Group Blog
 
All blogs
 
Escape หนี

ลงเป็นตอนสุดท้ายแล้ว

ขอบคุณที่ติดตามอ่านนะคะ

.................................

รถอีโค-คาร์ของไหมเงินจอดอยู่หน้าบ้านซวยแล้วไหมล่ะ ขวัญข้าวเลิ่กลั่ก เธอไม่อยากจะเผชิญหน้ากับพี่สาวปากร้าย ณ เพลานี้เรื่องต่างๆมันกำลังจะไปได้สวยแล้วเชียว

“เอาไงดีคะพี่นุช” สาวผมยุ่งหันมาถามเอาทางหนีทีไล่ นักเขียนบทสาวใช้วิธีย้อนรอยกรรมอยากจะมาหาเราที่นี่ เราก็กลับไปที่เดิม

“ลางเนื้อชอบลางยาที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด” น้องนุชบอกเพียงเท่านั้นเพราะไม่มีเวลาพรรณา เธอตัดสินใจหักพวงมาลัยวนรถออกมาส่งขวัญข้าวลงที่หน้าปากซอยเรียกแท็กซี่ให้สาวน้อยกลับไปยังคอนโดของไหมเงิน

“พี่นุช...ไม่ไปไม่ได้เหรอคะเกิดพี่ไหมเปลี่ยนใจจะกลับคอนโดอีกหนูตายแน่ๆ” น้องนุชโบกแท็กซี่และบอกจุดหมายที่จะไปพยายามจะฉุดลากคนดิ้อดึงให้ขึ้นรถ แต่ขวัญข้าวงอแงจะไม่ยอมกลับไปคอนโดท่าเดียวจนน้องนุชต้องขึ้นเสียง

“อย่าโยกโย้ได้มั้ยแผนนี้ดีที่สุดแล้ว ก็เดี๋ยวพี่จะกลับไปนอนกับไหมไง รับรองยัยนั่นไม่กลับคอนโดหรอกอีกอย่างพี่ก็มีเรื่องการงานจะต้องคุยกับไหมด้วย คงทั้งคืน”สาวรุ่นจนด้วยเหตุผลจึงยอมขึ้นแท็กซี่ไป น้องนุชขึ้นรถเมื่อแท็กซี่ลับตาไปเธอกลับเข้าบ้านมา ก็เจอหน้าคนสงสัย ที่เต็มไปด้วยคำถามนั่งรออย่างร้อนรนอยู่ที่ห้องรับแขกนักเขียนบทสาวเจ้าของบ้านก็เอ่ยปากชิงตัดหน้าเสียก่อน

“ขอร้องนะอย่าเพิ่งโวยขอพักแปบ” ร่างเล็กนั่งพักที่โซฟาตามคำขอแต่ไหมเงินผู้ยึดตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลเสียอย่าง เจ้าหล่อนเคยรับรู้ความรู้สึกของคนอื่นเสียที่ไหนกัน

“โทรไปหาหลายรอบก็ไม่รับแถมยังปิดเครื่องใส่ถ้าเกิดไฟไหม้คอนโดป่านนี้ไหมคงโดนไฟครอกตายไปแล้ว” ญาติผู้พี่เปิดฉากโวยตามถนัดน้องนุชยิ้มเยาะตอกกลับไปดุเด็ดเผ็ดร้อนไม่แพ้กัน

“อ้าว!ตอนนี้ก็โดนไฟในทรวงมอดไหม้หัวใจอยู่มิใช่รึ?”

“ไม่ต้องมาเล่นคำเลยนี่ชีวิตจริงไม่อิงนิยาย” ไหมเปลี่ยนประเด็นทันทีที่โดนจี้ น้องนุชที่รู้ตัวดีว่าถือไพ่เหนือกว่ายันกายยืนขึ้นบอกจุดประสงค์ของตัวเอง

“เครๆนุชจะตอบคำถามไหมทุกข้อ แต่ขอให้นุชได้ปรึกษางานสำคัญกับไหมก่อน”ไหมเงินเมื่อฟังคำที่จริงจังดังนั้นก็ยินยอมแต่โดยดี เพราะมีบทเรียนสำคัญมาแล้วนุชเอาจริงแน่ๆ

“ว่ามา” ญาติผู้น้องเดินนำหน้าขึ้นไปยังห้องนอนส่วนตัวเดินไปก็บ่นไป

“เจ๊อ้อยแกเอาอีกแล้วขอให้เขียนบทเพิ่มอีก ไม่จบไม่สิ้นอ่ะ ไหมก็รู้นุชหมดมุกแล้ว”

