เวียงแว่นฟ้า - เดินตามรอยกรรม
<<
พฤษภาคม 2558
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
14 พฤษภาคม 2558

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม - บทที่ 35



"เรื่องที่ผมสงสัยข้องใจมันมีหลายอย่างน่ะครับ หลวงพ่อ" พระบัวเฮียวพูดอย่างเกรงใจเป็นที่สุด
"งั้นก็ว่าไปทีละอย่าง คิดเสียว่าวันนี้เป็นวันของเธอก็แล้วกัน จะได้ไม่เอาไปเที่ยวพูดว่าฉันไม่มีเวลาให้เธอ"
"โธ่ หลวงพ่อครับ ตั้งแต่มาอยู่วัดนี้ผมยังไม่เคยได้ไปเที่ยวแม้สักครั้งเลยครับ แล้วจะเอาหลวงพ่อไปอ้างยังงั้นได้ยังไง" พระบัวเฮียวปฏิเสธเสียงแข็ง
""แน่ใจนะ" ท่านพระครูคาดคั้น
"แน่ใจครับ แน่ใจร้อยเปอร์เซ็นต์"
"แล้วเมื่อกี้ใครว่าฉันให้เจ้าขำฟังว่าฉันไม่มีเวลา เธอพอจะรู้บ้างไหมว่าใครว่า"
"ก็พอจะรู้เหมือนกันครับ แต่เขาไม่ได้เอาไปเที่ยวว่านี่ครับ เขานั่งว่าอยู่ตรงนี้ ตรงที่ผมนั่งอยู่นี่"

พระบัวเฮียวชี้นิ้วลงไปทีพิ้น การได้ยั่วพระอาจารย์ก็เป็นความสุขอันยิ่งใหญ่ขงพระบัวเฮียว

"เอาตัวรอดจนได้นะ เอาละ ฉันขอชมว่าเธอเก่ง ฉันยังไม่เคยเห็นใครเก่งอย่างนี้มาก่อนเลยจริงๆ"
"อย่างนี้น่ะอย่างไหนครับ" พระหนุ่มไม่วายยั่ว
"ก็อย่างที่เรียกว่ามะกอกสามตะกร้าปาไม่ถูกน่ะสิ" ท่านพระครูเฉลย

การได้พูดคุยหยอกล้อกับ 'น้องชายในอดีต' ทำให้ท่านมีความสุข แม้ฝ่ายนั้นจะยังไม่รู้ว่าชาติหนึ่งที่ผ่านมา เขาเคยเกิดเป็นน้องชายของท่าน

"ถ้าอย่างนั้นหลวงพ่อก็ต้องไปฝึกปาเป้าใหม่ หรือไม่ก็เพิ่มมะกอกเป็นสี่ตะกร้า ถ้ายังปาไม่ถูกอีก ก็เพิ่มเป็นห้าหกเจ็ดหรือแปดะกร้า มันจะต้องปาถูกสักลูกนึงจนได้แหละครับ" พระหนุ่มแนะนำ

"เอาละๆ มัวพูดเยิ่นเย้ออยู่นั่นแหละ จะถามอะไรก็ถามมา ฉันเป็นคนไม่ชอบหายใจทิ้ง"
"ครับ ผมเองก็ชอบหายใจเป็นงานเป็นการ งั้นผมขอเรียนถามข้อข้องใจเลยนะครับ"

ท่านพระครูพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต พระบัวเฮียวกำลังจะเอ่ยปากถาม ก็พอดีกับบุรุษผู้หนึ่งก็คลานเข้ามา พระหนุ่มมีอันต้องถูก 'ขัดคอ' อีกจนได้

เถ้าแก่เส็งกราบท่านพระครูและพระบัวเฮียวแล้วจึงกล่าวว่า "ผมต้องขอประทานโทษที่มาขัดจังหวะ แต่ผมก็จำเป็นต้องมา เพราะอยากพบหลวงพ่อมากครับ"

"เจริญพร โยมมาคนเดียวหรือ"
"มาคนเดียวครับ ผมเหมารถแท็กซี่มาจากกรุงเทพฯ"
"ทำไมไม่ให้คุณนายดวงสุดามาส่งล่ะ"

"ไม่อยากกวนเขาครับ อีกอย่างผมก็อยากให้การมาคราวนี้เป็นความลับด้วย ทั้งคุณกิมง้อและหนูดวงสุดาไม่รู้ว่าผมจะมา" เถ้าแก่เส็งตอบ

"อ้อ แล้วจะค้างหรือเปล่า หรือว่ากลัวทางบ้านจะเป็นห่วง"
"ไม่ค้างครับ ผมว่าจะมากราบหลวงพ่อแล้วก็จะกลับ"
"งั้นก็อยู่ทานอาหารกลางวันเสียก่อน เดี๋ยวชวนโชเฟอร์เขาไปทานด้วย คงไม่รีบร้อนใช่ไหม"
"ครับ ก็ตั้งใจว่าทานอาหารกลางวันแล้วจึงจะกลับ ขอบพระคุณหลวงพ่อมากครับที่เมตตา"

