ร้อยรวงใจ ๒๙ (ธัญรัตน์)
นี่งานพิเศษที่คุณเจตน์บอกคือให้ผมไปหาทางขัดขวางคุณข้าวไม่ให้ทำนาจนได้ข้าวเองหรอกเหรอครับ แล้วทำไมต้องทำแบบนี้ด้วยล่ะครับ จ่อยถามทันทีที่ถูกเจตน์เรียกให้ไปพบแล้วก็บอกถึงเหตุผลที่แท้จริง นายไม่ต้องรู้ แค่ไปทำตามที่ฉันบอกก็พอ จะทำยังไงก็ได้ ที่จะให้ยายข้าวทำนาไม่สำเร็จตามที่พินัยกรรมระบุเอาไว้ เจตน์บอกด้วยน้ำเสียงที่ดุกว่าปกติ เพราะไม่ชอบให้ใครมาถามซอกแซก แต่ก็ต้องทนเพราะเขามองเห็นแค่จ่อยคนเดียวเท่านั้น ที่พอจะทำงานให้เขาได้
ผมว่าตอนนี้คงจะทำอะไรไม่ได้หรอกครับคุณเจตน์ เขาบอกด้วยใบหน้าที่เจื่อน ๆ เพราะรู้สึกกลัวเจตน์ขึ้นมา ทำไมล่ะ มันติดอะไร ช่วยบอกให้ฉันรู้หน่อยซิ ก็เมื่อวานผมเพิ่งจะคุยกับเมียมา รู้ว่าคุณข้าวเพิ่งจะหว่านข้าวไปเอง มันไม่มีลู่ทางที่จะทำให้ข้าวเสียหายได้เลยครับ แล้วผมก็ไม่รู้ด้วยว่าจะหาวิธีไหนมาทำ คุณเจตน์ไม่ได้บอกผมไว้แต่เนิ่น ๆ ผมขอไปคิดก่อนจะได้มั้ยครับ จ่อยบอกตามตรง
ทำไมมันยากเย็นขนาดนั้นเลยเหรอ กับอีแค่ไปทำให้ข้าวในนามันตาย หรือไม่ก็ทำให้มันไม่ได้ผลผลิตนี่ เขาชักจะหงุดหงิดเพราะจ่อยให้คำตอบที่ไม่ได้ดังใจ มันก็พอจะมีวิธีอยู่หรอกครับคุณเจตน์ แต่เราจะทำตอนนี้ไม่ได้ เพิ่งจะหว่านข้าว ผมมองไม่เห็นทางที่จะทำให้มันตายได้ หรือถ้ามีวิธีทำได้ เดี๋ยวคุณข้าวก็ต้องมาหว่านซ่อมอยู่ดี สู้รอสักพักให้ข้าวมันโตกว่านี้หน่อย คงจะพอมีวิธีให้ลงมือได้บ้างครับ หรือถ้าไม่อย่างนั้นก็รอให้ธรรมชาติเป็นคนลงมือแทนเราก็ได้ จ่อยแนะ
ยังไง เขาเริ่มจะพอใจในคำตอบของจ่อยแล้ว ก็ถ้าฝนตกหนัก ๆ ก็อาจจะน้ำท่วมทำให้ข้าวตายได้ หรือไม่ก็ฝนไม่ยอมตกข้าวก็อาจจะแห้งตายได้เหมือนกันไงครับ แล้วถ้ามันไม่เป็นอย่างที่นายว่าล่ะ เขาสงสัย โอย มันต้องมีทางสิครับ ไม่อย่างนั้นชาวนาก็ทำนารวยกันหมดสิครับ เอาไว้ให้ผมหาวิธีได้แล้วผมจะบอกคุณเจตน์ก่อนลงมือก็แล้วกันนะครับ แล้วบางทีผมอาจจะต้องไปสำรวจที่บ้านด้วยตัวเอง แล้วผมเบิกค่าใช้จ่ายได้หรือเปล่าครับ จ่อยทำเสียงอ่อย ๆ แต่ก็ต้องถาม เพราะมีเรื่องเงินมาเกี่ยวข้อง ซึ่งเขาจำเป็นจะต้องรู้ให้แน่นอน
ได้ทุกอย่าง แต่ต้องทำงานให้สำเร็จนะ เขาบอก ครับ แล้วถ้าผมทำไม่สำเร็จล่ะครับคุณเจตน์ จ่อยไม่วายเป็นกังวล เอาไว้ให้มันถึงเวลาก่อนก็แล้วกัน แต่มันไม่มีอะไรน่ากลัวหรอก ฉันไม่ใช่คนใจดำอะไร ที่ฉันให้ทำแบบนี้ฉันก็มีเหตุผลของฉัน แต่ฉันรับรองว่าไม่มีใครจะได้รับอันตรายจากงานนี้หรอก อย่างมากนายก็อาจจะตกงานแค่นั้น ถ้าทำไม่ถูกใจฉัน เพราะฉะนั้นก็ตั้งใจทำตามที่ฉันสั่งให้ดี ๆ หมดธุระะแล้วไปทำงานต่อได้ และอย่าลืมนะ ห้ามให้ใครรู้เด็ดขาด เขากำชับจ่อยอีกครั้ง
