เวียงแว่นฟ้า - เดินตามรอยกรรม
<<
มิถุนายน 2557
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
16 มิถุนายน 2557

สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม - บทที่ 13








สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม  -  บทที่ 13



"หลวงพี่บวชถึงสิบพรรษาหรือยังครับ" นายจ่อยถามพระบัวเฮียวหลังจากเด็กวัดกลับไปแล้ว
"อาตมาบวชครบเดือนเมื่อวานนี้เอง"  หลวงพี่ตอบ รู้ว่าชายผู้นี้เป็นหลานท่านพระครู เห็นจะต้องดูแลเอาใจใส่เป็นพิเศษ อย่างน้อยก็เป็นการตอบแทนบุญคุณของท่าน

"จริงหรือครับ ผมนึกว่าหลวงพี่บวชมาไม่ต่ำกว่าสิบพรรษาเสียอีก" นายจ่อยคิดว่าอายุของหลวงพี่รูปนี้ คงประมาณสี่สิบหรือมากกว่านั้น

"อาตมาดูแก่ขนาดนั้นเลยหรือ" พระบัวเฮียวถาม

"ไม่แก่หรอกครับ ผมว่าหลวงพี่ดูเหมือนคนอายุสักสามสิบหกสามสิบเจ็ด" พูดหมายเอาใจหลวงพี่ หากฝ่ายนั้นกลับโวยวายอย่างน้อยใจ

"เห็นไหม ในที่สุดคุณก็ว่าอาตมาแก่จริงๆ นั่นแหละ มีอย่างหรืออาตมาเพิ่งอายุยี่สิบหก กลับมาว่าแก่กว่าอายุตั้งสิบปี"

"จริงหรือครับ งั้นหลวงพี่ก็แก่กว่าผมปีเดียวเอง ว่าแต่ว่าหลวงพี่จำไม่ผิดนะครับ หรือว่าโยมแม่ไปแจ้งเกิดตอนหลวงพี่สิบขวบ" นายจ่อยยังกังขา

"พูดยังงั้นมันไม่สวยนาคุณนา อยู่ดีไม่ว่าดี มาเที่ยวค่อนแคะคนอื่นเขา ไม่เคยมีใครว่าอาตมาอย่างนี้นอกจากคุณ" พระบัวเฮียวออกโกรธๆ

นายจ่อยเห็นท่าไม่ดีก็รีบแก้ตัวทันที "ใจเย็นๆ สิครับหลวงพี่ ผมล้อเล่นแค่นั้นเอง ก็หลวงพี่ดูสงบเสงี่ยมน่าเลื่อมใสผิดกับพระทั่วๆไปที่ผมเคยรู้จัก ผมก็เลยนึกว่าหลวงพี่แก่พรรษา พวกพระแถวบ้านผมเสียอีก ยังไม่ได้เรื่อง"

"ไม่ได้เรื่องยังไง" พระบัวเฮียวอารมณ์ดีขึ้นนิดหนึ่ง

"ก็ไม่น่าเลื่อมใสเหมือนอย่างหลวงพี่น่ะสิครับ เป็นต้นว่าไม่สำรวมกิริยา จะเดินจะเหินก็ว่ากันเสียจีวรปลิว แถมตอนเย็นๆ ก็ถกเขมรเตะตะกร้อกันเป็นที่ครื้นเครง ยิ่งองค์ที่ชื่อหลวงตาทองยิ่งหนักกว่าเพื่อน เมาเช้าเมาเย็น เดินโซเซไม่ตรงทางเหมือนคนอื่นเขา"

"แล้วสมภารเขาไม่เข้มงวดเอาหรือ"

"สมภารน่ะตัวร้าย ไม่เคยอยู่วัดหรอกครับ ชาวบ้านเขาลือกันว่าแกไปอยู่กับเมีย วันโกนวันพระถึงกลับวัด" นายจ่อยอ้างชาวบ้าน

"เป็นพระมีเมียได้หรือ" หลวงพี่ค้านเพราะไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน

"พระแท้น่ะมีไม่ได้แน่ แต่นี่มันพระปลอมน่ะครับ พวกมาอาศัยผ้าเหลืองหากิน อย่างหลวงตาทองนี่แกติดเหล้ามาก่อน ที่มาบวชก็เพื่อจะเลิกเหล้า แต่ก็เลิกไม่ได้ ส่วนสมภารนั้นผมก็ไม่ได้ใส่ร้ายแกหรอก เคยมีชาวบ้านเขาแอบไปดูที่บ้านเมียแก ก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ" นายจ่อยไม่ได้บอกว่าเขาเองก็ไปแอบดูเหมือนกัน

"แล้วทำไมเขาไม่จับสึกเสียล่ะ แบบนี้เสียชื่อวัดหมด แล้วยังทำให้พระศาสนามัวหมอง" พระบัวเฮียวรู้สึกไม่สบายใจ

"เรื่องมันยาวครับหลวงพี่ คือสมภารแกเป็นคนมีอิทธิพล นัยว่าก่อนบวชเคยเป็นนักเลงมาก่อน พอชาวบ้านเขาจะเอาเรื่องแกก็ใช้วิธีเชือดไก่ให้ลิงดู คืออยู่ดีดีกรรมการวัดคนที่เป็นตัวตั้งตัวตีก็ถูกฆ่าตาย เขารู้กันทั้งบางว่าสมภารเป็นผู้บงการ แต่ไม่มีใครกล้าฟ้องร้อง เรื่องก็เลยเงียบไป"

"แบบนี้ก็แย่น่ะซี" คนฟังรู้สึกเศร้าใจยิ่งนัก

"แย่หรือไม่แย่พวกชาวบ้านเขาก็ประท้วงด้วยการเลิกทำบุญตักบาตร ก็เมื่อพระทำตัวไม่ดี คนก็หมดความเลื่อมใส"

"ผมว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูก การที่เราเห็นพระไม่ดีบางส่วน แล้วจะมาเหมาเอาว่าพระเป็นอย่างนั้นทั้งหมด มันก็ไม่ยุติธรรมกับพระ เพราะพระดีดียังมีอีกมาก แล้วการเลิกทำบุญตักบาตรก็เป็นการตัดทางกุศลของตัวเองด้วย"

