Entry นี้กลับมาเที่ยวสุโขทัยกันต่อครับ บล็อกที่พาเที่ยวสุโขทัยครั้งที่แล้วโน้นนนนนนน (แปลว่านานมาแล้ว) ได้มาไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์แห่งชาติรามคำแหง ซึ่งถือว่าเป็นการเกริ่นนำการเดินทางท่องเที่ยวโบราณสถานในจังหวัดสุโขทัยไปแล้ว Entry นี้จะเริ่มเที่ยวกันในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยกันอย่างจริงจังนะครับ แต่ก่อนที่จะเริ่มไปเที่ยวกันในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยเราก็จะต้องมากราบสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์ที่ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยกันก่อนครับ

พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย

การเดินทางมาพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช อุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย ใช้เส้นทางถนนที่มาจากพิษณุโลกแยกเข้าจังหวัดสุโขทัยแล้วตรงมาเรื่อยๆจะผ่านกลางเมืองสุโขทัยพอเจอหอนาฬิกาก็แยกไปทางซ้ายข้ามสะพานพระร่วงข้ามแม่น้ำยมแล้ววิ่งตรงๆมาเรื่อยๆเลยครับผ่านแยกคลองโพธิ์แล้วตรงมาเรื่อยๆครับ พอผ่านกำแพงเมืองเก่าสุโขทัยจะเริ่มเป็นเขตชุมนุมชนค่อยๆขับเลยกำแพงเมืองเก่าสุโขทัยมาไม่ไกลจะเห็นพิพิธภัณฑ์แห่งชาติรามคำแหงสุโขทัย อยู่ทางซ้ายมือติดริมถนน หลังวัดตระพังทองหลางขับรถเลยมาอีกนิดจะเห็นทางเข้าอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยอยู่ทางด้านซ้ายมือเลยครับ  พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช อยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัยครับ

พระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช ได้มีการเริ่มดำเนินการก่อสร้างในปลายปี พ.ศ. 2512 เมื่อได้มีการวางศิลาฤกษ์ฐานพระบรมราชานุสาวรีย์เมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2512 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์พระบรมราชีนีนาถเสด็จพระราชดำเนินทรงประกอบพิธีเททองหล่อพระบรมรูป ณ มณฑลพิธี กองหัตถศิลป์ กรมศิลปากร เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2513 และได้มีพิธีอัญเชิญพระบรมรูปไปประดิษฐานเมื่อวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2519

พระบรมรูปพ่อขุนรามคำแหงมีขนาด 2 เท่าขององค์จริง เฉพาะพระองค์สูง 3 เมตร อยู่ในท่าประทับนั่งบนพระแท่นมนังคศิลาบาตรึ่งจำลองจากพระแท่นมนังคศิลาองค์จริง ขนาดยาว 4 เมตร กว้าง 2.88 เมตร พระหัตถ์ขวาทรงถือสมุดไทยหมายถึงสรรพวิทยาต่างๆที่ทรงรอบรู้และพระราชทานให้แก่ชาวไทย พระหัตถ์ซ้ายแสดงลักษณะที่ทรงสั่งสอนพสกนิกร (สมัยเด็กๆครูเคยสอนว่าพระบรมราชานุสาวรีย์ของพ่อขุนรามคำแหงทรงทำท่าบอกให้สลักศิลาจารึก– เจ้าของบล็อก) มีพานพระขรรค์วางไว้ด้านซ้ายมือ พระบรมรูปหล่อด้วยทองเหลืองผสมทองแดง รมดำ มีน้ำหนัก 3 ตัน ลักษณะพระพักตร์ของพระบรมรูปเอาแบบมาจากพระพุทธรูปสมัยสุโขทัยตอนต้น ฉลองพระองค์เลียนแบบมาจากเทวรูปศิลปะสุโขทัย ผู้ออกแบบปั้นคือ นายสนั่น ศิลากรณ์

ด้านหลังพระบรมรูปมีภาพจำหลักนูนต่ำจำนวน 4 รูป ล้วนแต่เป็นภาพที่แสดงถึงพระราชกรณียกิจต่างๆ ที่ฐานตกแต่งด้วยศิลปะแบบสุโขทัยประกอบด้วยลวดลายกลีบบัว ด้านหน้าเป็นลานกว้าง มีสระน้ำขนาดใหญ่อยู่ด้านหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์

คำจารึกพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

พ่อขุนรามคำแหงมหาราช

พระโอรสในพ่อขุนศรีอินทราทิตย์และพระนางเสือง

ทรงกระทำยุทธหัตถีมีชัยชนะขุนสามชนเจ้าเมืองฉอดเมื่อพระชนมมายุ 19 พรรษา

เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติเป็นพระมหากษัตริย์พระองค์ที่สามแห่งกรุงสุโขทัยเมื่อพุทธศักราช 1822

ทรงประดิษฐ์อักษรไทย เมื่อพุทธศักราช 1826

โปรดเกล้า ฯ ให้สลักศิลาจารึกลงเหตุการณ์เมื่อพุทธศักราช 1835

ซึ่งเป็นหลักฐานสำคัญทางประวัติศาสตร์ชองชาติสืบมา

ทรงกระทำสัมพันธไมตรีกับประเทศเพื่อนบ้าน

พระราชทานพระราชกำหนดกฎหมายและทรงบำรุงการพระศาสนาให้รุ่งเรือง

บ้านเมืองร่มเย็นเป็นสุขตลอดรัชสมัยของพระองค์

สวรรคตเมื่อพุทธศักราช 1842

ประชาชนชาวไทยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

จึงพร้อมใจกันสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์นี้ไว้เพื่อประกาศเกียรติคุณชั่วนิรันดร์

ได้กราบสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พ่อขุนรามคำแหงเรียบร้อยแล้ว บล็อกท่องเที่ยวถัดไปเราจะได้ไปเที่ยวโบราณสถานในเมืองเก่าสุโขทัยกันจริงๆแล้วครับ

ขอบคุณ code เพลงจากบล็อก  "ป้ากล้วย"  ครับ

อีกช่องทางหนึ่งในการติดตามการท่องเที่ยวแบบตามใจทนายอ้วนครับ

ทนายอ้วนพาเที่ยว - ChubbyLawyer Tour

https://www.facebook.com/ChubbyLawyerTour/

Chubby Lawyer Tour …………… เที่ยวไป...........ตามใจฉัน