ชื่อร้าน : Villazzo, V Villa หัวหิน
รายการอาหาร : สลัดเนื้อปูกับอโวคาโดและมะเขือเทศกับน้ำสลัดมิโซะ, เนื้อหอยเชลส์กับหน่อไม้ฝรั่งย่างกับริซอตโตเสิร์ฟกับซอสเนยสมุนไพร, เส้นริกาโทนี่กับซอสเห็ดพอชินี่แห้ง ครีม และมะเขือเทศ, ซี่โครงแกะจากออสเตรเลียย่าง, เชอร์เบทผลไม้รวม, Cream Brulee with fresh berry and vanilla cream
เวลาเปิดบริการ : 10.00 - 14.00 / 17.30 - 22.00 ทุกวัน
ที่ตั้งร้าน : V Villa หัวหิน, ประจวบคีรีขันธ์ Thailand
พิกัด GPS : 12° 32' 35.38" N 99° 57' 50.73" E

Valentines ปีนี้พิเศษกว่าปีไหนๆ เพราะตรงกับหยุดยาวพอดี คุณชายออกไอเดียชวนไปหัวหิน 3 วัน 2 คืนเรย แล้วมอบหน้าที่ให้หาร้านอาหารสวยๆ บรรยากาศดีๆ ไว้สำหรับไปทานข้าวกันในคืน Valentines’ Day ครับ ถามไถ่มาหลายคน พอดีมีรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยบอกมาว่าที่ V Villa หัวหินอาหารอร่อย บริการดีมากกกกกกกกก เข้าไปดูรูปร้านอาหารและอ่านเมนูในเวบไซต์แล้วก็เห็นว่าบรรยากาศดีมากๆ เมนูอาหารก็หลากหลายดี ก็เลยตกลงใจกันว่าจะไปดินเนอร์มื้อพิเศษในคืนวัน Valentines’ Day ที่ร้านอาหารของ V Villa หัวหินกันครับ


Villazzo, V Villa หัวหิน


โรงแรม V Villa หัวหิน ก็หาไม่ยากครับ อยู่บนถนนเพชรเกษมขาลงใต้ เลยไปเกือบถึงทางเข้าเขาตะเกียบ เลยโรงแรม Inter Continental โรงแรมสายลม Minitel Royal Pricess อยู่ถัดจากโรงแรม Merrakesh ประมาณว่ารั้วติดกันเลยครับ
















ตัวร้านอาหาร Villazzo อยู่ติดทะเลด้านในสุดของโรงแรมครับ เราต้องเดินผ่านห้องพักไปจนถึงสระว่ายน้ำติดริมทะเลของโรงแรมครับ













บรรยากาศของห้องอาหารสวยมากๆๆๆๆๆครับ มีทั้งส่วนที่อยู่ในห้องแอร์ ส่วนที่เป็นกาซีโบ และส่วนที่เป็น terrace ครับ ทั้งหมดอยู่ระดับเดียวกับสระน้ำของโรงแรม ทำให้ดูเหมือนว่าห้องอาหาร Villazzo ลอยติดอยู่กับสระน้ำของโรงแรมเลยครับ

























เราจองที่นั่งบริเวณที่อยู่ด้านนอกที่เรียกว่า Terrace ครับ เก้าอี้เป็นเก้าอี้นั่งสบายๆ นุ่มๆ ตัวไหญ่ๆ เหมาะกับบรรยากาศสบายๆ ของโรงแรมเหลือเกินครับ อ้อๆ ลืมบอกไปว่าตอนโพล้เพล้ยุงจะชุมหน่อยนะครับ ถ้าวันที่มีลมทะเลพัดแรงๆก็จะไม่ค่อยมียุงครับ ถ้าเป็นวันที่ลมนิ่งๆนี่ต้องฉีดยากันยุงเลยครับ แต่ทางห้องอาหารเค้าจะมียาฉีดกันยุงกลิ่นตะไคร้ขวดเล็กๆวางไว้ให้ด้วยครับ ฉีดเยอะๆเลยนะคราบ อิอิอิ














ผมสั่ง Long Island iced tea ซึ่งเป็นคอกเทลที่มีส่วนผสมของ Gin Rum Vodca Tequila Cointreau น้ำมะนาว และโค้ก ตอนรับแก้วมาใหม่ๆยังไม่ค่อยได้รสชาติของเครื่งดื่มที่มีแอลกอฮอร์ครับ แค่พอดื่มๆไปมันได้รส Gin Rum Vodca Tequila Cointreau ชัดขึ้นจริงๆครับ สั่งมาแก้วที่สามนี่เกือบเดินตกสระน้ำเลยครับ อิอิอิ







คุณผู้ชายมาแนวใสๆ ครับ เพราะต้องขับรถสั่ง น้ำแอ๊บเปิ้ล









จากนั้นพนักงานก็เอาขนมปังมาเสิร์ฟครับ เจ้าขนมปังแบบที่มีสีแดงๆซ่อนอยู่ด้วยเป็นโรลมะเขือเทศตากแห้งครับ มีชิ้นมะเขือเทศตากแห้งหวานๆ เปรี้ยวๆ แทรกอยู่ในเนื้อขนมปังด้วย ได้รสชาติดีมากๆครับ