"หมายความว่าอย่างไรครับ"

"ก็หมายความว่าเมื่อเราเลิกทำบุญ ก็เป็นการตัดโอกาสทางสวรรค์ ตัดโอกาสการสร้างสมบารมีเช่นทานบารมี คุณต้องเข้าใจนะว่าพระก็คือคนนั่นแหละ แล้วคนก็มีทั้งคนดีคนชั่ว เมื่อคนมาบวชเป็นพระ ก็เลยมีทั้งพระดีและพระชั่ว แต่ถึงเราจะทำบุญกับพระชั่วก็ไม่ได้แปลว่าเราจะต้องชั่วตามไปด้วย"

"อ้าว..ถ้าอย่างนั้น สมมติว่าผมทำบุญกับหลวงตาทองยี่สิบบาท แล้วแกเอาเงินนั้นไปซื้อเหล้ากิน ในฐานะที่ผมเป็นเจ้าของเงินผมจะไม่บาปหรือไง" นายจ่อยค้าน

"นั่นแสดงว่าคุณเข้าใจผิด การทำบุญนั้นไม่ว่าจะทำกับใคร ถ้าเราทำโดยบริสุทธิ์ใจ และของทำบุญนั้นได้มาโดยบริสุทธิ์ เราก็ได้บุญแล้ว สมมติว่ามีพระรูปหนึ่งมาบอกบุญว่าจะเอาเงินไปสร้างโบสถ์ คุณเชื่อ จึงทำบุญไปยี่สิบบาทด้วยความเต็มใจ เมื่อคุณทำคุณก็ได้บุญทันที นั่นคือตุณเกิดปิติ เอิบอิ่มใจว่าได้ทำบุญ แต่ถ้าพระรูปนั้นเอาเงินของคุณไปซื้อเหล้ากิน ท่านก็บาปเอง โดยที่บาปนั้นไม่มาถึงคุณ เพราะคุณไม่ได้รู้เห็นเป็นใจกับท่าน แต่ถ้าท่านนำเงินไปสร้างโบสถ์จริงคุณก็ได้บุญสองต่อ เพราะฉะนั้นการทำบุญทำเมื่อใดก็ได้บุญเมื่อนั้น สุดแต่ว่าจะได้มากได้น้อย และที่สำคัญที่สุดคือการทำบุญเป็นการสืบต่อพระศาสนา เพราะเมื่อคนคิดเหมือนกันหมดว่า เมื่อพระทำตัวไม่ดีเขาก็เลิกทำบุญ ต่อไปพระศาสนาก็จะตั้งมั่นอยู่ไม่ได้ จริงไหม"

หลวงพี่อธิบายเสียยืดยาว ชั่วเวลาเพียงเดือนเดียวของการบวช ท่านหูตากว้างชึ้น เข้าใจอะไรๆ ได้ลึกซึ้งกว่าแต่ก่อน

"คงจะจริงอย่างที่หลวงพี่ว่า คนที่มาบวชเป็นพระบางตนก็ไม่ได้ตั้งใจบวช คือไม่ได้มาบวชเพื่อละกิเลส แต่บวชด้วยเหตุผลอื่น บางคนลูกเกเรไม่เอาถ่านก็จับบวช บางคนไปปล้นไปฆ่าเขามา ก็มาอาศัยผ้าเหลืองหลบภัย วัดก็เลยกลายเป็นที่รวมของคนชั่ว แม้แต่หมาแมวที่ไม่ดีเขาก็เอามาปล่อยวัด ก็ต้องรับกรรมกันไป" นายจ่อยพูดปลงๆ

"แต่ถึงจะเป็นคนชั่วมาก่อน ถ้าบวชแล้วกลับตัวกลับใจได้ ก็นับเป็นวาสนาของเขา" พระบัวเฮียวอดนึกถึงอดีตของตัวเองไม่ได้

"ครับ มันก็ขึ้นกับเหตุปัจจัยหลายอย่าง เป็นต้นว่าสิ่งแวดล้อมหรือโชควาสนาของคนๆนั้น"

"ที่สำคัญที่สุดก็คือ ถ้าได้ครูบาอาจารย์ดีก็มีโอกาสจะเปลี่ยนนิสัยได้ อย่างอาตมานี่ ถ้าพูดตรงๆ ก็ใช่ว่าเป็นคนดิบคนดีมาก่อน แตโชคดีมาได้ครูดีที่วัดนี้ หลวงพ่อท่านเคร่งครัดมาก พระรูปใดทำตัวไม่ดีท่านก็นิมนต์ไปอยู่วัดอื่น"

"เอ  หลวงพี่บอกว่าเพิ่งบวชได้เดือนเดียวแสดงว่าหลวงพี่บวชในพรรษาใช่ไหมครับ โชคดีจังที่หลวงน้ายอมให้บวช ถ้าเป็นวัดอื่นเขาต้องรอให้ออกพรรษาเสียก่อน"

"ใช่ ท่านพระครูเมตตาอาตมามากทีเดียว ท่านบอกว่าจะบวชในพรรษาหรือนอกพรรษาไม่สำคัญ สำคัญอยู่ที่ว่าบวชแล้วตั้งใจปฏิบัติหรือเปล่า ท่านบอกว่าคนที่บวชหลายพรรษาแล้วไม่ตั้งใจปฏิบัติ ก็ยังสู้พวกมาเข้ากรรมฐานแค่เจ็ดวันไม่ได้"

"ถึงว่าสิ หลวงน้าถึงอยากให้ผมกับคู่หมั้นอยู่เข้ากรรมฐาน ฟังหลวงพี่พูดอย่างนี้แล้วผมก็สบายใจ เวลาถูกคนอื่นค่อนแคะว่าเป็นคนดิบผมจะได้อธิบายให้เขาฟังได้"

