มกราคม 2562

 
 
1
4
6
13
17
20
22
27
30
31
 
 
All Blog
สะดุดรักคุณเมีย บทที่ 4 หน้าที่ 1


สะดุดรักคุณเมีย

บทที่ 4 หน้าที่ 1

ปริมคิดหนักมาตลอดทางเขาปฏิเสธตัวเองไม่ได้ว่า

เขาคิดเรื่องของหญิงสาวไปไกลมากโข 


ทั้งๆที่เขาไม่ได้รักเธอ แต่ถ้าไม่ได้รักเธอ 

ทำไมเขาต้องจดทะเบียน 


ที่เขาจดทะเบียนเพราะอยากแกล้งเธอ 

ที่เธอหลอกลวงชีวิตเขา

เขาพยายามหาข้อแก้ตัวให้การกระทำของตัวเอง 


คิดแล้วสับสนจนไม่สามารถบอกได้ว่าเขาทำเพื่ออะไร

นี่เป็นครั้งแรกที่การกระทำของเขาขาดความเชื่อมั่น 

เขาอยากแกล้งผู้หญิงตัวเล็กๆคนนี้ 


เขาอยากขย้ำเธอ เขาอยากเคี้ยวเธออย่าง

เหยื่อตัวน้อยๆ ที่ไม่มีทางสู้ความรู้สึกแบบนี้ 

ทำไมเกิดขึ้นกับเขา 



คนที่ทำอะไรอย่างมีแบบแผนวางหมากและ

มีกลยุทธ์ทางธุระกิจมากมายที่เขาแสนท้าทายให้ลอง 



แล้วทำไมเรื่องของผู้หญิงธรรมดาคนเดียวกับ

ปั่นหัวเขาได้ทั้งวัน



“ทำไมผมจะต้องคิดเรื่องของคุณขนาดนี้ด้วยนะ 

คุณก็แค่คนธรรมดาหน้าตาบ้านๆ เฮ้อ....” 


ชายหนุ่มถอนหายใจ เมื่อเลี้ยวรถเข้าบ้าน 

ก็แปลกใจที่พบฟอร์จูนเนอร์จอดข้างรถเก๋งของหญิงสาว 


เขาไม่เคยเห็นรถคันนี้มาก่อนพี่ชายทั้งสองคนก็ใช้ 

วีโก้ ทั้งคู่ 


ชายหนุ่มเดินเข้าไปในบ้านอย่างสงสัยก็ต้องตกใจ เพราะบุรุษที่มาเยือนบ้านณรินทร์คือคนที่สร้างความขุ่นเคืองใจให้แก่เขามาทั้งวัน



“พี่แทน” 


เขาอุทานออกมา



“อ้าว....ปริม มาไงล่ะ” 


แทนคุณเองก็ตกใจที่พบเขาที่นี่



ณรินทร์ยกถาดใส่น้ำมาเสริฟ ก็แปลกใจที่ชายหนุ่มมาวันนี้แต่ดูท่าทางเหมือนคิดอะไรอยู่



ปริมนั่งคุยกับแทนคุณอย่างมีมารยาท



“โลกมันกลมจริงๆนะ รู้จักกันทั้งนั้นเลย” 


แม่ทิพย์เอ่ย



“ครับแม่”



“แล้วนี่ ยังไง งงเลย ไม่ได้เจอกันเป็น 10 ปี ไม่คิดว่าณรินทร์จะได้แต่งงานกับปริม” 


แทนคุณเอ่ยอย่างยิ้มๆ



“มันเป็นเรื่องบังเอิญค่ะ แทนคุณ”



“ปริม ขึ้นชื่อว่าพ่อเนื้อหอมของรุ่นเลยนะครับสาวๆ สวยๆ ควงไม่ซ้ำหน้าไม่คิดว่าจะลงเอ่ยกับณรินทร์ได้” 