"โยมเถ้าแก่โชคดีนะที่มาแล้วได้พบท่าน ที่จริงวันนี้ท่านต้องไปบรรยายธรรมที่กรุงเทพฯ แต่ทางผู้จัดเขาเขาขอเลื่อนกะทันหัน"

พระบัวเฮียวพูดเหมือนจะเอาบุญคุณ แต่ก็ต้องผิดหวังกับคำตอบของชายวัยเจ็ดสิบกว่า

"แต่ผมทราบครับว่าท่านต้องอยู่ ที่เหมาแท็กซี่มาตั้งสามร้อย ก็เพราะจะมาพิสูจน์เรื่องนี้ด้วยครับ"
"โยมทราบได้อย่างไร" ท่านพระครูถามอย่างสนใจ

เถ้าแก่เส็งจึงเล่าว่า "มันแปลกครับหลวงพ่อ เมื่อเย็นวานขณะที่ผมกำลังนั่งสมาธิ ผมรู้สึกคิดถึงหลวงพ่อมาก กำหนดอย่างไรก็ไม่หายคิดถึง เลยตั้งใจว่าพรุ่งนี้จะต้องมากราบหลวงพ่อ แต่แล้วก็เกิดความกังวลอีกว่าอาจจะไม่ได้พบ เพราะไม่ใช่วันพระ ความที่อยากรู้ผมเลยพยายามรวมจิตให้ตั้งมั่นเป็นสมาธิ แล้วผมก็กำหนด 'เห็นหนอ' ก็เกิดนิมิต เห็นหลวงพ่ออยู่ที่วัด ขณะเดียวกันก็มีเสียงกระซิบที่ข้างหูว่า 'พรุ่งนี้หลวงพ่ออยู่วัด' ผมก็เลยมาพิสูจน์นี่แหละครับ

"แล้วคุณโยมผู้หญิงกับคุณนายดวงสุดารู้หรือเปล่า" ท่านพระครูถาม
"ผมไ่ม่ได้เล่าให้ใครฟังเลยครับ กลัวเขาจะหาว่าเหลวไหล"

"งั้นก็แปลว่าเถ้าแก่ได้ 'เห็นหนอ' แล้วใช่ไหมครับหลวงพ่อ" พระหนุ่มถามอย่างตื่นเต้น

"ถูกแล้ว บัวเฮียว เห็นแล้วใช่ไหมว่ามันไม่ได้ยากเย็นเลย ในโลกนี้ไม่มีอะไรที่จะเกินความสามารถของคนที่ีมีความเพียรไปได้ จริงไหม"

"จริงครับ"

"อาตมาขออนุโมทนานะ โยมเถ้าแก่มีความวิริยะอุสาหะดีเหลือเกิน"
"อาตมาก็ขออนุโมทนาด้วย" พระหนุ่มพูดบ้าง

พระบัวเฮียวรู้สึกดีใจและเสียใจระคนกัน ดีใจเพราะลูกศิษย์มีความก้าวหน้าในการปฏิบัติ แต่ที่เสียใจก็เพราะคิดว่าตนเองคงจะย่อหย่อนในการทำความเพียร จึงยังไม่บรรลุผลที่มุ่งหวัง ท่านอยากได้ 'เห็นหนอ'มานาน แต่ก็ยังไม่ได้ เถ้าแก่เส็งปฏิบัติทีหลัง แต่กลับได้ก่อนท่าน

ท่านพระครูรู้ความคิดของศิษย์ จึงกล่าวว่า "ไม่ต้องเสียใจไปหรอกบัวเฮียว ของอย่างนี้ไม่ใช่จะได้กันง่ายๆ แล้วก็ไม่ได้หมายความว่าปฏิบัติชาตินี้แล้วจะได้ในชาตินี้ เรื่องของอภิญญานั้น คนที่จะได้ต้องเคยสะสมบารมีมาตั้งแต่ชาติก่อนๆ อีกอย่างนึง การที่เธอยังไม่ได้เพราะเธออยากได้ จำไว้ว่าถ้าอยากได้แล้วจะไม่ได้ ต้องไม่อยากได้จึงจะได้"

"หมายความว่าอย่างไรครับ ผมชักจะงงๆเสียแล้ว"

"ก็หมายความว่าเธอยังไม่ได้ 'เห็นหนอ' เพราะเธอไปอยากได้มันน่ะสิ เธอต้องทำเฉยๆ อย่าไปมุ่งมั่นจนเกินไป แล้วเธอก็จะได้เอง"

"แปลว่าผมต้องฝืนใจใช่ไหมครับ คือทำเป็นไม่อยากได้ อย่างนี้ก็โกหกตัวเองสิครับ"

"เธอก็ต้องทำใจไม่อยากได้จริงๆซิ ไม่งั้นก็จะกลายเป็นโกหกตัวเองอย่างที่เธอว่าแหละ" แล้วท่านพระครูก็หันไปถามเถ้าแก่เส็งว่า "เวลาโยมปฏิบัติธรรม โยมหวังว่าจะได้ 'เห็นหนอ' ไหม ตั้งใจไว้เลยไหมว่าจะต้องได้"