"เป็นยังไง คนดิบ" หลวงพี่ไม่เข้าใจ

"คนดิบคือคนที่ไม่ได้บวชไม่ได้เรียนไงครับ อย่างผมความจริงก็บวชเณรมาตั้งหลายพรรษา แต่ไม่ได้บวชพระ คนเขาก็เลยมาพูดจาเปรียบเปรยถากถางว่าเป็นคนดิบ ยังกะพวกคนสุกมันดีกันนัก  หลวงพี่รู้ไหม บางคนบวชกันทีก็ฆ่าวัวฆ่าหมู จัดงานเลี้ยงกันใหญ่โต ร่ำสุรายาเมากันจนเปรอะไปหมด เผลอๆคนเป็นนาคก็เอากับเขาด้วย ตอนนั่งทำขวัญนาคก็สัปหงกเพราะความเมา บวชได้สิบห้าวันก็สึกออกมาแล้ว แบบนี้จะว่าได้บุญหรือก็เปล่า ไอ้ที่ฆ่าวัวฆ่าหมูก็ต้องไปตกนรกใช้กรรมอีก"

"ตอนอาตมาบวช ไม่ได้ฆ่าวัวฆ่าหมูอย่างที่คุณว่า หลวงพ่อท่านไม่ทำอะไรยุ่งยากอย่างนั้น" พระบัวเฮียวร้อนตัว

"หลวงน้าท่านเป็นคนตรง แล้วก็เจ้าระเบียบ อย่างเวลามีงานบวชท่านก็ไม่อนุญาตให้แห่สิงห์โตหรือกลองยาว เพราะเสียงของมันจะไปรบกวนคนที่กำลังปฏิบัติกรรมฐาน ท่านบอกว่าการทำอย่างนั้นไม่ได้บุญ แล้วยังสิ้นเปลืองเงินทองโดยใช่เหตุ ผมเคยไปงานบวชเพื่อนที่วัดวัดนึง จำชื่อไม่ได้แล้ว"

"ชื่อวัดหรือชื่อเพื่อนที่ว่าจำไม่ได้น่ะ"
"ชื่อวัดสิครับ ชื่อเพื่อนน่ะผมจำได้แม่น เพราะมันชื่อเดียวกับผม"
"แล้วเป็นยังไง งานบวชเพื่อนคุณ"
"ทุเรศที่สุดเท่าที่ผมเคยเห็นมา คือมันเมากันเละเลย ตอนแห่นาครอบโบสถ์ก็พากันรำแอ่นหน้าแอ่นหลังทั้งผู้หญิงผู้ชาย แถมทิ้งขวดเหล้าขวดเบียร์ไว้เกลื่อนกลาด ตามกำแพงโบสถ์บ้าง ตามพื้นบ้าง ถ้าเป็นที่วัดป่ามะม่วง หลวงน้าเอาตายแน่เลย" นายจ่อยเล่าฉอดๆ

"อาตมาว่าเป็นเพราะเขาเข้าใจไม่ถูกต้อง คิดว่าทำอย่างนั้นจะได้บุญ ที่จริงชาวพุทธเรายังเข้าใจศาสนาผิดๆ กันอีกมาก อาตมาเองก็เพิ่งมาเข้าใจถูกต้องเอาตอนบวชนี่แหละ"

"ผมว่าเขาทำตามประเพณีมากกว่า คือทำตามๆ กันมาจนกลายเป็นประเพณี หลวงพี่เห็นด้วยไหมครับว่าประเพณีบางอย่างก็ไม่ถูกต้อง ดังนั้นการทำตามประเพณีจึงไม่ถูกต้องเสมอไป"

"อันนี้เห็นจะจริง อาตมาก็ไม่เห็นด้วยกับการกระทำหลายๆอย่างของชาวพุทธ ซึ่งอ้างว่าทำตามประเพณี เป็นต้นว่า ไปทำบุญแต่ดื่มเหล้า อย่างงานผ้าป่า งานกฐิน ซึ่งเป็นงานบุญ ก็พากันดื่มเสียเมาแอ๋ เมื่อเมาก็ขาดสติ แล้วมันจะไปได้บุญยังไง ก่อนถวายผ้าป่า ถวายกฐิน พระท่านก็ให้รับศีล ก็รับกันไปงั้นๆ พอออกจากวัด ก็ร่ำสุรากันโดยไม่เกรงใจศีลที่รับจากพระมาหยกๆ อย่างนี้อาตมาว่าขาดทุนนะ โบราณท่านถึงสอนไว้ว่า '...ถ้าคิดจะทำบาปแลกบุญ มักขาดทุนอยู่ร่ำไป...'"

"นั่นสิครับ อย่างเรื่องบวชก็เหมือนกัน สมมติว่าตอนบวชเขาต้องฆ่าหมูฆ่าวัวเพื่อนำมาเลี้ยงพระเลี้ยงคน พอสึกออกมาปรากฏว่าบาปกับบุญมันไม่สมดุลกัน บาปมากกว่าก็ต้องไปตกนรก"

นายจ่อยย้อนกลับมาพูดเรื่องปาณาติบาต ทำให้ใจของพระบัวเฮียวกลับหดหู่อีกครั้ง แม้นายจ่อยจะไม่รู้ถึงการกระทำแต่หนหลังของท่าน แต่ตัวท่านรู้และสะเทือนใจทุกครั้งที่นึกถึง ขึ้นชื่อว่าบาป หากใครทำเข้าก็ต้องพกพามันติดตัวติดใจไปทุกหนทุกแห่ง ดุจเงาติดตามตัวฉะนั้น พระบัวเฮียวกำลังเสวยผลของบาป

"คุณบวชเณรอยู่นานไหม" พระบัวเฮียวถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง ไม่อยากได้ยินได้ฟังสิ่งที่ทำให้ใจเศร้าหมอง

"ห้าพรรษาครับ ตั้งแต่อายุสิบปีจนถึงสิบห้าปี"
"อยู่กับหลวงพ่อมาตลอดเลยหรือ"
"ครับ"
"งั้นก็ได้วิชาดีดีจากหลวงพ่อไว้มากน่ะสิ เห็นมหาบุญเล่าให้อาตมาฟังว่าหลวงพ่อท่านเก่งทางคุณไสยด้วย"

