รีวิวการ์ตูนไทย - Thai Comic Review
Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2563
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
2 ธันวาคม 2563
 
All Blogs
 
(รีวิวการ์ตูนไทยเฉพาะกิจ) คาเฟ่แมวหลง (ปราง ธงไชย (Ancienttear C. Zanael))

 

    อีกหนึ่งโปรเจ็กต์คั่นเวลา จากสปิริตที่ไม่หมดมอดไปได้ง่ายๆ ของ "นักเขียนนอกสำนักพิมพ์" จอมขยัน Ancienttear C. Zanael (ที่ไม่เคยมีใครผู้ใดเคยไปสัมภาษณ์เลยว่า ชื่อนี้ท่านได้แต่ใดมา) -- คาเฟ่แมวหลง เป็นการรวมตอนสั้นๆ 14 ตอนที่เคยลงในเพจ Facebook เกี่ยวกับ "ชีวิตประจำวันในร้านคาเฟ่แมวแห่งโลกวิญญาณ" ที่คละคลุ้งไปด้วยแฟนเซอร์วิสและฉากเลิฟซีน จนทำเอาแฟนหนังสือหลายคนต่างหลงไหลกันมาแล้ว มาไว้ในเล่มเดียวจบ จนออกมารวมกันได้ถึง 182 หน้ากันเลยทีเดียว (โว้วๆๆๆ) ตกลงนี่คือ Spin-Off (เนื้อเรื่องเสริม) จริงๆใช่มั้ย?

   พื้นฐานการ์ตูนส่วนมากของซานาเอลนั้น มักจะเน้นไปใน "ธีมแฟนตาซี" เป็นหลัก -- และด้วยการออกแบบตัวละครที่น่าสนใจ และเต็มไปด้วยรายละเอียดยิบยับมากมายขนาดนี้ มันจึงน่าสนใจเพียงพอ ที่จะสามารถจับตัวละครเหล่านี้ มาทำเป็น "สินค้าที่ระลึก" เจ๋งๆ ออกมาขายแฟนหนังสือแบบเดือนชนเดือนได้ ภายใต้แบรนด์ Sheep's Dream (ซึ่งจะมีสินค้าหลักๆส่วนมากเป็น พวงกุญแจ และ สแตนด์จากการ์ตูน เอ้อ!! ปฏิทินก็มีนะ) -- และด้วยเหตุผลนี้เอง นี่จึงเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ซานาเอล กลายเป็นหนึ่งใน "นักเขียนการ์ตูนนอกสำนักพิมพ์" ที่สามารถประสบความสำเร็จอย่างสูงได้ ด้วยลำแข้งของตัวเอง จากการต่อยอดแฟรนไชส์ออกไปเป็นสินค้ามากมาย ให้แฟนคลับได้เลือกซื้อกลับไป แทนที่จะขายแต่หนังสืออย่างเดียว

 

   และด้วยความที่ซานาเอล มีชื่อเสียงอยู่แล้ว ในแวดวงการ์ตูนของเมืองเชียงใหม่ ก็เลยทำให้เจ้าตัวได้มีโอกาสร่วมงานกับ "ร้านคาเฟ่ท้องถิ่น" ที่ชื่อ Snow Ice Cafe (ซึ่งปัจจุบัน เปลี่ยนชื่อเป็นร้าน Mainichi ไปแล้ว) โดยจัดกิจกรรมขึ้น ภายใต้คอนเซ็ปต์ "คาเฟ่แมวหลง" ขึ้นมาชั่วระยะเวลาหนึ่ง (ตั้งแต่วันที่ 9 กรกฎาคม - 9 สิงหาคม พ.ศ. 2562) -- ซึ่งภายในกิจกรรมนี้ ก็จะมีเมนูสุดพิเศษจากการ์ตูนให้ได้ลองชิม และมีของแถมเป็น "จานรองกระดาษลายตัวละครจากคาเฟ่แมวหลง" สุดเอ็กซ์คลูซีฟ (ที่ไม่ได้แถมมากับหนังสือ) ซึ่งเขาว่ากันว่ามีให้สะสมถึง 16 แบบกันเลยทีเดียวเชียวล่ะ จ๊าก!!! (ใครเคยไปสัมผัสมาแล้วกันบ้าง เข้ามาเล่าประสบการณ์ให้ฟังกันหน่อยเด้!!!)