แทนคุณยังเมาส์เรื่องชายหนุ่มต่อ ปริมตอนนี้หน้านิ่งเงียบ



“ผมจำได้นะ รินทร์ชอบอ่านหนังสือมาก 

ที่จริงไม่ได้ขยันนะที่เห็นเข้าห้องสมุดบ่อยๆ 

ไปแอบนอน” 



แทนคุณเริ่มเผาณรินทร์



“แทนก็เหมือนกันนั่นแร่ะ ชอบโดดเรียนมาห้องสมุด ไม่รู้มีอะไรหรือเปล่า”



“ก็มาเหล่ สาวๆ ไง ห้องสมุดสาวสวยก็เยอะนะ”



“ผู้ชาย เรื่องเนื้อหอม สืบทอดสายรหัสหรือเปล่านะ” 


ณรินทร์แกล้งแหย่แต่พอเห็นหน้าปริมที่ไม่มีอารมณ์

ร่วมเลยรีบเปลี่ยนเรื่อง



“ทานข้าวก่อนกลับนะคะ แทน รินทร์ทำกับข้าวไว้แล้ว”



“ดีเหมือนกัน ไม่ได้ทานฝีมือรินทร์มานานแล้ว”



“พ่อแทน ยังติดใจฝีมือรินทร์อยู่เหรอ”



“รินทร์เขาทำกับข้าวอร่อยนะครับแม่”



“แต่ตอนนี้ อร่อยกว่าตอนนั้นอีกนะ”



“แม่ก็ชมเกิน เดี๋ยวก็ลอยหรอกค่ะ”



ทั้ง 3 คน หัวเราะอารมร์ดี บนโต๊ะอาหารแทนคุณ แม่ทิพย์ และ ณรินทร์ก็พูดคุยกันอย่างสนุก



มีเพียงปริมที่นิ่งฟังราวกับคนนอก



“รินทร์จำตอนที่ผมมาบ้านครั้งแรกไหม”



“อ้อ ที่แทนมาเยี่ยมเพราะรินทร์ป่วยน่ะเหรอ”



“ใช่ๆ ผมหลงตั้งนานกว่าจะพบบ้าน แล้วตอนนั้นนะทางเข้าบ้านก็น่ากลัวสุดๆ แต่ตอนนี้ดูสิ บ้านเรือนขึ้นมาเต็มเลย”



“เวลาเปลี่ยนไป อะไรก็เปลี่ยนนะ”



“พอผมถามคนแถวนี้ ก็ไม่มีคนรู้จักบ้านณรินทร์พอถามว่าบ้านเรือนไทยสมัย ร. 5 เขาก็บอกว่า บ้านผีสิงซะงั้น”



“คนแถวนั้นก็ชอบพูดแบบนั้นแร่ะ”


หญิงสาวเสริม



แทนคุณเหลือบตามองรอบๆ



“เวลาผมมาก็รู้สึกเหมือนกันนะ มันหนาวสันหลังยังไงไม่รู้” 


เขาเริ่มหวาดๆ



พลันเสียงของหนักหล่นจากห้องนั่งเล่น ทำเอาทุกคนตกใจ แทนคุณกลอกตาไปมาก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย



ปริมได้แต่สมน้ำหน้าในใจ


หลังอาหารค่ำ ปริมออกมาส่งแทนคุณกับณรินทร์ตามมารยาท พอร่ำลาอีกฝ่ายจนขับรถลับตาไปแล้ว



“อารมณ์ดีเชียวนะที่มีผู้ชายมาหาถึงที่บ้าน” 


เขาพูดลอดไรฟัน



“ฮืม เขาก็เคยมาที่นี่ออกบ่อย” 


เธอตอบ



“ฮึ ดีใจจนออกนอกหน้าไปไหมคุณ ทั้งที่ผมก็อยู่ตรงนี้” 


เขาเริ่มมีเสียงพาล



ณรินทร์มองหน้าเขาอย่างไม่อยากเชื่อหู



“ถ้าคุณได้เจอเพื่อนที่ไม่ได้พบกันมาร่วม 10 ปี คุณจะไม่ดีใจเลยเหรอยิ่งเป็นเพื่อนที่สนิทกัน”



