ถนนสายนี้มีตะพาบ หลัก กม.#306 : สิบสาม
ถนนสายนี้ ... ... มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 306 "สิบสาม"
โจทย์โดย คุณ จันทราน็อคเทิร์น
เห็นโจทย์ ก็คิดถึงแต่เรื่องอาถรรพ์ ลางร้าย
อย่างโน้น อย่างนี้
เขียนไม่ออกจริงๆ ลากยาว จนถึงกำนด โจทย์ใหม่อีกแล้ว
มาส่งโจทย์เก่าก่อนดีกว่าค่ะ
เลข 13
เกิดจาก 1 บวก 12 / 2บวก 11/ 3บวก 10 / 4บวก9 / 5บวก8
และ 6บวก7
ส่วน การ ลบ คูณ และ หาร ยกกำลัง ถอดสแคว์รูทไม่พูดค่ะ
ยากไปสำหรับแม่ตะลี
มาเรื่องใกล้ตัวดีกว่าค่ะ
เพิ่งคิดได้ ว่ากลุ่มเพ่อนสนิทที่หัวหกก้นขวิด ออกทริปกันตลอดๆ
ทั้งนอกทั้งในประเทศ มีกัน13 คน หญิงล้วนๆ 12 คน
เพิ่มสามีของเพื่อน เป็นชายแค่ 1 คน
และในกลุ่มไลน์ของเราก็มีกัน 13 คน
คบกันมาตั้งแต่ มศ.ต้น ยันมหาวิทยาลัย
แม้จะแยกเรียนต่างมหาวิทยาลัยกันก็ตาม
ก็ยังคบกันอย่างจริงใจ คุยกันได้ทุกเรื่อง
พ่อแม่ของแต่ละคน ก็รู้จักเพื่อนลูกกลุ่มนี้กันหมด
ใครไม่ไปหาก็ยัง ถามถึงได้ถูกคน
โดยเฉพาะเรา ที่เคยไปกิน นอนเที่ยวที่บ้านเพื่อนคนนี้
ตลอดช่วงมัธยมต้นและปลาย
เราช่วยเหลือเกื้อกูลกันทุกเรื่อง แม้แต่สนับสนุนเรื่องการเงิน
ช่วยเองโดยไม่มีการขอยืม
กลุ่มเราจึงไม่มีการผิดใจกันเรื่องเงินเด็ดขาด
ไม่มีใครขอยืมใคร รวยกันทุกคน...อันนี้ประชดค่ะ
จนเพื่อนในกลุ่มคนหนึ่งป่วยเป็นมะเร็ง
เธอเป็นสาวโสด(ในกลุ่มสาวโสดเกือบทั้งแก๊งส์ แม่ตะลีรอดตัวค่ะ
มีคนเห็นความงาม และอยากได้เป็นศรีภรรยา)
พอตรวจพบ เพื่อนๆก็ช่วยกันติดต่อโรงพยาบาล
เพื่อให้เข้ารับการผ่าตัด
เพื่อนคนหนึ่งชวนให้เข้าผ่ารพ.เอกชนและบอกว่า
พร้อมที่จะออกเงินค่ารักษาให้(เพราะเพื่อนที่ป่วยลาออกจากงานประจำแล้ว กินบำนาญไม่มาก)
แต่เจ้าตัวและหมอที่ตรวจรักษา
บอกว่ามันเสียเงินเยอะ นัดผ่าที่รพ.ของรัฐที่มีแพทย์ฝีมือเยี่ยมดีกว่า
ตกลงผ่าก้อนมะเร็งก้อนโตที่ปากมดลูกออก
พวกเราก็ไปเฝ้าหน้าห้องผ่ากัน
หลังการผ่าตัด
ต้องให้คีโม แต่ละครั้งที่ให้คีโม เพื่อนๆก็ผลัดกันไปเฝ้าที่ รพ.