“อือๆไม่ต้องห่วง เดี๋ยวจะช่วยคิดให้แล้วกัน” ไหมเงินเหมือนจะตอบไปส่งๆ แต่น้องนุชเข้าใจดีว่าเจ้าหล่อนไม่ได้พูดเป็นความหมายแบบนั้น

“ง่ายดายอย่างนั้นเลยเหรอ?” น้องนุชไม่เชื่อหูว่าทางออกของปัญหาแสนยากมันจะถูกแก้ไขไปได้มองหน้าไหมเงินที่ไม่ได้วิตกกังวลอย่างเดียวกันกับที่เธอรู้สึก

“ก็คนมันBorn to be แล้วจะเล่ามาได้ยัง” นักเขียนสาวเร่งเร้าเอาสิ่งที่ตัวต้องการสำหรับเธอแล้ว ณ ตอนนี้ เรื่องยัยผมยุ่งสำคัญที่สุด!

“จ้าแม่คนมีพรสวรรค์ขอนุชอาบน้ำก่อนได้มั้ย เหนียวตัวจะแย่” น้องนุชขอประวิงเวลาอีกสักนิดเธอยังไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจหาข้อแก้ต่างที่สมเหตุสมผลได้ โกหกเอากับคนเขียนนิยายสืบสวนสอบสวนนี่ยากเอาการสาวสวยผลัดผ้า นุ่งกระโจมอกและเดินเข้าห้องน้ำไปแบบหนักใจทั้งเรื่องการงานเรื่องการสวมบทเป็นคนกลางที่เธอเองก็ไม่ค่อยอยากจะข้องเกี่ยวเท่าไหร่แต่ตอนนี้มันก็ติดร่างแห ติดหล่มเสียจนยากจะถอนตัวแล้ว แล้วไหนจะเรื่องคุณบอสยอดรักที่ชักจะรักไม่ลงเสียแล้ว...

ขวัญข้าวลงจากแท็กซี่เมื่อถึงปลายทางเธอต้องตกใจซ้ำสอง เพราะเห็นแฟนสาวของพี่ไหมมาด้อมๆมองๆอยู่หน้าตึกสาวผมยุ่งรีบหลบมุมเป็นอัตโนมัติ

“ทำอะไรครับคุณ” พนักงานรักษาความปลอดภัยของโครงการเดินเข้ามาถามด้วยเพราะเห็นว่าสาวสวยวัยทีนมีท่าทีพิรุธต้องสงสัยอีกทั้งยังไม่คุ้นหน้าค่าตาว่าจะเป็นผู้พักอาศัยของที่นี่

“อ๋อ..หาของน่ะค่ะ”สาวรุ่นยังไม่แจ้งใจ เพราะสมาธิตอนนี้จดจ่ออยู่กับการหลบหน้าแฟนสาวของอดีตผู้อุปการะเท่านั้น เธอได้แต่ตอบส่งๆไป

“ให้ช่วยมั้ยครับ” พนักงานรักษาความปลอดภัยวัยใกล้เกษียณยังคลางแคลงเขาต้องเฝ้าระวัง ด้วยเพราะเป็นหน้าที่ หากบกพร่อง ไม่เพียงแต่จะกระทบกับความปลอดภัยของผู้อยู่อาศัยทั้งยังสั่นคลอนหน้าที่การงาน สุ่มเสี่ยงที่จะต้องโดนเฉดหัวแล้ววัยอย่างเขาจะไปหางานอื่นได้ง่ายเสียที่ไหนกันขวัญข้าวเริ่มเฉลียวใจว่าตัวคงเป็นคนแปลกหน้า และยังมาทำลับๆล่อๆชวนสงสัยเช่นนี้เธอจึงยืนขึ้นและสนทนากับลุงยามอย่างจริงจัง

“ไม่เป็นไรค่ะ”ขวัญข้าวตอบปฏิเสธพร้อมทั้งล้วงกระเป๋าหยิบคีย์การ์ดโชว์ให้ลุงยามดูพร้อมทั้ง ยื่นเศษสตางค์ราวยี่สิบบาทที่ได้รับทอนมาจากพี่แท็กซี่จนหมดชายแก่คนนั้นรับมา ยกมือไหว้แล้วจึงเดินจากไป ขวัญข้าวโล่งอกทำไมชีวิตเธอต้องมาเจอเรื่องตื่นเต้นแล้วก็ต้องหลบๆซ่อนๆแบบนี้ด้วย สาวรุ่นนั่งลงอยู่ในท่วงท่าเดิมหลบอยู่อย่างนั้นราวสิบนาทีน้องยุงก็แสนใจร้ายเหลือ เกือบจะหามเธอเอาไปเสียแล้ว พอเห็นว่าสาวร่างกะทัดรัดไม่น่าจะรอคอยคนที่อยากเจอขวัญข้าวก็ยันกายขึ้น เตรียมจะเดินเข้าตึกไป

