Ortho knowledge for all @ Do no harm patient and myself @ สุขภาพดี ไม่มีขาย ถ้าอยากได้ ต้องสร้างเอง
<<
ธันวาคม 2551
 
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
6 ธันวาคม 2551

ชิฟฟ่อนเค้ก ... ( ได้รับ รางวัลดีเด่น )





ชิฟฟ่อนเค้ก


“คุณรู้จักชิฟฟ่อนเค้กไหมครับ”

“ชิฟฟ่อนเค้ก คือ เค้กที่มีลักษณะรวมของเค้กเนยและเค้กไข่ มีโครงสร้างที่ละเอียดของเค้กไข่กับมีเนื้อเค้กที่นุ่มและเป็นมันของเค้กเนย”

“ผมเชื่อว่าหลายท่านคงรู้จักและเคยรับประทานมัน ผมเองก็เคยรับประทานมาหลายชิ้น ในวันนี้ผมจะเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชิฟฟ่อนเค้กชิ้นหนึ่งที่ผมไม่เคยลืมตลอดชีวิต

คืนนั้น...เป็นคืนหนึ่งในฤดูร้อน อากาศในวอร์ดอายุรกรรมหญิง 1 ค่อนข้างร้อนอบอ้าว นาฬิกาบอกเวลาสองทุ่มตรง ผมซึ่งมีหน้าที่อยู่เวรในวันนั้นนั่งอยู่ที่โต๊ะซึ่งจัดไว้ให้นักศึกษาแพทย์โดยเฉพาะ เป็นโต๊ะที่อยู่ข้างหน้าวอร์ด สามารถมองเห็นคนไข้ได้ทั้งหมด

สำหรับนักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 4 ที่ขึ้นวอร์ดอายุรกรรมเป็นวอร์ดแรก ไม่ว่าอะไรก็ดูแปลกใหม่สำหรับเขาไปเสียหมด ไม่ว่าจะเป็นการต้องสัมภาษณ์ประวัติและตรวจร่างกายคนไข้รับใหม่ การตื่นแต่เช้าเพื่อมาดูคนไข้ของเราเป็นคนแรก ดูว่าสัญญาณชีพเป็นอย่างไร มีผลตรวจทางห้องปฏิบัติการอะไรออกใหม่บ้าง มีอาการเจ็บป่วยอะไรเพิ่มขึ้นไหม หรือแม้แต่การนำเลือด เสมหะ ปัสสาวะและอุจจาระของคนไข้ไปตรวจด้วยตนเอง

สำหรับผมแล้วผมเชื่อว่าไม่มีใครรู้เรื่องของคนไข้ได้ดีเท่านักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 4 และสำหรับผมแล้วการรู้เกี่ยวกับความเจ็บป่วยของคนไข้ที่เราดูแลอยู่ก็น่าจะเพียงพอแล้ว จนถึงคืนนี้...

ตอนนี้นาฬิกาบอกเวลาสองทุ่มครึ่ง ภายในวอร์ดปิดไฟหมดแล้ว คงมีแต่โต๊ะของนักศึกษาแพทย์และภายในที่ทำการพยาบาลที่ยังคงเปิดไฟอยู่ สำหรับผมแล้วคืนนี้เป็นคืนที่เงียบเสียจริงๆ ภายในวอร์ดมีเพียงเสียงของเครื่องช่วยหายใจและเสียงหัวใจของผม ขณะนั้นผมได้ยินเสียงฝีเท้าเดินมาจากทางเข้าวอร์ด

ผมมองไปที่ประตูของวอร์ดอายุรกรรมและก็เห็นชายคนหนึ่งเดินเข้ามา ชายคนนั้นใส่เสื้อโปโลสีเหลืองกับกางเกงยีนส์สีน้ำเงิน

“สวัสดีครับคุณหมอ”

ชายคนนั้นเอ่ยขึ้นเพื่อทำลายความเงียบ

“สวัสดีครับ”

ผมตอบกลับไปอย่างสุภาพ

“ผมขอเยี่ยมคนไข้เตียง 8 หน่อยนะครับ ท่านเป็นคุณแม่ผมเอง เผอิญผมเพิ่งปิดร้านเสร็จ”

“เชิญตามสบายเลยครับ”

