มกราคม 2562

 
 
1
4
6
13
17
20
22
27
30
31
 
 
All Blog
สะดุดรักคุณเมีย บทที่ 2 หน้าที่ 1


สะดุดรักคุณเมีย

บทที่ 2

หลังงานแต่ง ณรินทร์ต้องเก็บข้าวของที่จัดงานให้เข้าที่และคืนของบางส่วนที่ไปยืมวัดมาส่วนปริม 

เขาต้องอยู่ที่บ้านเรือนไทยต่อ 3 วันตามประเพณี


พอครบ 3 คืนแล้วเขาก็กลับไปทำงานต่อ พอถึงวันศุกร์แม่พลอยต้องโทรมาจิกเขาให้ไปเอาของไปให้แม่ทิพย์ 

ซึ่งก็เป็นแผนการของแม่พลอยเองที่จะบังคับให้เขาไปหาณรินทร์


อาทิตย์ต่อมา แม่ทิพย์ ให้ณรินทร์เอาของมาไหว้ พ่อพลอยกับพ่อปราบตามธรรมเนียม 


เธอขอให้แม่มาด้วย เพราะเป็นห่วงนางที่ต้องอยู่คนเดียวที่บ้านแต่แม่ก็บอกให้เธอไปเองคนเดียว


ณรินทร์มาที่บ้านแม่สามีเห็นความใหญ่โตของบ้านแล้วก็นึกหวาดหวั่นด้วยเธอเป็นเพียงชาวบ้านตาดำๆ ที่มีฐานะปานกลาง 

บ้านก็แสนเก่าอายุ 200 ปีต้องมาเหยียบบ้านสามีสุดหรูหรา


วันนั้น ปริมไม่ได้ไปทำงานเพราะเขารู้ว่าหญิงสาวจะมาแต่มันก็คือวันศุกร์ที่เขาวางแผนหนีแม่ไปไหนไกลๆเพราะไม่อยากไปหาณรินทร์ที่อยุธยา


หญิงสาวเอาผักสลัดที่เธอปลูก กับกล้วยจากสวนรวมทั้งขนุนสุกมาฝากแม่สามี นางต้อนรับขับสู้อย่างดี และยินดีกับการมาของหญิงสาว 

ไม่ได้มีท่าทีรังเกียจแต่อย่างใด แม้เธอจะเอาของฝากแบบชาวบ้านมาจากสวนดูไม่เหมาะกับบ้านหลังหรูหราก็ตามที 

อาหารกลางวันนางลงมือทำเองเพื่อต้อนรับลูกสะไภ้ ณรินทร์ช่วยเธอทำอาหารในครัว


“แม่ไม่เคยมีลูกสาว ก็รู้สึกแปลกๆนะเนี่ย มีคนช่วยเข้าครัว”


“ลูกชายบางคนก็ชอบทำกับข้าวนะคะ” ณรินทร์เอ่ยยิ้มๆเพราะพี่ชายทั้งสองของเธอทำกับข้าวเก่งทั้งคู่


“แต่ไม่ใช่ลูกชายบ้านนี้หรอกจ๊ะ ฮิฮิ” แม่หัวเราะอารมณ์ดี


“เดี๋ยวหนูทำสลัดโรลให้ทานนะคะ” เธออาสาทำอาหารเพิ่มจากผักที่เธอเอามา


“เอาสิ แม่เองก็อยากกินเมนูผักอยู่เหมือนกัน แก่แล้ว ระบบย่อยไม่ดี”


“คุณแม่ยังสาวและแข็งแรงอยู่นะคะ”


 โหนึกว่าหล่อนจะปากหนักอย่างเดียว ทำเอาแม่สามียิ้มไม่หุบกับคำชมของอีกฝ่าย


อาหารเที่ยงปริมร่วมโต๊ะกับพ่อแม่ เขากินสลัดโรลแล้วติดใจ


“แม่ไม่เคยทำสลัดแบบนี้เลยนะครับ”


“จ๊ะ กินเยอะๆ นะลูก นี่ฝีมือหนูรินทร์”