อีกแล้ว!!ใครจะไปคาดคิด โชคร้ายกำลังสามเมื่อพี่สุก็คนเดียวกับช่างที่จัดแต่งทรงผมให้เธอนั่น ร้องเรียกเธอมาจากด้านหลัง

“อ้าวน้องขวัญใช่มั้ยมาทำอะไรตรงนี้จ๊ะ แล้วน้องไหมกับน้องนุชไม่ได้มาด้วยเหรอ”สาวรุ่นได้แต่ยืนเก้ๆกังๆ ยกมือไหว้ทักทาย แต่ก็คิดคำตอบในสถานการณ์ฉุกละหุกไม่ทันเอาไงดีว้า

“อ๋อ คงกลับมาก่อนใช่มั้ยพี่ๆเขาคงเลิกงานกันดึกดื่นล่ะสิ มานั่งเล่นที่ร้านพี่ก่อนมั้ยคะเผื่อจะได้ทำผมด้วย” เจ้าของร้านเสริมสวยออกปากเชิญชวนลูกค้าก็วันนี้ร้านมันเงียบเหงาลูกค้าไม่รู้หายไปไหนกันโหม้ด สาวผมยุ่งใจก็อยากจะปฏิเสธแต่ถ้าบอกปัดไปอย่างนั้นมันจะเป็นการแสดงพิรุธเอาได้เธอปล่อยให้เรื่องมันเลยตามเลย ตามน้ำ เดินตามเจ้าของร้านไปอย่างเสียไม่ได้คิดผิดหรือเปล่าน้อเรา? พี่สุเจ้าของร้านคะยั้นคะยอให้สาวรุ่นสระไดร์แต่เธอก็บ่ายเบี่ยง สุดท้ายมาจบตรงที่ทำเล็บก็แล้วกัน

“เป็นอะไรหรือเปล่าจ๊ะ ถามคำสิบคำตอบครึ่งคำไม่ชอบหน้าพี่เหรอ” พี่สุเห็นว่าขวัญข้าวแปลกไปจากครั้งก่อนเพราะวันนั้นแม่สาวผมยุ่งเจื้อยแจ้วจำนรรจา เสียจนลิงหลับแต่ไหงวันนี้เธอหลับแทนลิง?

“ปะ..เปล่าค่ะ หนูไม่ค่อยสบาย” สาวรุ่นตอบนั่งให้พี่สุทำเล็บสีสันสดสวย เจ้าของร้านเห็นดังนั้นก็ไม่เซ้าซี้ เพราะจุดประสงค์ของเธอสำเร็จแล้ว

หลังจากทำเล็บเสร็จขวัญข้าวก็ขอแยกขึ้นตึกมา ได้แต่หวังว่าจะไม่เจอใครให้หัวใจตกหล่นอีก นั่นสินะจะเจอใครไปได้นอกจากเจ้าของห้อ!! ซึ่งหากเป็นอย่างนั้น ไม่เพียงหัวใจที่จะตกหล่นแต่เธอคงโดนผลักตกตึกเสียมากกว่า คนระแวงคิดเตลิดไปไกลเดินออกจากลิฟต์และไขประตูห้อง ทันทีที่ประตูเปิดออก ก็เผยให้เห็นสภาพเดิมๆนับจากวันนั้นที่เธอก้าวออกมา ข้าวของที่กระจัดกระจายด้วยน้ำมือน้อยๆและอารมณ์ร้ายๆของตน ยังคงระเกะระกะอยู่อย่างนั้น สาวรุ่นก้มตัวลง น้ำตาไหลรินด้วยคิดถึงเจ้าของห้องเป็นที่สุด ในใจก็รู้สึกผิดแต่ขอให้เธอขยับขยายหาที่อยู่ให้ได้เสียก่อนจากนั้นค่อยกลับมาขอขมาในสิ่งที่ทำลงไป

ขวัญข้าวอยากจะเก็บของให้เข้าที่แต่ก็นึกขึ้นได้ว่าหากทำอย่างนั้น ประเดี๋ยวจะโดนจับได้ ก็ได้แต่ปล่อยให้มันเป็นอยู่อย่างนั้นร่างเล็กอาบน้ำชำระล้างร่างกายเพื่อเติมความสดชื่น กายสาวพอได้พักได้น้ำก็ฟื้นตัวได้ในไม่ช้านานแต่เป็นจิตใจที่ห่อเหี่ยวดวงน้อยดวงนี้เสียมากกว่า ที่ยังคงต้องการการรักษาเยียวยา...

