วันฝนพรำ ที่อัมพวา (ตอนที่ 2)
วันฝนพรำ ที่อัมพวา (ตอนที่ 2) อ่านตอนที่ 1 : คลิ๊กที่นี่ อ่านตอนที่ 3 : คลิ๊กที่นี่ ตอนที่แล้วเราเดินเที่ยวชมบ้านเรือนริมคลองอัมพวาเรื่อยมาจนถึงบ้านครูเอื้อซึ่งอยูติดกับร้าน "อัมพวา ชัยพัฒนาบุรีรักษ์" ครับ ตอนนี้เราจะพาชมอัมพวาต่อ เริ่มที่มูลนิธิชัยพัฒนาฯเลยครับ.. อัมพวา ชัยพัฒนาบุรีรักษ์ อัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ " โครงการอัมพวา ชัยพัฒนานุรักษ์ " เป็นโครงการที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มี พระราชดำริให้สำนักงานมูลนิธิชัยพัฒนานำที่ดินที่คุณประยงค์ นาคะวะรังค์ ชาวอัมพวา ได้น้อมเกล้าฯ ถวายมาดำเนินการพัฒนาให้เกิดประโยชน์แก่ชุมชนอัมพวา และด้วยที่ " ชุมชนอัมพวา " เป็น ชุมชนที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานที่เกี่ยวข้องกับความเป็นชาติไทย ซึ่งอนุชนรุ่นหลังสามารถหวนรำลึกและมองย้อนเห็นภาพอดีตอันรุ่งเรืองถึงความ เป็นชุมชนที่มีวัฒนธรรม และประเพณีที่งดงามที่สะท้อนความเป็นไทยได้อย่างน่าภาคภูมิใจ ดังนั้น การพัฒนาและการจัดการพื้นที่แห่งนี้ จึงต้องดำเนินไปอย่างถูกต้อง เหมาะสม และที่สำคัญคือ ได้รับความร่วมมือพร้อมใจจากชาวอัมพวาทุกคน ภายใน ภายใน ร้านค้าด้านหลัง ถ้าเราเดินออกไปทางด้าหลังร้านชัยพัฒนาฯ ก็จะเจอสถานที่แสดงสินค้าของมูลนิธิ และร้านขายอาหารหลายร้าน ตกแต่งด้วยซุ้มไม้ทาสีธรรมชาติ สวยงาม ประดับสวนด้วยดอกไม้หลากหลายชนิด ถ้าเราไม่อยากทานก๋วยเตี๋ยวริมคลอง ก็มีร้านให้นั่งสบายๆ อยู่บริเวณนี้ แถมโคนต้นไม้เขาจะทำที่นั่งเป็นหินอ่อนไว้รอบๆ เราก็ใช้สถานที่เหล่านั้นนั่งทานอาหารได้ด้วย. บริเวณสวนจัดแสดงสินค้า ร้านชานชาลา เห็นชื่อร้าน "ชานชาลา" ที่อยู่ใกล้ๆกัน สะดุดตามาก เลยถ่ายภาพมาฝาก ที่จริงอยากให้เป็นภาพขาว - ดำ ด้วยซ้ำจะได้เหมือน ชานชาลาสถานีรถไฟสมัยเก่าไง คือแรกๆผมคิดแบบนั้นจริงๆ ว่ามันคือชานชาลาสถานี.... แต่มานึกอีกที นี่เขาน่าจะหมายถึงชานชาลาริมคลองมากกว่า.... ส่วนสินค้าที่ขาย ก็ดูเอาตามเมนูละกันครับ รายการ ทางเดินหน้าร้าน ริมคลองที่ทำทางเดินเป็นคอนกรีตตลอดแนว ก็จะมีการเปิดขายสินค้าให้กับนักท่องเที่ยว เราแวะที่ร้านคุณป้าเพื่อซื้อส้มแก้ว ที่คุณป้าแกบอกว่ามีที่อัมพวาแห่งเดียวเท่านั้น ถ้าล่วงเลยไปถึงหน้าหนาวมากกว่านี้ ผิวส้มจะสวยมาก เนื้อส้มคล้ายๆส้มเขียวหวาน แต่รสจะอมเปรี้ยวนิดๆ ที่ดีกว่าส้มเขียวหวานคือลูกใหญ่กว่านี่แหละ ส้มแก้วอัมพวา แสงสีแห่งอัมพวา ริมคลองอัมพวา ณ วันนี้จะประดับประดาด้วยไฟแสงสีทั่วไปหมด ได้คุยกับน้องผู้หญิงที่ขายของที่ละลึกรูปตัวหิ่งห้อย และเขียนบอกว่าอัมพวา เลยรู้ว่าช่วงลอยกระทงปี้ สมเด็จพระเทพฯ จะเสด็จที่นี่ เขาเลยเชิญชวนให้เรากลับมาเที่ยวที่นี่อีก พอเราบอกว่าเรามาไกกล เธอก็ถามไถ่ถึงการต้อนรับขับสู้ของชาวอัมพวา