ผมตอบไปอย่างนั้น เพราะถึงแม้ทางโรงพยาบาลจะให้เข้าเยี่ยมคนไข้ในวอร์ดสามัญได้ไม่เกินสองทุ่ม แต่ผมก็เข้าใจว่ามันก็ไม่ได้เป็นอะไรที่ตายตัวนัก เพราะญาติของผู้ป่วยบางคนอาจมีความจำเป็นบางอย่าง เช่นทำงานเลิกช้า หรือทำงานกะดึก เราก็อนุโลมกันไป

ชายคนนั้นเดินไปที่เตียง 8 ซึ่งเป็นเตียงที่ตรงข้ามกับโต๊ะที่ผมนั่งอยู่ ผมมองตามเขาไปและมองไปที่คนไข้ ผมมองเพียงไม่กี่วินาทีก็รู้ว่าไม่ใช่คนไข้ที่ผมเป็นเจ้าของไข้

คนไข้เตียง 8 เป็นหญิงชราอายุประมาณ 80 ปี ใส่ท่อช่วยหายใจต่อกับเครื่องช่วยหายใจ ไม่รู้สึกตัว ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณยายขึ้นมาอยู่บอวอร์ดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณยายเป็นอะไรถึงต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะตอบลูกคุณยายอย่างไรถ้าถูกถามว่าอาการของคุณยายเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งๆที่เดินผ่านเตียงคุณยายอยู่ทุกวัน

ลูกชายของคุณยายนั่งลงตรงข้างเตียง มือลูบที่ใบหน้าและแขนขาของผู้เป็นแม่ด้วยความเคารพรัก บางครั้งผมได้ยินเสียงเหมือนเขาจะคุยกับแม่ของเขา แต่ผมก็ห่างเกินกว่าจะได้ยินว่าเขาพูดอะไรกัน คงเป็นประโยคที่ว่า “แม่ครับผมรักแม่” หรือ “หายเร็วๆนะครับแม่” ก็อาจเป็นได้ ยายจะรู้ไหมนะว่าลูกรักยายมากขนาดไหน ผมรู้สึกได้ว่าถ้ามองต่อไปจะเป็นการเสียมารยาท จึงก้มหน้าก้มตาเขียนบันทึกการดำเนินโรคของคนไข้ของผมต่อไป

ชายคนนั้นคุยกับแม่ของเขาอยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง และสิ่งที่ผมกลัวที่สุดก็เกิดขึ้น

“คุณหมอครับตอนนี้คุณแม่ของผมอาการเป็นอย่างไรบ้างครับ”

ชายคนนั้นเดินเข้ามาถามผมที่โต๊ะที่ผมนั่งอยู่

“ขอโทษนะครับ หมอไม่ทราบจริงๆเพราะไม่ใช่เจ้าของไข้ แต่เดี๋ยวหมอจะเข้าไปดูบันทึกการรักษามาให้นะครับ”

ผมตอบไปอย่างรู้สึกผิดและรีบเข้าไปดูประวัติการรักษาของคนไข้รายนี้ในที่ทำการพยาบาล

“ตอนนี้คุณยายมีปัญหาติดเชื้อในปอดครับ เราเลยต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ตอนนี้ยังมีไข้อยู่เลยครับ แต่ถ้าต้องการรายละเอียดมากกว่านี้ไว้พรุ่งนี้ผมจะถามพี่ที่เป็นเจ้าของไข้ให้นะครับ”

ผมตอบชายคนนั้น หลังจากออกมาจากที่ทำการพยาบาล

“ขอบคุณมากนะครับคุณหมอ วันนี้ผมมีของมาฝากคุณหมอกับคุณพยาบาลด้วย”

ขณะที่ผมยังงงๆอยู่นั้นชายคนนั้นก็ยกกล่องสองกล่องขึ้นมาตั้งบนโต๊ะผม เขาเปิดภายในกล่องให้ผมดู
ภายในกล่องนั้นมีชิฟฟ่อนเค้กที่จัดวางไว้อย่างสวยงามอยู่ภายในกล่อง กลิ่นหอมของเนยและไข่หอมขึ้นมาแตะจมูกผม

“ผมเปิดร้านขายชิฟฟ่อนเค้กอยู่ที่ตลาดใกล้ๆนี่เองครับ ขายดีมากเลย ได้วันละตั้งหลายร้อยชิ้น ผมก็เลยปิดร้านช้า เลยมาเยี่ยมคุณแม่ดึกอย่างที่คุณหมอเห็นนี่แหละครับ