"ไม่เคยคิดเลยครับ ผมรู้แต่ว่าทางที่ผมกำลังดำเนินอยู่นี้ เป็นทางสายเอกที่จะนำไปสู่ความหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ถ้าผมตั้งใจปฏิบัติก็อาจจะเข้าถึงความดับทุกข์ได้ แต่ผมก็ไม่ได้ตั้งความหวังอะไร เพียงแต่ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ส่วนอดีตและอนาคต ผมพยายามจะไม่คิดถึง" เถ้าแก่ตอบแบบคนที่ 'เข้าถึงธรรม' อย่างแท้จริง

พระบัวเฮียวฟังแล้วรู้สึกละอายใจ เพราะตัวท่านปฏิบัติธรรมชนิดที่ยังมีโลภะ ความอยากได้ 'เห็นหนอ' ก็คือตัวโลภะนั่นเอง

"หลวงพ่อครับ ต่อไปนี้ผมจะไม่หวังอีกแล้วครับ ฟังโยมเถ้าแก่พูดแล้ว ผมรู้สึกละอายใจตัวเองนัก ผมจะไม่สนใจว่าจะได้ 'เห็นหนอ' หรือไม่ เพราะไม่เกี่ยวกับการดับทุกข์ใช่ไหมครับ"

"ถูกแล้ว 'เห็นหนอ' ก็คือการได้ทิพยจักษุ เป็นอภิญญาข่้อหนึ่งในหกข้อ ดูเหมือนฉันจะเคยอธิบายให้เธอฟังแล้วว่า อภิญญาห้าข้อแรกนั้นเป็นโลกียอภิญญา ปุถุชนธรรมดาก็สามารถมีได้หากได้ฌานสี่ และสมาธิกล้าแข็งพอ แต่อภิญญาข้อสุดท้ายที่มีชื่อว่าอาสวักขยญานนั้น เป็นโลกุตรอภิญญา พระอรหันต์เท่านั้นจึงจะมีได้ และเมื่อได้แล้วก็จะไม่เสื่อม แต่โลกึยอภิญญานั้นเสื่อมได้ ถ้าฌานเลื่อม"

"ถ้าอย่างนั้นพระอริยบุคคลชั้นต้น เช่นพระโสดาบัน ก็ไม่จำเป็นว่าจะได้อภิญญาใช่ไหมครับ"

"ถูกแล้ว และคนที่ได้อภิญญาก็ไม่จำเป็นว่าจะได้เป็นพระโสดาบัน เพระมันไม่เกี่ยวกัน ผู้ที่บรรลุโสดาปัตตผลเป็นพระโสดาบันนั้น เพราะละสังขโยชน์เบื้องต่ำได้สามอย่างคือ สักกายทิฐิ วิจิกิจฉาและสีลัพพตปรามาส ไม่เกี่ยวข้องกับอภิญญาแต่ประการใด" ท่านพระครูอรรถาธิบาย

"หลวงพ่อครับ เมื่อกี้หลวงพ่อบอกว่าพระปฏิบัติได้ก้าวหน้ากว่าฆราวาส แบบนี้จะแปลว่าฆราวาสไม่มีโอกาสบรรลุมรรคผลสิครับ อย่างที่หลวงพ่อบอกว่าบางคนได้ถึงญาน 13 แต่ก็ติดอยู่แค่นั้น"

"ไ่ม่เสมอไปหรอกบัวเฮียว ที่ฉันยกตัวอย่างเมื่อกี้ฉันหมายถึงเฉพาะคนที่เข้ามาปฏิบัติกรรมฐานที่วัด คือขณะอยู่ที่วัดอาจได้ถึงญาน 13 แต่พอ กลับไปบ้านเขาไม่ปฏิบัติต่อ เขาก็จะไม่สามารถก้าวไปถึงญาน14หรือญาน16ได้ แต่คนที่กลับไปแล้วยังปฏิบัติต่ออย่างเคร่งครัด เช่นโยมเถ้าแก่เป็นต้น แบบนี้ก็อาจบรรลุถึงญาน16 เป็นโสดาบันได้ ผู้ที่เป็นฆราวาส มีโอกาสที่จะบรรลุได้ถึงระดับอนาคามิผลนั่นเทียว"

"ไม่ถึงอรหัตตผลหรอกหรือครับ ทำไมไม่ถึงเล่าครับ"

"ถ้าถึงก็จะต้องบวชภายในเจ็ดวัน ถ้าไม่บวชก็ต้องตาย"

"ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นเล่าครับ" บุรุษสูงวัยถามอย่างสงสัย พระบัวเฮียวก็กำลังจะถามเช่นนั้นเหมือนกัน

"เพราะภาวะความเป็นอยู่ของฆราวาส ไม่สามารถรองรับสภาวะของพระอรหันต์ได้ ในสมัยพุทธกาล เคยมีปรากฏที่ฆราวาสบรรลุอรหัตตผลแล้วไม่บวช เพราะท่านมีภาระต้องเลี้ยงดูพ่อแม่ซึ่งตาบอด เมื่อท่านบรรลุได้ไม่ถึงเจ็ดวัน ก็ถูกวัวบ้าขวิดถึงแก่ความตาย"

