รีวิวการ์ตูนไทย - Thai Comic Review
Group Blog
 
<<
มกราคม 2566
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
11 มกราคม 2566
 
All Blogs
 
(รีวิวการ์ตูนไทย) Cross Road (โกสินทร์ จีนสีคง)

   นับเป็นเวลากว่าสองทศวรรษแล้ว ที่คุณโกสินทร์ เจ้าของผลงานชื่อดังอย่าง "แว่วกริ่งกังสดาล" ยังคงยึดมั่นในเส้นทาง "การ์ตูนดนตรี" อย่างต่อเนื่อง ไม่เว้นแม้กระทั่ง Hellish การ์ตูนแอคชั่น-แฟนตาซีเรื่องแรกสุดของเจ้าตัวเอง ก็ยังมีกลิ่นอายของ "ดนตรีร็อก" คุกรุ่นออกมาอย่างชัดเจน (แต่น่าเสียดายที่เรื่องนั้นไม่ได้ออกรวมเล่ม ไม่รู้ทำไม) -- Cross Road รวมเล่มชุดที่ 2 ต่อจาก Let's Rock ที่เป็นแนวเดียวกัน แบ่งเรื่องสั้นที่เกี่ยวกับ "คนดนตรี" ออกเป็น 4 เรื่อง เหมือนสี่แยก (crossroad) ที่มีถนน 4 สาย เจาะจงเฉพาะแนวดนตรีที่นิยมขีดสุดในไทย ทั้งแนวเพลงป๊อบ ร็อค เพลงเพื่อชีวิต รวมไปถึงแบ่งเจตนารมณ์ในการทำเพลงออกเป็นสองหมวดหมู่ นั่นคือ เพลงที่ทำเพื่อชีวิต (Song For Life) และเพลงที่ทำเพื่อเงิน (Song For Money)

   เรื่องสั้นทุกเรื่อง ถูกเล่าออกมาในสไตล์การ์ตูนตลกล้อเลียนวงการเพลง ที่เดินเรื่องด้วยพล็อตหลุดโลก ยิงมุกใส่คนอ่านตลอดทั้งเล่ม ซึ่งหาอ่านได้ยากในงานส่วนใหญ่ของคุณโกสินทร์ และก็สามารถทำออกมาได้ดีเสียด้วย!! -- มาเริ่มกันที่เรื่องแรกสุดอย่าง Rock ว่าด้วยวงดนตรีไร้ฝีมือ ต้องการใฝ่ฝันอยากที่จะเป็นนักดนตรีระดับโลก แต่จนแล้วจนเล่าก็ยังไม่ดังซักที จึงทำสัญญากับปีศาจ ซึ่งนั่นก็ทำให้พวกเขาสามารถประสบความสำเร็จได้จริงๆ โดยที่ไม่รู้เลยว่าปีศาจสาวสุดโหดที่ได้ไปทำสัญญาเอาไว้ จะตามมาเอาชีวิตในภายหลัง -- เป็นการหยิบเอาเรื่องราวเล่าขานที่มีอยู่จริงของ Robert Johnson นักดนตรีผิวดำมือสมัครเล่นที่ทำสัญญากับปีศาจ โดยออกไปอัญเชิญ เล่นดนตรีกลางสี่แยกหลังเที่ยงคืน เพื่อแลกกับความสามารถในการเล่นดนตรีที่เก่งขึ้น ซึ่งนั่นก็ทำให้เขามีชื่อเสียงจากแนวทางที่เป็นเอกลักษณ์ จนทั่วโลกต่างมอบฉายา "ราชาแห่งแนวเพลง Delta Blues" ให้กับเขา

   แต่ก็นั่นแหละ แน่นอนว่าไม่มีอะไรที่ได้มาฟรีๆ เพราะหลังจากนั้นไม่นาน โรเบิร์ต จอห์นสัน ก็เสียชีวิตจากการถูกวางยาพิษในเหล้าวิสกี้ด้วยวัยเพียง 27 ปีเท่านั้น ซึ่งนั่นก็ทำให้หลายคนเชื่อว่า "ปีศาจ" ได้กลับมาทวงชีวิตของเขาตามสัญญาเรียบร้อยแล้ว (Delta Blues คือ แนวเพลงบลูส์ในยุคแรกๆ ที่ขับร้องด้วยอารมณ์ดิบๆ ผสมกับเสียงกีต้าร์โปร่งที่ดีดด้วยจังหวะไม่ซับซ้อน นิยมเล่นกันในช่วง ค.ศ. 1920 เป็นต้นไป)  

