เวียงแว่นฟ้า - เดินตามรอยกรรม
<<
เมษายน 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
29 เมษายน 2558

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม - บทที่ 34




พระบัวเฮียวแอบตั้งข้อสังเกตว่าบรรดาศิษยานุศิษย์ ที่มาปรึกษาปัญหาธรรมะกับท่านพระครูนั้น ส่วนใหญ่มักเป็นคนจีน ฝ่ายคนไทยมีน้อยคนที่จะสนใจเรื่องธรรมะ และเมื่อมาวัดก็จะแบกปัญหาหนักอกมาให้ท่านพระครูช่วยแก้ หลังจากนั้นก็จะหายหน้าหายตาไป  ต่อเมื่อต้องการให้ท่านช่วยอีก จึงจะมาให้เห็น ผิดกับคนจีนที่มักจะมาอย่างสม่ำเสมอ ทั้งยังสนใจธรรมะและนำไปปฏิบัติอย่างเคร่งครัด จนสามารถแก้ปัญหาได้ด้วยตัวเอง ท่านพระครูจึงชื่นชมคนจีนพวกนี้ในแง่นี้และแง่อื่นๆด้วย

เช้านี้อากาศปลอดโปร่งกว่าทุกวัน ทั้งยังปลอดคนด้วย เพราะตามรายการ ท่านพระครูต้องไปบรรยายธรรมที่กรุงเทพฯ แต่ทางผู้จัดเขาเพิ่งแจ้งมาว่าต้องขอเลื่อนไปวันอื่น ท่านจึงไม่ต้องไปไหน

ฉันเช้าเสร็จพระบัวเฮียวก็ถือโอกาสมาเรียนปรึกษาปัญหาธรรมะกับพระอาจารย์ จะให้ท่านสอบอารมณ์ให้ด้วย

"หลวงพ่อครับ ผมถูกถีนมิทนิวรณ์คุกคามอย่างหนักเลยครับ มันง่วงเหงาหาวนอนตลอดเวลา เดินจงกรมก็ง่วง ปฏิบัติตามวิธีขจัดความง่วงอย่างที่หลวงพ่อเตยแนะนำ ก็ไม่หายง่วง ผมก็เลยต้องนอนเพราะคิดว่าคงจะหายง่วง"

"แล้วหายไหมล่ะ" พระอุปัชฌาย์ถาม
"ไม่หายครับ แถมยังนอนไม่หลับอีกด้วย ง่วงแทบตาย แต่พอนอนกลับไม่หลับ ทำไมมันถึงเป็นอย่างนั้นครับ"
"นั่นเป็นอาการของญาณนะบัวเฮียว ไม่ใช่ถีนมิทนิวรณ์หรอก"
"หมายความว่าอย่างไรครับ" ลูกศิษย์ไม่เข้าใจ
"หมายความว่าอาการที่เธอเล่ามานั้น เป็นอาการของผู้ที่เข้าถึง 'นิพพิทาญาณ' ซึ่งเป็นญาณที่แปด"
"งั้นผมก็เดินมาได้ครึ่งทางแล้วสิครับ" พระบัวเฮียวพูดอย่างดีใจ
"ถูกแล้ว แต่อย่าเพิ่งดีใจ มีคนเขาได้ญาณนี้ก่อนเธอมาหลายคนแล้ว เธอไม่ใช่คนแรกที่ได้ คนที่ได้รายล่าสุดคือลูกชายของคหบดี คนที่ชื่อนายต้อม"
"งั้นก็แปลว่าผมไปช้ากว่าลูกศิษย์หรือครับ"
"ก็คงยังงั้น แต่ช้าของเธอน่ะ ฝรั่งเขาเรียกว่า 'สโลว์บัทชัวร์' เข้าใจหรือเปล่า"
"ผมไม่เคยเรียนภาษาฝรั่งครับ หลวงพ่อได้โปรดอธิบายให้คนต่ำต้อยด้อยปัญญาอย่างผมฟังหน่อยเถิดครับ"
"ถ่อมตัวเหลือเกินนะ วันนี้วันอะไรหนอ พระบัวเฮียวถึงได้สงบเสงี่ยมเจียมตัวอย่างนี้"
"ไม่ใช่วันพระแน่ครับ" คนเป็นศิษย์ตอบแบบฉับพลัน
"รู้แล้ว แต่ฉันอยากรู้ว่าทำไมเธอถึงได้ถ่อมตัวมากมายนัก วันอื่นไม่เห็นเป็บแบบนี้เลยนี่นา"
"ก็วันนี้ผมอยากได้วิชานี่ครับ ส่วนวันอื่นไม่อยากได้" พระบัวเฮียวถือโอกาส 'ยวน'
"อยากได้วิชาอะไรล่ะ"
"วิชาขจัดความง่วงที่เกิดจากนิพพิทาญาณน่ะครับ"
"เอาเถอะ จะบอกให้เอาบุญ"

