|
๑๖๗-อดีตที่ค่อย ๆ เลือนหายไป
ข่าวกำหนดพิธีแต่งงานของเพื่อนสาวคนสนิทของข้าพเจ้า มีมานานก่อนหน้านี้หลายเดือนแล้ว ก่อนที่ข้าพเจ้าและเธอผู้นั้นจะมาสนิทกันได้ ก็เป็นเรื่องราวความรักที่ยาวนานฝังใจมาก กว่าที่ข้าพเจ้าจะตัดใจยอมรับเขาในฐานะเพื่อนได้ ก็ใช้เวลาที่ผ่านมาหลายปีทีเดียว แต่อย่างน้อยเราก็ยังเป็นเพื่อนกัน เป็นเพื่อนที่สนิทกันมาก สามารถเล่าเรื่องราวทุกอย่างให้กันฟังได้เสมอ ๆ เมื่อต่างคนได้ประสบเรื่องราวทุกข์ใจ สิ่งนี้มันมีค่ามากกว่ากว่าการที่เราได้ครอบครองใครสักคนตลอดกาลอีก
แน่นอนมันถึงเวลาที่จะใช้คำพูดของเพื่อนพระเอกที่ว่า "เป็นเพื่อนกันนี่แหละดีที่สุด มาถึงวันนี้ข้าพเจ้าก็บอกกับตัวเองได้อย่างมั่นใจว่า เราเป็นเพื่อนกัน และยินดีที่เพื่อนได้เป็นฝั่งเป็นฝาคราวนี้ ข้าพเจ้ายินดีที่เธอได้เจอคนที่เหมาะสมที่จะดูแลกันไปทั้งชีวิต เธอก็ได้เจอคนที่มีค่าในสายตาของเธอไปแล้ว
แต่ข้าพเจ้าเองก็ได้พบได้เจอสิ่งที่มีค่ามากกว่านั้นอีก นั่นคือธรรมของพระพุทธเจ้า แม้เรื่องราวจะไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้เลย ระหว่างความสุขทางโลกกับความสุขทางธรรม มันเปรียบเทียบกันไม่ได้ แต่คนเรามักจะเอามาเปรียบเทียบกันอยู่เสมอ ๆ และมักจะมองความสุขแต่เพียงด้านเดียว นั่นคือการปรุงแต่งและสัมผัสจากภายนอก แต่ธรรมที่เป็นของละเอียดเป็นความสุขที่ไม่ได้เกิดจากการปรุงแต่งแต่อย่างใด ดังนั้นมันจึงเอามาเทียบกันไม่ได้ มันสวนทางกันกลับความเข้าใจและแรงปรารถนาทางโลกนั้น ๆ
ฉันเชื่อว่าทุกชีวิต ต้องเดินทางเข้าสู่นิพพานในสักวันข้างหน้า แต่ไม่ใช่วันนี้ เดือนนี้ หรือแม้กระทั่งชาตินี้ เธอคนนั้นกล่าวไว้ ซึ่งก็นานหลายปีแล้ว แต่มันยังจำคำพูดเหล่านั้นได้อยู่ เราโต้เถียงกันในเรื่องธรรมอย่างรุนแรงที่สุดเท่าที่เคยคบกันมา
ข้าพเจ้าไม่อาจจะพูดชักนำเธอได้อีกต่อไป ในเมื่อความเห็นของเธอนั้นเป็นเช่นนี้ ซึ่งก็นับว่ายังอุ่นใจอยู่บ้างที่ยังเห็นว่านิพพานมีจริง ซึ่งเธอก็คงจะได้มันในอนาคตกาลข้างหน้า ซึ่งไม่รู้ว่าอีกนานเท่าไหร่ ข้าพเจ้าก็ไม่อาจจะทำนายได้ แต่ในความเห็นของข้าพเจ้าแล้วมันต่างออกไป มันเข้มข้นกว่ามาก และปรารถนาการจบภพชาติ ในชาตินี้ แม้หนทางที่ว่านี้ ใครหลาย ๆ คนจะบอกว่า
"ประตูมันปิดไปแล้ว มรรค ผล นิพพาน ยุคนี้มันปิดไปแล้ว ไม่มีโปรโมชั่นของพระพุทธเจ้าอีกต่อไปแล้ว" ซึ่งใครจะว่าอย่างนั้นก็ตามทีเถอะครับ ตัวเราเองก็ยังดื้ออยู่และจะพิสูจน์ให้ได้ในชาตินี้
ซึ่งมีตรงกันข้ามกับเธอผู้นั้น ที่ปรารถนาการมีครอบครัว มีความสุขอยู่ตามอัตตภาพแบบที่มนุษย์โลกเขาทำกัน ไม่บ้าบิ่นหลุดโลกเหมือนข้าพเจ้า ซึ่งผู้อ่านหลาย ๆ คนคงคิดเช่นกัน
