คำถามของลูกที่ทำให้น้ำตาของแม่ไหล
"อะไยอะ อะไยอะ นี่อะไยอะ"

"ไคอะ ไคอะ ไคอ๊า..."

"นี่ นี่ นี่ นี่ อะไยอะ"

เอ้ย...ไม่ช่ายยยยย....



พอดีวันก่อนอ่านกระทู้ในชานเรือน กระทู้นึง...

คำถามที่ทำให้น้ำตาของแม่ไหล...คือ

"แม่คะทำไมแม่ถึงไม่ซื้อเสื้อผ้าสวยๆให้หนูเยอะๆเหมือนคนอื่นคะ"

นั่นนะสิ...เป็นเรา ถ้าลูกถามอย่างนี้ จะเศร้าไหมนะ...
ให้คำแนะนำอะไรไม่ได้มาก เลยแนะนำ หนังสือ ให้อ่านแทน...
คำพูดปลอบใจดีๆ 3-4 บรรทัด อาจจะยังไม่ลึกซึ้ง และมากพอ เท่ากับการอ่านแล้วคิด ไตร่ตรองด้วยตัวเอง..
เข้าใจได้ด้วยตัวเอง น่าจะดี ความรู้ ความเข้าใจที่หามาได้ด้วยตัวเอง จะเข้าใจอย่างลึกซึ้ง และไม่ลืม

หนังสือ ชื่อ หนูเก็บเงินได้สิบล้านวอนแล้ว แปลมาจากหนังสือเกาหลี ผู้แต่งชื่อ คิม ซอน ฮี หน้าปกสีเหลืองๆ สนพ Pearl

ดีมากๆๆๆๆ แนะนำให้ซื้อเก็บ ไว้อ่านเอง และให้เด็กๆ ได้อ่าน

เรื่องย่อ by ข้าพเจ้าเอง

เยดัม ดญ.ชาวเกาหลี ที่เก็บเงินได้สิบล้านวอน ด้วยวัยเพียงสิบสองขวบ...ด้วนน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง
แต่เยดัม ไม่ใช่เด็กขี้เหนียวนะ..เป็นเด็กดี มีน้ำใจ รู้จักการใช้เงิน หาเงิน และการออมเงิน

ก่อนหน้าที่เยดัม จะได้เรียนรู้บทเรียนต่างๆ ดญ.ตัวเล็กๆเคยแจกเงินเก็บ ระหว่างทางเอาไปฝากธนาคาร ให้เพื่อนๆ ให้คนตาบอด ให้เพื่อนบ้าน เพราะพวกเขาเดือดร้อน และ แม่สอนว่า การแบ่งปันเป็นสิ่งที่ดี แต่พอเยดัม เล่าให้แม่ฟัง..แม่กลับโกรธ เยดัมไม่รู้ว่าทำไม แม่จึงบอกว่า แม่โกรธเพราะ..เยดัมไม่รู้ค่าของเงิน

จากนั้น แม่ก้อสอนให้เยดัมรู้จักค่าของเงินมากขึ้น สิ่งไหนที่จำเป็น และไม่จำเป็นในชีวิต

"ทำไมต้องมีคนจนคนรวยนะ เป็นเพราะคนจนไม่ขยันทำงาน ส่วนคนรวยขยันทำงานหรอ" เยดัมคิด หลังจากแบ่งนมกล่องของตัวเองให้กับเพื่อนร่วมชั้นเรียนที่ไม่ได้รับแจกนมกล่องทุกวัน เพราะว่าเพื่อนของเยดัมที่บ้านยากจน และไม่มีเงินจ่ายให้ทางโรงเรียน

แม่ของเยดัม เลยสอนเยดัมให้รู้ว่า ความยากจน คืออะไร และทำไมบางครั้ง คนเราขยันทำงานเพียงไร ก็ยังยากจนอยู่ ไม่ใช่ว่าพวกเขาเป็นคนเกียจคร้านเสมอไป สำหรับเยดัมแล้ว เมื่อวันนี้ เราพอมี พอกิน พอเก็บ เราถึงควรจะประหยัดอดออม เพื่อให้สบายในวันหน้า ออมเงินไว้ เพื่อให้ฝันทั้งหลายของเราเป็นจริง

