Group Blog
 
 
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
13 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
ร้อยรวงใจ ๔ (ธัญรัตน์)




“ในนามของพาราไดร้ส์ทัวร์ ฉันขอขอบใจทุก ๆ คนที่ทำงานให้กับบริษัทฯ ด้วยความทุ่มเท เปรียบเหมือนว่าพาราไดร้ส์ทัวร์ เป็นเหมือนกิจการของทุก ๆ คนเอง โดยเฉพาะคุณเจตน์ ที่เป็นหัวแรงสำคัญของบริษัทฯ ที่ทำตามเจตนารมณ์ของคุณสุรเดชด้วยความมุ่งมัน ขอบคุณมาก ๆ

และขอขอบคุณหลานรักของฉัน คุณภรัณยา ที่ถึงแม้ว่าจะเพิ่งได้มาช่วยงานได้แค่ปีเดียวก็ตาม แต่คุณภรัณยาก็ได้แบ่งเบาภาระให้คุณเจตน์ได้ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายที่ลดลงจากปีที่แล้วเกือบครึ่งหนึ่ง แถมยังทำให้ยอดการสั่งจองทัวร์เพิ่มมาอีกเกือบสามสิบเปอร์เซ็นต์ทีเดียว ฉันขอบใจมาก ๆ

และเพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจให้กับพนักงานทุกระดับชั้นที่ได้ช่วยกันมาตลอดทั้งปี ฉันในฐานะกรรมการผู้จัดการ ขอประกาศว่า โบนัสปีนี้จะจ่ายให้พนักงานถึงสามเดือนเลยทีเดียว และฉันจะขึ้นเงินเดือนให้ทุก ๆ คนอีก สิบห้าเปอร์เซ็นต์มีผลตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”

สิ้นเสียงของมณฑาพนักงานในห้องประชุมพากันปรบมือด้วยความดีใจกับข่าวดีที่ทุก ๆ คนรอคอย มณฑาหันไปยิ้มให้กับหลานสาวด้วยความปลื้มใจกับผลประกอบการที่ออกมาดีกว่าทุก ๆ ปีที่เจตน์ดำเนินกิจการเพียงลำพัง ภรัณยายิ้มให้ผู้เป็นป้าด้วยความปลื้มใจและดีใจไม่แพ้กัน ที่เธอได้เป็นส่วนหนึ่งของบริษัทฯ และเหนือสิ่งอื่นใดเธอได้เป็นส่วนหนึ่งของการขัดขวางการทุจริตของเจตน์ ที่มีต่อแม่ป้าของเธอ และกับพนักงานในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมา เพราะเจตน์ไม่เคยที่จะใจปั้มแจกโบนัสพนักงานมากเท่าปีนี้ และก็ไม่เคยขึ้นเงินเดือนให้มากเท่าปีนี้ด้วยเหมือนกัน ภรัณยาคิดถึงคำพูดของเขาเมื่อคืน เมื่อเขาถูกมณฑาเรียกไปปรึกษาเรื่องที่จะประชุมวันนี้

“ทำไมคุณน้าจะต้องให้โบนัสพนักงานเยอะขนาดนั้นครับ และเงินเดือนก็ไม่น่าขึ้นมากขนาดนี้ ผมไม่ค่อยจะเห็นด้วยเลย เวลาขึ้นแล้วเราก็จะลงไม่ได้นะครับ ปีนี้อาจจะมีกำไรมาก แต่ถ้าเกิดโชคร้ายปีหน้าเราขาดทุนขึ้นมา ผมมั่นใจว่าไม่มีพนักงานคนไหนที่จะยอมให้เราลดเงินเดือนหรอกนะครับ”

“น้าว่าพนักงานคงจะไม่ใจดำหรอกนะตาเจตน์ เพราะแต่ละคนก็ทำงานกับเรามานานตั้งแต่สมัยพ่อของเจตน์เอง ถ้าบอกเขาดี ๆ น้าว่าพวกเขาก็คงจะรับได้ แต่ตอนนี้เมื่อเรามีกำไรน้าก็อยากจะให้พวกเขาไปก่อน เอาไว้ให้มันเจอสถานะการณ์ที่วิกฤตก่อนแล้วเราค่อยมาว่ากันใหม่ดีกว่านะ หรือเราจะว่าไงยายข้าว”

มณฑายังคงยืนยันแต่ก็ไม่วายหันไปหาหลานสาว เพราะความคิดนี้เป็นความคิดหลานสาวคนเดียวเท่านั้น ภรัณยาอยากจะแก้เผ็ดเจตที่แอบโกงเงินบริษัทไปเข้ากระเป๋าตัวเอง เธอจึงเอาเงินที่ตัวเองพยายามควบคุมค่าใช้จ่ายที่เกิดจริง ที่เจตน์เคยทำ เอามาให้พนักงานแทน จะได้ทำให้พนักงานลืมตาอ้าปากได้บ้าง

“ข้าวก็แล้วแต่แม่ป้าค่ะ แต่ข้าวว่าเจตน์ก็คงจะไม่มีปัญหาหรอกมั้งคะ เพราะยังไง ๆ เงินปันผลของผลประกอบการหลังจากหักโบนัสแล้ว ก็ไม่ได้ลดลงจากปีที่แล้วเลยนี่คะ ใช่มั้ยนายเจตน์” เธอรีบดักทาง