แล้วท่านก็บอกวิธีปฏิบัติเมื่อเข้าถึงนิพพิทาญาณแก่พระบัวเฮียว เหมือนที่เคยบอกหนุ่มต้อม

"แล้วที่หลวงพ่อพูดภาษาต่างประเทศเมื่อดะกี้ เสียงโลๆ ชัวๆ น่ะครับ หมายความว่าอย่างไรครับ"

"หมายความว่เธอเข้าถึงญาณที่แปดช้ากว่านายต้อมก็จริง แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะบรรลุญาณ 16 ทีหลังเขา ฉันมองหน้าเธอก็รู้ว่าหน้าอย่างเธอถึงจะไม่ฉลาดซักเท่าไหร่ แต่ก็แน่ใจว่าเธอจะบรรลุโสดาบัติผลเป็นอย่างต่ำ นี่พูดเฉพาะชาตินี้เท่านั้นนะ" ท่านอธิบาย

"แล้วนายต้อมเล่าครับ ก็เขาได้ญาณ 8 ก่อนผม เขาก็ต้องได้ญาณ 16 ก่อนผม ถูกไหมครับ"

"ไม่เสมอไปหรอก ฆราวาสที่เข้ามาปฏิบัติมีสิทธิได้ถึงญาณ 8 ญาณ 9 หรือบางคนก็อาจถึงญาณ 13 แต่พอเขากลับบ้านก็จะถูกสิ่งแวดล้อมทางโลกดึงไป การปฏิบัติก็จะหยุดอยู่แค่นั้น อย่างกรณีของนายต้อม เขาอยากบวช แต่พ่อแม่ไม่ยอมให้บวช เมื่อกลับไปอยู่บ้านเขาก็จะติดอยู่กับความสุขทางโลก จนลดละการปฏิบัติ เขาก็เลยจะติดอยู่ที่ญาณ 8 นั่นแหละ"

"แต่ถ้าเขาบวช เขาก็จะก้าวหน้าในการปฏิบัติใช่ไหมครับ"

"มันก็คงจะเป็นอย่างนั้น เพราะบรรยากาศในวัดมันเอื้อต่อการปฏิบัติมากกว่าที่บ้าน และการประพฤติพรหมจรรย์ก็ช่วยให้การปฏิบัติดำเนินไปได้อย่างคล่องตัว เพราะมีข้อวัตรปฏิบัติที่แตกต่างไปจากวิถีชีวิตแบบชาวบ้าน พระจึงได้เปรียบฆราวาสในแง่นี้"

ชายวัยสี่สิบเศษคลานเข้ามาหาท่านพระครู ตามด้วยเด็กหนุ่มอายุประมาณยี่สิบ คนทั้งสองกราบท่านพระครู

"ไม่ได้มาหาหลวงพี่เสียนาน สบายดีหรือครับ" คนอาวุโสสูงกว่ากล่าว
"ก็เอ็งเห็นข้าสบายหรือเปล่าล่ะ" ท่านย้อนถาม

ชายผู้นี้เป็นลูกผู้น้องของท่านพระครู เคยวิ่งเล่นมาด้วยกันตั้งแต่เด็ก ส่วนเด็กหนุ่มที่มาด้วยมีศักดิ์เป็นหลานของท่าน

"แหมหลวงลุง พ่อเขาถามดีๆ หลวงพ่อกลับตอบเล่นลิ้น" หลานชายต่อว่า พร้อมกับทำตาประหลับประเหลือก

"เอ็งอย่ามาทำกิริยาแบบนี้กับข้านะ เจ้าขุนทอง เอ็งไม่ใช่ผู้หญิงนะ" ท่านพระครูว่า เมื่อเห็นท่าท่ากระตุ้งกระติ้งของหลานชาย

"หนูจะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับหลวงลุงหรอกน่า"
นายขุ่นทองพูดลอยหน้าลอยตา ทำท่าค้อนควัก

ท่านพระครูสงสัยจึงใช้ 'เห็นหนอ' เข้าตรวจสอบ ก็ได้ทราบว่าหลานชายของท่านมีจิตใจเป็นผู้หญิงไปเสียแล้ว ไม่น่าเลย ตอนเกิดท่านก็เห็นมันเป็นผู้ชายแท้ๆ ไปๆ มาๆ ไหงกลายเป็นผู้หญิงไปเสียได้ โธ่เอ๋ย ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา

พระบัวเฮียวกำลังคุยกับพระอุปัชฌาย์อยู่ดีๆ เมื่อมีผู้อื่นมา 'ขัดคอ' เช่นนี้ ก็เกิด 'ปฎิฆะ' อย่างอ่อนๆ ครั้นฉุกคิดได้ว่าบุรุษทั้งสองน่าจะเป็นญาติกับท่านพระครู จึงพยายามข่มความหงุดหงิดขัดเคืองเอาไว้ แล้วพูดเอาบุญเอาคุณว่า

"โยมโชคดีนะที่ได้พบหลวงพ่อ ความจริงวันนี้ท่านต้องไปบรรยายธรรมที่กรุงเทพฯ"
"หรือครับ แล้วทำไมไม่ไปเล่าครับ" นายขำถาม

