"ทรัพย์เครื่องปลื้มใจอย่างใดอย่างหนึ่งในโลกนี้หรือในโลกอื่น หรือรัตนะใดอันประณีตในสวรรค์ ทรัพย์และรัตนะนั้นเสมอด้วยพระตถาคตย่อมไม่มี พระพุทธเจ้าแม้นี้เป็นรัตนะอันประณีต ด้วยการกล่าวคำจริงนี้ ขอความสวัสดีจงมี....." "พระไตรปิฏก เป็นตาที่วิเศษยิ่ง, เป็นหูที่วิเศษยิ่ง, เป็นจมูกที่วิเศษยิ่ง, เป็นลิ้นที่วิเศษยิ่ง, เป็นกายที่วิเศษยิ่ง, เป็นใจที่วิเศษยิ่ง, เป็นครู-อาจารย์ที่วิเศษยิ่ง, เป็นพ่อ-แม่ที่วิเศษยิ่ง, เป็นมิตรและเข็มทิศที่วิเศษยิ่ง, เป็นแผนที่และป้ายบอกทางที่วิเศษยิ่ง, เป็นแสงสว่างส่องทางสู่นิพพานที่วิเศษยิ่ง"จากวัดสามแยก
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
16 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 
หลวงปู่เกษมแสดงธรรม "ถวายทานในสงฆ์ดีที่สุด" 24 มีค. 2555

ดูก่อนคฤหบดี ท่านเป็นคฤหัสถ์ บริโภคกาม อยู่ครองเรื่อน นอนเบียดเสียดบุตร บริโภคจันทร์แคว้นกาสี ทัดทรงดอกไม้ ของหอมและเครื่องลูบไล้ ยินดีทองและเงินอยู่ พึงรู้ข้อนี้ได้ยากว่า ภิกษุเหล่านี้เป็นพระอรหันต์หรื­อเป็นผู้บรรลุอรหัตมรรค........­...เชิญท่านให้สังฆทานเถิด เมื่อท่านให้สังฆทานอยู่ จิตจักเลื่อมใส....จาก ทารุกัมมิกสูตร เล่ม 36 หน้า 739 (ชุดน้ำเงิน)

"วัฏฏะสงสาร" ของผู้ไม่รู้ "สัทธรรม" ย่อมยาวนาน (เรื่องบุรุษคนใดคนหนึ่ง) เล่ม41หน้า166

ได้ยินว่า จำเดิมแต่กาลแห่งเสียงนั้น  อันพระเจ้าปเสนทิโกศลทรงสดับแล้ว  ชนเหล่านั้น พลัดลงไป ณ ภายใต้อย่างเดิม แม้จนวันนี้ก็ยังไม่ล่วงหนึ่งพันปี. ความสังเวชใหญ่ ได้เกิดขึ้นแก่พระราชา เพราะทรงสดับเทศนานั้น. ท้าวเธอทรงดำริว่า "ชื่อว่าปรทาริกกรรมนี้หนักหนอ,
ได้ยินว่า ชนทั้ง ๔ ไหม้แล้วในอเวจีนรก ตลอดพุทธันดรหนึ่ง จุติจากอเวจีนรกนั้นแล้ว   เกิดในโลหกุมภี  อันลึก  ๖๐ โยชน์  ไหม้แล้วในโลหกุมภีนั้น๒ ถึง  ๖ หมื่นปี, แม้อย่างนี้ กาลเป็นที่พ้นจากทุกข์ของชนเหล่านั้น ยังไม่ปรากฏ;    แม้เราทำความเยื่อใยในภรรยาของชายอื่น ไม่ได้หลับตลอดคืนยังรุ่ง,  บัดนี้ จำเดิมแต่นี้ไปเราจักไม่ผูกความพอใจในภรรยาของชายอื่นละ"   จึงกราบทูลพระตถาคตว่า  " ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญข้าพระองค์ทราบความที่แห่งราตรีนานในวันนี้."