“เอ่อ...ก็แล้วแต่คุณน้าก็แล้วกัน ผมมันก็แค่พนักงานเท่านั้น คงจะไม่มีอำนาจตัดสินใจอะไร งั้นผมขอตัวนะครับ” เขาบอกและก็เดินออกจากบ้านพ่อตัวเองไปด้วยความหัวเสีย และก่อนที่เขาจะออกรถ เขาก็หันมามองบ้านที่เขาอยู่อย่างมีความสุขกับพ่อและแม่มาตั้งแต่เล็ก ที่ตอนนี้มันจะกลายเป็นบ้านของป้าหลานคู่นี้เข้าไปทุกวัน ๆ แล้ว
“ฉันจะเอาทุกอย่างของฉันคืนมาให้ได้ ไม่เชื่อคอยดู” เขาบอกกับตัวเองอยู่ในใจแล้วก็ออกรถไป

“โอ๊ย...ฉันเซ็งสองป้าหลานเต็มทีแล้ว” เจตน์ตะโกนออกมาพร้อมกับแฟ้มเอกสารในมือถูกขว้างทิ้งด้วยความโกรธ ที่จู่ ๆ อำนาจที่เคยมีในมือก็ถูกภรัณยาเข้ามาข่มเอาไว้ ทำให้มณฑาถึงกับแข็งข้อไม่ฟังคำทัดทานของเขาเหมือนหลาย ๆ ครั้งที่ผ่านมา
“ใจเย็น ๆ สิคะคุณเจตน์ ค่อย ๆ คิดค่ะ” ปิยนุชที่เดิมตามเข้ามาในคอนโดเดินไปเก็บแฟ้มเอกสารที่ตกกระจายอยู่เต็มพื้นห้อง แล้วก็อดที่จะเงยหน้าไปมองคนที่เธอมอบใจให้ด้วยความสงสารไม่ได้

“จะให้เย็นยังไงได้ เธอดูพวกมันทำกันสิ โง่ชัด ๆ คอยดูนะถ้าปีหน้าเกิดเงินหมุนไม่ทันเมื่อไหร่ ฉันจะให้มันสองคนมาหาเงินเข้าบริษัทแทนฉัน โง่แล้วยังอวดฉลาดอีก คิดจะหาคะแนนใส่ตัวโดยการแจกโบนัสเหรอ บริษัทฯ ไปไม่รอดแล้วฉันจะนั่งหัวเราะให้ฟันหักเลย ไม่เชื่อคอยดู” เจตน์แทบจะตะโกนออกมาดัง ๆ

“แล้วคุณเจตน์จะทำยังไงต่อล่ะคะ...ลองนี่ก่อนนะคะจะได้ใจเย็นลงบ้าง ให้นุชนวดให้เอามั้ยคะ” ปิยนุชถามและเดินไปเปิดเหล้าและรินให้เขาเพื่อย้อมใจ
“ฉันจะต้องเฉดหัวสองคนนั่นออกจากชีวิตฉันให้ได้ ไม่เชื่อคอยดู” เขายังคงรักษาปฏิญาณที่แน่วแน่เอาไว้ และไม่ทันที่ปิยนุชจะได้พูดอะไรต่อ ก็มีเสียงมือถือเรียกเข้า ทำให้เธอต้องออกไปรับโทรศัพท์ที่ระเบียงแทน

“ใครโทรมาคุยตั้งนานสองนาน ขอเหล้าอีกหน่อยนะ” เจตน์ถามทันทีที่ปิยนุชเดินเข้ามา พร้อมกับยื่นแก้วเหล้าส่งให้เธอ
“อ๋อ...แม่ค่ะ โทรมาบอกว่าป้าที่ป่วยอยู่ตอนนี้อาการหนักมากแล้ว ไม่รู้จะพ้นปีใหม่หรือเปล่า แม่อยากจะให้นุชไปดูอาการท่านหน่อยค่ะ” เธอบอก
“แล้วเธอจะทิ้งฉันไปเหรอนุช ปีใหม่นี้ฉันอุตส่าห์จะไม่ไปไหนนะ ตั้งใจว่าจะอยู่กับเธอตามลำพัง จะได้พักสมองบ้าง” เจตน์เดินเข้าไปโอบกอดเธอจากด้านหลัง ขณะที่เธอกำลังผสมเหล้าให้เขา

“นุชคงไม่ไปหรอกค่ะ ขี้เกียจนั่งรถเบียดกับคนอื่น ปีใหม่คนเยอะจะตายไปกว่าจะไปถึงเชียงรายก็เหนื่อยแทบแย่ กะว่าจะส่งแค่เงินไปให้ก็พอค่ะ พอลุงเห็นเงินที่นุชส่งไปให้แค่นั้นก็หมดปัญหาค่ะ” ปิยนุชบอกตามความเป็นจริง

“น่ารักจังเลย ไหนหันมาให้ฉันดูหน้าเธอชัด ๆ หน่อยซิ เธอรู้มั้ยเวลาฉันอยู่กับเธอทีไรทำให้ฉันใจเย็นลงได้เสมอ ๆ เลย เธอนี่เอาใจคนเก่งไม่น้อยเลยนะ ถ้าฉันจะย้ายเธอมาเป็นเลขาฯ ฉันแทนยายแมวนี่ ยายข้าวจะอาละวาดฉันหรือเปล่านะ” เจตน์บอกด้วยอารมณ์อ่อนโยนลง
“อุ๊ย...คุณเจตน์หน่ะ ถ้าคุณเจตน์ทำแบบนั้นรับรองคุณข้าวต้องโกรธแน่ ๆ เลยค่ะ” เธออุทานแต่ก็หันมาหาเขาอยู่ดี

“จ้างให้ฉันก็ไม่ทำหรอก ก็ยายข้าวหน่ะไว้ใจเธอจะตายไป อยู่กับยายข้าดีแล้วเธอจะได้คอยสอดส่องแทนฉันไง แต่ตอนนี้เราอย่าพูดเรื่องคนอื่นเลยนะ มาพูดเรื่องของเราดีกว่า” เขาบอกแล้วก็รั้งร่างของปิยนุชเข้ามากอด แล้วก็ช้อนร่างเธอไปวางไว้บนเตียง ปิยนุชได้แต่หลับตาพริ้มเมื่อร่างของเจตน์โน้มลงไปทาบทับเอาไว้ เธอไม่รู้ว่าเธอรักผู้ชายคนนี้มากแค่ไหน แต่เธอบอกได้ว่าเธอให้เขาได้แม้กระทั่งชีวิต ถ้าเขาเกิดขอขึ้นมา