ตอนแรกผมกะจะไม่รับขนมของชายคนนั้นเพราะเกรงใจ และคิดว่าผมไม่สมควรที่จะได้รับ แต่ก็กลัวเขาเสียน้ำใจและเขาก็ตั้งใจจะมาให้พี่พยาบาลรับประทานด้วยจึงรับไว้

“ขอบคุณมากนะครับ”

“คุณหมอต้องรับประทานขนมของผมทันทีเลยนะครับไม่อย่างนั้นมันจะไม่อร่อย หรือถ้าคุณหมออยากรับประทานให้อร่อยจริงๆต้องทานกับกาแฟนะครับ และห้ามเอาขนมของผมไปแช่ตู้เย็นนะครับ”

ผมได้แต่ยิ้มรับในความหวังดีของชายคนนั้น

“วันนี้ผมต้องลาคุณหมอกลับก่อนนะครับ ถ้าอย่างไรฝากดูแลคุณแม่ผมด้วยนะครับ ถ้าคุณแม่ผมยังไม่เป็นอะไรไปซะก่อน คุณหมอจะได้รับประทานชิฟฟ่อนเค้กทุกวันเลย”

นาฬิกาบอกเวลาสามทุ่มครึ่ง บรรยากาศในวอร์ดยังคงเงียบเหมือนเดิม ผมยังนั่งอยู่ที่โต๊ะตัวเดิม ยายยังคงนอนที่เตียง 8 เช่นเดิม แต่บางสิ่งในใจผมมันเปลี่ยนไป ผมค่อยๆหยิบชิฟฟ่อนเค้กชิ้นหนึ่งขึ้นมา แกะกระดาษห่อออก กลิ่นหอมของเนยและไข่หอมมาแตะจมูก ความรู้สึกเมื่อกัดเข้าไปคำแรกเหมือนจะละลายไปกับลิ้น เป็นชิฟฟ่อนเค้กที่อร่อยที่สุดที่เคยรับประทานมา ผมสัญญากับตัวเองว่าพรุ่งนี้ผมต้องรู้เรื่องเตียง 8 ให้มากกว่านี้ หวังว่ามันคงไม่สายเกินไป

และคืนนั้น...ก็ผ่านพ้นไป

.....................................................................

เช้าวันต่อมา...ผมมาดูคนไข้ตามปกติเช่นทุกวันคือเวลาหกโมงครึ่ง สิ่งแรกที่ผมเห็นเมื่อเดินเข้ามาในวอร์ดก็คือเตียง 8 ที่ว่างเปล่า ผมรู้สึกใจหาย ผมคิดในแง่ดีว่ายายคงย้ายไปห้องพิเศษหรือย้ายไปห้อง I.C.U. เผอิญพี่พยาบาลคนหนึ่งเดินเข้ามา

“พี่ครับๆ คุณยายเตียง 8 หายไปไหนแล้วล่ะครับ”

ผมกลั้นใจถามด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยจะปกตินัก

“หมออั้น คุณยายแกเสียไปเมื่อคืนแล้วล่ะ หลังจากหมออั้นลงเวรไปแล้ว ลูกแกเพิ่งมารับศพไปเมื่อตอนเช้ามืดนี่เอง”

เมื่อผมได้ฟังคำตอบของพี่พยาบาลจบลงภาพของชิฟฟ่อนเค้กเมื่อคืนมันได้ลอยขึ้นมาในใจ

ไม่ใช่ผมเสียดายที่ต่อไปจะไม่ได้รับประทานชิฟฟ่อนเค้กแล้ว แต่ผมเสียดายที่ว่าผมยังไม่ได้ทำอะไรให้คุ้มค่ากับชิฟฟ่อนเค้กที่ได้รับประทานเข้าไปเมื่อคืนเลย ไม่ว่าต่อตัวผมเอง ต่อตัวของยายหรือลูกชายของยาย

สำหรับผมแล้วชิฟฟ่อนเค้กชิ้นนั้นมีค่าต่อผมมาก อย่างน้อยมันก็สอนให้ผมรู้ว่า คำว่า คนไข้ ไม่ใช่ผู้ป่วยที่เราเป็นเจ้าของไข้เพียงอย่างเดียว แต่คำว่าคนไข้ หมายถึงผู้ป่วยทุกคน เพราะฉะนั้นจงใส่ใจพวกเขาให้มากๆ

ทุกวันนี้เมื่อใดก็ตามที่ผมมีโอกาสรับประทานชิฟฟ่อนเค้ก ไม่มีครั้งไหนเลยที่ผมจะไม่คิดถึงเรื่องนี้ เรื่องราวของ ชิฟฟ่อนเค้ก



นศพ.รัฐพัฒน์ กลัดแก้ว นักศึกษาแพทย์ชั้นปีที่ 5
วิทยาลัยแพทยศาสตร์กรุงเทพมหานครและวชิรพยาบาล







Create Date : 06 ธันวาคม 2551
Last Update : 6 ธันวาคม 2551 12:23:30 น. 5 comments
Counter : 1943 Pageviews.  

