รีวิวการ์ตูนไทย - Thai Comic Review
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2565
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
18 มีนาคม 2565
 
All Blogs
 

(รีวิวการ์ตูนไทยเฉพาะกิจ) It's A TRAP : สิ่งที่เห็น ไม่ใช่สิ่งที่เป็นหรอกนะ (PLACARP Studio)

 

   รวมเรื่องสั้นเล่มหนาๆ จากทีมงานหน้าใหม่ PLACARP Studio (ปลาคาร์ป สตูดิโอ) ที่รวบรวมเหล่านักเขียนมือสมัครเล่นกว่า 9 ชีวิต เข้ามาช่วยกันสร้าง "การ์ตูนตลกแนวหักมุม" สั้นๆ เรื่องละ 10-20 หน้าจบ ล่อลวงให้คนอ่านเข้ามาติดกับดัก ก่อนที่จะเชือดนิ่มๆด้วยตอนจบที่สุดแสนจะคาดเดา เปิดตัวครั้งแรกในงาน Comic Square 5 โดยพิมพ์จำนวนจำกัดเพียงแค่ 100 เล่มเท่านั้น (สำหรับการขายรอบแรก) -- ในตอนแรกสุด It's A TRAP ถูกโปรโมตด้วยวิธีที่ค่อนข้างประหลาด เพราะมันถูกแนบมากับการ์ตูนใบ้ขนาดสั้นตอนเดียวจบ ลายเส้นน่ารักที่ชื่อ "ไดโนฮา" (วาดโดย Lambo Bikini) ซึ่งเกี่ยวกับชีวิตประจำวันสุดเพี้ยนของไดโนเสาร์ตัวหนึ่งที่อยากจะกินเนื้อ แต่ไม่ได้กินเนื้อซักทีด้วยเหตุผลต่างๆ โดยจะมีอยู่ทั้งหมด 27 ตอนด้วยกัน (ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราะไม่อยากให้เพจหลักมีแต่โพสต์ขายหนังสือน่าเบื่อ แถมตัวเพจเองก็ยังไม่ค่อยมีคอนเทนต์อะไรรองรับมาก ก็เลยยิงยาวการ์ตูนเรื่้องนี้กันถึง 11 วันกันเลยทีเดียว แต่ เฮ้!!! ภายในงาน ก็มีขาย "พวงกุญแจจากการ์ตูน" พ่วงเข้ามาด้วยนะ)

   ในกลุ่มเซอร์เคิลของ PLACARP Studio จะประกอบไปด้วย Maboroshi161 เป็นบรรณาธิการ และนักเขียนอีกหลายคนทั้ง Daku_K, หมาขาว, ท่าไม้ตายสะพานโค้งใต้ต้นมินท์, นายหุ่นกระจก, Kanoeko, Tatsuka Komono, Perize, Art of Littlemailbox และ Lambo Bikini ภายใต้การ co-sign ของ Lusan666 Studio เจ้าของผลงาน Levana Violette เข้ามาช่วยผลักดันให้พวกเขาเหล่านี้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น โดยการจับมาขายในบูธเดียวกัน ซึ่งทั้งสองเอง ต่างก็เหมือนกันตรงที่เป็นสตูดิโอเล็กๆที่สร้างเนื้อสร้างตัวกันมาด้วยตัวเองทั้งนั้น