“ข้าวล่ะสะใจจริง ๆ เลยค่ะแม่ป้า ตอนที่เห็นหน้านายเจตน์ที่บอกบุญไม่รับเอาซะเลย ที่จะต้องจ่ายเงินโบนัสให้พนักงานแทนที่จะได้เงินเข้ากระเป๋าตัวเอง” ภรัณยาพูดขึ้นมาพร้อม ๆ กับรอยยิ้มที่สะใจที่สุด เมื่อคิดไปถึงคนที่ถูกล่าวขวัญ
“แม่ป้าก็เหมือนกัน รู้ยังนี้นะ แม่ป้าให้ข้าวไปทำงานกับนายเจตน์ตั้งนานแล้ว แต่ก็ยังดีไปช้าก็ดีกว่าไม่ไป” มณฑาเห็นด้วย อย่างยิ่ง

“โอ๊ย...คุณแต๋นขาเบา ๆ หน่อยสิคะ ที่เนื้อคนนะไม่ใช่หนังช้างจะได้ถูซะแรงขนาดนี้ เดี๋ยวฉันจะไปให้ร้านเขาทำให้ก็อดเงินพอดีหรอก” ภรัณยาบ่นเมื่อแต๋นที่นั่งทำเล็บและขัดเท้าให้เธอเกิดอินกับความสำเร็จของเจ้านาย จนเผลอขัดเล็บซะแรง
“อุ๊ย...ขอโทษค่ะคุณข้าว แต๋นฟังคุณข้าวพูดเพลินไปหน่อยค่ะ” แต๋นบอกแล้วก็ทำหน้าเจื่อน ๆ
“จะเอามั้ยเงินเดือนพิเศษหน่ะ ถ้าเล็บสวย ๆ กับขาขาว ๆ เนียน ๆ ของฉันเป็นอะไรนะ รับรองได้เลยว่าคุณแต๋นจะอดทั้งหมด และก็จะไม่พาไปเที่ยวสยามพาราก้อนด้วย และจะไม่พาไปดูละครเวทีด้วย” ภรัณยาขู่

“โธ่คุณข้าวก็ แต๋นแค่เผลอไปครั้งเดียวเองนะคะ ดูสิคะผิวคุณข้าวขาวและก็นุ่มนวนเนียนเสมอ ๆ นี่ ฝีมือใครคะถ้าไม่ใช่เพราะฝีมือคุณแต๋นคนนี้ ไม่เสียแรงนะคะที่อุตส่าห์ลงทุนไปเรียนมา มีคุณข้าวกับคุณแม่ป้าเป็นลูกค้าแค่นี้แต๋นก็รวยเละแล้วล่ะค่ะ” แต๋นบอก เพราะด้วยที่เห็นทั้งสองป้าหลานที่รักความสวยงามจนเกือบจะเวอร์ แต๋นจึงยอมลงทุนไปเรียนขัดผิว ทำผม ทำเล็บกับร้านเสริมสวยหน้าปากซอยมา เพื่อที่จะเอาไว้คอยบริการสองป้าหลานโดยเฉพาะ

“แต่ถ้าแกทำให้ผิวของหลานรักของฉันข่วนแม้แต่นิดเดียว ตัวแกสิจะเละไปด้วยนังแต๋น” มณฑาอดที่จะหมั่นไส้ไม่ได้ แต่แววตาก็แฝงเอาไว้ด้วยความเอ็นดูแต๋นไม่น้อย
“โถคุณแม่ป้าก้อ...คุณข้าวเนี๊ยะแต๋นก็รักและหวงของแต๋นเหมือนกันนะคะ ใครจะกล้าไปทำให้คุณข้าวเจ็บ” แต๋นบอก เพราะรู้สึกแบบนั้นจริง ๆ อาจจะเป็นเพราะความผูกพันธุ์ที่เธอมีให้กับสองป้าหลานนี้มานานก็ได้ จึงทำให้รักและหวงสองคนนี้จนไปไหนไม่ได้ บวกกับแต๋นเองก็ไม่มีพ่อแม่พี่น้องมาตั้งแต่เด็ก ๆ แล้ว จะเหลือก็แค่ญาติห่าง ๆ ที่ยังอยู่อีสานเท่านั้น

“ไข่ตุ๋นออกไปก่อนลูก เดี๋ยวเล็บเราจะมาข่วนแขนแม่เป็นรอยกันพอดี” เธอบอกเจ้าไข่ตุ๋นที่ป้วนเปี้ยนอยู่แถว ๆ ขาของเธอ และทำท่าอยากจะขึ้นไปหาเธอบนชุดรับแขกตงิด ๆ
“ยายข้าวพรุ่งนี้ป้าจะพาไปช๊อปปิ้งนะ อยากจะได้อะไรป้าซื้อให้ไม่อั้น เป็นรางวัลที่ทำงานให้แม่ป้าเป็นที่พอใจ” มณฑาหันไปบอกหลานสาวที่สองมือสาละวนอยู่กับมะขามเปียกที่ใช้ขัดแขนตัวเองอยู่ โดยที่ขาอีกสองข้างก็ยังคงจุ่มอยู่ในกะละมังให้แต๋นขัดอยู่อย่างนั้น

