บล็อคของพีอาร์ชมรมหมีแพนด้า
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2555
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
31 ตุลาคม 2555
 
All Blogs
 
Intouchables ....เป็นมากกว่าศิลปะ เกินคำว่างดงาม นี่คือหนังแห่งพลังชีวิต สุดยอดครับ !!

Intouchables ( สามดาวครึ่ง )

....................เกือบพลาดชมหนังเรื่องนี้ซะแล้วสิ แต่อย่างว่าหนังบางเรื่องมันสมพงษ์กะเรา เหมือนฟ้าลิขิตให้เราได้มีโอกาสดู ยังไง๊ ยังไง มันก็ได้ดูจนได้น่ะแหละครับ คือถ้ามากหรือน้อยไปนิดเดียว วงโคจรมันผิดเพี้ยนไปเราก็อาจจะได้แค่เกือบได้ดู จะว่าไปแล้วก็เหมือนชีวิตของคนบางคนที่ถูกลิขิตขึ้นมาเพื่อให้เป็นของกันและกัน และหรือ เพื่อเติมเต็มระหว่างกัน ไม่ใช่ในความหมายของคนรัก และอาจจะหมายถึงเพื่อน โซลเมท แม้แต่การเป็นคู่ขากัน ? แค่พบประสบตาแว่บเดียวทำไมบางคนถึงได้รู้สึกถูกโฉลกกัน บ้างก็รักกันจนวันตาย ทั้งที่คนอื่นอาจมองว่า คนสองคนนั้นไม่น่าจะเป็นเพื่อนหรือเป็นคู่รักกันได้ จะด้วยความที่แตกต่างทางชนชั้น ความรู้ ฐานะ ฯลฯ มันไม่มีอะไรที่เป็นบรรทัดฐานตายตัวหรอกครับว่า จะต้องเหมือนกันถึงจะซี้กัน รักกัน หรือต่างกันโดยสิ้นเชิงจะไปกันไม่รอด มันอาจจะเป็นแค่เรื่องของพรหมลิขิต หรือความคลิ๊กกัน ก็เท่านั้นเอง เช่นเดียวกัน มันก็ไม่มีเหตุผลใดๆทั้งสิ้นถ้าคนเราจะเกลียดชังกันตั้งแต่เห็นแว่บแรกด้วยความไม่ถูกโฉลก !! หนังฝรั่งเศสเรื่องนี้ก็เช่นเดียวกันครับ มันอาจจะถูกสร้างมาเพื่อฉายสำหรับคนในวงกว้าง ทั่วโลกมันทำเงินมาแล้วมหาศาลทั้งในบ้านเกิดและนอกประเทศ แต่เมืองไทยแอบมาฉายเงียบๆตามโรงหนังอาร์ตเฮ๊าส์ มีคนดูแค่หยิบมือเดียว และคงจะมีแค่คนโชคดีไม่กี่คนที่มีโอกาสได้ดูหนังดีๆเรื่องนี้ อย่างที่ผมเคยบอก บางทีไม่ใช่เราเป็นคนเลือกหนังที่จะดูหรอก แต่ หนัง น่ะแหละเป็นคนเลือกให้เราหรือใครเข้าไปดูตะหาก ~

....................Intouchable เป็นหนังฝรั่งเศสที่ทำเงินในระดับปรากฏการณ์ กวาดทั้งเงินและกล่อง เรียกว่าเป็นหนังขวัญใจมหาชน ปกติแล้วหนังสัญชาตินี้มักจะเป็นหนังเฉพาะกลุ่มมากกว่าจะโกยเงินถล่มทลาย และด้วยเนื้อหาของหนังนั้นผมวิเคราะห์แป๊ปเดียวผมก็รู้เลยว่านี่น่าจะเป็นหนังที่ผมถูกโฉลก เรื่องราวความสัมพันธ์ของ มหาเศรษฐีหนุ่มผู้เป็นอัมพาต กับ ผู้ดูแลซึ่งเป็นหนุ่มผิวสีที่เติบโตมาจากสลัม ท่าทางเหลือขอ ทั้งคู่จะมาผูกพันกันได้อย่างไร เค้าเชิญชวนให้ไปดูกันเองโดยขึ้นป้ายไว้ว่า Base on true story อีกแล้ว แต่ความจริงเค้ามาเฉลยตอนจบนะครับว่าแค่ inspired นั่นก็แปลว่าเรื่องจริง มีเค้าโครงจริง แต่ดัดแปลงเยอะจนอาจจะไม่เหมือนชีวิตจริงๆ เหตุการณ์จริงเลยก็ว่าได้ นั่นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะนี่คือภาพยนตร์ ไม่ใช่หนังสารคดี ? หนังมีความน่าประทับใจเยอะมว๊ากมว๊ากก ทั้งๆที่จริงๆหนังก็ดำเนินคล้ายๆขนบของหนังฮอลลีวู๊ดแนวๆนี้ แต่สร้างความแตกต่างให้กับตัวเองตรงที่ หนังไม่พยายามดราม่าและไม่ฟูมฟาย ไม่บิ๊วท์อารมณ์ ที่สำคัญ ไม่ยัดเยียดความรู้สึกฟีลกู๊ดแบบโฉ่งฉ่างน่าเกลียด หนังพัฒนาความสัมพันธ์ของตัวละครได้อย่างรวดเร็ว เป็นขั้นเป็นตอน และเรารู้สึกกระโดดไปกับตัวละครได้แบบสมูธ ค่อยๆเข้าใจเค้าทีละนิด ทีละหน่อย ผ่านสถานการณ์ที่ค่อยๆวางลงมา แล้วเราค่อยๆลื่นไหลไปกับตัวละคร เริ่มซึมซับวิธีคิดแบบตัวละคร ขนาดว่าเข้าใจตัวละครทั้งคู่ เหมือนดั่งถูกดูดเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์ตรงนั้น และทำให้เรารู้สึกลุ้นไปกับเรื่องราว และรักตัวละครทั้งสองฝ่ายอย่างหมดใจ