ได้ยินคำว่า 'วัว' พระบัวเฮียวก็ขนลุกซู่โดยไม่มีสาเหตุ อาจเป็นด้วยจิตใต้สำนึกของท่าน มีความเกี่ยวพันกับวัวควายนั่นเอง

"แบบนี้วัวตัวนั้นก็บาปแย่เลยนะครับหลวงพ่อ" เถ้าแก่เส็งถาม
"บาปแน่นอน เพระเป็นครุกกรรมข้อ'อรหันตฆาต'"
"ไม่น่าเลยนะครับ ท่านเป็นถึงพระอรหันต์ ไม่น่ามาเสียชีวิตเพราะถูกวัวบ้าขวิด" เถ้าแก่เส็งรู้สึกปลงสังเวช

"จะเป็นอะไรก็ตาม ไม่มีใครหนีกรรมพ้น พระพุทธองค์ตรัสเรื่องนี้ให้ภิกษุฟังว่า พระอรหันต์รูปนี้ท่านเคยสร้างกรรมไว้กับวัว จึงต้องมาชดใช้"

ฟังแล้วพระบัวเฮียวรู้สึกเสียววาบเข้าไปถึงหัวใจ จึงเสถามเถ้าแก่เส็งว่า

"เวลานั่งสมาธิ โยมเคยง่วงไหม ง่วงมากๆ จนแม้จะลุกขึ้นเดินก็ยังง่วงน่ะ เคยเป็นไหม"
"เคยครับแต่นานมาแล้ว ดูเหมือนจะตอนที่ปฏิบัติเดือนแรกๆ โน่นแน่ะ" บุรุษสูงวัยตอบ
"แล้วโยมทำยังไง"
"ผมก็พยายามอยู่ในที่แจ้งบ้าง ทานอาหารให้น้อยลงบ้าง นอนบ้าง"
"แล้วหายง่วงไหม"

"ไม่หายครับ มันยิ่งง่วงหนักขึ้นไปอีก ง่วงแล้วก็รู้สึกเบื่อหน่ายไปหมด ผมก็พยายามเอาชนะมันด้วยการกำหนดสติอยู่ตลอดเวลา ง่วงก็กำหนดว่า 'ง่วงหนอ' พอนอนไม่หลับก็กำหนดว่า 'นอนไม่หลับหนอ' เมื่อรู้สึกเบื่อหน่ายก็กำหนด 'เบื่อหน่ายหนอ' เรียกว่าผมไม่ยอมให้เผลอสติเลยแหละครับ เป็นอยู่อย่างนี้สักสามสี่วันก็หาย พอหายผมก็รู้สึกสบายใจมาก เกิดปิติว่าผมเอาชนะมารได้แล้ว และตั้งใจว่าจะเร่งทำความเพียรต่อไป เพราะอายุผมก็มากแล้ว จะอยู่ไปอีกนานเท่าไหร่ก็ไม่รู้ หากมัวเห็นแก่กินแก่นอนก็จะทำให้ชีวิตเป็นหมัน เสียชาติเกิด ผมคิดอย่างนี้แหละครับ"

"แล้วโยมสงสัยบ้างไหม ว่าอาการแบบนั้นมันเกิดจากอะไร อาการที่ง่วงมากๆ และเบื่อหน่ายไปหมดน่ะ"

ท่านพระครูถาม มิใช่ท่านไม่รู้ หากต้องการให้บุรุษผู้สูงอายุได้สอนพระภิกษุหนุ่มทางอ้อม

"ผมคิดว่ามันไม่ใช่ความง่วงธรรมดาๆ คงจะต้องเป็นการปรากฏของสภาวธรรมอะไรสักอย่างหนึ่ง ผมแน่ใจว่าจะต้องเป็นเช่นนั้นครับ"

"ถูกแล้ว นั่นแหละเป็นอาการของ 'นิพพิทาญาน' และที่โยมปฏิบัติตามที่เล่ามานั้นก็ถูกต้องแล้ว การปฏิบัติธรรมไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้ามีความเด็ดเดี่ยวและใจสู้ มันก็ไม่ยากจนเกินไป นี่อาตมาหมายถึงธรรมระดับสูงนะ"

ท่านใช้เห็นหนอเข้าตรวจสอบ ก็รู้ว่าบุรุษตรงหน้าได้ถึงญาน13 แล้วและคงจะบรรลุญาน16 ในไม่ช้า ท่านไม่พูดอะไรออกมา เพราะไม่ต้องการให้คนที่เพิ่งได้ญาน8 รู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจมากขึ้น

เมื่อพูดถึงเรื่องง่วง ท่านพระครูก็นึกถึงอดีต สมัยที่ท่านเพิ่งอายุสิบสองสิบสาม จึงเล่าให้เถ้าแก่เส็งกับพระบัวเฮียวฟัง เป็นการคลายเครียด