น้องนุชประวิงเวลาไปเรื่อยๆอ้อยอิ่งแช่น้ำสบายเฉิบเนิบนาบ จนไหมเงินที่อยู่ในอาการเหมือนแมกม่าก่อตัวดั่งภูเขาไฟใกล้ระเบิดอดรนทนรอต่อไปไม่ไหวขืนรออีกชั่วสองสามลมหายใจ ลาวาได้ล้นทะลักออกมาแน่ๆ

“ปังปัง ปัง” มือน้อยๆเคาะบานประตูร้องเรียกลูกพี่ลูกน้องขี้แกล้ง

“นุชใจคอจะถ่วงเวลาแกล้งกันให้ไหมขาดใจตายใช่มั้ย ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”

“เครๆจะออกไปเดี๋ยวนี้แหล่ะ หัดทำใจร่มๆซะบ้างสิ ไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ” เจ้าของห้องเปิดประตูพรวดนุ่งกระโจมอกออกมาที่หัวก็มีผ้าเช็ดผมโพกอยู่ ร่างเล็กแต่ซ่อนรูปเดินมานั่งที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง และหันมาเริ่มต้นบทสนทนาที่แสนยากกับญาติสนิท

“เด็กมันได้งานเป็นพริตตี้ไหมไม่ต้องห่วง ไม่มีอะไรเกินเลยกว่านั้น”

“แต่งตัวล่อเสือล่อตะเข้ขนาดนั้นเนี่ยนะไม่มีอะไรต่อ อมพระประธานทั้งตำบลมาพูดไหมก็ไม่เชื่อ แล้วนุชไปเจอยัยตัวแสบได้ยังไงไหมอยากฟังอย่างละเอียดเอาช้าๆชัดๆ ไม่ใช่ห้วนเป็นมะนาวไม่มีน้ำแบบนี้”ไหมเงินไม่พึงใจกับคำตอบที่สั้นมากๆในความรู้สึก ขอร้องญาติสนิทให้ขยายความน้องนุชขยับกระโจมอกครั้งหนึ่งก่อนจะต่อความ

“น้องมันมาขอความช่วยเหลือยืมตังค์ไปเช่าชุด นุชก็พาไป พอลองสวมเข้าก็ถ่ายรูปมาให้ดู แค่นั้น” แค่นั้นที่เธอคิดเรื่องได้ โกหกมากยิ่งพูดมากประเดี๋ยวจะลืมก็อย่างที่รู้ คนตรงหน้าคือ อกาธา คริสตี้เมืองไทย

“นุชกำลังปิดอะไรไหมอยู่หรือเปล่าแต่ช่างเถอะ ไหมก็อาจจะแค่ห่วงเอาเด็กเหลือขอที่เขาไม่ได้ต้องการ หรือแม้กระทั่งรับรู้เสียด้วยซ้ำ” ร่างเล็กเริ่มจะปลดปลงแม้น้ำเสียงจะเป็นเหมือนตัดพ้อ แต่รูปประโยคมันคือการถากถางตามความเคยชินชัดๆ

“ไหม ใจเย็นหน่อยสิก็ต่างคนต่างร้อนแบบนี้เมื่อไหร่จะปรับความเข้าใจกันได้ ฟังนุชนะเด็กอย่างขวัญข้าวเป็นเด็กที่มีความเป็นตัวของตัวเองสูงมากอาจจะเป็นเพราะต้องปากกัดตีนถีบ ต่อสู้มาด้วยตัวคนเดียวลำพังตั้งแต่ยังเล็กไหมลองนึกสภาพที่น้องเจอมาในสถานเลี้ยงดูเด็กกำพร้านั่น มันน่าอภิรมย์หรือไร แต่อาจจะด้วยเป็นเพราะอะไรก็ตามแต่ไหมต้องทำตัวให้เป็นน้ำเย็น หล่อเลี้ยงชะโลมใจเธอ ไม่ใช่เป็นน้ำร้อนราดรดแบบนี้” น้องนุชหวังว่าคำแนะนำของตัวจะเป็นที่ให้ญาติสาวฉุกคิดปรับทัศนคติและอารมณ์ร้ายๆร้อนๆลงได้บ้าง ไหมก็ใช่ว่าจะไม่รู้ตัวแต่คนมันเป็นแบบนี้ ไม้แก่แล้วด้วย เรื่องอะไรที่เธอจะต้องเป็นน้ำเย็นปรับเปลี่ยนเข้าหาสาวรุ่น