   เข้าสู่เรื่องที่สองอย่าง Song For Life ว่าด้วยชายหนุ่มที่ออกเดินทางไปยังชนบท เพื่อตามหาแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงเพื่อชีวิต แต่พอไปถึง เขาก็กลับได้พบว่า วีถีชีวิตของคนในท้องถิ่นที่เขาได้เข้าไปเหยียบย่างนั้น มันแทบจะไม่ได้ต่างจากเมืองกรุงเลยซักนิด ไม่ว่าจะด้วยเรื่องของความเจริญ หรืออบายมุขต่างๆที่ดูเลวร้ายกว่าที่คิดไว้มาก -- พื้นหลังของเรื่องจะโฟกัสไปที่วิถีชีวิตของเหล่าชาวเขาทางภาคเหนือ โดยมีไกด์เด็กชาวเขาสาวสวยที่ดูเหมือนจะพึ่งพาได้ คอยนำทางพระเอกให้ได้เยี่ยมชมหมู่บ้านตลอดการเดินทาง ซึ่งถึงแม้จะเกิดสถานการณ์วุ่นๆมากมาย แต่นั่นก็ทำให้พระเอกสามารถแต่งเพลงที่กลั่นจากก้นบึ้งหัวใจของตัวเองขึ้นมาได้ในที่สุด (แม้จะลอกเนื้อเพลงชาวบ้านเค้ามาเกือบทั้งดุ้นก็เถอะ) -- แม้เนื้อเรื่องส่วนใหญ่จะถูกกลบด้วยความเป็นแฟนตาซี จนการสะท้อนสังคมหลุดไปจากความเป็นจริง จนขาดความน่าเชื่อถือไปบ้าง (อย่างเช่น ในฉากที่หมู่บ้านชาวเขาแปรสภาพเป็นตึกรามบ้านช่อง รวมไปถึงสถานบริการในยามค่ำคืนด้วยพลังเวทมนตร์ ซึ่งในชีวิตจริงไม่ใช่แบบนั้น) แต่โดยรวมก็ถือว่ายังเป็นงานที่อ่านสนุกได้อยู่ แม้จะมีส่วนที่อ่านไปย่นคิ้วไปอยู่บ้างก็ตาม

   เข้าสู่เรื่องที่ 3 -- Pop ว่าด้วยไอดอลสาวทั้งสองที่มีความสามารถสูงส่ง จนได้ขึ้นแสดงบนเวทีใหญ่ แต่จนแล้วจนเล่าก็ไม่รู้ว่า ทำไมถึงไม่เคยดังกับเขาซักที -- โดยรวมทั้งเรื่องจะพูดถึงเบื้องหลังการทำงานของศิลปินไอดอล ที่มีผู้จัดการคอยหนุนหลัง โดยจะเน้นไปที่ การเอนเตอร์เทนกับคนดูแบบมีลูกล่อลูกชน เพื่อให้เป็นที่จดจำ (ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่นางเอกทั้งสองคนทำได้ไม่ดีนัก) แต่ส่วนมากจะทำออกมาในเชิงล้อเลียนซะมากกว่า ไม่ว่าจะเป็นแก๊กล้อประโยคเด็ดในงานคอนเสิร์ตเจ๋งๆมากมาย ที่ถึงแม้จะเห็นได้ชัดว่าไปลอกจากที่อื่นมา และเล่นกันมาหลายต่อหลายสื่อแล้ว แต่ก็เรียกได้ว่าคลาสสิกพอๆกับแก๊กในเดี่ยว 6 อย่างเช่น (ทุกคน สบายดีมั้ย!!!/ ถ้าป่วยตูจะมาเหรอ) อะไรทำนองนี้

