Group Blog
All Blog
|
สะดุดรักคุณเมีย บทที่ 9 หน้า 2 สะดุดรักคุณเมีย บทที่ 9 หน้า 2 ปริมนั่งกอดอกฟังเสียงเจ้าหน้าที่เริ่มประกาศงานประมูล เมษกับไตรภพนั่งขนาบข้าง เมษสะกิดให้ปริมดูแทนคุณที่เข้ามาทีหลัง เขายกมือทักทายชายหนุ่ม ปริมไหว้เพื่อให้เกียรติอีกฝ่าย วันนี้มีประมูลหลายงาน พอเริ่มประมูล มีคู่แข่งเยอะพอสมควร แทนคุณก็ประมูลงานได้ 3 งาน ถ้าจะให้มองแบบไม่มีปัญหาก็แค่การประมูลของบริษัทรับเหมาทั่วไป แต่หากมองเพื่อจับพิรุจ ไม่มีบริษัทไหนมาเพื่อประมูลงานหลายๆ งานต่อกันแบบนี้ จนงานสุดท้าย เป็นงานของกรมศิลป์ ปริมนิ่งฟังอย่างใจเย็น เขารอการประมูลผ่านไปช้าๆ โดนไม่ลงประมูล จนราคาเริ่มดีดตัวลงต่ำ เพื่อให้เจ้าของโปรเจคถูกใจในราคาต้นทุน แทนคุณยังวางเงินเป็นที่ 1 โดยมีคู่แข่งเคาะตามไม่กี่คน เมษมองเพื่อนอย่างรู้ใจ พ่อพรานผู้ชำนาญและใจปล้ำ เขาไม่คิดจะแข่งกับค่าประมูลพื้นฐาน เขาจะมาประมูลเฉพาะงานที่เขาสนใจเท่านั้น และหากเขาเคาะเมื่อไหร่ นั่นหมายถึงทุกอย่างต้องยุติลง “20 ล้าน บาท” เสียงเจ้าหน้าที่ประกาศ ซึ่งเป็นบริษัทแทนคุณที่ลงไว้ “20 ล้านบาทครั้งที่ 1” เจ้าหน้าที่ มองไปรอบ เพื่อดูผู้เข้าประมูลหากมีใครสนใจจะเสนอสูง กว่านี้ หลังภายการแย่งประมูลจนมาถึงราคานี้แล้วทุกคนต่างเกี่ยงงอนกันยกบัตร หลังจากนับจนครบเวลา “20 ล้านบาทครั้งที่ 2” ยังไม่มีใครกล้ายกบัตรประมูลขึ้น “20 ล้านบาท ครั้งที่...” ยังไม่ทันที่เจ้าหน้าที่จะเอ่ย ปริมลุกยืนถือบัตรประมูล “17 ล้านบาท” เขาเอ่ยนิ่งๆ แต่หนักแน่น ทำเอาทุกคนอึ้งไป แทนคุณถึงกับพูดไม่ออก หันไปหาพรรคพวกที่ยืนหลบด้านหลังแท่น เมษยิ้ม นี่แหล่ะเพื่อนเขา ตกเบ็ดด้วยเหยื่อชิ้นโตเสมอ จะให้บิททีละ 1 หมื่นหรือ 1 แสน มันไม่ใช่ ปรัศนัยโดยเด็ดขาด เจ้าหน้าที่อ้ำอึ้ง แล้วรีบประกาศ “17 ล้านบาทครั้งที่ 1” “17 ล้านบาทครั้งที่ 2” “17 ล้านบาทครั้งที่ 3” “ผู้ชนะการประมูลคือ บริษัทวิริยะทรัพย์อินสตรักชั่น” ปริมลุกยืน กระชับเสื้อสูทราคาแพงแล้วพยักหน้าอย่างผู้มีชัยให้เพื่อนรับรู้ว่าใครกันแน่ที่อยู่เหนือกว่า เมษลุกตาม ส่วนไตรภพไปดำเนินการต่อหลังประมูล “ไม่เสียแรงที่พามาด้วย ฉันคิดว่านายไม่สนใจงานประมูลเล็กๆ ซะอีก แล้วบิทสะต่ำขนาดนี้เดี๋ยวก็เข้าเนื้อหรอก” “งานการกุศลจะเอาอะไรมาก เดี๋ยวก็ทำเสนอราคายื่นกันใหม่” เขาเอ่ย พอดีแทนคุณเดินเข้ามาหาชายหนุ่ม