แก้ไข้แก้ปวด..อย่างปลอดภัย
ปวดใครคิดว่าไม่สำคัญ
เมื่อมีอาการปวด คุณทำอะไรกับอาการเหล่านี้บ้าง
ติกตอกๆๆๆๆๆ
ปวดปัสสาวะและอุจจาระ ปวดท้องประจำเดือน นั่นคือสัญญาณเตือนที่ร่างกายส่งออกมา ว่าเขากำลังต้องการขับถ่ายของเสียออกไป แล้วปวดเมื่อย ปวดหัวตัวร้อนล่ะ เขากำลังส่งสัญญาณอะไร และเราควรจะทำอย่างไร
ฉันศึกษาเพื่อหาคำตอบจากร่างกายตัวเอง พบว่าทุกครั้งที่ร่างกายสะสมความร้อนเอาไว้ เขากำลังต้องการระบายออก ทำให้รู้สึก ปวดหัวมึนหัว หัวหมุนงุนงง คล้ายๆในวันที่อากาศร้อนอบอ้าว ไม่นานฝนจะตกลงมา ร่างกายที่สะสมพิษร้อนเอาไว้ หากได้ระบายพิษออกมาทางผิวหนังบ้าง
เหมือนทุกครั้งที่ออกกำลังกาย เหงื่อไหลเป็นสายน้ำ ลมพัดมาทำให้ร่างกายเย็นสบาย ไม่ค่อยเจ็บป่วยอะไร แต่คนในยุคปัจจุบันรวมตัวฉันด้วย มักละเลยการออกกำลังกาย นั่งทำงานสบายๆในห้องปรับอากาศ ความร้อนภายในร่างกาย ไม่รู้จะระบายออกมาทางไหน จึงเกิดอาการปวด
ยาแก้ปวดนับว่าเป็นยาสามัญประจำบ้าน ที่เราๆท่านๆบริโภคกัน อย่างฟุ่มเฟือยเป็นที่สุด ปวดอะไรเป็นอะไรนิดๆหน่อยๆกินยาดักไว้ก่อน ยาคือสิ่งแปลกปลอมชนิดหนึ่ง กินเข้าไปมากๆเป็นภาระให้ตับไตต้องทำงานหนัก ฉันจึงอยากพักและหยุดวงจรอุบาทนี้ กระทั่งพบวิธีใหม่ๆในการรักษาอาการปวดดังกล่าว
ฉันพบว่าในสองสามปีหลังๆยาแก้ปวดหายไปจากตู้ยาที่บ้าน ที่หายไปเพราะว่ายาที่เคยเก็บไว้ หมดอายุต้องทิ้งไป และยังไม่มีใครมีอาการปวดหัวตัวร้อน ถึงกับต้องล้มหมอนนอนเสื่อ จึงทำให้ไม่ต้องใช้ยา
อ้าว
อย่างนั้นแสดงว่าพวกเราไม่ปวดหัวตัวร้อนกันแล้วสิ เปล่าอีกเพียงแต่ว่าเมื่อพวกเรารับสัญญาณเตือนภัยที่ร่างกายส่งออกมาคืออาการปวด เราเปลี่ยนมาใช้ยาสามัญประจำบ้านชนิดใหม่กันค่ะ
มือ
มือคือหนึ่งในยาสามัญประจำบ้านของพวกเรา อะไรที่ใช้บรรเทาและรักษา ฉันเรียกว่ายาทั้งสิ้น ในวันที่รู้สึกปวดหัวเวียนหัว ปวดเมื่อยเนื้อตัวตรงไหน ฉันจะใช้เครื่องมือที่อยู่ใกล้ๆตัว คือมือสองข้างนางทั้งห้า ลูบเบาๆไปตรงนั้น บีบนวดเบาๆตั้งแต่หัวจดเท้า ขยุ้ม ขยำ ลูบๆคลำๆไปทุกส่วนในร่างกาย เลือดลมเดินสะดวก อาการปวดตึงจะผ่อนคลาย หากไม่อยากทำเองไปร้านเสริมสวยให้ช่างทำผมนวดให้ อย่างนี้ก็ช่วยได้เหมือนกัน...