"เยดัม เมื่อทำความฝันสำเร็จ เงินจะตามมาเองโดยธรรมชาติ แต่เราจะไม่ทำความฝันเพื่อไล่ตามเงินหรอก เราไม่ความทำความฝันให้สำเร็จเพราะเงิน คุณพ่อ ไม่ได้อยากเป็นแพทย์แผนตะวันออกเพื่อหาเงิน แต่เพราะท่านชอบช่วยเหลือคนป่วยต่างหาก......." นี่คือสิ่งที่แม่บอกเยดัม ในวันที่พ่อ ลาออกจากงานบริษัทที่ทำอยู่ และตัดสินใจที่จะเรียนต่อ เพื่อทำตามความฝัน ที่จะเป็นแพทย์แผนตะวันออก...แม่และเยดัมต้องช่วยกันประหยัด อดออมมากขึ้น และช่วยกันทำให้ความฝันของพ่อเป็นจริง

ผู้ที่มีความกล้าเท่านั้น ถึงจะเป็นเศรษฐีได้....อิอิอิ...แม่ของเยดัมบอกไว้...

ที่เหลือ หาอ่านได้จากหนังสือเล่มนี้เองแล้วกันนะ....


กลับขึ้นไปที่ประโยคเดิม..ประโยคข้างบน

"แม่คะทำไมแม่ถึงไม่ซื้อเสื้อผ้าสวยๆให้หนูเยอะๆเหมือนคนอื่นคะ"

มาคิดๆ ดู..เราเคยถามแม่ด้วยประโยคเดียวกันนี้ หรือเปล่าหว่า....
จะว่าไป..อาจจะเคยนะ ไม่รู้ว่าแม่จะแอบเก็บเอาไปนอนคิด นอนร้องไห้มั่งหรือเปล่า..ไม่อยู่ให้ถามซะด้วยสิ

จำได้ว่า ตอนเด็กๆ น้อยครั้งมาก ที่จะไปเดินห้าง..(ด้วยความที่บ้านอยู่ปริมณฑลไกลปืนเที่ยง) เดินแล้วเห็นเสื้อผ้าสวยๆ ก้ออยากได้..ของเล่นสวยๆ ก้ออยากเล่น..แต่ ไม่ค่อยได้ซื้อกับเค้าหรอก

สำหรับเด็กคนนึง..มันก้อแค่อยาก ณ ตอนนั้น
พอกลับมาบ้าน..กลับมาสู่ความเป็นจริง ก้อไปวิ่งเล่น ขุดดิน สร้างบ่อบริบาลลูกอ๊อด ตะลุยพงหญ้า ทำยานอวกาศ ขี่จักรยาน ช้อนลูกน้ำ เลี้ยงปลา ตระเวนเก็บเม็ดต้อยติ่ง(แล้วไปโยนใส่อ่างปลาที่เลี้ยงไว้นั่นแหละ ) ไปตามเรื่องตามราว ไม่ได้อนาทรร้อนใจ ว่า ทำไมฉันไม่ได้ของเล่น ไม่ได้เสื้อผ้าสวยๆ นะ

เวลาที่อยากได้ของเล่นอะไร แม่จะให้เก็บเงินเอง แล้วพอวันเกิด ก้อจะพาไปห้าง สมัยนั้น ก้อ ขึ้น ปอ 126 ร้อนนรกแตก.แน่นระเบิดระเบ้อ (เข้าใจว่าสิบปีต่อมา สภาพก้อยังเหมือนสมัยที่เคยขึ้นตอนนั้นน่ะ) ไปลงเซนทั่นลาดพร้าว แล้วพาไปเลือกของเล่นที่อยากได้.. จำได้ว่า มีอยู่ปีนึง..กระแดะอยากได้ตุ๊กตาแมวตัวโต...โตเท่าตัวเด็กผู้หญิงเล็กๆคนนึงน่ะนะ..ห้าร้อยกว่าบาทแหนะ(เมื่อสมัยสักประมาณ 20 ปีที่แล้ว....)
และด้วยความอยากได้ตอนนั้นก้อยอมทุ่มหมดตัวเลย

