Group Blog
 
 
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
12 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
ร้อยรวงใจ บทที่ ๑




“โฮ่ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ” เจ้าพุดเดิ้ลชื่อ
“ไข่ตุ๋น”
ส่งเสียงเห่าที่ฟังดูน้ำเสียงของมันนั้น ทั้งดุ และก็ดุเป็นที่สุด มันแทบจะวิ่งกระโดดข้ามประตูเหล็กหน้าบ้าน ออกไปหาผู้ที่มาเยือนด้วยซ้ำ แต่มันทำไม่ได้ เพราะประตูนั้นสูงเกินไปสำหรับมัน และสิ่งที่ทำให้มันต้องส่งเสียงเห่าขนาดหนักนั่นก็คือ มันเห็นแท็กซี่แล่นมาเทียบหน้าประตูบ้านหลังใหญ่ในที่มีเนื้อที่ประมาณ 1 ไร่เศษ ๆ ที่ตั้งตระหง่านอยู่อย่างโดดเด่นเป็นสง่า
ถึงแม้บ้านหลังนี้จะไม่ใช่หลังที่ใหญ่ที่สุดในซอยนี้ แต่ก็ถือได้ว่าไม่ได้น้อยหน้าบ้านหลังไหน ๆ ในละแวกนี้เลย ผู้ที่ก้าวลงจากแท็กซี่มีสีหน้าที่บอกบุญไม่รับเอาเสียเลย แล้วข้าวของต่าง ๆ จากกระโปรงท้ายแท็กซี่ ก็ถูกขนลงมาทีละกล่อง ๆ จนครบ ไม่นานเสียงแท็กซี่ก็แล่นออกไปจากประตูบ้าน
เจ้าของร่างบาง สูง โปร่ง กับรองเท้าส้นสูงสี่นิ้ว ก็พาเรียวขาที่ขาวเนียนเดินตรงไปที่ปุ่มเพื่อกดออด แต่ก็ไม่ทันที่จะได้ยื่นมือไป แต๋น สาวใช้ประจำบ้านก็วิ่งออกมา ประหนึ่งจะรู้ว่าเสียงรถที่แล่นมาเมื่อสักครู่นี้ เป็นรถที่มาส่งเจ้านายสาวสวยของเธอ

“มาแล้ว ๆ มาแล้วค๊าคุณข้าว” แต๋นรีบเปิดประตู แล้วก็ทำหน้ามุ่ยเมื่อเห็นกล่องสามสีใบวางเรียงรายอยู่หน้าประตูบ้าน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่ากล่องพวกนี้มันหมายความถึงอะไร เพราะแต๋นค่อนข้างจะคุ้นกับกล่องพวกนี้ดี เพราะตั้งแต่เจ้านายสาวเรียบจบและได้ทำงาน นี่ก็เป็นรอบที่ห้าแล้ว ที่กล่องพวกนี้ถูกขนขึ้นลงจากบ้าน

“โฮ่ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ” เจ้าไข่ตุ๋นยังคงส่งเสียงเห่า และวิ่งไปหาเจ้าของที่มันรักปานใจจะขาด

“ไข่ตุ๋นหยุดเห่าได้แล้วนะ วันนี้แม่อารมณ์ไม่ดีนะลูก และก็ไม่มีไก่ย่างมาฝากด้วย ไปเข้าบ้านไปเลยไป” หญิงสาวส่งเสียงดุเจ้าไข่ตุ๋นด้วยน้ำเสียงที่ผิดจากเมื่อเช้าก่อนที่เธอจะออกไปทำงาน ทำให้เจ้าไข่ตุ๋นถึงกับหงอ แล้วก็เดินปัดตูดเข้าบ้านไปด้วยความผิดหวัง ที่การมาของเจ้านายในครั้งนี้ ไม่มีของโปรดมาฝากมัน

“อีกแล้วเหรอยายข้าว” เสียงมณฑาที่เดินออกมาดูความเคลื่อนไหวที่หน้าบ้าน ร้องทักหลานสาวที่เดินหน้างอเป็นจวักนำหน้าแต๋นไป ไม่มีใครบอกมณฑาก็เดาได้ว่าหลานสาวลาออกจากงานอีกแล้ว

“โถ่...แม่ป้าไม่คิดที่จะถามข้าวเลยนะว่ามันเรื่องอะไร ถามแบบนี้นะแสดงว่าแม่ป้าว่าข้าวทำงานไม่ทนแน่ ๆ เลย” ภรัณยาอดที่จะตัดพ้อผู้เป็นป้าไม่ได้
“ถ้าให้แม่ป้าเดาหล่ะก็เราก็คงจะไปต่อยหรือว่าด่าเจ้านายที่มันหัวงูมาอีกตามเคยใช่มั้ย” มณฑาบอกและยิ้มให้หลานรัก