"ก็ทางโน้นเขาโทรเลขด่วนมาขอเลื่อน อาตมาก็เลยพลอยโชคดีไปด้วย เพราะหมู่นี้หาเวลาคุยกับท่านยาก ยิ่งวันพระด้วยแล้ว หมดสิทธิ์เลย เพราะแขกเหรื่อมากันแน่นกุฎิ"

"โอ้โฮ เดี๋ยวนี้หลวงพี่ขายดีถึงขนาดนี้เลยหรือครับ" คนมีศักดิ์เป็นน้องชายกล่าว
"เอ็งลองมาเป็นข้าบ้างซิ แล้วจะรู้ ว่าแต่ที่มาเนี่ยมีอะไรจะให้ข้าช่วยล่ะ"

นายขุนทองจ้องหน้าท่านพระครูแล้วถามว่า "หลวงลุงใส่แว่นตามาตั้งแต่เมื่อไหร่ฮะ"
"สิบปีเข้านี่แล้ว ถามทำไม"
"เปล่าหรอกฮะ ก็หลวงลุงดูแปลกไป คือใส่แว่นแล้วหล่อขึ้นน่ะฮะ หล่อกว่าไม้ใส่ ว่าแต่สั้นหรือยาวฮะ" ถามแล้วก็หัวเราะคิกๆอยู่คนเดียว
"อะไรของเอ็งล่ะ อะไรสั้น อะไรยาว พูดให้มันฟังง่ายๆหน่อยไม่ได้หรือ"

"แหมหลวงลุงเนี่ย หนูหมายถึงสายตาน่ะ สั้นหรือยาว ที่หลวงตาต้องใส่แว่น เพราะสายตาสั้นหรือยาวฮะ"

คนพูดบิดตัวไปมาด้วยท่าทางเอียงอาย ท่านพระครูรู้สึกขัดตากับท่าทางมีจริตจะก้านของหลานชาย แต่ท่านก็รู้ว่าที่เขาต้องเป็นอย่างนี้ก็เพราะกฏแห่งกรรม จึงไม่ว่าให้เขาเสียน้ำใจ ถ้าว่าแล้วทำให้เขาดีขึ้นจึงค่อยว่า

"หมอเขาว่าสายตายาว เอาละ มีธุระอะไรก็ว่ามาเลย" ท่านพูดกับบิดานายขุนทอง

"ผมน่ะไม่มีหรอกครับหลวงพี่ แต่ที่ต้องมาก็เพราะธุระของเจ้าขุุนทองนั่นแหละ มันกำลังจะเกณฑ์ทหาร จะขอหลวงพี่ช่วยไม่ให้มันต้องติดทหาร
สงสารมัน"

"นี่เผลอเดี๋ยวเดียวเอ็งอายุยีสิบเอ็ดแล้วหรือขุนทอง ข้ายังเห็นเอ็งวิ่งเล่นอยู่ไม่กี่วันนี่เอง จะเกณฑ์ทหารแล้วหรือนี่"
"ใช่สิฮะ เดี๋ยวนี้หนูเป็นสาวแล้วนะหลวงลุง"
"เป็นหนุ่มโว้ยเจ้าทอง เอ็งเป็นผู้ชายนะ" คนเป็นพ่อรีบกล่าวแก้ กลุ้มใจอยู่เหมือนกัน ที่เลี้ยงลูกชายให้กลายเป็นลูกสาว
"เออน่ะ มันอยากจะเป็นสาวก็ช่างหัวมัน"

ท่านพระครูปรามนายขำ แล้วหันไปปรามนายขุนทองบ้าง

"เอ็งก็ให้มันน้อยๆหน่อยนะเจ้าขุนทอง อย่าให้มันมากเกินไป เอ้า...ก็ไหนเอ็งว่าเป็นผู้หญิง แล้วทำไมต้องถูกเกณฑทหารล่ะ"

นายขุนทองทำท่าคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบว่า "นั่นสิฮะ เขาว่าเขาเอาตามสำมะโนครัว หลวงลุงช่วยหนูด้วยนะฮะ ขืนหนูถูกเกณฑ์ไปเป็นทหาร คงถูกพวกมันลงแขกทั้งกองทัพ" หนุ่มน้อยปริวิตก

"ดูพูดเข้าแน่ะ ยังกะว่าเอ็งสวยนักนี่" หลวงลุงค่อน
"ก็สวยกว่าหลวงลุงก็แล้วกัน" นายขุนทองเถียง
"เอาเถอะๆ ข้ายกให้" ท่านพระครูยอมแพ้

นายขำทำหน้าเหนื่อยหน่าย ปรับทุกข์กับท่านต่อหน้าลูกชายว่า "ไม่รู้ว่าผมทำกรรมอะไรไว้ หลวงพี่ช่วยดูให้หน่อยเถิดครับ"

