มกราคม 2562

 
 
1
4
6
13
17
20
22
27
30
31
 
 
All Blog
สะดุดรักคุณเมีย บทที่ 2 หน้าที่ 2


สะดุดรักคุณเมีย

บทที่ 2

เมื่อทุกคนมาพร้อมหน้ากันและได้เวลาอันสมควรพ่อปราบและชินแสก็เริ่มพิธีไหว้ 

ญาติพี่น้อง ลูกหลาน และพนักงานผู้ใหญ่มาร่วมไหว้กันอย่างคับคลั่ง วันธูปฟุ้งกระจาย 

เสร็จพิธีไว้ พ่อปราบก็แจกซองแดงลูกๆหลานๆและพนักงานที่มาร่วมงาน 

ณรินทร์เองก็ได้แต๊ะเอียด้วยเช่นกัน ทำเอาหญิงสาวหน้าบาน 


วันนี้หญิงสาวแต่งตัวน่ารัก พนักงานไม่รู้ว่าเธอคือใครต่างก็ให้ความสนใจ 


โปรดแนะนำแฟนสาวให้รู้จักกับณรินทร์ทั้งสองวางแผนจะแต่งงานวันปลายปี 


แต่โดนน้องชายตัวดีแต่งตัดหน้าไปก่อนถ้าตามธรรมเนียมแล้ว พี่น้องไม่ให้จัดงานในปีเดียวกัน 


แต่ปริมแต่งปลายปีจึงไม่นับว่าเป็นปีเดียวกัน


“คุณรินทร์ดูร่าเริงจังนะวันนี้” โปรดอดแซวกับน้องชายไม่ได้


“ยัยนั่นโดนหลอกง่ายกว่าที่คิดอีก”


โปรดเหมือนอ่านความคิดของน้องชายออก


“อันที่จริงคุณรินทร์น่ารักดีนะ มีสามีกลั่นแกล้งก็ยังเชื่อฟัง”


“เชื่อฟังอะไรล่ะพี่ เถียงคำไม่ตกฟากทุกคำ”


“เท่าที่คุยกับเขาก็ไม่เห็นเขาจะพูดไม่ดีตรงไหน”


“ไม่ทันไรก็เข้าข้างกันเชียวนะ” 

ปริมอดต่อว่าพี่ชายไม่ได้ตอนนี้เหมือนเขาหัวเดียวกระเทียมลีบ พ่อกับแม่ก็ดูชื่นชมลูกสะไภ้พี่ชายก็เห็นดีเห็นงามไปด้วย


“ก็แหง่สิ มีน้องสะไภ้คนเดียวนิ” 

โปรดยังเข้าข้างหญิงสาว และกัดน้องชายคนเดียวพอหอมปากหอมคอ


ณรินทร์และไอซ์เดินมาสมทบสองหนุ่มที่ยืนคุยกันข้างสระ 


ณรินทร์แบมือตรงหน้าปริมปริมสบตาพี่ชายงงๆ หันมามองหน้ากลม


“อะไรของคุณ”


“ไหนล่ะแต๊ะเอียของคุณ”


“ฮ้า.ฮึๆๆ คุณนิ ขี้งกเหมือนกันนะ ไหนบอกไม่ชอบเงินไง”


“อ้าว นี่มันเทศกาลอะไรล่ะคะ”


“คุณก็ได้จากคุณพ่อ คุณแม่แล้วนิ”


“ก็ใช่ ก็เหลือจากคุณนี่แร่ะ หรือว่าคุณขี้งกเหมือนกัน ที่จริงแล้วสามีให้เงินภรรยาก็เป็นเรื่องดีงามนิคะ” 

ลอยหน้าลอยตายั่วโทสะอีกฝ่าย


โปรดได้แต่อมยิ้มกับการทันคนของน้องสะไภ้แม้อายุอานามจะเท่ากันแต่เธอก็มีศักดิ์เป็นน้อง