   จุดเริ่มต้นของการ์ตูนชุดนี้ เริ่มขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ. 2558 โดยมีนักเขียนอิสระคนหนึ่งที่ชื่อ T-Han ได้ตั้งแท็ก "ปราบภยันต์" ขึ้นมา (ภยันต์ แปลว่า ภัย หรือ อันตราย) -- ซึ่งเงื่อนไขของแท็กนี้ก็คือ นักวาดแต่ละคน จะต้องสร้างตัวละครนักล่าปีศาจขึ้นมา เพื่อเข้าร่วมองค์กร และรับภารกิจปราบผีผ่านแอปพลิเคชั่นเพื่อแลกกับค่าจ้าง (อารมณ์จะคล้ายๆกับ การเอาการ์ตูนเรื่องอื่น มาสร้างเป็นเรื่องราวของตัวเอง เพียงแต่อันนี้เราจะสามารถเอาตัวละครของเราไปแจมกับคนอื่นได้ คล้ายๆกับ Comic Fighting ของบอร์ดเว็บไทคอมิค) -- แต่ทว่า ซานาเอลนั้น กลับเลือกที่จะแหวกออกไปจากคนอื่น เพราะกลับเลือกที่จะเป็นฝ่ายผี แทนที่จะเป็นนักล่า แต่ไม่ใช่ฝ่ายศัตรูแต่อย่างใด เพราะพวกเขามาในรูปแบบ "จุดพักแวะของนักล่าปีศาจ" จนออกมาเป็นคอนเซ็ปต์ "คาเฟ่แมวในโลกวิญญาณ" อย่างที่เราได้เห็นกันนั่นเอง

 
 
   คอนเซ็ปต์หลักๆของ "คาเฟ่แมวหลง" เกิดขึ้นจาก การนำ "ความเชื่อผีไทย" เกี่ยวกับ "ผีลักซ่อน" มาผสมกับ "คาเฟ่แมวในโลกวิญญาณ" คือ "แทนที่จะถูกผีพรางตา แล้วทำให้คนที่เดินผ่านไปมองไม่เห็น" แต่อันนี้จะเป็น การเดินตามแมวลึกลับ เข้าตรอกซอกซอย จนหลงเข้าไปในคาเฟ่แห่งโลกวิญญาณแทน -- แม้คอนเซ็ปต์อาจจะฟังดูหลุดโลกไปบ้าง เหมือนกับหนังฉลามกินคนในสมัยนี้ แต่นี่เป็นเพียงวิธีเดียวเท่านั้น ที่เราจะสามารถเข้าไปใช้บริการในร้านคาเฟ่ได้ (ร้านเปิด 5 โมงเย็น ถึง 2 ทุ่มนะเออ)

   ครึ่งแรกของเล่ม จะเป็นเรื่องราวสนุกๆภายในร้านคาเฟ่แมว โดยเฉพาะ "การหยอกล้อเล่นหัว" กับลูกค้าสาวๆ ที่ดูจะหนักไปทาง "แฟนเซอร์วิสสองแง่สองง่าม" เป็นพิเศษ รวมไปถึงรายละเอียดปลีกย่อยภายในร้านคาเฟ่อีกมากมาย ทั้งหน้าที่ในร้านของแต่ละคน วิธีการเข้าร้าน เมนูอาหาร และค่าใช้จ่ายทั่วไปที่ทางร้านต้องรับผิดชอบ  -- ในขณะที่ช่วงครึ่งหลังนั้น ก็จะเข้มข้นไปพร้อมกับความสัมพันธ์ พ่อแง่-แม่งอน ระหว่างตัวละครหลักทั้งสอง นั่นคือเจ้าของร้าน ที่ชอบพูดจาสองแง่สองง่ามกับลูกค้าสาว (ซึ่งในเรื่องจะถูกเรียกว่า "โอนเนอร์" (owner) และมีร่างเดิมเป็นจิ้งจอกเก้าหาง) กับนางเอกขี้หึงที่ไม่ค่อยได้ทำหน้าที่อะไรเป็นพิเศษ นอกจากกวักคนเข้าร้านเท่านั้น (ก็เป็นแมวกวักนี่นะ) 

 
   
   ซานาเอลสร้างความประหลาดใจให้กับแฟนหนังสือ ด้วยการหยิบจับ "ตัวละครเก่าๆ" จากการ์ตูนของตัวเอง ทั้งเรื่อง "ที่ปลายทางแห่งโชคชะตา" และ "สุริยัน จันทา โลกา" มารับบทสมทบเป็นลูกค้าที่แวะเข้ามาในร้าน ที่ไม่ได้โผล่มาเปล่าๆ แค่ให้ได้หายคิดถึงเท่านั้น แต่กลับช่วยเป็นส่วนเสริมของเรื่อง เพื่อแสดงให้เห็นว่า "คาเฟ่แมวหลง" นั้น สามารถรับลูกค้าเข้าร้านได้ทุกยุคทุกสมัย แม้ว่ายุคสมัยนั้นจะเป็น "ยุคราชวงศ์ของจีน" ก็ตาม (ดีนะที่เจ้าของร้านเองก็เป็นคนจีนเหมือนกัน ถึงได้พูดกันรู้เรื่อง)

