Group Blog
All Blog
|
สะดุดรักคุณเมีย บทที่ 8 หน้า 4 ++18 สะดุดรักคุณเมีย หน้า 4 เมษจอดรถข้างชายหนุ่มหน้าบ้านเรือนไทย ลานจอดรถกว้างขวาง น่าจะจอดได้ประมาณ 4 คัน ข้างๆ เป็นโรงเรือนปลูกผัก เรือนไทยเวลาโพล้เพล้ แบบนี้ได้ บรรยากาศอย่างบอกไม่ถูก พาลนึกไปถึงหนังผี ที่มีปู่แก่ๆ ถือไม้เท้าเฝ้าเรือนอยู่ ซึ่งไม่ต่างจากความเป็นจริงที่ปู่ทวดยืนถือไม้เท้ามองเขาอยู่ จู่ๆ มีแมวกระโดดลงมาใกล้ทั้งคู่ทำเอาเมษตกใจ แล้วรีบเดินตามปริมเข้าบ้าน ณรินทร์กำลังตั้งโต๊ะอาหาร วันนี้มีกุ้งแม่น้ำตัวโต ปลาเผา แกงส้มชะอมไข่ ส้มตำ อาหารไม่ได้หรูหราอะไรบนโต๊ะ แต่ก็เรียกน้ำลายเมษได้เหมือนกัน “สวัสดีครับคุณแม่ เมษเองครับ จำได้ไหมที่เคยมางานแต่งณรินทร์” เมษรับแนะนำตัว “จ้า มาทานข้าวกัน รินทร์ไปซื้อกุ้งตัวโตมา กะว่าจะเลี้ยงพ่อปริม” “เนื่องในโอกาสอะไรน้า” ชายหนุ่มทำหน้ากรุ่มกริ่ม “อยากกินกุ้ง” ณรินทร์ตอบยิ้มๆ เมษแอบมองคนทั้งคู่อย่างห่างๆ ดูปฏิกิริยาของปริมที่มีต่อณรินทร์มันช่างต่างกับตอนงานแต่งนัก แต่เขาก็หันไปสนใจอาหารตรงหน้าแทน ปริมดูเอาอกเอาใจณรินทร์ พูดคุยกัน อย่างอบอุ่น ณรินทร์ก็คุยเรื่องที่เที่ยว วัดทางเหนือที่เธออยากไป ปริมก็เออ ออ ไปด้วย จะจัดตารางพาครอบครัวไป เมษได้แต่แอบคิดอยู่ในใจ ว่าที่เขาทำทีท่าแสดงว่ารังเกียจเธอนักหนา อยากหาเรื่องแกล้งเธอมากมาย มันดูขัดแย้งกันนัก มองเพื่อนมีครอบครัวอบอุ่นแล้วเมษก็พลอยยินดีไปด้วย ทั้งสองคุยเข้าขาดี ปริมไม่ได้เก๊กท่า วางท่า เหมือนเวลาอยู่กับสาวๆ หรืออยู่ที่ออฟฟิต ดูเขาสบายๆ พูดจากุ๊กกิ๊ก หัวเราะอารมณ์ดีตลอด เวลาณรินทร์พูดอะไรเขาก็คอยตามเธอชี้นกเป็นนกชี้ไม้เป็นไม้ ส่วนณรินทร์ไม่ได้สะสวยอะไร แต่เธอก็พูดจาดี มีเมตตา คอยตักกับข้าวให้แม่และปริมตลอด เอาใจใส่จนเมษอิจฉาอยู่ในใจ จากเดิมหนุ่มเพย์บอยที่ไม่อยากมีครอบครัว มาเจอภาพบาดตาบาดใจตรงหน้า แล้วมันรู้สึกเจ็บปวดหัวใจลึกๆ “คราวหน้าขอผมมาทานข้าวด้วยอีกนะครับ” เมษขออนุญาติ แม่กับรินทร์ “ถ้าว่างก็มาสิคะ” “แน่ใจเหรอว่านายว่าง” ปริมรีบแหย่ “อาหารอร่อยแบบนี้ ไม่มาก็บุญไม่มีแล้ว” “ตลกบริโภคจริงๆ นายน่ะ” เมษมองไปรอบบ้านที่ถูกตกแต่งแบบง่ายๆ มีของประดับไม่มากมาย แต่เป็นของเก่าโบร่ำโบราณ รูปครอบครัวจากอดีตถึงปัจจุบัน เห็นรูปปู่ทวดน่าเกรงขามนัก พาลนึกไปว่ากำลังยิ้มฟันขาวให้เขาอยู่ “บ้านเรือนไทยสวยมากนะครับ สภาพก็ยังดี บ้านเก่าๆ แบบนี้ สมัยนี้หายากมากเลยนะครับ” “ค่ะ รินทร์พยายามรักษาไว้ มันเป็นมรดกขอบปู่ย่า ตายาย” “บ้านเก่าแบบนี้ตีเป็นมูลค่าไม่ได้เลยนะครับ” “มันตีราคาไม่ได้อยู่แล้วค่ะ มันคือบ้าน บ้านที่มีทั้งความหลัง ความรัก ความอบอุ่น บ้านที่ มีปู่ย่า ตายาย พ่อ แม่ ลูก อยู่ด้วยกัน” เธอบอกเขา รอยยิ้มที่จริงใจ คำพูดที่อบอุ่น เธอจะเป็นยักษ์เป็นมารตรงไหนกัน หรือร่างแปลงของพันธุรัตน์ ชายหนุ่มได้แต่สงสัย แต่พอเห็นรอยยิ้มของเพื่อนแล้ว ไม่ได้น่าห่วงอะไร กลับเป็นเมษเองที่เริ่มคิดถึงตัวเอง พอทานข้าวเสร็จ ณรินทร์ยกเค้กที่ซ่อนไว้มาแฮปปี้เบิร์ดเดย์ ปริม ทำเอาชายหนุ่มยิ้มอย่างดีอกดีใจ “รู้ได้ไง ว่าวันเกิดผม” “ฉันก็แอบดูบัตรประชาชนไง” “อันนั้นบัตรปลอมนะคุณ” ปริมหลอกอย่างทะเล้น “งั้นก็งดเค้กไปละกัน” ณรินทร์ทำท่าจะยกกลับ “อ่ะ อ่ะ ยกมาแล้วก็เอามากิน นะนะ” ปริมรีบกางมือขวางไว้ ใบหน้าเปี่ยมสุขของเขา เมษไม่เคยได้เห็นบ่อยนัก หรือนี่จะเป็น เกลียดอะไรได้อย่างนั้น ทีแรกเกลียดเขาหนักหนา แต่ดูตอนนี้สิ เขาพูดอะไร ก็ยอมไปเสียทุกอย่าง ปริมออกมาส่งเมษกลับบ้าน “ขอบใจนะที่ชวนมากินข้าว เห็นแบบนี้แล้วคงไม่ต้องตามสืบเรื่องพี่แทนคุณแล้วล่ะมั้ง” เขาตบไหล่เพื่อน เขามองดูบ้านเรือนไทยตอนในยามมืดใต้แสงจันทร์ภายนอกดูน่ากลัวน่าเกรงขาม แต่ภายในอบอุ่นอบอวลไปด้วยรัก “นายก็จับตาดูเขาต่อไปเถอะ นายไม่สบายใจที่เขามาแข่งประมูลไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวผมจะให้คุณ ไตรภพไปงานประมูลด้วย หากมีอะไรน่าสนใจ ผมก็อาจจะแวะไปทักทาย” “นายอย่าไปเลย ไปทีไร ชอบประมูลหนักเกินหน้าเกินตา” “แล้วจะมาใหม่นะ” “ไม่ต้องหรอกเปลืองข้าว” เขาไม่เคยได้เห็นปริมแบบนี้เลย ดูอบอุ่นน่ารัก ไม่ได้เคร่งขรึม มาดเท่ห์ เจ้าระเบียบ กลายเป็นพ่อบ้านช่วยเหลือภรรยาเก็บจานเก็บโต๊ะ จากคุณหนูไฮโซ พออยู่กับชาวบ้านร้านถิ่นของเขา เขาก็กลายเป็นชาวบ้านร้านตลาดไปแล้ว “ฉันอิจฉานายอยู่นะ” เมษกระซิบกับเขา จู่ๆ แมวตัวเดิมก็กระโดดร้องเสียงดัง เมษเลยรีบวิ่งขึ้นรถอย่างกลัวๆ พอขับรถพ้นประตูรั้วบ้าน เขาเห็นเงาตะคุมๆ ชายร่างสันทัดจากกระจกมองหลังเขามองอย่างสงสัย ปริมนั่งมองณรินทร์หวีผมหน้ากระจกอยู่นาน ผมยาวเลยกลางหลังของเธอปกติจะม้วนกลมเป็นจุกอยู่กลางหัว