมองหาบางสิ่งรอบครัว รอบห้องแล้วก็หันมายิ้มแหย

“หนูหากาน้ำร้อนไม่เจอค่ะต้มน้ำในไมโครเวฟได้มั้ย”

“ยัยบ๊องส์ มานี่เลย” ไหมเงินส่ายหน้ากวักมือเรียกสมาชิกใหม่มาที่เครื่องทำกาแฟ สาธิตวิธีการชงให้ดู ระหว่างที่สอน นักเขียนสาวก็สบสายตาเข้ากับนัยน์ตาแบ๊วแสนซื่อจะโมโหก็ทำไม่ลงแถมสายตาซุกซนภายใต้แว่นหนาก็แอบๆแหล่ไปยังเนินอกที่มีหยดน้ำก่ายเกาะเสียหลายรอบเธออยากยืนยันว่าเมื่อกี้ตาไม่ได้ฝาด เด็กมัน ‘โต’ แล้ว โตมากด้วย

“เอ้า ไหนลองทำอีกแก้วซิ เอาๆ กดปุ่มไหนก่อน”

‘ใช่! เป๊ะเลย’ น้องนุชมองภาพที่สองสาวกำลังง่วนกับเครื่องชงกาแฟแถมสายตาแอบชำเลืองมองของดีสาววัยทีนก็นึกถึงฉากพระนางกำลังใกล้ชิดกัน เธอยิ้มด้วยมีความสุข นักเขียนบทคนนี้มองอะไรไม่เคยพลาด เชื่อสิ

ไหมเงินเดินมาที่ห้องน้ำเพื่อแปรงฟันก่อนจะทานเช้าอ่างล้างหน้าดูขาววับแสบตา มองไปที่ไหนก็สว่างสดใสไปเสียหมดแม่นี่เก่งการเรือนเสียจริงเจ้าห้องห้องต้องมาสะดุดที่ราวแขวนเพราะให้ให้ได้อายสุดแสนก็มันเต็มไปด้วยชั้นในของเธอนับสิบๆชิ้น แขวนตากอยู่บนไม้แขวนเสื้อ ‘ยัยตัวแสบชั้นใส่ไซส์อะไรสีไหร ลูกไม้ ซีทรู ทีแบ็ครู้กันโหม้ดด โอ้ยยย อายยย’

“แม่ผมยุ่งคราวหน้าไม่ต้องเจ้ากี้เจ้าการมาซักชั้นในให้พี่นะ” ผู้อุปการะเดินออกมาที่โต๊ะอาหาร เปรยขึ้นก่อนจะนั่งลง

“ทำไมคะ ผิดอีกแล้วเหรอ” ขวัญข้าวถามเสียงจ๋อย มือที่กำลังจะตักโจ๊กเข้าปากก็วางลง

“มันเป็นของส่วนตัว ไม่ผิดแต่มันก็ไม่ดี ขี้เกียจอธิบายแล้วคราวหน้าบอกอะไรก็แค่ทำตามเข้าใจมั้ย”

นักเขียนสาวตอบไปอย่างเสียไม่ได้เจ้าหนูจำไมนี่ต้องคอยบอกทุกเรื่องเลยหรือไงนะ พูดไปพลางก็เหยาะซอสไปพลางฉีกปาท่องโก๋ใส่ชามพร้อมกิน

“ไม่เข้าใจอ่ะค่ะ” สาวรุ่นทำหน้างงโพล่งออกไป ไหมเงินถอนหายใจยาว สองญาติสนิทมองตากันแล้วหัวเราะออกมาพร้อมเพรียงอีกครั้งเจ้าของห้องเกาหัวแกรกๆนอกจากจะปวดเศียรเวียนเกล้ากับงานของตัว ที่ยังไร้วี่แววความคืบหน้า งานของน้องนุชที่ยากไม่แพ้กันไหนจะภารกิจจีบอีตาบอสแอ๊บสาวเข้าอีก ไหนจะมีทอมเพื่อนบ้านตามมาวนเวียนแล้วแม่สาวหัวยุ่งที่ทำท่าจะก่อเรื่องยุ่งไม่แพ้ทรงผม ตายๆ ไหมเงิน




Create Date : 27 พฤษภาคม 2558
Last Update : 27 พฤษภาคม 2558 14:27:31 น. 0 comments
Counter : 527 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.