   แต่ถึงกระนั้น การ์ตูนก็ยังเต็มไปด้วย "โมเมนต์ประทับใจ" มากมาย ทั้งในรูปแบบ "แฟนเซอร์วิสสองแง่สองง่าม" จากโอนเนอร์หนุ่มหล่อ ที่สาวๆเห็นแล้ว จะต้องใจละลายเป็นแน่ -- ก็ถือเป็นอีกหนึ่งพาร์ตที่ทำออกมาได้สนุกจัดจ้าน เพราะซานาเอลเล่นใหญ่แบบสุดทางมาก โดยเฉพาะในช่วงรีแอคชั่นของลูกค้าสาว ที่สติสตางค์หลุดไปไหนต่อไหนแล้ว (เพราะโดนเจ้าของร้านสกินชิป) ซึ่งส่วนนี้แหละ ที่ช่วยปลุกเร้าให้สถานการณ์ในแต่ละตอน ดูน่าตื่นเต้นขึ้น โดยรวมคือดาเมจแรงมาก เผลอๆจะหนักกว่าในรวมเล่ม "ยุทธการเกี่ยวสาว" ของค่าย CTS ซะด้วยซ้ำ บริการลูกค้าได้โหดชิบหาย 


   ส่วนครึ่งหลัง ก็จะเน้นไปที่ "ฉากเลิฟซีน" ของคู่พระนางคู่นี้ ซึ่งจริงๆมีฉากเด็ดให้เขียนเยอะมาก ทั้งฉากกล้องดูดาว และฉากที่ทั้งสองเจอกันครั้งแรก (ก่อนที่จะเปิดร้านคาเฟ่) แต่ที่ชอบมากที่สุด ก็น่าจะเป็นฉากที่คู่รักสองคน (โอนเนอร์กับแมวกวัก) เล่นเพลง "ลาวดวงเดือน" ด้วยกัน ซึ่งก็คิดว่า หลายคนน่าจะเห็นพ้องต้องกันอยู่ไม่น้อย เพราะในฉากนี้ ซานาเอลสามารถลำดับภาพประกอบกับเนื้อเพลง ออกมาได้อย่างงดงามแบบหน้าต่อหน้า จนให้ความรู้สึกเหมือนนั่งดูภาพยนตร์ มากกว่าที่จะนั่งอ่านหนังสือการ์ตูน เพราะมันจบสวยมาก ขอยกให้เป็น "หนึ่งในซีนที่น่าจดจำที่สุด" ของการ์ตูนเรื่องนี้ไปเลย 

   แม้พล็อตส่วนมาก จะยังไม่ค่อยไปไหนไกลนัก และยังไม่ค่อยลงลึกประเด็นอะไรที่ชัดเจน นอกจากแค่บอกเล่า "ชีวิตประจำวันทั่วไปภายในร้าน" เท่านั้น (ตามสูตรของเนื้อเรื่องเสริม) ความสมบูรณ์ส่วนมากจึงถูกแทนที่ด้วย "หน้าแถม" ซึ่งภายในเล่มก็จะมีรายละเอียดที่น่าสนใจมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แผนผังทั้งภายนอกและภายในร้านคาเฟ่ สารานุกรมแมวไทยหายาก รวมไปถึงบทสัมภาษณ์ตัวละครในเรื่อง เพื่อช่วยตอบคำถามคาใจให้กับคนอ่าน เกี่ยวกับรายละเอียดสำคัญที่ไม่สามารถใส่เข้าไปในเรื่องได้ แต่ปัญหากลับอยู่ตรงที่ มันไม่สามารถตอบคำถามที่คาใจได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของค่าอาหารที่ต้องจ่ายด้วยเวลา ซึ่งเราเองก็ไม่รู้ว่า มันหมายถึง "เวลาที่อยู่ในร้าน" หรือว่า "อายุขัย" กันแน่ มันกำกวมมาก -- แถมในเมื่อ "เวลา" คือสกุลเงินในโลกวิญญาณที่ทางร้านได้รับ แต่ทีนี้ มันมีฉากที่พระเอก ออกไปซื้อของทำอาหารจาก "โลกมนุษย์" ด้วย คำถามคือ เอ็งเอาเงินจากโลกมนุษย์ที่ไหนไปซื้อวะนั่น?


