Group Blog
 
 
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
22 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
ร้อยรวงใจ ๑๓ (ธัญรัตน์)




ร่างที่ดูจะบึกบึนและปราดเปรียวอยู่ในที เดินตรวจสินค้าที่จัดเรียงเอาไว้ในร้านแทบจะทุกชั้นและทุกรายการก็ว่าได้ เขมินทร์มักจะให้เวลากับที่ร้านมินิเฟรชของเขาแทบทุกวัน ที่เขาสามารถหาเวลาว่างได้ เพราะมันคือโปรเจคแรกของเขา ที่เขาขอยืมทุนจากพ่อมาก่อตั้งขึ้นมา ตั้งแต่ที่เขาเรียนจบปริญญาโทมาได้ไม่นาน

ซึ่งคอนเซฟร้านของเขาก็คือ เขาจะรับของที่มาจากไร่นาของเขา และจากชาวบ้านที่มาขายให้เขาทั้งสิ้น จะไม่มีการไปหาซื้อที่ตลาดสดมาขายเป็นอันขาด และสินค้าที่ขึ้นชื่อที่ร้านของเขาก็คือ ปลาส้มพ่อเขม เพราะเขาได้แนวคิดมาจากเวลาปลาที่บ่อที่เขาเลี้ยงเอาไว้ เกิดล้นตลาดจนไม่มีที่ระบายไปไหน เขาจึงค้นหาข้อมูลทางอินเตอร์เน็ต และก็มาจบที่การเอาปลาพวกนั้นมาทำปลาส้มนั่นเอง

นอกจากนั้นเขาก็ยังนำข้าวที่มาจากนาของเขาเอง มาบรรจุถุงประทับยีห้อเดียวกับปลาส้มแล้วก็ขาย ถึงแม้ว่าชาวบ้านแถวนี้จะไม่สนใจจะซื้อข้าวของเขา แต่ลูกค้าในตัวเมืองและลูกที่ข้ามฟากมาจากฝั่งลาวก็เป็นกลุ่มเป้าหมายสำคัญของเขาแทน เพราะเขาตั้งใจสร้างร้านมินิเฟรชเอาไว้สองฝั่งของถนนมิตรภาพ ฝั่งหนึ่งจะตั้งอยู่ตรงทางแยกไปสะพานไทยลาว เอาไว้อำนวยความสะดวกให้ลูกค้าชาวลาวที่จะไปข้ามกลับไปประเทศ และอีกฝั่งหนึ่งจะตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งลูกค้าที่จะไปจังหวัดอุดรธานีหรือจังหวัดอื่น ๆ ที่ต้องผ่านเส้นทางนี้สามารถจอดรถซื้อได้อย่างสะดวกสบาย

และนอกจากนั้นเขาก็ยังมีร้านขายผ้าไหมและผ้าฝ้ายที่แยกร้านออกไปอยู่ติดกับมินิเฟรชด้วย ผ้าพวกนี้เขาไม่ได้มาจากคนในหมู่บ้านทั้งหมด แต่เขาไปรับที่อำเภอนาข่ามาขายอีกทอดหนึ่ง ร้านนี้เขาตั้งใจเปิดเพื่อจับลูกค้าชาวต่างชาติที่แวะเวียนเข้ามาหาซื้อของฝาก หลังจากไปเที่ยวฝั่งลาวมาแล้ว แต่ก็มีลูกค้ากลุ่มนี้ไม่มาก ไป ๆ มา ๆ ลูกค้ากลุ่มใหญ่ของเขากลับเป็นคนไทยแทน แต่เขาก็ดีใจเป็นที่สุดที่ยังไงผ้าไหมกับคนไทยก็ยังไปด้วยกันอยู่ดี