"เอ็งจะเดือดร้อนไปทำไมล่ะ ก็ตัวเจ้าขุนทองเองมันยังไม่เดือดร้อนเลย ใช่ไหมขุนทอง" ท่านถามหลานชายที่กลายมาเป็นหลานสาว

"นั่นสิฮะ พ่อจะกลุ้มใจไปทำไม" นายขุนทองทำเสียงเล็กเสียงน้อยล้อบิดา แล้วเหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ เขาหันไปถามท่านว่า "หลวงลุงฮะ หนูทำกรรมอะไรไว้ฮะ ถึงได้เกิดเป็นกะเทย ใจจริงหนูอยากเกิดเป็นผู้หญิง ทำไมมันถึงไม่ได้อย่างที่อยากล่ะฮะ"

"เอ็งอยากรู้จริงๆหรือ"
"อยากฮะ อยากให้พ่อแกรู้ด้วย จะได้เลิกบ่นหนูเสียที"

"เอาละ เมื่ออยากรู้ก็จะบอก บัวเฮียวฟังด้วยนะ แล้วจำไว้ด้วย วันหน้าวันหลังถ้ามีใครถาม จะได้ตอบเขาได้"
"ครับหลวงพ่อ ผมกำลังตั้งใจฟังอยู่ครับ แม้วันหน้าวันหลังจะไม่มีใครมาถาม ผมก็จะฟังและจำใส่สมองเอาไว้ นิมนต์หลวงพ่อพูดต่อเถิดครับ"

"แหม หลวงพี่พูดถูกใจอีขุนทองจริงๆ" นายขุนทองรู้สึกถูกชะตากับหลวงพี่องค์นี้เสียเหลือเกิน

ท่านพระครูมองหน้าลูกศิษย์ทีหนึ่ง มองหน้าหลานทีหนึ่ง แล้วจึงพูดว่า "ที่เจ้าขุนทองเป็นอย่างนี้เพราะกรรมเก่า ชาติที่แล้วเป็นคนเจ้าชู้ ผิดศีลข้อสามเป็นอาจิณ ส่งผลให้ต้องมาเป็นอย่างนี้ และถ้าไม่เปลี่ยนแปลงแก้ไข ก็จะเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกหกชาติ"

"ยังพอจะแก้ไขได้ไหมครับหลวงพ่อ" นายขำถาม
"ก็ยังพอมีทางอยู่ แต่สงสัยเจ้าขุนทองจะทำไม่ได้"
"หลวงลุงจะให้ผมทำอะไรเล่าฮะ" คนมีกรรมเก่าถาม

"ให้เอ็งมาเข้ากรรมฐานน่ะสิ"
พอได้ยิน นายขุนทองก็ร้องเสียงหลงว่า "ว้ายตาเถรหกคะเมนตีลังกา หลวงลุงจะให้อีขุนทองมาเข้ากรรมฐาน"
"นั่นไง แค่นี้เอ็งก็โวยแล้ว ตามใจเอ็งก็แล้วกัน อยากเป็นอย่างนี้ต่อไปก็ตามใจ" ท่านพระครูปลงสังเวช
"ถ้างั้นหลวงพี่ช้วยมันพอไม่ให้ไม่ต้องติดทหารก็พอ มีคนเขาแนะนำวิธีมาเหมือนกัน แต่มันไม่เชื่อเขา รบเร้าให้ผมพามาหาหลวงพี่"
"เขาแนะนำว่าอย่างไรล่ะ"

นายขุนทองขยิบหูขยิบตาใส่บิดา เป็นเชิงไม่ให้บอก แต่นายขำไม่ฟังเสียง

"เขาแนะนำให้เอามดตะนอยมาต่อยลูกอัณฑะครับหลวงพี่ พอมันบวมก็จะได้บอกเขาว่าเป็นไส้เลื่อน"

ท่านพระครูและพระบัวเฮียวรู้สึกขำ ส่วนนายขุนทองทำท่ากระฟัดกระเฟียด

นายขำพูดต่ออีกว่า "เจ้าขุนทองมันไม่ยอมทำตาม ก็เลยต้องมากวนหลวงพี่"

ฟังจบแล้วท่านพระครูก็ตัดสินว่า "ดีแล้ว ไม่ทำตามก็ถูกแล้ว จะได้ไม่ต้องสร้างกรรมเพิ่มขึ้นอีก เรื่องอะไรจะไปหลอกลวงเขาอย่างนั้น นี่มีตัวอย่างมาแล้ว คนหน้าวัดนี่เอง ทำแบบเดียวกับที่เอ็งเล่ามานั่นแหละ แต่ขอโทษเถอะ อยู่ต่อมาไม่นานเกิดเป็นไส้เลื่อนขึ้นมาจริงๆ เพระกรรมที่ไปหลอกลวงคนอื่น หลอกใครไม่หลอกไปหลอกหลวง กรรมเลยตามทัน หลอกหลวงนี่บาปหนักกว่าหลอกราษฏรฺนะ"