“สนิทระดับไหนล่ะ เพื่อนกิน เพื่อนเที่ยว หรือแฟนเก่า”



ณรินทร์ประมวลจากคำพูดแล้ว รับรู้ว่าอีกฝ่ายอารมณ์ไม่สู้ดี



“เพื่อนสนิทก็เพื่อนสนิทสิ ไม่เคยมีกับเขาหรือไง”


 เธอพูดแล้วหมุนตัวเข้าบ้าน


ปริมเดินฟัดเดินเหวี่ยงตามณรินทร์เข้ามาในบ้าน เธอเดินไปล้างจานในครัวส่วนแม่ นั่งดูทีวีต่อ



“พวกคุณสนิทกันมากเลยเหรอ”



“ก็สนิท เขามาเที่ยวบ้านบ่อย สนิทกับแม่ กับพี่นพ พี่อัน ก็รู้จัก”



“แหม ทำไมไม่แต่งงานกับเขาซะล่ะ”



“โห ฉันไม่อยากแต่งงานนิ นี่ก็ไม่ได้อยากแต่งนะ”


เธอย้อน



“แล้วยังไงคิดว่าจะวางแผนอนาคตกันใหม่ไหมล่ะ”



“ก็ดีนะ คุณคิดว่า เราควรวางแผนอะไรดี เราจะหย่ากันเมื่อไหร่” 



อนาคตที่ณรินทร์พูดถึงหมายถึงปริมกับเธอ



“คุณเจอแฟนเก่าแค่วันเดียว ก็พูดเรื่องหย่ากับผมเลยเหรอ”



“อ้าว ก็คุณบอกให้ฉันวางแผนอนาคต”


 เธอย้อน



“คุณมันนางมารร้าย ใจร้ายใจดำ”


 เขาเริ่มด่าทอเธอ



หญิงสาวอมยิ้ม มองอีกฝ่ายอย่างรู้ทัน เธอเดินมาจนประชิดตัว



“อุ้ย...เนื้อหอมจังนะคุณน่ะ” 


เธอแกล้งแหย่เขาที่ยืนกอดอก เธอเริ่มรู้วิธีแกล้งปริม

เวลาโกรธหากเขาโดนเธอพูดจาแทะโลม

เขาจะหน้าแดง แล้วหายโกรธทันที



“ไหนมาดมสิ”


ณรินทร์ทำจมูกฟุดฟิตใส่เขา ชายหนุ่มเปลี่ยนท่าที

ใจอ่อนลงอย่างรวดเร็วกับท่าทีทะเล้นของอีกฝ่าย เขาดึงณรินทร์มากอดไว้



“เอ๊ะ อะไรกันน่ะ”



“ก็อยากดมไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวให้ดมทั้งตัวเลย จะเริ่มตรงไหนก่อนดี”



“นี่......ปล่อยฉันนะ”



“เรื่องอะไร อยากกอดผม จูบผมก็บอกมาเถอะ”



“ตาบ้า ลามก”


 ณรินทร์เริ่มดิ้น



เกินที่ณรินทร์จะคาดคิด ชายหนุ่มฉวยโอกาสหอมแก้มเธอช้ายที ขวาทีจนณรินทร์หวีดร้อง ทุบตีเขา



“ไอ้หื่น..ปล่อยฉันนะ”



“มีอะไรกันลูก” 


เสียงแม่ทิพย์ดังขึ้น



“ไม่มีอะไรครับแม่ ยุงกัด ตบยุงกันเฉยๆ”



“ตาบ้า” 


ณรินทร์ร้องด่าเสียงเบาที่อกเขา



“ไปต่อกันที่ห้องดีกว่าเมียจ๋า”


 พูดแล้วก็ระดมจูบหญิงสาวจนแก้มช้ำ



หญิงสาวร้องอีกหน พลางตบพลางถีบชายหนุ่ม 

เขาจำปล่อยแล้วรีบหนี ณรินทร์ยืนหอมถี่อย่างโมโห



“ไอ้บ้ากาม ไอ้หื่น”



