Bloggang.com : yyswim - เชื่อหรือไม่ #2

Bloggang.com : weblog for you and your gang

เชื่อหรือไม่ #2

เชื่อหรือไม่ #2

#11 น้ำผึ้งไม่ต้องพึ่งตู้เย็น

น้ำผึ้งมีคุณประโยชน์ต่อคนเรามากมาย ทั้งเป็นอาหาร ทั้งเป็นยาบำรุงเสริมกำลัง รับประทานก็ง่ายไม่ต้องผ่านกรรมวิธีการปรุง แต่ถ้าต้องการจะปรุงบ้างก็ทำได้ เช่น จะทำเป็นเครื่องดื่มน้ำผึ้งผสมมะนาว เป็นยาดองน้ำผึ้ง เป็นต้น น้ำผึ้งจะไม่มีผลต่ออาการแพ้ของทุกเพศ ทุกวัย จะให้เป็นของขวัญแก่ใครๆก็ไม่บาปหากเปรียบเทียบกับการให้รังนก พกพาก็ง่าย และที่สำคัญ เก็บไว้ได้นาน ทั้งแบบที่เคยใช้แล้วและยังไม่ได้ใช้

น้ำผึ้งสามารถเก็บไว้ได้นานนับเป็นปีๆ ณ อุณหภูมิห้องโดยไม่ต้องใส่ไว้ในตู้เย็น เพียงแต่เก็บในภาชนะบรรจุที่เป็นแก้วและปิดผนึกแน่น น้ำผึ้งจึงนับเป็นอาหารจากธรรมชาติที่สมบูรณ์แบบอย่างไม่น่าเชื่อ

ทั้งนี้ก็เพราะ ผึ้งช่วยกลั่นกรองและดำเนินการทุกขั้นตอนของการผลิตน้ำผึ้งให้แก่คนเรา ผึ้งจะเก็บน้ำหวานจากดอกไม้ด้วยลิ้น และส่งต่อไปไว้ยังกระเพาะเก็บน้ำผึ้ง ที่ซึ่งเอนไซม์ในน้ำลายจะเปลี่ยนน้ำตาลซูโครสในน้ำหวานของดอกไม้ ให้กลายเป็นน้ำตาลเด็กโทรสและเลวูโรส

เมื่อผึ้งบินกลับรัง ผึ้งจะเก็บสะสมน้ำหวานซึ่งผ่านกระบวนการย่อยมาบางส่วนแล้ว ไว้ในแต่ละช่องของรวงผึ้ง จากนั้นผึ้ง "พ่อบ้าน" (house bees) จะอมน้ำหวานไว้ในปากเพื่อสร้างกระบวนการเปลี่ยนแปลงทางเคมีในอีกขั้นตอนหนึ่ง จากนั้นกลุ่มผึ้งงานก็จะใช้ปีกพัดน้ำหวาน เพื่อให้น้ำส่วนเกินระเหยออกไป ผลผลิตสุดท้ายคือ น้ำผึ้ง ซึ่งมีองค์ประกอบของน้ำเพียง 18% เท่านั้น

เอนไซม์ตัวหนึ่งในน้ำลายซึ่งผึ้งเติมลงในน้ำหวานของดอกไม้ คือ กลูโคลสออกซิเดส เอนไซม์ตัวนี้จะชะลอการเติบโตของแบคทีเรีย ในช่วงกระบวนการระเหยน้ำและช่วงหลังจากนั้นถ้าปริมาณน้ำในน้ำผึ้งเพิ่มขึ้น และด้วยคุณสมบัติการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อโรคของน้ำผึ้งนี้เอง คนโบราณจึงใช้น้ำผึ้งทาสมานแผล และใช้น้ำผึ้งในการดองศพหรือรักษาศพไม่ให้เน่าเปื่อย

เมื่อใดก็ตามที่ปริมาณน้ำในน้ำผึ้งเริ่มจะเพิ่มขึ้น เอนไซม์ตัวนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้น้ำผึ้งเน่าเสีย โดยเปลี่ยนกลูโคสให้กลายเป็น กรดกลูโคนิกกับไฮโดรเจนเพอร็อกไซด์ ทั้งคู่จะมีฤทธิ์ฆ่าแบคทีเรียและยีสต์ กระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้สำคัญมาก เพราะน้ำผึ้งชอบดูดซับความชื้น

