Group Blog
 
All blogs
 
Playwright คนเขียนบท




ไหมเงินและน้องนุชกินโจ๊กเสร็จ ก็แยกย้ายกันไปปั่นงานต่อ เจ้าของห้องเดินมาที่ระเบียง หวังจะสูดอากาศหายใจให้ออกซิเจนเข้าเต็มปอดก่อนจะลงมือทำงาน แต่ก็ออกไปไม่ได้ เสื้อผ้าของเธอน่ะสิ ตากเต็มพื้นที่ไปหมด มองดูผลงานของสาวน้อยเข้าก็ปลื้มใจ

‘อย่างน้อยๆยัยนี่ก็เอาการเอางานอยู่ แต่ก็ต้องดูกันยาวๆว่าจะท่าดีทีเหลว ดีแตกเอาเสียเมื่อไหร่ นั่นสินะ เรายังไม่ได้ถามถึงเรื่องที่แม่นี่โดนไล่ตะเพิดอย่างกับหมูหมาเมื่อวานนี้เลย’ ระหว่างที่ดูเสื้อผ้าก็แปลกใจ ทำไมไม่มีชุดของแม่สาวรุ่นเลย

“ขวัญ ทำไมไม่ซักเสื้อผ้าของเราพร้อมกันล่ะ จะได้ไม่เปลืองน้ำ”

“ก็ไม่มีอ่ะค่ะ ชุดเมื่อวานมันขาดวิ่นซะไม่เหลือสภาพแล้ว หนูก็เลยเอามาทำผ้าขี้ริ้ว แล้วชุดที่พี่ซื้อให้ก็เพิ่งใส่ตัวนี้เอง” สาวรุ่นชี้มือไปที่ผ้าขี้ริ้วตรงพื้น และเอามือจีบชุดเดรสของเธอเป็นการอธิบาย ก็ใช่ แต่ว่า Where is your underwear? ในห้องน้ำรึก็ไม่มี

“อ้าว แล้วชั้นในล่ะ?”

“ก็...ก็มันมีอยู่แค่ชุดเดียว ถ้าซักก็ไม่มีใส่” ขวัญข้าวตอบเสียงอ่อย กลัวว่าจะตอบไม่เข้าหู

“หมาย...หมายความว่าไม่ได้ซัก? ใส่ซ้ำ?”

ไหมเงินขยับแว่นถลึงตา พลันก็นึกโทษตัวเองที่สะเพร่าหลงลืมของสำคัญของผู้หญิงไปเสียได้ สาวรุ่นพยักหน้าหงึกๆ ส่วนน้องนุชก็ละสายตาจากหน้าจอ รอฟังเรื่องตลกฉากต่อไปอย่างอารมณ์ดี

“กรรมเวร เมื่อวานก็ลืมไปเสียสนิท นี่ก็ยุ่งๆซะด้วย แล้วอย่าบอกนะว่าจะทนใส่กลับหน้ากลับหลัง เอบี บีเอ ไม่ได้ๆ เดี๋ยวเชื้อราขึ้นล่ะก็ยุ่งตายชัก ไปๆถอดออกซะ” ไหมเงินพูดแล้วก็รู้สึกขนลุก ยักไหล่ขึ้นทั้งสองข้างทำหน้าเหวอ ขวัญข้าวยังยืนนิ่ง คิดไม่ออกว่าจะทำตามคำสั่งดีหรือไม่

“เอ้า! มัวพิรี้พิไรอยู่ได้ ถ้าเป็นตกขาวนี่เรื่องใหญ่เลยนะ ต้องขึ้นขาหยั่ง แหกขาให้หมอดู จะเอางั้นมั้ย” เจอเด็กดื้อก็ต้องขู่เสียหน่อย แต่ไม่ได้ผล สาวรุ่นยังไม่ขยับเขยื้อน ขวัญข้าวรู้จักตกขาวเสียที่ไหนกัน

“ตกขาว? ไม่นะคะ กางเกงในหนูสีดำ” ไหมเงินเอามือกุมหัว ไม่เชื่อหูตัวเองว่ายัยหัวยุ่งจะซื่อ ไม่รู้ความถึงขนาดนี้

“โอ้ยตายๆๆ! นุชช่วยอธิบายหน่อย ไหมเวียนเฮด”