เมษเลยทำเป็นเดินเลี่ยงหนีไปเหมือนไม่รู้จักกัน “ไม่ยักรู้ว่านายชอบมางานแบบนี้ด้วย” “ก็มาดูเล่นๆครับ มีแต่งานเล็กๆ เห็นเป็นงานการกุศลเลยสนใจ ไม่คิดว่าพี่แทนจะสนใจงานแบบนี้เหมือนกัน ” เขาพูดวางฟอร์มใส่อีกฝ่าย “ก็มาลองดูครับ บริษัท ยังต้องการชั่วโมงบินที่สูงกว่านี้” “งั้นก็โชคดีนะครับ คงต้องใช้ปีกที่ดีหน่อย ไม่งั้นบินได้ไม่สูง ของตัวก่อนครับ” แทนคุณมองตามกำมือแน่น ........................................................................ ปริมเล่าเรื่องที่เขาไปประมูลงานซ่อมโบราณสถานให้ณรินทร์ฟัง “คุณก็เป็นคนดีเหมือนกันนะเนี่ย” เธอเอ่ยชมพลางจับแก้มเขาเล่น เขาชอบเวลาที่ณรินทร์แสดงความเอ็นดูกับเขาแบบนี้ “งานซ่อมโบราณสถานเป็นงานที่ยาก ต้องใช้ช่างเฉพาะทาง และใช้เวลานานพอสมควร” “แต่ก็เป็นงานที่ดี ช่วยชาติทางหนึ่งนะคะ เราได้เก็บรักษามรดกของแผ่นดินไว้ให้ลูกหลาน คุณรู้ไหม ในแต่ละปีที่ฉันไปวัน วัดพระศรีสรรเพชญ์ วัดชัยวัฒนาราม วัดมหาธาตุ และวัดเก่าแก่อื่นๆ ต่างก็ทรุดไปจากเดิมมาก ถ้าหากรัฐบาลไม่สนใจแล้วล่ะก็ คงพังลงมา เมื่อถึงเวลานั้น ประวัติบ้านเมืองเราที่น่าหวงแหนคงไม่ได้สืบทอดไปถึงลูกหลานเราอีก แล้วแต่ละปีจะมีการซ่อมแซมโบราณสถานเหล่านั้น แม้ว่ามันจะพยายามทำให้เหมือนเดิมมากที่สุด แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะทำได้เก่าเหมือนเดิม” “ใช่ ต้องใช้ช่างของกรมศิลป์ ผมก็ไม่ได้ถนัดพวกซ่อมแซมแบบนี้ด้วย อาจจะให้เพื่อนที่ เรียนด้านนี้มาช่วยดู” “คุณทำได้ขนาดนี้ ฉันก็ปลื้มใจมากแล้วล่ะ” ณรินทร์ยิ้ม กอดแขนเขาไว้แล้วซบคางลงไหล่ เขาชอบเวลาที่ณรินทร์คลอเคลียเขาแบบนี้ เวลาอยู่ลำพัง เธอและเขามีความแตกต่าง แต่ความแตกต่างที่ลงตัวทั้งเขาและเธอสร้างและต่อเติมให้กันอย่างไม่รู้ตัวมาก่อนว่าเมื่อก่อนนั้นเคยรังเกียจกันขนาดไหน ปริมโอบณรินทร์ไว้ “ผมก็ว่าอย่างนั้น ที่จริงแล้วผมก็ไม่เคยสนใจเรื่องโบราณสถานเท่าไหร่ แต่ตั้งแต่มาอยู่ที่บ้านหลังนี้ บ้านเรือนไทยเก่าๆ ที่มีเรื่องราว มีความหลัง มีความรัก มีความอบอุ่น มีบรรพบุรุษ มี พ่อ แม่ ลูก หลาน” หญิงสาวหลับตาฟังปริมพูด “เราจะมีลูกสัก 3-4 คน มีเด็กๆ วิ่งยั๊วเยี๊ยะ เต็มบ้าน บ้านก็คงไม่เหงา” “เพี๊ยะ” เสียงณรินทร์ตีต้นแขน “คิดไปไกลถึงไหนเนี่ย จะมีอะไรตั้งหลายคน” “ผมยังหนุ่มนะ สามารถมีลูกได้ 3-4 คนสบาย