The Final Cut .... น่าเสียดายที่หนังเกือบจะดี
..................................คุณว่าจะเป็นอย่างไร หากมนุษย์ชาติในอนาคตสามารถเลือกที่จะฝัง หรือไม่ฝังไมโครชิพ ที่จะเป็นตัวบันทึกภาพเหตุการณ์ทุกอย่างที่ตาคุณเห็นในชีวิตลงไปได้ ภาพเหตุการณ์ชีวิตของคุณความยาวกว่า 5แสนกว่าชั่วโมง สามารถตัดต่อออกมาเป็นหนังสั้นเพื่อเป็นอนุทินชีวิตให้คนรุ่นหลังได้ระลึกถึงคุณอีกต่อไปอีกตราบนานเท่านาน และในโลกอนาคต มีอาชีพใหม่เกิดขึ้น ก็คือ นักตัดต่อ ซึ่งจะคอยตัดต่อภาพเหตุการณ์ชีวิตของใครๆที่ฝังไมโครชิพที่ว่านี้ เพื่อทำออกมาเป็นหนังสั้น ( หรืออาจจะหนังยาว ) เอาไว้ให้กับทายาทของผู้ตาย ซึ่งโดยมากก็จะเอาไปฉายในงานศพ แทนการขึ้นมากล่าวคำไว้อาลัยแบบสมัยเก่า ซึ่งไมโครชิพที่ว่านี้ ถ้าจะดูได้ก็ต่อเมื่อเจ้าของร่างกายที่ฝังชิพนั้นตายเรียบร้อยแล้ว แต่ก็ยังมีออปชั่นพิเศษแถมให้ ถ้าใครอยากดูภาพจากชิปที่ว่านี่ขณะที่เจ้าของร่างยังไม่ตาย ก็สามารถทำได้ แต่เป็นความเสี่ยงอยากมาก และมีเวลาจำกัดไม่เกิน30นาที
...................................พระเอกของเรื่อง คือ โรบิน วิลเลียมส์ รับบทเป็นนักตัดต่อมือ1แห่งวงการ คอยรับหน้าที่ตัดต่อภาพชีวิตให้กับคนตาย โดยเขาจะคัดแต่ฉากดีๆของคนเหล่านั้นออกมา โดยตัดทิ้งความเลวความชั่วของคนเหล่านั้นออกไป และด้วยความเก่งฉกาจของเขา ก็สร้างรายได้เป็นกอบกำให้กับเขา แต่ทว่าวันนึงเขากลับมารู้ว่า ตัวเองก็ดันมีไมโครชิปที่ว่าติดอยู่ด้วยเหมือนกัน และมันเป็นการผิดกฏของนักตัดต่ออย่างร้ายแรง เพราะนักตัดต่อทุกคนจะต้องไม่มีชิปที่ว่านี่ฝังอยู่ในร่างกาย ไม่งั้นความลับทุกอย่างก็ล้วนอยู่ในตัวเขา สามารถขุดเอามาใช้ได้ทุกเมื่อ ถ้าเจ้าของร่างนั้นตาย !! งานนี้เขาจะรอดพ้นจากผลกรรมที่เขาทำได้หรือเปล่านะ ต้องไปหาหนังมาชมกันเองนะครับ ...หนังเรื่องนี้นอกจากจะมี โรบิน วิลเลียมส์ แล้วยังมีดาราดังๆอย่าง มีร่า ซอร์วีโน่ และ จิม คาวีเซล มารับบทสมทบอีกตะหาก
....................................ส่วนตัวแล้วเสียดายหนังเรื่องนี้มากครับ ผมว่าพล็อตมันแข็งแรงดีอ่ะ ส่งผลให้ผมจดจ้องกับจอทีวีตลอดเรื่องจนหนังจบ ก็ได้แต่อุทานว่า จบแบบนี้ แค่นี้อ่ะเหรอ .. คือมันสามารถพัฒนาเป็นบทหนังที่ดีได้ แต่กลับเขียนเป็นเรื่องราวอะไรออกมาก้อไม่รู้ คิดดูอุตส่าห์คิดค้นไมโครชิปที่สามารถดูเหตุการณ์ชีวิตมนุษย์ได้ทุกอย่างออกมา แต่คนในหนังกลับเอามาใช้ประโยชน์เป็นแค่ ทำหนังสั้นฉายหน้างานศพ ?? ทั้งๆที่ภาพต่างๆเหล่านี้สามารถเอาไปใช้ประโยชน์ได้มากมายในชีวิต ... สามารถเอาไปเป็นหลักฐานการจับผิดนักการเมืองชั่ว สามารถเอาไปใช้ในทางการศึกษา การค้นคว้า การวิจัย การแพทย์ การประดิษฐ์ต่างๆ ฯลฯ คือถ้าเราสามารถเรียกดูภาพพวกนี้ได้ มันมีคุณอนันต์ และโทษมหันต์พอๆกันเลยครับ เรียกว่าเป็นนวัตกรรมแห่งอนาคตที่สามารถพลิกอะไรได้หลายอย่างเลย แต่ในหนังกลับไม่ทำให้เรารู้สึกแบบนั้น ....