ซื้อมาแล้วไงล่ะ..ก้อต้องหอบอิตุ๊กตาแมวใหญ่ยักษ์ นี่ ขึ้น ปอ 126 กลับบ้าน..ถือเองด้วย...ไม่ค่อยเห่อเลยกรู..
รถแม่งก้อแน่น..กอดตุ๊กตาไว้ข้างนึง เกาะตูดแม่อีกข้างนึง คนก้อเบียดไปเบียดมา..ลมจะใส่ เป็นรถแอร์ ที่แอร์ไม่เย็นเอาซะเลย...เป็นความภูมิใจ ทีพามันขึ้นรถเมล์กลับมาบ้านได้ เฝ้าทะนุถนอมอยู่สองสามวัน..หลังจากนั้น..ก้อ คิดได้ว่า..มันทำไรไม่ได้เลยนี่หว่า นอกจากน่ารัก น่าทนุถนอม เก็บเข้าไปอยู่ในตู้แล้วกัน กลัวมันจะเก่า รู้งี้ เชื่อแม่ดีกว่า เก็บไว้ซื้ออย่างอื่นที่มีประโยชน์ พวกสมุด สีไม้ สีเทียน เครื่องเขียน อะไรซะ ยังจะดีกว่า ได้ใช้ด้วย

ส่วนพวกตุ๊กตาบาร์บี้ เลโก้ อะไร นี่ ก้อพอจะมีกะเค้าน่ะ...แต่ต้องแบบ สอบได้ที่ 1 อะไรแบบนี้ ถึงจะได้ ขอไว้ก่อนเลย ตั้งแต่ต้นเทอม แม่จะได้มีเวลาเก็บตังค์ ฮ่าๆๆๆ

มีอยู่ปีนึง..วันเกิด..อยากได้เสื้อแจ๊กเก็ตกันหนาวสวยๆ ที่ขายในห้าง.ยีห้อ ปั๊บเปด ชูชู หรืออะไรนะ ที่สมัยนั้นมันฮิตๆ อะ ( บ่งบอกอายุอีกละกรู) พร่ำพรรณนาบอกแม่แล้วบอกแม่อีก..จะเอาเป็นของขวัญวันเกิด

และแล้ว..ในที่สุดวันเกิดปีนั้นก้อได้มา..

ทะด๊า.....เสื้อแจกเกตสีฟ้าแสนสวย..แปะยี่ห้ออะไรก้อไม่รู้..แต่เอาวะ..ซื้อจากห้างเป็นอันใช้ได้ ไม่เคยมีเสื้อผ้ามียี่ห้อกะเค้าเลย
ภูมิใจ๊ ภูมิใจ....ใส่ละยืด ใส่ละยืดด อยู่หลายปี จนโต หยิบเสื้อตัวเดิม มาดูอีกที..

เอ๊ะ..ยี่ห้อนี่มัน..นี่มันนนน.....ตัดมาเย็บติดนี่หว่า.....

กว่าจะฉลาด ก้อโดนแม่ต้มมาซะหลายปี ที่แท้ ก้อ ไปแอบซุ่มซื้อผ้ามาเย็บ แล้วไปตัดป้ายยี่ห้อไรไม่รู้ มาแปะ...แม่นะแม่..ทำกันได้ลงคอ....งิ๊ดดดดดดด

ละมีแบบ..ตอนเด็กๆ อยากกินขนม โน่นนี่นั่น..บางที ขอตังค์แม่..ละแม่บอก..ไม่มีเงินแล้ว..เดือนนี้ เงินหมดแล้ว เหลือตังค์อยู่ บาทเดียว ในกระเป๋า ไม่เชื่อไปดูสิ

เราก้อแอบเศร้านิดๆ นะ ว่าอดกินขนม แต่ก้อ..ไม่เป็นไร ไม่มีตังค์นี่นา..(แม่หลอกก้อเชื่ออีกแล้วอะ....)