จากเรื่อง หมาป่ากับหนูน้อยหมวกแดง ของ Daku_K

  ภายในรวมเล่ม It's A TRAP -- เรื่องสั้นส่วนมากจะเป็นการจับเอา "นิทาน" หรือ "วรรณคดีไทย" เรื่องต่างๆ มาสลับบทบาทตัวละคร หรือไม่ก็ปรับเนื้อหาให้เข้ากับยุคสมัย ซึ่งความสนุกในแต่ละเรื่องจะอยู่ในระดับที่พออ่านฆ่าเวลาได้ ไม่ค่อยหวือหวามาก ด้วยความที่พล็อตส่วนมากค่อนข้างสูตรสำเร็จ -- ซึ่งจะเห็นได้ชัดเจนในเรื่อง หมาป่ากับหนูน้อยหมวกแดง (Daku_K) เจ้าของผลงาน "วันๆสุดมั่วกับเรื่องมั่วๆของพวกเรา" ใน Webtoon ขับเคลื่อนด้วยลายเส้นน่ารักน่าชังและบทพูดชวนเขิน ก็แค่สลับเอาหมาป่ามาเป็นตัวเอก และเอาหนูน้อยหมวกแดงมาเป็นตัวร้ายเท่านั้นเอง แต่ก็ถือเป็นเรื่องสั้นอีกเรื่องหนึ่งที่น่าจดจำ ด้วยความที่ผู้เขียนเองวาดตัวละครทุกตัวได้น่ารักจัดๆ -- หรือแม้กระทั่ง ออโรร่า (ท่าไม้ตายสะพานโค้งใต้ต้นมิ้นท์) ที่มีลายเส้นโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ พล็อต by the book เกี่ยวกับ "การยอมรับการสูญเสีย" ก็จับเอานิทานเรื่อง "เจ้าหญิงนิทรา" มาเล่าเรื่องราวผ่านตัวละครฝ่ายแม่และเจ้าหญิง ที่มักจะทำกิจกรรมสนุกๆร่วมกันทุกวันในสวนอย่างมีความสุข จนกระทั่งความจริงทุกอย่างได้ถูกเปิดเผย..... 

   แต่ก็ใช่ว่าทั้งเล่มจะเป็นสูตรสำเร็จไปซะทั้งหมด เพราะในเล่มเองก็ยังพอจะมีเรื่องสั้นที่ฉีกออกไปจากทิศทางเดิมอยู่บ้าง อย่าง Marco and His Boring Day (Kanoeko) ซึ่งเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนิทานเรื่อง "เด็กเลี้ยงแกะ" เชื่อมโยงจนกลายมาเป็นนิทานเรื่อง "คนตัดไม้กับเทพารักษ์" แบบงงๆ เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเด็กเลี้ยงแกะขี้โกหก กับเด็กสาวเพื่อนสนิทในหมู่บ้าน ซึ่งตัวเองแอบชอบมานานแล้ว แต่ตัวเองก็ยังแก้นิสัยขี้โกหกไม่ได้ จนทำให้เกิดเรื่องร้ายแรงตามมาในภายหลัง -- และ Kratai Kub Tao (Art of Littlemailbox) ก็เป็นการจับเอานิทานเรื่อง "กระต่ายกับเต่า" มาตีความใหม่ จนกลายเป็นการ์ตูนกึ่งแนวชายรักชาย ว่าด้วยเต่าที่อยากจะชนะใจเสือจากัวร์ประธานชมรมด้วยการวิ่ง เพราะแอบชอบ ก็เลยทำทีขอให้กระต่ายมาช่วยเทรนให้ ซึ่งกระต่ายก็ยินดีช่วย เพราะเห็นแก่พลังแห่งรักในตัวของเต่า แม้ทั้งคู่จะต้องวิ่งแข่งกันตามสูตรของนิทานก็ตาม -- โดยรวมก็เป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นว่า การที่คนเรามีเป้าหมายอะไรซักอย่าง และลงไปทุ่มเทกับมันให้เต็มที่ แม้จะมีความสามารถเพียงน้อยนิดก็ตาม ก็อาจทำให้เรามีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่าคนที่ไม่มีเป้าหมายอะไรเลยก็เป็นได้