   และเรื่องสุดท้าย Song For Money ที่ไม่ได้มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับศิลปินที่แต่งเพลงเพื่อปลุกขวัญกำลังใจชนชั้นแรงงานหรือคนในชาติ เหมือนกับ Song For Life แต่มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับคนดนตรีที่ "ทำเพื่อเงิน" ล้วนๆ -- ว่าด้วยเด็กหนุ่มดวงซวยที่ดันไปทำของเล่นเพื่อนแตกกระจุย จึงจำเป็นต้องออกไปเล่นดนตรีขอทานในตลาดนัด เพื่อหาเงินซื้อของเล่นคืนให้กับเพื่อนเป็นการชดใช้ ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาได้พบว่า จริงๆแล้วอาชีพขอทานนั้น กลับหาเงินได้มากกว่าที่คิด -- ซึ่งหลังจากที่ทั้ง 4 เรื่องจบลง ก็จะมีเกร็ดความรู้เล็กๆน้อยๆ เกี่ยวกับต้นกำเนิดของแนวเพลงต่างๆให้ได้อ่านกัน ในระดับที่ใช้แว่นขยายส่องก็เอาไม่อยู่

   ตลอดเรื่องสั้นทั้ง 4 เรื่อง -- Cross Road จิกกัดวงการเพลงได้อย่างครอบคลุม สลับกับมุกตลกที่ยิงอย่างต่อเนื่อง (ซึ่งเข้าบ้างไม่เข้าบ้าง) แม้บรรยากาศแก๊กยุค 90 ในบางช่วง ที่ใส่เข้ามาล้นจนปวดกบาล รวมไปถึงแก๊กเล่นคำน่าอายอย่าง วันทูทรี เป็น วันทูคอล จะทำให้บรรยากาศความสนุกชะงักลงไปบ้าง แต่โกสินทร์ก็สามารถสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้อ่านด้วยสำนวนการเขียนสุดเร้าใจ นั่นจึงทำให้ Cross Road จึงเป็นงานที่อ่านสนุก ไม่ว่าจะเล่นแก๊กบั่นทอนปัญญาหรือแก๊กตลกร้ายมากแค่ไหนก็ตาม -- มีเรื่องสั้นเพียงไม่กี่เรื่องในเล่มที่ทำออกมาได้ไม่ค่อยดีนัก (และควรจะหาพล็อตที่ดีกว่านี้มาลง) นั่นก็คือเรื่อง Rock ที่เล่นพล็อตคาดเดาได้ง่ายในชนิดที่ว่า แค่เปิดไปแค่ 5 หน้า ก็น่าจะมองเห็นตอนจบกันเรียบร้อยแล้ว ประมาณว่า "ท้ายที่สุด พระเอกก็เลือกที่จะเล่นดนตรีด้วยตัวเองอยู่ดี เพราะรู้สึกไม่ภูมิใจที่วงของตัวเองมีชื่อเสียงจากการทำสัญญากับปีศาจ" (ซึ่งก็เป็นไปตามที่คิดเอาไว้เด๊ะๆ) 

   และด้วยความที่ Cross Road เป็นงานที่เขียนขึ้นก่อนช่วง "แว่วกริ่งกังสดาล" เราจึงจะได้เห็นลายเส้นของคุณโกสินทร์ที่วาดออกมาได้สวย ปราณีต และเก็บรายละเอียดแน่น แต่หน้าตาตัวละครกลับดูแข็ง จนรู้สึกว่าน่าจะวาดออกมาได้สวยกว่านี้ (ซึ่งหลายคนที่ได้อ่าน ก็น่าจะมองเหมือนกันว่า ลายเส้นในช่วง "แว่วกริ่งกังสดาล" นั้นดีกว่าเยอะ) -- หากใครสนใจที่จะเห็นคุณโกสินทร์ในโหมดยิงมุกกระจาย ในแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในงานเก่าๆของเขา (รวมไปถึงงานใหม่ด้วย) Cross Road น่าจะเป็นงานที่สนองความต้องการสำหรับแฟนหนังสือได้อย่างแน่นอน

เรื่องที่ชอบมากที่สุด/ Song For Money
เรื่องที่ชอบน้อยที่สุด/ Rock

(สรุป 7/10)

ติดตามเพจที่ https://www.facebook.com/ThaiComicReview/

(ตีพิมพ์ครั้งแรกในเดือนธันวาคม พ.ศ. 2552)




Create Date : 11 มกราคม 2566
Last Update : 8 ตุลาคม 2566 17:37:58 น. 0 comments
Counter : 697 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณนายแว่นขยันเที่ยว


ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เรลกันคุง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สวัสดีครับ ผมเรลกันครับ ชอบอ่านการ์ตูนมากๆ หวังว่าจะสนุกกันนะครับ




Friends' blogs
[Add เรลกันคุง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.