นักเขียนบทสาวยิ้มกว้าง เรียกขวัญข้าวมาใกล้ๆ เปิดเวบไซต์เพศศึกษาให้เธอดู  ราวสิบนาทีสาวรุ่นก็ร้องอ๋อเข้าใจ แต่ด้วยความเป็นเจ้าหนูจำไมก็ซักไซ้ต่อ

“อ๋อ หนูเคยเป็น ไอ้เมือกสีขาวๆที่ออกมาจากช่องคลอดแต่เราจะรู้ได้ยังไงคะ ว่ามันจะผิดปกติหรือเปล่า หนูอ่านแล้วยังไม่ค่อยแตก”

“ก็สังเกตดูค่ะ ว่ามีกลิ่นเหม็นหรือสีเขียว เหลืองหรือเปล่า ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แสดงว่าเราติดเชื้อ ซึ่งมันก็มีเชื้อหลายแบบทั้ง แบคทีเรีย ไวรัส หรือเชื้อรา หากใช้กางเกงในหรือผ้าอนามัยที่อับชื้น แบบที่พี่ไหมเขาเตือน มันก็มีความเสี่ยงที่จะเกิดตกขาวที่ผิดปกติได้ค่ะ ความจริงเรื่องตกขาวเล่าได้เป็นวันๆ รู้แค่นี้ก่อน แล้วกันนะ”

นักเขียนบทตอบอย่างละเอียดยิบ ขวัญข้าวยกมือไหว้ขอบคุณ เดินไปเข้าห้องน้ำโดยอัตโนมัติ ไหมเงินกับน้องนุชก็พยักหน้ายิ้มให้กัน สักพักสาวรุ่นก็เดินกระโดกกระเดก หนีบขาออกมา  ผู้ใหญ่ใจดีก็หัวเราะอย่างเคย

“ฮิฮิ นี่อยู่กับเธอแค่วันเดียวมีเรื่องให้ขำได้เกือบสิบรอบแล้ว ยัยบ๊องส์เอ้ย ชุดมันไม่โป๊หรอกมีซับในด้วย อย่ากลัวไปหน่อยเลย ทีเมื่อกี้แก้ผ้าอาบน้ำไม่ยักกะอาย เด็กหนอ”

“ก็...ลมมันเย็นนี่คะ อีกอย่างใครเขาใส่เสื้อผ้าอาบน้ำกันบ้าง แต่นี่มัน...”

“เอาๆ ไม่เถียงสักครั้งจะลงแดงตายใช่มั้ย” ไหมเงินต่อว่า เธอก้มหน้าก้มตาตั้งใจว่าจะอ่านหนังสือให้จบสักที

 “เดี๋ยวบ่ายแก่ๆเราออกไปหาไรกินกัน แล้วค่อยแวะซื้อก็ได้ แค่สิบนาทีก็เสร็จม้าง” น้องนุชออกความเห็น นิ้วมือเรียวก็สัมผัสที่แป้นพิมพ์รัวอย่างชำนาญ ไหมพยักหน้ารับ แล้วก็บอกสิ่งสำคัญกับสาวรุ่นต่อ

“มีอะไรแปลกๆที่ยังไม่ได้บอกพี่อีกมั้ยเนี่ย เออ เมนส์จะมาเมื่อไหร่ก็หยิบโกเต็กซ์เอาที่ลิ้นชักด้านล่างสุดนะ”

“หนูคงทำให้พี่ลำบากมากสินะคะ” ขวัญข้าวรู้สึกว่าตัวเองสร้างปัญหาให้กับเจ้าของห้อง ถามออกไปด้วยรู้สึกผิดยิ่ง

“รู้ไว้ก็ดีแล้ว ฉะนั้นห้ามรบกวนใจ จะไปทำอะไรก็ไป พี่สองคนจะทำงานแล้ว” ไหมเงินพลิกหนังสือไปอีกหน้า เธอพูดแบบไม่คิดอะไร แต่กับคนฟังนี่สิ รู้สึกผิดยังไม่พอ แถมยังเพิ่มความน้อยอกน้อยใจเข้าไปด้วย...