....................อารมณ์ขันของหนังผมไม่อยากเรียนว่านี่คืออารมณ์ขันแบบวัฒนธรรมฝรั่งเศส เพราะผมเชื่อว่าภาษาหนังมันเป็นอะไรที่ universal ไม่งั้นหนังคงไม่กวาดเงินมหาศาลในระดับนานาชาติ มันคือศิลปะ คือภาษาของมนุษยชาติเพราะฉะนั้นไม่ว่าสัญชาติใหนก็จะสนุกกับหนังเรื่องนี้ได้อย่างแน่นอน ขอเรียนตามตรงว่าหนังอบอุ่น ฉลาด มีอารมณ์ขัน สนุกและตลกมว๊ากกมว๊ากกอย่างเหลือเชื่อ ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องราวของคนสองคน อย่างคนพิการเป็นอัมพาต กะพี่เลี้ยงผิวดำที่ไม่เข้ากันเลยสักนิด จะสามารถสร้างบทสนทนาที่ฉลาด ตลกได้ขนาดนี้ ถึงขนาดทำให้เราหัวเราะเป็นวรรคเป็นเวร โดยที่ไม่ได้รู้สึกบวกหรือลบไปกับตัวละคร เรารู้สึกว่านี่คือมนุษย์คนนึง ( มนุษย์ 2 คน ) โดยมองข้ามความพิการ หรือความแตกต่างของสีผิว ฐานันดร อะไรต่อมิอะไรออกไป เหลือเพียงแค่มนุษย์สองคนที่ห่วงใยกัน ทั้งๆที่เดิมทีสองฝ่ายไม่น่าจะมาใยดีอะไรกันได้เลยสักนิด ยิ่งตัวพี่เลี้ยงผิวดำนี่มาแบบจริงๆเค้าไม่ได้กะมาทำงานด้วยซ้ำ แค่อยากมารับใบรับรองว่าเค้ามาสมัครแล้วนะ แต่ไม่ผ่านได้เข้าทำงาน เพื่อจะไปรับเงินสงเคราะห์สวัสดิการ ส่วนตาเศรษฐีนั้นก็รับหนุ่มผิวดำเพียงเพราะว่า เพราะเค้าไม่ได้สงสาร ไม่ได้มองตัวเหมือนคนพิการน่าสมเพช แต่มองเศรษฐีว่าเป็นมนุษย์คนนึงเท่านั้น แล้วทั้งหมดต่อจากนั้นก็กลายเป็นความงดงามของมิตรภาพ ความผูกพันที่มนุษย์สองคน ค่อยๆเรียนรู้ ซึมซับ เข้าใจกัน มันเป็นการแสดงให้เห็นว่า ความต่างไม่ได้ทำให้เราต้องเกลียดกันหรือผลักไสกันให้ออกห่าง แต่เราสามารถเอาความต่างมาเรียนรู้ได้ นี่มันคือหนังแห่งการปรองดองสมานฉันท์ชัดๆนะเนี่ย

