แง่มุมหลากหลายของมนุษย์เงินเดือน - คนสามประเภท

ในที่ทำงานแต่ละแห่งจะประกอบด้วยบุคลากรที่มีลักษณะการทำงานหรือการแสดงออกที่แตกต่างกัน ซึ่งแยกออกได้เป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ ประเภทเด็ดเดี่ยว ประเภทประนีประนอม และประเภทโน้มนำ


ประเภทเด็ดเดี่ยว

คติพจน์ประจำตัวของคนกลุ่มนี้คือ "ตลุยทุกอย่างที่ขวางหน้า" ซึ่งเป็นแรงจูงใจภายในของคนที่ตั้งมาตรฐานและจุดมุ่งหมายของตัวองไว้สูง สิ่งสำคัญที่สุดของคนประเภทนี้คือความเสร็จสมบูรณ์ของงาน ในองค์กรก็จะมีคนประเภทนี้เพียงประมาณ 10% เท่านั้น และมักจะอยู่ในตำแหน่งระดับผู้บริหาร


ลักษณะพฤติกรรมพื้นฐานของคนประเภทเด็ดเดี่ยว

1. ชอบแก้ปัญหาทุกอย่างด้วยตัวเอง เขาจะไม่ขอคำแนะนำหรือความช่วยเหลือจากใคร เว้นแต่ผู้นั้นจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ ที่สามารถให้คำแนะนำที่จำเป็นจริงๆแก่เขาได้

2. เขาจะตั้งเป้าหมายความสำเร็จไว้เีพียงที่ระดับปานกลาง แต่จะทำงานอย่างหนักและใช้ความสามารถเต็มที่

3. เขาจะคำนึงถึงความเสี่ยงต่างๆที่อาจมีอยู่ เขาจะทำงานโดยคำนึงถึงผลลัพธ์ ไม่ปล่อยให้เป็นเรื่องของโชคชะตาพาไป

4. เขาต้องการให้มีการประเมินผลงานของเขาอย่างเป็นรูปธรรม ว่าการทำงานของเขาเป็นอย่างไร

5. เขามีความกระตือรือร้นกับการทำงานอย่างแท้จริง ไม่ต้องให้ใครโน้มน้าวหรือใช้จิตวิทยาจูงใจให้ทำงาน

6. การติดต่อสื่อสารกับผู้อื่นของเขาจะเป็นไปในลักษณะของการสื่อสารทางเดียว เขาจะอธิบายสิ่งที่เขาต้องการให้ทำโดยละเอียด เขาแน่วแน่มั่นคงในเป้าหมายที่ได้กำหนดไว้ ไม่โอนเอนไปมา

7. นักลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นคนประเภทนี้


ในสายตาของคนนอก คนประเภทเด็ดเดี่ยวจะถูกมองว่าแข็งกระด้าง ปราศจากอารมณ์และไม่จริงใจ แต่ความจริงแล้วการทำงานของคนประเภทนี้เกิดจากแรงจูงใจที่ต่างจากคนส่วนใหญ่ เขาจะทำงานอย่างเข้มงวด และต้องการให้ผู้ที่ทำงานร่วมกับเขามีมาตรฐานการทำงานเหมือนเขา คนประเภทเด็ดเดี่ยวนี้จะไม่สนใจว่าใครจะชอบเขาหรือไม่ เขาจะพอใจกับความสำเร็จของตัวเองและอยากให้ผู้อื่นรับรู้ความสำเร็จของเขาด้วย


ประเภทประนีประนอม

คติพจน์ประจำตัวของคนประเภทประนีประนอมคือ “”ชอบคบคน” นักประนีประนอมจะให้ความสำคัญกับความเป็นพวกเป็นพ้อง ความสัมพันธ์ต่อผู้อื่นและวิธีที่ผู้อื่นปฏิบัติต่อเขา ประเด็นดังกล่าวนี้มีความสำคัญูสูงสุดที่มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจทั้งหมด ที่เขาจะต้องใช้ในการทำงานของเขา


ลักษณะพฤติกรรมพื้นฐานของคนประเภทประนีประนอม

1. เขาต้องการให้ผู้อื่นยืนยันเห็นด้วยกับแนวความคิดของเขา

2. เขาต้องการเป็นสมาชิกของหมู่คณะ มากกว่าที่จะอยู่โดดเดี่ยวหรือทำงานตามลำพัง

3. เขาต้องการเป็นที่ชื่นชอบของคนอื่น และจะใช้ความพยายามอย่างมากที่จะให้ตัวเองเป็นที่รักของคนรอบข้าง

4. เขามักจะทำงานโดยใช้วิธีประนีประนอม ไม่ชอบความขัดแย้ง พยายามหาวิธีแก้ปัญหาแบบบัวไม่ให้ช้ำ น้ำไม่ให้ขุ่น