"แล้วเป็นยังไงครับหลวงพี่" นายขำถามอีก
"จะเป็นยังไงก็เข้าโรงพยาบาลผ่าตัด ผ่าตัดแล้วก็ยังไม่หาย กลายเป็นมะเร็งเสียอีก"
"เป็นตรงไหนฮะหลวงลุง เป็นตรงไหน" นายขุนทองถามอย่างสนใจ ทำท่าเอียงอายไปด้วย
"ก็ตรงนั้นแหละ อยู่ได้ไม่ถึงปีก็ตาย เห็นเขาว่าเน่าเลย ไอ้ตรงที่เคยเอามดตะนอยต่อยนั่นน่ะเน่าเฟะเลย ญาติเขาเอามาเผาที่วัดนี้ ดีแล้วที่เอ็งไม่ทำอย่างเขา ไม่งั้นก็อาจจะเน่าเหมือนกัน"
"ว้าย หลวงพ่ออย่าพูด เสียว เสียว"" นายขุนทองส่งเสียงวี้ดว้าย ยกมือทั้งสองขึ้นปิดหู
"ตกลงหลวงพ่อช่วยมันด้วยนะครับ" นายขำสรุป
"ก็ได้ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยน"
"ต้องแลกเปลี่ยนอะไรฮะหลวงลุง ไงๆก็อย่าให้หนูมาเข้ากรรมฐานแล้วกัน ได้ไหมฮะ"
"เออ ได้ก็ได้ แต่เอ็งต้องมาอยู่กับข้าที่กุฎินี้ จะได้ช่วยรับแขก หาน้ำหาท่าให้เขาดื่ม"

ท่านยื่นข้อเสนอ บางทีการมาอยู่ใกล้ชิดท่าน อาจจะทำให้กรรมของนายขุนทองเบาบางลงบ้าง ท่านจะพยายามช่วยเขา แม้จะยากเพียงใดก็จะพยายาม

"งั้นก็ตกลงฮะ ดีแล้ว หนูจะได้ไม่ต้องถูกพ่อกะแม่บ่น แล้วยังจะได้รู้จักคนเยอะๆด้วย เดี๋ยวหนูกลับไปเอาเสื้อผ้าเลยนะพ่อนะ"
"ยังก่อน ยังก่อน เอาไว้ให้พ้นฤดูเกณฑ์ทหารไปก่อนค่อยมา ยังอีกตั้งสองเดือนแน่ะ" นายขำบอกลูก

แต่ท่านพระครูไม่เห็นด้วย "ให้มาเสียตอนนี้แหละ ข้ากำลังอยากได้คนช่วยงาน ให้มันอยู่ใกล้ๆข้า บางทีมันอาจจะอยากเป็นผู้ชายขึ้นมาบ้าง"

"ไม่มีทาง จ้างให้หนูก้ไม่ยอมเป็นผู้ชาย จะเป้นผู้หญิงเต็มตัวน่ะไม่ว่า เพราะไม่มีพ่อกับแม่คอยขัดคอ" นายขุนทองลอยหน้าลอยตาพูด

"ท่ามันจะไม่ดีละมังหลวงพี่ เดี๋ยวก็ได้ไปกันใหญ่ ให้มันอยู่กับผมอย่างเดิมดีกว่า ยังไงๆก็ยังอยู่ในสายตามั่ง" นายขำพูดอย่างวิตก
"ไม่ต้องห่วงหรอก ขำเอ๊ย เชื่อข้าเถอะ ข้าคิดว่าพอจะช่วยมันได้ คงไม่เหลือบ่ากว่าแรงข้าหรอกน่า ถึงอย่างไรก็ยังดีกว่าอยู่กับเอ็ง ข้อนี้ข้ารับรอง"

"งั้นก็ตามใจหลวงพี่ก็แล้วกัน บางทีมันอาจจะดีขึ้นอย่างที่หลวงพี่ว่ามาก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ถือว่าเป็นโชคของมัน แต่ถ้าไม่ดีขึ้นก็ถือว่าเป็นกรรมของมัน" นายขำพูดอย่างปลงอนิจจัง

"ดีแล้ว เอ็งคิดได้ยังงั้นก็ดี จะได้ไม่ทุกข์ คิดเสียว่าใครๆก็ต้องมีกรรมของตัวเองทั้งนั้น ทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ก็เพื่อมารับผลของกรรม ผลจะดีหรือชั่วก็ขึ้นอยู่กับกรรมที่ทำไว้ ว่าเป็นกรรมดีหรือกรรมชั่ว"

"หมายความว่าคนที่กรรมดีก็ยังต้องเกิดอีก ทำกรรมชั่วก็ต้องเกิดอีกอย่างนั้นหรือครับหลวงพี่" นายขำถาม
"ถูกแล้ว"
"งั้นเราควรจะทำอย่างไรจึงจะไม่ต้องเกิดอีกล่ะครับ เพราะทำกรรมดีก็ยังต้องเกิด"