ว่าเป็นอย่างไร ดีไหม .... เราก็บอกเธอตามความเป็นจริงที่เราได้เห็นมาตั้งแต่เรามาถึงที่นี่ ตลอดจนการบริการที่ดีของคนเรือ ซึ่งเธอก็ขอบคุณ และบอกว่าอยากให้เราปรัปปรุงอะไร ก็แนะนำได้ เพราะเธอคือกรรมการฝั่งคลองด้านนั้น (ด้านเดียวกับ ร้านชานชาลา) ..... เราคุยกันหลายเรื่องเกี่ยวกับอัมพวา จนคนเดินมาดูพวงกุญแจหิ่งห้อยที่ร้านเธอมากเข้า เราเลยต้องลาจาก.. แสงสีแห่งอัมพวา แสงสีแห่งอัมพวา ข้าวเกรียบที่ทำจากผลไม้ ดูน่าทานดี เราเลยอุดหนุนแม่ค้าหน่อย และเธอบอกว่า ข้าวเกรียบผลไม้แท้จากสวนที่อัมพวา ..... ตลาด ตลาดอัมพวา ก็เหมือนที่อื่นๆ มีผู้คนมากมายหาซื้อสิ่งของที่ต้องการ ส่วนตลาดน้ำ ยามเย็นจะขายพวกของกินเสียมากกว่า วันนี้ผู้คนเยอะแยะไปหมด ไม่แน่ใจว่าวันธรรมดาจะมีคนมาจับจ่ายมากมายขนาดนี้ไหมหนอ? แต่วันนี้ 23 ตค. 51 เนืองแน่นจริงๆ คุณยาย กับเรือขายหมึก และกุ้งย่าง เห็นหมึกที่คุณยายย่าง และกุ้งที่อยู่ข้างๆ ทำให้เกิดอาการหิวอีกแล้ว เลยขอซื้อยายกลับที่พัก คุณยายใส่กล่องโฟมให้เราเอากลับไปทานที่รีสอร์ท..... อันที่จริงเราควรจะรณรงค์ เลิกใช้กล่องโฟมกัน โดยหาภาชนะอื่นมาใช้แทน อย่างที่ทำงานก็ให้ซื้อปินโตสแตนเลส เพื่อใส่อาหารแทนกล่องโฟม และถุงพลาสติก อย่างน้อยๆก็ช่วยลดโลกร้อนได้บ้างล่ะ แสงสีแห่งอัมพวา แสงสีแห่งอัมพวา แสงสีแห่งอัมพวา ตลาด แสงสีแห่งอัมพวา ตลาด ตลาด สินค้าจากอัมพวา เห็นรองเท้าแตะของอัมพวาบนแผง สวย เก๋ ดี เลยเก็บภาพมาฝาก ดูสีสรรแล้ว สวย และน่ารักดีครับ สินค้าจากอัมพวา ริมคลองอัมพวา ริมคลองอัมพวา 2 ริมคลองอัมพวา 3ล่องเรือชมหิ่งห้อย ต้องขออภัยท่านผู้อ่านเป็นอย่างมาก เนื่องจากเราใช้เรือหางยาวไปล่องดู เลยไม่สามารถเข้าใกล้ต้นลำพูได้มากนัก พ้นระยะแฟลชไปแล้ว เลยรวบรวมเรื่องของหิ่งห้อยจาก แม่กลองด๊อดคอมมาให้อ่านพอเป็นสังเขบดังนี้ครับ...ลิ่กษณะทั่วไปของหิ่งห้อย หิ่งห้อย (Firefly , Lightening bug) แมลงแสง แมลงคาเรือง หรือ แมลงทิ้งถ่วง ทั่วโลกมีหิ่งห้อยประมาณ 2,000 ชนิด หิ่งห้อยตัวเต็มวัยเพศผู้มีปีก ส่วนเพศเมียมีทั้งปีกและไม่มีปีก บางชนิดมีปีกสั้นมาก (Brachypterous) ชนิดที่ไม่มีปีก มีรูปร่างลักษณะคล้ายตัวหนอน หนอนของหิ่งห้อยเป็นตัวห้ำกินหอยฝาเดียว ไส้เดือน กิ้งกือ และแมลงตัวเล็กๆเป็นอาหาร หิ่งห้อยมีลักษณะเด่น คือสามารถทำแสงได้ทั้งระยะหนอน ดักแด้ ตัวเต็มวัย ส่วนระยะไข่ทำแสงได้เฉพาะบางชนิดเท่านั้น การทำแสงของหิ่งห้อย หิ่งห้อยมีอวัยะทำแสงอยู่บริเวณส่วนท้องด้านล่าง เพศผู้มีอวัยวะทำแสง 2 ปล้อง เพศเมียมี 1 ปล้อง แต่บางชนิดตัวเต็มวัยเพศเมียมีรูปร่างลักษณะคล้ายหนอนมีอวัยวะทำแสงด้านข้างของลำตัวเกือบทุกปล้อง แสงของหิ่งห้อย เกิดจากปฏิกริยาของสาร Leciferin เป็นตัวเร่งปฏิกริยาและมีสาร Adenosine Triphosphate (ATP) เป็นตัวให้พลังงาน ทำให้เกิดแสง