 
เป็นความประทับใจไม่รู้ลืมจริงๆเลยนะค่ะคุณหมอ


โดย: moopu วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:13:43:20 น.  

 


โดย: cool mint วันที่: 6 ธันวาคม 2551 เวลา:15:35:21 น.  

 


โดย: สาวพิษณุโลก** วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:20:30:47 น.  

 
ขอบคุณเรื่องราวดีๆ

และอีกมุมมองหนึ่งของ "ชิฟฟ่อนเค้ก" ค่ะ



โดย: jorjaejaa วันที่: 15 ธันวาคม 2551 เวลา:12:02:12 น.  

 
อ่านแล้วน้ำตาคลอครับ


โดย: supertarokung (supertarokung ) วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:17:21:37 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

หมอหมู
Location :
กำแพงเพชร Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 762 คน [?]




ผมเป็น ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ หรือ อาจเรียกว่า หมอกระดูกและข้อ หมอกระดูก หมอข้อ หมอออร์โธ หมอผ่าตัดกระดูก ฯลฯ สะดวกจะเรียกแบบไหน ก็ได้ครับ

ศัลยแพทย์ออร์โธปิดิกส์ เป็นแพทย์เฉพาะทางสาขาหนึ่ง ซึ่งเมื่อเรียนจบแพทย์ทั่วไป 6 ปี ( เรียกว่า แพทย์ทั่วไป ) แล้ว ก็ต้องเรียนต่อเฉพาะทาง ออร์โธปิดิกส์ อีก 4 ปี เมื่อสอบผ่านแล้วจึงจะถือว่าเป็น แพทย์ออร์โธปิดิกส์ โดยสมบูรณ์ ( รวมเวลาเรียนก็ ๑๐ ปี นานเหมือนกันนะครับ )

หน้าที่ของหมอกระดูกและข้อ จะเกี่ยวข้องกับความเจ็บป่วย ของ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น กระดูก ข้อ และ เส้นประสาท โรคที่พบได้บ่อย ๆ เช่น กระดูกหัก ข้อเคล็ด กล้ามเนื้อฉีกขาด กระดูกสันหลังเสื่อม ข้อเข่าเสื่อม กระดูกพรุน เป็นต้น

สำหรับกระดูกก็จะเกี่ยวข้องกับกระดูกต้นคอ กระดูกสันหลัง กระดูกเชิงกราน กระดูกข้อไหล่ จนถึงปลายนิ้วมือ กระดูกข้อสะโพกจนถึงปลายนิ้วเท้า ( ถ้าเป็นกระดูกศีรษะ กระดูกหน้า และ กระดูกทรวงอก จะเป็นหน้าที่ของศัลยแพทย์ทั่วไป )

นอกจากรักษาด้วยการให้คำแนะนำ และ ยา แล้วยังรักษาด้วย วิธีผ่าตัด รวมไปถึง การทำกายภาพบำบัด บริหารกล้ามเนื้อ อีกด้วย นะครับ

ตอนนี้ผม ลาออกจากราชการ มาเปิด คลินิกส่วนตัว อยู่ที่ จังหวัดกำแพงเพชร .. ใช้เวลาว่าง มาเป็นหมอทางเนต ตอบปัญหาสุขภาพ และ เขียนบทความลงเวบ บ้าง ถ้ามีอะไรที่อยากจะแนะนำ หรือ อยากจะปรึกษา สอบถาม ก็ยินดี ครับ

นพ. พนมกร ดิษฐสุวรรณ์ ( หมอหมู )

ปล.

ถ้าอยากจะถามปัญหาสุขภาพ แนะนำตั้งกระทู้ถามที่ .. เวบไทยคลินิก ... ห้องสวนลุม พันทิบ ... เวบราชวิทยาลัยออร์โธปิดิกส์ หรือ ทางอีเมล์ ... phanomgon@yahoo.com

ไม่แนะนำ ให้ถามที่หน้าบล๊อก เพราะอาจไม่เห็น นะครับ ..




New Comments
[Add หมอหมู's blog to your web]