“ข้าวคิดเอาไว้แล้วค่ะแม่ป้า ว่าข้าวอยากจะได้อะไร” ภรัณยาบอกและยิ้มมาให้ผู้เป็นป้าด้วยความรู้ทัน
“แหม...แล้วไอ้ที่คิดนี่ หวังว่าคงจะไม่ให้ป้าเอาเงินมาโปะเจ้ามินิของเราให้หมดหรอกนะ” มณฑารู้ทันหลานไม่แพ้กัน

“โธ่...แม่ป้าก็ ข้าวตั้งใจว่าจะผ่อนเองก็ต้องทำให้ได้สิคะ ข้าวอยากจะได้กำไลเพชรเม็ดเล็ก ๆ สักอันค่ะ เห็นในแคตตาล็อคเล่มนั่นแล้วน่ารักค่ะ เอาไว้ใส่เวลาไปหาลูกค้าจะได้มีเครดิตหน่อยไงคะ ไม่แพงหรอกค่ะ แค่แสนต้น ๆ เท่านั้นเอง แม่ป้ามีงบให้ข้าวเท่าไหร่ล่ะคะ” เธอหันมาบอกและก็ยิ้มด้วยความสุข เมื่อในจินตนาการมีรูปกำไลมาลอยอยู่ตรงหน้าแล้ว

“ป้าให้เราสองแสนเลย ซื้อกำไลแล้วก็ซื้อเสื้อผ้าสวย ๆ เอาไว้ใส่ไปหาลูกค้าจะได้ขายทัวร์ได้เยอะ ๆ ไง” มณฑาไม่เคยที่จะขัดหลานรักสักครั้ง เพราะความที่ไม่เป็นคนตระหนี่ได้มาก็จ่ายไป จึงไม่ค่อยได้เก็บเงินสักเท่าไหร่ แต่มณฑาก็มองไม่เห็นประโยชน์อะไรที่จะเก็บเงินเอาไว้เฉย ๆ โดยที่ไม่ได้ใช้

เพราะไม่รู้ว่าชีวิตคนเราจะตายวันตายพรุ่งเมื่อไหร่ สู้รีบ ๆ หาความสุขใส่ตัวเอาไว้ตอนที่ยังมีชีวิตอยู่ดีกว่า เพราะเห็นชีวิตของน้องชายที่ตายไปแล้วอดเสียดายแทนไม่ได้ เพราะน้องชายมีชีวิตที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ และก็จากไปแบบเรียบ ๆ และง่าย ๆ ไม่แพ้กันเลย
“โฮ่ง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ” เจ้าไข่ตุ๋นส่งเสียงทักทายเจ้านายตั้งแต่เช้า

“โอ้โห...ยายข้าวหลานป้า ใส่ชุดนี้แล้วสวยหาที่ติไม่ได้เลยจริง ๆ” มณฑาแซวหลานสาวที่เดินลงมาบันไดด้วยชุดทำงานยีห้อดังที่เธอยอมควักกระเป๋าซื้อให้หลานสาว และเธอก็ไม่ผิดหวังจริง ๆ เลย ที่ซื้อให้ เพราะเมื่อมันมาอยู่บนตัวหลานสาวแล้ว มันทำให้ชุดดูดีมีราคาขึ้นไปอีกโขทีเดียว

“จริงด้วยค่ะ กระโปรงสั้น ๆ กับขาขาว ๆ และก็ตามด้วยนี่ค่ะรองเท้าส้นสูงสี่นิ้วของคุณข้าว เริ่มต้นปีใหม่ชุดก็ใหม่ รองเท้าก็ใหม่ แล้วจะมีอะไรใหม่ ๆ อีกมั้ยคะ แต๋นจะได้ดีใจรอเลย” แต๋นที่เดินมาพร้อมกับในมือก็ถือรองเท้ามาให้เจ้านายสาวด้วย
“ฉันก็จะจ้างคนใช้ใหม่ไงนังแต๋น” มณฑาอดที่จะเบื่อกับความเป็นคนช่างพูดของแต๋นไม่ได้
“อุ๊ย...เป็นเรื่องแล้ว” แต๋นหน้าเจื่อนลงไปถนัด
“ดูอะไรคะแม่ป้า”

“ก็ดูข่าวสิ ดูซิเนี๊ยะปีใหม่เพิ่งจะผ่านไปแต่ยอดคนตายกับยอดอุบัติเหตุแทบจะไม่เคยลดลงเลย”
“ก็คนยังไม่เลิกเมาแล้วขับนี่คะ อุบัติเหตุมันจะลดลงไปได้ยังไง ข้าวไปก่อนนะคะ” ภรัณยาบอกหลังจากที่สวมรองเท้าส้นสูงเสร็จก็เดินแกมวิ่งไปที่รถด้วยความกระฉับกระเฉงในการเริ่มงานวันแรกของปีใหม่

รถมินิคูเปอร์คันโปรดโลดแล่นไปบนถนนที่ดูจะแออัดกว่าเมื่อช่วงหยุดปีใหม่หลาย ๆ วันนัก ผู้คนที่ยืนรอรถประจำทางยังคงหนาตาไม่เปลี่ยนแปลง และเธอก็คิดว่ามันก็คงจะเป็นแบบนี้ไปเรื่อย ๆ ถ้าหากว่าน้ำมันยังคงรักษาราคาที่แพงลิบอยู่แบบนี้ คิด ๆ แล้วเธอก็ไม่อยากจะจิตนาการเลยว่า ถ้าหากน้ำมันไปแตะที่ลิตรละหกสิบหรือร้อยหนึ่ง เธอยังจะควบเจ้ามินิต่อไปไหวหรือไม่ แล้วถ้าเกิดน้ำมันเกิดหมดโลกนี้ไป

