|
๒๕๕-การก่อกวนของเสนามาร
ชายนักเดินทางยังคงก้าวเดินทางต่อไป เพื่อหวังไปให้ถึงดินแดนนิพพานตามที่หมายไว้ แต่ทว่าการเดินทางสายนี้นั้น มีสิ่งที่ทดสอบความตั้งใจรออยู่มากมาย ทุกครั้งที่เขาสามารถผ่านอุปสรรค หรือ รอดตายจากภัยอันตรายไปได้ คราวนั้นก็ยิ่งสร้างความร้อนใจให้กับเสนา อำมาตย์ของมาร ที่คอยขัดขวางการเดินทางของเขา
ณ สวรรค์ชั้นกามภพสูงสุด ซึ่งเป็นภพที่อยู่ที่อาศัยของเหล่ามารส่วนหนึ่ง ที่จริงแล้วก็มีเทพที่มีคุณธรรมสูงอาศัยอยู่ แต่ไม่ค่อยมีบทบาทมากนัก
"พวกท่านมีเหตุร้อนใจอันใดกัน...” หัวหน้ามารกล่าวกับสมุน
“มีขอรับ บนโลกมนุษย์ บุรุษผู้หนึ่งกำลังจะหลุดจากอำนาจ การครอบงำของพวกเราขอรับ” ลูกน้องคนสนิทรายงาน
“อำนาจธรรม นี้ยังไม่เสื่อมไปจากอีกหรือ พระพุทธเจ้าก็ปรินิพพานไปเสียนานแล้ว เหตุใดธรรมที่พระองค์ทรงตรัสจึงยังคงอยู่...”
“เหตุนั้นเพราะยังมีสมณผู้สอนธรรมอยู่ขอรับ” ลูกน้องมารตอบ
“เอาล่ะ ๆ พวกเราเป็นเผ่าพันธุ์แห่งมาร ผู้ครอบครองกามภพ รูปภพ ตั่งแต่โลกมนุษย์จนถึง พรหมโลกชั้นต้น ไม่มีเล่ห์กลใดจะหลอกล่อกิเลสของมนุษย์ ได้เก่งและดีเท่าพวกเราอีกแล้ว ไหนลองบอกข้าสิ บุรุษผู้นั้นเป็นใครกัน”หัวหน้ามารเปรย ลูกน้องมารอธิบาย ที่ไปที่มาของชายนักเดินทางให้หัวหน้ามารฟัง
“บุรุษผู้นี้รอดตายจากไฟบัลลัยกัลป์ แถมยังหนีรอดจากบ่วงที่พวกเราวางกับดักไว้ หลายต่อหลายคราว อีกทั้งยังรอดตายจากก้นหุบเหวมาได้อีก ” หลังจากนั้นหัวหน้ามารก็ใช้อตีตังสญาณ ย้อนอดีตกลับไปดูวาสนาของชายนักเดินทาง ย้อนหลังได้ถึง ๗ ชาติ ตามอำนาจที่พอจะทำได้
“บุรุษผู้นี้ อบรมบารมีมาพอควร แล้วยังเป็นอริคู่แค้นต่อ อำมาตย์มารผู้เป็นนายของพวกเราหลายต่อหลายชาติ ไม่ควรเลยที่เราจะปล่อยให้บุรุษนี้เดินทางได้อีกต่อไป สมุนแห่งข้าจงฟังไว้ กิเลสของมนุษย์นั้นมันฝังอยู่แน่นในสันดาน เราใช้ความสามารถหลอกล่อเพียงภายนอก ไม่อาจจะหวังผลได้เลย สำหรับบุรุษผู้สั่งสมบารมีมาเพียงนี้ วิธีที่จะสามารถหลอกล่อให้บุรุษผู้นี้หยุดการเดินทางได้ มีเพียงวิธีแห่งกามราคะเท่านั้น ไม่มีเครื่องร้อยรัดใดจะผูกใจบุรุษได้ดีเท่ากับ รูป เสียง กลิ่น รส แห่งสตีนารีอีกแล้ว
เหล่ามารเอย ฟังข้าอีกครั้ง บุรุษผู้นี้มีจุดอ่อนอยู่ที่สตีผู้หนึ่ง ผู้ที่ไฟบัลลัยกัลป์ครั้งนั้นพรากเธอไป จงตามเธอให้พบ และหาวิธีดลใจให้สองคนนี้ได้พบกันอีกครา เมื่อนั้นการเดินทางของบุรุษผู้นี้ก็จะพึงสิ้นสุดลง ” พูดจบหัวหน้ามารก็หัวเราะอย่างชอบใจ หากแต่ภายในใจเบื้องลึกนั้น เขากลับเตรียมการวางแผนที่ซับซ้อนมากกว่าไว้รองรับ หากแผนนารีตรึงใจไม่อาจจะสำเร็จได้
วันนี้ชายนักเดินทางเดินผ่านหุบเขาลูกหนึ่ง จิตใจที่เคยมั่นคงของเขากับรู้สึกหวั่นใจอย่างน่าประหลาด แสงสว่างสลัว ๆ ในตอนบ่ายคล้อย ทอดแสงผ่านใบไม้อันหนาทึบของป่าดงดิบ ช่วยเพิ่มบรรยากาศอันเงียบสงัดวังเวงให้กับจิตของเขาเป็นอย่างมาก เสียงหึ่ง ๆ คล้าย ๆ กับเสียงครางของอมนุษย์ดังมารอบทิศ ประหนึ่งดังมีสายตาของปิศาจคอยจับจ้องร้องข่มขู่อยู่
ชายนักเดินทางรู้สึกกลัวกับสภาพแวดล้อมที่ปรุงแต่งจิต ให้เกิดความหวาดกลัวเป็นที่สุด เบื้องหน้าของเขามีเงาของบางสิ่งบางอย่างกำลังเคลื่อนไหว มันกำลังพุ่งมาหาร่างของเขาอย่างรวดเร็ว และพุ่งเฉียดตัวของเรา ลอยขึ้นไปวนตามกิ่งไม้หลายรอบ จากนั้นก็วนกับมาหวังปะทะร่างของชายนักเดินทางอีกครั้ง
