<<
พฤศจิกายน 2559
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
3 พฤศจิกายน 2559
 

เปลี่ยนแล้ว เปลี่ยนอีก



การเป็น "ลูกจ้าง" ในบริษัทเอกชน  ย่อมมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา 

นับตั้งแต่ทำงานมา 20 กว่าปีนี้ เราทำที่เดียวมายาวนาน ลาออกไปทำงานที่อื่นเพียงปีกว่าๆ 
แล้วก็ตอบรับกลับมาทำงานทีเดิมอีก ทั้งๆ ที่รู้ว่า แนวทางของเจ้าของบริษัทเป็นอย่างไร
ตอนนั้นมองสั้นๆ ว่า - - เนื้องาน มันน่าสนใจขึ้น ท้าท้ายขึ้น ก็เลยยอมกลับมา 
(ส่วนหนึ่งเพราะต่อรองตัวเลขได้อัตราที่พอใจด้วยแหละ) 

แต่แล้ว เดือนตุลาคม ก็มีกระแสเปลี่ยนแปลง แว่วมาอีก - - ช่วงเวลาเดิมๆ 
จนล่าสุด ปลายเดือน ประกาศปรับฟังองค์กร ออกมาก่อน 
และเมื่อวาน (2 พฤศจิกายน 2559)  MD เรียกประชุม Management 
และแจ้งข่าวว่า - - จะมี MD ใหม่มาทำหน้าที่แทนในเดือนธันวาคม 
และตัวเองจะนั่งทำงานถึงสิ้นเดือนธันวาคม - - 

ตอน MD คนแรกประกาศ early retried  ช็อค และร้องไห้
เพราะเพิ่งผ่านวิกฤตกรณีทุจริตของเจ้านายตัวเอง
ตอน MD คนที่สอง ประกาศว่าจะทำงาน "วันนี้เป็นวันสุดท้าย"  อึ้ง และร้องไห้
กระทันหันกว่าคนก่อน เพียงแต่เราไม่ชอบแนวทางการบริหารอยู่แล้ว เลยไม่กระทบใจมาก 
ตอนนั้น ก็พอจะรู้แล้วว่า ...อ้อ..เจ้าของบริษัท มีวิธีการจัดการคนแบบนี้เอง 
และวิธีกดดัน "ให้ออก" ก็เกิดขึ้นให้เห็นกับพนักงานคนต่อๆ มา 
จนเราไม่อยากเห็นอีก จึงเขียนไปลาออกไปในครั้งนั้น 

มาถึงคราวนี้ - - เรา "เฉยๆ"  คงเพราะพอจะเดาเรื่องได้ 
ฟังเสียงเล่าลืม เสียงเมาธ์มอยมาก่อนหน้าแล้ว และแก่ประสบการณ์แล้ว 
จึง เฉยชา - - ฟังด้วยความสงบ แล้วคิดจัดการกับตัวเองต่อไป 
จะอยู่ หรือ จะไปทำอะไร คงต้องค่อยๆ คิด 

และได้มาเห็นสเตตัสหนึ่งใน Facebook ที่เพื่อแชร์มา 
เกี่ยวกับความคิดและการทำงานของคนในแต่ละ Generation เปรียบเทียบกัน 
อ่านแล้วก็ เห็นจริงตามนั้น  - - ขอหยิบมาแปะไว้ใน blog นี้้ด้วย 






Boomer, X, Y เป้าหมายและลักษณะของผู้บริหารแต่ละยุค (..ออกไปแตะขอบฟ้ากัน)

ในการจัดการองค์กรเข้าสู่ยุคดิจิทัล สิ่งหนึ่งที่เราอาจจะต้องกลับมาทบทวนกันอีกครับ คือลักษณะของผู้บริหาร 

เพื่อให้การออกแบบแผนงานตรงกับวิสัยทัศน์ได้อย่างเหมาะสม โดยปัจจุบัน Gen X จะเป็นผู้บริหารระดับสูง

 และมี Gen Y ที่จะเป็นผู้บริหารในยุคดิจิทัล (อย่าง Native)


ขออนุญาตกล่าวตามที่ได้สังเกตุผู้บริหารส่วนใหญ่ในแต่ละยุคด้วยประสบกาณ์การทำงาน (22 ปี ไม่มากไม่น้อย) 

มาให้อ่านแบบไม่ต้องซีเรียสมากนะครับ (เพราะไม่ได้เป็นเช่นนี้ทุกคน)

ใน Boomer ความสะดวกและโอกาสที่จะเข้ามาในชีวิตมีน้อยมาก เมื่อได้อะไรมา หรือได้งานมาต้องอดทนอยู่กับมันให้ได้

ใน Gen X นั้นมีโอกาสเข้ามามากขึ้นแต่ต้องใช้ความเพียร พยายามที่ต้องรักษามันให้นานเท่าที่จะทำได้

ใน Gen Y ที่มีความสะดวกรวดเร็วทั้งด้านการเรียนรู้ และชีวิตความเป็นอยู่ ทุกอย่างเข้ามาเร็ว 

Gen Y ที่งดงามจะต้องค้นหาให้ได้ว่าชอบทำอะไรและมุ่งในสิ่งนั้นให้ยอดเยี่ยมด้วยใจที่เปี่ยม

ได้ด้วยพลังขับจากภายในอยู่ตลอดเวลา ไม่ต้องให้มานั่งบังคับกันรายวัน


หาก Gen Y ได้พบพลังแห่งความสามารถของตัวเองแล้ว.. Gen Y จะงดงามที่สุด

 ..เกิดสมดุลในการให้และรับ ..มีความรักที่มีคุณค่าและทรงอนุภาพมากๆ ..ไปแตะขอบฟ้าด้วยกันครับ :)