เธอจะทำยังไงดี จะมีรถให้ขับมั้ย จะมีไฟฟ้าให้ใช้มั้ย จะมีห้องแอร์เย็น ๆ ให้นอนมั้ย โอย...แค่ในจินตนาการว่าขาดของพวกนี้แค่นั้น ภรัณยาก็ถึงกับขนลุกขึ้นมาเอาดื้อ ๆ แล้วเธอก็บอกกับตัวเองว่า ถ้ามีวันนั้นมาจริง ๆ เธอก็คงจะไม่ขอมีชีวิตอยู่เป็นแน่แท้เลย หญิงสาวต้องสะดุ้งเมื่อเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้นขณะที่กำลังคิดอะไร ๆ เพลิน ๆ อยู่ บรูทูธถูกใช้งานทันที

“มีอะไรคะแม่ป้า”
“ยายข้าวรถที่พาลูกทัวร์ไปเที่ยวอยุธยาเกิดอุบัติเหตุแหนะ ป้ากำลังดูข่าวอยู่พอดีเลย ไม่รู้เป็นอะไรมากมั้ย”
“อ้าวเหรอคะ...ไม่รู้เหมือนกันค่ะยังไม่มีใครโทรมาบอกข้าวเลย เอาไว้ให้ถึงออฟฟิศก่อนเดี๋ยวข้าวจะโทรไปบอกนะคะ”
“จ๊ะ ๆ ยังไงโทรมาบอกป้าด้วยนะ ป้าห่วง” “ค่ะงั้นแค่นี้นะคะ”

“อะไรกันนี่ ต้อนรับปีใหม่แต่เช้าเชียวนะ พาราไดร้ส์ทัวร์” หญิงสาวบ่นอยู่คนเดียวในรถ และห่างจากรถของภรัณยาไม่กี่คัน โทรศัพท์มือถืออีกเครื่องก็ดังขึ้น
“จริงเหรอคะแม่...ตั้งแต่เมื่อไหร่คะ...ยังไม่รู้เลยค่ะ...ไม่รู้จะลางานได้มั้ยมันเพิ่งจะเปิดทำงานวันแรก เดี๋ยวนุชจะส่งเงินไปช่วยก่อนก็แล้วกันนะคะ แล้วค่อยว่ากันอีกที”

“ใครโทรมาอีกล่ะนุช” เจตน์ที่กำลังขับรถถาม
“แม่ค่ะบอกว่าป้าที่ป่วยอยู่สิ้นใจเมื่อเช้าตรู่นี้ค่ะ แม่ถามว่านุชจะไปงานศพได้มั้ย ก็เลยบอกว่าจะส่งเงินให้ก่อนแล้วจะโทรไปบอกอีกที” เธอตอบ แล้วโทรศัพท์ของเจตน์ก็ดังขึ้นอีกครั้ง ขณะที่เขาเลี้ยวรถเข้าออฟฟิศพอดี

“อะไรนะ แล้วเป็นอะไรมากมั้ยมีคนบาดเจ็บหรือเปล่า แล้ว...เอ่อ...รถคันนั้นประกันขาดเหมือนคราวที่แล้วหรือเปล่า” เขาถามผู้ที่โทรเข้ามารวดเดียว
“เอ้อ ๆ นี่ผมอยู่หน้าออฟฟิศแล้ว” เจตน์วางสายไป
“อะไรคะ” ปิยนุชถามด้วยความสงสัย

“รถที่พาลูกทัวร์ไปเกิดอุบัติเหตุ แต่แมวบอกว่าไม่เป็นอะไรมากหรอกรถมีประกันอยู่”
เขาบอกและก็คิดอะไรดี ๆ ได้ในตอนนั้น แล้วก็หันมายิ้มให้กับปิยนุชที่ทำหน้างง ๆ
“ฉันคิดอะไรได้แล้วนะนุช เธอจะช่วยฉันมั้ย ถ้างานนี้สำเร็จนะฉันจะมีรางวัลให้เธออย่างงามเลย” เขาบอก
“อะไรคะ นุชไม่เข้าใจจะให้นุชช่วยอะไรคะ ถ้ามันทำให้คุณเจตน์ยิ้มแบบมีความสุขเหมือนเมื่อกี้นุชก็ยินดีค่ะ”

“ถ้ายายข้าวเข้ามาทำงานนุชช่วยไปบอกให้ยายข้าวให้พานุชไปงานศพป้าที่เชียงรายเลยนะ ทำยังไงก็ได้ให้ยายข้าวพานุชไปให้ได้ และก็ดึงให้ยายข้าวติดอยู่ที่เชียงรายสักสามสี่วัน และที่สำคัญที่สุดในระหว่างวันนี้กับพรุ่งนี้หรือถ้าเป็นไปได้ก็ให้ถึงระรืนได้ยิ่งดี นุชจะต้องหาทางทำให้ยายข้าวติดต่อไปหาน้ามณฑาหรือว่าที่บ้านไม่ได้ จะทำยังไงก็ได้ฉันอนุญาต”

“ทำไมคะ” ปิยนุชถามด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจ
“เถอะน่า ทำตามที่ฉันบอกเถอะ แล้วทางนี้จะจัดการเอง อย่าลืมนะห้ามให้ยายข้าวติดต่อกับน้ามณฑาได้โดยเด็ดขาด โน่นรถยายข้าวมาแล้ว นี่นุชเอาเงินนี่ไปนะ เอาไว้ใช้จ่ายตอนไปเชียงราย แล้วถ้าไม่พอก็ใช้บัตรเครดิตนี้รูดเลย นุชจะใช้ยังไงก็ได้ ขอให้ทำตามที่ฉันบอก เร็วลงไปก่อนที่ยายข้าวจะเห็นนุชมากับฉัน” เขาบอกและควักเงินกับบัตรเครดิตให้ปิยนุชด้วยความรวดเร็ว และตัวเองก็รีบลงจากรถก่อนที่ภรัณยาจะจอดรถเสียอีก