“ก็มันอดไม่ได้นี่ทั้งอยากแกล้งแล้วก็อยากเคี่ยวเข็ญให้เป็นคนดีปากร้ายไปบ้างจะทนฟังไม่ได้เชียวหรือ” นักเขียนนามอุโฆษแก้ตัวไปตามเรื่องใครจะยอมรับว่าตัวนั้นแหล่ะที่ผิด

“ไม่มีใครอยากฟังคำดุด่าหรอกเขาก็อยากฟังคำหวานหูทั้งสามโลก ไหมเองก็มีวาทศิลป์นี่ รู้จักเอามาใช้เสียบ้างซีปราบเด็กขวัญน่ะไม่ยากหรอกขี้ปะติ๋ว แค่ไหมปรามหัวใจตัวเองให้ได้เสียก่อน” สาวร่างเล็กยิงตรงประเด็นนี่แหล่ะที่น้องนุชเป็นกังวลยิ่งเพราะไหมเงินนั้นรั้นเสียยิ่งกว่าขวัญข้าวไม่รู้กี่พันล้านเท่า

“จะพยายามแล้วกันไหมจะกลับคอนโดแล้ว” พอรู้ว่าตัวเองเถียงสู้น้องนุชไม่ได้ก็หาเรื่องจะจากไปญาติผู้น้อง อารามตกใจ เพราะมันผิดแผนขืนไหมเงินกลับไปขวัญข้าวโดนเชือดหมกส้วมแน่ๆ

“ไม่ได้!” ร่างเล็กเผลอตะโกนสุดเสียงจนไหมเงินแปลกใจกับท่าทีสุดแสนประหลาด น้องนุชพอฉุกคิดได้ก็รีบแก้ต่างแก้ตัวพัลวัน

“ก็..ก็ไหมยังไม่ได้คิดงานให้นุชเลยอย่าเบี้ยวนะ นุชจนปัญญา จนทางแล้วจริงๆ” รอดไปเธองัดเอาเหตุผลข้อนี้มาใช้ได้ทันท่วงที นักเขียนสาวถอดแว่นหนาของตัววางไว้ที่โต๊ะเขียนหนังสือคล้ายเป็นสัญญาณว่าให้น้องนุชตอบอย่างเปิดอกหมดเปลือก

“ตอบคำถามอีกข้อเดียวแล้วจะลงมือช่วยละ” ไหมเงินตั้งคำถามสำคัญ มันเป็นคำถามที่น้องนุชรู้ดีว่าคืออะไรนักเขียนบทสาวชิงตอบเอาเสียก่อน

“คุณบอสจีบนุชหนักมาก..แต่นุชรู้ว่าเขาจะใช้นุชเป็นแค่หมากตัวหนึ่งบนกระดานธุรกิจของเขา” น้องนุชอ่านใจเจ้านายของญาติสาวเธอแน่ใจแล้วว่าคมเดชน์คิดเอากับเธอแบบนั้น

“เหนืออื่นใดเขาเป็นเกย์”ไหมเงินยังฝังใจยืนยันถึงประเด็นนี้ น้องนุชไม่อยากจะพูดถึงมันอีกถลันตัวขึ้นมาจะผลัดผ้า เป็นไหมเงินที่ยังซักไซ้ต่อ

“แล้วจะยอมให้เขาใช้เอาหรือ?”

“ไม่รู้สิไม่อยากจะยอม แต่ก็มีความสุขที่ได้อยู่ใกล้เขา” นักเขียนบทสาวสารภาพ ก็หมากมันยังอยู่ในกระดานจะออกมาเองก็ใช่เรื่อง

“รัก?” ไหมเงินรุกเร้าเอาคำตอบสำคัญเธอกลัวน้องนุชจะเจ็บช้ำ อกหักกับใครไม่ว่า มาโดนเอากับคนใกล้ตัว อีตา บอส ผู้ดีจอมแอ๊บนี่เธอรับไม่ได้