"กรรมที่ทำให้ไม่ต้องเกิดนั้นเขาเรียกว่ากรรมไม่ดำไม่ขาว กรรมดำคือกรรมชั่ว กรรมขาวคือกรรมดี ดังนั้นกรรมที่ไม่ดำไม่ขาวคือกรรมที่ไม่เป็นทั้งกรรมชั่วและกรรมดี จะพูดว่าเป็นกรรมกลางๆก็ได้"

"แล้วกรรมที่ว่านี่ต้องทำอย่างไรบ้างครับ" พระบัวเฮียวถามบ้าง

"ต้องปฏิบัติอริยมรรคมีองค์แปด ที่เธอเดินจงกรม นั่งสมาธิและกำหนดอิริยาบถตลอดเวลานั่นคือการปฏิบัติอริยมรรคมีองค์แปดนั่นแหละ เพราะการปฏิบัติดังกล่าว มันคลุมองค์มรรคครบทั้งแปดข้อ ตั้งแต่สัมมาทิฐิไปจนถึงสัมมาสมาธิ แล้วก็เป็นการปฏิบัติที่มีครบทั้งศีล สมาธิและปัญญาเลยทีเดียว"

"แหม หลวงพี่ยิ่งพูดผมก็ยิ่งงง เห็นจะต้องลากลับเสียที" นายขำพูดเพราะไม่เคยสนใจเรื่องพวกนี้ "กลับกันเถอะขุนทอง ไปเอาเสื้อผ้าก่อน พรุ่งนี้ค่อยมา"

"งั้นพรุ่งนี้ช้าจะให้สมชายไปรับเจ้าขุนทองก็แล้วกัน จะได้ไม่เสียเวลาทำงานของเอ็ง" ท่านพระครูเอื้อเฟื้อ
"ขอบคุณหลวงพี่มากครับ ไงๆผมก็ฝากลูกด้วย นึกว่าเวทนามันที่เกิดมาไม่ค่อยเต็มบาทเหมือนนอื่นเขา"

พ่อลูกกราบท่านพระครูแล้วหันไปกราบพระบัวเฮียว

"ต้องขอโทษหลวงพี่ด้วยนะครับ ที่มาขัดคอ ผมฝากเจ้าขุนทองด้วย"
"ไม่ต้องห่วงหรอกโยม แล้วอาตมาจะช่วยดูแลให้" พระบัวเฮียวตอบ รู้สึกประทับใจในความรักและห่วงใยของบิดาต่อบุตร

"พรุ่งนี้พบกันนะฮะหลวงพี่ บ๋าย บาย" นายขุนทองทำตาหวานหยาดเยิ้ม แล้วจึงลุกตามบิดาออกไป

ท่านพระครูส่ายหน้า กล่าวกับพระบัวเฮียวว่า "นี่ก็กรรม เห็นไหมบัวเฮียว ใครๆก็มีกรรมของตัวเองกันทั้งนั้น"

"แต่หลวงพ่อครับ หลวงพ่อเคยบอกว่าคนที่เคยผิดศีลข้อกาเมฯ ถ้ามีเมียๆจะมีชู้ มีสามีๆก็จะไปมีเมียน้อย แต่ทำไมรายของนายขุนทองจึงไม่เป็นอย่างนั้นล่ะครับ"

"เรื่องของกรรมมันละเอียดลึกซึ้ง ฉันไม่สามารถอธิบายให้เธอเข้าใจได้ทั้งหมดหรอก ถ้าอยากรู้เธอก็ต้องเร่งปฏิบัติ เมื่อใดที่เธอรู้เอง เห็นเองได้ เมื่อนั้นเธอก็จะหายสงสัย"

"ครับ"

ยังไม่ทันที่พระบัวเฮียวจะพูดอะไรต่อไป นายขุนก็คลานกลับเข้ามากราบแล้วพูดว่า "หนูลืมขอบคุณหลวงลุงน่ะฮะ ก็เลยต้องกลับมาขอบคุณก่อน หนูต้องกราบขอบพระคุณหลวงลุงอย่างสูง ที่กรุณาช่วยหนู ขอให้หลวงลุงอายุยืนๆนะฮะ" พูดจบก็ก้มลงกราบอีกสามครั้งแล้วคลานออกไป

ท่านพระครูพูดตามหลังว่า "เออ ขอบใจที่อวยพร ข้าก็ว่าจะอยู่ไปจนกว่าจะตายนั่นแหละ เอ็งนี่มีอะไรแปลกๆอยู่เรื่อย สงสัยเลือดลมจะไม่ค่อยดี"

นายขุนทองที่กำลังคลาน หันกลับมาสนองว่า "นั่นสิฮะ หมู่นี้รอบเดือนของหนูมันมาไม่ค่อยจะตรงกำหนดเลย"

"น้อยๆหน่อยเจ้าขุนทอง มันยังงี้น่ะสิ พ่อแม่เอ็งถึงได้กลุ้มอกกลุ้มใจนัก นี่ข้าก็กำลังจะกลุ้มใจอีกคนแล้วนะ"

"ช่วยไม่ได้ หลวงลุงชวนหนูมาอยู่เอง ก็ต้องรับกรรมไปตามหน้าที่ จริงไหมฮะ"