พอแม่เอ่ยทำเอาชายหนุ่มแทบจะพ่นออกมา


ณรินทร์มองเขาแทบจะกินเลือดกินเนื้อ


แม่จัดแจงให้ปริมไปส่งณรินทร์ แต่ณรินทร์ขับรถมาเอง เธอขอกลับเอง


”ไม่ได้หรอกลูกวันนี้ก็วันศุกร์แล้ว ให้ปริมเขาไปส่งเถอะเพราะเขาค้างที่โน้น วันจันทร์ค่อยกลับมา” แม่จัดแจงทุกอย่าง


“แม่ครับผมมีประชุมต่อตอนบ่ายนะครับ”


“ก็ไม่เป็นไรนิ ก็เอาหนูรินทร์ไปด้วย แล้วตอนเย็นก็กลับด้วยกัน”


“มันยุ่งไปไหมคะคุณแม่ รินทร์ว่า รินทร์กลับก่อนดีกว่าเดี๋ยวมืดรถติด”


“ใช่แล้วแม่ ให้แม่ทิพย์อยู่คนเดียว ไม่ดีนะครับ”ชายหนุ่มรีบชี้แจงช่องทางที่พอเป็นไปได้


“งั้นสองคนก็ไปเลยล่ะกันนี่ก็บ่ายแล้ว เดี๋ยวพ่อจะไปประชุมแทน”ผู้เป็นพ่อออกตัว


ปริมมองตาปริบๆ ที่ทั้งพ่อกับแม่สมรู้ร่วมคิดผลักไสเขาให้ไปอยู่อยุธยา


ชายหนุ่มอ้อยอิ่งไปจัดกระเป๋าหน้าละห้อยขึ้นรถไปกับหญิงสาว


“นี่คุณขับรถประสาอะไร” เขาบ่นตลอดทาง พลางนึกคิดผู้หญิงชอบขับรถแบบนี้ทุกคน


“ลงเดินดีไหม” หญิงสาวก็ไม่เคยลดราวาศอก

ปริมจำใจต้องมาหาณรินทร์ทุกวันศุกร์ตามคำบัญชาของแม่พลอย 

แม้จะหาทางหนีทีไล่เขาก็โดนจิกโดนกัดให้มาตลอด 

วันหนึ่งเขาเดินสำรวจบ้านจนไปเจอต้นดอกบีบที่ท้ายสวนริมน้ำ 

ชายหนุ่มพร่ำบ่นถึงโชคชะตาที่ตัวเองไม่ได้ทำบุญมาตลอดเลยต้องตกกระไดพลอยโจนมาแต่งงานกับสาวชาวบ้านแบบณรินทร์ 


ปู่ทวด รำคาญเสียงโอดครวญของชายหนุ่มไม่ไหวเลยแกล้งหลอกจนชายหนุ่มสลบอยู่ใต้ต้นบีบ


ณรินทร์มาตามหาเขาเพราะตอนเย็นไม่เห็นไปวุ่นวายกับเธอในครัว 


พอมาเห็นเป็นลมก็นึกแปลกใจพยายามปลุกเขาเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น 


ครั้นเธอจะลากเข้าบ้านตัวเขาก็ใหญ่กว่าเธอนัก ณรินทร์หาวิธีปลุกเขา 


ด้วยเอาผ้าเย็นๆ มาเช็ดหน้า และนั่งลงเอาหัวเขาหนุนตักแล้วเขย่าปลุก


ปริมอยู่ในห้วงพวังค์ ปู่ทวดพาเขาไป ย้อนไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ 


เขาปรากฏตัวหน้าเรือนไทยหลังนี้ ผู้คนมากมายเดินขวักไขว่ไปมา 


แต่งตัวแบบโบราณผู้ชายสวมโจงกระเบนเสื้อคอกลม 

ผู้หญิงสาวเสื้อคอกระเช้าใส่ผ้าถุงพวกเขากำลังเตรียมงานอะไรกันสักอย่าง 


เขาเห็นชายชราที่คุ้นตาจากรูปกำลังเดินจัดเจงให้หนุ่มสาวจัดวางข้าวของให้ถูกที่ถูกทางตามต้องการ 