"จริงครับ แต่ท่านไม่ให้ใครหรอก ท่านว่าวิชาพวกนี้ไม่มีประโยชน์ ช่วยให้พ้นทุกข์ไม่ได้ ถึงท่านจะเก่งทางคุณไสย แต่หลังจากที่ธุดงค์ไปเรียนกรรมฐานกับหลวงพ่อในป่าแล้ว ท่านก็ทิ้งไสยศาสตร์หมด ใครขอเรียนท่านก็ไม่สอนให้ ท่านว่ามันเป็นเดรัจฉานวิชา ได้ไปแล้วก็รังแต่จะก่อเวรก่อกรรมกันมากขึ้น"

"แปลว่าท่านไม่เคยนำวิชาพวกนี้มาใช้เลย"

"ก็ใช้บ้างเหมือนกัน คือใช้เท่าที่จำเป็น ทว่าไม่สอนให้ใคร ท่านจะสอนเฉพาะวิชากรรมฐานเท่านั้น ท่านว่านี่คือของจริง ช่วยให้พ้นทุกข์ได้ ส่วนไสยศาสตร์เป็นของปลอม แต่ท่านก็เคยเอามาใช้บ้าง เป็นต้นว่าเวลาคนถูกผีเข้า ท่านก็มีคาถาไล่ผี ผมเคยไปกับท่านบ่อยๆ บางทีเขามาตามท่านตอนตีหนึงตีสอง บอกเมียถูกผีเข้า หลวงพ่อก็ให้ผมไปด้วย ท่านไล่ผีเก่งจริงๆ ท่านมีคาถาออกลูกง่ายด้วย เมียใครออกลูกยาก ท่านก็เอาผลมะตูมเสกมาให้กิน กินปุ๊บเด็กออกมาปั๊บ ราวกับปาฏิหารย์"

"แล้วเนืัอคู่ล่ะ ท่านดูเรื่องเนื้อคู่แม่นไหม" พระใหม่อยากให้นายจ่อยตอบว่าไม่แม่น เผื่อจะมีความหวังได้พบเนื้อคู่กับเขาบ้าง หากนายจ่อยกลับตอบตรงกันข้าม

"แม่นที่สุดในโลก แม่นพันเปอร์เซ็นต์เลย ดูอย่างเรื่องของผมก็แล้วกัน ไม่นึกไม่ฝันว่าจะมาเป็นคู่รักกับอีจุก..เอ้อ..จุก แต่ก็ต้องเป็น เพราะความดูแม่นของหลวงน้า หลวงพี่อยากฟังไหม ถ้าไม่อยากผมจะได้ไม่เล่า" คนเล่าทำท่าเล่นตัว

"อยากฟังสิ" พระบัวเฮียวรีบยืนยัน
"เรื่องมันเป็นอย่างนี้" นายจ่อยเริ่มต้นเล่าอย่างเต็มอกเต็ใจ ตั้งแต่ต้นจนจบ

"เทข้าวทิ้งน้ำก็อาบัติน่ะสิ มันผิดวินัยข้อไม่เคารพบิณฑบาต" หลวงพี่อ้างพระวินัย
"หลวงน้าท่านบอกว่ามันอยู่ที่เจตนา เราไม่ได้เททิ้งเทขว้าง แต่เราเจตนาจะเลี้ยงปลา ปลาชุมมากเลยหลวงพี่ เทไปแป๊บเดียวปลามันฮุบกินหมดเลย มันมากันเป็นฝูงๆ"

"แต่ก็น่าเห็นใจท่านนะ ท่านเป็นคนสะอาด ถ้าเป็นอาตมาก็คงฉันไม่ลงเหมือนกัน แม้จะไม่ใช่คนสะอาดสักเท่าไหร่ แต่ถ้าจะให้ฉันข้าวผสมน้ำมูกก็ไม่ไหวแน่"

"นั่นสินะ พูดก็พูดเถอะหลวงพี่ เมื่อก่อนนี้ผมเกลียดจุกมากๆ เลยโกรธหลวงน้าอยู่หลายวัน นึกว่าท่านแกล้ง ผมบอกยกให้หลวงน้าก็แล้วกัน ผมน่ะไม่เอาหรอก"

"แล้วตอนนี้ยังนึกจะยกเขาให้หลวงพ่ออีกหรือเปล่า" พระบัวเฮียวแกล้งถาม

นายจ่อยหัวเราะแหะๆ ก่อนตอบว่า "เป็นตายยังไงก็ไม่ยอม ใครจะมาแย่งจุกไปจากผม คงต้องข้ามศพกันไปก่อนละ หลวงพี่ไม่รู้อะไร จุกตอนเด็กกับตอนนี้น่ะผิดกันราวฟ้ากับดิน ตอนเด็กดูสกปรก ขี้มูกมาก แต่ตอนนี้สะอาดสะอ้านแล้วก็สวยยังกับนางฟ้า เดี๋ยวหลวงพี่ก็จะได้เห็น เขาจะมาขึ้นกรรมฐานพร้อมผม หลวงน้าสั่งให้ไปขึ้นกรรมฐานตอนหกโมงเย็น เสร็จแล้วให้ผมมาปฏิบัติกับหลวงพี่ที่กุฏิ ส่วนเขาไปปฏิบัติกับแม่ชี"

"ก็ดีซิ อาตมาจะดูว่าคู่รักของคุณกับคู่รักของหลวงพ่อ ใครจะสวยกว่ากัน"

พระบัวเฮียวเผลอพูดความลับ ความจริงท่านยังไม่เคยเห็นคนที่เคยเป็นคู่รักของหลวงพ่อเมื่อชาติที่แล้ว แต่ก็คิดว่าวันหนึ่งคงได้เห็น เพราะท่านพระครูบอกว่าเขาจะมาช่วยสร้างหอระฆังถวาย

"หลวงพี่หมายความว่าอย่างไร หลวงน้าน่ะหรือมีคู่รัก ไม่น่าเป็นไปได้ ผมอยู่กับท่านมาห้าปี ยังไม่เคยได้ยินข่าว หรือว่าท่านเพิ่งมามีเอาตอนหลัง" นายจ่อยซัก