"อาตมามีเรื่องขำๆ จะเล่าให้ฟัง เรื่องง่วงๆนี่แหละ สมัยที่อายุสิบสองสิบสาม อาตมาอยู่กับยาย พอตีสี่ยายก็ปลุกแล้ว ปลุกให้ลุกขึ้นหุงข้าวใส่บาตร วิธีปลุกของยายเยี่ยมยอดมาก โยมจะลองเอาไปใช้กับลูกกับหลานก็ได้" ท่านบอกเถ้าแก่เส็ง

"ทำอย่างไรครับ"

"ก็ไม่ทำอะไรมาก ตอนแรกก็เข้าไปเขย่าตัวก่อน บอกว่า ไอ้หนู..ไอ้หนู ลุกหุงข้าวใส่บาตรได้แล้ว อาตมากำลังง่วงก็ตอบ ฮื่อๆ..รู้แล้ว ขอนอนต่ออีกหน่อย ยายก็ขึ้นเหยียบเลย ถามว่าจะลุกไม่ลุก อาตมากำลังง่วงอยากจะนอน ก็เลยบอกยายว่า...แหม ดีจังเลยยาย ผมกำลังปวดเมื่อยพอดี ยายช่วยมาเหยียบให้ทุกวันเลยนะ"

"แล้วท่านว่ายังไงครับ" พระบัวเฮียวถาม

"แกก็บอก..งั้นยายจะไปเอาไม้เรียวมานวดให้นะ เด็กอะไรขี้เกียจตัวเป็นขน ไม่เรียกไม่ลุก ไม่ปลุกไม่ตื่น"

"แล้วหลวงพ่อทำยังไงครับ" พระบัวเฮียวถาม

"จะทำยังไงล่ะ ฉันก็ต้องรีบลุกขึ้นมาหุงข้าวน่ะสิ ทีนี้หม้อข้าวสมัยนั้นเป็นหม้อดิน แล้วก็ใช้เตาฟืน ฉันก็ก่อไฟ เพราะความง่วงก็เลยจับดุ้นฟืนนั่งหลับอยู่หน้าเตาไฟนั่นแหละ ยายมาเห็นเข้าก็ตบเข้าให้สองฉาด ที่แก้มข้างละฉาด ซ้ายที ขวาที" ท่านทำท่าประกอบ

"แล้วเป็นยังไงบ้างครับ" พระบัวเฮียวถามอย่างนึกสนุก
"ก็ค่อยยังชั่วขึ้นมาหน่อยนึง" ท่านตอบหน้าตาเฉย

"คุณยายของหลวงพ่อคงจะดุมากนะครับ" เถ้าแก่เส็งถาม

"ดุหรือไม่ดุอาตมาก็ถุกตีไม่เว้นแต่ละวัน บางทีก็ถูกตีสามเวลาหลังอาหารเช้า กลางวัน เย็น"

"น่าจะแถมก่อนนอนอีกรอบนะครับ เพราะเวลาหมอให้ยาเขาจะให้กินเช้า กลางวัน เย็นและก่อนนอน" พระบัวเฮียวว่าไปโน่น

"บางวันก็ได้แถมก่อนนอนด้วย" ท่านพระครูสารภาพ

"งั้นก็แสดงว่าหลวงพ่อก็คงไม่เบาเหมือนกันนะครับ" พระบัวเฮียวว่า
"เอ..จะว่าหนักก็ไม่เชิงนะ เพราะตอนนั้นฉันผอม" พระอุปัชฌาย์ตั้งใจยั่วลูกศิษย์

"แหม..หลวงพ่อก็รู้ว่าผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น คือผมต้องการจะพูดว่าเด็กที่ถูกผู้ใหญ่ตีทุกวันๆ ละสามสี่ครั้งน่ะ คงจะไม่เบาทีเดียว คือคงจะต้องเกเรจนขึ้นชื่อ อะไรทำนองนี้"

"เกหรือไม่เก คนเขาก็เรียกฉันว่าไอ้มหาโจรกันทั้งบางนั่นแหละ"

"แล้วหลวงพ่อเกลียดคุณยายไหมครับ ถูกคุณยายตีทุกวัน รู้สึกเกลียดคุณยายไหม" เถ้าแก่เส็งถาม

"ตอนนั้นเกลียด แต่ตอนนี้รัก เพราะถ้าไม่ได้ไม้เรียวยาย อาตมาก็ไม่ได้มาเป็นอย่างทุกวันนี้ อาตมารู้สึกซาบซึ้งในบุญคุณของยายมาก"