ฝ่ายบุรุษนั้น นั่งอยู่ในที่นั้นนั่นแล ฟังถ้อยคำนั้นแล้ว คิดว่า
" ปัจจัยมีกำลัง เราได้แล้ว" จึงกราบทูลพระศาสดาว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ พระราชา ทรงทราบความที่แห่งราตรีนาน ในวันนี้ก่อน, ส่วนข้าพระองค์เองได้ทราบความที่แห่งโยชน์ไกลในวันวาน."

พระศาสดา ทรงเทียบเคียงถ้อยคำของคนแม้ทั้งสองแล้ว  ตรัสว่า
" ราตรีของคนบางคนย่อมเป็นเวลานาน, โยชน์ของคนบางคนเป็นของไกล,
ส่วนสงสารของคนพาลย่อมเป็นสภาพยาว" เมื่อจะทรงแสดงธรรม

จึงตรัสพระคาถานี้ว่า:-
"ราตรีของคนผู้ตื่นอยู่   นาน,   โยชน์ของคนล้าแล้ว  ไกล,
สงสารของคนพาลทั้งหลาย ผู้ไม่รู้อยู่ซึ่งสัทธรรม  ย่อมยาว."

ถวายของเจาะจงสงฆ์ได้บุญมาก เล่ม23หน้า391
๑๒.   ทักษิณาวิภังคสูตร

[๗๐๖] ข้าพเจ้าได้สดับมาอย่างนี้:-
สมัยหนึ่ง  พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ที่พระวิหารนิโครธาราม  เขตพระนครกบิลพัสดุ์  ในสักกชนบท. สมัยนั้นแล  พระนางมหาปชาบดีโคตมีทรงถือผ้าคู่หนึ่ง เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้ายังที่ประทับ แล้วถวายอภิวาทพระผู้มีพระภาคเจ้า ประทับนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พอประทับนั่งเรียบร้อยแล้ว ได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ผ้าใหม่คู่นี้ หม่อมฉันกรอด้าย ทอเอง ตั้งใจอุทิศพระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอาศัยความอนุเคราะห์  โปรดรับผ้าใหม่ทั้งคู่ของหม่อมฉันเถิด.
[๗๐๗] เมื่อพระนางกราบทูลแล้วอย่างนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสดังนี้ว่า
ดูก่อนโคตมี พระนางจงถวายสงฆ์เถิด เมื่อถวายสงฆ์แล้ว จักเป็นอันพระนางได้บูชาทั้งอาตมภาพและสงฆ์ 
พระนางมหาปชาบดีโคตมีได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าดังนี้ว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ผ้าใหม่คู่นี้  หม่อมฉันกรอด้ายทอเอง ตั้งใจอุทิศพระผู้มีพระภาคเจ้า ขอพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงอาศัยความอนุเคราะห์  โปรดรับผ้าใหม่ทั้งคู่นี้ของหม่อมฉันเถิด แม้ในครั้งที่  ๒ แม้ในครั้งที่ ๓ แล
พระผู้มีพระภาคเจ้าก็ตรัสกะพระนาง แม้ในครั้งที่  ๒   แม้ในครั้งที่  ๓ ดังนี้ว่า ดูก่อนโคตมี พระนางถวายสงฆ์เถิด เมื่อถวายสงฆ์แล้วจักเป็นอันพระนางได้บูชาทั้งอาตมภาพและสงฆ์.

ถวายของเจาะจงสงฆ์ได้บุญมาก เล่ม48หน้า281
๖.  ทัททัลลวิมาน
ว่าด้วยทัททัลลวิมาน

นางภัททาเทพธิดาได้ถามต่อไปอีกว่า  พี่เลี้ยงดูพระภิกษุทั้งหลาย ผู้สำรวมดี ผู้ประพฤติพรหมจรรย์  ให้อิ่มหนำสำราญด้วยข้าวและน้ำ ด้วยมือของตนเอง มากกว่าเธอ ครั้นให้ทานมากกว่าเธอแล้ว ก็ยังได้บังเกิดในเหล่าเทพเจ้าต่ำกว่าเธอ  ส่วนเธอได้ถวายทานเพียงเล็กน้อย อย่างไรจึงมาได้ผลอย่างพิเศษไพบูลย์ถึงเช่นนี้เล่า แน่ะแม่เทพธิดา  ฉันถามเธอแล้ว นี่เป็นผลแห่งกรรมอะไร
โปรดตอบฉันด้วย.