“อ้ายน้ำยายเอาบักอื๋อมาขายให้จ้า” พนักงานในร้านซึ่งเป็นคนในหมู่บ้านของเขาแทบทั้งหมด เดินมาบอกด้วยภาษาอีสาน เขาหันมายิ้มให้และก็เดินตรงไปที่รับซื้อของสดทันที
“ยายบักอื๋อคืองามแท่มื่อนี่ น้วยน้อย ๆ กะมีน้อ ไสเบิงได้จั๊กโล” เขาส่งภาษาท้องถิ่นกับยายแก่ ๆ ที่เป็นคนส่งผักประจำให้เขา เพราะรู้ดีว่าคนแก่มักจะไม่คุ้นกับภาษากลางเท่าไหร่

“โอ้ย มันกำลังออกนวยล๊ายหลาย ยายบ่ฮู่สิเฮ็ดจั๋งได๋กะเลยเอามาไห่น้าน้ำเบิงซะก๊อนคันบ่ซื่อเบิด ยายกะสิเอ่าไป่ขายตลาดนำกะได้ เอ่าทอน้าน้ำสิซื่อได้ฮั่นล่ะ” ยายบอก เพราะฟักทองลูกเล็ก ๆ มีเยอะจริง ๆ
“บ่เป๋นหยั่งดอกยาย ผมซื่อเอาไว้เบิดนี่ฮั่นล่ะ ยายไป่รับเงินนำนางน้อยโลดเด้อครับ แตง ๆ เดี๋ยวคิดเงินไห่ยายนำเด้อ” เขาตอบและยิ้มให้ยาย ก่อนจะหันไปสั่งคนงานแล้วก็เดินกลับเข้าไปที่ร้านอีก แต่ก็ต้องแปลกใจที่เห็นสมิตายืนยิ้มรออยู่ในร้านแล้ว ทั้ง ๆ ที่เวลานี้ยังไม่ใช่เวลาพักเที่ยงเลย

“น้องโอ๊ะ ลมอะไรหอบมาครับ ยังไม่พักเที่ยงเลยนี่ครับ หรือว่าคุณครูเกเรหนีนักเรียนออกมาครับ” เขาทักทายเธอ
“สวัสดีค่ะพี่น้ำ โอ๊ะจะมาซื้อของฝากไปจัดกระเช้าให้แขกที่มาเยี่ยมโรงเรียนค่ะ” สมิตาบอกและยิ้มให้เขา
“อยากจะได้อะไรดีครับ อย่าบอกนะว่าจะซื้อผ้าไหมไปให้แขก ขอบอกก่อนนะครับว่าพันขึ้นทั้งนั้น แต่ถ้าลูกท่านนายอำเภอจะออกเงินเอง ครูใหญ่ที่โรงเรียนก็คงจะยินดีไม่น้อยครับ” เขาแหย่เธอ

“พี่น้ำล่ะก้อ โอ๊ะหาเงินใช้เองตั้งแต่ได้เป็นลูกจ้างประจำแล้วนะคะ แต่ไม่รวมค่างวดรถคันโน้นนะคะที่เงินเดือนอันน้อยนิดของโอ๊ะคงไม่พอแน่ ๆ” เธอบอกและยิ้มให้ และชี้ไปที่รถคันหรูของเธอ
“งั้นก็เดินเลือกซื้อของในร้านก็แล้วกันนะครับ เดี๋ยววันนี้เจ้าของร้านจะบริการให้เองเลย และถ้าซื้อเยอะ ๆ จะจัดส่งให้ถึงห้องพักครูด้วยครับ” เขาบอกและเดินนำเธอไปยังชั้นวางสินค้า

“อุ๊ยตาย...ไม่ยักกะรู้นะคะร้านพี่น้ำก็มีกบกับเขียดมาขายด้วย แล้วใครจะมาซื้อล่ะคะนี่”
“ลูกค้าประจำก็คือกำนันเขมและกลุ่มเพื่อนครับ ท่านบอกว่าทอดกรอบ ๆ นี่เป็นกับแกล้มชั้นดีเลยครับ” เขายิ้มกว้างด้วยความอารมณ์ดี ทำให้สมิตามองเวลาเขายิ้มแล้วหัวใจแทบจะละลายลงไปตรงนั้น แต่ก็ต้องเก็บอาการเอาไว้อย่างมิดชิด และยิ้มให้เขาแทนแค่นั้น

เสร็จจากงานที่ร้านแล้วเขมินทร์ก็ออกไปตรวจดูโรงทำปลาส้ม ที่ทำไว้ใกล้ ๆ บ่อเลี้ยงปลานั่นเอง นอกจากจะแพ็คขายเป็นแพ็ค ๆ ในร้านแล้ว เขายังทำเป็นปี๊บส่งไปขายที่ตลาดสดในตัวเมืองอีกด้วย และก็จะมีลูกค้าที่สั่งเป็นประจำและครั้งละหลาย ๆ ปี๊บ เพื่อนำไปขายสดบ้าง หรือไม่ก็ทอดขาย แต่เขาก็จะทำในปริมาณที่ไม่มากเกินกำลังนัก เพราะจุดมุ่งหมายของเขาแค่อยากจะสร้างงานให้คนในหมู่บ้านเท่านั้น เพื่อไม่ให้คนหนุ่มสาวหนีเข้ากรุงเทพฯ แล้วทอดทิ้งคนแก่ ๆ ให้อยู่กับเด็ก

เสร็จจากตรวจงานแล้วเขาก็จะเข้าไปเช็คออเดอร์ของลูกค้า และจัดการส่งไปตามที่ต่าง ๆ โดยมีไข่คอยรับช่วงงานนี้ต่อ ส่วนไก่ก็จะดูแลประจำอยู่ที่ร้านบ้าง ไปดูงานในไร่บ้าง ตามแต่เขาจะสั่งงาน แล้วเขาก็มานั่งตรวจดูความเรียบร้อยของเอกสารที่ออฟฟิศเล็ก ๆ ที่เขาจัดเป็นห้องส่วนตัวเอาไว้ในส่วนหลังของร้าน เขาให้เวลากับงานในส่วนนี้ไม่น้อย เพราะเป็นงานเกี่ยวกับบัญชีและเงิน ๆ ทอง ๆ โดยจะมีพนักงานบัญชีรับผิดชอบโดยตรงอยู่แล้วถึงสามคน

“อุ๊ยตาย...ไม่ยักกะรู้นะคะร้านพี่น้ำก็มีกบกับเขียดมาขายด้วย แล้วใครจะมาซื้อล่ะคะนี่”

กับคำพูดของสมิตาทำให้เขาอดคิดถึงเจ้าเขียดตัวเขื่องที่ถูกแม่คุณกำซะเกือบจะแบนไปคามือไม่ได้ ป่านนี้แม่คุณจะกำลังทำอะไรอยู่นะ ตั้งแต่กลับไปได้เกือบเดือนแล้ว ทั้งแม่คุณและป้ายังไม่ได้ติดต่อมาที่พ่อเขาเลย มันทำให้เขาอดอยากจะรู้ว่าเธอจะตัดสินในยังไงไม่ได้ สามทางเลือกสำหรับเธอ คือขาย ปล่อยให้เช่าต่อ หรือมาทำตามที่พ่อเธอต้องการ ซึ่งทางเลือกสุดท้ายนี้ เขาให้คะแนนเป็นศูนย์เอาไว้อยู่แล้ว
ก็แม่คุณออกจะเปรี้ยวซะขนาดนั้น จู่ ๆ จะมาทำนานี่มันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยด้วยซ้ำ แล้วท่าของสาวน้อยตกน้ำถึงสองครั้ง กับกระโปรงสั้นจู๋ หรือกางเกงสีขาวที่เวลาเปียกน้ำทำให้เห็นอะไร ๆ ไปถึงไหน ๆ ของคุณเธอก็สร้างรอยยิ้มให้เขาขึ้นมาได้ง่าย ๆ