ชายหนุ่มอีกคนกำลังยิ้มหน้าบานบอกหนุ่มๆ ที่กำลังยกขันหมากตั้งขบวนให้เรียงแถวกันเรียบร้อยปริมหัวหมุนไปหมดกับเหตุการณ์ที่เห็นตรงหน้า


“ปริม” เสียงชายชราบนเรือนเรียกเขา เขาไม่รู้อะไรเป็นอะไรมารู้ตัวสะดุดเมื่อมีผ้าเย็นๆ มาลูบหน้า


“อ้า” เขาร้องอุทานเมื่อลืมตาตื่นแล้วเห็นหน้ากลมกำลังก้มมองเขาอยู่ 

หญิงสาวผงะอย่างตกใจ ชายหนุ่มลุกนั่งอกสั่น เขามองหน้าหญิงสาวหายใจหอบถี่


“เป็นอะไร โดนผีหลอกหรือไง” เธอถาม ชายหนุ่มไม่ตอบ


“ใครจะไปโดนผีหลอกกลางวันเสกๆ” เขาสวนหล่อนเพราะกลัวเสียฟอร์ม


“แล้วมานอนทำอะไรอยู่ตรงนี้”


“ผม...ผม จำอะไรไม่ได้เลย”


“เออ ไอ้โรคความจำเสื่อมนี่เป็นบ่อยนะ” 

หญิงสาวพูดแล้วลุกขึ้นปริมรีบลุกตาม แต่ก็หน้ามืดเหมือนจะล้ม หญิงสาวต้องหันกลับมาพยุงเขาไว้


“นี่คุณ มีโรคประจำตัวหรือเปล่า อย่างเบาหวาน หรือ ความดัน”


“ผมยังหนุ่มยังแน่น จะเป็นอะไรแบบนั้นได้ยังไง” เขาโต้ 

สุดท้ายหญิงสาวต้องช่วยเขาพยุงเข้าบ้านคืนนั้นเขาขอณรินทร์ให้นอนเป็นเพื่อนเขาเพราะทุกคืนที่เขามาค้างเธอมักไปนอนกับแม่


“แน่ใจนะว่าไม่กลัวผี” หญิงสาวแกล้งแหย่


“เออน่า ผมแค่มีเรื่องอยากถามคุณ” เขาเปลี่ยนท่าทีเพราะสิ่งที่เขาเจอมา มันไม่ใช่เรื่องน่ากลัว


“อืม ก็ได้”


ทั้งสองนอนคนละฟากที่นอนโดยมีหมอนข้างกั้นตรงกลาง


“คุณเกิดที่บ้านหลังนี้เหรอ” เขาเอ่ยถาม


“เปล่าหรอก ฉันเกิดที่ลพบุรี แม่เป็นคนลพบุรี พ่อเป็นคนอยุธยาบ้านหลังนี้ ปู่ยกให้พ่อ เราเลยย้ายมาอยู่ที่นี่ตอนฉันอายุ 10 ขวบ”


“แล้วตอนมาอยู่ที่นี่คุณรู้สึกยังไง”


“ฉันชอบบ้านเรือนไทยนะ ปู่ฉันกับพ่อฉันสมัยก่อนเป็นช่างไม้ต่อบ้านเรือนไทย แต่พอมารุ่นลูก 

พี่ชายฉันสองคนเขาไม่สนใจไปทำงานบริษัท ก็เลยไม่มีใครทำต่อ”


ปริมพยักหน้าทำความเข้าใจประวัติของพ่อตา


“แล้วคุณไม่คิดจะขายเหรอ บ้านก็เก่านะ”


“ขายแล้วฉันจะไปอยู่ที่ไหนล่ะ บ้านที่ลพบุรีก็เป็นของป้าอีกอย่างแม่แก่แล้ว เราไม่มีที่ไปหรอก”