ตามแต่ใครว่าง เพราะช่วงให้คีโม จะต้องนอนนิ่งๆบนเตียง
อยู่นาน และเพื่อนจะมีอาการเวียนหัว อาเจียน
ผมของเพื่อนร่วงทั้งหัว ต้องใส่หมวกเวลาเราไปเที่ยวกัน
บางครั้งเพื่อนคนหนึ่งเฝ้ากลางวัน อีกคนมาเฝ้ากลางคืน
ถามว่าพ่อแม่พี่น้องของเพื่อนมีมั๊ย
ตอบว่า มีค่ะ พ่อเสียแล้ว แม่แก่มากๆ พี่สาวแก่ พี่เขยอัมพฤกษ์
น้องชายมีครอบครัวทำมาหากิน ถ้าไม่ทำ ไม่มีรายได้
เพื่อนๆเลยรับอาสา ดูแลแทนกันไป
ไปเที่ยวก็หอบกันไป คอยดูแลกัน
ในวันที่อาการของเพื่อนทรุดหนัก ตอนไปเที่ยวเพชรบูรณ์กัน
เพื่อนอาเจียน ท้องเริ่มป่องมากขึ้น
เพราะอาการ น้ำคั่งในช่องท้อง ต้องเจาะออกตลอด
เหล่าเพื่อนสนิทปิดห้องคุยกันลับหลังเพื่อนที่ป่วย
ว่า ...เพื่อนคงแย่แล้ว ต่างนั่งร้องไห้กัน ไม่ให้เพื่อนรู้
เพื่อนที่ป่วย เป็นคนที่ไม่อินังขังขอบอะไร
เป็นคนสบายๆ อินดี้สุดๆ เธอไม่ได้ฟูมฟาย
หรือคร่ำครวญถึงโรคร้ายแรงที่รุมเร้า
กลับบอกพวกเราว่า เฮ๊ย...ไม่เป็นไร ตายก็ตาย
กลุ่มเราพยายามพาเธอไปเที่ยวเฮฮา
เท่าที่เธอจะไม่ลำบากกาย
เธอลาออกจากงานตั้งแต่อายุยังไม่มาก
เพราะไม่ชอบเครียดเรื่องงาน
ใช้เงินที่มีเที่ยวต่างประเทศที่อยากไป
บางทริปชวนเพื่อนในกลุ่ม ไม่มีใครว่าง
เธอก็ไปคนเดียว ไปจอยกับคนอื่นเอา โดยไม่ลำบากใจ
ในที่สุดวันสุดท้ายก็มาถึง
เธอเข้าโรงพยาบาล มีเพื่อนสนิทที่ว่างไปเฝ้า
แล้วเธอก็จากไปโดยสงบ
แม่ตะลีวางดอกไม้จันทน์ทั้งน้ำตา
จนทุกวันนี้ เวลาไปเที่ยวกัน เราก็จะออกปาก เรียกเพื่อน
ร่วมวงสนทนา หรือโต๊ะอาหารตลอด
วลีที่พูดกันติดปากคือ... "นี่ถ้า.."___" ยังอยู่ คงนั่งหัวเราะด้วยกัน"
เพื่อนสนิทสิบสามคนวันโน้น ตอนนี้เหลือสิบสองคนแล้วในวันนี้
คนที่สิบสาม เหลืออยู่ในความทรงจำตลอดมา
เธอเป็นเพื่อนสนิทที่กลุ่มเรารักมากๆ
เพราะเธอ อะไรก็ได้
ทริปสุดท้าย ที่เพื่อนไม่สบายหนัก
ไปภูลมโล เขาค้อ ทุ่งกังหันลมกัน
นัดกันได้แค่ 10คน อีก3 คนไม่ว่าง
หญิง 9 ชาย 1คนเช่นเคย


สวัสดี
นี่แสดงว่าเจอระยะลุกลามเลยไม่รอด
แต่ก็ยังดีที่แม้ไม่มีญาติแต่ก็มีเพื่อนดีเสมือนญาติมาดูแลนะคะ