“ยังแต่อีกไม่นานคงไม่รอดอ่ะ นี่ก็ว่าจะหลบหน้าแล้ว ถ้าไม่ติดว่า เอ่อ ไม่มีอะไร” น้องนุชก็รู้สถานกาณ์หัวใจที่ง่อนแง่นของตนดีเกือบพลั้งปากเรื่องของขวัญข้าวไป ดีที่เบรคไว้ทันท่วงที

“ก็ถ้าเล่าแบบกั๊กๆน้ำตาเช็ดหัวเข่าขึ้นมาไหมจะซ้ำเป็นคนแรก” ไหมเงินข่มขู่ตามถนัดเพราะรู้ว่าญาติผู้น้องยังมีเรื่องปิดบังเธออยู่ แม้จะเข้าใจไปว่าเป็นเรื่องของคมเดชน์

“เชิญเลยแม่ถ้าจะทำกันลง เอาๆ ว่าเรื่องของเรากันต่อดีกว่า”

“โดนอีตาบอสฟันเข้าแล้วใช่มั้ย”

“จะบ้าเหรอ! นุชไม่ได้เครซี่มากถึงขนาดสังเวยความจิ้นให้เขาหรอกนะ”คำพูดที่หนักแน่นยืนยันว่าเป็นเช่นนั้นจริงไหมเงินก็โล่งใจที่น้องนุชไม่ได้หน้ามืดตามัว ใจเร็วด่วนได้อย่างที่เธอกลัว

“ก็แล้วไปส่วนเรื่องงานตอนนี้ที่คิดออกมีวิธีเดียว... เล่าย้อน” ใช่เจ้านายลูกน้องช่างรู้ใจกันจริง นึกเข้าแล้วน้องนุชก็ขนลุกซู่คมเดชน์กลายเป็นคนที่น่ากลัวมากไปเสียแล้วสำหรับเธอคงถึงคราวแล้วกระมังที่จะต้องถอนตัวถอนใจ ร่างเล็กทอดถอนใจแรงและยาวจนตัวโยนเธอซุกเรื่องของหัวใจไว้ใต้พรม ก่อนที่จะเพ่งสมาธิตั้งอกตั้งใจทำงานอย่างน้อยๆก็ให้ปัญหาอีรุงตุงนังมันคลายไปได้สักเปราะหนึ่ง หลังจากแต่งตัวเสร็จสองสาวก็มานั่งๆนอนๆช่วยกันปรึกษาหารือจนกระทั่งงานคืบหน้าไปมาก