ว่าแล้ว เดินไปเปิดขวดไมโล ตักๆๆ ใส่แก้ว เทนมข้นหวานใส่ กวนๆๆ ฉับพลันทันได้ ก้อได้ช็อคโกแลตมากินแก้เซ็ง...(รู้สึก คิดต้นทุนแล้ว ไมโลจะแพงกว่าเดินไปซื้อลูกอมสามเม็ดบาทอีกนะ..แม่งัดบาทสุดท้ายมาให้เราก้อสิ้นเรื่อง ฮ่าๆๆๆ)

ตอนเราเด็กๆ...แม่เป็นแม่บ้านได้เงินจากพ่อ เดือนละ 6-8 พันละมั้ง...แต่..ค่าเทอม เรากะน้อง..เทอมนึง คนละ แปดพัน เมื่อ ยี่สิบกว่าปีที่แล้ว... ค่าเสื้อผ้า หนังสือ ไรอีก ก้อต้องอยู่กันให้พออะ

ไม่รู้ แอบไปปั้มเงินมาจากไหน.นอกจาก รับตัดเสื้อ.หรือว่า ไอ่ 6-7 พันต่อเดือน ที่บอกเรา นี่จะโดนหลอกอีกเปล่าไม่รู้ จริงๆ มีเม้มไว้อีก...


ชักจะยาวไปหน่อยละ...

จะว่าไป...ไม่มีเงิน ไม่ใช่ว่าจะไม่มีความสุขซะหน่อย คิดย้อนไป เราก้อมีข้าวกินสามมื้อ มีของเล่น มีเสื้อผ้าใส่ มีบ้านอยู่

ยังโชคดีกว่าใครๆ อีกตั้งหลายคน ที่ไม่มีแม้แต่ที่ซุกหัวนอน

โชคดีจริงๆ ที่เกิดมาไม่รวย
เพราะได้เรียนรู้อะไรตั้งหลายอย่าง ที่คนเกิดมารวย มีพร้อมทุกสิ่งอัน ไม่เคยได้สัมผัส



เด็กๆ เข้าใจอะไร ได้ไม่ยากอย่างที่คิดหรอก..ว่าปะ


ปล. หวังว่าคงจะไม่มีคนเก็บไปแขวะอีกนะ..คนอาไร๊ ขี้เหร่ละยังจนอีก..

"เรื่องของกู....."



Create Date : 07 พฤศจิกายน 2551
Last Update : 7 พฤศจิกายน 2551 1:35:37 น.
Counter : 1388 Pageviews.

18 comments
  
555555555 ขี้เหร่ละยังจน

แต่อ่านๆ มานี่ทำไมชีวิต(เหมือนจะ)บัดซบเหมือนดูตัวเองเด๊ะๆ เลยว่ะ ฮ่า

ไม่รวยก็มีความสุขได้ จริงๆ
โดย: ตัวที่ 1 IP: 203.156.64.158 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:2:03:39 น.
  
ช่ายๆ คนดีมักถูกกลั่นแกล้ง สวรรค์ทดสอบจิตใจ เพื่อจะได้สมหวังในบั่นปลายของชีวิต

เสียงเค้าว่ากันพรรณนั้น จ๊ะ
โดย: บ้าได้ถ้วย วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:2:56:38 น.
  
Sawadee ka.
โดย: CrackyDong วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:5:28:42 น.
  
ตอนแรกนึกว่า มิว มิว จะกล้าหาญพูดเป็นประโยคซะแล้ว 5 5 5 5 5 5 อ่านมันจุกตรงคอหอยเลย เฮ้อ คิดถึงสมัยเด็กเน๊าะ
โดย: Pure_away IP: 222.123.93.51 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:5:49:43 น.
  
โอย !

คุณแม่อยากให้คุณแม่มิว มิว มีความสุข สุดยอดคุณแม่เลยค่ะ แล้วเอามาคุยกันอีกหรือเปล่าคะหลังจากรู้ความจริงแล้ว

เพื่อความสุขของลูกทำได้ทุกอย่าง
โดย: MONROVIA วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:6:11:10 น.
  