หญิงสาวคิดแค้นใจ จะต้องหาทางเอาคืนให้ได้ 

หมู่นี้ชายหนุ่มเล่นหนัก 


ทั้งลวนลาม ทั้งกอด จูบ เธอจำเป็นต้องกลับไปใช้ไม้แข็งเหมือนเดิม



ณรินทร์เดินเข้าห้องนอนมองดูร่างสูงโปร่งหน้าตี๋ที่นอนเล่นอยู่บนเตียงนอน ดูหน้าจะอารมณ์ดีขึ้นบ้างแล้ว



“อย่าคิดว่าผมจะหย่าง่ายๆ นะ”



“ฮึ..... อีตอนแต่งก็ไม่อยากแต่ง แล้วมาตอนนี้ไม่อยากหย่าสมองกระทบกระเทือนหรือเปล่า”



“เหอะ แล้วก็อย่าคิดว่าจะสวมเขาให้ผมด้วย”



“ไอ้ประโยคนี้ฉันน่าจะเป็นคนพูดนะคุณ”



“สินสอดคุณ ทำเอาผมหมดเนื้อหมดตัว กระเป๋าตังค์ผมก็ยึดไปแล้วนี่อะไรตอบแทนด้วยการมีชู้”



หญิงสาวหน้าเหวอ ที่ถูกปรามาสว่ามีชู้



“มีชู้เหรอ” ณรินทร์แอบหัวเราะในลำคอ



“พูดเอาแต่ใจไปหรือเปล่า กระเป๋าตังค์มันไม่มีเงินสักบาทเดียวแล้วคุณก็ใช้แต่แอฟธนาคาร 

ค่าทางด่วน ค่าน้ำมัน บัตรก็อยู่บนรถ”



“งั้นก็เอาคืนไปกระเป๋าตังค์คุณ 

ให้มาก็ไม่บอกรหัสไม่ได้มีประโยชน์อะไรเลย” 


หญิงสาวหยิบกระเป๋าหนังสีดำจากลิ้นชักตู้เครื่องแป้งมาส่งให้เขา



มองหน้างอนอีกฝ่ายแล้วก็นึกขัน



“อายุเท่าไหร่แล้วคุณน่ะ”



“30”

“ทำตัวยังกะเด็ก 10 ขวบ” 


เธอต่อว่า



“ผมโตแล้ว อย่าคิดว่าผมเป็นเด็ก”



“โตแต่ตัว สมองน่ะไม่ใช่”



ชายหนุ่มหน้าเดือด คว้าหญิงสาวไปนอนบนเตียงกดแขนทั้งสองข้างไว้



“ลองดูไหมล่ะว่าโตหรือยัง”



“นี่คุณจะทำอะไร”



“ก็ทำอย่างที่สามีชอบทำภรรยาไง คุณน่ะ จอมงี้เง่า อวดดี แม่ไม่สั่งสอนหรือไงต้องดีกับสามีน่ะ”



“อย่าลามปามนะ”



“เหอะ ตัวแค่นี้ เก่งแต่ปากล่ะสิไม่ว่า”



หญิงสาวทำหน้าดุนิ่งเงียบ



“ฮึ ไหนบอกว่าชายหนุ่มแห่งปี มีดีแค่นี้เหรอ ฉันตัวแค่นี้ยังจะข่มเหงอีก”


ทั้งสองมองจ้องกันอยู่นาน



“ฉันหนักนะ” 


ปริมเลยพลิกตัวออก แล้วล้มลงนอนอย่างน้อยใจ

เขาไม่อยากทำร้ายเธอ 


แม้ใจอยากจะทำแทบขาดใจ 

แต่เห็นใบหน้าอันว่างเปล่ากลับเป็นเขาเองที่ต้องถอย 


สายตาเธอไม่มีเขาเลย เธอมองเขาว่างเปล่า 

ไม่ได้ลึกซึ้งไม่ได้หวาน อย่างเช่นสาวๆ 

ที่เขาเคยกอด ปริมเริ่มสับสนในใจ 


ที่ผ่านมา ที่เขาหวั่นไหว ที่เขารู้สึกสุขใจเวลาอยู่

กับณรินทร์ มันคืออะไรกันความสุขที่แตกต่างกับผู้หญิงทุกคน



“ฉันจะไปนอนกับแม่นะ”