ชายนักเดินทางกระโดดหลบอย่างฉิวเฉียด เขาจำได้ว่าร่างสีดำนั้น คงเป็นวิญญาณของเจ้ากรรมนายเวร ที่ตามเขาตั่งแต่ครั้งที่รอดมาจากเหวลึกครั้งก่อน ซึ่งบัดนี้กลายเป็นเสนามารผู้มีฤทธิ์ ชายนักเดินทางพยายามข่มจิตให้เป็นสมาธิแล้วแผ่เมตตาอีกหลายครั้ง
แต่ทว่าวิญญาณนั้น มีหลายประเภท บางประเภทก็ไม่อาจจะรับกระแสแห่งความเมตตาได้ เพราะความอาฆาตแค้น ริษยา และอำนาจกรรมาบดบัง ทันใดนั้นความมืดมิดก็ปกคลุมฝืนป่าจนหมดสิ้น เหตุด้วยอำนาจแห่งเสนามาร จากนั้นก็บังเกิดลมพายุพัดกระหน่ำมาอย่างไม่มีทิศทาง ต้นไม้รอบ ๆ บิดเกรียวจนแทบจะยืนต้นไม่ไหว
จากนั้นก็มีเสียงขู่ก้องกังวาลดังก้องป่า จากเสนามาร
“บุรุษผู้เดินทาง เราขอเตือนเธอให้หยุดเดินทางเสียแต่เดี๋ยวนี้เถิด ไม่มีประโยชน์อันใดที่จะเดินทางต่อ นิพพานที่ท่านเสาะหานั้น ไม่มีอีกต่อไปแล้ว กลับหลังไปยังที่ที่เจ้าจากมาเถอะ ไม่เช่นนั้น เจ้าจะไม่มีชีวิตอยู่บนโลกอีกต่อไป ”
“ดูก่อนมาร เราเห็นท่านแล้ว เล่ห์กลอันใดที่ท่านหลอกล่อเรา เรารู้ทันท่านหมดแล้ว ขอท่านจงหลีกทางให้เราเถิดอย่าได้ก่อกวนเราอีกเลย” นักเดินทางตอบกลับ ทำให้สร้างความละอายต่อเสนามาร ซึ่งไม่สามารถหลอกชายนักเดินทางได้
'แม้บุรุษผู้นี้จะเป็นเพียงสาวกปรายแถว แต่ยังมีอานุภาพแห่งญาณทัศนะถึงเพียงนี้ การใช้กำลังบังคับคงไม่สำเร็จอย่างที่หัวหน้ามารเรากล่าวไว้ ...ฮึ ๆ ๆ ๆ เอาเถอะ วันนี้เราคงต้องปล่อยบุรุษผู้นี้ไปก่อน รอเวลาในกาลข้างหน้าเป็นตัวตัดสินดีกว่า...' เสนามารนึก
-จบ-
มารนั้นมีอยู่หลายประเภท เช่น กิเลสมาร ขันธมาร อภิสังขารมาร เทวปุตตมาร มัจจุมาร แต่มารที่น่ากลัวคือ กิเลสมาร เพราะมันได้ฝังแน่นอยู่ในจิตของสัตว์ทั้งหลาย ไม่เว้นแม้นักบวช หรือ โจรชั่ว นอกจากพระอริยบุคคล ชั้น อนาคามี เป็นต้นไป จึงจะพ้นวิสัยแห่งมารไปได้
ขอขอบคุณ รูปภาพงาม ๆ จาก
//img.winner.co.thมากมาย ครับ
Create Date : 13 กรกฎาคม 2553 |
Last Update : 13 กรกฎาคม 2553 8:27:25 น. |
|
15 comments
|
Counter : 920 Pageviews. |
|
|
|
โดย: lee sonchot IP: 116.197.196.7 วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:12:57:14 น. |
|
|
|
โดย: Nissan_n วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:44:56 น. |
|
|
|
โดย: ชาดี (shadee829 ) วันที่: 13 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:10:39 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 14 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:44:07 น. |
|
|
|
โดย: PU IP: 124.120.115.80 วันที่: 14 กรกฎาคม 2553 เวลา:13:50:44 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 15 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:21:05 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 17 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:54:18 น. |
|
|
|
โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 17 กรกฎาคม 2553 เวลา:17:39:41 น. |
|
|
|
โดย: มินทิวา วันที่: 18 กรกฎาคม 2553 เวลา:8:02:22 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 20 กรกฎาคม 2553 เวลา:15:48:45 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 21 กรกฎาคม 2553 เวลา:7:30:52 น. |
|
|
|
| |
|
|
นึกว่าจะหลอนเหมือนของฉันซะอีก
"ธรรมะ..........ขี้โม้ 3.0"
//www.pantip.com/tech/coffee/topic/JX2927247/JX2927247.html