เส้นทางชีวิต... กว่าจะเป็นพันตำรวจเอก ตอนที่ ๕๘
ผู้กำกับการตำรวจภูธรชลบุรี ตอนนั้น ชื่อว่า พันตำรวจตรีหลวงนรินทร์ศรศักดิ์ ในวงการตำรวจรุ่นเก่า ได้ยินชื่อนี้แล้ว ไม่รู้จัก เป็นไม่มี ผู้กำกับผู้นี้เป็นผู้ที่ทำให้เมืองชลฯ สงบ จากมืองนักเลงที่ยิงฟันกันแทบทุกวันมาเป็นเมืองสงบ คนเมืองชลฯเคารพนับถือคุณหลวงนรินทรฯ มาก ชาวบ้านได้ทำมาหากินกันอย่างสะดวกสบายกันก็เพราะฝีมือท่านผู้นี้ วันที่ผมไปรายงานตัวท่านวันแรก ท่านก็เอ่ยทักผมอย่างคนรู้จักกัน ทั้งที่ผมเพิ่งจะเคยพบกับท่านเป็นครั้งแรก ผมได้ยินชื่อคุณจากท่านอธิบดีแล้ว ผู้กำกับการฯ พูดกับผมในวันที่ผมไปรายงานตัว ท่านบอกผมว่า ท่านส่งคุณให้มาอยู่กับผมและท่านบอกว่า ผมคงจะถูกใจ คุณหลวงนรินทร์ฯเป็นผู้ที่ใกล้ชิดกับหลวงอดุลย์ฯ คนหนึ่ง ขนาดเข้าถึงตัวได้ จำนวนผู้ที่เข้าถึงตัวได้ มีไม่กี่คน แต่ทำไมท่านอธิบดีจึงต้องเอ่ยถึงผมในทำนองนี้ ผมก็ยังไม่เข้าใจว่าผมจะทำตัวให้ถูกใจคุณหลวงนรินทร์ฯ ได้ยังไง ปกติผมชอบรวนผู้บังคับบัญชาอยู่แล้ว ก็ไอ้ที่ต้องเร่ร่อนไปตั้งสอง-สามแห่งชั่วระยะเวลาที่ออกมารับราชการเพียงไม่ถึงสองปี ก็เพราะเรื่องเอาใจผู้บังคับบัญชาไม่เป็นนี่แหละ ผมไม่รู้จะพูดกับท่านว่าอย่างไร ท่านซักถามผมถึงเรื่องครอบครัวผมก็บอกท่านไปว่า ผมยังไม่มี แล้วท่านก็ถามถึงอายุของผม ผมบอกท่านไปว่าผมอายุยี่สิบสอง ย่างยี่สิบสาม ท่านบอกว่าผมดูเด็กกว่าอายุ ใครๆก็ดูว่า ผมเด็กกว่าอายุ ตอนนั้นผู้คนในเมืองชลฯ ได้ข่าวว่า มีผู้บังคับหมวดมาใหม่ ยังเด็กๆ อยู่ ต่างก็พากันมาดูตัวที่โรงพัก บางคนทำเป็นมาหานายตำรวจเก่าๆที่อยู่ที่นี่ ซึ่งแต่ละคนอายุเลยห้าสิบไปแล้วส่วนมาก มีนายตำรวจใหม่ที่ถูกย้ายมาจากทหารมาอยู่ที่นี่อีกคนเดียวที่อายุสามสิบกว่าๆ แต่มีครอบครัวแล้ว ชื่อ ร้อยตำรวจตรี ระคน อักษรนันท์ นอกนั้นอีกสามคนคนหนึ่งอายุใกล้ห้าสิบ อีกสองคนเป็นหมื่นขจรฤทธิ์ และ ร้อยตำรวตรี อ่อน ผุดผาด อายุเท่าพ่อผมเห็นจะได้ ชาวบ้านร้านตลาดต่างโจทย์ขันกันว่า ผู้หมวดที่มาใหม่ อายุสิบหกเท่านั้น จะมาอยู่เมืองชลฯ ได้ยังไง บ้านพักของผมอยู่ใกล้ๆทางเดินไปท่าน้ำลงทะเล ตอนเย็นๆจะมีผู้คนมาเดินเตร่กันแถวถนนข้างบ้านมากผิดปกติ ตั้งแต่ผมมาอยู่ เขาพากันมาดูนายตำรวจหนุ่มอายุสิบหก ผมก็นั่งที่ระเบียง ให้เขาดูกันสมใจอยาก ผมได้อาศัยความกรุณาของผู้หมวดระคน และ คุณพี่อุ่นเรือน ภรรยาของผู้หมวด ระคน ทำกับข้าวส่งให้ผมทุกมื้อ จะให้สตางค์ก็ไม่ยอมรับ ครอบครัวนี้ มีลูกสาวสองคนซึ่งผมรักเหมือนหลานแท้ๆ ตอนนั้น อายุซักห้า-หกขวบคนหนึ่ง และคนโตซักสิบขวบเห็นจะได้ หมวดระคน ได้ลูกชายอีกคนหนึ่งที่เมืองชลฯ ดูเหมือนจะชื่อ องอาจ ป่านนี้มิโตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันไปหมดแล้วมัง ผมรักใคร่กับครอบครัวนี้มากเหมือนญาติสนิท ตอนหลังๆ พอผมอยู่ๆไปนานๆ เข้า ก็มีปิ่นโตจากบ้านในตลาดมาส่งให้บ้างจึงแบ่งเบาภาระจากพี่อุ่นเรือนไป และมักจะเย้าผมว่า อีกหน่อยก็คงไม่ต้องอาศัยกับข้าวบ้านพี่แล้ว บ้านในตลาดที่ส่งปิ่นโตให้ผมนั้นเป็นใคร แล้วจะเล่าให้ฟัง เมื่อถึงตอนนั้น เป็นความประทับใจอันหนึ่งของผมที่ลืมไม่ได้
Create Date : 15 มีนาคม 2560 |
Last Update : 15 มีนาคม 2560 21:21:39 น. |
|
1 comments
|
Counter : 460 Pageviews. |
|
|
โหวตจ้า..