ปรางค์วัดจุฬามณี อำเภอเมือง พิษณุโลก
ได้ไปใหม่ หยิบมาเขียนใหม่ในอีกมุมมองขององค์ความรู้ที่ค้นมาได้นะคะ
พบโดย เสด็จลูกยาเธอ เจ้าฟ้ากรมขุนลพบุรีราเมศวร ในรัชกาลที่ 5 เมื่อเสด็จตรวจราชการมณฑลฝ่ายเหนือ
พบวัดจุฬามณีเป็นวัดร้างพร้อมทั้งพบศิลาจารึกหลังมณฑป เป็นจารึก พ.ศ. 2222 สมัยสมเด็จพระนารายณ์
ที่ได้ทรงให้ทาบรอยพระพุทธบาทไปประดิษฐานที่วัดจุฬามณี
และจารึกไว้ที่มณฑปพระพุทธบาทจำลอง - จารึกวัดจุฬามณี
ใจความว่า
พ.ศ. 2007 สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถโปรดให้สร้างวัดจุฬามณี ที่จะเสด็จออกทรงมหาภิเนกษกรม
พญาล้านช้าง พญาล้านนา พญาหงษาวดี ชมพระราชศรัทธาจึงแต่งเครื่องอัฐบริขารมาถวาย
พ.ศ. 2008 เดือน 8 ขึ้น 14 ค่ำ สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ ได้ให้พระสงฆ์บวชเป็นแบบก่อน 5 รูป ( ? ปัญจวัคคีย์ ) แล้วท่านจึงบวชตาม
แล้วบรรจุพระเกษาที่ตัดไว้ในเจดีย์วัดจุฬามณี
มีข้าราชบริพาร ตามเสด็จออกบวชถึง 2,348 รูป บวชอยู่ได้ 8 เดือน 15 วันก็ได้ลาผนวช
เพิ่มเติมข้อน่าคิดดังนี้
เครื่องอัฐบริขาร คือเครื่องใช้ที่จำเป็นของพระภิกษู
ได้แก่ สบง (ผ้านุ่ง) จีวร (ผ้าห่ม) สังฆาฏิ (ผ้าซ้อน) บาตร มีดโกน เข็ม ประคดเอว ธมกรก (ที่กรองน้ำ)
เดือน 8 หมายถึง อาสาฬห
วันเพ็ญเดือน 8 และถือเป็นวันที่มีพระรัตนตรัยครบบริบูรณ์ คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์
เจดีย์จุฬามณีเป็นเจดีย์ที่บรรจุพระเกษาพระพุทธเจ้าที่พระอินทร์ได้นำไปบรรจุในเจดีย์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์
"วัดจึงชื่อว่าจุฬามณี"
มณฑปพระพุทธบาท
สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถทรงเป็นพระโอรสของเจ้าสามพระยา และพระราชธิดาของพระมหาธรรมราชา ไม่แน่ใจว่า ที่ 2 หรือ 3 แห่งสุโขทัย
จึงมีเชื้อสายสุพรรณภูมิ และสุโขทัย
ตอนนั้น สุโขทัยเป็นเมืองในกำกับของอยุธยาเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ขุนหลวงพงั่ว
เมื่อสมเด็จพระบรมไตรโลกนาถพระชนมายุได้ 15 พรรษา ได้ไปครองเมืองพิษณุโลก - เมืองหน้าด่านทางเหนือของอยุธยา
ได้สัญญากับยุษธิษฐิระเจ้าเมืองเชลียงว่า หากขึ้นครองราชย์แล้วจะตั้งยุทธิษฐิระเป็นเจ้าครองเมืองสุโขทัย
แต่เมื่อขึ้นครองราชย์กลับแต่งตั้งให้เป็นพระยาสองแคว ครองเมืองพิษณุโลก ทำให้ยุษธิษฐิระไม่พอใจ