 ณรินทร์บอกปริมที่นอนตะแครงหันหลังให้


พอไปถึงห้องแม่ แม่ทิพย์ก็อบรมลูกสาวเป็นการใหญ่ที่จู่ๆ มานอนกับนาง



“รินทร์ ปริมเขาดีกว่าเมื่อก่อนแล้วนะ ทำไมลูกยังต้องแยกนอนกับเขาด้วย

 เราแต่งงานแล้ว การแยกกันนอนแบบนี้คือมีปัญหากัน”



“เอ่อ แม่ หนูก็ไม่รู้จะบอกแม่ยังไง”



“ถ้ามีปัญหา ลูกก็แค่เงียบ ปล่อยให้เขาเย็นก่อนค่อยคุยกัน คนเราสองคน 


ต่างที่มา ต่างใจ มันก็มีเรื่องที่ขัดแย้งกันบ้าง

ยิ่งเก็บเอามาคิดมาก 


มันก็ยิ่งบั่นทอนความรู้สึกของกันและกัน

สามีภรรยา จะสามารถอยู่ด้วยกันได้นานมันก็เริ่มจากที่เราต้องปรับตัวเพื่อยอมรับกันและกัน”



“แม่คะ เขาเอาแต่ใจเกินไป”



แม่ทิพย์มองหน้าลูกสาว



“แล้วลูกคิดว่าตัวเองเอาแต่ใจหรือเปล่า”



“เราไม่ได้รักกันเลยนะแม่”



“แล้วลูกจะไม่ยอมให้ความสัมพันธ์มันเกิดเลยเหรอ 

แม่ก็แก่มากแล้วนะยังจะให้แม่ต้องห่วงอะไรอีก

 ปริมเขามาหาลูกทุกวัน เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองไปเยอะมากแล้วลูกเมื่อไหร่จะเปิดใจ ปรับตัวหาเขา”




แม่พร่ำบ่นอีกหลายความ ณรินทร์ตัดบทกลับไปนอนห้อง



เสียงเปิดประตูดังขึ้น ปริมแสร้งทำเป็นนอนนิ่ง แต่ใจก็นิ่งคิดว่าหญิงสาวโดนแม่ไล่กลับมา




“คุณปริม หลับแล้วเหรอ”



มองอีกฝ่ายที่ยังนิ่งอยู่



“คุณปริม แทนคุณเขามาวันนี้ 

เขาแค่แวะมาเยี่ยมแม่เขาไม่ได้ตั้งใจมาหาฉันหรอก และอีกอย่าง 

เราไม่ได้คิดอะไรกันแบบนั้นฉันไม่ได้มีชู้”


 ณรินทร์เอ่ยข้างหลังก่อนจะล้มตัวลงนอน



ปริมพลิกตัวมาหาหญิงสาว



“ผมก็ไม่ได้คิดว่าคุณมีชู้ ก็แค่แกล้งถามเฉยๆ ถ้าคุณเดือดร้อนก็แสดงว่าใช่”



“ฉันเดือดร้อนหรือไง?”



ปริมมองหน้าหญิงสาวที่ดูเหนื่อยล้า



“ผมขอโทษ”


 เขาเอ่ยออกมาก่อน ทำไม เขาอยากจะหาคำมาด่าเธอให้มากกว่านี้แต่พอเห็นสายตาอีกฝ่ายเขาก็ใจอ่อนยวบลงทุกที



“ฮืม นอนเถอะ” หญิงสาวเอ่ยก่อนหลับตาลง





Create Date : 15 มกราคม 2562
Last Update : 16 มกราคม 2562 6:46:49 น.
Counter : 658 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]