รีวิวการ์ตูนไทย - Thai Comic Review
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2566
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
19 มิถุนายน 2566
 
All Blogs
 
(รีวิวการ์ตูนไทย) Fiend เพื่อนกันจนวันตาย (รวมนักเขียน)

   เมื่อหนังสือรวมเรื่องสั้นการ์ตูนผี Horror Hours ของค่าย CTS ถึงคราวที่ต้องยกเครื่องใหม่ให้มีคอนเซ็ปต์ชัดเจนขึ้น -- ซีรีส์ "เล่าเรื่องผี" ซึ่งถูกทำออกมาทั้งหมด 3 เล่ม ว่าด้วยเรื่องสยองขวัญในโรงเรียน ก็ยังคงเต็มไปด้วยเรื่องสั้นตอนเดียวจบจากนักเขียนมากหน้าหลายตาอีกเช่นเคย ต่อยอดไอเดียจากซีรีส์ "เล่าเรื่องผีที่โรงเรียน" ของคุณนิธินันท์ นาครินทร์ (ที่ดอง "ครูแว่นกับนักเรียนภูตผี" จนเน่า แล้วก็เขียนไม่จบซักที) มายกเครื่องใหม่ ด้วยหน้าปกที่น่าซื้อมากขึ้น และดูเป็นการเป็นงานราวฟ้ากับเหว

   มีเรื่องสั้นทั้งหมด 4 เรื่องในเล่ม ซึ่งมีทั้งผลงานของนักเขียนอาชีพและนักศึกษาฝึกงานปนๆกัน (เพราะนักเขียนในค่ายเริ่มน้อยลงแล้ว) เริ่มจาก Fiend (ภูษิต หุ่นไทย/ ปิติวุฒิ ภวังคนันท์) เรื่องเด็ดประจำเล่มที่มีการเล่นคำโดยการตัดตัว r ออกจากคำว่า friend จนคำว่าเพื่อน กลายเป็นคำว่าผี -- ว่าด้วยเพื่อนสาวชมรมนาฎศิลป์สองคนที่สนิทกันตั้งแต่เด็ก ต้องมาแตกคอกัน เพราะแม่นางเอกเห็นแก่ตัวที่ชอบเอาชนะ ได้ยุยงให้ลูกเกลียดเพื่อนตัวเอง จนนางเอกเกิดความรู้สึกอิจฉาเพื่อนที่ทำได้ดีกว่า และก่อเรื่องที่เลวร้ายขึ้น ดังนั้นคำว่าเพื่อนกันจนวันตาย จึงเป็นเรื่องราวที่มีความหมายตรงตามตัวอักษรไม่ผิดเพี้ยน


จากเรื่อง Fiend ของ ภูษิต หุ่นไทย และ ปิติวุฒิ ภวังคนันท์

   สตอรี่บอร์ดการ์ตูนผีของคุณปิติวุฒิ หรืออาร์ตบลูส์ นั้น ส่วนใหญ่ค่อนข้างผีเข้าผีออก ดีบ้างไม่ดีบ้าง ถ้าออกมาดีก็จะเหมือนกับเรื่องนี้ หรือถ้าแย่ก็จะเป็นแบบเรื่อง Summer Tales ในรวมเล่ม คาบเรียนลับ สับให้เป็นศพ (ซึ่งธนาดลเป็นคนวาด) -- คุณภูษิต นักวาดขาประจำในช่วงหลังๆ ที่ดูเหมือนจะเข้ามาแทนที่ ณัฐพล อยู่วิทยา คนเขียนโอ่งมรณะ ไปแล้วเรียบร้อย เพราะลายเส้นคล้ายๆกัน ก็ดูเหมือนจะสอดรับหน้าที่กับคุณอาร์ตบลูส์ได้ดีไม่มีปัญหา กับเนื้อเรื่องที่ดำเนินไปอย่างเข้มข้น แต่ก็อาจจะรู้สึกติดขัดซักนิดนึง ตรงที่เอา "ฉากในอนาคต" ของนางเอกมาใส่ในป้ายบิลบอร์ดของโรงเรียน แทนที่จะวาดใหม่ให้สถานการณ์มันสมเหตุสมผล เสียเวลาวาดซักนิดซักหน่อยก็ได้ แหม่!!