เพื่อสะดวกกับการก้มๆ เงยๆ เวลาทำสวน เขาลุกมายืนข้างหลังดึงหวีไปหวีให้ “อารมณ์ไหนล่ะเนี่ย” หญิงสาวอดถามไม่ได้ เขาก้มลงจูบที่หัว ทำเอาคนนั่งอยู่ถึงกับหัวใจพองโต ปริมจูบเรื่อยลงมาที่หน้าผาก เปลือกตา แก้ม และ คอ สบตากลมดวงโต ที่ทำท่าตื่นมองเขาอย่างหวาดๆ เขาชอบนักสายตาแบบนี้ มันเหมือนลูกกวางน้อยที่จะถูกราชสีห์ขย้ำเมื่อไหร่ก็ได้ เขาช้อนร่างเล็กขึ้นมาแล้วเดินไปที่เตียง วางลงเบาๆ “ไหนล่ะของขวัญวันเกิด” เขาเอ่ยถามใกล้ๆ “ก็ฉันจัดให้แล้วนิ ทั้งกับข้าว เค้ก หมดตังค์ไปหลายบาทเลยนะ” “แค่นี้เองเหรอ” ชายหนุ่มตัดพ้อ “ก็แล้วจะเอาอะไรล่ะ” เขาชี้มาที่หัวเขา หน้าผากเขา เปลือกตาเขา แก้มเขา และปากเขา หญิงสาวมองตาม ดวงตากลมโตใสซื่อมองอย่างรู้ทันว่าเขาจะหมายถึงอะไร มันช่างเป็นของขวัญที่ไม่ต้องใช้เงินซื้อ แต่หากว่าราคาแพง “เอ่อ...” หญิงสาวหาทางเลี่ยง “จูบผมหน่อยสิ” เขาเอ่ยเสียงหวาน ณรินทร์กลืนน้ำลายลงคออย่างอยากเย็น มองหน้าอีกฝ่ายที่กำลังรอคอยการตอบรับจากเธอ ณรินทร์ลุกนั่งให้สูงกว่าเดิม เพื่อที่จะสามารถจูบชายหนุ่มได้ มือเล็กๆ ค่อยๆ เลื่อนจับหน้าเขาไว้ หัวใจเต้นโครมคราม เธอเลื่อนขึ้นไปประคองหน้าผากไว้ ริมฝีปากนุ่มค่อยๆ ประทับจูบลงหน้าผากเบาๆ ปริมถึงกับยิ้ม เขาไม่เคยถูกณรินทร์จูบก่อนแบบนี้ มันช่างทำให้หัวใจเขาร้อนแรงอย่างบอกไม่ถูก ปากหยักนิ่มๆ เลื่อนลงมาที่เปลือกตาทั้งสองข้างอย่างช้าๆ แก้มเขา จมูกเขา ปากเขา ซอกคอเขา ทำเอาชายหนุ่มกระเจิง กับสัมผัสอันแผ่วเบา หากเร่าร้อน “พอหรือยัง” อีกฝ่ายไม่คิดว่าชายหนุ่มจะคิดไปไกลขนาดไหน เขากอดเอวบางลงนอนที่เตียง “ยัง” “อ้าว แบบนี้เกินงบนะสิ คุณอย่าขี้งกเลย พรุ่งนี้อยากกินอะไรเดี๋ยวจัดให้อีก” หญิงสาวแย้ง อุ้มมือเรียวเลื่อนเข้าไปใต้เสื้อนอนหญิงสาวและเกาะกุมเต้าอูมเล็กบีบเค้นอย่างเบามือ เขามองหน้าที่เริ่มเสี่ยวซ่านของอีกฝ่ายเขารับรู้หัวใจอันเต้นแรง เธอพยายามจับมือเขาไว้ห้าม ปรามความทะเล้นที่ชอบลวนลามร่างกายเธอ “เกินงบไปเท่าไหร่ ตอบมาซิ” “ผมกินคุณแทนได้ไหม” หญิงสาวเริ่มคางแทนคำตอบ เขากำลังบดขยี้เม็ดบัวของเธอ ปริมก้มลงปิดปากหญิงสาวที่เริ่มพูดไม่เป็นคำ ผู้หญิงถึงจะเก่งแค่ไหน เธอก็ยังรอคอยใครสักคนเดินเข้ามาในทุ่งหญ้าอันเว้งว้าง |
unitan
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Link |