อนึ่ง เหตุผลสำคัญที่สุดที่น้ำผึ้งไม่เสียง่าย อีกอย่างหนึ่งคือ ปริมาณน้ำตาลและกรดในน้ำผึ้ง ที่มีสูงมาก แบคทีเรียและยีสต์ จะไม่สามารถทนทานกับสภาวะทั้งสองได้ นอกจากนี้คุณสมบัติการดูดซึมน้ำของน้ำผึ้งยังทำให้จุลินทรีย์เกิดสภาวะขาดน้ำ (dehydration) อย่างรวดเร็วก่อนที่พวกมันจะขยายพันธุ์

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาผ่านไปน้ำผึ้งบริสุทธิ์มักจะจับตัวเป็นเกล็ด ส่งผลให้ปริมาณน้ำในน้ำผึ้งส่วนที่ไม่จับตัวเพิ่มขึ้น ยีสต์บางชนิดอาจสามารถทนทานต่อปริมาณน้ำตาลสูงในน้ำผึ้งได้ ถ้าปริมาณน้ำเพิ่มมากเกินไป น้ำผึ้งจะเข้าสู่กระบวนการหมักบ่ม การทำให้เกล็ดน้ำผึ้งกลับมาเป็นน้ำผึ้งตามเดิม กระทำได้โดยเอากระปุกใส่น้ำผึ้งไปอุ่นในกระทะใส่น้ำตั้งไฟให้ร้อน และเพื่อป้องกันการจับตัวเป็นเกล็ดอีกในครั้งต่อไป ควรจะเก็บน้ำผึ้งไว้ในที่มืดและแห้งจะดีกว่า แต่ไม่จำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น

#12 น้ำแข็งก้อนเป็นยา

เชื่อหรือไม่ว่า น้ำแข็งก้อนสามารถใช้เป็นยาบรรเทาปวดได้ ใช้ห้ามเลือดได้ ช่วยป้องกันไม่ให้แผลเป็นหนองได้ และยังราคาถูกกว่ายาในร้านขายยา

น้ำแข็งก้อน สามารถจะใช้ทดแทนยาชาได้ เช่น เวลาถูกเสี้ยนตำที่นิ้ว ใช้น้ำแข็งก้อนแตะที่นิ้วจนกระทั่งรู้สึกชา แล้วใช้เข็มที่ทำความสะอาดแล้ว(เผาไฟก็ได้) เขี่ยเสี้ยนนั้นออก หรือในกรณีที่กลัวเจ็บก่อนที่จะถูกฉีดยา ควรใช้น้ำแข็งก้อนวางบนจุดที่จะฉีดยาประมาน15 วินาที ซับน้ำออกให้แห้ง เช็ดด้วยแอลกอฮอล์ แล้วถูกฉีดในขณะที่บริเวณดังกล่าวยังชาอยู่ จะไม่รู้สึกเจ็บจากปลายเข็มที่ฉีด

น้ำแข็งก้อน สามารถจะช่วยบรรเทาอาการปวดหลังได้ระยะหนึ่ง หากอาการปวดหลังนั้นเกิดจากกล้ามเนื้ออักเสบ โดยนำก้อนน้ำแข็งมาวางลงบริเวณที่ปวดหลัง จากนั้นชั่วระยะเวลาหนึ่ง คนไข้จะสามารถลุกขึ้นจากเตียงเองได้โดยไม่ต้องประคอง เพราะความเย็นจะทำให้คนไข้ไม่รู้สึกว่าเจ็บ ว่ากันว่าบางคนถึงกับก้มลงผูกเชือกรองเท้าด้วยตัวเองได้ด้วย

คนไข้ที่เคยใช้ยาเสพติดในการรักษาอาการปวด มักเปลี่ยนมาใช้น้ำแข็ง ซึ่งนอกจากจะบรรเทาความเจ็บปวดลงได้แล้ว ยังไม่มีปฏิกิริยาภายหลัง เช่น วิงเวียนหรือคลื่นเหียน และยังทำให้ไม่ติดยาเสพติดจากการรักษา อย่างไรก็ตาม น้ำแข็งจะใช้เพื่อการรักษาแผลผ่าตัดเป็นเวลานานๆไม่ได้ เพราะความเย็นจะทำให้แผลแห้งช้า