โสภณและนาถยามองลูกสาวที่เดินลงมาจากชั้นบนอย่างคนอารมณ์ดี เพราะฮัมเพลงยอดฮิตลงมาด้วย ทั้งสองมองหน้ากันด้วยความสงสัย เพราะเห็นการแต่งตัวของลูกสาวเหมือนจะไปออกรบที่ไหนก็ไม่ปาน อะไรกันจ๊ะยายโอ๊ะ จะไปไหนทำไมแต่งตัวซะมิดชิดขนาดนั้น แล้วพี่เราล่ะตื่นนอนหรือยัง นาถยาถามลูกสาวด้วยความสงสัย เพราะเห็นใส่กางเกงขายาวเสื้อแขนยาว แล้วยังมีหมวกไปเบ่อเร่อติดมือมาด้วยอีก โอ๊ะจะไปช่วยพี่น้ำหว่านข้าวค่ะ มัวแต่ยุ่ง ๆ เลยไม่ได้ไปช่วยเลย สายมากแล้วไม่รู้พี่อ่องมัวทำอะไรอยู่ กว่าจะไปซื้อแหนมเนืองอีก เธอตอบก่อนที่จะเดินมานั่งใกล้ ๆ พ่อและแม่
อ้าวเหรอ แล้วพี่เราก็จะไปด้วยกันรึไง ตั้งแต่กลับมาบ้านนี่ ยังไม่ได้อยู่กับพ่อกับแม่สักเท่าไหร่เลยนะ วัน ๆ ก็ทำแต่งานพอตกเย็นก็ไปหาเพื่อน พอวันหยุดก็ไปโน่นไปนี่เรื่อยเลย นาถยาอดบ่นลูกชายคนโตไม่ได้ เพราะตั้งแต่จบโทมาจากอเมริกาได้ไม่กี่วัน ก็สอบเข้าไปทำงานที่อำเภอได้ จึงไม่ค่อยมีเวลาให้พ่อแม่สักเท่าไหร่ โอยคุณแม่คะ โอ๊ะบอกพี่อ่องแล้วนะคะว่าให้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่ แต่พี่อ่องสิคะ พอรู้ว่าแถวนั้นมีสาว ๆ สวย ๆ ก็อยากจะไปเที่ยวบ้างค่ะ แต่เอาพี่น้ำมาบังหน้าค่ะ บอกว่าไม่เจอพี่น้ำตั้งนานแล้ว อยากจะไปเที่ยวหาคิดถึง สมิตารู้ทันพี่ชาย
แอบนินทาพี่อีกแล้วนะยายโอ๊ะ ดนัยรีบขัดคอน้องสาวขณะที่ตัวเองแทบจะวิ่งลงมาตามบันได เพราะรู้ว่าเลยเวลานัดของน้องสาวไปหลายนาทีแล้ว ใครว่านินทาเค้าพูดให้ได้ยินต่างหาก เสร็จหรือยังเร็ว ๆ เข้า เดี๋ยวเค้าต้องไปซื้อของอีก สมิตาที่มีอายุน้อยกว่าพี่ชายแค่สองปีจึงเหมือนเพื่อนกันมากกว่าจะเป็นพี่กับน้อง เดี๋ยวตาอ่อง ตั้งแต่กลับมาแล้วก็ตะลอน ๆ ไปทั่วเนี๊ยะ พาน้องเฟิร์นไปเที่ยวที่ไหนบ้างหรือเปล่า เมื่อกี้ยายโอ๊ะบอกว่ามีสาว ๆ สวย ๆ นี่มันใครที่ไหนกัน อย่าเที่ยวไปสุงสิงกับผู้หญิงส่งเดชนะ ผิดผีลูกบ้านไหนมาแม่ไม่รับเป็นสะใภ้นะจะบอกให้ สะใภ้แม่จะต้องเป็นหนูเฟิร์นคนเดียวเท่านั้น นาถยามักจะบอกลูกชายเสมอ ๆ
โธ่คุณแม่ครับ ให้ผมได้ใช้ชีวิตโสดของผมบ้างสิครับ ผมเพิ่งจะอายุแค่นี้นะ ให้ผมได้บริหารความหล่อบ้าง ส่วนเรื่องน้องเฟิร์นเอาไว้ทีหลังก็แล้วกันนะครับ ดนัยมักจะบอกมารดาแบบนี้เสมอ ๆ ตั้งแต่ที่ตัวเองยังไม่ไปเรียนต่อโทด้วยซ้ำ เพราะเขายังไม่อยากจะเอาชีวิตโสดไปผูกติดไว้กับการแต่งงานก่อนวัยอันควร อย่ามามั่วนิ่ม น้องเฟิร์นเรียนจบและทำงานแล้ว พ่อแม่เขาก็อยากจะให้เราให้ความมั่นใจ ฉันจะบอกให้นะว่าลูกผู้ว่าฯ ไม่มีให้เราเลือกบ่อย ๆ หรอกนะ แม่ขอห้ามว่าอย่าไปทำอะไรที่แม่กับพ่อไม่ชอบ ไม่งั้นได้เห็นดีกัน นาถยาต้องขึ้นเสียงกับลูก
เฮ้อ คุณพ่อครับช่วยหน่อยสิครับ เขาโอดครวญกับพ่อ ไปกันเถอะลูกสายมากแล้ว ทางนี้พ่อจะจัดการเอง โสภณให้ทางลูก ๆ คุณนี่อย่างนี้ทุกทีเลย แทนที่จะช่วยกันสั่งสอนลูก กลับให้ท้ายแบบนี้ คอยดูนะไปคว้าผู้หญิงข้างถนนมาทำเมียฉันจะไม่ไปบายศรีให้มันจริง ๆ ด้วย แล้วคุณก็เตรียมย้ายไปอยู่อำเภออื่นได้เลย ท่านผู้ว่าฯ ไม่เก็บคุณไว้หรอก นาถยาเอ็ดสามี แม่คะอย่าบ่นนักเลยค่ะ งั้นเราไปก็เถอะพี่อ่องเค้าสายมากแล้ว ไปนะคะคุณพ่อคุณแม่ สมิตารีบไหว้พ่อแม่และดึงแขนพี่ชายให้วิ่งออกจากบ้านทันที เพราะขืนอยู่นาน ๆ มีหวังได้ฟังเทศนากัณฑ์ใหญ่แน่ ๆ