“เออ ก็จริงนะ การที่สามีให้แต๊ะเอียภรรยามันก็ถูกต้องแล้วคุณพ่อยังให้คุณแม่เลย ซองหนักเสียด้วย” โปรดเอ่ยเสริม


“อ้าว ไหนเข้าข้างกันแบบนี้ล่ะ”


หญิงสาวหยักคิ้วให้ปริม


“ถ้างั้นของไอซ์ล่ะคะพี่โปรด” 

ไอซ์แบมือบ้าง โปรดหัวเราะอารมณ์ดีเข้าไปกอดไหล่ไอซ์


“ขอมัดจำเป็นจุ๊บแทนแล้วกัน เดียวพรุ่งนี้พาไปเที่ยวทะเลนะคะคนสวย” 


ทั้งสองเดินไปสมทบกับโต๊ะจีนที่คุณแม่พลอยจัดเลี้ยงแบบบุพเฟ่แขกที่มาไหว้เจ้าที่บ้าน


ปริมมองตามหลังพี่ชายที่จากไปแล้วหันมามองมือน้อยๆที่ยังแบตรงหน้าดูท่าแล้วไม่ได้ไม่เลิก 

เขาล้วงกระเป๋าสตางค์ออกมาจากเสื้อสูทราคาแพงแล้ววางลงมือเธอ


“เงินไม่มีหรอก มีแต่บัตร เอาไปเลย”


“อ่ะ ให้บัตรมา ก็ให้รหัสด้วยสิคะ” 

เธอแกล้งลอยหน้าลอยตาบอกเขาชายหนุ่มเดินหนีไปสมทบโต๊ะจีนเหมือนกัน


หญิงสาวยิ้มอารมณ์ดีมองกระเป๋าสตางค์ในมือแล้วเก็บเข้ากระเป๋าสะพานเล็กของเธอ


หลังตรุษจีนเป็นวันเที่ยวปริมหลบหลีกการบังคับของแม่พลอยที่จะให้เขาพาณรินทร์ไปเที่ยว 

ชายหนุ่มหนีเที่ยวพัทยากับ ก๊วนเพื่อนหนุ่มสาวอย่างสนุก 


แต่เหมือนเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ขากลับเขาประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนต้องเข้าโรงพยาบาล


พอลืมตาตื่นเขาก็พบณรินทร์นั่งตาแป๋วอยู่ข้างเตียง 

สภาพตัวเองราวกับมัมมี่ โดนพันแผลทั้งตัว หลังจากปรับตัวตั้งสติอยู่ครู่ใหญ่ 


นึกว่าตัวเองฝันไปแต่ทำไมต้องมีณรินทร์อยู่ในฝันของเขาด้วย


“ที่นี่ที่ไหน”


“วัดมั้ง” เสียงตอบแบบนี้ไม่ผิดตัวแน่ แม้ในฝันคำพูดยังเชือดเฉือนไม่เลิก


ชายหนุ่มร่างหนักอึ่ง เคลื่อนไหวไม่ได้


“แม่ให้ฉันมาดูแลคุณ”


“ไม่ต้องลำบากก็ได้มั้ง” 


แม้จะนึกก่นด่าในใจ หากแม่ไม่สั่งเธอจะมีกระใจมาดูเขาบ้างไหม


“อืม” หญิงสาวหยิบแอปเปิ้ลจากตะกร้าข้างเตียงมากิน


“ดูท่าทางแบบนี้ น่าจะไปวัดเลยดีไหม”


ปริมมองหน้าอย่างเดือดดาษที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้


“ฮืม จะแช่งชักผมทำไม อยากเป็นหม้าย สามีแต่งงานด้วย 2เดือนตายจากหรือยังไง คนจะได้นินทากันทั้งเมือง”