หากถูกไฟลวกที่นิ้ว ควรจุ่มนิ้วลงในน้ำเย็นที่มีน้ำแข็งอยู่สักก้อนหรือสองก้อน หรือใช้น้ำแข็งวางลงบนบริเวนที่ถูกไฟลวก จนกระทั่งความปวดลดหายไป การใช้น้ำแข็งช่วยนี้จะทำให้บริเวณที่ถูกไฟลวกปวดน้อยลงและไม่พอง หลังจากนั้นจึงใช้ยาแก้ไฟลวกทาตามปกติ

หากรู้สึกว่าจะเป็นลม เพราะอากาศร้อนอบอ้าว ใบหน้าซีด และตาลาย ควรใช้น้ำเย็นในกระติกน้ำแข็ง ลูบตามบริเวณแขน หน้า และต้นคอ จะช่วยบรรเทาอาการดังกล่าวได้

น้ำแข็ง นอกจากจะช่วยห้ามเลือดบนผิวหนังได้แล้ว ยังจะช่วยห้ามเลือดใต้ผิวหนังได้อีกด้วย เมื่อเกิดอาการฟกช้ำขึ้น จะทำให้เส้นเลือดฝอยใต้ผิวหนังแตก มองเห็นเป็นวงสีคล้ำหรือสีน้ำเงิน น้ำแข็งจะช่วยให้เลือดแข็งตัว จำกัดบริเวณที่บวมและบรรเทาความเจ็บปวดได้

ฉะนั้น ในการแข็งขันกีฬาต่างๆ จึงควรมีน้ำแข็งก้อนเตรียมเอาไว้ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็สามารถใช้น้ำแข็งช่วยบรรเทาในยามฉุกเฉินก่อนจะถึงมือแพทย์

นอกจากนั้น น้ำแข็งยังจะช่วยหยุดยั้งการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี แม้ว่าแผลนั้นจะมีสิ่งสกปรกติดอยู่ เพราะความเย็นจะทำให้เชื้อโรคช๊อคหยุดนิ่งอยู่กับที่ การใช้น้ำแข็งปิดบริเวณแผลจนกระทั่งแพทย์มาถึง จะช่วยลดอันตรายอันอาจจะเกิดจากการแพร่ตัวของเชื้อโรคได้ อันนี้ลองเปรียบเทียบกับการใช้น้ำแข็งแช่ปลาสด เนื้อไก่สด หรือแม้แต่การใช้เก็บศพก็แล้วกัน

น้ำแข็งจะไม่มีอันตราย เพราะน้ำแข็งเพียงแต่ทำให้ผิวหนังเย็นโดยไม่ทำให้แข็ง อุณหภูมิของผิวหนังจะลดลงเหลือประมาณ ½ ถึง 5 องศา ซึ่งสูงกว่าจุดความเย็นที่ของเหลวจะเริ่มแข็งตัวได้ แต่ข้อสำคัญ อย่าใส่เกลือปนลงไปกับน้ำแข็งเป็นอันขาด เพราะจะทำให้เกิดปฏิกิริยาเช่นเดียวกับถูกหิมะกัด

น้ำแข็งก้อน ให้ประโยชน์อย่างมาก มากกว่าเพียงแค่ใช้เพื่อกัดกินหรือเพื่อผสมในเครื่องดื่มเย็นๆอย่างแน่นอน

#13 ทานน้ำอัดลมบ่อยๆ อาจเสียวฟัน

อาการเสียวฟันเกิดขึ้นได้ เมื่อคนเรารับประทานผลไม้สดที่มีรสเปรี้ยวปริมาณมากๆ จะเป็นมะยม มะม่วง มะดัน ก็ตาม เพราะปกติเนื้อฟันจะมีผิวเคลือบฟันหุ้มเอาไว้คล้ายๆผิวชั้นนอก แต่เมื่อผิวเคลือบฟันถูกกัดกร่อนให้หลุดหายไป เพราะสภาพของกรดซิตริกที่มีอยู่มากในผลไม้เปรี้ยว เนื้อฟันเมื่อไม่มีผิวเคลือบฟันก็จะสัมผัสกับสิ่งที่เข้ามาในปาก(สิ่งกระตุ้น)โดยตรง ก็จะทำให้เกิดการเสียวฟันขึ้น แต่ถ้ารับประทานผลไม้เปรี้ยวไม่มากนัก ผิวเคลือบฟันก็จะยังไม่ถูกกัดกร่อน เพราะน้ำลายที่หลั่งออกมาจะช่วยลดความเป็นกรดไปได้ทัน