เฮ้อ หูชาเลย เพราะเราคนเดียวแท้ ๆ เลย ดนัยเอามือไปเขกศีรษะน้องสาวที่นั่งรถมาด้วย นี่มาเขกหัวเค้าทำไม ตัวเองโชคร้ายเอง ช่วยไม่ได้ แล้วยายเฟิร์นไม่ดีตรงไหนถึงไม่ค่อยอยากจะไปหานัก สมิตาบ่นพี่ชายอีกคน ไม่ใช่ไม่อยากไปหา แต่พี่แค่ยังไม่อยากจะแต่งงานตอนนี้นี่นา ชีวิตคนเรามันต้องเจออะไรอีกมากมาย ไม่เห็นจะต้องรีบจับแต่งเลย ยายเฟิร์นเองก็ไม่ได้รีบร้อนอะไร พี่ไปหาอาทิตย์ที่แล้วยังคุยกันดี ๆ อยู่เลย ว่าที่พ่อตาก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วไอ้ที่บอกว่า ชีวิตคนเรามันต้องเจออะไรอีกมากมาย นี่หมายถึงสาว ๆ อีกมากมายหรือเปล่าล่ะ น้องสาวรู้ทัน
แหม เรานี่แกแดดอีกแล้วนะ แล้วตกลงมีสาวสวย ๆ จริง ๆ เหรอ เขาถามน้องสาว เพราะสมิตาเคยเล่าให้ฟังเรื่องความสวยของภรัณยาจนทำให้เขาอยากจะมาเห็น แต่ก็ไม่มีโอกาสสักที เพราะน้องสาวตัวดีไม่ว่างพามา ครั้นจะมาเองก็คงจะเข้าไม่ถึงตัวสาวเจ้า เพราะไม่รู้จักกัน มีสวย ๆ จริง แต่ไม่รู้ว่าจะได้เจอหรือเปล่านะ ไม่รู้ว่าตอนนี้พี่น้ำหว่านข้าวที่นาคุณข้าวหรือว่านาตัวเองอยู่ โอ๊ะก็ลืมโทรไปถาม แต่ถ้าไม่เจอที่นาเราก็ไปเที่ยวหาที่บ้านได้ แต่ตอนนี้ไปซื้อแหนมเนืองก่อน เธอให้ความหวังพี่ชาย
บรรยากาศที่ท้องทุ่งนาวันนี้ค่อนข้างจะคึกคักเป็นพิเศษ อากาศก็ครึ้มฟ้าครึมฝนกำลังพอดี หลังจากอาหารเช้าเสร็จทุกคนมีใบหน้าที่ยิ้มแย้มแจ่มใสกว่าหลาย ๆ ตั้งแต่ได้กรำแดดกรำฝนมายี่สิบกว่าวันแล้ว วันนี้ทั้งหมดหวังจะปิดงานหว่านข้าววันสุดท้าย ทุกคนเดินลงจากบ้านของเขมินท์ไปที่หน้านา เพราะทิศทางการหว่านนั้น เขาใช้วิธีหว่านจากเถียงนาของเขาไล่ลงมาทางบ้านที่ติดกับที่นาอีกฟากหนึ่ง เพื่อที่จะได้สะดวกในการเก็บรถไถและอุปกรณ์หนักอื่น ๆ
ภรัณยาพร้อมมณฑามาช่วยเขมินท์แทบจะทุกวัน แต่ไม่ต้องมาแต่เช้ามืดเหมือนตอนที่หว่านที่นาตัวเอง แล้วก็ไปช่วยหว่านเป็นพัก ๆ พอเหนื่อยหน่อยเธอก็จะคอยป่วนเขาและคนอื่น ๆ ให้ทุกคนพอได้เสียงหัวเราะบ้าง ป้าหวางกับลุงคำนั้นมาทำงานตามปกติ เพราะทุก ๆ ปีทั้งสองก็จะผูกขาดเป็นลูกจ้างชั่วคราวจนเกือบจะเป็นประจำให้กับเขาอยู่แล้ว เพราะเขามีงานทำนาให้คอยรับจ้างเกือบจะทั้งปี ส่วนเจนจิราและเชอร์รี่อยู่ช่วยหว่านข้าวที่นาของเพื่อนรักจนเสร็จจึงกลับไปดูร้านเบเกอร์รี่ต่อ
ยายข้าวทำไมวันนี้ไม่คลุมหน้าไว้ล่ะลูก เดี๋ยวหน้าก็ดำหรอก มณฑาเตือนหลานสาวด้วยความห่วง แม่ป้าคะวันนี้ไม่มีแดดหรอกค่ะ รับรองว่าหน้าข้าวไม่ดำหรอก เธอหันไปบอกแม่ป้าที่หว่านถัดจากเธอไป หน้าดำขึ้นมาจนหาแฟนไม่ได้ จะมาโทษว่าแม่ป้าไม่เตือนไม่ได้นะ โธ่แม่ป้าคะ อย่างข้าวนี่เขาเรียกว่าสวยเลือกได้อยู่แล้วค่ะ ไม่มีวันที่จะหาแฟนไม่ได้หรอกค่ะ เธอบอกด้วยความมั่นใจจนทำให้เขมที่หว่านข้าวต่อจากมณฑาถึงกับหัวเราะออกมา