เงียบกันไปครู่หนึ่ง ท่านพระครูก็พูดขึ้นอีกว่า "มีอยู่ครั้งนึง อาตมาหนีไปเที่ยวดูหนัง บอกยายว่าจะไปติวกับเพื่อนเพระจวนสอบไล่ ที่แท้หนีไปดูหนังกับเพื่อน กลับเสียดึก พอยายมาปลุกก็บอกยายว่า วันนี้ขอสักวันเถอะเพราะติวกับเพื่อนเหนื่อยมาก ขอนอนตื่นสายสักวัน ยายก็บอกว่า..'ไอ้หนู ดอ็งจะนอนยาวข้าก็ไม่ว่าหรอก แต่ก่อนจะนอนต้องลุกขึ้นหุงข้าวใส่บาตรก่อน กินข้าวกินปลาเสียให้เรียบร้อยแล้วค่อยมานอนต่อ'..นี่เห็นไหม กุศโลบายของยายอาตมานี่เยี่ยมจริงๆ อาตมาก็เลยสะลึมสะลือลุกขึ้นไปก่อไฟหุงข้าว ไฟมันก็ไมติดสักที ก่อไฟอยู่นานก็กลัวว่าจะไม่ทันใส่บาตรพระ เลยใส่ฟืนใหญ่ กระทุ้งฟืนเข้าไปในเตา แต่จะเป็นเพราะความง่วงหรือเพราะมือหนักก็ไม่รู้ กระทุ้งเสียหม้อข้าวแตกเลย"

"แล้วยายของหลวงพ่อว่ายังไงครับ" พระบัวเฮียวถาม รู้สึกสนุกสนานกับเรื่องที่ท่านเล่า

"ก็ไม่ว่ายังไงหรอก แต่ตีเสียอานไปเลย เล่นเอาหลังลายไปหลายวัน"

"แหม ชีวิตหลวงพ่อนี่โลดโผนดีจังนะครับ" พระหนุ่มว่า
"ใช่ ก็ทำให้มีชีวิตชีวาดีเหมือนกัน ยังมีอีกเรื่องนึงที่ฉันยังนึกขำอยู่จนทุกวันนี้ คือเรื่องละเมอ"
"ใครละเมอครับ หลวงพ่อหรือคุณยาย" เถ้าแก่ถาม

"อาตมาน่ะสิ คือก่อนนอนมันกังวลว่าน้ำในโอ่งมันแห้ง พรุ่งนี้จะต้องลุกขึ้นตักน้ำแต่เช้า พอหลับไปก็เลยละเมอ นี่ชาวบ้านเขามาเล่าให้ฟังนะ เขาบอกว่าเห็นอาตมาลุกขึ้นตักน้ำตั้งแต่ตีสี่ ตักขึ้นบ้าน อาตมาก็แปลกใจว่าคนละเมอทำไมถึงหาบกระแต๋งไปสระได้ แถมขึ้นบันไดบ้านถูกด้วย เขาบอกว่าอาตมาตักเอาๆ เขาพูดด้วยก็ไม่พูด ก็คนละเมอจะรู้เรื่องได้ยังไง จริงไหม" ท่านถามพระบัวเฮียว

"จริงครับ แล้วเขาบอกไหมครับว่าเขาพูดว่าอย่างไร"

"เขาบอกว่าเขาตะโกนถามว่า 'ไอ้หนูนึกยังไงถึงลุกขึ้นมาตักน้ำตั้งแต่ตีสี่' แต่ฉันก็ไม่ตอบเขา ตักน้ำเสร็จก็กลับไปนอนจนรุ่งเช้า"

"แล้วไม่ลุกหุงข้วหรือครับ"

"ไม่ลุก ยายไม่ได้ปลุกเพราะยายไม่อยู่ ไปช่วยงานที่บ้านเหนือ พอตื่นเช้ามาก็ตกใจ โอ้โฮ..น้ำเต็มโอ่งหมดทั้งสิบโอ่ง แถมโอ่งข้าวสารก็มีน้ำเต็ม ข้าวสารลอยเป็นแพเลย"

"หลวงพ่อคงถูกยายตีอานไปเลย" พระบัวเฮียวเดา

"โน" หลวงพ่อตอบอย่างผู้มีชัย "คราวนี้ฉันรอดตัว เพราะพอยายกลับจากวัดเหนือก็ถามว่า...'ไอ้หนู ใครแช่ข้าวให้ยาย' ฉันก็ตอบว่า 'ผมละเมอตักน้ำใส่โอ่งข้าวสาร' กลัวยายตีก็กลัว แต่ยายกลับตอบว่า 'เออดี บ้านเหนือเขากำลังจะทำขนมจีน งั้นเอ็งรีบเอาไปให้เขาทำแป้งขนมจีน  เร็วๆเข้า'

เสียงระฆังเพลดังขึ้น พระบัวเฮียวกราบพระอุปัชฌาย์สามครั้ง แล้วลุกเดินไปยังหอฉัน

ท่านพระครูบอกเถ้าแก่เส็งว่า "ไป เชิญไปรับประทานอาหารกลางวันก่อน เดี๋ยวค่อยคุยกันต่อ สมชายไปเรียกโชเฟอร์มาด้วย"

สั่งเสร็จท่านก็เดินขึ้นไปยังชั้นบนของกุฎิ เพื่อเขียนหนังสือสอบอารมณ์กรรมฐาน





ผู้ประพันธ์  :  ดร.สุทัสสา อ่อนค้อม
หมวดหนังสือ















Create Date : 14 พฤษภาคม 2558
Last Update : 14 พฤษภาคม 2558 7:55:28 น. 38 comments
Counter : 1071 Pageviews.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
เดียวไว้กลับมาอ่านขอรับ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 14 พฤษภาคม 2558 เวลา:8:58:14 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
เตยจ๋า Topical Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

-----------------------

เช้านี้อิ่มธรรมะจริง ๆ ผ่านมา 3 บล็อกรวมบล็อกนี้ด้วย อิอิ
โหวตให้กำลังใจก่อน ว่าง ๆ มาเก็บงานค่า



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 14 พฤษภาคม 2558 เวลา:8:59:06 น.  