   เข้าสู่เรื่องที่ 2 -- We Are: Share (เอนก ร้อยแก้ว) จากเรื่อง We Are ซีรีส์ชุดใหม่ 3 ตอน ที่ดูเหมือนจะเป็นการแก้มือในสิ่งที่ตัวเองพลาดไป โดยรีไซเคิลไอเดียเก่าๆจาก Dead Actually มาเล่าใหม่ให้มันดูมีน้ำมีเนื้อมากขึ้น และ self-aware ระแวงคนอ่านมากกว่าทุกครั้ง -- เริ่มเรื่องด้วยเด็กสาว 4 คน มานั่งผลัดกันเล่าเรื่องผีที่โรงเรียนในตอนกลางคืน แล้วก็แซะกันไปมาว่า แต่ละคนเล่าเรื่องได้ไม่ค่อยน่ากลัวเอาซะเลย (ซึ่งก็จริงทั้งหมดนั่นแหละ) ทั้งหมดดูเหมือนจะเป็นการ์ตูนสยองขวัญแนวรวมเรื่องสั้นที่เคยเห็นในหนังยุค 1980s แบบ Tales From The Crypt, Creepshow หรือหนังของค่าย Hammer Films แต่เล่าออกมาแบบสั้นๆ ไม่ค่อยลงรายละเอียด และจบด้วยพล็อตผีหลอกเหมือนๆกันหมด เหมือนไม่ได้เน้นส่วนนั้นแบบจริงๆจังๆ ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะผู้เขียนแค่ต้องการใช้ตอนแรกเป็นการแนะนำตัวละครในเรื่องเพื่อเชื่อมเรื่องราวไปสู่ตอนถัดไป เพราะฉะนั้นบรรยากาศก็จะเหมือนเด็กวัยรุ่นกลุ่มหนึ่งมาเล่าเรื่องผีสนุกๆ จะให้มาคาดหวังเรื่องผีพีคๆจากคนกลุ่มนี้ มันก็ไม่ได้อยู่แล้ว แม้โดยรวมจะทำออกมาได้ไม่ค่อยน่าสนใจก็เถอะ


จากเรื่อง We Are : Share ของ เอนก ร้อยแก้ว

   แต่ด้วยความที่ทั้งเรื่อง พุ่งเป้าไปที่การขายฉากสยองและแฟนเซอร์วิสตามสไตล์ของเอนกแบบเดียวกับ Dead Actually เล่มแรก ดังนั้นปัญหาใหญ่จึงตกไปอยู่ที่ตัวเอนกเอง ซึ่งวาดผีได้สวย เทคนิคภาพยอดเยี่ยม แต่กลับดูไม่ค่อยสยองซักเท่าไหร่ ดังนั้นจัมป์สแกร์ในหลายๆฉากก็เลยไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ -- เพราะงี้การที่ผู้เขียนพยายามพร่ำบอกให้คนอ่านค่อยๆเปิดใจและจินตนาการภาพตาม นั่นก็เพราะว่างานภาพของเอนก มันไม่ได้มีพลังมากพอที่จะสามารถสร้างบรรยากาศสยองได้ด้วยตัวของมันเอง ในระดับที่ไม่กล้าที่จะเปิดหน้านั้นอ่านอีก (แบบเรื่องเลี้ยงรุ่น ในรวมเล่ม OT) แต่ เออ!! พอจินตนาการตามแล้ว มันก็น่ากลัวจริงๆฟ่ะ โดยเฉพาะฉากหัวคนลอยในอ่างล้างก้นห้องน้ำโรงเรียนงี้ บรึ๋ย!!! ดีนะ ที่ผู้หญิงคนนั้นแค่วิ่งเข้าไปฉี่เฉยๆ 

   มาต่อกันด้วยอีกเรื่องที่มีแนวคิดน่าสนใจอย่าง เรื่องของผี (ยี่สิบสาม) -- เรื่องที่ 3 ของเล่มที่จะช่วยคลายความสงสัยของทุกคนเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องผีสาง อย่างเช่น วิญญาณหิวข้าวได้ด้วยหรือ ทำไมต้องเอาของไปเซ่นไหว้? ฯลฯ เพราะงี้อีพระเอกที่ไม่เชื่อเรื่องผีสางก็เลยไปเตะของเซ่นไหว้ เพราะอยากเจอผีตัวเป็นๆ ซึ่งนั่นก็ได้ทำให้พระเอกได้พบกับคำตอบที่อยากรู้ทั้งหมดด้วยตัวเองในท้ายที่สุด (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าควรจะดีใจดีมั้ย?) -- ส่วนตัวชอบตรงที่ท้ายที่สุด ผู้เขียนก็ไม่ได้บอกคำตอบให้เรารู้อยู่ดีว่า ทำไมผีกินของเซ่น แล้วของเซ่นไม่หายไป? เหมือนเป็นการบอกนัยๆว่า ก็ตูยังไม่ตายซักหน่อย จะไปรู้ได้ยังไง (แฮ้!!)