“สวัสดีปีใหม่นะข้าว” เขารีบเดินไปทักทายภรัณยาที่เพิ่งจะลงมาจากรถ เพื่อให้ปิยนุชได้มีเวลาเดินออกจากรถเขาและตรงมาหาภรัณยา
“สวัสดีปีใหม่นะนายเจตน์ รู้เรื่องอุบัติเหตุหรือยัง” ภรัณยากล่าวแต่ก็ยิ้มเยาะเขาอยู่ในที แต่ก็อดเป็นห่วงเรื่องงานไม่ได้
“คุณข้าวสวัสดีค่ะ” ปิยนุชเดินมาถึงพอดี
“สวัสดีจ๊ะนุช ปีใหม่แล้วทำไมยังทำหน้าไม่ดีเลย” ภรัณยากล่าวตอบแต่ก็หันไปหาเจตน์แทน เพราะรอคำตอบเรื่องอุบัติเหตุมากกว่าสิ่งอื่นใด

“อ๋อ...แมวโทรมาบอกแล้ว ไม่มีอะไรมากหรอก รถก็มีประกันลูกทัวร์ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บมาก” เขาบอก
“เหรอ ฉันจะไปดูหน่อย เดี๋ยวลูกทัวร์จะเสียขวัญ” ภรัณยาบอกด้วยความห่วง
“เอ่อ...คุณข้าวคะ นุชมีเรื่องจะรบกวนค่ะ” ปิยนุชรีบเริ่มเมื่อเจตน์ส่งสัญญาณให้
“มีอะไรนุชทำไมทำหน้าอย่างนั้นล่ะ แล้วร้องไห้ทำไม” ภรัณยาถามเพราะเห็นน้ำตาของปิยนุชเอ่อเต็มเบ้าตา

“คือว่าป้าที่นุชรักและเคารพเพิ่งจะเสียเมื่อเช้าตรู่นี้ค่ะ แม่เพิ่งจะโทรมาบอกเมื่อสักพักนี่เอง จะกลับก็ไม่มีรถกลับแล้วค่ะ รถก็ไม่มีขับไปเอง จะขึ้นเครื่องก็ยังไม่ได้จองไว้เลย รถจะมารับที่สนามบินก็ไม่มีเพราะบ้านนุชมันห่างไกลความเจริญมากเลยค่ะ” ปิยนุชบีบน้ำตาให้ไหลออกมา

“อ้าว...เหรอ...เสียใจด้วยนะนุช แล้วจะทำยังไงดีล่ะ ให้คนเอารถขับไปส่งดีมั้ย” ภรัณยาเสนอ
“รถไม่มีว่างเลยข้าววันนี้ ให้ข้าวพาไปดีมั้ยนุช เพราะไหน ๆ ข้าวก็เป็นเจ้านายเราโดยตรงนะ จะได้ไปไหว้ศพคนที่นุชรักและเคารพด้วยไง ดีมั้ยข้าว ไปก็ได้นะ ฉันไม่ว่าอะไรหรอกก็มันจำเป็นนี่ เดี๋ยวทางนี้ฉันจัดการเอง” เจตน์บอก

“คุณข้าวจะกรุณานุชได้มั้ยคะ นุชไม่มีญาติที่ไหนเลยค่ะ อยู่กรุงเทพฯ ก็อยู่ตัวคนเดียวจะมีก็แค่คุณเจตน์กับคุณข้าวเท่านั้นค่ะที่นุชรู้จักและก็เคารพรัก ถือว่าเป็นการเมตตานุชเถอะนะคะคุณข้าว” ปิยนุชอ้อนวอน
“เอ่อ...นุชไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นหรอก ฉันพาไปก็ได้ แต่ขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านก่อนได้มั้ย แล้วจะได้เก็บเสื้อผ้าติดรถไปด้วยเลย” ภรัณยาบอกเพราะสภาพตัวเองตอนนี้ไม่เอื้อในการที่จะเดินทางไปต่างจังหวัดเลย

“เอ่อ...ไปเลยได้มั้ยคะคุณข้าว คือว่าบ้านนุชอยู่ไกลค่ะ กว่าจะไปถึงก็คงจะค่ำมืดทางเข้าบ้านลำบากมาก ๆ นุชว่าเราไปซื้อเอาเสื้อผ้ากลางทางดีมั้ยคะ นุชขออนุญาตเป็นคนออกเงินเองนะคะคุณข้าว นุชอยากจะไปให้ทันเผาศพคุณป้าค่ะ เพราะว่าประเพณีบ้านนุชคนตายแล้วก็จะเผาภายในวันนั้นเลยค่ะ นะคะคุณข้าว” ปิยนุชตกใจแทบช็อคเมื่อได้ยินว่าภรัณยาจะกลับไปบ้าน

“เอางั้นเหรอ...เอ่อ...งั้นก็ได้ ฝากทางนี้ด้วยนะเจตน์” ภรัณยาบอกก่อนที่จะเดินไปเปิดประตูรถ
“ไม่ต้องห่วงหรอกข้าว ขับรถดี ๆ ล่ะอย่าขับเร็วมาก ไม่ต้องรีบเดี๋ยวทางนี้ฉันจะจัดการเอง” เจตน์บอกและยิ้มให้ภรัณยาอย่างมีเลศนัย แต่ความเป็นคนที่ไม่ได้คิดร้ายกับใครก่อนทำให้เธอไม่ได้ทันคิดเรื่องพวกนี้เลย จึงได้แต่ขับออกไป