“ก็..” ทีแรกเขากำลังจะบอกว่าไปอยู่บ้านเขาที่กรุงเทพ 

แต่พอนึกได้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ตามข้อตกลง


“พี่ๆ ฉัน เขาก็มีครอบครัวหมดแล้ว เราไปอยู่กับเขาก็ลำบากใจบ้านนี้เป็นมรดกสืบทอดมาชั่วลูกชั่วหลาน 

ฉันคอยฉีดยากันปลวกและยาเคลือบไม้ตลอดเพื่อรักษาบ้านไว้” หล่อนอธิบายต่อ


“คุณกลัวรึ?” หญิงสาวหันมาถามเขา


“เปล่าๆ” เขารีบปฏิเสธ


“แล้วจริงไหมที่บ้านนี้ปู่ทวดคุณยังอยู่ดูแล”


“ฮืม ก็จริงสิ คนแถวนี้ชอบพูดว่าเห็นปู่ทวดกับย่าทวดเดินไปมาตลอด 

ฉันก็เคยเจอนะ ฉันเกิดไม่ทันปู่ทวดหรอกนะ ปู่ทวดมีลูกหลายคน 

พรุ่งนี้ฉันจะพาคุณไปดูรูปเก่าๆ เอาไหม”


“อืม คุณไม่กลัวเหรอ”


“บรรพบุรุษของฉันนะ การที่ฉันได้รับบ้านเก่าแก่ขนาดนี้เป็นมรดก 

มันทำให้ฉันมีความภูมิใจที่บรรพบุรุษท่านส่งทอดมาให้ 

ลูกหลานอย่างฉันถ้าทำลายไม่รู้จักคุณค่า ชีวิตฉันจะมีเรื่องอะไรให้ดีใจไปกว่านี้”


ปริมได้แต่คิดใคร่ครวญ หญิงสาวที่ชอบกัดจิกเขา ภายนอกที่ดูแข็งกร้าว กับปากคออันเลาะร้าย 

แต่เนื้อในเธอกลับมีความรักและหวงแหนสมบัติของบรรพบุรุษ 

นี่คงเป็นสาเหตุที่เธอมิได้ยินดียินร้ายกับการได้สามีสุดฮอตแห่งปี


“อาทิตย์หน้าตรุษจีน เตรียมตัวไปไหว้เจ้าที่บ้านด้วยนะ”ปริมเอ่ยบอกเธอขณะนั่งดื่มชายามบ่ายที่ระเบียง


“ฮืม ต้องใส่ชุดแดงไหม”


ชายหนุ่มเหลือบตามมอง


“ถ้ากล้าก็ใส่สิ” ปากก็พูดเหน็บหญิงสาวไปแต่ในใจก็คิดแผนการกลั่นแกล้งเธอ


ก่อนวันไหว้ 1 คืน ชายหนุ่มมาค้างที่บ้านหญิงสาว 

เพื่อพาเธอไปไหว้เจ้าแต่เช้าเขาส่งชุดกี่พ้อสีแดงเข้ารูปให้เธอหญิงสาวรับไปดูทำหน้าจมูกย่น


“ตกลงให้ใส่จริงๆใช่ไหม”


“ฮืม...” ทำหน้าซื่อบอกหญิงสาว


หญิงสาวจำใจเปลี่ยนชุด


“แล้วทำไมคุณไม่เปลี่ยน”


“เอ่อ เออ เดี๋ยวไปเปลี่ยนที่บ้าน” เธอมองเขาสายตาจิกกัดอย่างหยั่งรู้ว่าเขาแกล้งให้เธอใส่คนเดียวแต่ก็เดินผ่านเข้าไปเปลี่ยนในห้อง


ร่างบางก้าวออกจากห้อง ดวงหน้าใสซื่อไร้เครื่องสำอางค์แต่งแต้มเพียงลิปสีแดงม้วนผมเป็นมวยเข้ากันกับชุด ปริมทำหน้างงงวยไปครู่ใหญ่


“ก็ดูดีนิ”


แม่ทิพย์ได้แต่แอ็นดูกับคนทั้งคู่



Create Date : 07 มกราคม 2562
Last Update : 7 มกราคม 2562 10:05:22 น.
Counter : 726 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

unitan
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]