จากเรื่อง จันทโครพ ของ Perize

   ตลอดทั้ง 139 หน้าใน It's A Trap (นับเฉพาะแค่การ์ตูนเท่านั้น) มีเรื่องสั้นจำนวนหนึ่งที่เดินเรื่องด้วยพล็อตที่ไม่สมเหตุสมผลในระดับที่ไม่น่าให้อภัย น่าเสียดาย ที่มันมีอยู่ราวๆ 30% ของเล่ม -- นับตั้งแต่ จันทโครพ (Perize) การ์ตูนกาวๆ ล้อเลียนแก๊ก pop culture เนื้อหาเสื่อมๆ แก๊กวายป่วง (และเป็นต้นเหตุที่ทำให้หนังสือเล่มนี้ติดเรต 18+ ด้วย) เกี่ยวกับจันทโครพในยุคปัจจุบัน ได้รับผอบจากอาจารย์มหาลัย ก่อนที่จะส่งพระเอกไปเรียนต่อที่เมืองนอก พร้อมกำชับไว้ว่าห้ามเปิดออกจนกว่าจะถึงต่างประเทศ แต่เผอิญว่าผอบใบนั้น กลับมียาเสพติดอยู่ข้างใน เรื่องวุ่นวายบนเครื่องบินจึงเกิดขึ้น!!! -- แม้จะรู้สึก WTF กับฉากที่พระอินทร์โดนเกย์เด้าตูดจนเก็บไปติดตาไม่หายก็เถอะ (จริงๆมีเยอะกว่านี้) แต่คำถามคือ...อีตาพระเอกมันเอายาเสพติดขึ้นไปบนเครื่องบินได้ยังไงฟะ!!?! แถมอีตาผู้โดยสารที่นั่งข้างๆพระเอกนี่ ก็เป็นขี้ยาอีกต่างหาก ไม่มีการตรวจคนขึ้นเครื่องบินกันเลยเรอะ!!?! ซึ่งทำให้พล็อตทั้งเรื่อง มันพังเละเทะแบบไม่มีชิ้นดีกันตั้งแต่ต้นเรื่อง ประมาณว่าถ้าตรงนี้พลาด ที่เหลือก็ไม่ต้องอ่านต่อกันอีกแล้ว แม้ทั้งเรื่องมันจะฮาจัดๆก็เถอะ (นี่ยังไม่นับฉากข่าวในทีวีที่บอกว่า มีคนพี้ยาในเครื่องบินด้วย ซึ่งคนนอกรู้ได้ยังไง? ทั้งๆที่เครื่องบินระเบิดตายกันหมดทั้งลำ)

   เท่านั้นยังไม่พอ ขอรักนายตลอดไป (Tatsuka Komono) ก็รู้สึกงุนงงไปกับความสัมพันธ์แบบชายรักชายที่ฝ่ายครอบครัวหมู ต่างกีดกันไม่ให้ลูกชายตัวเองไปชอบกับหมาป่า เพราะเห็นว่าหมาป่าเป็นสัตว์ที่ดุร้าย ซึ่งเหตุผลมีแค่นี้เองเหรอ ทำไมมันถึงตื้นได้ขนาดนี้ แล้วไม่คิดที่จะลงลึกรายละเอียดอะไรกันบ้างเลยรึไง ประมาณแบบเพราะกลัวว่าหมาป่าจะหลอกให้รัก แล้วจับกินทั้งครอบครัวอะไรทำนองนี้ ก็ไม่เห็นในเรื่องจะมีพูดอะไรกันเลย แล้วก็จบแบบสูตรสำเร็จไปซะหยั่งงั้น -- ส่วน The London คดีร้ายแฝงใน (หมาขาว) ก็หักมุมแบบ 360 องศาแบบคิดจะหักก็หัก แถมฆาตกรเองก็คิดจะปาดคอนักสืบแบบหน้าตาเฉย โดยที่ตำรวจเองก็ยังอยู่ในเหตุการณ์ ช่างกล้าจริงๆ ตกลงมันเป็นคดีที่สืบยากตรงไหนฟะ!!?! สรุปก็คือถ้าฆาตกรไม่เปิดตัวง่ายขนาดนี้ อีตานักสืบเองก็คงไม่ทำเป็นรู้ดี พูดปาวๆๆ เหมือนแก้คดีได้อะไรเยอะแบบนี้หรอกจริงมั้ย?