“นุชช่วยโทรศัพท์ไปเช็คเรื่องอุบัติเหตุให้หน่อยได้มั้ยว่าเป็นยังไงบ้าง” ภรัณยาบอกหลังจากที่ขับรถมาได้ไม่นาน
“ไกด์บอกว่าไม่เป็นอะไรมากค่ะทุกอย่างเรียบร้อยดี” ปิยนุชรายงานตามความจริง หลังจากที่ตัดสายจากคู่สนทนาแล้ว
“ขอเติมน้ำมันก่อนนะ...เข้าห้องน้ำมั้ยช่วยเอาเงินจ่ายค่าน้ำมันให้ด้วยนะเดี๋ยวไปห้องน้ำก่อน” ภรัณยาบอกเมื่อเลี้ยวรถเข้าปั้มน้ำมัน แล้วก็หันมาถามปิยนุชก่อนที่ตัวเองจะเดินตรงไปห้องน้ำ ระหว่างนั้นเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นและปิยนุชก็รู้ว่ามณฑาโทรมา

“เอ่อ...คุณข้าวไปเข้าห้องน้ำอยู่ค่ะ เรื่องอุบัติเหตุเหรอคะ...คุณเจตน์ดูแลอยู่ค่ะ คุณท่านโทรไปถามที่คุณเจตน์เลยนะคะ พอดีคุณข้าวกำลังยุ่งอยู่ค่ะ” ปิยนุชรีบวางสายก่อนที่อีกฝ่ายจะถามให้มากความกว่านี้ แล้วโทรศัพท์มือถือของภรัณยาก็ถูกปิดเอาไว้ทันที
“ฉันคงจะต้องขอไปดูที่เกิดเหตุให้สบายใจก่อนที่จะไปเชียงรายนะนุช กลัวจะมีอะไรผิดพลาดอีก ไหน ๆ มันก็เป็นทางผ่านของเราอยู่แล้ว” ภรัณยาบอกเพราะในใจนั้นอดห่วงเรื่องรถไม่ได้ เพราะเข็ดจากคราวที่แล้วไม่น้อย

“แล้วแต่คุณข้าวค่ะ” ปิยนุชบอกและยิ้มให้ แต่ในใจนั้นกลุ้มไม่หายที่ขัดขวางเจ้านายสาวไม่ได้ อีกชั่วโมงกว่า ๆ ภรัณยาก็มาถึงที่เกิดเหตุ ก็พบว่าลูกทัวร์ไม่ได้เป็นอะไรมากตามที่เจตน์บอกเอาไว้ และที่สำคัญรถก็มีประกันเรียบร้อย เธอจึงรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก

“นุชช่วยหยิบโทรศัพท์ในรถให้หน่อยจะโทรไปบอกแม่ป้าหน่อยเดี๋ยวจะห่วง” ภรัณยาบอกปิยนุช มือถือที่ปิดเอาไว้ถูกปิยนุชเปิดขึ้นอีกครั้ง แต่ในใจก็เป็นกังวลที่สุดกับจุดหมายที่เจ้านายจะติดต่อไป
“นี่ค่ะคุณข้าว” ปิยนุชยื่นโทรศัพท์ให้เธอ เบอร์ด่วนที่ memory ถูกกดขึ้นมาทันที เพราะภรัณยาไม่คิดที่จะจำเบอร์ใครให้รกสมองแม้กระทั่งเบอร์บ้านตัวเอง เพราะมีมือถือเป็นตัวช่วย

“คุณข้าวคะคุณข้าว ช่วยกรุณาเคลียร์กับลูกทัวร์รายนี้ให้หน่อยค่ะ เขาบอกว่าไม่อยากจะไปเที่ยวต่อแล้วอยากจะกลับกรุงเทพฯ เลยค่ะ” ไก้ด์สาวเดินตรงมาหาเธอขณะที่กำลังใช้สายเรียกไปที่มณฑา
“นุชช่วยบอกแม่ป้าให้หน่อยว่าทุกอย่างเรียบร้อย ไม่ต้องเป็นห่วงนะ แล้วก็บอกด้วยว่าฉันจะพาเธอไปไหนและจะกลับเมื่อไหร่” ภรัณยายื่นโทรศัพท์ให้ปิยนุชก่อนที่จะเดิมตามไก้ด์ไป

“คุณท่านเหรอคะ เอ่อ...คุณข้าวอยู่ที่เกิดเหตุพอดีค่ะ แต่ว่ากำลังไปเคลียร์กับลูกทัวร์อยู่ค่ะ พอดีลูกทัวร์มีปัญหาจะไม่ยอมอะไรประมาณนี้ล่ะค่ะ” ปิยนุชตอบไป
“แล้วเป็นอะไรมากหรือเปล่าล่ะหนูนุช” มณฑาถามด้วยความห่วง

“นุชว่าให้คุณท่านโทรถามกับคุณเจตน์เองดีกว่านะคะ นุชไม่กล้าบอกอะไรมากกว่านี้ค่ะ งั้นแค่นี้ก่อนนะคะที่นี่กำลังวุ่นวายค่ะ ตำรวจมากันใหญ่เลยค่ะ” ปิยนุชบอกออกไปเพื่อจะตัดบทสนทนาให้น้อยลง จนมณฑาต้องยอมวางสาย
“เป็นยังไงบ้างคะคุณข้าว” ปิยนุชถามเมื่อภรัณยาเดินกลับมา

“ไม่มีอะไรหรอก แค่ลูกทัวร์กลัวแค่นั้น แต่คุณเจตน์โทรมาบอกแล้วว่าจะคืนเงินค่าทัวร์ให้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์ทุกอย่างเลยเรียบร้อยแล้ว ไปกันเถอะกว่าจะถึงก็คงจะอีกนาน” ภรัณยาบอกตามที่ได้คุยกับเจตน์เมื่อสักครู่นี้แล้ว









Create Date : 13 กันยายน 2551
Last Update : 13 กันยายน 2551 7:35:56 น. 15 comments
Counter : 427 Pageviews.