นางสุภัททาเทพธิดาตอบว่าเมื่อชาติก่อน ดีฉันได้เห็นพระภิกษุผู้อบรมทางจิตใจเพื่อคุณอันยิ่งใหญ่ จึงได้นิมนต์ท่านรวม๘  รูปด้วยกัน มีพระเรวตเถระเป็นประธาน ด้วยภัตตาหาร ท่านพระเรวตเถระนั้นมุ่งจะให้เกิดประโยชน์  อนุเคราะห์แก่ดีฉัน จึงบอกดิฉันว่า จงถวายสงฆ์เถิด ดิฉันได้ทำตามคำของท่าน ทักขิณาของดีฉันนั้นจึงเป็นสังฆทาน ดิฉันให้เข้าไปตั้งไว้ในสงฆ์เป็นทานที่ไม่อาจปริมาณผลได้ว่า มีอยู่เท่าไร ส่วนทานที่คุณพี่ได้ถวายแก่ภิกษุ ด้วยความเลื่อมใสเป็นรายบุคคล จึงมีผลไม่มาก.

นางภัททาเทพธิดา  เมื่อจะรับรองความข้อนั้นจึงกล่าวว่า
พี่เพิ่งรู้เดี๋ยวนี้เองว่า การถวายสังฆทานนี้ มีผลมาก  ถ้าว่าพี่ได้ไปบังเกิดเป็นมนุษย์อีก จักเป็นผู้รู้ความประสงค์ของผู้ขอ ปราศจากความตระหนี่ถวายสังฆทาน  และไม่ประมาทเป็นนิตย์
.

ผู้หญิงก็ประเคนสิ่งของให้พระด้วยมือตน เล่ม4หน้า562

[การรับประเคนมีองค์   ๕   อย่าง]
การรับประเคน ย่อมขึ้นด้วยองค์ ๕ คือ ของพอบุรุษมีกำลังปานกลางยกได้ ๑ หัตถบาสปรากฏ (เขาอยู่ในหัตถบาส) ๑ การน้อมถวายปรากฏ(เขาน้อมถวาย) ๑ เทวดาก็ตาม มนุษย์ก็ตาม ดิรัจฉานก็ตาม ถวาย (ประเคน) ๑ และภิกษุรับประเคนของนั้นด้วยกาย หรือด้วยของเนื่องด้วยกาย  ๑. การรับประเคนย่อมขึ้นด้วยองค์   ๕  ด้วยประการอย่างนั้น. ในองค์  ๕  นั้น หัตถบาสแห่งภิกษุผู้ยืนนั่งและนอน บัณฑิตพึงทราบโดยนัยดังกล่าวแล้ว ในปวารณาสิกขาบท.