อาหารจานแรกเป็นสลัดครับ Crab meat salad on avocado and tomato with Miso vinaigrette dressing หรือ สลัดเนื้อปูกับอโวคาโดและมะเขือเทศกับน้ำสลัดมิโซะ










เมนูนี้แอบสงสัยว่าคุณเชฟเปลี่ยนเป็นน้ำส้มบาลซามิกหรือเปล่าก็ไม่รู้ เพราะไม่ได้รสชาติของมิโซะเลยครับ แต่ได้รสชาติของน้ำส้มบัลซามิกแบบเข้มข้นเต็มครับ อร่อยดีครับ เนื้อปูก็ให้มาอย่างเยอะทีเดียวครับ แล้วมันเข้ากับอโวคาโดและมะเขือเทศที่หั่นเป็นชิ้นเล็กๆมากๆครับ










นั่งๆทานไปก็ไปเปิดเมนูเล่นๆ เลยเห็นว่าโรงแรม V Villa อยู่ในเครือ Accor ที่คุณผู้ชายเป็น member อยู่ ปกติ member จะได้ส่วนลดค่าอาหารมากน้อยแล้วแต่โรงแรม เลยถามน้องพนักงานดู น้องเค้าบอกว่าลดค่าอาหาร 50% ค่าเครื่องดื่ม 15% กี๊ดๆๆๆ จากที่ตั้งใจว่าจะสั่ง main คนละจาน เลยสั่งมาเป็น 3 จานคราบ อิอิอิ

Main course จานแรก Grilled scallop and green asparagus on risotto serve with butter herb sauce หรือ เนื้อหอยเชลส์กับหน่อไม้ฝรั่งย่างกับริซอตโตเสิร์ฟกับซอสเนยสมุนไพร










จานนี้อร่อยมากๆครับ เนื้อหอยเชลส์ย่างมาแบบสุกกำลังดี ไม่แข็งไป ไม่ดิบไป ซอสก็อร่อย หอม มัน มีที่ติอย่างเดียวเท่านั้นคือ ริซอตโตแฉะไปครับ ปกติริซอตโตทีดีเนื้อข้าวจะเป็นครีมแต่เม็ดข้าวต้องยังกรุบๆอยู่นิดๆ แบบที่เค้าเรียกว่าสุกแบบ al dente’ อ่ะครับ แต่ริซอตโตจานนี้ (ไม่รู้ว่าทั้งร้านนี้หรือเปล่า) แฉะข้าวต้มเละๆเลยคราบบบบบ











จานที่สอง Rigatoni pasta with dried Porcini mushroom and tomato cream sauce หรือ เส้นริกาโทนี่กับซอสเห็ดพอชินี่แห้ง ครีม และมะเขือเทศ











จานนี้อร่อยอีกแล้วครับ เส้นริกาโทนี่แบบสุกกำลังดี ซอสที่ผัดมาด้วยเป็นซอสครีมที่มีมะเขือเทศกับเห็ดพอชีนี่แห้งเป็นส่วนประกอบจึงมีรสเข้มข้น ไม่เลี่ยน











Main course จานสุดท้าย Australian lamp chop หรือซี่โครงแกะจากออสเตรเลียย่าง











จานนี้ถือเป็นสุดยอดเมนูของร้านนี้เลยครับ ซี่โครงแกะเนื้อหนา นุ่ม ย่างมาแบบ medium rare ตัดออกมาแล้วเป็นสีชมพู น้ำเนื้อยังชุ่มฉ่ำๆ ไม่เหม็นสาบแกะเลยแม้แต่นิดเดียว ชิ้นเนื้อมีมันติดมานิดหน่อย แบบที่ชอบเลยครับ (มันแกะอร่อยกว่ามันหมูอีกนะคราบ) จานนี้ไม่เสียดายเลยที่ตัดสินใจสั่งไป ถึงราคาจะสูงไปหน่อย แต่เมื่อเทียบกับหลายๆร้านแล้วซี่โครงแกะร้านนี้ชิ้นใหญ่กว่า รสชาติดีกว่าครับ











ของหวานที่สั่งมาจานแรกเป็น Mixed berry sherbet หรือ เชอร์เบทผลไม้รวม อันนี้ไม่รู้รสแล้วครับ เนื่องจากอิ่มมากๆ แต่ดูจากที่คุณชาย enjoy eating ก็พอจะเดาได้ว่าท่าทางจะอร่อยทีเดียวครับ












จานสุดท้ายที่สั่งมาคือ Cream Brulee with fresh berry and vanilla cream










จานนี้ Cream Brulee อร่อยมากครับ มีชั้นของน้ำตาลเผาไฟบางๆอยู่ด้านบน เอาช้อนตักผ่านลงไปเป็นเนื้อขนมนิ่มๆ เนียนๆ รสชาติของขนมเป็นรสกลางๆ นะครับ เพราะจะได้ความหวานจากชั้นน้ำตาลละลายด้านบนแล้ว ติตรง vanilla cream ครับ ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นครีมที่ทำขึ้นเป็นพิเศษแต่อย่างใด ไม่ได้รสของวนิลลาด้วยซ้ำครับ แต่เนื่องจาก Cream Brulee อร่อยครับ ก็เลยกลบเรื่องนี้ได้สนิทเลยคราบ















Chubby Lawyer’s Café’ ………………………………… ร้านอร่อย ....... ตามใจฉัน