 
ลงชื่อไว้ก่อน พรุ่งนี้มาอีกครั้งค่ะ


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 14 พฤษภาคม 2558 เวลา:10:58:14 น.  

 
การปฏิบัติธรรมไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้ามีความเด็ดเดี่ยวและใจสู้
มันก็ไม่ยากจนเกินไป นี่อาตมาหมายถึงธรรมระดับสูงนะ......
เคยไปวัดป่าบ้านตาด หลวงตามหาบัวท่านเทศน์เล่าเรื่องปฎิบัติธรรมของท่าน
ถึงจุดหนึ่งที่ท่านปฎิบัติยอมตาย และก็ผ่าน(ด่าน)มาได้
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog


โดย: moresaw IP: 1.2.137.250 วันที่: 14 พฤษภาคม 2558 เวลา:13:25:47 น.  

 
อ่ะ พระบัวเฮียว เป็นน้องชายในอดีตชาติเหรอคะ
เถ้าแก่เส็งฝึกจนตอนนี้ก้าวหน้าขึ้นแล้ว เพราะตั้งใจจริงนะคะ

เรื่องตอนเด็กๆที่ถูกเคี่ยวเข็ญแล้วความที่เราเป็นเด็กจะไม่ชอบ
อันนี้จริงเลยค่ะพี่แว่นฟ้า
นิคมีคุณครูอยู่ท่านหนึ่งดุมาก ชนิดที่นักเรียนทั้งโรงเรียนกลัวนั่นเลย
ตอนนั้นน่ะเราไม่ชอบหรอก พอโตขึ้นจึงรู้ว่าได้ดีเพราะคำสอนครูมาหลายอย่างเลย



โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 14 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:20:34 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog


โดย: newyorknurse วันที่: 15 พฤษภาคม 2558 เวลา:2:05:10 น.  

 
อ่านแล้วโหวตค่ะ


เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 15 พฤษภาคม 2558 เวลา:4:55:12 น.  

 
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
เห็นด้วยครับว่าเรื่องของอภิญญาอยู่ที่การสร้างสั่งสมบุญบารมีมาที่เขาได้เร็วเพราะว่าสั่งสมมาดีจนอะไรกั้นไว้ไม่อยู่


โดย: ผมไม่ได้บินคนเดียว (เตยจ๋า ) วันที่: 15 พฤษภาคม 2558 เวลา:6:56:49 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณแว่นฟ้า
มาลงชื่อไว้ก่อนนะคะ
พรุ่งนี้มาใหม่คะ



โดย: mambymam วันที่: 15 พฤษภาคม 2558 เวลา:9:10:13 น.  

 
อุ้มแวะมาอ่านค่ะ
ไม่ได้แวะมาอ่านนานล่ะค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 15 พฤษภาคม 2558 เวลา:21:00:17 น.  

 
ส่งกำลังใจและส่งเข้านอนค่ะ
ราตรีสวัสดิ์นะคะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 16 พฤษภาคม 2558 เวลา:0:04:09 น.  

 
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

มาส่งกำลังใจยามดึกค่ะ
ฝันดีนะคะ


โดย: AppleWi วันที่: 16 พฤษภาคม 2558 เวลา:0:14:27 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณแว่นฟ้า

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
พรหมญาณี Dharma Blog ดู Blog
ขุนเพชรขุนราม Blog about TV ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น



โดย: mambymam วันที่: 16 พฤษภาคม 2558 เวลา:7:00:28 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
บล็อกใหม่รวดเร็วทันใจจังค่ะ
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog




โดย: หอมกร วันที่: 16 พฤษภาคม 2558 เวลา:8:14:08 น.  

 
สวัสดียามเช้า

ส่งกำลังใจไปให้คุณเวียงแว่นฟ้าครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: **mp5** วันที่: 16 พฤษภาคม 2558 เวลา:8:24:35 น.  

 
ตอนนี้สนุกค่ะ


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ปีศาจความฝัน Movie Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 16 พฤษภาคม 2558 เวลา:13:56:19 น.  

 
เรื่องอะไรที่เกี่ยวกับพระธรรม อ่านแล้วสนุกหมด
สำหรับปอป้านะคะ คนอื่นไม่ทราบ อิ ๆ

ไว้ปอป้าจะมาใหม่นะคะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 16 พฤษภาคม 2558 เวลา:15:31:59 น.  