นั่นสิคุณมณ อย่างหนูข้าวนี่ผมว่าไม่น่ากลัวว่าจะหาไม่ได้นะ น่าจะกลัวว่าจะมีมาให้เลือกเยอะเกินไปมากกว่า เขาออกความเห็น เพราะรู้สึกเอ็นดูเด็กคนนี้จริง ๆ เลย ยิ่งได้อยู่ทำงานใกล้ ๆ ติดต่อกันมาหลาย ๆ วันแบบนี้แล้ว ทำให้เขาชอบในความเป็นคนที่ตรงไปตรงมาของเธอไม่น้อยเลยทีเดียว ช่างเฟิร์มซะไม่มีนะ สวยเลือกได้ เขมินท์บ่นเบา ๆ แค่นั้น เพราะทนฟังคนขี้โม้ไม่ไหวจริง ๆ นี่คุณฉันได้ยินนะ ว่าอะไรฉัน เธอแขวะเขา อ้าว ถ้าได้ยินแล้วมาถามผมอีกทำไมกัน เขาย้อน
ฉันคุยกับแม่ป้าอยู่ดี ๆ มายุ่งทำไมไม่ทราบ งานของตัวเองหน่ะรีบ ๆ ทำเข้าไป วันนี้คุณต้องท่องเอาไว้ว่า ๖๐ ไร่ขึ้น อย่าลืมนะว่าฉันยังมีอีกเจ็ดร้อยไร่รออยู่อีก นี่คุณโชคดีมาก ๆ นะรู้มั้ย ที่มีลุงคำ ป้าหวาง คอยแสตนบายอยู่ แล้วก็โชคดียกกำลังสอง ที่มีฉัน กับแม่ป้ามาช่วยหว่านและแต๋นมาช่วยทำกับข้าวให้แบบนี้ ถ้าคุณต้องทำเองคิดเองทุกอย่างล่ะก็ จ้างให้ก็ไม่มีทางเสร็จ เธอล้อเลียนคำพูดของเขา ที่เฝ้าพูดกรอกหูเธอจนหูแทบชา ตลอดระยะเวลาที่ต้องหว่านข้าวให้เสร็จ ล้อเลียนเหรอ เดี๋ยวเจอดีแน่ เขามองไปยังเธอที่ทำหน้ายียวนใส่เขาด้วยความสนุก
ก็รึไม่จริงล่ะ ดูซะก่อนซิ ว่าชาวบ้านเขาหว่านไปถึงไหน ๆ แล้ว ตัวเองยังรั้งท้ายคนอื่นอยู่ คุณนี่ไม่สมกับเป็นเจ้าของนาเลยนะ เขามีแต่เจ้าของจะต้องเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง แต่ดูคุณซิ อาศัยแต่แรงคนอื่น อายหน่ะสะกดเป็นมั้ย ถ้าไม่เป็นจะให้คุณโอ๊ะมาช่วยสอนให้ แหวะ ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ เธอพูดแล้วก็แลบลิ้นใส่เขาพร้อม ๆ กับหัวร่อชอบใจ ยังไม่ยอมหยุดอีก แบบนี้ต้องเจอดีแน่ ๆ นี่ไงดูนี่สิ ว่านี่มันอะไรเอ่ย เอ้าให้ เป็นรางวัลที่มาช่วยงาน เขาว่าแล้วก็เดินไปหาเธอมือก็ถือบางอย่างซ่อนไว้ข้างหลัง แล้วก็ไปยื่นใกล้ ๆ หน้าเธอ
อะไร ว๊าย งู ๆ ๆ ๆ แม่ป้าช่วยด้วยค่ะ อีตาบ้า เอาไปไกล ๆ นะ เพียงแค่ได้เห็นสิ่งในมือของเขา ที่ยื่นไปตรงหน้าให้เธอเท่านั้น ถังข้าวบนบ่าก็ถูกทิ้งอย่างไม่สนใจ แล้วเธอก็วิ่งจนโคลนราบไปเป็นแถบ ๆ เพราะความกลัว ยายข้าวเป็นอะไร ว๊าย งู ๆ ๆ ๆ ๆ มณฑาตกใจที่เห็นหลานวิ่งแต่แรกอยู่นั้น แต่พอเห็นสิ่งที่อยู่ในมือของเขมินท์แล้ว ก็กลัวจนวิ่งหนีไม่แพ้หลานสาวเลย ทั้งสองพากันวิ่งไปหลบอยู่ข้าง ๆ เขม ทำให้ทุกคนทั้งขำและตกใจไปตาม ๆ กัน เจ้าน้ำเล่นอะไรไม่รู้เรื่อง ดูสิน้ามณกับหนูข้าวกลัวกันหมดแล้ว โยนทิ้งเดี๋ยวนี้นะ เขมดุลูกชาย เพราะเห็นสองป้าหลานกลัวจนน้ำหูน้ำตาไหลไปตาม ๆ กัน