ผู้หญิงก็ประเคนสิ่งของให้พระด้วยมือตน เล่ม7หน้า283

ครั้นเวลาเช้า พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงครองอันตรวาสก ถือบาตรจีวรเสด็จหายไปในพระเชตวัน มาปรากฏที่ซุ้มประตูบ้านนางวิสาขา มิคารมาตาดุจบุรุษมีกำลังเหยียดแขนที่คู้  หรือคู้แขนที่เหยียดฉะนั้น พระองค์ประทับนั่งเหนือพุทธอาสน์ที่เขาปูลาดถวาย  พร้อมด้วยพระสงฆ์.
ขณะนั้น นางวิสาขา มิคารมาตา กล่าวว่า ชาวเราผู้เจริญ น่าอัศจรรย์จริงหนอ ชาวเราผู้เจริญประหลาดจริงหนอ พระตถาคต ชื่อว่ามีฤทธิ์มากมีอานุภาพมากเพราะเมื่อห้วงน้ำไหลนองไปเพียงเข่าบ้าง เพียงสะเอวบ้า เท้าหรือจีวรของภิกษุแม้รูปหนึ่ง ก็ไม่ได้เบียกน้ำ ดังนี้แล้ว ร่าเริง เบิกบานใจอังคาสภิกษุสงฆ์แม้พระพุทธเจ้าเป็นประมุข ด้วยขาทนียโภชนียาหารอันประณีตด้วยมือของตน ยังพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้เสวยเสร็จแล้ว จนทรงนำพระหัตถ์ออกจากบาตรให้ห้ามภัตรแล้วนั่งอยู่ ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ได้กราบทูลแด่พระผู้มีพระภาคเจ้าว่า หม่อมฉันทูลขอประทานพร  ๘  ประการต่อพระผู้มีพระภาคเจ้าพระพุทธเจ้าข้า.

วัดป่าสามแยก ศึกษาพระธรรมวินัย เบิกบุญ โอนบุญ อกหัก โดนของ ธรรมะ ธรรมทาน คลายเครียด เจริญรุ่งเรือง //www.samyaek.com/




Create Date : 16 มิถุนายน 2555
Last Update : 7 เมษายน 2556 19:42:05 น. 3 comments
Counter : 1703 Pageviews.

 
วันนี้ วันเสาร์ที่ 16 มิถุนายน 55 กำลัง "ถ่ายทอดสด" จากสำนักสงฆ์ป่าสามแยก

รับชมได้ที่
www.samyaek.com
ดูวีดีโอช่องที่ 1 (สำหรับผู้ที่อินเตอร์เน็ทช้า: 56k)

www.samyaek.com/?channel=2
ดูวีดีโอช่องที่ 2 (สำหรับผู้ที่อินเตอร์เน็ทเร็ว: 212k)

//www.samyaek.com/board2/index.php?topic=2303.msg17659#msg17659
(หัวข้อ: สำหรับท่านที่มีปัญหาดูถ่ายทอดสดไม่ได้)



โดย: Budratsa วันที่: 16 มิถุนายน 2555 เวลา:20:45:37 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณที่แวะไปทักทาย และชวนมาฟังธรรมะ ไม่ค่อยได้มีโอกาสฟังค่ะ


โดย: pantawan วันที่: 17 มิถุนายน 2555 เวลา:0:15:50 น.  

 
สวัสดีค่ะ
ขอบคุณมากๆเลยที่ไปแนะนำ สิ่งดีๆ
และแนะนำให้ป้า ฟังธรรมะจากหลวงปู่ท่าน
เมื่อสักครู่ป้าได้คลิกอ่าน"คู่มืออุทิศบุญให้ไ้ด้ผล"บ้างแล้ว แต่ยังไม่จบค่ะ
แล้วป้าจะกลับมาอ่านอีก นะคะ...


โดย: ป้าหู้เองจ่ะ (fifty-four ) วันที่: 18 มิถุนายน 2555 เวลา:12:07:32 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Budratsa
Location :
พิจิตร Switzerland

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




สวัสดีค่ะ ยินดีต้อนรับทุกๆคนค่ะ
"ดูก่อนอานนท์ บางทีพวกเธอจะพึงมีความคิดอย่างนี้ว่า ปาพจน์ (พุทธพจน์) มีพระศาสดาล่วงแล้ว พระศาสดาของพวกเราไม่มี ข้อนี้พวกเธอไม่พึงเห็นอย่างนั้น ธรรมก็ดี วินัยก็ดีอันใดอันเราแสดงแล้ว ได้บัญญัติไว้แล้วแก่พวกเธอ ธรรมและวินัยอันนั้น จักเป็นศาสดาแห่งพวกเธอ โดยกาลล่วงไปแห่งเรา" เล่มที่ ๑๓ : พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ หน้าที่ ๓๒๐
Friends' blogs
[Add Budratsa's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.