.....................................หลายๆชีวิตบนโลกใบนี้ สามารถหยิบยกเอามาตัดต่อ เอามาศึกษาเรียนรู้ แบบได้เห็นกับตา ยิ่งกว่าหนังสือใดๆบนโลก เราอาจจะสามารถได้ดูชีวิตของเขา ผ่านสายตาของเขาจริงๆ ( อาจจะในโรงหนัง หรือ ทางทีวี ) ชีวประวัติของบุคคลสำคัญในโลกจะไม่ใช่เรื่องน่าเบื่ออีกต่อไป และแน่นอนว่าจะเป็นการปฎิวัติหนังแนวอัตตชีวประวัติของโลกไปโดยสิ้นเชิงแน่นอน เพราะแค่วัตถุดิบจากไมโครชิพตัวเดียว ก็เอามาตัดต่อเป็นหนังได้แล้ว โดยไม่ต้องลงทุนอะไรเลย ( นอกจากไปขออนุญาติจากทายาท หรือซื้อสิทธิในข้อมูลนั้น ) หนังเรื่องนี้ทำให้คนดูเห็นกันชัดๆเลยว่า การตัดต่อหนังมีคุณประโยชน์มากมายขนาดใหนต่อหนังเรื่องนั้นๆ มันสามารถพลิกหมาให้เป็นแมว พลิกซาตานให้เป็นเทพเจ้า หรือสามารถบิดเบือนประวัติศาสตร์ได้เลยทีเดียว ถ้าหากฟุตเตจมีมากเพียงพอ ผมว่าหนังเรื่องเดียวกัน ผู้กำกับคนละคนกัน นักตัดต่อคนละคนกัน อาจจะทำหนังหนังเรื่องเดียวกัน ออกมาเป็นคนละแนวไปเลยก็ยังได้ นับประสาอะไรกับชีวิตของเราๆ ... บางคนอาจจะเลือกจำบางอย่าง เลือกลืมบางอย่าง แต่สุดท้ายถ้าทุกอย่างมันยังคงอยู่ แผ่นดิสท์แผ่นนั้น หรือไมโครชิพอันนั้น จะเป็นตัวแทนของเราต่อไปอีกตราบนานเท่านาน ดังนั้นถ้าจะต้องเลือก ผมอยู่ฝ่ายสนับสนุนโครงการชิปอันนี้นะ และถ้าการติดตั้งไม่แพงเกินไป ผมว่าก็น่าจะติดให้กับคนทุกคนเลยนะ ใครจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับใครๆ .... สมมุติใครโดนฆาตกรรม แค่เอาไมโครชิปมา ก็ดูหน้าฆาตกรได้แล้ว พาไปสู่การจับกุม ฯลฯ บางทีภาพที่หลายคนไม่เคยคาดว่าจะได้เห็น ก็จะได้เห็นกันล่ะ เพราะขนาดแม้แต่ภาพฝัน ภาพในความนึกคิด ก็ยังสามารถถ่ายทอดออกมาเป็นภาพได้ คิดดูสิ อะไรจะวิเศษขนาดนั้น ??
ป.ล. ลืมให้ดาวไป สองดาวกว่าๆครับ
Create Date : 25 กันยายน 2550 |
|
16 comments |
Last Update : 25 กันยายน 2550 12:02:40 น. |
Counter : 4382 Pageviews. |
|
 |
|