bloggang.com mainmenu search
สถานที่ท่องเที่ยว : วัดสวนแก้วอุทยานน้อย อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัย สุโขทัย, สุโขทัย Thailand
พิกัด GPS : 17° 25' 55.68" N 99° 47' 14.33" E



ดูแผนที่เพิ่มเติม





Entry  จะเป็นวัดแห่งสุดท้ายที่ในศรีสัชนาลัยเจ้าของบล็อกไปเที่ยวมา ความจริงโบราณสถานในอำเภอศรีสัชนาลัยโดยเฉพาะในเมืองเก่ายังมีอีกหลายที่ที่เจ้าของบล็อกยังไม่ได้ไปเที่ยว ทั้งโบราณสถานในเมืองเชลียงเก่าและโบราณสถานนอกกำแพงเมืองศรีสัชนาลัย เจ้าของบล็อกมาเกิดอาการเท้าแพลงอย่างแรงตอนเดินกลับออกมาจากอุทยานประวัติศาตร์ศรีสัชนาลัยซึ่งเกิดจากความซุ่มซ่าม (ตามเคย) ของเจ้าของบล็อกเอง ที่วางแผนเอาไว้แต่เดิมว่าจะไปชมโบราณสถานในเขตเมืองเชลียงเก่าก็เป็นอันต้องยกเลิกไปเพราะทางเดินในโบราณสถานก็ยังมีอิฐหัก ศิลาแลง โผล่ออกมาจากพื้นดินอันเป็นอุปสรรคในการเดินของอาการเท้าแพลงมากๆ อีกทั้งเจ้าของบล็อกใช้เวลาในอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยล่วงเลยมาจนถึงบ่ายโมง (เริ่มถ่ายรูปตั้งแต่ 9 โมง) คนขับรถที่ซึ่งไม่ได้ “อิน” กับประวัติศาสตร์เหมือนเจ้าของกระทู้บ่นหิวข้าวแล้วร้านที่คนขับรถอยากไปกินคือร้าน “โกเฮง สวรรคโลก” ซะด้วย .... เจ้าของบล็อกก็เลยต้องตามใจคนขับรถซะหน่อย เพราะยังต้องพึ่งคนขับรถอีกหลายวันในการเที่ยวชมโบราณสถาน (ทั้งเป็นไม้กันหมาและเป็นเดินเป็นเพื่อนเพราะเจ้าของบล็อกกลัวผีเป็นที่สุด) วัดแห่งนี้ก็เลยเป็นจุดหมายสุดท้ายก่อนที่เจ้าของบล็อกจะกลับเข้ามายังอำเภอเมืองสุโขทัย คิดไว้อย่างแน่นอนแล้วว่าหน้าหนาวนี้จะต้องหาเวลาเดินทางไปเก็บโบราณสถานที่เหลือที่ศรีสัชนาลัยและสุโขทัยให้ได้เลยครับ




วัดสวนแก้วอุทยานน้อย อุทยานประวัติศาตร์ศรีสัชนาลัย สุโขทัย




อุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยอยู่ห่างจากตัวอำเภอเมืองสุโขทัยขึ้นไปประมาณ50กิโลเมตรสามารถเดินทางไปได้2เส้นทางคือจากจังหวัดพิษณุโลกวิ่งตรงขึ้นไปใช้เส้นทางหมายเลข101โดยไม่แยกเข้าตัวเมืองสุโขทัยหรือจะแยกเข้าตัวเมืองสุโขทัยแล้วใช้เส้นทาง1201วิ่งเลียบแม่น้ำยมขึ้นไปผ่านท่าอากาศยานสุโขทัยเส้นทางนี้จะค่อนข้างคดเคี้ยวตามลำน้ำยมแต่ก็จะถึงอุทยานประวัติศาสตร์ศรีสัชนาลัยเลยถ้าวิ่งเส้น101จะต้องอ้อมขึ้นไปแล้ววกลงมาอีกทีครับแต่เส้นทางจะเป็นถนนที่ตรงมากกว่า



วัดสวนแก้วอุทยานน้อย (ในพงศาวดารเหนือเรียกวัดสวนแก้วอุทยานน้อยว่า “วัดแก้วราชประดิษฐาน”) ตั้งอยู่ตรงที่ราบเชิงเขาพนมเพลิงซึ่งเป็นเขาในกำแพงเมืองศรีสัชนาลัยใกล้ๆวัดช้างล้อม (ศรีสัชนาลัย) ห่างมาประมาณ 200 เมตร แต่ไม่ได้อยู่ในแนวแกนหลักของวัดสำคัญในกำแพงเมืองศรีสัชนาลัยครับ (ถ้าเอาถนนกลางอุทยานประวัติศาสตร์เป็นแนวกำหนดจะเห็นว่าวัดสวนแก้วอุทยานน้อย อยู่คนละฟากถนนกับวัดช้างล้อม วัดเจดีย์เจ็ดแถว วัดสวนแก้วอุทยานใหญ่ และ วัดนางพญา) แต่สันนิษฐานว่าเป็น “วัดในวัง” ของเมืองศรีสัชนาลัยเช่นเดียวกับวัดพระศรีสรรเพชรญ อยุธยา หรือวัดพระศรีรัตนศาสดาราม กรุงเทพฯ เพราะสันนิษฐานว่าพระราชวังของเมืองศรีสัชนาลัยอยู่ติดกับวัดสวนแก้วอุทยานน้อย






