ถ้าจะบวช..ไม่ต้องขออนุญาตเมีย โดยหลวงปู่เกษม อาจิณณสีโล 15 ธ.ค.2555
ผู้ชายถ้าจะบวชไม่ต้องขออนุญาตเมีย เพียงแต่แจ้งให้ทราบโดยทางใดทางหนึ่ง เล่ม2 หน้า283 ลำดับนั้นพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถา ในเหตุเพราะเป็นเค้ามูลนั้น ไนเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุตรที่มารดาบิดาไม่อนุญาต ภิกษุไม่พึงให้บวช รูปใดให้บวชต้องอาบัติทุกกฏ. เล่ม2 หน้า245 ทรงห้ามบวชราชภัฏ ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถาในเพราะเหตุเป็นเค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ราชภัฏภิกษุไม่พึงให้บวช รูปใดให้บวช ต้องอาบัติทุกกฏ. อรรถกถาราชภัฏวัตถุ ในข้อว่า น ภิกฺขเว ราชภโฏ ปพฺพาเชตพฺโพ นี้ มีวินิจฉัยว่า จะเป็นอำมาตย์ หรือมหาอำมาตย์ หรือเสวกหรือผู้ได้ฐานันดรเล็กน้อย หรือผู้ไม่ได้ก็ตามที บุคคลผู้ผู้หนึ่งซึ่งได้รับเลี้ยงด้วยอาหารหรือเบี้ยเลี้ยงของพระราชา ถึงความนับว่า ราชภัฏ ทั้งหมด ราชภัฏนั้นไม่ควรให้บวช. ฝ่ายบุตรที่น้องชายและหลานชายเป็นต้น ของราชภัฏนั้น ไม่ได้รับอาหาหรือเบี้ยเลี้ยงจากพระราชา จะให้ชนเหล่านั้นบวช ควรอยู่. เล่ม6 หน้า355 สวดถามอันตรายิกธรรม ๑๓ ข้อ [๑๔๒] ก็โดยสมัยนั้นแล พวกกุลบุตรที่อุปสมบทแล้วปรากฏเป็นโรคเรื้อนก็มี เป็นผีก็มี เป็นโรคกลากก็มี เป็นโรคมองคร่อก็มี เป็นโรคลมบ้าหมูก็มี ภิกษุทั้งหลายจึงกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตให้ภิกษุผู้ให้อุปสมบท ถามอันตรายยิกธรรม ๑๓ ข้อ. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็แล พึงถามอุปสัมปทาเปกขะอย่างนี้:- อันตรายิกธรรม อาพาธเห็นปานนี้ของเจ้ามีหรือ คือ โรคเรื้อน ฝี โรคกลาก โรคมองคร่อ ลมบ้าหมู เจ้าเป็นมนุษย์หรือ เป็นชายหรือ เป็นไทหรือ ไม่มี หนี้สินหรือ มิใช่ราชภัฏหรือ มารดาบิดาอนุญาตแล้วหรือ มีปีครบ ๒๐ แล้วหรือ บาตรจีวรของเจ้ามีครบแล้วหรือ เจ้าชื่ออะไร อุปัชฌาย์ของเจ้าชื่ออะไร. เล่ม44 หน้า114 อรรถกถาสังคามชิสูตร สงฺคามชิ ได้แก่ มีชื่ออย่างนี้. จริงอยู่ ท่านผู้มีอายุนี้ เป็นบุตรของเศรษฐีมีสมบัติมากท่านหนึ่งในเมืองสาวัตถี เวลาเจริญวัย มารดาบิดาให้มีเหย้าเรือนโดยสมควร มอบทรัพย์สมบัติให้ ให้อยู่ครองเรือน. วันหนึ่ง เขาเห็นอุบาสกชาวกรุงสาวัตถี กำลังถวายทาน สมาทานศีลตอนเช้า นุ่งห่มผ้าขาว ถือของหอมและดอกไม้เป็นต้น ตรงไปยังพระเชตวันเพื่อฟังธรรมตอนเย็น จึงถามว่า ท่านทั้งหลายไปไหนกัน ฝ่ายสังคามชิกุลบุตร นั่งฟังธรรมอยู่ท้ายบริษัทนั้น. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสอนุปุพพิกถาประกาศสัจจะ ๔ ในเวลาจบสัจจะ สัตว์หลายพันได้ตรัสรู้ธรรม. ฝ่ายสังคามชิกุลบุตร ก็บรรลุโสดาปัตติผล เมื่อบริษัทออกไปแล้ว เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า ถวายบังคมแล้วทูลขอบรรพชาว่า ข้าแต่พระผู้มีพระภาคเจ้า โปรดให้ข้าพระองค์บรรพชาเถิด. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามว่า ก็มารดาบิดาอนุญาตให้เธอบรรพชาแล้วหรือ. เขากราบทูลว่า ยังไม่ได้รับอนุญาต พระเจ้าข้า. พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า สังคามชิ พระตถาคตเจ้าทั้งหลายไม่ยอมบวชบุตรที่มารดาบิดาไม่อนุญาต. เขากราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระองค์นั้น จักกระทำโดยที่มารดาบิดาอนุญาตติให้ข้าพระองค์บวช ดังนี้ แล้วถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้า ทำประทักษิณแล้วเข้าไปหามารดาบิดากล่าวว่า คุณแม่คุณพ่อ โปรดอนุญาตให้กระผมบวชเถิด.... ก็ท่านสังคามชินั้น เที่ยวบิณฑบาตในธูรคาม กลับจากบิณฑบาตภายหลังภัต เข้าไปยังพระเชตวันเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้า พระองค์ก็ได้ทำปฏิสันถารแล้ว พยากรณ์อรหัตผล ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคเจ้าอีกแล้วประทักษิณ ออกไปนั่งพักผ่อนกลางวันที่โคนไม้แห่งหนึ่ง. ลำดับนั้น มารดาบิดาและญาติมิตรของท่านทราบว่า ท่านมา ร่าเริง ... เล่ม44 หน้า112-113 สังคามชิสูตร ว่าด้วยการไม่ยินดีต่อบุตรภรรยาเก่า [๔๕] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :- สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล ท่านพระสังคามชิถึงพระนครสาวัตถีโดยลำดับ เพื่อจะเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าภริยาเก่าของท่านพระสังคามชิได้ฟังข่าวว่า พระผู้เป็นเจ้าสังคามชิถึงพระนครสาวัตถีแล้ว นางได้อุ้มทารกไปยังพระวิหารเชตวัน ก็สมัยนั้นแลท่านพระสังคามชินั่งพักกลางวันที่โคนต้นไม้แห่งหนึ่ง ครั้งนั้น ภริยาเก่าของท่านพระสังคามชิ เข้าไปหาท่านพระสังคามชิถึงที่อยู่ ครั้นแล้ว ได้กล่าวกะท่านพระสังคามชิว่า ข้าแต่สมณะ ขอท่านจงเลี้ยงดูดิฉันผู้มีบุตรน้อยเถิด เมื่อภริยาเก่ากล่าวอย่างนี้แล้ว ท่านพระสังคามชิก็นิ่งเสีย แม้ครั้งที่ ๒ แม้ครั้งที่ ๓ ภริยาเก่าของท่านพระสังคามชิก็ได้กล่าวกะท่านพระสังคามชิว่า ข้าแต่สมณะ ขอท่านจงเลี้ยงดูดิฉันผู้มีบุตรน้อยเถิด ท่านพระสังคามชิก็ได้นิ่งเสีย ลำดับนั้นแล ภริยาเก่าของท่านพระสังคามชิอุ้มทารกนั้นไปวางไว้ข้างหน้าท่านพระสังคามชิ กล่าวว่า ข้าแต่สมณะ นี้บุตรของท่าน ท่านจงเลี้ยงดูบุตรนั้นเถิด ดังนี้แล้วหลีกไป ลำดับนั้นแล ท่านพระสังคามชิไม่ได้แลดูทั้งไม่ได้พูดกะทารกนั้นเลย ลำดับนั้น ภริยาเก่าของท่านพระสังคามชิไปคอยดูอยู่ในที่ไม่ไกล ได้เห็นท่านพระสังคามชิผู้ไม่แลดูทั้งไม่ได้พูดกะทารก ครั้นแล้วจึงได้คิดว่า สมณะนี้แลไม่มีความต้องการแม้ด้วยบุตร นางกลับจากที่นั้นแล้วอุ้มทารกหลีกไป พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ทรงเห็นการกระทำอันแปลก แม้เห็นปานนี้แห่งภริยาเก่าของท่านพระสังคามชิ ด้วยทิพจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์.ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว จึงเปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า เรากล่าวพระสังคามชิ ผู้ไม่ยินดีภริยาเก่า ผู้มาอยู่ ผู้ไม่เศร้าโศกถึงภริยาเก่า ผู้หลีกไปอยู่ ผู้พ้น แล้วจากธรรมเป็นเครื่องข้อง ว่าเป็นพราหมณ์. จบสังคามชิสูตรที่ ๘ เล่ม41 หน้า306 พระราชาออกผนวชพร้อมกับอำมาตย์ พระราชารับสั่งให้เจ้าพนักงานอาลักษณ์จารึกอักษรลงในแผ่นทองแล้ว ตรัสกะพวกพ่อค้าว่า "พระเทวีพระนามว่าอโนชา จักพระราชทานทรัพย์ ๓ แสนแก่พวกท่าน; ก็แลพวกท่านพึงทูลอย่างนี้ว่า 'ได้ยินว่า พระราชาทรงสละความเป็นใหญ่ถวายพระองค์แล้ว, พระองค์จงเสวยสมบัติตามสบายเถิด; ก็ถ้าพระเทวีจักตรัสถามพวกท่านว่า 'พระราชาเสด็จไปที่ไหน ? " พวกท่านพึงทูลว่า 'พระราชาตรัสว่าจักบวชอุทิศพระศาสดา" แล้วก็เสด็จไปแม้อำมาตย์ทั้งหลายก็ส่งข่าวไปแก่ภรรยาของตน ๆ อย่างนั้นเหมือนกัน. พระราชาทรงส่งพวกพ่อค้าไปแล้ว อันอำมาตย์พันหนึ่งแวดล้อมเสด็จออกไปในขณะนั้นนั่นแล. เล่ม57 หน้า126 อรรถกถากัลยาณธรรมชาดกที่ ๑ ในกรุงสาวัตถีมีกุฎุมพีคนหนึ่ง เป็นคนมีศรัทธา เลื่อมใสถึงไตรสรณคมน์ ถือศีลห้า. วันหนึ่งเขาถือเภสัชมีเนยใสเป็นต้นเป็นอันมาก กับดอกไม้ของหอม และผ้าเป็นต้น ไปด้วยคิดว่า จักฟังธรรมในสำนักของพระศาสดาในพระวิหารเชตวัน. ในเวลาที่กุฎุมพีไป ณ ที่นั้น แม่ยายเตรียมของเคี้ยวของบริโภคประสงค์จะเยี่ยมลูกสาว ได้ไปยังเรือนนั้น. แต่แม่ยายหูค่อนข้างตึง. ครั้นนางบริโภคร่วมกับลูกสาวอิ่มหนำสำราญแล้ว จึงถามลูกสาวว่า นี่ลูก ผัวของเองอยู่ด้วยความรักบันเทิงใจไม่ทะเลาะกันดอกหรือ. ลูกสาวพูดว่า แม่พูดอะไรอย่างนั้น คนที่เพียบพร้อมด้วยผัวและมารยาทเช่นลูกเขยของแม่ แม้บวชแล้วก็ยังหายาก. อุบาสิกาฟังคำลูกสาวไม่ถนัดถือเอาแต่บทว่าบวชแล้วเท่านั้น จึงตะโกนขึ้นว่า อ้าวทำไมผัวของเองจึงบวชเสียเล่า. บรรดาผู้อยู่เรือนใกล้เคียงทั้งสิ้น ได้ยินดังนั้นพากันพูดว่า เขาว่ากุฎุมพีของพวกเราบวชเสียแล้ว. บรรดาผู้ที่เดินผ่านไปมาทางประตู ได้ยินเสียงของคนเหล่านั้น จึงถามว่านั่นอะไรกัน. ชนเหล่านั้นตอบว่า เขาว่ากุฎุมพีในเรือนนี้บวชเสียแล้ว. ฝ่ายกุฎุมพีนั้นครั้นสดับธรรมของพระทศพลแล้ว ก็ออกจากวิหารกลับเข้าเมือง. ขณะนั้นชายคนหนึ่งพบเข้าในระหว่างทางจึงพูดว่า ข่าวว่าท่านบวช บุตรภรรยาบริวารในเรือนท่านพากันร้องไห้คร่ำครวญ. ทันใดนั้นเขาได้ความคิดขึ้นมาว่าแท้จริงเรามิได้บวชเลย คน ๆนี้ว่าเราบวช เสียงดีเกิดขึ้นแล้วเราไม่ควรให้หายไป เราควรจะบวชในวันนี้แหละ เขาจึงกลับจากที่นั้นทันทีไปเฝ้าพระศาสดา เมื่อรับสั่งถามว่า อุบาสกท่านทำพุทธุปัฏฐากเพิ่งกลับไปเดี๋ยวนี้เอง ไฉนจึงมาเดี๋ยวนี้อีกจึงเล่าเรื่องถวายแล้วกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ธรรมดาเสียงดีเกิดขึ้นแล้ว ไม่ควรให้หายไปเสีย เพราะฉะนั้น ข้าพระองค์มีความประสงค์จะบวชจึงได้มา. ครั้นเขาบรรพชาอุปสมบทแล้วเป็นผู้ปฏิบัติชอบ ไม่ช้าก็ได้บรรลุพระอรหัต. เล่ม21 หน้า26 พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนรัฐปาละ ท่านเป็นผู้ที่มารดาบิดาอนุญาตให้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตแล้วหรือ. รัฐปาลกุลบุตรกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ข้าพระพุทธเจ้าเป็นผู้ที่มารดาบิดายังมิได้อนุญาตให้ออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิตเลย พระเจ้าข้า. ภ. ดูก่อนรัฐปาละ พระตถาคตทั้งหลาย ย่อมไม่บวชบุตรที่มารดาบิดามิได้อนุญาต. ร. ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ มารดาบิดาจักอนุญาตให้ข้าพระพุทธเจ้าออกจากเรือนบวชเป็นบรรพชิต ด้วยประการใด ข้าพระพุทธเจ้าจักกระทำด้วยประการนั้น. เล่ม43 หน้า 301 ในกาลจบเทศนา พระนางเขมาทรงดำรงอยู่ในพระอรหัต. เทศนาได้มีประโยชน์แม้แก่มหาชนแล้ว. พระศาสดาตรัสกะพระราชาว่า " มหาบพิตร พระนางเขมาจะบวชหรือปรินิพพาน จึงควร ?" พระราชา. โปรดให้พระนางบวชเถิด พระเจ้าข้า, อย่าเลยด้วยการปรินิพพาน. พระนางบรรพชาแล้ว ก็ได้เป็นสาวิกาผู้เลิศ ดังนี้แล. เรื่องพระนางเขมา จบ -กระทู้ที่เกี่ยวข้อง //www.samyaek.com/board2/index.php?topic=6923.0 -วัดป่าสามแยก ศึกษาพระธรรมวินัย เบิกบุญ โอนบุญ อกหัก โดนของ ธรรมะ ธรรมทาน คลายเครียด เจริญรุ่งเรือง //www.samyaek.com -Facebook พุทธพจน์ //www.facebook.com/login.php?next=http%3A%2F%2Fwww.facebook.com%2Fgroups%2FBuddhaspeech -Download free พระไตรปิฏกพร้อมหัวข้อธรรมสำหรับ apple ipad & iphone & Android ดูรายละเอียดได้ที่เวบ //www.tripitaka91.com , และ Facebook https://www.facebook.com/tripitaka91 ****หมายเหตุ "แสดงธรรมวันอาสาฬหบูชา ปี 2555" (//youtu.be/l52iDWt3V5Q ) นาทีที่ 6:01:55 ..เป็นต้นไป หลวงปู่ท่านได้พูดถึง ทนายชนอณุพงศ์ ชัยธนาวิรัตน์ ท่านใดมีปัญหาด้านกฏหมาย,คดีความต่างๆ ปรึกษาได้ที่ ทนายชนอณุพงศ์ ชัยธนาวิรัตน์ ที่เมล์ pasponglawyer@hotmail.com ,เบอร์โทรที่ 0818060981 , 0867809391 ****
Create Date : 28 เมษายน 2556 |
Last Update : 5 พฤษภาคม 2556 18:23:43 น. |
|
3 comments
|
Counter : 1348 Pageviews. |
|
|
รับชมได้ที่
ดูวีดีโอช่องที่ 1 (สำหรับผู้ที่อินเตอร์เน็ทช้า: 56k)
www.samyaek.com
ดูวีดีโอช่องที่ 2 (สำหรับผู้ที่อินเตอร์เน็ทเร็ว: 212k)
www.samyaek.com/?channel=2
สำหรับท่านที่มีปัญหาดูถ่ายทอดสดไม่ได้
www.samyaek.com/board2/index.php?topic=2303.0
การใช้ iPad, iPhone, iPod touch ดูถ่ายทอดสด
www.samyaek.com/board2/index.php?topic=5531.0
วิธีใช้ Tablet ตระกูล Android ดูถ่ายทอดสด
www.samyaek.com/board2/index.php?topic=5512.0
สมาชิกท่านใดมีปัญหาในการรับชม
(ปัญหาอันเกิดจากคอมพิวเตอร์ของท่านเอง)
หากได้แก้ไขตามลิงค์ต่างๆ ข้างต้นแล้ว ก็ยังไม่สามารถรับชมได้
ให้ท่านติดต่อสอบถามได้ที่ คุณชัยณรงค์ รัตนเกษมสุข (เม้ง)
Dtac : 081-554-1699 , AIS 081-935-1651
e-mail : macmagic99@hotmail.com