ท่านพระครูไม่ตอบ รอจนหลานชายลับตัวไปแล้วจึงพูดขึ้นว่า "สงสัยจะกู่ไม่กลับเสียละมัง หรือเธอคิดว่ายังไง บัวเฮียว"

"ผมคงไม่ว่ายังไงหรอกครับ ที่ไม่ว่าเพราะไม่รู้จะว่ายังไง หรือหลวงพ่อจะให้ผมว่ายังไงก็กรุณาบอกมาเถิดครับ ไม่ต้องเกรงใจ"

"พอแล้วบัวเฮียว พอแล้ว ขืนพูดมากกว่านี้ ฉันคงเวียนหัวแย่ เอาละ มีข้อสงสัยอะไรอีกก็ว่ามา"






ผู้แต่ง :  ดร.สุทัสสา อ่อนค้อม

หมวดหนังสือ














Create Date : 29 เมษายน 2558
Last Update : 30 เมษายน 2558 0:03:29 น. 33 comments
Counter : 1044 Pageviews.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
........................
พระบัวเฮียว คุยกับหลวงตาสนุกป่นขำๆดีขอรับ
เป็นเสน่ไปอีกแบบนึง.. แวะมาส่งกำลังใจแต่เช้าตรู่ขอรับ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 30 เมษายน 2558 เวลา:6:43:47 น.  

 
ส่งกำลังใจไปให้คุณเวียงแว่นฟ้าครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: **mp5** วันที่: 30 เมษายน 2558 เวลา:21:01:33 น.  

 
จองที่ไว้ก่อนค่ะ แล้วค่อยกลับมาอ่าน

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
anigia Parenting Blog ดู Blog
เริงฤดีนะ Movie Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 30 เมษายน 2558 เวลา:22:28:44 น.  

 
วิธีใช้มดตะนอยเนี่ยออกจะโหดไปหน่อยค่ะ
เดี๋ยวนี้เค้าเปิดตัวไปเลยค่ะพี่ คราวที่ผ่านมานี่งัยมีเพียบเลย
ถ้ากู่ไม่กลับก็ต้องยอมรับแล้วละ สังคมเดี๋ยวนี้เปิดกว้างเยอะแล้วค่ะ

วันนี้พระบัวเฮียวกวนๆหลวงพ่อนะเนี่ย


โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 30 เมษายน 2558 เวลา:22:52:37 น.  

 
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
อรุณสวัสดิ์จ้ะ


โดย: Opey วันที่: 1 พฤษภาคม 2558 เวลา:6:18:19 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

วันนี้อากาศครึ้ม ๆ ทั้งวันเลยค่ะ
แวะมาส่งกำลังใจให้ด้วยนะคะ






โดย: AppleWi วันที่: 1 พฤษภาคม 2558 เวลา:15:44:45 น.  

 
มาส่งกำลังใจให้คุณเวียงแว่นฟ้าค่ะ

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
---------------------

นอนหลับฝันดีคืนนี้นะคะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 1 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:24:54 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เริงฤดีนะ Movie Blog ดู Blog
Close To Heaven Parenting Blog ดู Blog
Ariawah Auddy Photo Blog ดู Blog
ชมพร About Weblog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog



โดย: ก้นกะลา วันที่: 1 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:27:51 น.  

 

แวะมาอ่านธรรมะคะ
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
พรไม้หอม Health Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: newyorknurse วันที่: 2 พฤษภาคม 2558 เวลา:2:36:51 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Close To Heaven Parenting Blog ดู Blog
สายหมอกและก้อนเมฆ Photo Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

--------------------------------

แวะมาอ่านและโหวตให้ด้วยค่ะ
ธรรมะอารมณ์ดี อ่านแล้วขำได้เหมือนกันนะคะ

ดอกไม้สีชมพูมานานแล้ว
วันจันทร์จะเปลี่ยนเรื่องแล้วนะคะ


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 2 พฤษภาคม 2558 เวลา:22:22:03 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณเวียนแว่นฟ้า
เนื้อเรื่องอ่านสบายๆดีนะค่ะ
โหวตส่งกำลังใจค่ามีความสุขมากๆนะค่ะ^^

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
พรไม้หอม Health Blog ดู Blog
หอมกร Movie Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: mastana วันที่: 4 พฤษภาคม 2558 เวลา:10:28:36 น.  

 
เห็นด้วยอย่างยิ่งเลยครับคำนี้
ไม่มีใครหนีพ้นกรรมของตัวเองที่ทำไว้


โดย: Ariawah Auddy วันที่: 4 พฤษภาคม 2558 เวลา:16:39:15 น.  