ยืมมุกไปใช้มั่งดีกว่าอ่ะ

เย็บเสื้อแล้วเอาป้าย เชลเตอร์ มาติดซะ

แต่ลูกชั้นคงรู้อ่ะ

แหม...น่ารักแล้วยังฉลาดอีก

ปล. ไอ่ "ขี้เหร่แล้วยังจนอีก"...นี่ฮาได้ใจว่ะ
โดย: OtwO วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:10:44:50 น.
  
เห็นหัวข้อ..ก็เตรียมใจซึ้งเลยจ้า
แต่อ่านไป..อ่านมา ฮากระจาย นึงถึงตัวเองตอนเด็กๆเหมือนกัน และก็คุ้นเคยกะ ปอ.126 เก่ากึกๆนี่ดีเลยค่ะ

จะชวนคุณแม่น้องมิวมิว ไปเที่ยวเว็บ //www.karn.tv
เว็บเรารวมความรู้และแบบฝึกหัด กิจกรรมสำหรับเด็กอนุบาล-ประถมต้นค่ะ

แต่มิวมิวยังเล็กมาก แวะไปฟังนิทานแอนนิเมชั่น online ก็ละกันนะคะ
โดย: แม่น้องกานต์ IP: 124.120.6.110 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:50:36 น.
  
อยู่ที่การสอนลูกนะครับ บางคนมีตังก็จริงแต่เลี้ยงลูกแบบให้รู้คุณค่าของเงิน
ในขณะเดียวกันบางคนตังก็ไม่ค่อยมีแต่อยากให้ลูกมีแบบคนอื่นเค้า
โดยไม่ได้ประเมินตนเิองเลย ทั้งทั้งที่มันก็ไม่ได้จำเป็นอะไรเลยก็มีเยอะครับ
แบบนี้ก็เห็นเยอะ แล้วบอกว่ารักลูก(แต่ไม่ค่อยถูกทางหรือไม่เป็น)
จากประสบการณ์เราสรุปว่าอยู่ทีการสอนนะ
โดย: น้องเหนือเมฆ วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:22:04 น.
  
อ่านแล้วนึกถึงตัวเองในวัยเด็กแฮะ โดนแม่หลอกประจำ 555
โดย: ไผ่ไร้กอ IP: 58.8.120.193 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:14:30:34 น.
  
อ่านแล้วซึ้งจริงๆนะเนี่ย
ทำให้หวนนึกถึงวันเก่าๆสมัยเด็กๆเลยล่ะค่ะ

ลูกไม้มักหล่นใต้ต้นอ่ะ
ระวังวิธีเดิมๆที่เคยประสบ
จะใช้กับมิวมิว ไม่ได้ผลน้า
อิอิ เด็กเดี๋ยวนี้ฉลาดจริงๆ

แต่ การสอนให้รู้จักคุณค่าของสิ่งที่ได้มา น่าท้าทายนะค่ะ
สำหรับยุควัตถุนิยม

ไปล่ะค่ะ
ส-อ. นี้มีนัดกลุ่มพ่อธีร์ที่สวนลุมรึปล่าวค่ะ
โดย: ปลายดินสอ วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:17:19:35 น.
  
"แม่คะทำไมแม่ถึงไม่ซื้อเสื้อผ้าสวยๆให้หนูเยอะๆเหมือนคนอื่นคะ"

เป็นเราคงตอบลูกว่า "ก็หนูสวยอยู่แล้วไงจ๊ะใสแบบไหน ไม่กี่ตัวหนูก็ยังสวย"

๕๕๕๕ล้อเล่น นี่คือคำตอบนางงาม
ถ้าให้ตอบจริงๆ เราก็คงบอกลูกไปจริงๆแหละว่าไม่มีเงิน เป็นลูกเราต้องอดทน

แม่ตะเองน่ารักอะ มากๆๆๆ
แม่เราก็เป็นแม่คุณครูเงินเดือนข้าราชการที่แบบมีเท่าไรเพื่อลูกมากกว่าตัวเองเหมือนกัน


เดี๋ยวไปหาหนังสือมาอ่านดีกว่า ท่าทางจะซึ้งและสอนดี ชอบจัง


ปล. ไม่สวยละจน ดีกว่า ไม่สวยแล้วบ้านไม่มีกระจก(ส่องหนังหน้าตัวเอง) ว่ะ


๕๕๕๕๕๕๕๕
โดย: บรั๋ว IP: 125.27.197.238 วันที่: 7 พฤศจิกายน 2551 เวลา:20:28:33 น.
  
