ถนนสายนี้มีตะพาบ หลักกิโลเมตรที่ 333 "หลงทาง"
โจทย์โดย คุณ NENE77
เรียนจบมหาวิทยาลัยแล้ว
ทำงานแล้ว จึงรู้ว่าแท้ที่จริงแล้วตัวเอง "หลงทาง"
ถ้าแม้ถอยเวลาได้ จะเดินไปตามทาง สายอาหาร
เพราะชอบกิน ชอบทำ ชอบทดลอง
เสียอยู่อย่างเดียว ไม่ชอบค้าขาย
ดีแล้วที่ไม่ได้เลือก หากทำคงเจ๊งแหละ
เพราะไม่ชอบง้อใคร ชอบทำกินเอง ทำให้คนในครอบครัว
เป็นความสุขและเพลิดเพลินส่วนตน
คงติดนิสัยมาจากยาย ยายชอบทดลองทำอาหาร
จากวัตถุดิบที่หาได้ในสวน หรือที่ขึ้นเองบ้าง ที่ปลูกไว้ข้างบ้านบ้าง
เมนูสมัยก่อนโน้น ที่แม่ตะลีคิดว่าแปลกแหวกแนวชาวบ้าน
ก็คือลูกตำลึงอ่อนดองเปรี้ยวเค็มหวาน กรอบๆ
หรือลูกตำลึงเชื่อม
ที่ยายทำให้กิน โห...มันเลิศ อร่อยมาก
ซึ่งสมัยเมื่อ60กว่าปีก่อน แม่ตะลีไม่เคยเห็นใครทำนะคะ
นอกจากได้เห็นและได้กินฝีมือของยาย
โดยปกติแม่ตะลีจะไม่แตะเลยตอนเด็กๆ
เพราะลูกตำลึงดิบ มันขมนะคะ
เด็กๆเกลียดเลยแหละ
หลังจากได้กินตำลึงดอง ตำลึงเชื่อมของยาย
ไม่เคยรังเกียจลูกตำลึงดิบอีกเลย
เจอเป็นต้องเด็ดกลับบ้านมาให้ยาย

อีกเมนูที่จำจนตายคือ ตำแยทอดกรอบ
ด้วยความที่บ้านสวนมีตำแยขึ้นแยะ
เด็กๆโดนตำแยบ่อย และก็เกากันเพราะคันคะเยอ
ผื่นเต็มขาแข้ง เกลียดตำแยกันมาก
แต่ยายก็บอกจะแก้คันได้ เอาทำมาให้กิน
หลานๆไม่มีใครยอมเชื่อ ร้อง...ไม่เอ๊า...ไม่เอา
แค่โดนขนโดนยางมันก็เกากันข้ามวันข้ามคืนแล้วนะยาย
ยายจะให้กินมันอีก...โอ๊ย คันไส้ คันก้นเลยนะ
ยายบอกลองดู หลานไม่เชื่ออีก
ยายจ้างกินคนละยี่สิบห้าสตางค์
โห....เอาดิ ได้ตั้งสลึง ใครจะไม่เอา
คันเป็นคันวะ
ยายเก็บใบตำแยใบใหญ่ๆมาล้างทำความสะอาดดี
แห้งแล้วเอาไปชุบแป้งที่ใส่เกลือนิดหน่อย ใส่ไข่นิดหน่อย
ทอดจนกรอบ ให้พวกหลานๆ ที่กลัวๆกล้าๆกินคนละใบสองใบ
เออแฮะ มันกรอบอร่อยเลยแหละ ไม่มีความคันเลย
แล้วพวกเราก็กินกันจนหมด พร้อมได้เงินกันคนละสลึงอีก
สบายไปเลย
ถ้าแม่ตะลีไม่หลงทาง ป่านนี้ มีเมนูแปลกๆ อร่อยๆ
มาลงในห้องครัวแยะแล้วละค่ะ
อาจมีร้านอาหารของตัวเอง
ชื่อ "ครัวตำแย" รวยไปแล้ว


เมนูน่าสนใจทั้งนั้นเลยค่ะ ทั้งลูกตำลึงและใบตำแย
แม่ตะลีน่าจะได้รับถ่ายทอดมาบ้าง อยากเห็นครัวตำแยในบล็อก 3F ค่ะ