หวีอีโต้
เครื่องมืออีกชนิดที่ใช้แก้ปวดคือหวีอีโต้ซี่ห่างๆ หวีผมบ่อยๆเพื่อลดอาการตึงเครียดบริเวณศีรษะ ฉันอ่านพบในตำราแพทย์แผนจีน ลองหวีเบาๆขูดๆกวาดๆ ลงไป เพื่อทำให้ลมปราณเดินสะดวก อาการปวดหายไปด้วยขั้นตอนเดียว เคยสังเกตดูว่าในวันที่รู้สึกปวดตึงบริเวณศีรษะ หากฉันปล่อยปละไม่สนใจเส้นผมจะกระด้าง ฟูชี้แข็งจัดทรงยาก หากวันใดที่หวีผมนานๆจะรู้สึกสบายๆ ผลตอบแทนที่ได้คือสุขภาพผมดี ลื่นสลวยเป็นเงางาม หวีง่ายได้รูปทรง สิ่งนี้คงเป็นที่พอใจของร่างกาย เขาร่าเริงสดใสหายปวดค่ะ ......
....ไม้กัวซา ใช้ไม้กัวซานี้ทำจากไม้ ปวดเมื่อยตรงไหนขูดลงไปตรงนั้น นอนตกหมอน ปวดตึงต้นคอ สะบักจม ไมเกรน มือชา แขนชา เพราะเล่นเกมนานๆ ฉันเคยขูดรักษาให้ เห็นผลเป็นที่ประจักษ์มาแล้ว
วิธีทำไม่ยุ่งยากคล้ายๆการขุดรอกคลอง ขจัดตะกรัน ที่ขัดขวางทางน้ำ เพื่อส่งถ่ายเลือดเสียผ่านหลอดเลือดดำ ไปฟอกที่ม้ามและลำเลียงเลือดดี ส่งไปเลี้ยงเชลล์ต่างๆในร่างกาย การกัวซาคล้ายเป็นการออกกำลังกายชนิดหนึ่งเหมือนกัน
น้ำ
ปวดหัวตัวร้อนทำอย่างไรก็ไม่หาย ดื่มน้ำสะอาดๆลงไป เพื่อลดความร้อนภายในร่างกาย หากว่าอยู่ที่บ้านราดน้ำบนศีรษะเพื่อลดความร้อน หากมีไข้ใช้น้ำเย็นเช็ดตัวหรืออาบด้วยน้ำอุ่นนี่ก็เห็นผลเหมือนกัน ช่วงก่อนมีรอบเดือน ฉันมักจะเป็นไมเกรนและปวดท้อง การดื่มน้ำที่ถูกวิธีทำให้ฉันหายจากอาการดังกล่าว น้ำสะอาดอุณหภูมิปกติช่วยลดความหนืดข้นของเลือด ทำให้เลือดลมเดินสะดวก อย่างที่เคยเขียนไว้ในเอนทรี่ก่อนๆน้ำอีกนั่นแหละ ที่ทำให้ทอมซิลอักเสบที่เคยเป็นประจำหายไป และอาการร้อนในไม่เคยมาเยือน
หัวเราะและการยิ้ม
เครื่องมือที่ฉันใช้เป็นยาอีกชนิด คือเสียงหัวเราะและการยิ้ม วันไหนรู้สึกซึมเซาไม่สดชื่นมืนๆศีรษะ ไม่ต้องรอให้มีเรื่องน่าหัวเราะ แรกๆอาจรู้สึกขัดเขิน พอลองทำดูแล้วก็จะคุ้นเคยกันไปเอง การยิ้มและหัวเราะ ทำให้ลดอาการเครียด และความวิตกกังวลและความไม่สบายใจทั้งหลาย ยามที่ได้เปล่งเสียงหัวเราะออกมา อารมณ์ก็เปลี่ยน ส่วนเทคนิคในการยิ้มและหัวเราะ ลองหาวิธีที่เหมาะกับตัวเอง
ยุคสมัยนี้นับว่าโชคดีที่มีโทรศัพท์มือถือและมี small talkใช้ แล้วมาเกี่ยวอะไรกับการหัวเราะ เพราะไม่ต้องหาสถานที่เหมาะๆในการหัวเราะอีกแล้ว สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่ต้องกลัวคนเขาจะว่าบ้าพูดและหัวเราะอยู่คนเดียว ฮา ฮา