ไหมเงินวางหนังสือลงบนเตียง หลังจากปิดปกหลังจบหน้าสุดท้าย ความรู้สึกหลากหลายประดังเข้ามาในหัวสมอง ไม่ได้นึกรังเกียจเดียดฉันท์อย่างเคยมา

‘นิยายยูริมันเป็นแบบนี้นี่เอง เรื่องมันก็ไม่ต่างจากนิยายทั่วไปมากนัก เพียงแต่โลกของตัวละครหลักจะเป็นผู้หญิงสองคนรักกัน แล้วถ้าเราจะเริ่มต้นเขียนจะต้องทำยังไง? แสดงว่าต้องศึกษาข้อมูลตัวพระนางก่อนใช่มั้ย? พระเหรอ... ไม่อ่ะ นึกถึงหน้ายัยทอมก็เสียวสันหลังวาบ ไม่ไหวๆ ขืนเอาความไปปรึกษาขี้เกียจจะไปฟังคำจีบคำเกี้ยวอีก’ คิดได้ดังนั้นไหมเงินก็เปิดโน๊ตบุ๊ค

ป..ร..ะ..เ..ภทของทอม  นิ..สั..ย..ทอม  นักเขียนสาวเริ่มต้นเสริ์ชจากสองคำนี้ ไหมเงินได้ข้อมูลมากมาย หลายๆเรื่องเธอก็รู้มาแล้วบ้าง ตรงกับยัยทอมน้อยหน่าบ้างไม่ตรงบ้าง และต้องมาสะดุดกับข้อความที่ว่า สแกนพฤติกรรมเกย์ นักเขียนสาวไม่ลังเลใจที่จะคลิกเม้าส์เข้าไปอ่าน

‘โอ๊ะโอ ตรงกับคุณบอสเป๊ะๆ ว่าแล้วว่าสายตาเราไม่ผิดเพี้ยน อย่างนี้ต้องจับให้ได้คาหนังคาเขา ยัยนุชถึงจะเชื่อ’ ไหมเงินเซฟข้อมูลเก็บลงเครื่อง ตัดสินใจจะไม่พูดเรื่องนี้กับญาติสนิท อย่างไรเสียวันรุ่งพรุ่งนี้ทั้งคู่ก็จะได้เจอกันอยู่แล้ว ถือโอกาสจับผิดให้นุชเห็นเสียเต็มๆสองตากับตัว จะได้เลิกเวิ่นเว้อเสียที

“เสร็จแล้ว ฮิ้วววว!” น้องนุชแหกปากดังลั่นห้อง เมื่อเธอปั่นงานสำเร็จจนได้ จัดการต่อปริ้นท์เตอร์และพิมพ์ออกมา ส่งให้ไหมเงินอ่าน หลังจากกวาดสายตาคร่าวๆ ญาติสนิทก็ส่งคืนให้และเอ่ยปากชม

“พรสวรรค์จริงๆ คืนเดียวนุชพิมพ์ไหลออกมาเป็นน้ำได้เกือบร้อยซีน ถ้าเป็นไหมนะ สิบซีนยังไม่รู้จะถึงป่าว แถมเรื่องมันส์มากอ่ะ แบบนี้คนดูติดชิดจอไม่ไปไหนแน่ๆ แต่อย่าหาว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลยนะ ยัยตองที่เพิ่มเข้ามานี่ ดูโผงผางแว๊ดๆไปหน่อยป่าว”

“อือ... พ่อสอนไว้ว่าบทมันต้องขยี้ทุกซีนอ่ะ ไดอะล็อคต้องเร้าใจ ที่นุชใส่คาแรกเตอร์แบบนี้ กรี๊ดกร๊าดโวยวายเพราะต้องการดึงความสนใจของคนดูให้อยู่กับหน้าจอตลอดๆ  ไหมก็รู้มันเป็นศึกเกมรีโมท อำนาจอยู่ในมือคนดู ตอนนี้ส่วนแบ่งมันถูกแชร์ไปหลากหลาย ทั้งทีวีดิจิตอลที่เพิ่มช่องมาอีกสามสิบกว่าช่อง ยังมีสื่ออื่นๆอีก ทั้งอินเตอร์เน็ตเอย ร้านเกมเอย แถมบางคนก็ไม่ได้เฝ้าหน้าจอตลอดทำโน่นทำนี่ บรรยากาศการดูทีวีมันไม่เหมือนโรงหนัง ถ้าบทของนุชมันเอื่อยๆเขาก็ไม่ตาม” น้องนุชร่ายยาว หยิบบทเข้าแฟ้มเรียบร้อย เตรียมส่งอีเมล์ให้เจ๊อ้อยพิจารณา