"อาตมาเผลอไป คุณอย่าไปถามท่านนะ ไม่งั้นผมตายแน่ๆ"
"ก็ได้ แต่หลวงพี่ต้องเล่าให้ผมฟัง"
"อาตมารับปากท่านล้วว่าจะไม่เล่าให้ใครฟัง อย่าให้ต้องเสียคำพูดเลยนะ" พระบัวเฮียววิงวอน
"งั้นหลวงพี่เลือกเอาก็แล้วกันว่าจะให้ผมไปถามหลวงน้า หรือจะเล่าให้ผมฟัง" นายจ่อยยื่นข้อเสนอ
"นี่อาตมาไม่มีทางเลือกอื่นหรือไง" หลวงพี่ต่อรอง
"ไม่มีครับ" นายจ่อยตอบอย่างหนักแน่น

พระบัวเฮียวพนมมือไว้กลางอก แล้วพูดด้วยเสียงที่ชัดเจนว่า "หลวงพ่อครับ ผมขออภัยที่ต้องผิดสัญญา ขอให้บาปกรรมครั้งนี้ตกอยู่กับนายจ่อยแต่เพียงผู้เดียว"

"อ้าว ไหงเป็นงั้นล่ะหลวงพี่" นายจ่อยโวยวาย

"ก็อาตมาบอกแล้วว่ามันเป็นความลับ ในเมื่อคุณอยากรู้ก็ต้องยอมรับเอาบาปไปด้วย อยากมาคาดคั้นอาตมาทำไมล่ะ"

"หลวงพี่นะหลวงพี่ บอกตามตรงในชีวิตผมยังไม่เคยเห็นใครฉลาดเท่าหลวงน้าเลย เพิ่งมาเจอหลวงพี่นี่แหละที่แม้จะฉลาดน้อยกว่าหลวงน้านิดนึง แตก็ยังนับว่าเป็นคนฉลาดอย่างหาตัวจับยาก"

พระบัวเฮียวฟังแล้วก็ไม่กล้าดีใจ เพราะไม่รู้ว่านายจ่อยชมหรือติท่านกันแน่ ครั้นจะถามออกไปตรงๆก็กลัวจะเสียเหลี่ยม จึงนั่งเฉยอยู่

"นิมนต์เล่าให้ฟังได้แล้วครับ" นายจ่อยเตือน
"ไม่เล่าแล้ว อาตมาไม่อยากให้คุณบาป" หลวงพี่เปลี่ยนใจ
"งั้นผมไปถามหลวงน้าก็ได้" นายจ่อยขู่ แต่ไม่ได้ผลเพราะพระบัวเฮียวกลับยุส่ง
"ไปเลย รีบไปเสียเร็วๆ เดี๋ยวท่านขึ้นเขียนหนังสือแล้วคุณจะต้องรอนาน ไปสิ"

นายจ่อยถึงกับอึ้ง ไม่นึกว่าท่านจะมาไม้นี้ แต่สมองอันเฉียบไวก็ยังสั่งปากให้พูดต่อไป

"ผมนึกออกแล้ว ที่หลวงพี่ไม่เล่าก็เพราะมันไม่ใช่เรื่องจริงใช่ไหมล่ะ หลวงพี่ไม่กล้าเล่าเรื่องเท็จใข่ไหม ที่แท้หลวงพี่ก็ไม่ได้รู้อะไรมากกว่าผม แต่แกล้งทำเป็นรู้" เขาคิดว่าคราวนี้คงจะทำให้อีกฝ่ายจนมุมได้ หากก็ผิดคาด

"อาตมาจะดีใจมากถ้าคุณคิดอย่างนั้นจริงๆ ว่าแต่ว่าคุณอยู่กับหลวงพ่อมานาน เคยเห็นผู้หญิงสวยๆ มาหาท่านบ้างไหม"

ท่านหมายถึงสตรีที่ท่านพระครูเคยเล่าให้ฟัง แต่นายจ่อยไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน จึงตอบไปตามประสบการณ์

"มีหลายคนเชียวละ ทั้งสาวแก่แม่ม่าย ตั้งแต่สวยหยาดเยิ้มไปจนถึงผึหลงหลุม"
"เป็นยังไง ผีหลงหลุมน่ะ"
"อ้าว ก็ขี้เหร่่เหมือนกับผีหลงหลุมน่ะสิ แต่เชื่อไหม หลวงน้าท่านไม่สนใครสักคน บางทีท่านก็ว่าให้ด้วยซ้ำ อย่างคนนึงเป็นด็อกเตอร์ สวยด้วย มาหาท่านบ่อยๆ ถามโน่นถามนี่ที่ไม่เกี่ยวกับธรรมะ แล้วก็แต่งตัวชะเวิบชะวาบ ก้มทีงี้ แหม..อย่าให้พูดดีกว่า" นายจ่อยยังจำภาพด็อกเตอร์สาวคนนั้นได้ติดตา

"แหม..ถ้าอาตมาเป็นหลวงพ่อคงตบะแตกแน่เลย"
"แต่ถ้าเห็นจริงๆ หลวงพี่คงไม่พูดยังงี้หรอก มันทุเรศมากกว่า ผมยังนึกทุเรศไม่หาย คนอะไรก็ไม่รู้ มีความรู้สูงเสียเปล่า แต่ไม่มีหัวคิด"

"แล้วท่านพระครูว่าอย่างไรบ้างที่เขาทำเช่นนั้น"

"ตอนแรกท่านก็สอนทางอ้อมว่าคนที่จะมาวัดมาวา ควรจะแต่งตัวให้เรียบร้อย แต่ยายคนนั้นแกคงไม่เข้าใจ เพราะวันหลังๆ แกก็แต่งตัวแบบเดิมมาอีก ท่านก็เลยว่าเอาตรงๆ ท่านพูดว่า" นายจ่อยพยายามเลียนเสียงท่านพระครู "นี่โยม อาตมารู้นะว่าโยมคิดยังไงกับอาตมา แต่โยมสิไม่ยอมรับรู้ว่าอาตมาคิดยังไงกับโยม ถ้าอาตมาคิดจะสึกคงสึกไปเสียนานแล้ว เพราะคู่รักของอาตมาสวยกว่าโยมหลายเท่านัก ทั้งสวยทั้งดี อาตมายังไม่หวั่นไหว แล้วทำไมจะต้องมาสนใจคนอย่างโยม ผู้ที่หาสาระอะไรไม่ได้ น่าเสียดายที่เป็นถึงด็อกเตอร์ ทำอะไรไม่สมกับภูมิรู้ของตัวเลย"