“ฮึ “ 


หญิงสาวทำเสียงขึ้นจมูก มองอีกฝ่ายด้วยสายตาเหยียด


“การที่สามีหนีเที่ยวกับผู้หญิงอื่นแล้วเกิดอุบัติเหตุตายคาที่น่ะ 

คนทั้งเมืองจะสมเพจใคร แล้วเห็นใจใครมิทราบ ประวัติดีงามเสียเหลือเกินนิ 

สวยแต่รูปจูบไม่หอม มีสามีแบบนี้ประวัติฉันด่างพร้อยหมดคนทั้งเมืองยิ่งจะดีใจที่ตายไปได้ก็ดี” 


หญิงสาวย้อนหลับ ทำเอาอีกฝ่ายหัวร้อนยกมือขึ้นจะชี้หน้าตอบโต้เธอ


“นี่ คุณ...”


“ทำไม ก็เอาสิ จะอยากทำอะไร” 

หญิงสาวเท้าสะเอวโยกสะโพกล้อเลียนเขา 


ชายหนุ่มลมออกหูที่ทำอะไรไม่ได้ ชายผู้เพรียบพร้อมแบบเขาใยต้องมาพบพานผู้หญิงที่ปากคอเลาะร้ายแบบนี้กัน


ทั้งกิริยามารยาทก็ชาวบ้านร้านตลาด


ชายหนุ่มไม่ยอมรับความผิดของตัวเอง ที่แอบหนีเธอไปเที่ยวกับหญิงอื่น


ผู้หญิงที่ไปกับเขาสามคนบนรถต่างก็ได้รับบาดเจ็บเหมือนกัน


แม่พลอยจัดการค่ารักษาพยาบาลให้ และกำชับให้พวกหล่อนไม่ให้มายุ่งเกี่ยวกับ


บุตรชายตนอีกและขอร้องณรินทร์ให้มาดูแลปริม 

ส่วนหนึ่งก็เพื่อกันพวกผู้หญิงไม่ให้มายุ่งกับชายหนุ่ม 


ทีแรกณรินทร์ไม่อยากจะมาดูดำดูดี เพราะเขาทำตัวเอง 


แต่แม่ทิพย์ก็พูดเตือนสติและก็บอกเธอว่าถึงเขาจะเป็นอย่างไร 


ยังไงณรินทร์ก็แต่งงานกับเขาแล้ว ยังไงณรินทร์ก็ต้องดูแลเขา


พยาบาลเข้ามาในห้องเพื่อเตรียมยามาให้และเปลี่ยนผ้าพันแผลและเช็ดตัวให้ชายหนุ่ม


“คุณพยาบาลคะ ฉันขอช่วยด้วยได้ไหมคะ เพราะเผื่อไปพักฟื้นที่บ้านฉันจะได้จัดการคนเดียวได้ค่ะ” 


หญิงสาวเอ่ยปากอนุญาตพยาบาลสาว


“ได้ค่ะ”


หญิงสาวยิ้มเยาะชายหนุ่มที่เธอได้กลั่นแกล้งเขา 

ทำเอาเจ้าตัวตาเหลือกลาน

หลังจากเช็ดตัวเสร็จ พยาบาลเอาข้าวมาให้หญิงสาวเลยทำหน้าที่ป้อนข้าวป้อนยา 


เห็นหน้าชายหนุ่มที่ทำหน้าทำตาเหมือนโดนข่มขื่นก็ไม่ปานก็อดขำไม่ได้


“ไม่ต้องกลัวหรอกน่า ฉันไม่เอารูปร่างคุณไปประจานที่ไหนหรอก”


“เป็นผู้หญิงไม่มียางอาย” 


ชายหนุ่มแทบไม่อยากเชื่อตัวเองเขาเป็นชายที่สาวๆ ต่างก็ปรารถนา 

สาวๆ ที่เพียบพร้อมด้วยหน้าตาและ ยศศักดิ์ 


ต่างก็เข้ามาหาเขาทุกเมื่อเชื่อวัน แต่ทำไมเขาต้องมาโดนผู้หญิงชาวบ้านแบบนี้แตะเนื้อต้องตัว 