....................ใครบอกว่าหนังฝรั่งเศสดูยาก อาร์ต เซอร์ เหวอ ไม่สนุก ผมอยากท้าให้ไปดูหนังเรื่องนี้ทันที เพราะนอกจากจะเปี่ยมคุณค่าในเชิงศิลปะแล้วยังเต็มไปด้วยความสนุกสนานบันเทิง ให้ข้อคิดเรากลับออกจากโรงและที่สำคัญผมคิดว่ามันทำให้เราอิ่ม ยกระดับจิตวิญญาณ จะเรียกว่าจรรโลงใจก็น่าจะได้ เราจะรู้สึกถึงความงดงามของการได้เกิดเป็นมนุษย์ โอเค แม้ชีวิตจริงอาจจะมีเรื่องแย่ๆให้เราเห็นอยู่มากมาย แต่เศษเสี้ยวของความงดงามนั้นมันย่อมมีอยู่ เพียงแต่เราจะเห็นมันหรือเปล่าเท่านั้นเอง การที่มีคนมาคอยสะกิดเราให้ดูได้เหลียวมอง ความงามของชีวิตที่เรามองข้ามมันไป ผมว่ามันคือการเติมพลังชีวิตที่เราไม่ค่อยได้รับบ่อยๆนะครับผมว่า ทุกวันนี้เรามักห่วงแต่ตัวเอง มัวแต่ทำร้ายกันและกัน บางทีการได้ดูคนอื่นทำดี คิดดีต่อกัน อาจจะทำให้เราได้หวนกลับมามองตัวเอง ปฏิบัติตัวเสียใหม่ ลดละเลิกการทำลายทำร้ายกัน เริ่มปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ในเชิงบวกให้มากขึ้น อาจจะไม่ต้องถึงขนาดมาอี๋อ๋อ แต่อย่างน้อยการยุติความรุนแรง หรือเลิกคิดร้ายต่อคนอื่น แค่นั้นมันก็ทำให้โลกเราน่าอยู่ขึ้นมากแล้ว เพราะทุกวันนี้เห็นมีแต่ม๊อบสร้างความเกลียดชัง ยุยงให้เกิดความรุนแรง แม้แต่สังคมโลกไซเบอร์ ก็ยังมีพวกคอยเสี้ยม พวกคอยยุแยง สร้างความร้าวฉานให้เห็นกันอยู่เรื่อยๆ ถ้าไม่มีสิ่งรอบข้างคอยอบรมสอนสั่ง การมีหนังดีๆสักเรื่องมาสะกิดเตือนใจให้คนเหล่านั้นคิดชั่วน้อยลง สงบมากขึ้น หันมาเริ่มทำดีขึ้นบ้าง นี่ก็เรียกว่าภาพยนตร์เรื่องนั้นสามารถทำได้ในระดับศาสนา อาจจะทำไม่ได้ด้วยซ้ำ มันไม่ใช่เรื่องวิเศษหรอกหรือครับ ? ขอบคุณหนังเรื่องนี้จริงๆที่เรียกผมเข้าไปดูนะครับ

ป.ล. หนังยังเหลือรอบฉายที่เฮ๊าส์อยู่วันละรอบนะครับ 1 - 7 พ.ย.นี้ รอบ 16.30 น.

ฟังเพลงซาวน์แทรคหนังเพราะๆเชิญทางนี้ครับ

//th-th.facebook.com/pages/Sweet-Soundtrack-s-lover/259904340708159

 




Create Date : 31 ตุลาคม 2555
Last Update : 31 ตุลาคม 2555 23:44:46 น. 3 comments
Counter : 4437 Pageviews.

 
อีกเรื่องหนึ่งที่อยากดูครับ


ปล. ผมก็มี Facebook นะครับ แต่ปล่อยร้างไม่ค่อยได้เล่นน่ะครับ

แฟนเอาไปใช้เล่นเกมเป็นหลักครับ


โดย: navagan วันที่: 3 พฤศจิกายน 2555 เวลา:15:18:39 น.  

 
โอ้ววว คงต้องหามาดูแล้วค่ะแบบนี้
ปกติตั๊กไม่ค่อยได้ดูหนัง ฮ่าๆๆ ดูก็ดูไม่ค่อยจบ เบื่อซะก่อน แต่เท่าที่อ่านเรื่องนี้น่าจะจะดี อิอิ


โดย: Nepster วันที่: 3 พฤศจิกายน 2555 เวลา:22:33:38 น.  

 
เรื่องนี้ชอบมากๆๆๆๆๆค่ะ
เป็นหนังfeel good ที่ดูแล้ว feel good จริงๆ :)


โดย: :)))) IP: 171.101.187.209 วันที่: 24 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:14:17:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

joblovenuk
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




บล็อคของพีอาร์ชมรมหมีแพนด้า พีอาร์ประจำชมรมหมีจีนครับ
คิดว่ามิตรภาพในโลกไซเบอร์มีจริงๆ


ใครๆเค้าว่าผมพูดมาก ชอบเม๊าท์ ปากจัด ส่วนนิสัยเหรอครับ ไม่รู้เหมือนกันครับ อาจจะดีหรือแย่ก็ได้ แล้วแต่คนจะมองครับ ชอบทำความรู้จักผู้คนเยอะๆ ขี้เหงา นอนไม่หลับ ประจำ คิดเล็กคิดน้อย ฟุ้งซ่าน เบื่อๆ เซ็งๆ




Friends' blogs
[Add joblovenuk's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.