“โถ่...แม่ป้านี่เหมือนมีตาทิพย์เลยนะเนี๊ยะ ก็ใครจะไปทนมันได้หล่ะ ก็มันหัวงูออกอย่างนั้น มีอย่างที่ไหน จะให้ข้าวไปต่างประเทศกับมันสองต่อสอง มันบอกว่าถ้าทำตามใจมันจนมันประทับใจนะ กลับมามันจะยกตำแหน่งผู้จัดการสาขาให้ข้าวทำเลย พอข้าวไม่ยอมมันก็บอกว่าข้าวทำงานไม่ดีมั่ง ขี้โมโหมั่ง ไม่มีคุณสมบัติการเป็นเจ้านายคนมั่ง แล้วแม่ป้าจะให้ข้าวทนให้มันโขกสับอยู่เหรอคะ”

เธอโวยวายกับผู้ที่เธอเรียกว่าแม่ป้ามาตั้งแต่เล็กจนติดปาก เพราะตั้งแต่พ่อแม่ผู้ให้กำเนิดเธอจบชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุเมื่อยี่สิบปีที่ผ่านมา เธอก็มีมณฑา หรือแม่ป้าคอยเลี้ยงดูเธอมาด้วยความรักและเอ็นดูมาโดยตลอด
มณฑารักหลานคนนี้มาก ๆ เพราะมีหลานอยู่แค่คนเดียว และบ้านทั้งบ้านก็เหลือแค่ป้ากับหลานสองคนแค่นั้น ตั้งแต่น้องชายตายพร้อมภรรยา มณฑาก็กลายเป็นแม่ที่ต้องเลี้ยงหลานอายุสามขวบตั้งแต่นั้นมา จึงทำให้ภรัณยาเรียกเธอว่า แม่ป้า ซึ่งมาจากคำว่า แม่ กับ ป้า บวก ๆ กันออกมาแล้ว เธอจึงเรียกว่าแม่ป้า

“โห...มันทำกับหลานรักแม่ป้าถึงขนาดนี้เลยเหรอลูก ไม่ต้องไปสนใจมัน ไปเข้าบ้านไปดื่มอะไรเย็น ๆ ก่อน จะได้อารมณ์ดี ๆ ไง รู้มั้ยเขาบอกว่าคนเราถ้าโกรธครั้งหนึ่งนะ จะเกิดรอยตีนกาตามมาอีกเพียบเลยนะยายข้าว” มณฑาพยายามปลอบใจหลานสาวด้วยความอารมณ์ดี เพราะมันเป็นบุคคลิกของเธอมาตั้งแต่เล็กแต่น้อยแล้ว ที่มักจะมองอะไรเป็นเรื่องง่าย ๆ เสมอ ๆ

“มาแล้วค่ะสตอเบอร์รี่ปั่นของโปรดของคุณข้าว”
แต๋นรีบเอาเครื่องดื่มมาให้เจ้านาย หลังจากที่เก็บกล่องเข้าบ้านหมดแล้ว

“ขอบใจนะจ๊ะคุณแต๋น”
ภรัณยารับแก้วมาแล้วก็ไม่วายอารมณ์ดีแซวแต๋นด้วยการเรียกชื่อนำหน้าว่า คุณ ตามที่แต๋นต้องการ เพราะแต๋นเป็นเด็กบ้านนอกมาจากอีสาน เมื่อสมัยที่อยู่บ้านนอกมักจะถูกเรียกว่า อีแต๋นเสมอ ๆ พอได้มาทำงานกับคุณมณฑาแล้ว ก็ไม่อยากให้ใครเรียกว่าอีแต๋นอีก ภรัณยารู้เข้า จึงบอกว่าจะเรียกจากอีแต๋นเป็นคุณแต๋นแทน ดังนั้นคนในบ้านจึงจะเรียกตามเธอเรื่อยมา

“แม่ป้าว่าเราเปลี่ยนงานมาตั้งหลายรอบแล้วนะยายข้าวตั้งแต่กลับมาจากออสเตรเลียนี่ ออกจากที่นี่คราวนี้จะยอมไปทำงานที่บริษัทแม่ป้าหรือเปล่าหล่ะเรา ปล่อยให้ตาเจตน์ดูอยู่คยเดียวนาน ๆ เข้า แม่ป้าก็เหมือนไม่ใช่เจ้าของบริษัทลงไปทุกที ๆ แล้วนะ” มณฑาอดห่วงบริษัทที่ เจตน์ เรืองฤทธิ์ ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงติดสามีมาตั้งแต่ที่แต่งงานใหม่ ๆ

“โอ๊ย...จะให้ข้าวไปทำงานกับนายเจตน์หน่ะเหรอคะแม่ป้า แหวะ...ไม่เอาหรอก ไม่ชอบนายขี้เก็กนี่จริง ๆ เลย” ภรัณยาอดที่จะบ่นไม่ได้กับคนที่ถูกกล่าวถึง เพราะภรัณยาไม่ชอบเจตน์เอาเสียเลย