“นี่คุณจะมาบ่นอะไรไม่ทราบ แล้วคุณมาเกี่ยวอะไรด้วย ที่ก็ที่ของฉัน ฉะนั้นฉันจะทำอะไรมันก็เป็นสิทธิ์ของฉัน คุณไม่เกี่ยว วันนี้ฉันอุตส่าห์ดีใจแล้วเชียวนะที่จะไม่ต้องเห็นหน้าคุณ”
“แล้วฉันบอกคุณแล้วรึไงว่าฉันจะขายที่ หรือว่าฉันจะไม่มาทำนา หรือว่าฉันจะสละสิทธิ์ไม่รับที่ดินผืนนี้ คุณอย่ามาดูถูกฉันนะ กลับมาก่อนมาคุยกันให้รู้เรื่องนะนายน้ำ ห้ามเดินหนีฉันแบบนี้ ฉันเกลียดนายได้ยินมั้ย นายไม่มีสิทธิ์ที่จะมาว่าฉันแบบนี้นะ กลับมานี่”

เขาแทบจะหุบยิ้มเข้าเกือบไม่ทัน เมื่อสีหน้าและท่าทางของคุณเธอวันนั้นตามมาหลอกหลอนเขาจนถึงทุกวันนี้ ก็แล้วทำไมเขาจะต้องเก็บเอาผู้หญิงที่หาความเป็นกุลสตรีแทบจะไม่เจอเลยสักนิดเดียวมาใส่ใจด้วยนะ จะมีหน่อยก็แค่หน้าตาดี ผิวขาว ช่วงขายาวและเรียว กับหุ่นที่...เอ่อ...อะ...จะว่าเพอร์เฟคก็ได้ หล่อนก็มีแค่นี้เอง แต่ไม่ว่าจะยังไง คุณเธอหน่ะก็ยังห่างไกลกับสเปคของเขามาก ๆ เลยล่ะ เขาพร่ำบอกตัวเองอย่างนั้น

“แต๋นไปหยิบโฟมล้างหน้ามาให้ด้วย”
“แต๋นไปหยิบครีมอาบน้ำมาให้หน่อยในนี้มีแต่สบู่ยีห้อที่ฉันไม่เคยใช้ เดี๋ยวจะแพ้”

นี่ยังไม่นับรวมกับที่คุณเธอทำอะไรด้วยตัวเองไม่ได้ หรือไม่เป็น หรือไม่ทำก็ไม่รู้ เอะอะก็เรียก แต๋น ๆ ๆ ๆ และก็แต๋น แค่เขาเห็นเพียงครั้งเดียว เขาก็พอจะเดาได้แล้วว่า เวลาที่คุณเธออยู่บ้าน นอกจากตักข้าวเข้าปากเอง กับอาบน้ำเองแล้ว ที่เหลือก็คงจะเป็นหน้าที่ของแต๋นแทบทั้งหมดกระมัง

“เฮ้อ...ไม่รู้น้ามณฑลคิดยังไงกัน ถึงได้เขียนพินัยกรรมเอาไว้แบบนี้”
อย่าว่าแต่ให้มาทำนาเลย แค่ให้คุณเธอมาใช้ชีวิตอยู่ตามบ้านนอกแบบนี้ เขาก็พนันได้ว่าคงไม่เกินสามวันเป็นแน่

“นี่มันอะไรล่ะนี่ ทำไมเขาจะต้องเสียเวลามานั่งคิดถึงเรื่องของหล่อนทำไมกัน นี่มันหลุดคอนเซฟผู้ชายหล่อ ๆ เท่ห์ ๆ อย่างเขาไปมาก ๆ เลยนะ อย่างเขาหน่ะ จะต้องมีแต่สาว ๆ นั่งเหม่อลอยถึงต่างหาก”
แล้วเขาก็ลุกเดินออกจากออฟฟิศ เมื่อตรวจงานเสร็จเรียบร้อยแล้ว พนักงานบัญชีสาวสามคนมองตามร่างเจ้านายที่เดินหายออกไปจากประตูแล้ว