หิ่งห้อยทำแสงเพื่อการผสมพันธุ์และสื่อสารซึ่งกันและกัน ความถี่การกะพริบแสงของหิ่งห้อยแตกต่างกันตามชนิดของหิ่งห้อยแหล่งอาศัยของหิ่งห้อย หิ่งห้อยมีแหล่งอาศัยแตกต่างกัน บางชนิดอาศัยอยู่บริเวณแหล่งน้ำจืด แต่บางชนิดอาศัยอยู่บริเวณน้ำกร่อย หรือป่าชายเลน และมีอีกหลายชนิดอาศัยอยู่บริเวณสวนป่าที่มีสภาพแวดล้อมอุดมสมบูรณ์ซึ่งไม่เคยถูกทำลายมาก่อน ต้นลำพูวงจรชีวิตของหิ่งห้อย หิ่งห้อยมีการเจริญเติบโตแบบสมบูรณ์ (Complete metamorphosis) คือมีระยะไข่ , ระยะหนอน , ระยะดักแด้ , ตัวเต็มวัย โดยเพศเมียจะวางไข่เป็นกลุ่มใต้ใบพืชน้ำ เช่น ใบจอกหรือวางไข่เป็นฟองเดี่ยวๆ ตามพื้นดินที่ชุ่มชื้น แล้วแต่ชนิดของหิ่งห้อย ไข่เมื่อฟักออกเป็นตัวหนอนมีการลอกคราบ 4-5 ครั้ง จึ่งเข้าดักแด้ แล้วออกเป็นตัวเต็มวัยประโยชน์ของหิ่งห้อย 1. การกะพริบแสงระยิบระยับของหิ่งห้อยจำนวนมาก ทำให้พื้นที่บริเวณนั้นเกิดความสวยงามตามธรรมชาติในยามค่ำคืน สามารถจัดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ได้ เช่น การลงเรือชมหิ่งห้อยที่ จังหวัดสมุทรสงคราม เพชรบุรี และ ตราด 2. หิ่งห้อยเป็นดัชนีชี้วัดความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ และสภาพแวดล้อม 3. ระยะหนอนของหิ่งห้อย เป็นตัวทำลายหอย ซึ่งเป็นสัตว์อาศัยตัวกลางของพยาธิที่เป็นสาเหตุของโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ และพยาธิใบไม้ในสำไส้คน 4. นักวิทยาศาสตร์ กำลังสนใจศึกษาค้นคว้า สารลูซิเฟอริน ในหิ่งห้อยซึ่งเชื่อว่าสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในด้านการแพทย์และ ด้านพันธุวิศวกรรม (ขอบคุณ Maeklong.com ) .........คืนนี้แม้จะมีเสียงฟ้าเปรี้ยงๆ แต่ก็ต้องกัดฟันล่องเรือชมหิ่งห้อยด้วยความระทึก ที่ว่าระทึกก็คือ กลัวก็กลัว แต่เมื่อเห็นเจ้าตัวหิ่งห้อยเปล่งแสงระยิยระยับ เหมือนใครเอาไฟกระพิบไปติดไว้ตามต้นลำพู ความกลัวก็หายไปชั่วขณะ เมื่อเรือออกจากคลองอัมพวา เรียบไปตามฝั่งแม่กลองก็ยิ่งกลัวหนักเข้าไปอีก ความเวิ้งว้างของแม่น้ำแม่กลองที่กว้างใหญ่ ทำให้อดคิดไม่ได้ถึงอันตราย แต่เรือโดยสารทุกลำที่อัมพวา เขามีเสื้อชูชีพให้ จึงทำให้ความกลัวทุเลาลงได้บ้าง เหลือแต่ความตื่นเต้น ประทับใจ เมื่อได้เห็นธรรมชาติที่ประหลาด สร้างสีสรรให้มนุษย์ได้ยล นี่ถ้ามวลมนุษย์ไม่เห็นแก่ได้มากเกินไป และคงความเป็นธรรมชาติไว้ให้พวกเขา เราก็จะได้เห็นสิ่งสวยงามเหล่านั้นมากมาย ที่นอกเหนือไปจากหิ่งห้อย ที่ได้รับการอนุรักษ์ในวันนี้ ความเป็นธรรมชาติของชุมชนอัมพวายังมีอะไรหลายๆอย่างที่กำลังได้รับการ ฟื้นฟู ปรับปรุง เพื่อการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่สมบูรณ์แบบในอนาคต ไม่เว้นแม้แต่เจ้าตัวเงิน ตัวทอง ก็ยังได้รับการอนุรักษ์ไว้เพื่อการศึกษาในภายภาคหน้าเช่นกัน..... ขอเพียงแต่เราปฏิบัติดีกับธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ธรรมชาติก็จะคืนอะไรมากมายให้เราเหลือคณานับ....