ผมขอโทษครับคุณน้า เขมินท์ยกมือไหว้มณฑาทั้ง ๆ ที่เจ้างูยังคงอยู่ในมือเขาอยู่ มณฑาได้แต่พยักหน้าให้ มันเป็นงูสาครับ ไม่มีพิษสงอะไร เรามักจะพบมันบ่อย ๆ ในนาข้าว แล้วอีกอย่างมันก็ตายแล้ว คงจะโดนรถไถเหยียบมั้ง พ่อบอกให้เอาไปทิ้งไงเจ้าน้ำ โตแล้วนะเราเล่นไม่ดูหน้าดูหลังเลย เขาบอกมณฑาและหันไปดุลูกชายอีกครั้ง แล้วเขมินท์ก็โยนเจ้างูทิ้งไปจนสุดกู่ อีตาบ้า คอยดูนะฉันจะเอาคืนให้เข็ดเลยไม่เชื่อคอยดู เธออาฆาตเขาไว้ด้วยน้ำเสียงที่เบาเมื่อกลับมาหน้านาตัวเอง เพราะไม่อยากจะให้ผู้ใหญ่ได้ยิน ฮ่า ๆ ๆ ทีหลังห้ามมาล้อเลียนอีกนะ อันนี้มันของตาย แต่ต่อไปรับรองว่าดิ้นได้ด้วย เขาเองก็บอกเบา ๆ ด้วยเหตุผลที่ไม่ต่างจากเธอ และก็ลอบยิ้มให้เธอด้วยความสะใจที่เห็นเจ้าหล่อนวิ่งจนโคลนราบ
พี่น้ำคะ คุณลุงคะ เสียงสมิตาร้องมาจากเขตบ้าน อ้าวหนูโอ๊ะ แล้วมากับใครล่ะนั่น เขมมองไปแล้วก็เห็นสมิตายืนอยู่กับใครบางคนที่ในมือมีถุงเต็มสองมือ อ๋อ มากับอ่องครับคุณพ่อ น้องโอ๊ะบอกว่ากลับมาได้จะถึงเดือนแล้ว แต่ไม่ได้มาหาเรา เขมินท์บอกแล้วก็วางถังข้าวไว้พร้อมกับเดินขึ้นไปหาสองพี่น้องทันที เพราะเป็นมารยาทเจ้าบ้านที่ดีที่จะต้องไปต้อนรับแขกที่มาเยือน สวัสดีค่ะคุณลุง คุณน้ามณ วันนี้โอ๊ะกับพี่อ่องจะมาช่วยปิดงานด้วยนะคะ พี่อ่องนี่คุณน้ามณ แล้วส่วนคนสวย ๆ คนนั้นก็คุณข้าวค่ะ สมิตาเดินลงมาพร้อม ๆ กับดนัยและเขมินท์ แล้วก็แนะนำพี่ชายทันที
สวัสดีค่ะหนูโอ๊ะ วันนี้เป็นวันดีจริง ๆ เลยนะคะคุณเขม มีคนมารุมเยอะแยะเลยค่ะ มณฑารับไหว้สองพี่น้องแล้วก็ยิ้ม สวัสดีหลาน ๆ เป็นไงบ้างพ่ออ่องกลับมาแล้วไม่เจอกันเลยนะ เขมรับไหว้ทั้งสองเช่นกัน ก็ดีครับ วันนี้ผมขอมาช่วยนะครับคุณลุง ขอบคุณครับพี่น้ำ ให้ผมอยู่ตรงไหน ตรงนี้ได้มั้ยครับ ดนัยบอกแล้วก็รับเอาถังจากเขมินท์ที่ยื่นให้ทั้งเขากับสมิตา แล้วเขาก็เลือกที่จะไปหว่านใกล้ ๆ กับภรัณยา สวัสดีครับคุณข้าว ยินดีที่ได้รู้จักนะครับ ผมอ่องเป็นพี่ชายยายโอ๊ะครับ เขาทักทายเธออีกที สวัสดีค่ะคุณอ่อง ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะ เธอยิ้มรับเพื่อนใหม่ด้วยรอยยิ้มที่สดใส จนทำให้ดนัยหันไปหาน้องสาวที่ยืนมองอยู่ใกล้ ๆ
เป็นอย่างที่เค้าว่าหรือเปล่าพี่อ่อง สมิตาถามและยิ้มให้พี่ชาย ไม่มีผิดเพี้ยนเลยยายตัวดี อย่างนี้ต้องมีรางวัล เขาบอกกับน้องสาวเป็นนัยรู้กันแค่สองพี่น้อง ซึ่งภรัณยาไม่รู้อะไรด้วย แต่ก็ยิ้มให้คนทั้งสองก่อนที่จะลงมือหว่านข้าวต่อ ส่วนเขมินท์นั้นพอเดาได้ว่าดนัยหมายถึงอะไร ซึ่งเขาไม่ค่อยจะชอบใจอยู่ลึก ๆ ไม่รู้เป็นเพราะที่เขารู้อยู่แก่ใจว่าดนัยนั้นช่ำชองเรื่องผู้หญิงมากแค่ไหน หรือเป็นเพราะที่เขาไม่ชอบให้ใครมาเล่นหูเล่นตากับเธอกันแน่ อันนี้เขาเองก็ไม่แน่ใจนัก
วันนี้โอ๊ะซื้อแหนมเนืองมาฝากคุณข้าวเยอะแยะเลยนะคะ สมิตาบอก ยายโอ๊ะซื้อครับแต่ให้ผมจ่ายเงิน คุณข้าวชอบหรือเปล่าครับ ดนัยรีบบอกก่อนที่น้องตัวดีจะทำคะแนนนำหน้าตัวเอง ชอบค่ะมีผักเยอะดีด้วย เธอตอบตามความจริง แล้วเธอก็จะคอยตอบคำถามต่าง ๆ ที่ดนัยสรรหามาถามเธอแทบจะไม่เว้นช่วง จนเวลาล่วงเลยไปเป็นชั่วโมง สองพี่น้องเริ่มเมื่อยขาขึ้นมาแล้ว