วัดสวนแก้วอุทยานน้อย เป็นวัดขนาดเล็ก (เล็กกว่าวัดสำคัญที่อยู่ทางฝั่งแกนหลักของเมืองแต่ใหญ่กว่า วัดหลักเมือง วัดหน้าเมือง และวัดป่าอุดมสัก) หันหน้าวัดไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ มีอาณาเขตของวัดล้อมรอบด้วยกำแพงแก้ว กว้าง 29 เมตร ยาว 55 เมตร มีประตูทางเข้าวัดทั้งด้านหน้าและด้านหลัง






พระวิหารตามรูปแบบสันนิษฐานแล้วเป็นวิหารโถงคือไม่มีฝาผนัง มีฐานทรงสี่เหลี่ยนผืนผ้าวางขนานกับแนวพระวิหารคล้ายกับเป็นที่ประดิษฐานรอยพระพุทธบาทหรือพระพุทธรูปปางลีลา และตามรูปแบบสันนิษฐานแล้วจะเห็นว่าหลังคาพระวิหารจะเชื่อมกับมณฑปทางด้านหลังด้วย






จากความเห็นของ ศ.ดร.สันติ เล็กสุขุม ในหนังสือ “ศิลปะสุโขทัย” หน้า 38 อาจารย์เห็นว่าที่วัดสวนแก้วอุทยานน้อยนี้น่าจะเรียกว่า “คันธกุฎี” มากกว่า “มณฑป” เพราะมณฑปทำหน้าที่ได้เทียบเท่าพระวิหารคือมีที่พอให้พระสงฆ์ประกอบสังฆกิจ แต่ “คันธกุฎี” จะมีเนื้อที่พอที่จะประดิษฐานพระพุทธรูปเท่านั้นโดยไม่คำนึงถึงรูปทรงของหลังคา คติการสร้าง “คันธกุฎี” หรือ “มณฑป” รศ. เสนอ นิลเดช อาจารย์มหาวิทยาลัยศิลปากร มีความเห็นว่าเป็นการจำลองกุฎิของพระพุทธเจ้าที่วัดเชตวันในสมัยพุทธกาล






“คันธกุฎี” ที่วัดสวนแก้วอุทยานน้อยนี้อยู่ติดกับส่วนท้ายของพระวิหาร มีหลังคาพระวิหารคลุมถึง ก่อด้วยศิลาแลงทั้งหลัง มีหลังคาเป็นทรงจั่วส่วนบนโค้งแหลม ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปประทับนั่งปางมารวิชัย ปัจจุบันพระเศียร พระพาหา (แขน) ด้านขวา พระเพลา (ตัก) ด้านซ้าย และพระกร (มือ) ด้านซ้าย ชำรุดเสียหายหมดแล้ว ปูนชั้นนอกบริเวณบั้นพระองค์ (เอว) กะเทาะออกจนเหลือแต่โกลนศิลาแลง พระกรซ้ายที่หักหายไปด้านในสามารถมองเห็นแกนไม้สักที่ใช้ยึดให้ติดกับต้นพระพาหา (ต้นแขน) ก่อนจะฉาบปูน










เจดีย์ประธานของวัดสวนแก้วอุทยานน้อยเป็นเจดีย์ทรงดอกบัวตูม หรือทรงพุ่มข้าวบิณฑ์ซึ่งเป็นศิลปะแบบสุโขทัยแท้ๆ ล้อมรอบด้วยกำแพงทั้ง 3 ด้าน ยกเว้นด้านที่ติดกับคันธกุฎี มีเจดีย์รายจำนวน 13 องค์ จากหลักฐานที่หลงเหลืออยู่สันนิษฐานเจดีย์รายรอบๆเจดีย์ประธานเป็นเจดีย์ทรงปราสาทในผังสี่เหลี่ยม







ด้านทิศตะวันตกของวัดมีสระน้ำใหญ่จึงเป็นที่มาของชื่อวัดวัดสวนแก้วอุทยานน้อยอีกชื่อว่า “วัดสระแก้ว”








เมื่อกลับมาพบกันครั้งหน้าในบล็อก “ท่องเที่ยวไทย” จะพาไปเที่ยวพิพิธภัณฑ์แห่งชาติรามคำแหงกันครับ







ขอบคุณ code เพลงจากบล็อก  "ป้ากล้วย"  ครับ





อีกช่องทางหนึ่งในการติดตามการท่องเที่ยวแบบตามใจทนายอ้วนครับ



ทนายอ้วนพาเที่ยว - ChubbyLawyer Tour



https://www.facebook.com/ChubbyLawyerTour/






Chubby Lawyer Tour …………… เที่ยวไป...........ตามใจฉัน





SmileySmileySmiley

Create Date :10 กรกฎาคม 2559 Last Update :10 กรกฎาคม 2559 16:27:39 น. Counter : 4586 Pageviews. Comments :16