“นั่นสินะ หนังสือมันเอื่อยเรื่อยๆได้” ไหมเงินเสริมรู้ได้ถึงความยากของการเขียนบทจริงๆ

“เอาล่ะ ไหมเสร็จงานยัง เราจะได้ออกไปยืดเส้นยืดสายหาอะไรกินกัน” นักเขียนบทพรสวรรค์สูงเก็บข้าวของ หันมาถามญาติสนิท เหลียวไปมองดูสาวน้อยที่กำลังเช็ดถูส่วนครัวอยู่ ตั้งแต่น้องนุชเข้ามาในห้องก็ไม่เห็นว่าขวัญข้าวจะอยู่เฉยเลย

จากนั้นสามสาวก็ออกไปทานข้าว และเลือกซื้อชุดชั้นในกับข้าวของส่วนตัวของสาวรุ่น เมื่อเดินผ่านสถาบันสอนภาษาแห่งหนึ่ง ไหมเงินก็ตรงรี่เข้าไปสอบถามข้อมูลทันที ทิ้งให้สองคนที่เหลือยืนงงรออยู่แต่ด้านนอก ยัยไหมก็เก่งภาษาอังกฤษอยู่แล้วนี่นา ทำไมถึงอยากเรียน น้องนุชยังไม่เท่าทันลูกพี่ลูกน้อง เธอกลับออกมาพร้อมใบระเบียบการกับใบสมัคร ยื่นให้ขวัญข้าว เด็กสาวรับมาก็ไม่เอะใจ นึกว่าให้ช่วยถือ

ไหมเงินมาส่งน้องนุชที่หน้าออฟฟิศ ของบริษัทผลิตรายการโทรทัศน์แห่งหนึ่ง นักเขียนบทมือทองบอกว่าไม่ต้องรอ ไหมว่าได้อย่างไรเลิกดึกกลับแท็กซี่มันอันตราย เธอพูดพร้อมโชว์หนังสือพ็อคเก็ตภาษาอังกฤษให้ดู แล้วกำชับว่าไม่ต้องห่วง ไม่เสียเวลาหรอก พอคล้อยหลังญาติสนิท ไหมเงินก็พาขวัญข้าวมานั่งรอที่ส่วนรับรองลูกค้า

“อ่านหรือยัง?”

“คะ?” สาวผมยุ่งไม่เข้าใจ มองมาที่หน้าผู้อุปการะ

“ระเบียบการเรียนภาษาน่ะ หรือว่าเอาไปทิ้งเสียแล้ว”

“ยังเลยค่ะ พี่ไหมเอามาให้หนูทำไม” สาวรุ่นหยิบเอกสารออกมาอ่านเมื่อเห็นว่าโดนท้วง

“ก็เอามาให้ดู จะได้เลือกคอร์ส เลือกเวลาเรียน วันจันทร์จะได้พาไปสมัคร” ผู้อุปการะเฉลยความต้องการ ขวัญข้าวถึงกับหน้าเหวอ เรื่องเรียนกับเธอที่ห่างหายกันไปนานหลายปี แล้วดูค่าเรียนสิ ถูกที่ไหนกัน คอร์สหนึ่งเฉียดหมื่น ตั้งแต่เจอหน้าพี่สาวแสนสวยเธอหมดไปกับเราหลายตังค์แล้ว สาวรุ่นอยากจะปฏิเสธแต่ก็กลัวและเกรงจะโดนว่าเอาอย่างเคย ได้แต่พูดเสียงอ่อย

“พี่ไหม.. ไม่เห็นต้องลำบากขนาดนี้เลย”