น้องโอ๊ะกับอ่องไปนั่งพักก่อนก็ได้ อีกไม่นานก็จะเสร็จแล้ว เขมินท์บอกเมื่อเห็นอาการของสองคน นั่นสิ ลุงว่าขึ้นไปพักบนบ้านก็ได้นะหนูโอ๊ะ แต๋นก็ไปเตรียมอาหารได้แล้วล่ะ เขมบอก คุณข้าวไปด้วยกันมั้ยครับ ดนัยหันไปถามเธอ ไม่ดีกว่าค่ะ ข้าวจะปิดงานให้เสร็จ รอมาตั้งเกือบเดือนแล้วเวลาแบบนี้ อยากรู้ว่ามันจะรู้สึกยังไง คุณอ่องกับคุณโอ๊ะไปก่อนเถอะค่ะ เตรียมแหนมเนืองเอาไว้ฉลองเลยนะคะ งั้นเจอกันข้างบนนะครับ ไปยายโอ๊ะเอามือมาเกาะแขนพี่ก็ได้ ดนัยบอกน้องสาว และก็ยื่นมือไปให้น้องเกาะ
หลังจากสองพี่น้องหายไปไม่นานนัก เสียงรถไถนาที่ดังสนั่นลั่นทุ่งก็เงียบลง ภรัณยาเงยหน้าขึ้นไปมองก็พบว่ารถไถถูกเอาขึ้นไปไว้บนเขตบ้านแล้ว เธอมองดูแปลงนาที่ไถทิ้งเอาไว้มีเหลือแค่สองแปลงเท่านั้น ทำให้เธอรู้สึกดีใจเป็นที่สุดที่วินาทีที่เธอรอคอยใกล้จะมาถึงในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้านี้
ไชโย แม่ป้าคะ เราใกล้จะเสร็จแล้วค่ะ ข้าวดีใจจริง ๆ เลยนะคะที่ข้าวได้อยู่ช่วยจนถึงตอนปิดงาน เธอบอกและยิ้มร่าด้วยความดีใจ จริงด้วยยายข้าว แม่ป้าก็ดีใจเหมือนกัน ไม่รู้พ่อเราจะดีใจแบบนี้บ้างหรือเปล่านะเวลาเสร็จงาน มณฑาก็มีอาการที่ไม่ต่างจากหลานสาวนัก เพราะเธอก็เรียกได้ว่าอยู่ช่วยตั้งแต่แรกจนสุดท้ายเหมือนกัน พลอยทำให้เขมินท์ยิ้มตามไปด้วย แต่ไม่ใช่ดีใจเพราะจะเสร็จงานหรอก เป็นเพราะเขาเห็นสีหน้าที่ดีใจจนเกินเหตุของเธอ กับแม่ป้าต่างหาก
ดีใจสิคุณ พอเสร็จงานนะพวกเราจะเปิดสาโทฉลองเลยล่ะ เขมบอกพร้อมกับยิ้มกว้าง ไข่ ไก่ และแมวรีบเดินลงมาหน้านาช่วยหว่านส่วนที่เหลืออย่างไม่รอช้า แล้วพื้นที่ว่าง ๆ มันก็แคบลง ๆ จนในที่สุด นี่ ๆ คุณอันนี้ขอฉันนะ เธอห้ามไม่ให้เขมินท์หว่านลงไปในพื้นที่สุดท้าย แต่ตัวเองขอเป็นคนปิดงานเอง เสร็จแล้วไชโย้ ไชโย คุณพ่อคุณแม่ขา ข้าวทำนาเสร็จแล้วนะคะ ดีใจกับข้าวหรือเปล่าคะ เธอแหกปากร้องแทบจะลั่นทุ่งเพราะความดีใจจนเกินพิกัด ร้องไม่ร้องเปล่ายังยกไม้ยกมือและก็วิ่งไปรอบ ๆ ทำให้ทุกคนพลอยดีใจและสนุกสนานไปด้วย
นี่ ๆ คุณอย่าดีใจให้มันเกินเหตุหน่อยได้มั้ย อะไรกันแค่หว่านข้าวเสร็จ คุณยังไปได้ไม่ถึงครึ่งทางเลยนะผมจะบอกให้ ปลูกมันแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะได้ผลเสมอไป คุณยังต้องมาคอยดูแลมันอีกนานกว่าจะได้เก็บเกี่ยว ผมว่าคุณเอาไว้ดีใจตอนที่ได้ข้าวมาเป็นเม็ด ๆ จะดีกว่า เพราะถ้ามันไม่ได้ข้าวขึ้นมา บอกตรง ๆ นะว่าอายแทน เขารีบขัดจังหวะเธอทันที เพราะแม่คุณออกจะดีใจจนโอเวอร์ นี่ฉันรู้แล้วน่า ไม่ต้องมาสอนหรอก ของตัวเองก็ดูแลให้มันดี ๆ เถอะ เชอะ เธอว่าแล้วก็สบัดก้นเดินตามคนอื่น ๆ ที่ทยอยขึ้นจากนา