ขวัญข้าวออกมาจากคอนโดแต่เช้ามืดด้วยเพราะไม่อยากเจอหน้าคนมาเฝ้ารอพี่สาวปากร้าย ระหว่างที่นั่งแท็กซี่มาที่ออฟฟิศสาวผมยุ่งก็ปล่อยความคิดให้ล่องลอยคิดถึงเจ้าของห้องที่อาศัยหลับนอน อยากจะกลับไปดูแลผู้ที่ให้ชีวิตใหม่ดูห้องหับเข้าสินั่น ปล่อยไว้อีกไม่นานคงมีหนูและแมลงสาบมานอนเป็นเพื่อน แต่เธอเดินมาไกลพอสมควรแล้วและดูวี่แววว่าจะไปได้ดีเสียด้วยครั้นจะให้หันหลังกลับไปโดยที่ยังไม่ได้พิสูจน์ตัวเอง มันก็เหมือนคนเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อคิดได้ดังนั้นก็ให้เกิดมุมานะเป็นกำลังตั้งใจจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากคุณคมเดชน์อย่างสุดความสามารถ เมื่อถึงออฟฟิศสาวรุ่นก็ขึ้นมานั่งประจำการที่โต๊ะของตน พนักงานยังบางตาเพราะเธอมาถึงเช้ามากๆขวัญข้าวพลิกดูเอกสารบริษัท ตามที่คุณแต๋วสั่งเอาไว้ว่าให้ศึกษาให้เข้าใจเธอจดโน๊ตรายละเอียดสำคัญลงในสมุดลายน่ารักเล่มนั้น ที่พี่สาวซื้อให้ก่อนจะคิดได้ว่าควรจะเปลี่ยนชุดโป๊ๆนั่นให้เรียบร้อยก่อนที่คุณแต๋วจะเข้ามาเพื่อที่ได้จะไม่ฉุกละหุกดังเช่นวันวาน สาวรุ่นขึ้นลิฟท์ไปยังชั้นห้าในมือก็หอบถุงเสื้อผ้าติดไปด้วย เธอเดินออกมาที่ชั้นห้าบรรยากาศเงียบเชียบวังเวงก็เพราะยังไม่มีใครมาทำงานมีเพียงแต่พี่ผู้ชายคนหนึ่งนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่เพียงคนเดียวร่างเล็กยกมือไหว้ทักทายตามมารยาทและเป็นน้องนุชสุดท้องของบริษัทก่อนจะตรงมาที่ห้องแต่งตัว ด้วยความไม่ระมัดระวังหรือด้วยจะเป็นเพราะเคยชิน สาวรุ่นลืมปิดประตูลงกลอนอย่างที่พึงจะทำขวัญข้าวเปิดดูตู้เสื้อผ้า มองหาเสื้อสายเดี่ยวเสียวหลุดสีส้มที่คุณแต๋วสั่งไว้ว่าวันนี้ให้เปลี่ยนเป็นเสื้อตัวนี้ ส่วนกางเกงสั้นเสมอหูตัวเดิม เอ็มซีจำเป็นปลดเปลื้องชุดทำงานออกเริ่มจากส่วนบนและท่อนล่างจนร่างสาวเหลือแต่เพียงชุดชั้นในห่อหุ้มกายด้วยความรู้สึกว่าเหมือนมีคนแอบมองจากทางด้านหลัง สาวรุ่นจึงเอี้ยวตัวไปดูแต่ก็ไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ นอกจากประตูห้องที่เธอลืมปิดไว้แง้มออกอยู่ แน่ละก็จะมีใคร เราคงคิดมากไปเอง เธอจัดการเปลี่ยนชุดจนแล้วเสร็จมองดูตัวเองจากกระจกก็ยิ่งให้อาย เสื้อสายเดี่ยวตัวจิ๋วสีสันแสบตาแสบใจมันยิ่งขับอกคู่งามให้ตั้งเต้าลอยเด่นสาวรุ่นขยับซ้ายขวากระโดดขึ้นลงสองสามทีจนมั่นใจสุดๆแล้วว่าไม่โป๊ร่างกะทัดรัดมาหยุดยืนนิ่งหน้ากระจก ตั้งคำถามเอากับตัวเอง ‘นี่มันใช่เราจริงๆหรือแต่งตัวแบบนี้กลับไปมูลนิธิครูคงจำไม่ได้ หรือแม้กระทั่งพี่พรรณ มาเห็นเข้าเธอคงช๊อคอ่า’

ขวัญข้าวเดินออกมาจากห้องแต่งตัวเดินมากดลิฟท์เพื่อที่จะกลับไปยังโต๊ะของตน ขณะที่ประตูลิฟท์เปิดออกร่างเล็กก็สาวเท้าสวนเข้าไปโดยที่ไม่ทันได้สังเกตว่ามีกระทาชายอีกคนหนึ่งเดินแทรกกายเข้ามาในลิฟท์ที่ออกจะคับแคบ

“ขอพี่ไปด้วยคนนะครับ” เขาพูดขึ้นแต่สายตากลับโลมเลียไปยังเบื้องต่ำก็ขาอ่อนเรียวเล็กของสาวรุ่นมันช่างเย้ายวนชวนสัมผัส ขวัญข้าวยังไม่เท่าทันอาจจะเป็นเพราะคิดไปว่า ในสถานที่ทำงานที่แสนจะปลอดภัยมันจะไปเกิดเรื่องไม่ดีไม่งามขึ้นได้อย่างไรกันเรื่องนี้เป็นภัยใกล้ตัวที่สาวๆออฟฟิศมักจะละเลย เราเรียกพฤติกรรมลักษณะนี้ว่าเป็นsexual harassment ภัยคุกคามทางเพศและมักเกิดขึ้นได้บ่อยในสถานที่ทำงาน ในทุกสถานภาพความสัมพันธ์ไม่ว่าจะเป็นเจ้านายกับลูกน้อง หรือกระทั่งเพื่อนร่วมงาน การคุกคามทางเพศนี้เกิดได้หลายประเภทไล่ตั้งแต่อ่อนที่สุดคือการแอบมองส่วนเว้าส่วนโค้งการลวนลามทางสายตา การแอบถ้ำมองแอบถ่าย ไปจนถึงการบังคับปลุกปล้ำขืนใจ