 
อ่านแล้วโหวตค่ะ



เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 4 พฤษภาคม 2558 เวลา:17:06:19 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวตมากๆเลยนะครับ ชมซะเขิลเบย..
มีบล็อกใหม่แล้ว อย่าลืมตามมาอ่านด้วยนะครับผม
ปล.ช่วงนี้อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ดูแลสุขภาพด้วยนะครับ


โดย: Ariawah Auddy วันที่: 4 พฤษภาคม 2558 เวลา:17:13:40 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ร่มไม้เย็น Dharma Blog ดู Blog
Opey Art Blog ดู Blog
ญามี่ Literature Blog ดู Blog
LoveParadise Food Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: pantawan วันที่: 5 พฤษภาคม 2558 เวลา:14:30:51 น.  

 
โหวตค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

ซองขาวเบอร์ 9 Literature Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog



โดย: พรหมญาณี วันที่: 5 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:03:56 น.  

 
ขอบคุณโหวตที่บ้านนะคะ



โดย: ภาวิดา (คนบ้านป่า ) วันที่: 6 พฤษภาคม 2558 เวลา:10:26:39 น.  

 
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

คนในโลกมันเยอะขึ้นก็เลยมีอะไรแปลก ๆ เยอะขึ้น


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 6 พฤษภาคม 2558 เวลา:13:00:45 น.  

 
อุ้มแวะมาอ่านค่ะ
สมัยนี้มีอะไรแปลกประหลาดเยอะเลยค่ะ


โดย: อุ้มสี วันที่: 6 พฤษภาคม 2558 เวลา:15:58:30 น.  

 
เรื่องของกรรมมันละเอียดลึกซึ้ง
ยากเข้าใจจริงๆ
ขอบคุณกำลังใจด้วยครับ
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog


โดย: moresaw วันที่: 8 พฤษภาคม 2558 เวลา:18:34:53 น.  

 
มาโหวตก่อนครับ เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 8 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:24:54 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
เพิ่งรู้สึกตัวไม่ได้แวะมาเสียนานเลยค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog



โดย: หอมกร วันที่: 9 พฤษภาคม 2558 เวลา:9:00:00 น.  

 
มาอ่านต่อ และรับคำสอนด้วยค่ะ
ขอขอบคุณสำหรับโหวตด้วยนะค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
กะว่าก๋า Literature Blog ดู Blog
auau_py Pet Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog


โดย: Tui Laksi วันที่: 9 พฤษภาคม 2558 เวลา:22:26:55 น.  

 
ขอบคุณคุณเวียงแว่นฟ้าสำหรับกำลังใจนะคะ
นอนหลับฝันดีคืนนี้ค่ะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 9 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:17:28 น.  

 
สวัสดีค่ะ แวะมาเยี่ยมเยียนนะคะ
ขอโทษที่มาช้า กว่าจะเข้าบล๊อกได้ต้องเป็นวันหยุดแล้วะค่ะ


โดย: ปรัซซี่ วันที่: 10 พฤษภาคม 2558 เวลา:21:07:46 น.  

 
ขอบคุณสำหรับโหวตค่า
นึกว่าขึ้นบล็อกใหม่แล้วซะอีก


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 10 พฤษภาคม 2558 เวลา:23:16:31 น.  

 
สวัสดียามเช้าครับ


โดย: **mp5** วันที่: 11 พฤษภาคม 2558 เวลา:8:06:40 น.  

 

มาอ่านสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรมแล้วโหวตค่ะ

เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: พรไม้หอม วันที่: 12 พฤษภาคม 2558 เวลา:8:33:22 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณเวียงแว่นฟ้า
รู้สึกว่าจะหายไปนานนะคะ
คิดถึงค่ะ



โดย: พรหมญาณี วันที่: 12 พฤษภาคม 2558 เวลา:13:14:47 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณแว่นฟ้า
ลงชื่อไว้ก่อนนะคะ
พรุ่งนี้มาใหม่ค่ะ

ขอบคุณที่แวะฟังเพลงด้วยกันนะคะ
เราก็เสียดายที่ไม่ได้ไปดูคอนเสิร์ตค่ะ



โดย: mambymam วันที่: 12 พฤษภาคม 2558 เวลา:20:28:19 น.  

 
สวัสดีค่ะ
แวะมาเยี่ยมค่ะ
แอนทรี่นี้ยาวนานเหมือนกันเลย อิอิ


โดย: pantawan วันที่: 13 พฤษภาคม 2558 เวลา:0:09:34 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณแว่นฟ้า

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Tristy Food Blog ดู Blog
คนบ้านป่า Pet Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




โดย: mambymam วันที่: 13 พฤษภาคม 2558 เวลา:6:45:26 น.  

 
คนเกิดมาเป็นเพศที่สามนี่มาใช้กรรมเพราะชาติก่อนเจ้าชู้
เคยทราบมาบ้างจนมาอ่านเจอที่บล๊อกคุณนี่แหละ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
pantawan Health Blog ดู Blog
ก้นกะลา Music Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Dharma Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ป้าเก๋า (ชมพร ) วันที่: 13 พฤษภาคม 2558 เวลา:11:12:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เวียงแว่นฟ้า
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]




!-- Stat ทำงาน วันที่ 26 กพ 55
[Add เวียงแว่นฟ้า's blog to your web]