เข้ามาซึ้งๆแอบขำเล้กน้อยด้วย อิอิ
โดย: อาเดียร์ IP: 117.47.92.80 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:0:37:42 น.
  
น่าจะอยู่ที่การเลี้ยงดูลูกนะค่ะ เพราะถ้าเราปลูกฝังให้เค้าเป็นคนพอเพียงก้อคง
จะทำให้เค้าเป็นคนดีได้ในอนาคตค่ะ
โดย: ฟ้า (pimjan.h ) วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:18:47:23 น.
  
อ่อ...ก้อไม่ได้ ฟันธง ว่า รวย แล้วจะเลี้ยงลูกได้ไม่ดี

อยากรวยเหมือนกันค่ะ

รวยแล้วก้อสอนลูกให้พอเพียงได้ ให้รู้ค่าของเงินได้ อยู่ที่การอบรมสั่งสอน แน่นอนอยู่แล้ว

ทั้งคนจนและคนรวยที่เลี้ยงลูกแบบ spoil มีเยอะแยะ

เพียงแต่บางอย่าง มันก้อเป็น รสชาติของชีวิต ก้อเท่านั้นเอง
โดย: กุ๊ดจัง วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:23:13:47 น.
  
แม่มิวไม่ซื้อ เด๋วแม่หมีซื้อให้เอง กร๊ากก เอาให้เริ่ดดดดด อิอิ ไม่ต้องเสียตังค์เยอะ ดีแร้ว เก็บตังค์ค่าบร้าค่าบอ ไว้ส่งมิวมิวเรียน ดร. ดีฝ่า มีต้องจ่ายอีกเยอะนะฮ่า ยึดคติ "ช่างแม-ร่ง" แล้วจะเป็นสุข หยาบคาย แต่ว่า ช่วยได้จริง ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ จุ๊ฟ ๆ มิวสุดจ๋วย
โดย: ไ่่ก่ย่างคุกกี้กรอบหมีชอบหมด วันที่: 9 พฤศจิกายน 2551 เวลา:21:51:13 น.
  
อ่านแล้วคิดถึงแม่ตัวเองเอามาก ๆ เลยย
แต่ทุกวันนี้ต้องขอบคุณ แม่ ขอบคุณที่ครอบครัวเราไม่ได้ร่ำรวย
เพราะถ้าตอนเด็ก ๆ เราไม่ได้เรียนรู้ที่จะอยู่อยางพอมี พอกิน
ทุกวันนี้เราคงแย่แน่ ๆ
โดย: Nunija วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:9:18:02 น.
  
คนอาไร๊ ขี้เหร่ละยังจนอีก..
อ่านแล้วช่างเป็นตัวเราเสียนี่กระไร

ชีวิตวัยเด็กเราก็จน พ่อรับราชการ แม่เลี้ยงลูก
แต่พ่อแม่กัดฟันส่งเรียน รร.เอกชน
ถ้า รร.ไม่ทวงก็ไม่จ่ายหรอก ค่าเทอมอะ
โดนทวงค่าเทอมทุกเทอมแหละ

กลัวนะ คำถามประมาณนี้
แต่ก็พยายามสอนให้ลูกไม่วัตถุนิยมอะนะ
ไม่รู้เหมือนกันว่าจะได้ซักแค่ไหน


โดย: ระแนงไม้ IP: 58.9.96.25 วันที่: 4 ธันวาคม 2551 เวลา:2:04:11 น.
  
อ่านแล้วน้ำตาไหล

ซึ้งได้อีก
โดย: au IP: 124.120.164.115 วันที่: 12 ธันวาคม 2551 เวลา:1:13:29 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Nugade.BlogGang.com

กุ๊ดจัง
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [?]

บทความทั้งหมด