“ลำบากแน่ หากหล่อนไม่มีความรู้ติดตัว อย่าคิดว่าสะสวยเอาร่างกายแลกเงินเด็ดขาด ผู้ชายมันได้แล้วก็ทิ้ง อีกอย่างความสวยมันไม่จีรัง มีเหี่ยวมียาน แต่ความรู้น่ะ ไม่มีอะไรพรากมันไปจากหล่อนได้”  นักเขียนสาวอบรมเสียใหญ่ ขวัญข้าวถึงกับหน้าเสีย ทำไมพี่สาวชอบมองเธอในแง่ร้ายนักนะ อยากจะต่อล้อต่อเถียงก็กลัวอีกฝ่ายจะเม้งแตก ขนาดพูดเฉยๆยังโดนว่าซะขนาดนี้

“ทำไม พูดแทงใจรึ? หรือไม่จริง เด็กสมัยนี้ชอบรวดเร็วไง หาทางลัด ลัดไปสู่นรกเสียมากกว่า”

ขวัญข้าวทั้งน้อยใจ เสียใจและอ่อนใจ ‘ช่างเถอะแม่ อยากจะเชือดเฉือนให้เรากระอักเลือดตายเสียตรงนี้ก็เอา พี่สาวคงเครียดกับงาน อีกอย่างพี่พรรณว่าเราเสียๆหายๆหนักหนากว่านี้ร้อยเท่าพันทวีเรายังทนได้เลย’ สาวรุ่นได้แต่ปลอบใจตัวเอง ยอมรับกับชะตาชีวิตที่ไม่ได้มีทางเลือกมากนัก

“หนูเข้าใจค่ะ พี่ไหมจะให้หนูทำอะไรก็ได้ แค่อย่าไล่หนูไปเป็นพอ” ขวัญข้าวตัดสินใจแล้วที่จะฝากฝังชีวิตไว้กับพี่สาวคนสวย ‘มันก็จริงอย่างที่พี่เขาพูดทุกประการ หากเขาทำเฉยไม่ยินดียินร้ายอย่างพวกไทยมุงนั่น ป่านนี้เราคง...’

“ก็ถ้าจะไปก็คงเป็นความต้องการของเธอเอง” ไหมเงินตอบกลับมาเพียงเท่านั้น ในใจเธอกลับคิดอยู่ตลอดว่า เมื่อถึงเวลาที่นกน้อยตัวนี้แข็งแรง เธอก็จะโบยบินจากไป

ผ่านไปราวสองชั่วโมง น้องนุชก็เดินลงมาสีหน้าไม่ใคร่สู้ดีนัก ไหมเงินเป็นห่วงก็ถามไถ่เอาความ

“ไงแม่นักเขียนมือทอง ไม่โอเหรอ?”

“โอ แต่เจ๊อ้อยมีปัญหาใหม่ที่ใหญ่กว่านั้น” ไหมเงินเพิ่งสังเกต เจ้าหล่อนหอบหิ้วเอากระเป๋าผ้าที่ใส่เอกสารไว้เต็มมาสองใบใหญ่ ขวัญข้าวรีบเดินไปช่วยถือ

“ไมอ่ะ?”

“ไปกันก่อนเถอะ ตรงนี้คุยไม่สะดวก” ไหมเงินลุกจากที่นั่งเดินตามกันไปที่รถถอย่างรวดเร็ว

ตลอดทางที่นั่งรถกันมา น้องนุชบ่นเป็นพี่หมีโมโห

“แม่.. ไอ้นักเขียนคนนี้มันแสบสันต์นัก คราวที่แล้วก็ทีหนึ่งละ รับงานไปก็เอาไปให้ลูกกระจ๊อกเขียน พอมาตอนนี้ดั๊น..ทิ้งงานไปเสียดื้อๆ ทั้งๆที่ละครมันจะออนแอร์อีกไม่กี่วัน ช่องก็สั่งแก้ ตอนแรกยังไม่ผ่านเลย ถ้านุชเป็นเจ๊อ้อยนะ ด่าออกสื่อไปแล้ว แล้วดูดิ เจ๊แกก็รักนุชเหลือล้ำ โยนเผือกร้อนมาให้ซะนี่ ลำพังงานที่รับอยู่มันก็ล้นทะลักจนแทบไม่มีเวลากระดิกตัวด้วยซ้ำ ไหมต้องช่วยนุชด้วยนะ ไม่งั้นนุชไม่ไหวแน่ๆ”