โอ๊ย...สืด ๆ ๆ ฮื่อ ๆ ๆ แม่ป้าช่วยข้าวด้วย เพราะด้วยความที่ไม่ทันระวังเท้าก็เลยไปเหยือบโคลนที่ตกอยู่ตามคันนาทำให้ลื่นก้นจำเบ้าอยู่อย่างนั้น จนต้องร้องออกมาเพราะความเจ็บ ฮ่า ๆ ๆ ผมบอกแล้วว่าให้เอาไว้ดีใจทีหลัง ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ เขาหัวเราะชอบใจที่เห็นเธอนั่งแหมะอยู่อย่างนั้น ยายข้าวลุกไหวมั้ย เดินยังไงเรานี่ มณฑาที่เดินนำไปไกลแล้วร้องกลับมาถาม เจ้าน้ำช่วยน้องสิ อะไรยืนดูน้องอยู่ได้ เขมที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ มณฑารีบบอก เอามือมาสิครับคุณเข่า เขาเดินเข้าไปใกล้ ๆ แล้วก็ยื่นมือไปให้เธอใช้ดึง
ขอบใจนะ นี่แน่ะหัวเราะฉันดีนัก ลงไปเลย ด้วยความที่เธอโมโหที่ถูกเขาหัวเราะเยาะ พอเขาช่วยให้เธอลุกขึ้นได้แล้ว เธอก็เลยใช้มือสองข้างผลักร่างเขาไปอย่างแรงจนเขาต้องตกคันนาลงไปคลุกโคลนแทน ว๊าย ๆ ๆ แม่ป้าช่วยข้าวด้วย อีตาบ้า ปล่อยฉันนะ ปล่อยนะ นี่แหน่ะ ๆ เพียงแค่เขาลุกขึ้นได้ก็วิ่งไล่ดึงเอาร่างบาง ๆ ให้ตกลงไปในนาแล้วก็หอบเอาโคลนไปละเลงตามตัวเธอ ส่วนเธอก็ตอบโต้ด้วยวิธีเดียวกัน ปากก็ร้องขอความช่วยเหลือจากแม่ป้าอยู่อย่างนั้น
สองคนนี่พอกันได้แล้วเล่นอะไรไม่รู้เรื่องเลย ว้าย คุณเขมระวัง มณฑารีบเดินกลับมาห้ามพร้อมกับเขม แล้วก็รีบเอาตัวหลบเจ้าโคลนที่หลานสาวควักเอาไปปาใส่เขมินท์แต่เขาหลบทันมันก็เลยลอยไปหามณฑาแทน จนทำให้ทั้งมณฑาและเขมได้รับรางวัลไปเต็ม ๆ อุ๊ยแม่ป้า คุณลุงข้าวขอโทษค่ะ เธอหน้าเจื่อนเพราะปาผิดเป้า ฮ่า ๆ ๆ นี่แหน่ะ เก่งจริงก็ปาให้โดนสิครับคุณเข่า เขาควักโคลนแล้วก็ปาไปใส่เธอเต็ม ๆ พร้อม ๆ กับทำหน้าล้อเลียนจนอีกฝ่ายโกรธเลือดขึ้นหน้า แล้วทั้งแม่ป้าและคุณลุงของเธอก็เลยพลอยโดนลูกหลงไปหลาย ๆ ลูก
นี่คุณบอกให้ลูกชายคุณหยุดได้แล้ว เปื้อนกันหมดแล้วนะ มณฑาดุเขมที่ออกจะสนุกกับเด็ก ๆ คุณก็บอกหลานสาวคุณหยุดด้วยสิ เห็นมั้ยปาก็ไม่โดนเจ้าน้ำแต่มาโดนเราแทน เขมขัดคอ นี่คุณเข้าข้างลูกตัวเองเหรอ นี่แหน่ะรักกันจังนะ ว่าแล้วมณฑาก็ก้มไปกำเอาโคลนตามคันนาปาไปใส่เขมด้วยความหมั่นไส้ อะไรกันคุณ เล่นอย่างนี้เลยเหรอ แล้วอย่าหาว่ากำนันไม่เตือนนะ เขมนึกสนุกขึ้นมาเลยตอบโต้มณฑาด้วยการดึงเธอตกลงในนาตามหลานสาวไป ว๊ายคุณเขมปล่อยฉันนะ ปล่อย ยายข้าวช่วยแม่ป้าด้วย แล้วศึกสองสายเลือดก็ประทุขึ้นอยู่กลางทุ่ง ด้วยความสนุกสนาน กว่าจะสงบศึกกันได้แต่ละคนมีสภาพที่มอมแมมเหมือนลูกหมาตกน้ำยังไงยังงั้น
คุณมณผมว่าให้แต๋นไปเอาเสื้อผ้าที่บ้านมาให้คุณที่นี่เถอะ จะได้อาบน้ำแต่งตัวใหม่ด้วย พวกเด็ก ๆ คงหิวจนจะไส้กิ่วแล้วล่ะ เขมบอกเมื่อทั้งหมดเดินขึ้นมาถึงบ้านแล้ว แต๋นไปเอามาให้แล้วค่ะ ทั้งของคุณแม่ป้าและของคุณข้าวเลย ไปอาบน้ำแล้วก็มากินข้าวเถอะค่ะ อาหารเตรียมจะเสร็จแล้ว อีกหน่อยพวกนั้นก็คงจะมากัน แต๋นบอกเพราะทุก ๆ คนเมื่อขึ้นนาได้ก็รีบพากันไปอาบน้ำเรียกความสดชื่นให้กับร่างกาย ก่อนที่จะมากินข้าวร่วมกันมื้อสุดท้าย หลังนาเสร็จ