5. เขาชอบให้ความร่วมมือและช่วยเหลือผู้อื่น เพราะต้องการให้ผู้อื่นชื่นชอบ

คนประเภทประนีประนอมจะเหมาะกับงานที่ต้องเกี่ยวข้องกับผู้คน เช่น การติดต่อประสานงาน งานประสานความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ไกล่เกลี่ยข้อขัดแย้ง จูงใจ เขาเหมาะกับงานเสนอขายสินค้า ซึ่งต้องมีการสร้างและดำรงความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า

แต่อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเคนประเภทนี้มีความต้องการสูงที่จะเป็นสมาชิกของกลุ่ม ทำให้เกิดปัญหาในการตัดสินใจ เพราะเขาต้องการให้คนอื่นชอบ เขาจึงพยายามหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่คนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย ดังนั้น เขาจึงมีประสิทธิภาพในการบริหารงานน้อยกว่าคนที่มีลักษณะกลางๆ


ประเภทโน้มนำ

คติพจน์ประจำตัวของคนประเภทโน้มนำคือ "ใครๆก็ต้องทำตามวิธีของผม" เื่ืพื่อทำความเข้าใจกับแรงจูงใจของคนกลุ่มนี้ อาจจำเป็นต้องพิจารณาแนวความคิดเกี่ยวกับการโน้มนำจิตใจจากสองมุมมอง ระหว่าง "อำนาจ" และ "การโน้มนำ"

1. อำนาจบารมีส่วนตัว หรือการจูงใจส่วนตัว
2. อำนาจทางสังคมหรือสถาบัน หรือการจูงใจทางสังคมหรือสถาบัน


1. อำนาจที่เป็นส่วนตัว การเกี่ยวพันกับบุคคลอื่นเื่พื่อประโยชน์ส่วนตน ในฐานะที่เป็นปัจเจกบุคคล

2. อำนาจทางสังคม ที่เกี่ยวกับการเป็นผู้นำกลุ่มผลประโยชน์ เช่น สถาบัน องค์กรทางธุรกิจ หรือแม้แต่การเคลื่อนไหวทางสังคม การโน้มน้าวเื่พื่อนร่วมงานให้ยอมร่วมมือเพื่อบรรลุเป้าหมาย หมายถึงการใช้อำนาจในฐานะผู้นำกลุ่ม เพื่อเสริมสร้างแนวความคิดให้กับผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อสนับสนุนองค์กรให้ประสบความสำเร็จ


ลักษณะพฤติกรรมพื้นฐานของคนประเภทโน้มนำ

1. คนประเภทโน้มนำต้องการมีอำนาจและต้องการใช้อำนาจ

2. เขาต้องการตำแหน่งที่ให้อำนาจเขาทำอะไรก็ได้ หรืออำนาจที่ก่อให้เกิดผลกระทบและการเปลี่ยนแปลงที่เป็นรูปธรรม

3. เขามีจุดสนใจที่แตกต่างจากคนประเภทเด็ดเดี่ยว ซึ่งพยายามหาวิธีในการทำงานเื่พื่อให้งานสำเร็จลุล่วงไปได้ ในขณะที่คนประเภทโน้มนำจะสนใจในการก่อให้เกิดผลกระทบและผลักดันให้ผู้อื่นทำงาน

4. คนประเภทประนีประนอมต้องการการยอมรับของบุคคลอื่น แต่คนประเภทโน้มนำไม่ให้ความสนใจมากนักกับการวิพากษ์วิจารณ์ เขารู้จักตัวเองดีและรู้ว่าต้องการอะไร มีความหนักแน่นมั่นคงในเป้าหมายที่ตั้งไว้ ไม่ค่อยจะยอมกล่าวคำขอโทษกับใครง่ายๆ

5. คนประเภทโน้มนำมักมีความมั่นใจในตัวเองสูง มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจนและทำงานอย่างมีหลักการ ซึ่งผนวกเอาผลลำเร็จของสถาบันหรือองค์กรที่ตนทำงานอยู่เข้าไว้ด้วย

6. บุคลิกภาพ่ส่วนตัวของคนประเภทโน้มนำจะก่อให้เกิดการยอมรับนับถือ เช่นเดียวกับผู้นำที่มีบารมี

7. บุคลิกภาพของคนประเภทโน้มนำก่อให้บุคลากรในกลุ่มเกิดความจงรักภักดีต่อกลุ่ม ต่องาน หรือต่อสถาบัน

จากการศึกษาในเชิงเปรียบเเทียบพบว่า ผู้นำหรือผู้จัดการที่มีอำนาจทางสังคมมีประิสิทธิภาพในการทำงานสูงกว่าผู้นำหรือผู้จัดการที่มีอำนาจทางบุคลิกภาพส่วนตัว