"ทำไมคุณจำแม่นจัง แน่ใจนะว่าไม่ได้เพิ่มเติมเสริมแต่งขึ้นมา" พระบัวเฮียวขัดคอ

"รับรองว่าไม่ได้แต่งเติมอะไรทั้งสิ้น เดี๋ยวผมจะบอกว่าทำไมถึงจำได้" นายจ่อยยืนยันหนักแน่น
"แล้วผู้หญิงคนนั้นเขาว่ายังไง"
"จะว่ายังไงได้ เขาก็สะบัดก้นลุกหนีไปเลย ตั้งแต่นั้นก็ไม่มาอีก"
"ถ้ามาอีกก็อายยางมะตูมมะตอยแย่น่ะสิ
"แหม..หลวงพี่นี่ก็ปากไม่เบาเหมือนกันนะ ให้ตายสิ"
"อ้าว..จะรีบตายไปทำไมล่ะ ยังหนุ่มยังแน่นอยู่เลย" พระบัวเฮียวแกล้งว่า

"หลวงพี่ว่าพวกผู้หญิงที่ชอบสึกพระเนี่ย จะตกนรกไหมครับ"

"มันก็พูดยาก แต่บาปน่ะบาปแน่ แต่จะถึงขั้นตกนรกหรือเปล่าอาตมาก็ไม่แน่ใจ จะให้แน่ต้องถามหลวงพ่อ ว่าแต่ว่ารายอื่นมีอีกหรือเปล่า หรือมีแค่ด็อกเตอร์รายเดียว"

"มีอีกหลายราย ที่ผมจำคำพูดของหลวงน้าได้ก็ด้วยเหตุนี้แหละ คือต้องฟังหลวงน้าพูดแบบนี้บ่อยๆ"
"แสดงว่าหลวงพ่อเนื้อหอมมาก สาวๆถึงได้มารุมตอม"
"ก็ท่านรูปหล่อนี่ครับ ตอนที่ท่านหนุ่มๆน่ะ สมบัติ เมทะนีชิดซ้ายเลยนะ" นายจ่อยอวดอ้างคุณสมบัติของหลวงน้า

"งั้นเชียวเหรอ แต่อาตมาว่าสมบัติหล่อกว่านะ" หลวงพี่แย้ง
"นั่นก็เพราะหลวงน้าฉันยาลดความหล่อมากไปหน่อย" อีกฝ่ายรีบแก้
"อะไรกัน ยาลดความหล่อก็มีด้วยหรือ มันเป็นยังไงนะ ไอ้ยาขนานนี้น่ะ" พระบัวเฮียวสนใจ
"ขอที...ขอที อย่างหลวงพี่น่ะอย่าฉันเลยครับ ยาขนานนี้น่ะ ขนาดยังไม่ฉันผมก็ว่า..."
"ว่ายังไง เอาอีกแล้วนะ เมื่อกี้ว่าแก่ แต่คราวนี้ว่าอาตมาไม่หล่ออีก ประเดี๋ยวก็ลาออกจากตำแหน่งพี่เลี้ยงคุณเสียหรอก" ท่านขู่

"ใจเย็นๆ น่าหลวงพี่ ผมพูดเล่นก็เอาเป็นจริงไปได้ ถ้าอย่างพี่ไม่เรียกว่ารูปหล่อ แล้วใครจะหล่อ"
"คุณก็พูดไปเรื่อย ระวังบาปจะกินหัวเอานา" หลวงพี่เตือน "ว่าแต่ว่าหลวงพ่อท่านฉันยาลดความหล่อจริงหรือ" พระบัวเฮียวยังติดใจเรื่องยา

"จริงหรือไม่จริงผมไม่รู้ แต่ท่านเคยพูดกับผมบ่อยว่า" นายจ่อยทำเสียงเลียนท่านพระครูอีก "จ่อยเอ๊ย หลวงน้าถ้าจะต้องกินยาลดความหล่อเสียแล้วละ ไม่งั้นต้องสู้รบกับพวกมารพรหมจรรย์อยู่บ่อยๆ ความหล่อนี่มันเป็นมารพรหมจรรย์พอๆกับความสวยนั่นแหละ"

"ทำไมท่านพูดยังงั้นล่ะ"

"อ้าว...หลวงพี่ไม่เข้าใจ ก็พระหล่อๆ น่ะ ถูกผู้หญิงสึกมาเสียนักต่อนักแล้ว หลวงน้าถึงว่า ผู้หญิงสวยหนึ่ง พระรูปหล่อหนึ่ง เหล่านี้เป็นศัตรูของพรหมจรรย์ พระบางองค์เป็นถึงท่านเจ้าคุณ ยังถูกผู้หญิงสึกเอาไปเป็นผัวเลย"

"อย่างอาตมาเนี่ยจะมีใครมาสึกบ้างไหม " พระหนุ่มยังหวังว่าจะมีโอกาสออกไปใช้ชีวิตคู่"

 นายจ่อยเกือบจะโพล่งออกไปว่า 'เมินเสียเถอะ ชาตินี้ไม่มีหวัง ' แต่ก็ยั้งปากไว้ทัน จึงพูดเสียใหม่ว่า "อยู่อย่างนี้ก็ดีแล้ว เรื่องอะไรจะไปรบกับพวกมาร หลวงน้าท่านว่าผู้หญิงน่ะเป็นมารพรหมจรรย์อันดับหนึ่ง"

"แล้วมารอันดับสองล่ะ"
"อันดับสองได้แก่ลาภ สักการะ มารสองอย่างนี้ทำเอาพระเสียพระมานักต่อนักแล้ว"
"ก็ในเมื่อผูหญิงเป็นมารแล้วทำไมคุณยังไปรักโยมจุกล่ะ นั่นเขาเป็นผู้หญิงไม่ใช่หรือ" พระบัวเฮียวแกล้งยั่ว

"หลวงน้าสอนว่า...มารไม่มี บารมีไม่เกิด...ผมอยากสร้างบารมีครับ"

นายจ่อยตอบเสียงดังฟังชัด




ผู้แต่ง  :  ดร. สุทัสสา อ่อนค้อม


หมวด Book Blog






Create Date : 16 มิถุนายน 2557
Last Update : 16 มิถุนายน 2557 0:58:30 น. 38 comments
Counter : 1658 Pageviews.  