หมายเหตุ:-
แท้จริงแล้ว ที่มาคือจากสภาพแวดล้อมรอบๆ ตัวเราที่ส่งอิทธิพลต่อการดำรงชีวิต 

ที่ถูกสร้างออกมาเป็นค่านิยมของสังคมที่แตกต่างกันเป็น life style แต่ละยุค 

ผมจะลองยกตัวอย่างให้ 2 ข้อ เพื่อชี้ให้เห็นถึงอิทธิพลของสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อคนนะครับ

ตย.ที่ 1 หากเกิดสงครามโลกขึ้นในปีนี้เลย นั่นหมายถึงรูปแบบการใช้ชีวิตที่จะเปลี่ยนไปหมด

Gen Y จะกลับมาคิดแบบ คนยุคก่อน Boomer (WW2) ก็เป็นได้ 

เพราะต้องการความปลอดภัยมากกว่า จะไปหาแรงบันดาลใจกัน

ตย.ที่ 2 หากเรามองไปที่สังคมของประเทศที่ยังมีสงครามกลางเมืองอยู่ในปัจจุบัน

ผมเชื่อว่าเด็กวัยรุ่นบ้านเขาไม่มีชีวิตแบบ slow life อย่างนี้แน่นอน

สรุปคือ สภาพแวดล้อมในการดำรงชีวิตเป็นส่วนสำคัญต่อความเชื่อ 

และรูปแบบ life styles นั่นเอง หากผู้ใดที่สามารถหลุดจากอำนาจของสิ่งเร้าแวดล้อมได้นั้น

เราจะขอเรียกเขาว่า เป็นผู้หลุดพ้นนั่นเอง เพราะเขาจะไม่ถูกหล่อหลอมไปตามความเชื่อ

ของคนในสังคมที่อยู่และสภาพแวดล้อมนั้นๆ ได้เลยครับ 55


หากไม่ตรงใจ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยครับ

และโปรดช่วย comment ข้อที่โดนกับตัวเอง หรือมาช่วยกันเติมข้อสังเกตุที่นอกเหนือกว่านี้ไปด้วยกันครับ

สังคมน่าอยู่ เมื่อเรา #แบ่งปัน
ดนัยรัฐ




Create Date : 03 พฤศจิกายน 2559
Last Update : 3 พฤศจิกายน 2559 12:13:33 น. 3 comments
Counter : 1287 Pageviews.  
 
 
 
 
สวัสดีค่ะ

อยู่ในกลุ่ม GEN X

แต่เป้าหมายชีวิตก็อยากเป็นนายตัวเอง
และมีอิสระภาพทางการเงิน เหมือน้องๆ GEN Y
ปัจจุบันยังคงเป็นพนักงานบริษัทค่ะ
ความรู้ความสามารถด้าน IT ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน
แต่สำหรับเรื่องงานถ้าไม่ถูกใจไม่ทนอยู่ถึง 2 ปีแน่ค่ะ
เปลี่ยนงานเลย ความอดทนก็ต่ำเตี้ยเรี่ยดินเหมือนกัน
 
 

โดย: เรียวรุ้ง วันที่: 3 พฤศจิกายน 2559 เวลา:15:42:29 น.  

 
 
 

มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ

ผมก็อยู่ใน Gen X ครับ อยู่คาบเกี่ยวระหว่างอะนาล็อคกับดิจิทัล อยู่ระหว่างแมนนวลกับออโตเมติคครับ

ปัญหาเรื่องที่ทำงานเท่าที่ทราบมีทุกคน ผมก็ไม่เปลี่ยนงานบ่อยมากแต่ก็ถือว่ามีเปลี่ยนงานบ้าง ผมนับถือจริงๆ คนที่ทำงานที่เดียวไม่ยอมเปลี่ยนงานเลย

เอาเป็ฯว่า ... สู้ๆ ครับ

สู้ต่อไปทาเคนัทธ์

บันทึกการโหวตเรียบร้อยแล้วค่ะ




บันทึกการโหวต Blog ในวันนี้

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ถปรร Photo Blog ดู Blog
นัทธ์ Diarist ดู Blog

ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น


อิอิ

 
 

โดย: อาคุงกล่อง วันที่: 3 พฤศจิกายน 2559 เวลา:20:49:01 น.  

 
 
 
สวัสดีครับ
แวะมาเยี่ยมครับ พูดถึงเรื่องทำงาน ในชีวิตของผมเปลี่ยนงานมาแล้ว 22 แห่ง แต่สาขาอาชีพที่ทำมีเพียงสองสามอย่างคือ การประชาสัมพันธ์ การบริหารงานบุคคล การบริหารทั่วไป การฝึกอบรม ใช้เวลาในชีวิตไปหลายสิบปี สัจธรรมคือเราก็ยังเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่นั่นเอง
 
 

โดย: หนุ่มร้อยปี (หนุ่มร้อยปี ) วันที่: 10 พฤศจิกายน 2559 เวลา:9:01:44 น.  

Name
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Opinion
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet

นัทธ์
 
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 39 คน [?]





รักที่จะอ่าน รักที่จะเขียน
เปิดพื้นที่ไว้ สำหรับแปะเรื่องราว
มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง ณ ที่นี้



สงวนลิขสิทธิ์
ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2539

ห้ามผู้ใดละเมิด
โดยนำภาพถ่ายและ/หรือข้อความต่างๆ
ไม่ว่าจะเป็นส่วนใดส่วนหนึ่ง
หรือทั้งหมดใน Blog แห่งนี้ไปใช้
และ/หรือเผยแพร่โดยมิได้รับอนุญาต
เป็นลายลักษณ์อักษร

New Comments
[Add นัทธ์'s blog to your web]

MY VIP Friend

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com