“เฮ้อ ได้เฮ็ดงานนำเจ้านายพูง๊ามงาม แล้วกะรวย ๆ จั่งซี่เบิ๊ดมื่อ บ่ไห่เงินเดือนข่อยกะยอมยูดอก...ซาธุ อ้ายน้ำเอ้ยเจ้ายาฟ่าวเอ่าเมียเด้ออ้ายเด้อ” สามสาวต่างก็แอบเก็บความลับนี้เอาไว้ส่วนลึกก้นบึ้งของหัวใจเลยทีเดียว

เขมินทร์จอดรถไว้ที่จอดรถที่สร้างต่อมาจากส่วนของเถียงนา เพราะแดดในหน้าแล้งแรงเหลือเกิน จนเขาถึงกับต้องหาที่ร่ม ๆ ไว้ให้รถจอด และเขาก็ทำไว้กว้างพอที่จะจอดรถไว้ได้ไม่น้อยกว่าสามคัน เขายืนมองไปยังไก่กับแมวที่ช่วยกันใช้รถแทรกเตอร์ไถกลบซังข้าวเอาไว้ เพราะเมื่อวันก่อนฝนตกลงมาพอดี เขาจึงรีบสั่งให้คนงานทั้งสองมาไถที่นาเอาไว้ก่อน

ซึ่งชาวบ้านแถวนี้ไม่ค่อยจะทำกัน โดยเหตุผลหลาย ๆ อย่าง และเหตุผลหลักก็คือเงินทุน เพราะน้ำมันตอนนี้ขึ้นราคารวดเร็วแทบจะตั้งตัวไม่ทัน แต่ไม่ว่าน้ำมันจะแพงมาหน่อยเขาก็ยอม เพราะคาดหวังว่าจะเพิ่มผลผลิตในการเก็บเกี่ยวได้ ดีกว่าไม่ได้เตรียมดินเอาไว้เลย และแน่นอนเขาก็ต้องสั่งคนงานให้ไถที่นาในส่วนของคุณเธอก่อนอยู่แล้ว เพราะอยู่ด้านในสุดของที่นา แล้วอีกอย่างเขาก็รู้ดีว่าคุณเธอคงไม่คิดที่จะมาเป็นชาวนาหรอก

“อ้ายน้ำเมียบักแมวฝากเข่าสวยมาไห่นำบ่” ไก่วิ่งลงมาถาม เพราะแมวเพิ่งจะขึ้นไปผลัดเวรเมื่อสักครู่
“บ่พอดีอ้ายบ่ได้ไป่บ้านก๊อน กะเลยบ่ลู่วาปลาไป่ฝากไว้บ่ แตตอนอ้ายไป่ร้านผ่าไหมกะบ่เห็นปลาบอกอีหยังลิหละ เป๋นจั๊งได๋ไถงายบ่” เขาถาม

“งายยูอ้าย ฝนตกมาไห่พอดี้พอดี” ไก่บอก
“เอ้อ อ้ายน้ำลุงเพ็งเพินวาคันอ้ายน้ำมาแล้วไห่ไป่เบิงปายูสาไห่แน เลาวาคือปามันสิเป๋นโรคนี่ล่ะ เลาวานขึ้นมาแล่วเห็นโตนึงมันมีบาดยูหางมัน” ไก่บอก
“บ้อ คันจั๊งซั่งกะสิไป่เบิงโลดดอก เอ๋ากุญแจรถ บัดทาสิขับไป่เอ่าเข่า แตวาคันสิไห่ดีกะเอ่ารถเคืองไป่ดีกัวเด้อ น้ำมันแพง” เขาโยนกุญแจรถให้ไก่ แต่ก็ไม่วายสอนให้เขารู้จักประหยัด แล้วตัวเขาก็เดินจ้ำอ้าวไปยังปลายนาเพื่อไปดูบ่อปลานิลตามที่ไก่บอกไว้