 
สวัสดีค่า ^^
นุ่นมาลงชื่อไว้ก่อนนะคะ
พรุ่งนี้ค่อยมาอ่านอีกทีค่ะ
ดึกเกิน T T

ขอบคุณที่แวะไปชมตะพาบบอลโลกค่า



โดย: lovereason วันที่: 16 มิถุนายน 2557 เวลา:1:06:35 น.  

 


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
schnuggy Travel Blog ดู Blog
mariabamboo Parenting Blog ดู Blog
Opey Art Blog ดู Blog
เตยจ๋า Dharma Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ส่งกำลังใจขอรับ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 16 มิถุนายน 2557 เวลา:1:12:56 น.  

 
สวัสดีค่าคุณเวียง


โดย: schnuggy วันที่: 16 มิถุนายน 2557 เวลา:2:04:21 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
อรุณสวัสดิ์นะครับ


โดย: เตยจ๋า วันที่: 16 มิถุนายน 2557 เวลา:4:28:00 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าครับ

อ.เต๊ะ มาอ่านเพลินเลยครับ คุ้นๆว่าเหมือนเคยฟังในวิทยุ
หรือซีดี ที่ไหนสักแห่งด้วยนะครับนี่

ขอบคุณสำหรับโหวต แล้วก็ไปช่วยกันขำนะครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เนินน้ำ Food Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog



โดย: multiple วันที่: 16 มิถุนายน 2557 เวลา:5:55:26 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Rinsa Yoyolive Food Blog ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ขอบคุณกำลังใจ


โดย: ยายเก๋า (ชมพร ) วันที่: 16 มิถุนายน 2557 เวลา:10:42:12 น.  

 





หุ .. หุ ..

ของป๋องเป็นคนดิบ ..

และค่อนข้างสกปรก ... ขมุกขมัว น่ะ ..

เพราะไม่ค่อยได้ อาบน้ำ ..

แฮ่ ...



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
น้ำ-ฟ้า-ป่า-เขา Photo Blog ดู Blog
tuk-tuk@korat Dharma Blog ดู Blog
ไวน์กับสายน้ำ Diarist ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น





โดย: foreverlovemom วันที่: 16 มิถุนายน 2557 เวลา:11:25:58 น.  

 
ตามมาอ่านต่อค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนบ้า(น)ป่า Home & Garden Blog ดู Blog
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
ญามี่ Literature Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 16 มิถุนายน 2557 เวลา:14:22:17 น.  

 
เป็นอันว่าจบไปอีกตอนโดยนายจ่อยกะหนูจุก
ยังไม่ได้ขึ้นกรรมฐาน รอตอนต่อไปเด้อครับ อิอิ
เอาไว้พรุ่งนี้มาใหม่นะครับ วันนี้หมดตัวตั้งแต่เช้าเลย



โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 16 มิถุนายน 2557 เวลา:20:10:31 น.  

 
มาอ่านต่อค่ะ
จ่อยเนี่ยคารมเหลือเกิน

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
คนบ้า(น)ป่า Home & Garden Blog ดู Blog
mambymam Food Blog ดู Blog
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 16 มิถุนายน 2557 เวลา:22:24:57 น.  

 
สวัสดีค่าคุณเวียง

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Close To Heaven Food Blog ดู Blog
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog
ที่เห็นและเป็นมา Art Blog ดู Blog
คนบ้า(น)ป่า Home & Garden Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: schnuggy วันที่: 17 มิถุนายน 2557 เวลา:1:29:18 น.  

 
อรุณสวัสดิ์จ้า..
ไก่สยามน้ำแดงเคยลงบล็อกไปแล้วค่ะ
รอบนี้เขาให้ส่งการบ้านที่ไม่ใช่อาหารไทย ก็เลยเป็นไก่อาฟริกาค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog


โดย: เนินน้ำ วันที่: 17 มิถุนายน 2557 เวลา:8:20:31 น.  

 
มาเติมเต็มคอมเม้นท์เมื่อวานครับ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

รักษาสุขภาพด้วย


โดย: nulaw.m (คนบ้า(น)ป่า ) วันที่: 17 มิถุนายน 2557 เวลา:21:12:18 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

เข้าใจอะไร ๆ ขึ้นเยอะเลยค่ะ
ได้ธรรมะแทรกอารมณ์ขันผ่านบทสนทนา
ขอบคุณมากนะคะ


โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 17 มิถุนายน 2557 เวลา:21:14:44 น.  

 
สวัสดียามค่ำคืนครับ

โหวต ส่งกำลังใจไปให้คุณเวียงแว่นฟ้าด้วยครับ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog


โดย: **mp5** วันที่: 17 มิถุนายน 2557 เวลา:22:10:33 น.  

 

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Dharma Blog ดู Blog

มาส่งกำลังใจให้ยามดึกค่ะ


โดย: AppleWi วันที่: 17 มิถุนายน 2557 เวลา:23:55:44 น.  

 
แวะมาเยี่ยมพร้อมกำลังใจค่ะ
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Insignia_Museum Diarist ดู Blog
**mp5** Dharma Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: เฉลิมลาภ ทราบแล้วเปลี่ยน วันที่: 18 มิถุนายน 2557 เวลา:9:45:12 น.  