น้องนุชใส่เป็นชุด หลังจากที่รู้จากปากเจ๊อ้อยว่าผู้เขียนบทละครอีกเรื่องหนึ่งทิ้งงานเสียกลางคัน อ้างว่าไม่เป็นไปตามที่ตกลงกันไว้ตั้งแต่ต้น แต่ความจริงเพื่อไปกำกับหนังของตัวเอง

“อืม...ไหมก็ยินกิตติศัพท์ของอีตาหมอนี่มานาน เขาเป็นมือวางอันดับหนึ่งนี่นะ ปีที่แล้วก็กวาดรางวัลจนตู้ที่บ้านไม่มีที่เก็บแล้วมั้ง”

“เก่งแต่ทำตัวเฮงซวยแบบนี้ก็ไม่ไหวอ่ะ ความจริงนุชก็เข้าใจเจ๊อ้อยแกนะ จะด่าว่ามากก็ไม่ได้ มันต้องพึ่งพิงกันอยู่ อีกอย่างตานี่มันแพรวพราว ให้สัมภาษณ์นิดเดียวคดีพลิกกลายเป็นผู้ใหญ่รังแกเด็กไปนู่น”

“วงการนี้มันอยู่ยากนะ บางทีคนไม่จริงใจกลับได้ดีมีชื่อเสียง ยิ่งทนงตนว่าเจ๋งเป็นที่หนึ่ง ใครๆก็ต้องมาง้อก็ยิ่งทำตัวเป็นพ่อศิลปินมีปัญหา” สองสาวปรับทุกข์กันระงม

“พ่อถึงได้เลิกไง วงการมายาชื่อมันก็บอกอยู่แล้ว นี่ขนาดว่านุชทำงานที่เกี่ยวข้องกับมนุษย์น้อยถึงน้อยกว่าแล้วนะ ยังไม่วายต้องปวดหัว”

“นุชก็ปฏิเสธเจ๊ไม่ได้เหรอ บอกว่าคิวมันชนกับเจ้าใหม่”

“บอกไปแล้ว ทีแรกนุชก็ยืนกรานจะไม่ช่วย ใครจะไปเชื่อว่าหญิงแกร่งเจ้าแม่ของวงการจะร่ำไห้ออกมา เจ๊อ้อยแกบอกว่าเรื่องนี้ก็เข้าเนื้อขาดทุนยับเยินมาเรื่องหนึ่งแล้ว จะไปหาคนเขียนบทคนอื่นก็ไม่มีใครรู้ใจเท่านุช ผู้กำกับเองก็งอแง  แล้วเราจะใจร้ายกับผู้มีบุญคุณที่โอบอุ้มกระเตงกันมารึ?”

ไหมเงินทำได้แต่รับฟังอย่างเข้าใจ ในเมื่อวิธีบอกปัดไม่ได้ผลก็ต้องก้มหน้าก้มตาทำกันไป มีงานเสียยังดีกว่าเป็นศิลปินไส้แห้ง ไม่มีใครตายเพราะทำงาน มีแต่คนจะอดตายเพราะไม่มีงาน

“แต่ว่าการเขียนบทต่อจากคนอื่นนี่ไม่สนุกเลยนะ” ไหมเงินมองไปข้างหน้า เห็นงานหินยิ่งกว่าเข็นครกขึ้นเอเวอร์เรสต์ที่รออยู่ของญาติสนิทก็ให้นึกห่วงยิ่ง น้องนุชถอนหายใจยาว พยายามมีสมาธิ เวลานี้หัวครีเอทเป็นสิ่งสำคัญที่สุด เธอนึกถึงพ่อผู้มากประสบการณ์ที่อาจจะให้คำแนะนำดีๆ แต่ป่านนี้คงน่าจะหลับไปแล้ว ขวัญข้าวก็ได้แต่มองดูผู้ใหญ่ปรึกษากัน ไหมเลี้ยวรถเข้าคอนโดเข้าที่จอดประจำ ทั้งหมดลงจากรถและเตรียมจะเดินขึ้นห้อง

“แล้วจะเอายังไงกันต่อ?” เจ้าของห้องถามลูกพี่ลูกน้องมือก็คว้าเอากุญแจมาเปิดประตู น้องนุชเดินตามเข้ามาพร้อมกับสาวผมยุ่งที่ช่วยหอบหิ้วกระเป๋าเอกสารสองใบใหญ่จนตัวเอน