“แต่หลานเปลี่ยนงานมาห้าที่ภายในปีเดียวเลยนะ แม่ป้าว่าไม่มีที่ไหนดีเท่ากิจการของเราหรอก เอาอย่างนี้นะ ถ้าข้าวยอมไปทำงานกับตาเจตน์แทนแม่ป้านะ แม่ป้าจะตัดใจออกรถมินิให้ข้าวเลย แล้วที่เหลือข้าวก็ผ่อนเอาเอง ดีมั้ยหลานป้า”
มณฑายอมตัดใจให้ของสมนาคุณกับหลานรัก เพราะตั้งแต่กลับจากนอกมา ภรัณยาก็เฝ้าฝันอยากจะได้รถมินิคูเปอร์สีขาวน้ำเงิน รุ่นไหนก็ได้มาโดยตลอด แต่มณฑาเห็นว่าเงินที่ใช้ส่งให้หลานสาวไปเรียนนั้นมากไม่น้อย จึงอยากจะให้หลานทำงานหาเงินซื้อเอาเอง แต่จนแล้วจนรอดมณฑาก็ต้องยอมใจอ่อน เพราะสงสารหลานสาวที่ตลอดปีตั้งแต่เริ่มทำงานต้องนั่งรถไฟฟ้า หรือไม่ก็รถไฟใต้ดินไปทำงานแทบทุกวัน

“จริงเหรอคะแม่ป้า...ว้าว...ถ้าอย่างนั้นข้าวจะไปทำพรุ่งนี้ยังได้เลย ไชโย ๆ คุณแต๋น ๆ เห็นมั้ย แม่ป้ายอมใจอ่อนกับฉันแล้ว ดีใจจังเลยค่ะแม่ป้า ข้าวรักแม่ป้าที่สุดในโลกเล้ย” ภรัณยาแทบจะทิ้งแก้วน้ำปั่นก่อนจะโผเข้าไปกอดผู้เป็นป้าและหอมแก้มด้วยความรัก

“โอ๊ย...เบา ๆ สิยายข้าว เดี๋ยวหน้าสวย ๆ ของแม่ป้าก็ช้ำหมดพอดี”
มณฑายังไม่วายห่วงสวย แต่จะว่าไปแล้วเธอก็ยังสวยอยู่จริง ๆ ถึงแม้ว่าตอนนี้จะมีอายุ ๔๕ ปีแล้วก็ตาม ด้วยความที่เป็นคนบำรุงร่างกายเสมอ ๆ และบวกกับความที่เป็นคนไม่ค่อยเครียดกับเรื่องต่าง ๆ จึงทำให้เธอยังดูสาวและสวยอยู่ไม่ส่างซา จนหนุ่มใหญ่หลาย ๆ คนเห็นแล้วจะต้องตามมาจีบถึงบ้าน แต่เธอก็ไม่ยอมตกลงปลงใจกับใครเอาเสียเลย เพราะเธอรู้สึกเบื่อชีวิตคู่ที่ผ่านมากับสามีที่ตายจากไปห้าปีที่แล้ว
มณฑาตัดสินใจแต่งงานกับสุรเดชตั้งแต่อายุยี่สิบห้าปี หลังจากที่น้องชายตายไป และทิ้งหลานไว้ให้เป็นภาระ มณฑาจึงต้องหาที่พึ่งเพื่อจะได้มีคนช่วยเลี้ยงหลาน สุรเดชก็เป็นตัวเลือกของเธอ แต่เธอก็ไม่เคยรู้ว่าสุรเดชเคยแต่งงานและมีลูกมาแล้ว แต่ถึงเธอรู้ เธอก็ไม่เคยว่าอะไรให้สุรเดชเลย เพราะเธอรู้ดีว่าจะต้องทำตัวยังไงให้สุรเดชรัก ทั้งคู่อยู่กินกันมาเกือบจะนานแต่ก็ไม่มีลูกด้วยกันเลย ภรัณยาและเจตน์จึงมาเติมเต็มชีวิตคู่ให้ทั้งสองได้เป็นอย่างดี
สุรเดชจะรักภรัณยามากพอ ๆ กับที่เขารักลูกชาย หรือบางครั้งอาจจะมากกว่า เพราะความน่ารักของหลานสาวนั่นเอง เขายอมส่งภรัณยาไปเรียนที่ออสเตรเลียหลังจากที่เรียนจบชั้นมัธยม จนเป็นเหตุให้เจตน์ไม่พอใจเป็นอย่างมาก เพราะเจตน์จะไปเรียนเมืองนอกแค่ช่วงปิดเทอมเท่านั้น นอกนั้นเขาต้องเข้าไปช่วยพ่อทำงานจนเขาเรียนอยู่มหาวิทยาลัยปีสามพ่อก็เสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ ทำให้เขาต้องรีบเรียนให้จบ และมาช่วยมณฑาที่ทำงานต่อจากพ่อ