 
มาอ่านตอนต่อค่ะ


ขอบคุณโหวตค่ะ คุณเวียงแว่นฟ้า

หนูก็ชอบเก้าอี้ขาวที่สนามหญ้านั่น วางเหมาะเจาะพอดีเลยนะคะ




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 18 มิถุนายน 2557 เวลา:21:36:20 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
mastana Literature Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
นธีทอง Business Blog ดู Blog
ทองกาญจนา Travel Blog ดู Blog
ดรสา Blog about TV ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@
ราตรีสวัสดิ์ค่ะคุณเวียงแว่นฟ้า


โดย: เกศสุริยง วันที่: 18 มิถุนายน 2557 เวลา:22:25:41 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะคุณแว่นเวียงฟ้า

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ดรสา Blog about TV ดู Blog
ขุนเพชรขุนราม Science Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: jamaica วันที่: 19 มิถุนายน 2557 เวลา:7:02:07 น.  

 





แวะ มาเยี่ยม ชม .. / .. อ่าน .. อีก รอบ ค่ะ ..



..



และ ..


ขอบคุณ มากมาย สำหรับ โหวต งาม .. งาม .. ค่ะ






โดย: foreverlovemom วันที่: 19 มิถุนายน 2557 เวลา:13:42:50 น.  

 
ขอบคุณครับ มาโหวตก่อนครับ เดี๋ยวมาอ่าน
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
เลื่อนบ้าน 1 เมตร จะมีพื้นที่ระหว่างบ้านปูนกับบ้านไม้ไว้กลับรถภายในบ้านครับ


โดย: เศษเสี้ยว วันที่: 19 มิถุนายน 2557 เวลา:22:33:12 น.  

 

อ่านแล้วโหวตค่ะ


เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


โดย: พรไม้หอม วันที่: 20 มิถุนายน 2557 เวลา:12:10:06 น.  

 



ขอบคุณค่ะ
นิคมาส่งยิ้มให้นะคะ


โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 20 มิถุนายน 2557 เวลา:16:14:50 น.  

 
images by free.in.th
------------------------
คืนนี้ฝันหวานนะคะคุณเวียงแว่นฟ้า


โดย: เกศสุริยง วันที่: 20 มิถุนายน 2557 เวลา:22:10:41 น.  

 
มารไม่มี บารมีไม่เกิด
-- นี่เรื่องจริงเลยนะคะ

ขอบคุณที่แวะไปชมสายน้ำผึ้งหอมๆค่ะ
ไว้มาอีกรอบ อย่าเพิ่งเปลี่ยนเพจนะคะ



โดย: mambymam วันที่: 20 มิถุนายน 2557 เวลา:22:27:10 น.  

 
บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เกศสุริยง Education Blog ดู Blog
ดรสา Blog about TV ดู Blog
ดอยสะเก็ด Literature Blog ดู Blog
ก้นกะลา Music Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น
------------------------
คุณเวียงฟ้าสบายดีนะคะ


โดย: จารุพิชญ์ วันที่: 20 มิถุนายน 2557 เวลา:23:40:00 น.  

 
มาอีกรอบค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
newyorknurse Klaibann Blog ดู Blog
AppleWi Beauty Blog ดู Blog
phunsud Food Blog ดู Blog
Sweet_pills Travel Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




โดย: mambymam วันที่: 21 มิถุนายน 2557 เวลา:0:06:59 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ
แวะมาส่งกำลังใจค่ะ


บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog




โดย: หอมกร วันที่: 21 มิถุนายน 2557 เวลา:7:56:41 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณเวียงแว่นฟ้า


บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ



บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
lovereason Literature Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น




โดย: สายหมอกและก้อนเมฆ วันที่: 21 มิถุนายน 2557 เวลา:13:12:12 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ

บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต

เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog
...................

ขอบคุณคุณเวียงแว่นฟ้าสำหรับกำลังใจค่ะ



นอนหลับฝันดีคืนนี้นะคะ


โดย: Sweet_pills วันที่: 21 มิถุนายน 2557 เวลา:23:38:39 น.  

 
ขอบคุณสำหรับคะแนนโหวต.. สุขสันต์วันหยุดนะครับ


โดย: puzzles (เตยจ๋า ) วันที่: 22 มิถุนายน 2557 เวลา:18:28:52 น.  

 
ขอบคุณค่ะ
นิคก็ว่านะ เวลานั่งทำงานเปิดเพลงฟังไปด้วยเบาๆก็เพลินดีค่ะ
เลือกเพลงที่นิคชอบแหละ ดีใจค่ะที่พี่ชอบด้วย



โดย: ที่เห็นและเป็นมา วันที่: 22 มิถุนายน 2557 เวลา:21:33:23 น.  

 
บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ


Insignia_MuseumDiaristดู Blog
เวียงแว่นฟ้าBook Blogดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 5 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

ส่งกำลังใจค่ะ


โดย: pantawan วันที่: 22 มิถุนายน 2557 เวลา:22:32:16 น.  

 
ขอบคุณขอรับสำหรับโหวตบล็อกข่าวให้คุณท่านขุนฯ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 23 มิถุนายน 2557 เวลา:2:48:24 น.  

 
ขอบคุณมือเจิมพร้อมโหวตด้วยค่า
ยกมาฝากด้วยนะคะ



โดย: ฟ้าใสวันใหม่ วันที่: 23 มิถุนายน 2557 เวลา:10:11:10 น.  

 
หวัดดีค่ะ แวะมาทักทายยามเช้า

multiple Home & Garden Blog ดู Blog
toor36 Cartoon Blog ดู Blog
pantawan Health Blog ดู Blog
ญามี่ Literature Blog ดู Blog
เวียงแว่นฟ้า Book Blog ดู Blog


โดย: คนสวยที่ไม่เคยสวย วันที่: 23 มิถุนายน 2557 เวลา:11:04:03 น.  

 
แม้ไม่ใช่สัตว์โลกก็ย่อมเป็นไปตามกรรมเช่นกัน


โดย: เสา IP: 171.96.27.142 วันที่: 23 มิถุนายน 2557 เวลา:17:52:42 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิกช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เวียงแว่นฟ้า
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 18 คน [?]




!-- Stat ทำงาน วันที่ 26 กพ 55
[Add เวียงแว่นฟ้า's blog to your web]