แถมได้เห็นอะไรต่อมิอะไรไปหมดคิดแล้วก็อยากร้องไห้


“ผมน่ะ ไม่ได้ใจง่ายกับผู้หญิงทุกคนนะผมเลือกว่าผู้หญิงแบบไหนที่คู่ควรกับผม”


“โอ้ย ไม่ต้องบอกหรอกค่ะ เพราะฉันน่ะ รู้ว่า ผู้ชายแบบไหน 

เหมาะสมที่จะเป็นพ่อของลูกฉัน ช่วงเวลานี้ 

คือช่วงที่ตกต่ำที่สุดของชีวิตของฉันล่ะกัน 


เฮ้อ... ไม่รู้จะไปแก้ชงที่วัดไหนถึงจะดีขึ้น ฉันต้องคอยนับวันนับเดือนนะ เมื่อไหร่ ที่คุณจะดวงดี เราจะได้เลิกกัน 

เมื่อนั้นชีวิตฉันจะได้ดวงดีกว่า” 


คำพูดแสบทรวงทำเอาอีกฝ่ายอยากกระโดดมาบีบคอ


“ตั้งแต่ผมพบคุณ ก็มีแต่เรื่อง คุณนั่นแร่ะที่เอาความซวยมาให้ผม”


“นี่....คราวนี้ คุณมันชั่วเองนะ มีอย่างหรือ ไปกับผู้หญิงอื่นมั่วซะไม่มี นี่ฉันต้องให้พยาบาลตรวจหาเชื้อ HIV ด้วยนะเนี่ย” 


หน้าตารังเกียจอย่างเห็นได้ชัด


ทำเอาชายหนุ่มสุดหล่อแห่งปีถึงกับรับไม่ได้ที่ถูกดูถูกจากเธอ


พอทานข้าวเสร็จเธอเลื่อนโต๊ะทานข้าวออกมา พอดีกับประตูห้องเปิดออกพร้อมร่างบางหน้าแฉล้มแต่งหน้าจัดจ้าน 

ผมเป็นเกรียวงามงอน ชุดกระโปรงเข้ารูปผ่าสูง 


ณรินทร์มองจนน้ำลายไหล


“ปริมคะ เป็นยังไงบ้างคะ” 


หญิงสาวถือกระเช้าผลไม้เข้ามายื่นให้ณรินทร์อย่างไม่สนใจ สายตาจับจ้องมัมมี่บนเตียง


ณรินทร์ยืนอึ้งประมวลเห็นการณ์ หันไปมองปริมที่ตั้งตัวยังไม่ได้


“อ้อ..เอ้อ” 


เขาไม่ทันตอบอะไร หันมามองณรินทร์ที่หอบกระเช้าผลไม้ยืนตากลมใส


“ตายแล้ว ทำไมพันทั้งตัวแบบนี้คะ คุณเจ็บตรงไหนบ้างคะบอกพริ้ตตี้สิคะ”


“เอ่อ..เออ...เอ้อ” 


ความอ้ำอึ้งของชายหนุ่มเหมือนส่งไปถึงณรินทร์ เพราะเขาใช้สายตาเหมือนกำลังขอร้องอะไรเธออยู่


หลังจากที่จ้องมองสามีที หญิงสาวสวยผู้โฉบเฉี่ยวที ณรินทร์ได้สติเมื่อเห็น ปริมพยายามยกมือมาหาเธอ


“อ่อ อ้อ..คุณคะ” 


ณรินทร์ตั้งสติได้ วางกระเช้าผลไม้ที่โต๊ะข้างหัวเตียง


“คุณเพิ่งมาเยื่อมใช่ไหมคะ คงไม่ทราบข่าวว่า...” 