   ใจจริงคือ เราชอบคอนเซ็ปต์ของการ์ตูนชุดนี้มากๆเลยนะ คือมันมีหลายส่วนที่ทำออกมาได้โคตรสร้างสรรค์มาก -- ไม่ว่าจะเป็นในส่วน "หน้าสารบัญ" ที่ทำออกมาเป็น "รายชื่อเมนูอาหาร" (ซึ่งแต่ละชื่อไม่ได้เกี่ยวข้องกับเนื้อเรื่อง ดังนั้นอย่าไปหาความหมายให้เสียเวลา) หรือแม้กระทั่ง "การจ่ายค่าอาหารด้วยเวลา" อันนี้ก็ถือว่าเด็ดอยู่เหมือนกัน เพราะมนุษย์ส่วนมาก มักใช้เวลาไปกับเรื่องไร้สาระโดยเปล่าประโยชน์ ดังนั้น นี่จึงเป็นโอกาสทองของร้านคาเฟ่ ที่จะสามารถเข้ามากอบโกย "รายได้จากโลกมนุษย์" เป็นกอบเป็นกำ แถมมนุษย์เองก็ได้ประโยชน์จากการนำเวลาที่ใช้ไปโดยเปล่าประโยชน์ มาแลกเป็นอาหารได้มื้อนึงด้วย แต่ปัญหาคือ มันเป็นเวลาแบบไหนล่ะ? ไม่ใช่มากินทุกวัน แล้วเพิ่งรู้ตัวว่าอายุขัยเหลือแค่ 5 ปี นี่จบเลยนะเฮ้ย!!!

    รวมไปถึงคอนเซ็ปต์ "ตอนสุดท้ายของเรื่อง" ที่ทางร้านพยายามจะปรับปรุงการเรียกลูกค้าเข้าร้านให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น -- ในยุคที่ "อินเตอร์เน็ต" และ "สมาร์ทโฟน" คือพระเจ้า เพียงแค่คลิกป๊อบอัปโฆษณาเท่านั้น ก็สามารถเด้งเข้ามาที่ร้านได้ในทันที โดยที่ทางร้านไม่ต้องใช้แรงงานแมวอีกต่อไป อาจจะฟังดูบังคับลูกค้าเข้าร้านไปซักหน่อย จนดูเหมือนลักพาตัวมากกว่าที่จะหลงเข้าไป แต่นี่แหละคือสิ่งที่ผีลักซ่อนเค้าทำกันนะ เฮ่อ เฮ่อ///

 
 

   แม้ภาพรวมจะออกมาดูเป็นโปรเจ็กต์คั่นเวลาไปซักหน่อย แต่ "คาเฟ่แมวหลง" ก็ถือเป็นการ์ตูนแฟนเซอร์วิสคุณภาพสูงอีกเรื่อง ที่สามารถเติมเต็มความต้องการของแฟนหนังสือได้  ด้วยมุกเกี้ยวสาวสองแง่สองง่าม และฉากเลิฟซีนที่สามารถสร้างสถานการณ์ไปได้สุดทาง (ซึ่งน่าจะถูกอกถูกใจ "นักอ่านสาวๆ" ไม่มากก็น้อย) -- เก็บมื้อเย็นในวันนี้เข้าตู้กับข้าวไปซะ!!! เพราะ คาเฟ่แมวหลง จะทำหน้าที่พาคุณเข้าไปสัมผัส "ไอเดียสร้างสรรค์ไร้ที่สิ้นสุด" ของซานาเอล ในโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งที่น่าสนใจมากมาย ให้เราได้เข้าไปค้นหา มากเพียงพอที่จะทำให้เราตกอยู่ในมนต์สะกดของ "ร้านคาเฟ่แมวลึกลับ" แห่งนี้ โดยไร้ซึ่งข้อผูกมัด -- และนี่ก็เป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นว่า สิ่งที่ทำให้งานของซานาเอลยังคงโดดเด่น และมัดใจคนอ่านได้จนถึงทุกวันนี้ นั่นคือ สิ่งที่เรียกว่า "ความคิดสร้างสรรค์" นั่นเอง ยังติดตามผลงานชิ้นต่อไปอยู่นะ

(ภายในเล่มสำหรับพรีออเดอร์รอบแรก จะได้ที่รองแก้วกระดาษจากการ์ตูน 2 แผ่น (เป็นคู่พระนาง เจ้าของร้านกับแมวกวัก) เป็นของแถม เปิดมาตอนแรกตกใจ นึกว่าเป็นฝาไอติม 5555+)

(สรุป 7/10)

ติดตามเพจที่ https://www.facebook.com/ThaiComicReview/

 



Create Date : 02 ธันวาคม 2563
Last Update : 28 มีนาคม 2566 13:42:47 น. 0 comments
Counter : 1864 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณnewyorknurse


ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เรลกันคุง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สวัสดีครับ ผมเรลกันครับ ชอบอ่านการ์ตูนมากๆ หวังว่าจะสนุกกันนะครับ




Friends' blogs
[Add เรลกันคุง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.