จึงลอบส่งสารไปทูลพระเจ้าติโลกราช ขอขึ้นกับเมืองเชียงใหม่
พระเจ้าติโลกตีได้เมืองสุโขทัย
พระเจ้าติโลกราชจึงส่งหมื่นด้งมาคุมเมืองเชลียง หรือล้านนาเรียกเชียงชื่น
แล้วให้ยุทธิษฐิระไปครองเมืองภูคาและครองเมืองพะเยา
ควบคุมเมืองแพร่กับเมืองน่าน - ควบคุมเส้นทางในแม่น้ำยม และแม่น้ำน่าน
สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ จึงยกทัพมาที่เมืองพิษณุโลกเพื่อทำสงครามกับล้านนาเพื่อแย่งเมืองคืน
ได้สร้างวัดจุฬามณี เพื่อบวช แล้วจะขอบิณฑบาตเมืองเชลียง-เชียงชื่น คืนจากพระเจ้าติโลก
ตามรอยที่ พญาลิไทย เคบบวช และขอบิณฑบาตเมืองสุโขทัยจากพระรามาธิบดีที่ 1 ได้
แต่พระเจ้าติโลกไม่ให้
ในที่ราบลุ่มแม่น้ำภาคกลาง มีการนับถือศาสนาพุทธในวัฒนธรรมทวารวดี
จากจารึกศาลสูง หรือ ศาลพระกาฬหลักที่ 1 ระบุถึง พ.ศ. 1567
ซึ่งตรงกับสมัยพระเจ้าสูรยวรมันที่ 1 และเป็นเวลาหลังจากที่พระองค์ได้ชัยชนะเหนือมอญโบราญที่มีศูนย์กลางอยู่ที่เมืองลพบุรี หรือ ละโว้แล้ว
ในจารึกปรากฏคำว่ามหายานสถวิระ
สถวิรนิกายเป็นศาสนานิกายเถรวาทแบบทวารวดี , มหายานเป็นลัทธิมหายานและตันตระยานแบบเขมร
แสดงถึงอิทธิพลของศิลปะเขมรโบราณได้เข้ามาสู่ภาคกลางของไทย และปะปนของวัฒนธรรมทวารวดีมอญโบราณ
ก่อนการเข้ามาของศาสนาพุทธจากลังกา
ปรางค์เป็นภาษามอญ แปลว่า หอ
วัดที่สำคัญของเมืองลพบุรีหรือละโว้ ที่สำคัญศักดิ์สิทธิ์จนส่งผ่านให้อยูธยาตอนต้นคือ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุลพบุรี
ดังนั้นยุคแรกของอยุธยาจึงสร้างเจดีย์เป็นแบบปรางค์ได้แก่
วัดพุทไธศวรรย์ สร้างโดย สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 พระเจ้าอู่ทอง
วัดมหาธาตุ สร้างโดย สมเด็จพระบรมราชาธิราช ขุนหลวงพงั่ว
วัดราชบูรณะ สร้างโดยสมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 เจ้าสามพระยา
และ
วัดจุฬามณี สร้างโดย สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ
ปรางค์ประธานวัดจุฬามณี สร้างโดยศิลาแลง มีตรีมุขด้านหน้า - ตรีมุขคือมีมุขสามด้าน
เป็นปรางค์ฐานเตี้ย มีฐานลูกฟักซ้อนสองชั้น
ฐานบัวลูกฟัก คือ การประดับลวดบัวโดยคาดท้องไม้ เป็นแถบนูน ขอบสันของลวดบัว ปาดมุมมน ... ไม้ได้ชี้ในรูปดูออกไหมคะ
ปรางค์มีประตูหลอก 3 ด้าน บานประตูประดับลวดลายเทพพนมครึ่งตัวบนดอกบัว !!