นอน
ทำวิธีทุกอย่างข้างต้นไปแล้ว ยังไม่หายปวด ยังเหลืออีกวิธีค่ะ ลองสังเกตุดูนะคะ ปวดหัวเพราะอดนอน หรือนอนไม่เพียงพอหรือเปล่า อาจปวดเพราะคร่ำเคร่งกับงาน เกิดอาการเครียด และล้าของกล้ามเนื้อบริเวณสายตาหรือเปล่า ลองไปตรวจวัดสายตาและหาแว่นใส่ หากตัดแว่นแล้วยังไม่หาย วิธีสุดท้ายคือไปนอนแอบงีบเพื่อพักสายตาสักยี่สิบนาที ตื่นขึ้นมาอีกทีก็หายปวดแล้วค่ะ
เมื่อเราดูแลเรื่องอาการเจ็บป่วยเล็กๆน้อยๆได้แล้ว เขาจะไม่ลุกลามใหญ่โตกลายเป็นโรคร้ายแรงอย่างอื่น มีใครคนหนึ่งสงสัยว่าจากนี้ต่อไป คงไม่ต้องไปโรงพยาบาลอีกแล้วใช่ไหม
ไม่ใช่ค่ะ ฉันไปโรงพยาบาลเกือบทุกวัน ไปซื้อขนมและผลไม้ที่สหกรณ์ ฮา ฮา"
นี่เป็นเพียงวิธีป้องกันก่อนที่โรคจะเกิด ที่โรงพยาบาลมีคนไข้ในแต่ละวันมากมายมหาศาลอยู่แล้ว ฉันเลือกไปเฉพาะที่จำเป็นๆที่ฉันทำเองไม่ได้ เช่นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ฉันไปแผนกทันตกรรม เพื่อขูดหินปูน ทุกสามเดือนไปตรวจเลือดเพื่อเช็คไขมันในเส้นเลือด ตรวจมะเร็งปากมดลูกปีละครั้ง ตรวจสุขภาพผู้สัมผัสอาหาร เพื่อเช็คสุขภาพปอดทุกหกเดือน
หากวันไหนรู้สึกหัวหมุนงุนงง เดินข้ามถนนไม่กี่ก้าว ก็ถึง ER ห้องอุบัติเหตุฉุกเฉิน ตรวจวัดความดันโลหิตว่ายังปกติดีอยู่หรือเปล่า น้องๆที่นั่นยินดีบริการให้ โดยไม่ต้องไปขึ้นบัตรผู้ป่วย
เมื่อวานมีคุณหมอหนุ่ม ตาตี่ๆหน้าเกาหลี เข้ามาส่งเอกสารที่ทำงาน กล่าวว่า
ผมโชคดีจังที่ทำงานของพี่อยู่ใกล้โรงพยาบาล
ฉันตอบไปทันควัน
โชคดีเหมือนกันที่โรงพยาบาลอยู่ใกล้ๆที่ทำงานของพี่
ยังหาข้อสรุปไม่ได้สักทีว่าใครโชคดีกว่าใคร ฮา ฮา
สิ่งที่ร่างกายสื่อสารออกมาด้วยอาการปวด นับว่าเป็นเรื่องที่ดี จงอย่าเพิกเฉยต่อสัญญาณนี้นะคะ หากร่างกายพูดออกมาเสียงดังๆได้ เขาคงต้องการบอกกับเราว่า
ฉันทนไม่ไหวแล้ว พักสายตาได้แล้ว พักผ่อนนอนหลับได้แล้ว ปวดทรมานเหลือเกิน ช่วยนวดให้ฉันที
ลองนำวิธีดังกล่าวขจัดปัดเป่าอาการปวดเสียแต่เนิ่นๆ อย่ากรอกแต่ยาระงับปวด แล้วหักโหมทำงานต่อไป เพราะนั่นเป็นการทำร้ายตัวเอง
แอมอร
ขอบคุณภาพประกอบจากเวปต่างๆค่ะ
Create Date : 21 กันยายน 2555 |
|
38 comments |
Last Update : 21 กันยายน 2555 23:18:27 น. |
Counter : 4065 Pageviews. |
|
|
|
เป็นข้อมูลที่ดีมากๆเลยครับ
จริงเลยครับพี่
คนไทยเรากินยาแก้ปวดเหมือนกินขนมครับ