แหม รอบคอบจริง ๆ นะเรา ไปยายข้าวไปอาบน้ำกันเถอะเปื้อนหมดแล้ว มณฑาบอกหลานสาว ผมว่าคุณไปใช้ห้องน้ำของผมดีกว่า หนูข้าวก็ไปใช้อีกห้อง ส่วนเจ้าน้ำมันจะได้ไปใช้ห้องของมันจะได้เสร็จเร็ว ๆ ผมเริ่มหิวแล้ว เขมรีบเสนอขึ้น เอ่อ ก็จริงนะฉันก็มัวแต่เล่น แล้วคุณล่ะคะ เธอหันมาถามเขาเพราะสภาพก็ไม่ต่างกัน ผมอาบจากโอ่งข้างล่างนี้ก็ได้ ไปเถอะ เขาบอกพร้อม ๆ กับพาเธอไปส่งให้ถึงห้องน้ำ ส่วนหลานสาวก็รีบเดินตรงไปยังห้องน้ำทันทีเหมือนกัน
เสียงรถเข้ามาจอดที่บ้านในเวลาเกือบทุ่มหนึ่ง นาถยาและสามีชะเง้อคอออกไปดูก็รู้เป็นของลูกชายตัวแสบที่หายไปตั้งแต่ตอนสาย ๆ พร้อม ๆ กับน้องสาว
พากันแล้วเหรอจ๊ะพ่อคุณแม่คุณ นาถยาถามแบบประชดสองพี่น้อง แล้วก็ทำหน้างอใส่ลูก สมิตาได้แต่มองไปหาพี่ชายเหมือนจะรู้กัน เธอรีบเดินไปกอดร่างแม่เอาไว้ โอ๊ะมีของมาฝากด้วยนะคะ เธอบอก แล้วเป็นไงบ้างลูก ได้ช่วยเขาหว่านข้าวบ้างมั้ย โสภณถามลูกชายที่ทรุดตัวลงนั่งใกล้ ๆ พ่อ ได้หว่านและก็ได้เจอสาวสวยตามที่พี่อ่องต้องการด้วยค่ะคุณพ่อ สมิตาแย่งพี่ชายตอบ หือ ใครกันสาวสวย แถวนั้นมีด้วยเหรอ พ่อไม่ยักกะเห็นใครที่ไหนเลย โสภณถามด้วยความสงสัย
ก็คุณข้าวไงคะคุณพ่อ แหม เจอกันตั้งสองครั้งทำเป็นจำไม่ได้ สมิตาบอกและยิ้มแหย่พ่อ อ๋อ จำได้แล้ว อื้ม หนูคนนั้นสวยจริง ๆ ด้วย ยิ่งวันที่ทำบุญบ้านเจ้าเขมนะ ใส่ผ้าซิ่นแล้วยิ่งสวย พี่อ่องได้เห็นแค่แป๊บเดียวถึงกับเก็บมาละเมออยู่นี่ไงคะคุณพ่อ อะไรกันยายโอ๊ะ ละมงละเมออะไรพูดให้มันดี ๆ นะ แม่ว่าก็ไม่เห็นจะสวยตรงไหนเลย สู้หนูเฟิร์นก็ไม่ได้ สวยและรวยด้วย การศึกษาก็ดี เหมาะสมกับลูกชายแม่ที่สุด นาถยาทำตาเขียวใส่ลูกสาว
แหม คุณแม่ก็ คุณข้าวก็ฐานะดีนะคะ มีที่นาตั้งสามร้อยไร่ การเรียนก็จบโทเชียวนะคะถึงจะแค่เมืองไทย แต่แกจบตรีจากเมืองนอกเลยนะคะ สมิตาแย้ง แต่ไม่ได้เป็นลูกผู้ว่าฯ และที่แย่ไปกว่านั้น เป็นกำพร้าทั้งพ่อและแม่ด้วย ไม่เอาทีหลังอย่ามาอวดสรรพคุณผู้หญิงคนนี้ให้แม่ได้ยินนะ ทั้งเราและตาอ่องด้วย จำไว้นะว่าสะใภ้แม่ต้องเป็นหนูเฟิร์นคนเดียวเท่านั้น นาถยายื่นคำขาด เฮ้อ คุณพ่อครับ คุณแม่เป็นเอามากจริง ๆ ด้วยครับ หนูเฟิร์นฟีเวอร์จริง ๆ เลย ไม่เอาแล้ว ไปอาบน้ำดีกว่า ดนัยบอกแล้วก็เดินหายขึ้นไปชั้นบนทันที เพราะไม่อยากจะได้ยินประกาศิตของมารดาที่อาจจะประกาศห้ามไม่ให้เขาไปหาภรัณยาอีกก็เป็นได้ ซึ่งอันนี้เขาบอกได้เลยว่าห้ามยาก เพราะใบหน้าสวย ๆ ของเธอนั้น ติดตาติดใจเขาเข้าให้แล้ว
|
Create Date : 09 ตุลาคม 2551 |
|
0 comments |
Last Update : 9 ตุลาคม 2551 9:57:28 น. |
Counter : 357 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|