อีกอย่างหนึ่งเพศที่เป็นหญิงก็ลำบากพอสมควรในการปฏิบัติธรรมในขั้นปรมัตถบารมี หรือแบบเอาเป็นเอาตายในอนาคต (แต่ผู้หญิง ก็มีทำได้หลายคน) เช่นการออกธุดงด์ หรือ การอยู่ผู้เดียวในที่เปล่าเปลี่ยว รกร้าง ซึ่งก็เป็นเหตุผลที่สมควรแก่เหตุ แต่จะว่าไปข้าพเจ้าเองก็คิดไปข้างเดียว ใครเขาที่อยากจะทำอย่างนั้นกัน จึงเป็นเรื่องฟุ้งซ่านไปตามเหตุปัจจัย(+๕๕๕)
นี่เองเป็นอดีตที่ค่อย ๆ ลบเลือน เป็นอดีตที่เราเคยมีความรักกับใครสักคนแบบไม่ลืมหูลืมตา แต่บัดนี้มันได้กลับกลายมาเป็นความรักอีกประเภทหนึ่ง ความรักในการปรารถนาช่วยเหลือให้คนรอบข้างมีความสุขในภพชาติข้างหน้า แม้นิพพานเธอจะไม่ได้ปรารถนาในชาตินี้ แต่ก็ขอให้เธอได้สวรรค์ในชาติต่อไปก็เพียงพอแล้ว และหากธรรมที่เคยสนทนากัน มีโอกาสได้ติดแน่นอยู่ในสัญญาขันธ์บ้าง ภพหน้าฟ้าใหม่ก็ขอให้เธอได้ถึงซึ่งนิพพานเร็ว ๆ กัปป์* ด้วยเถอะครับ
Create Date : 20 มิถุนายน 2552 |
Last Update : 20 มิถุนายน 2552 19:52:59 น. |
|
13 comments
|
Counter : 618 Pageviews. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 20 มิถุนายน 2552 เวลา:20:33:37 น. |
|
|
|
โดย: CrackyDong วันที่: 20 มิถุนายน 2552 เวลา:21:40:10 น. |
|
|
|
โดย: kaoim วันที่: 20 มิถุนายน 2552 เวลา:21:40:43 น. |
|
|
|
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 20 มิถุนายน 2552 เวลา:22:23:35 น. |
|
|
|
โดย: กิ่งไม้ไทย วันที่: 20 มิถุนายน 2552 เวลา:22:38:10 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 มิถุนายน 2552 เวลา:7:49:48 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 21 มิถุนายน 2552 เวลา:10:16:24 น. |
|
|
|
โดย: กะก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 21 มิถุนายน 2552 เวลา:22:18:30 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 21 มิถุนายน 2552 เวลา:23:16:59 น. |
|
|
|
โดย: zeedhama วันที่: 22 มิถุนายน 2552 เวลา:7:13:23 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มิถุนายน 2552 เวลา:7:51:52 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มิถุนายน 2552 เวลา:11:08:12 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 22 มิถุนายน 2552 เวลา:20:11:08 น. |
|
|
|
| |
|
|
อวยพรให้เธอมีความสุขเถอะค่ะ
เชื่อว่า คุณอัสก็คงคิดเช่นนี้เหมือนกัน
ไม่ว่าความสุขทางโลกที่ไม่เบียดเบียนใคร
หรือ ความสุขทางธรรมที่ได้บรรลุแล้วในระดับนึง
มินว่ามันก็ดีทั้งนั้นอ่ะ นะคะ
ฝันดีค่ะ