“ชั้นไหนคะ” สาวรุ่นถามตามไปมารยาทเพราะเธอยืนอยู่ตรงปุ่มกด

“ชั้นเดียวกับที่น้องอยู่”ร่างสูงใหญ่ตอบ ขยับกายเข้ามาใกล้จนขวัญข้าวต้องเบี่ยงตัวหนี กลิ่นบุหรี่คละคลุ้งติดกายกับกริยาที่ออกจะไม่เป็นสุภาพบุรุษสักเท่าไหร่ทำให้สาวรุ่นไม่ใคร่ไว้วางใจ แต่ก็ไม่อะไรมากพวกผู้ชายก็เป็นแบบนี้กันหมด มีจังหวะก็ฉวยโอกาสเป็นเรื่องธรรมดาทันทีที่ประตูลิฟท์เปิดออก ร่างกะทัดรัดของเอ็มซีจำเป็น ก็รีบเดินออกมาให้พ้นโซนอันตรายเธอเดินกลับมานั่งที่โต๊ะ หยิบเอกสารมาอ่านต่ออย่างตั้งใจเงาทะมึนที่บดบังแสงไฟทำให้ขวัญข้าวต้องแหงนหน้าขึ้นมามองเขาผู้นั้นเป็นชายร่างบึ๊กคนเดิมเดินเข้ามาใกล้ที่โต๊ะของเธอ แม้สาวรุ่นจะไม่ค่อยพบปะผู้คนแต่เธอก็รู้ทันทีว่าโดนลวนลามทางสายตาเข้าแล้ว ร่างยักษ์จดจ้องมาที่เนินเนื้อภายใต้เสื้อสายเดี่ยวตัวจิ๋วนั่นขวัญข้าวยันกายยืนขึ้น และเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ

“มีอะไรให้หนูช่วยหรือเปล่าคะ”

“เปล่าครับพี่ก็แค่เดินมาดู เผื่อว่าจะให้คำแนะนำอะไรที่เป็นประโยชน์ได้บ้าง พี่ชื่อกริชเป็นผู้จัดการฝ่ายขายของสำนักพิมพ์ประกายฝัน” ตลอดการสนทนาสายตาหื่นยังไม่หยุดจดจ้องตลอดทั่วทั้งร่างเซ็กซี่อย่างแทบจะกลืนกินขวัญข้าวเริ่มตระหนักได้ถึงความไม่ปลอดภัยของตน เธอไม่อยากจะต่อความอันใดอีกได้แต่ยิ้มแห้งๆ เดินดุ่มๆลงมาที่ชั้นหนึ่ง หวังใช้คนหมู่มากเป็นเกราะกำบัง จะโทษอีตานี่ก็ไม่ถูกก็เราโป๊ซะขนาดนี้ เห็นทีจะต้องหาเสื้อคลุมมาสวมทับเข้าเสียหน่อย ‘อดทนไว้นะขวัญข้าวนี่แค่บททดสอบจิ๊บๆ เรายังต้องเจออะไรมากกว่านี้นัก’ สาวรุ่นเดินออกมาที่หน้าออฟฟิศเตือนสติตัวเอง เป็นจังหวะเดียวกับที่คุณแต๋วลงมาจากรถพอดี รอดไปสำหรับเช้านี้.. 




Create Date : 13 กรกฎาคม 2558
Last Update : 13 กรกฎาคม 2558 8:38:40 น. 0 comments
Counter : 410 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

writer_k toon
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




เป็นคนธรรมดาๆคนหนึ่งค่ะ ที่อยากเป็นคนดี
และเป็นคนเก่งขึ้นทุกๆวัน

ชอบดื่มกาแฟเป็นชีวิตจิตใจ โปรดสุดก็ Starbucks หากอยู่ในฤดูงบน้อย อะไรที่เป็นกาแฟดำ ได้หมด

ชอบอ่านหนังสือ แนวHowto และนิยายของคุณทมยันตี จนวันหนึ่งเกิดอยากจะเขียนหนังสือให้คนอื่นอ่านบ้าง โดยมีคุณทมยันตีเป็นต้นแบบ เป็นแรงบันดาลใจ

เริ่มต้นขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ไม่รู้ลงท้ายจะเป็นอย่างไร แต่หวังไว้ว่ามันจะดีกว่าที่หวัง

จะคุยได้นานกับคนที่มีฝัน มีเป้าหมายในชิวิต รักครอบครัว และคิดบวก

แอบหวังว่าคนที่เข้ามาที่Blogนี้จะออกไปอย่างมีความสุขนะคะ

Loveๆทุกคนค่ะ

ปล.ขอสงวนลิขสิทธิ์ข้อความและรูปภาพทั้งหมดใน blog นี้ตามกฎหมาย ห้ามนำไปใช้หรือเผยแพร่ก่อนได้รับอนุญาตนะคะ

New Comments
Friends' blogs
[Add writer_k toon's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.