“ก็ต้องเริ่มงานเลย เวลามันงวดเข้ามาแล้ว” นักเขียนบทมือเทพตอบ แม้น้ำเสียงจะดูเหนื่อยหน่าย แต่แววตากลับมุ่งมั่น ไหมเงินเดินมาสวมกอดญาติสนิทพยายามปลอบและให้กำลังใจ

“ไหมจะช่วยนุชเอง ไม่ต้องห่วงนะ” สองสาวคลายอ้อมกอด น้องนุชถอดเสื้อคลุมออกโยนไปที่เตียง เหลือเพียงเสื้อกล้ามสายเดี่ยวสีขาว อวดอกอิ่มภายในเสื้อตัวจิ๋ว เห็นตัวเล็กๆแบบนี้แต่เธอซ่อนรูปไม่เบา นั่งลงที่โต๊ะทำงานเปิดคอมพิวเตอร์ เรียกให้ขวัญข้าวเอากระเป๋ามาให้ และหยิบบทละครตอนหนึ่งขึ้นมา บนหน้ากระดาษ a4 มีหมึกสีแดงขีดกากบาทเต็มหน้า สาวสวยพลิกดูจนจบพร้อมถอนหายใจอีกรอบ ก่อนจะยื่นให้ไหมเงินอ่านต่อ

“จากนี้ นุชคงต้องหอบหิ้วผ้าผ่อนมาอาศัยอยู่กับไหมแล้วล่ะ”

เจ้าของห้องพยักหน้า สายตากำลังสแกนบทอย่างรวดเร็ว เนื้อเรื่องก็ดูเข้าท่าดี แต่ทำไมผู้ใหญ่ของช่องไม่โอเคนะ ไวเท่าที่สมองอันปราดเปรื่องคิดได้ นักเขียนสาวคว้าดินสอและกระดาษเปล่ามาขีดเขียน

เวลาผ่านไปราวชั่วโมงเศษ ไหมเงินก็ยื่นกระดาษให้น้องนุชดู ญาติสนิทอ่านไปพลางตาก็ลุกวาว

“โห...พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือเลยอ่ะ ไหมอัจฉริยะจริงๆ”

“ไม่หรอก ไหมก็แค่สลับซีน ตัดเรื่องเอื่อยๆทิ้งไปแบบที่นุชบอกไง เปิดเรื่องมาก็วิ่งหนีไล่ล่าตัวเจ้าสาวกันเลย หลอกคนดูว่าเจ้าสาวถูกคนรักเก่าลักพาตัว แต่แท้จริงแล้วพระเอกลักพาตัวเจ้าสาวตัวเองเพื่อหนีการแต่งงาน ถ้านุชคิดว่าโอก็เอาไปเขียนต่อเลยนะ” ไหมเงินเล่าพล็อตยิ้มอย่างมีความสุข ขวัญข้าวเดินไปที่เครื่องทำกาแฟ แต่ก็เอียงหูฟัง

“โอหมดแหล่ะตอนนี้ แต่นุชแปลกใจอ่ะ ทำไมไหมเขียน ยูริไม่ได้แบบนี้? ติดตรงไหนเหรอ”

 คำถามนี้เล่นเอาเจ้าของห้องหุบยิ้มแทบไม่ทัน นั่นสินะ พอคิดถึงเรื่องราวของผู้หญิงที่ต้องมารักผู้หญิงแล้ว เหมือนเธอโดนดูดพลังความคิดไปจนหมดสิ้น ตอบกลับไปแบบเซ็งๆ

“ไม่รู้สิ...ยังบิวท์อารมณ์ไม่ได้มั้ง ก็ถ้ามันไม่ใช่จะกลับไปบอกคุณบอสว่าไม่ไหว”

“ไม่ได้นะ ยังไม่ได้สู้เลย จะยอมแพ้แล้วรึ?” น้องนุชพูดเสียงกร้าว เธอยังไม่เห็นว่าญาติสนิทจะใช้ความพยายามมากพอ ขวัญข้าวที่ก้มๆเงยๆอยู่ตรงเครื่องทำกาแฟ สะดุดหูเข้ากับคำว่านิยายยูริ จึงเดินมาใกล้ผู้อุปการะพร้อมกาแฟหอมกรุ่น