มีเรือนธาตุเริ่มเอียงสอบเข้าไป - จุดเด่นปรางค์อยุธยาที่พัฒนาจากผนังเรือนธาตุตรงของปรางค์เขมร
มุมประธานใหญ่กว่ามุมบริวาร
ลวดลายปุนปั้นคล้ายพระศรีรัตนมหาธาตุลพบุรี - แสดงว่าวัดพระศรีรัตนมหาธาตุลพบุรียังมีความสำคัญอยู่
หน้าบันประดับใบระกา ยอดซุ้มเป็นพระพุทธรูปยืน
ปลายซุ้มกรอบหน้าบัน เป็นรูปพระนารายณ์ทรงครุฑยุดนาค 3 เศียร - แบบบายน
คุณหอมกรว่ามองไม่ออก ... เห็นพระบาทสองข้างกับชายจีวร
เลยไปค้นรูปด้านที่ยังเหลือเต็มองค์มาให้ค่ะ
ลวดลายปูนปั้นประดับปรางค์
บัวฟันยักษ์สลับนิยมลายเทพพนมครึ่งตัวบนดอกบัว !!
ลายเทพพนมครึ่งตัวบนดอกบัวเพิ่งปรากฎครั้งแรกในสมัยนี้
กนกวงโค้งเป็นกนกมากกว่า
อุบะพวงสด - อุบะคล้องรอบปรางค์เหมือนเขมร แต่ดอกไม้เป็นแบบจีน
ลวดลายด้านล่าง
หงส์และลายดอกซีกดอกซ้อน
หงอนเป็นกนก กรองศอ หางเป็นกนกสองตัว
ไปเยือนวัดนี้เมื่อ 25-9-2555 และ 17-6-2563
จึงเก็บภาพรวมทั้งสองครั้งมาฝาก
หอพระพุทธบาท ยามใกล้ค่ำ ก่อนฝนตกหนัก ต้องรีบกลับ
มื้อเย็นที่ครัวเจ๊โชค
Create Date : 30 มิถุนายน 2563 |
Last Update : 1 กรกฎาคม 2563 6:46:28 น. |
|
20 comments
|
Counter : 1553 Pageviews. |
|
|
|
|
ผู้โหวตบล็อกนี้... |
คุณหอมกร, คุณInsignia_Museum, คุณคนผ่านทางมาเจอ, คุณทนายอ้วน, คุณnonnoiGiwGiw, คุณSleepless Sea, คุณภาวิดา คนบ้านป่า, คุณธนูคือลุงแอ็ด, คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณkatoy, คุณวลีลักษณา, คุณตะลีกีปัส, คุณกะว่าก๋า, คุณSweet_pills, คุณที่เห็นและเป็นมา, คุณสองแผ่นดิน, คุณ**mp5**, คุณKavanich96, คุณnewyorknurse |
โดย: หอมกร วันที่: 30 มิถุนายน 2563 เวลา:13:15:59 น. |
|
|
|
โดย: sunny-low วันที่: 30 มิถุนายน 2563 เวลา:14:35:41 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 30 มิถุนายน 2563 เวลา:14:45:25 น. |
|
|
|
โดย: วลีลักษณา วันที่: 30 มิถุนายน 2563 เวลา:21:53:24 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 30 มิถุนายน 2563 เวลา:22:10:19 น. |
|
|
|
โดย: Sweet_pills วันที่: 30 มิถุนายน 2563 เวลา:23:46:01 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กรกฎาคม 2563 เวลา:5:48:26 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 1 กรกฎาคม 2563 เวลา:7:03:52 น. |
|
|
|
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 1 กรกฎาคม 2563 เวลา:12:21:15 น. |
|
|
|
โดย: หอมกร วันที่: 1 กรกฎาคม 2563 เวลา:12:50:36 น. |
|
|
|
โดย: **mp5** วันที่: 1 กรกฎาคม 2563 เวลา:16:14:09 น. |
|
|
|
โดย: Kavanich96 วันที่: 2 กรกฎาคม 2563 เวลา:3:08:43 น. |
|
|
|
โดย: ตะลีกีปัส วันที่: 3 กรกฎาคม 2563 เวลา:14:14:07 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 7 กรกฎาคม 2563 เวลา:15:27:55 น. |
|
|
|
| |
พระพุทธรูปยืนเนี่ยมองไม่ออกเลยค่ะพี่ตุ๊ก