หญิงสาวที่ทำหน้าทุกข์ร้อนกับชายหนุ่มข้างเตียงหันมามองหญิงสาว


“คุณเป็นพยาบาลที่ดูแลเขาเหรอ”


พริ๊ตตี้มองร่างบางเล็กที่สวมเสื้อคอกลมสีขาวกางเกงสีครีม มองแล้วก็นึกว่าเป็นผู้ช่วยพยาบาล


“อ้อ ค่ะๆ”


“ข่าวอะไรคะ” 


น้ำเสียงที่คุยกับณรินทร์ช่างแข็งกระด้างขัดกับหน้าตายิ่งนัก


“คุณปริม ประสบอุบัติเหตุ อาการหนักมาก เขาสลบไป 2 วันเต็มๆ 


หมอเช็คอาการทุกอย่างแล้ว ต้องเสียใจกับครอบครัวอย่างมาก 


ภายนอกเขาได้รับบาดเจ็บอย่างมากใบหน้าเละ ลิ้นแข็งพูดไม่ได้ 


พิกลพิการขาหัก เสื่อมสมรรถนทางเพศหน้าตาอาจจะทำศัลยกรรมได้ใหม่นะคะ ขาเทียมก็พอหาได้ 


แต่อาการเสื่อมทำให้ไม่สามารถมีบุตรได้ค่ะ น่าเสียดายนะคะคนหล่อๆแบบนี้ 


อ้อ....คุณผู้หญิงคะ ช่วยแรกๆ จิตใจเขาอาจจะแย่หน่อยนะคะ 


ต้องปรับตัวเพราะพิการเพราะฉนั้น เขาอาจจะอารมณ์ฉุนเฉียวไปบ้างค่ะ” 


หญิงสาวสาธยายอย่างกับเขียนบทไว้


เพ็ตตี้กับปริมอ้าปากค้างกับอาการของชายหนุ่มที่ออกมาจากปากหญิงสาว


“เอ่อ...เป็นอย่างนั้นเหรอคะ”


“ค่ะ ครอบครัว ต้องให้เวลากับผู้ป่วย ให้กำลัง 


อย่าให้ผู้ป่วยรู้สึกเป็นปมด้อยกำลังใจจากคนรอบด้านเป็นยาที่ดีที่สุดนะคะ”


 หญิงสาวยังพูดต่ออย่างน่าเชื่อถือ ราวกับเป็นพยาบาลจริงๆ 


ต่างจากคนฟังตอนนี้ที่กำลังเดือดดาษหัวใจแทบจะทะลักออกมาจากอก


พริ๊ตตี้ตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน


“ไม่จริง ๆ “ 


เธอพรึมพรำ มองปริมที่ถูกพันราวกับมัมมี่ อย่างช็อค


“เออ..ปริม หายไวๆ นะคะ แล้วพริ๊ตตี้จะมาเยื่อมใหม่” 


เธอตัดบทไปอย่างรวดเร็ว


ณรินทร์มองอย่างงงงัน


“อ้าว ทำไมเขาไปแล้วล่ะ” 


ณรินทร์ถามปริมอย่างสงสัย


ปริมน้ำตาเล็ดกับการที่ถูกอีกฝ่ายกลั่นแกล้ง


“ทำไมคุณต้องแช่งชักหักกระดูกผมขนาดนั้นด้วย”


“แช่งชักอะไร มันเป็นเรื่องจริงนะ” 


เธอพูดหน้าตาเฉยปริมตาตั้งช็อคอย่างไม่อยากเชื่อ


นี่เขากำลังจะกลายเป็นคนพิการจริงๆ เหรอ


“ฮืม คุณจะกลัวทำไม คุณมีเงินตั้งเยอะแยะ ทำศัลกรรมดีๆคุณก็เป็นปกติเองแร่ะ” 


เธอพูดแบบไม่ทุกข์ร้อนอะไร


ปริมร้องไห้ออกมาอย่างเชื่อสนิทกับสิ่งที่ภรรยาพูด 


ณรินทร์มองอย่างระอา ผู้ชายอกสามศอก โดนหลอกแค่นี้ก็ร้องไห้




Create Date : 08 มกราคม 2562
Last Update : 8 มกราคม 2562 22:05:13 น.
Counter : 645 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]