“พี่ไหมจะเขียนยูริเหรอคะ?” คนโดนถามหันมาจะต่อว่าที่แม่จอมยุ่งแทรกบทสนทนาของผู้ใหญ่ แต่เมื่อเห็นแก้วกาแฟที่มือเรียวๆยื่นมาให้ก็ว่าไม่ลง รับแก้วกาแฟมาจิบ ก่อนจะตอบกลับ

“อือ...รู้เรื่องกับเค้าด้วยเหรอ อย่าถามนะว่ายูริคืออะไร พี่เครียดอย่าเซ้าซี้นะขอร้อง” ขวัญข้าวยิ้มๆ เธอขออนุญาตเปิดโน๊ตบุ๊ค และเข้าเวบไซต์หนึ่ง มันเป็นเวบที่ให้นักเขียนทั้งสมัครเล่นและมืออาชีพ ได้เข้ามาโพสต์นิยายหลากหลายประเภท อันที่จริงนักเขียนสาวก็เคยเข้ามาที่แห่งนี้ออกบ่อย สมัยที่เธอยังโนเนมโนบอดี้ ขวัญข้าวคลิกเข้าไปที่หมวด   ญ-ญ คลิกไปที่เรื่องชื่อ ‘จอมขวัญฉันรักเธอ’ หน้าจอปรากฎนิยายเป็นตอนๆ มีคอมเมนต์จากผู้อ่านนับร้อยๆคอมเม้นท์

“พี่ไหม.. นี่เป็นเรื่องที่หนูเขียนไว้เกือบปีแล้วค่ะ ลงไว้ให้คนเข้ามาอ่านฟรี แต่ว่ายังไม่มีโอกาสได้ทำตอนจบเลย”

“ขะ...เขียนเอง? ให้อ่านฟรี?” ไหมเงินจ้องไปที่นัยน์ตาใสสลับกับหน้าจอมอนิเตอร์ ไม่เชื่อเด็กปั้นเรื่อง

“ค่ะ เวลาที่หนูว่างก็แอบๆพี่พรรณใช้คอมพิวเตอร์ของลุงมนัส แรกๆก็เขียนเล่นๆค่ะ แต่พอมีคนเริ่มตามเริ่มคอมเม้นท์ก็เลยติดลม จน...พี่พรรณแกจับได้ คิดว่าหนูแอบคุยกับผู้ชายแล้ว...” เล่ามาถึงตรงนี้ เสียงก็เริ่มสั่นเครือ จนไหมเงินต้องเบรคไว้ เธอเชื่อแล้วว่าทั้งหมดมันเป็นเรื่องจริง

“เอาล่ะๆ เดี๋ยวได้ฟังเรื่องโศกเสียน้ำตาเข้าอีก จะไปทำอะไรก็ไป หรือถ้าง่วงก็นอนซะ” ขวัญข้าวส่งถ้วยกาแฟอีกแก้วให้กับน้องนุชที่ประหลาดใจไม่แพ้กัน

“เก่งจริงนะ ตัวเท่านี้” สาวผมยุ่งยิ้มแห้งรับคำชม ก่อนจะผละออกไปจากผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยไม่อยากรบกวนสมาธิ สาวรุ่นพูดขึ้นมาลอยๆ

“พี่ไหมลองดูนะคะ ที่นี่เขาเป็นแหล่งรวมงานเขียนยูริ เผื่อจะมีแรงบันดาลใจ”

จากนั้นไหมเงินก็ง่วนขลุกอยู่กับเวบไซต์แห่งนี้ เธอแอบอ่านเรื่องของสาวผมยุ่งอย่างเพลิดเพลิน แม้สำนวนจะง้องแง้งตามวัยตามท้องเรื่อง แต่การผูกเรื่องและเหตุผลก็ทำได้ดีทีเดียว ตาก็เหลือบมองสาวรุ่นเป็นระยะๆ ด้วยยังไม่เชื่อว่าจะเป็นเธอจริง เจ้าหนูจำไมนี่นะ จะอาจสามารถได้ถึงเพียงนี้




Create Date : 02 มิถุนายน 2558
Last Update : 2 มิถุนายน 2558 12:03:29 น. 0 comments
Counter : 579 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.