 


กาแฟร้อนๆจ้าาาาา พักยกก่อนนะ เดียวค่อยอัพนิยายต่อ


โดย: Airis_Ai วันที่: 13 กันยายน 2551 เวลา:18:47:43 น.  

 
แวะมาให้กำลังใจค่ะ


โดย: แพรวา IP: 114.128.27.5 วันที่: 15 กันยายน 2551 เวลา:12:26:45 น.  

 
อะจ้า กาแฟถ้วยนี้กินยังไงก็กินไม่หมด
ทำไงดีน้า

แพรจา ขอบคุณนะที่แวะมา
ตามสบายนะ คิดว่าเป็นบ้านของตัวเองก็แล้วกัน


โดย: ธัญรัตน์ IP: 202.149.25.225 วันที่: 16 กันยายน 2551 เวลา:14:45:38 น.  

 
แวะมาชมผลงานครับ

สู้ สู้นะครับ

ขอฝาก blogไว้หน่อยนะครับ

//nongsomying.blogspot.com


โดย: I'Mc: IP: 125.27.82.92 วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:10:59:13 น.  

 
ขอบคุณค่ะคุณ I'Mc ที่แวะมาเยี่ยม

ยินดีต้อนรับเข้ากระท่อมน้อยนะคะ

เหนื่อยเมื่อไหร่ก็แวะมาใหม่นะคะ


โดย: ธัญรัตน์ IP: 202.149.25.233 วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:11:11:32 น.  

 
แวะมาเยี่ยมฮะ ผมก็มีบ้านอยู่ที่นี่เหมือนกัน


ขออนุญาตแอดไว้เลยนะฮะ แล้วจะมาเยี่ยมเยียนบ่อยๆ ^ ^


โดย: ยางมะตอยสีชมพู (ยางมะตอยสีชมพู ) วันที่: 18 กันยายน 2551 เวลา:22:50:07 น.  

 
ขอบคุณ คุณยางฯ ค่ะ
ที่แวะมาเยี่ยม หากมีอะไรจะแนะนำก็เชิญนะคะ

อ้อ ดิฉันเคยแวะไปบ้านคุณยางฯ เมื่อนานมาก ๆ แล้ว บ้านชายโสดนี่ คนละลุ๊คกับบ้านดิฉันเลยนะคะ

ยินดีที่จะแอดไว้ค่ะ


โดย: ธัญญะ วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:8:30:37 น.  

 
เยี่ยมครับ
แอบเเวะมาอ่าน
และแอบชื่นชมอยุ่ห่างๆ อย่างหว่งๆ อีกครั้งครับ


โดย: ชายชมจันทร์(ในวันฝนโปรย) IP: 75.38.34.22 วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:11:55:08 น.  

 
ขอบคุณค่ะคุณชายฯ ที่แวะมาเยี่ยม

ถ้าจะแอบชื่นชมเข้ามาใกล้ ๆ อีกนิดก็ได้นะคะ
ดิฉันไม่ว่าค่ะ

และหากจะแนะนำ ติชมผลงานด้วย ก็จะเป็นการดีนะคะ


โดย: ธัญรัตน์ IP: 202.149.25.234 วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:14:47:49 น.  

 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

มาลงชื่ออ่านครับ ตามมาจากเว็บบอร์ดของคุณวินทร์ครับ

อิอิ


โดย: อาคุงกล่อง (อาคุงกล่อง ) วันที่: 19 กันยายน 2551 เวลา:22:12:37 น.  

 
ขอบคุณ คุณอาคุงกล่องค่ะ

ที่แวะมาเยี่ยม ยินดีต้อนรับสู่กระท่อมน้อยค่ะ

อ่านแล้วรบกวนช่วยติติงด้วยนะคะ ยินดีน้อมรับด้วยความเต็มใจค่ะ


โดย: ธัญรัตน์ IP: 202.149.24.129 วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:7:12:47 น.  

 
มาแล้วค่าาา
ขอบคุนพี่มากกค่ะ ดีใจมากมายที่ทำให้นู๋ได้
อ่านสมใจอยากแล้ว อิอิ
ชอบ blog บ้านนี้จัง ธรรมชาติสุดๆ ได้บรรยากาศ
นอน เอ๊ย อ่านมากค่ะ.
งานยุ่งมากค่ะ วันหลังแวะมาใหม่นะคะ
o(^o^)o


โดย: Dozaemon IP: 212.30.211.225 วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:18:21:51 น.  

 
ขอบคุณน้อง Dozaemon มาก ๆ ค่ะ
ที่แวะมาเยี่ยม

ยินดีต้อนรับเข้ากระท่อมน้อยนะคะ


โดย: ธัญรัตน์ IP: 202.149.24.129 วันที่: 20 กันยายน 2551 เวลา:20:03:52 น.  

 
สวัสดีค่ะ

วันนี้แวะเข้ามาเยี่ยมก่อนนะคะ วันหลังจะเข้ามาอ่านค่ะ

บล็อกนี้น่ารักเหลือเกิน ทำให้อยากมีบล็อกแบบนี้บ้าง

แล้วจะแวะมาใหม่นะคะ


โดย: ต้นข้าว IP: 118.175.146.108 วันที่: 31 ตุลาคม 2551 เวลา:9:13:56 น.  

 
ขอบคุณมาก ๆ ค่ะ คุณต้นข้าว



โดย: ธัญรัตน์ IP: 202.149.25.241 วันที่: 1 พฤศจิกายน 2551 เวลา:11:41:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ธัญญะ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




ขอสงวนสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อคแห่งนี้ ตามพ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง แก้ไขโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืน จะดำเนินตามกฎหมายสูงสุด!!
Friends' blogs
[Add ธัญญะ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.