วันนี้ก็ซ้อมมีสักคนก็ได้” ณรินทร์หน้าตื่นมองหน้าสามีที่ดึงเธอลงไปนอนบนตัก เขาใช้นิ้วลากที่แก้มเธอเบาๆ “คนแรกขอลูกสาวก็แล้วกันนะ โตขึ้นจะได้ช่วยแม่เลี้ยงน้อง” “คนบ้า” เธอต่อว่าเขาหน้าแดง .......................................................................................... ปริมนัดลูกค้าไว้ที่ร้านของช่อลดาตามความเพียรของหญิงสาวที่พยายามโทรจีบเขาแวะให้มาหา เธออยากอวดให้เขาเห็นว่าเธอเองก็มีธุระกิจเป็นของตัวเอง ไม่ใช่ผู้หญิงสวยงามแค่ประดับผู้ชายอย่างเดียว ก่อนที่ลูกค้าปริมจะมา ช่อลดาไปนั่งคุยกับปริม เธอพยายามส่งสายตาหวานๆ จับมือเขา ส่งยิ้มให้เหมือนคนรัก เพื่อที่จะให้เพื่อนที่แอบอยู่ถ่ายรูป แล้วนำไปลงโซลเชียล ช่อลดาเดินมาหาเพื่อนยิ้มอย่างพยองที่สามารถสร้างข่าวให้กับปริมได้ ขณะเดียวกันนั้น ภาพของปริมที่นั่งกับหญิงสาวแสนสวยก็แพร่สะบัดไปในโซเซียลอย่างรวดเร็ว “ไฮโซหนุ่มหล่อ หน้าตี๋ นักธุระกิจก่อสร้างพันล้าน กับไฮโซสาวเปรี้ยว เดทกลางร้านอาหารสุดหรู” ฝ้ายอ่านข่าวจากมือถือ แล้วหัวเสีย “อะไรเนี่ย เจ้านาย แอบไปเดทกับผู้หญิงคนนั้นจริงๆด้วย” เธอเงยหน้าบ่น แล้วก้มลงอ่านต่อ “สาวนักเรียนนอกหากทุกคนจำได้ เพิ่งกลับมาไม่นาน พร้อมกับเปิดตัวธุระกิจร้านอาหารสไสต์หรู แอบเดทหนุ่มหล่อทายาทธุระกิจพันล้าน คงมีข่าวดีอีกไม่นาน” “อะไรเนี่ยข่าวมั่วซั่ว ฉันคนนี้นี่ ที่จะมีข่าวดีกับเจ้านาย” ฝ้ายบ่น เอกราชส่ายหัว เธอหงุดหงินดมาหลายวันกับรูปบนตู้เอกสารของเจ้านายในห้อง เอกมองฝ้ายที่เปิดแฟ้มงานอย่างอารมณ์เสีย “ผู้หญิงที่อยู่บนตู้เอกสารเจ้านายคือใครคะพี่เอก?” “ว่างไหม?” เอกถามกลับอย่างรำคาญ “ทำไม?...ฉันตั้งใจทำงานนะ ถามเรื่องเจ้านายก็เป็นเรื่องงานเหมือนกันนะ คิวงานฉันก็ส่งให้นายทุกวัน” นางรีบรายงานหน้าที่ของตัวเธอกลัวเขาต่อว่าที่เธอชอบใช้เวลาพร่ำเพ้อถึงเจ้านาย “เหรอ เย็นนี้ไปทานข้าวกับพี่ดีกว่า” เขาเอ่ยชวน เพราะทนฟังเสียงฝ้ายพร่ำเพ้อถึงเจ้านายหนุ่มทุกวันไม่ไหว “ทำไมชวนไปกินข้าว คิดจะเดทกับฝ้ายหรือไง?” “มีผู้ชายเป็นของตัวเองบ้าง จะได้เลิกพร่ำเพ้อถึงเจ้านาย” “เชอะฉันไม่ใฝ่ต่ำหรอกย่ะ” “ก็ตามใจ” เอกเอ่ยอย่างไม่สนใจ “ร้านไหน?” แต่น้ำเสียงอีกฝ่ายกับตื่นเต้นกลัวพลาดโอกาส “เฮอะ...ก็แล้วแต่สิ” เอกมองอย่างขันๆ |
unitan
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() Link |