เส้นทางชีวิต .... กว่าจะถึงพันตำรวจเอก ตอนที่ ๗๙
เราเดินกันมาพักใหญ่หมู่เทียมก็หยุด ชี้ให้ผมดูบ้านหลังหนึ่ง ที่ตั้งโดดเดี่ยวกลางทุ่งล้อมรอบด้วยดงไม้ และต้นไผ่บนบ้านเห็นแสงตะเกียงลอดออกมาทางเกล็ดหน้าต่างที่แง้มไว้ ผมให้เดินหน้าเข้าไปหาบ้านหลังนั้น พอถึงชายไม้ที่ล้อมรอบบ้านอยู่ ผมก็ให้ตำรวจวิ่งเรียงรายไปล้อมทั้งสี่ด้าน และให้พร้อมที่จะยิงได้ ผมเชื่อแน่ว่าไอ้เปี๊ยกจะไม่ยอมให้จับเป็นแน่ ตำรวจของผมกระจายกันไปแล้ว ผมก็หมอบลง และให้ หมู่เทียมส่งเสียงเรียกมันให้ออกมาให้จับเสียดีๆ สิ้นเสียงหมู่เทียม แสงไฟบนบ้านก็ดับมืดสนิท แล้วร่างของใครคนหนึ่งก็โดดออกมาจากทางหน้าต่าง วิ่งไปกลางทุ่งผมสั่งให้ตำรวจไล่ยิงติดตามไป ใครคนนั้นหันมายิงโต้ตอบเป็นพักๆ ไม่มีใครถูกกระสุน แต่เราไล่ใกล้มันเข้าไป พอเข้ามาใกล้ระยะแม่นยำของกระสุน มันก็โดดไปหมอบอยู่กับคันนา ผมสั่งให้ตำรวจของผมเรียงรายกันหมอบ ใช้คันนาเป็นที่กำบังเหมือนกัน แล้วตำรวจกับผู้ร้ายก็ยิงกันสนั่นทุ่ง แต่ผมไม่ได้ลั่นกระสุนของผมสักนัด เพราะผมถือคติว่า ถ้าไม่เห็นเป้าชัด ผมจะไม่ยิง การสงวนกระสุนเป็นของสำคัญไม่ใช่เอาเสียงปืนเป็นเพื่อน แต่ตำรวจของผม ผมไม่ได้ทันสั่งการในเรื่องนี้ เขาจึงยิงกันสนุกมือ ไอ้เปี๊ยกเสียอีกมันไม่ค่อยยิง มันหมอบนิ่ง นานๆ จึงจะส่งกระสุนออกมานัดหนึ่ง ตรงที่ผมหมอบอยู่นั้นห่างจากไอ้เปี๊ยกชั่วคันนาคั่น ผมเห็นหัวมันตะคุ่มๆ อยู่ตรงหัวมุมคันนาตรงหน้า มันฉลาด ใช้มุมคันนาเป็นที่กำบัง เพราะได้ทั้งสองด้าน นานๆ มันจะผงกหัวขึ้นมายิงไปทิศทางที่แสงไฟจากปากกระบอกปืนของตำรวจของผมยิงออกไป ส่วนตำรวจของผมนั้นยิงกันอย่างไม่ประหยัดกระสุน ผมต้องร้องตะโกนออกไป ให้สงวนกระสุนไว้บ้าง ตัวผมเองคอยดักลั่นกระสุนตอนที่ ไอ้เปี๊ยก ผงกหัวยิงไปทางตำรวจของผม แต่กระสุนของผมนัดแรกที่ลั่นออกไปไปกระทบกับคันนา ดินกระจุย ผมเป็นคนขี้รำคาญเรื่องยิงกันยืดเยื้อยิ่งเป้าที่หมายไม่ชัดเจนอย่างนี้ ยิ่งรำคาญใหญ่ ผมลั่นกระสุนใส่ไอ้เปี๊ยก ไปอีกสองนัดก็หมดความอดทน เงาหัวตะคุ่มๆของมัน มองเห็นอยู่ใต้แสงเดือน ผมดีดตัวขึ้นยืนจังก้าเต็มตัวแล้วก็กดปากกระบอกปืนลงไปที่เงาหัวนั้น เป้าหมายเห็นชัดกว่าตอนหมอบอยู่ เสียงกระสุนลั่นปังออกไปเมาเซอร์ต่อด้าม เป็นปืนออโตเมติค ผมเหนี่ยวไกซ้อนลงไปอีก เสียงดัง แชะ เหนี่ยวไกอีกทีมันก็เงียบ เพราะลูกเลื่อนไม่ทำงานเสียแล้ว กระสุนหมดแม๊กกาซีน ผมทิ้งตัวลงกำบังคันนาเสียงปืนทาง ไอ้เปี๊ยก เงียบลงไปเหมือนกัน ผมเห็นหัวของมันยังบังคันนาอยู่นิ่ง ขณะนั้นทุกสิ่งเงียบสนิท ตำรวจของผมคนหนึ่งค่อยๆ คลานเข้าไปหาที่ที่มันซุ่มอยู่ แล้วเขาก็ตะโกนร้องออกมาว่า เสร็จแล้ว หมวด แล้วเขาก็วิ่งไปยังร่างของมันที่ฟุบอยู่ที่หัวคันนา ใช้เท้าเคี่ยร่างของมัน แล้วยืนนิ่งมองดู ร่างของมันไม่ไหวติ่ง ผมลุกขึ้นจากที่นอนหมอบอยู่เข้าไปหาร่าง ไอ้เปี๊ยก มันนอนเอียงหน้าฟุบแนบหัวคันนานั้น เลือดจากหัวของมันไหลรินลงมาตามใบหน้า ตายสนิท กระสุนเจาะกระโหลก กลางกระหม่อมของมันพอดี ผมบนหัวขาดกระจุย แหวกเป็นทางมองเห็นเลือดทะลักออกมาจากแผลตรงนั้น เป็นลิ่มๆ ไอ้กระสุนนัดสุดท้ายที่ผมปล่อยออกไปด้วยความรำคาญนัดนั้น นั่นเอง ผมยืนตัวเย็น มองดูร่างของมัน แล้วมองดูปืนที่ถืออยู่ในมือ ถ้าผมยิง ไอ้เปี๊ยกไม่ถูกนัดนั้น แล้วตอนที่ผมกระดิกไก หมายจะซ้ำ แล้วมันดัง แชะ นั้น ไอ้เปี๊ยกคงไม่ปล่อยผมไว้เป็นเป้านิ่งอย่างนั้นแน่นอน คุณหลวงนรินทร์ฯทำผมเสียแล้ว ให้กระสุนมาสี่นัดเท่านั้นเอง มันเป็นความบกพร่องของผมเองที่ไม่ได้ตรวจตรากระสุนให้ดีเสียก่อนที่จะออกมาทำงาน
Create Date : 31 มีนาคม 2560 |
Last Update : 2 เมษายน 2560 18:32:23 น. |
|
1 comments
|
Counter : 481 Pageviews. |
|
|