“แม่ป้าคะข้าวว่าวันนี้เราไปสปากันดีกว่าค่ะ ข้าวเบื่อมาก ๆ เลยตอนนี้ ดูสิคะหน้าข้าวย่นไปตั้งเยอะแหน่ะตั้งแต่ถูกเจ้านายหัวงูกดขี่” ภรัณยามักจะห่วงสวยเสมอ ๆ ด้วยได้รับอิทธิพลมาจากผู้เป็นป้ามาตั้งแต่เด็กนั่นเอง

“ได้เลยหลานป้า ไปส่งคุณแต๋นที่ตลาดแล้วเราก็ไปสปากันเลย” มณฑารีบรับ เพราะรู้สึกอยากจะผ่อนคลายเหมือนกัน

“อ้าว...ไม่ให้แต๋นไปด้วยเหรอคะคุณแม่ป้า” แต๋นรีบถาม

“อุ๊ย...ไม่ไปก็ได้ค่ะ” แต๋นรีบทำหน้าเจื่อน ๆ เพราะเจ้านายทั้งสองหันมามองด้วยความหมั่นไส้เต็มที

“ไข่ตุ๋นมาหาแม่มาลูกมา โอ๋ ๆ ๆ ขอโทษนะที่ไม่ได้ซื้อไก่ย่างมาฝาก แต่ไม่เป็นไร แม่กลับจากสปามา จะซื้อมาให้ เอาเยอะ ๆ เลยดีมั้ย ฮื่ม ๆ น่ารักจริง ๆ เลยลูกแม่” ภรัณยาอารมณ์ดีขึ้นมาทันที และก็เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าดุเจ้าไข่ตุ๋นจนมันงอนไปนอนขดตัวอยู่ใต้เก้าอี้ในห้อง เธอจึงเดินไปอุ้มมันขึ้นมาและก็หอมที่หัวมันด้วยความรัก
เจ้าไข่ตุ๋นคือรางวัลของการเรียนจบจากนอกที่เจตน์ซื้อมาให้เธอ แต่จริง ๆ แล้วเธอไม่รู้ว่าเจตน์ซื้อมันให้เธอเพราะอะไร อาจจะหลอกด่าว่าเธอเป็นเหมือนหมาก็ว่าได้ ถึงเธอจะไม่ชอบคนให้ แต่เธอก็รักเจ้าตัวเล็กนี้จนหมดใจเลย เพราะมันจะไปนอนกับเธอที่ห้องแทบทุกคืน









Create Date : 12 กันยายน 2551
Last Update : 12 กันยายน 2551 18:34:49 น. 6 comments
Counter : 424 Pageviews.

 
หวัดดีค่ะ เดี๋ยวตามอ่านทั้งสองที่เลยนะค่ะทั้งที่เวปสิรินดา และที่นี่

ปล. เรื่องอื่นๆ ที่จบไปแล้ว จะมาอัพที่นี่ด้วยมั้ยค่ะ


โดย: LOVE IP: 203.170.131.11 วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:17:30:09 น.  

 
แวะมาทักทายจ้า มาประเดิมบ้านใหม่


โดย: Airis_Ai วันที่: 12 กันยายน 2551 เวลา:19:39:53 น.  

 
เพิ่งจะได้มีบล็อกเป็นของตัวเองค่ะคุณ LOVE

จากการอนะเคราะห์ของสาวสวย (มาก) คนหนึ่ง ที่กรุณาสละเวลามาทำให้ และสอบวิธีโพสนิยายด้วย

นิยายเรื่องอื่น ๆ ที่เขียน จะค่อย ๆ นำมาลงเรื่อย ๆ ค่ะ


โดย: ธัญรัตน์ (ธัญญะ ) วันที่: 13 กันยายน 2551 เวลา:7:38:50 น.  

 
That's great.


โดย: pimtada IP: 12.183.88.130 วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:7:31:09 น.  

 
ตามมาทันสมัยกะชาวบ้านคนอื่นเค้า


โดย: ออย IP: 58.147.37.187 วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:16:14:19 น.  

 
55555

ยินดีต้อนรับเข้าบ้านค่ะทุก ๆ คน

ตามสบายนะคะ คิดว่าเป็นบ้านของตัวเองค่ะ


โดย: ธัญญะ วันที่: 14 กันยายน 2551 เวลา:21:16:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธัญญะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อคแห่งนี้ ตามพ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง แก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืน จะดำเนินตามกฎหมายสูงสุด!!
Friends' blogs
[Add ธัญญะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.