“น้าน้ำมาแล่วบ่ มาเบิงปลาเร็ว ๆ แน ผมย่านมันเป๋นโรค”
ลุงเพ็งบอกทันทีที่เห็นเขาเดินมาถึงกระท่อมที่เป็นที่พักของลุงเพ็ง ซึ่งจะปลูกเอาไว้ใกล้ ๆ บริเวณบ่อเลี้ยงปลา
“ไสเบิงดู๊ลุงเพ็งเอ่ามาไห่ผมเบิงแนมันเป๋นจั๊งได๋” เขารีบถาม แล้วลุงเพ็งก็เอาปลาที่ขังไว้ในถังมาให้เขาดู

“อาจสิเป๋นโรคระบาด เดี๋ยวผมสิเอ่าไป๋ไห่ประมงจังหวัดเพินเบิงก๊อนเด้อลุง ถ่าพูได๋มาซื่อปลากะยาฟ่าวขายไห่เพิ่นเด้อ แล่วกะยาฟ่าวไห่บักไข่มันเอ่าเข่าไป่โรงปาพ่อม ไห่ผมกลับมาซะก๊อน” เขาสั่งลุงเพ็งและก็รีบหิ้วเอาถังปลาไปตรวจที่ประมงจังหวัดโดยด่วน เพื่อจะได้หาทางแก้ต่อไป


ข้าวของที่วางระเกะระกะอยู่เต็มพื้นห้องค่อย ๆ ถูกบรรจุลงไปในกล่องอย่างช้า ๆ อัลบั้มรูปเมื่อสมัยเธอยังเด็กถูกรื้อออกมาจากตู้ทีละอัน ภรัณยาเปิดดูมันอย่างช้า ๆ แล้วก็ยิ้มออกมาด้วยความขำ ที่เห็นตัวเองไว้ผมเปียสองข้างอยู่ในท่าต่าง ๆ โดยมีแม่ป้า คุณลุงเดช แล้วก็นายเจตน์อยู่ในเฟรมเกือบจะทุกท่า นายเจตน์ ชื่อนี้ทำให้เธอเซ็งขึ้นมาจริง ๆ เลย

เพราะนายเจตน์เมื่อเด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกับเธอแทบทุกวัน กับนายเจตน์วันนี้เปลี่ยนเป็นคนละคนไปแล้วโดยสิ้นเชิง ซึ่งเพราะอะไรนั้น เธอเองก็หาสาเหตุไม่พบ และก็ไม่คิดที่จะหามันด้วย ถุงมือถือเครื่องใหม่ที่แม่ป้าเอามาให้ถูกดึงมาอีกครั้ง กล่องเปล่าของมือถือที่ข้างในมีเงินอยู่ในซอง พร้อมกับการ์ดใบเล็ก ๆ ยังคงอยู่อย่างนั้น

“ผมหาเครื่องใหม่มาใช้คืนคุณแล้วนะ รุ่นใหม่ล่าสุด คิดว่าคุณคงจะพอใจ
ส่วนรองเท้า ที่ต่างจังหวัดแบบนี้ผมคงจะไม่มีปัญญาหาซื้อมาใช้คุณได้
หวังว่าเงินจำนวนนี้คงจะพอให้คุณไปหาซื้อได้ในกรุงเทพฯ
อ้อ...ผมยังไม่มีโอกาสได้บอกคำนี้กับคุณเลยสักครั้ง เพราะถูกคุณแย่งซีนไปหมด
“ขอโทษครับ”
ที่ทำให้คุณต้องเปียกน้ำแบบนี้ถึงสองครั้ง หากมีโอกาสได้เจอกันอีกครั้ง
ผมรับรองว่าคุณจะไม่ตกน้ำแน่ ขอเปลี่ยนเป็นตกต้นไม้ หรือตกคันนาแทนก็แล้วกัน
....เขมินทร์....”







Create Date : 22 กันยายน 2551
Last Update : 22 กันยายน 2551 7:40:27 น. 0 comments
Counter : 354 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธัญญะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อคแห่งนี้ ตามพ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง แก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืน จะดำเนินตามกฎหมายสูงสุด!!
Friends' blogs
[Add ธัญญะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.