จากเรื่อง พี่เข้มเจ้มจ้น ของ นายหุ่นกระจก

   และที่แย่ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องสั้นประมาณ 60% ของเล่ม กลับเต็มไปด้วยลายเส้นที่ไม่เสถียรขั้นรุนแรง ซึ่งฉุดจนทำให้คุณภาพทั้งเล่มด้อยลงมายิ่งกว่าเก่า -- เริ่มตั้งแต่ พี่เข้มเจ้มจ้น (นายหุ่นกระจก) การ์ตูนสุดเท่ที่เดินเรื่องด้วยชายหนุ่มดวงซวยกับแมวดำกล้ามโต ที่สามารถเอาชนะโชคร้ายสุดขีดในวัยเบญจเพส (25 ปี) ได้ จนประสบความสำเร็จในชีวิต แต่กลับดรอปคุณภาพลงด้วยกายวิภาคที่บิดเพี้ยน สกรีนโทนชวนปวดตา และงานฉากที่วาดขึ้นแบบลวกๆ ซึ่งแทบจะทุกเรื่องในเล่มนี้ ต่างก็มีข้อเสียที่คล้ายๆแบบนี้เช่นเดียวกัน ในชนิดที่ไม่มีใครยอมใครกันเลยทีเดียว

   หรือแม้กระทั่งเรื่องสุดท้ายของเล่มอย่าง PLACARP Man (Lambo Bikini) ก็เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการพยายามไต่ภูเขาฝัน เพื่อหวังว่าจะได้เจอขุมทรัพย์อยู่ข้างบน เปรียบเสมือนนักเขียนทุกคนในเล่มนี้ ต่างพยายามดั้นด้นสุดความสามารถ เพื่อที่จะทำให้ตัวเองประสบความสำเร็จในสายอาชีพนี้ซักวัน การ์ตูนจบปลายเปิดที่ว่ายังมีภูเขาอีกหลายลูกให้ปีนต่อ แม้ลูกเก่าจะปีนขึ้นไปแล้วไม่เจออะไรเลยก็ตาม -- Lambo รู้ดีว่าเรื่องสั้นหลายๆเรื่องในเล่มนี้ ยังมีคุณภาพที่ไม่ดีพอ และยังต้องขัดเกลากันอีกเยอะ แม้จะสัมผัสได้ว่านักเขียนทุกคนในนี้ต่างก็ทำดีที่สุดกับการ์ตูนของตัวเองแล้ว แต่โดยรวมมันก็ยังให้ความรู้สึกเหมือนนั่งอ่านรวมเล่ม Buffalo Gag ของคุณวิษณุ ที่ลายเส้นด้อยยิ่งกว่าอยู่ดี -- และนี่ก็คือภาพรวมที่เกิดขึ้นทั้งหมดในรวมเล่ม It's A TRAP หนึ่งในการ์ตูนที่เต็มเปี่ยมไปด้วยศักยภาพมากมายรอวันที่จะเฉิดฉาย เพียงแต่หลังจากที่ได้อ่านจบ ก็คงคิดว่าน่าจะต้องรอเวลากันอีกซักพักใหญ่ๆ ก่อนที่ซักวันหนึ่ง มันจะปะทุขึ้นมาอย่างแข็งแกร่งอย่างแท้จริง น่าเสียดาย...ที่มันยังไม่ใช่ตอนนี้เท่านั้น ยังติดตามผลงานชิ้นต่อไปอยู่นะ

เรื่องที่ชอบมากที่สุด Kratai Kub Tao (Art of Littlemailbox)
เรื่องที่ชอบน้อยที่สุด The London คดีร้ายแฝงใน (หมาขาว)

สามารถสั่งซื้อหนังสือได้ที่ https://www.facebook.com/placarpstudio

(สรุป 5/10)

ติดตามเพจที่ https://www.facebook.com/ThaiComicReview/

(ตีพิมพ์ครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565)




 

Create Date : 18 มีนาคม 2565
0 comments
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2566 5:01:51 น.
Counter : 1274 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


เรลกันคุง
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




สวัสดีครับ ผมเรลกันครับ ชอบอ่านการ์ตูนมากๆ หวังว่าจะสนุกกันนะครับ




Friends' blogs
[Add เรลกันคุง's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.