คนขับเรือบอกเราว่าเวลาที่จะดูหิ่งห้อยดีที่สุด คือช่วงปลายฝนต้นหนาว เพราะจะมีหิ่งห้อยมากที่สุดในช่วงนี้. เกือบสามทุ่มครึ่งแล้ว เรือหางยาวพาเรากลับไปส่งที่พัก "บ้านร่มไผ่ ชายน้ำ" ริมคลองบางโพงพางล่างด้วยความปลอดภัย แต่เรายังใช้เวลานั่งดื่มด่ำธรรมชาติริมคลองต่อไปอีกชั่วโมงเศษๆ จนได้ไอเย็นจากอากาศปลายฝนต้นหนาว เราจึงกลับเข้านอน และหลับสนิทเพราะความเมื่อยล้าตลอดทั้งวัน.....ขอจบตอนนี้ด้วยภาพนี้นะครับ________จบตอนที่ 2 ________
Create Date : 28 ตุลาคม 2551
Last Update : 9 ตุลาคม 2554 7:57:37 น.
14 comments
Counter : 6111 Pageviews.
โดย: พนมรุ้ง12 วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:16:33:42 น.
โดย: wicsir วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:17:14:57 น.
โดย: chalawanman วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:19:53:30 น.
โดย: wicsir วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:21:56:16 น.
โดย: บี่บี๋ IP: 124.121.32.236 วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:22:01:03 น.
โดย: wicsir วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:22:22:46 น.
โดย: แนะนำ IP: 58.137.170.25 วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:0:24:53 น.
โดย: wicsir วันที่: 29 ตุลาคม 2551 เวลา:8:27:36 น.
โดย: Pleja IP: 61.19.124.162 วันที่: 8 พฤศจิกายน 2551 เวลา:13:31:25 น.
โดย: wicsir วันที่: 10 พฤศจิกายน 2551 เวลา:8:31:18 น.
โดย: สมใจ IP: 203.144.187.19 วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:13:55:07 น.
โดย: Mulberry Outlet UK Sale IP: 94.23.252.21 วันที่: 4 สิงหาคม 2557 เวลา:6:16:54 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 75 คน [? ]
...... ชอบเดินทาง ชอบท่องเที่ยว และชอบถ่ายภาพ แม้ฝีมือจะไม่ให้ แต่ใจก็รัก เพราะได้ทำแล้วมีความสุข แถมยังมี bloggang ได้ให้โอกาสนำสิ่งเหล่านั้นมาแสดงด้วย ยิ่งทำให้หัวใจพองโต .......อยากจะบอกว่า @ ดีใจที่ได้แบ่งปันความสุขเล็กๆน้อยๆ กับเพื่อนๆในบล็อกแก๊ง ตลอดจนคุณๆที่ผ่านเข้ามาอ่าน.... แม้ภาพถ่ายจะไม่สวยนัก แต่กว่าจะได้มาก็แสนยากลำบาก จึงขอสงวนสิทธิไว้เป็นการส่วนตัว @ ภาพทั้งหมดเป็นลิขสิทธิ์ของเจ้าของบล๊อก ถ้ามีความประสงค์จะใช้ภาพเพื่อการใด กรุณาติดต่อเจ้าของบล็อกด้วย เพราะจะได้พิจารณาเป็นเรื่องๆไปครับ. @ ขอบคุณเพื่อนๆสมาชิกที่คอยให้กำลังใจกันเสมอมา และขอบคุณทุกท่านที่ผ่านเข้ามาอ่าน หวังเป็นอย่างยิ่ง ว่าท่านคงแวะเข้ามาอีก... ด้วยจริงใจ นาย wicsir.
1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31