เราสามารถเปรียบเทียบรูปแบบพฤติกรรมของบุคคลสามประเภทนี้ได้ค่อนข้างชัดเจน จากสิ่งต่อไปนี้


หนังสือที่เลือกอ่าน

1. ผู้นำที่มีบุคลิกประเภทเด็ดเดี่ยวจะเลือกอ่านหนังสือเกี่ยวกับวิธีทำงานและทำอย่างไรจึงจะทำให้งานดำเนินไปได้ โดยศึกษาแนวทางหลายๆแนว เพื่อจะได้สามารถรวบรวมข้อมูลและตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง ว่าวิธีไหนที่ดีที่สุดที่จะทำให้งานประสบความสำเร็จ

2. ผู้นำที่มีบุคลิกประเภทประนีประนอม ไม่นิยมการทำงานหลายแนวทาง เขาเลือกที่จะฟังเสียงส่วนใหญ่ว่าจะเอาอย่างไร มากกว่าที่จะตัดสินใจเอง ดังนั้น เขาจึงต้องการหนังสือที่อธิบายถึงวิธีทำงานที่กำลังได้รับความนิยมจากคนส่วนใหญ่ เื่พื่อทำให้ตัวเขาเองประสบความสำเร็จมากขึ้น จากแนวความคิดที่ได้รับการยอมรับจากคนส่วนใหญ่ในขณะนั้น

3. ผู้ที่มีบุคลิกประเภทโน้มนำจะไม่ค่อยสนใจหนังสือสองแนวที่กล่าวมาแล้วในข้อ 1 และ 2 เพราะมันไม่ได้ตอบสนองต่อความต้องการของเขา ที่จะสร้างแรงผลักดันต่อสังคม ส่วนใหญ่เขาจะเลือกอ่านหนังสือแนวประวัติศาสตร์ เกี่ยวกับประวัติของผู้นำที่เก่งกาจ ประสบความสำเร็จและมีบารมีอำนาจ และพยายามค้นหาว่าอะไรทำให้บุคคลนั้นๆประสบความสำเร็จ


กีฬาที่เลือกเล่น

1. คนประเภทเด็ดเดี่ยวมักจะนิยมเล่นกีฬาที่เล่นเีีพียงคนเดียว เช่น กอล์ฟ ซึ่งทำให้เขาสามารถเปรียบเทียบแต้มหรือคะแนนที่เขาทำไ้ด้ครั้งหลังสุดกับครั้งก่อนๆได้ตลอดเวลา เพราะจะทำให้เขาสามารถประเมินผลงานของตัวเองและตั้งจุดมุ่งหมายเฉพาะกิจต่อไปได้ เขามีจุดมุ่งมั่นที่จะเป็นแชมป์ของสโมสรกีฬาที่เขาสังกัดอยู่

2. คนประเภทประนีประนอมมักจะนิยมเล่นกีฬาที่เป็นทีม หรือเล่นเทนนิส แต่เขามักจะประสบกับความยากลำบากในการต่อสู้เื่พือชิงตำแหน่ง หรือเอาชนะเพื่อน เขาจะมีจิตใจของการเล่นเป็นทีม และอาจจะมีโอกาสได้เป็นประธานสโมสร

3. คนประเภทโน้มนำมักจะชอบเล่นกีฬาที่เป็นทีม ถ้าเขามีโอกาสที่จะได้เป็นโค้ช กัปตันทีมหรือผู้จัดการทีม


ข้อมูลข้างต้นนี้ นอกจากจะทำให้เรารู้จักตัวเองมากขึ้นว่าอยู่ในประเภทหรือกล่มใดแล้ว ก็ยังจะทำให้เรารู้จักคนอื่นๆรอบตัวเราที่ต้องสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันอยู่ เช่นหัวหน้างานและผู้ใต้บังคับบัญชาของเรา รวมทั้งเื่พื่อนฝูงทั่วๆไป การเข้าใจบุคลิกลักษณะที่แตกต่างกันไปของคนเหล่านี้จะช่วยทำให่้เราสามารถปรับแนวความคิดและวิธีการในการติดต่อสัมพันธ์กับพวกเขาอย่างมีทั้งประิสิทธิภาพและประิสิทธิผลมากขึ้นกว่าเดิม




จากบางตอนในหนังสือเรื่อง "พูดอย่างไรชนะใจคนฟัง" ( How to Talk So People Listen) ของ Sonya Hamlin เรียบเรียงโดยคุณอาคม ไม้สนธิ์
ขอขอบคุณ

 

Create Date : 01 มีนาคม 2555		1 comments
Last Update : 1 มีนาคม 2555 19:27:04 น.
Counter : 1537 Pageviews.
Share Tweet