จากเรื่อง เรื่องของผี ของ ยี่สิบสาม

  ผมแอบสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของเกษมกระจัดกระจายอยู่ในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะด้วยแนวคิดหรือบทพูดของตัวละครที่คุ้นหน้าคุ้นตามาก เพราะสตอรี่บอร์ดส่วนใหญ่ของเขาเวลาลงไปทำแนวซีเรียส มักจะเป็นเชิง introspection ที่เกี่ยวกับการตั้งคำถามกับอะไรซักอย่าง เหมือนเขาเข้ามามีส่วนร่วมกับสตอรี่บอร์ด แต่ไม่เอาเครดิต ไม่รู้สิ อาจเป็นเพราะตัวละคร "แทน" เพื่อนพระเอกที่ชอบเตือนพระเอกไม่ให้ลบหลู่ภูติผีปีศาจ มันให้ความรู้สึกเหมือน "ทรงพล" ในเรื่อง สัมผัส ยังไงยังงั้น แต่ถ้าแต่งเนื้อเรื่องเองทั้งหมด ก็ถือว่าทำออกมาได้สุดยอดมากๆ เพราะรู้สึกว่ามันได้อารมณ์ที่คล้ายๆกัน -- ถ้าไม่นับฉากผีโผล่บนเตียงสุดแสนน่ากลัว ที่เหมือนไปเสิร์จในกูเกิ้ล แล้วหาคำว่า "ภาพผีที่สยองที่สุด" มาวาดใส่ ก็ถือว่าทำออกมาได้น่ากลัวจริงๆนั่นแหละ แม้จะรู้สึกคุ้นเคยกับมันที่ไหนซักแห่งก็เถอะ 5555+

   และเรื่องสุดท้าย ห้องปกครอง (ลุงแบล็คใจดี) การ์ตูนเรื่องเดียวในเล่มที่ไม่ใช้สกรีนโทน และสั้นกว่าทุกเรื่องในเล่ม ดำเนินเรื่องไปแบบกระชับ ว่าด้วยเด็กสองคนถูกขังปิดตายในห้องปกครองอย่างเป็นปริศนาในยามค่ำคืน มีแต่การสารภาพบาปเท่านั้น ที่จะช่วยให้ทั้งสองสามารถออกไปจากที่แห่งนี่ได้ -- อำนาจของวิญญาณครูฝ่ายปกครองยังคงวนเวียนในที่แห่งนั้นด้วยความเมตตาอารี เปิดโอกาสให้อีกฝ่ายได้ขอโทษ แต่ถ้าหากไม่สำนึกผิด ก็จะถูกลงโทษให้หลาบจำ จนไม่กล้าทำผิดซ้ำสองอีก 


จากเรื่อง ห้องปกครอง ของ ลุงแบล็คใจดี

   โดยรวมก็ไม่ค่อยมีอะไรจะเขียนซักเท่าไหร่ นอกจากมันเป็นรวมเรื่องสั้นการ์ตูนสยองขวัญที่ทำออกมาได้ดีตามมาตรฐาน CTS อีกเช่นเคย ด้วยไอเดียที่สดใหม่ โดยการพาไปทำความรู้จักกับความเชื่อผีโบราณที่มีอยู่จริง หรือไม่ก็สอดแทรกแง่คิดคติสอนใจเข้าไปในเรื่องผีสางนางไม้ ซึ่งคุณภาพเรื่องสั้นส่วนใหญ่ในนี้ มันก็ดีแบบใกล้ๆกัน ในชนิดที่ตัดสินเรื่องที่ชอบที่สุดในเล่มได้ยากมากๆ -- หากใครเคยผ่านหูผ่านตากับนิตยสาร Horror Hours ที่ออกมาถึง 24 เล่มแล้วชอบ เล่มนี้ก็คิดว่าน่าจะชอบไม่แพ้กัน เพียงแต่จะมีคอนเซ็ปต์ "เรื่องผีในโรงเรียน" เพิ่มเข้ามาเท่านั้นเอง

เรื่องที่ชอบมากที่สุด/ Fiend (ภูษิต หุ่นไทย/ ปิติวุฒิ ภวังคนันท์)
เรื่องที่ชอบน้อยที่สุด/ We Are: Share (เอนก ร้อยแก้ว)

(สรุป 8/10)

(ตีพิมพ์ครั้งแรกในเดือนเมษายน พ.ศ. 2559)

ติดตามเพจที่ https://www.facebook.com/ThaiComicReview/




Create Date : 19 มิถุนายน 2566
Last Update : 8 ตุลาคม 2566 18:08:39 น. 0 comments
Counter : 1479 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณhaiku, คุณนายแว่นขยันเที่ยว


ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เรลกันคุง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สวัสดีครับ ผมเรลกันครับ ชอบอ่านการ์ตูนมากๆ หวังว่าจะสนุกกันนะครับ




Friends' blogs
[Add เรลกันคุง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.