 
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
เอาบุญมาฝากจ้ะวันนี้เป็นประธานนำกล่าว
อุทิศบุญกุศลแด่ญาติผู้ล่วงลับ..และบุญสร้างหอฉัน
บุญตักบาตรถวายปัตตาหาร..บุญนั่งสมาธิฯลฯ
ขอให้ได้บุญด้วยกันนะค่ะ


โดย: (โอพีย์)กลมกิ๊ก (Opey ) วันที่: 18 พฤษภาคม 2558 เวลา:4:20:42 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ขอรับ.. วันนี้แวะมาอ่านชีวิตในวัยเด็กของหลวงตาขอรับ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 18 พฤษภาคม 2558 เวลา:5:35:40 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
---------------------

ส่งกำลังใจให้คุณเวียงแว่นฟ้าค่ะ
นอนหลับฝันดีคืนนี้นะคะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 18 พฤษภาคม 2558 เวลา:22:22:25 น.  

 
สวัสดีค่ะ คุณเวียงแว่นฟ้า

ว่าจะมาโหวตตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
แต่เข้าบล๊อกยากมากค่ะ หลุดบ่อยมาก จนรำคาญ ล๊อกเอ๊าท์ไปเลย อิอิ
วันนี้คลื่นลมสะดวกเลยต้องรีบมาโหวตก่อนที่ท่านจะงอแงอีก 555

เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

มีความสุขมาก ๆ นะคะ




โดย: พรหมญาณี วันที่: 19 พฤษภาคม 2558 เวลา:9:44:12 น.  

 
แวะมาส่งกำลังใจค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: pantawan วันที่: 20 พฤษภาคม 2558 เวลา:0:01:38 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ


โดย: **mp5** วันที่: 20 พฤษภาคม 2558 เวลา:8:27:43 น.  

 
เมื่อวานเขามาอ่าน วันนี้มาให้กำลังใจค่ะ
ช่วงนี้เดินสายไม่สะดวก มาช้าบ้างนะคะ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 21 พฤษภาคม 2558 เวลา:7:34:38 น.  

 
สวัสดีตอนบ่ายค่ะ คุณเวียงแว่นฟ้า



โดย: พรหมญาณี วันที่: 21 พฤษภาคม 2558 เวลา:13:18:43 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ



โดย: moresaw วันที่: 22 พฤษภาคม 2558 เวลา:6:14:55 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ


โดย: **mp5** วันที่: 22 พฤษภาคม 2558 เวลา:8:04:33 น.  

 
สวัสดียามบ่ายค่ะ คุณเวียงแว่นฟ้า

เมื่อไรจะมีเอ็นทรี่ใหม่มาให้อ่านกันอีกค่ะ

คิดถึงนะคะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 23 พฤษภาคม 2558 เวลา:14:11:50 น.  

 
เรื่องเล่าของหลวงพ่อในวัยเด็กชวนฟังมากครับ
ขอบคุณครับ

เวียงแว่นฟ้า Dharma Blog


โดย: Insignia_Museum วันที่: 24 พฤษภาคม 2558 เวลา:8:37:53 น.  

 
สวัสดีค่ะ ^^

============

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ALDI Klaibann Blog ดู Blog
Rinsa Yoyolive Travel Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Home & Garden Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog


โดย: ปรัซซี่ วันที่: 24 พฤษภาคม 2558 เวลา:18:17:01 น.  

 

ส่งกำลังใจค่ะ

เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: พรไม้หอม วันที่: 24 พฤษภาคม 2558 เวลา:19:31:41 น.  

 
ขอบคุณคุณเวียงแว่นฟ้าสำหรับกำลังใจนะคะ
นอนหลับฝันดีคืนนี้ค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 24 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:32:53 น.  

 
เข้ามาอ่านสองครั้งสามครั้งแต่อ่านจบสักที สงสัยท่านขุนกลายเป็นคนสมาธิสั้นไปแล้วขอรับ
วันนี้เลยเข้ามาอ่านที่ค้างไว้ให้จบฮ่า..สนุกดี พระบัวเฮียว นี้มีบุญจังเลยนะขอรับ
อดีตชาติก็เคยเป็นญาติกันมากับหลวงตา...แกก็กวนๆหลวงตาได้ใจจริงๆ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:00:26 น.  

 
แวะมาขอบคุณสำหรับโหวตค่า
จริง ๆ ฟ้าใสอ่านจบตั้งแต่วันแรกแล้วนะคะ แต่ไม่ได้เม้นท์บอก
หลับฝันดี ราตรีสวัสดิ์ค่า



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 25 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:34:15 น.  

 
อรุณสวัสดิ์ค่ะ...
เถ้าแก่เส็ง
เก่งจังเลย
รู้ด้วยว่าหลวงตาอยู่วัด


โดย: Opey วันที่: 26 พฤษภาคม 2558 เวลา:5:53:49 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
ตามมาอ่านค่ะ


โดย: ชมพร (ชมพร ) วันที่: 27 พฤษภาคม 2558 เวลา:11:41:04 น.  

 
มาดูว่า คุณเวียงแว่นฟ้า กลับมาหรือยัง

ยังไม่มา รออยู่นะคะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 27 พฤษภาคม 2558 เวลา:15:53:18 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณเวียงแว่นฟ้า


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 28 พฤษภาคม 2558 เวลา:14:15:02 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เวียงแว่นฟ้า
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]




!-- Stat ทำงาน วันที่ 26 กพ 55
[Add เวียงแว่นฟ้า's blog to your web]