น้ำอัดลมเป็นเครื่องดื่มประเภทมีความเป็นกรดอ่อนๆ ซึ่งจะทำให้ผิวเคลือบฟันละลายตัวได้เหมือนกัน แต่จะมากน้อยขึ้นกับชนิดของน้ำตาลที่ผสมอยู่ในเครื่องดื่มนั้นๆ น้ำอัดลมชนิดที่ใช้สารทดแทนความหวาน (ประเภทไดเอท)จะมีสภาพความเป็นกรดน้อยกว่า และทำให้ผิวเคลือบฟันละลายตัวได้น้อยกว่า

การทานน้ำอัดลมมากๆ ทานบ่อยๆ จะสามารถทำให้ผิวเคลือบฟันหลุดหาย จนทำให้เกิดอาการเสียวฟันขึ้นได้

#14 ไม่ควรดื่มเครื่องดื่มเย็นเจี๊ยบหลังอาหาร

ขณะรับประทานอาหาร หรือทันทีที่รับประทานอาหารเสร็จ แล้วดื่มเครื่องดื่มเย็นเจี๊ยบตามลงไป จะเป็นชาดำเย็น น้ำแข็งเปล่า หรือเครื่องดื่มเย็นเจี๊ยบอื่นๆ อาจทำให้เป็นมะเร็งลำไส้ได้

เพราะอาหารคาวที่คนเรากินเข้าไปมีไขมัน จะเป็นพวกไก่ทอด ซี่โครงหมูอบ แกงเนื้อ พวกนี้ร่างกายจะต้องใช้เวลาในการย่อยพอสมควร เมื่อเราดื่มเครื่องดื่มเย็นเจี๊ยบลงไป จะทำให้ไขมันในอาหารพวกนี้ย่อยยากยิ่งขึ้น และเมื่อไขมันเหล่านี้เจอกับกรดในกระเพาะก็จะอ่อนตัวกลายสภาพเป็นกึ่งของเหลว แล้วจะไหลเข้าสู่ลำไส้ก่อนอาหารที่มีสภาพเป็นของแข็งชนิดอื่นๆ วัตถุที่มีสภาพเป็นของเหลวเหนียวๆข้นๆนี้ จะถูกลำไส้ดูดซึมเข้าไปในกระแสเลือดเป็นอันดับแรก แต่ไม่อาจดูดซึมได้ทั้งหมด เพราะการเป็นไขมันที่ย่อยยากและยังย่อยไม่หมดนั่นเอง ผนังลำไส้จึงเต็มไปด้วยคราบไขมันเกาะ และเมื่อเวลาผ่านไปนานเข้า มีการสะสมคั่งค้างไว้นานเข้า ก็อาจทำให้เกิดการนำมาซึ่งโรคมะเร็งลำไส้ในที่สุด!

ขณะรับประทานอาหาร หรือภายหลังรับประทานอาหารเสร็จ จึงควรจะดื่มน้ำแกงอุ่นๆ หรือน้ำซุปอุ่นๆ หรือน้ำดื่มปกติ จะดีกว่าการดื่มเครื่องดื่มเย็นเจี๊ยบ

#15 หลักเกณฑ์การใช้ยาทา

ยาทาภายนอกมีหลักเกณฑ์การทายาที่ถูกต้อง ดังนี้

1. ล้างมือและทำความสะอาดผิวหนังบริเวณที่จะทายาให้สะอาดทุกครั้ง

2. บีบยาทาออกจากหลอดพอสมควร หรือถ้าเป็นยาทาที่อยู่ในตลับ ควรใช้ไม้พันสำลีป้ายยาทาออกมาเท่าที่ต้องการ

3. ทายาบางๆ ตรงบริเวณที่ต้องการเท่านั้น อย่าทายาเป็นบริเวณกว้าง และอย่าทายาหนาจนเกินไป

4. ถูนวดยาเบาๆ จนยาซึมเข้าไปในผิวหนัง ระวังอย่าให้ยาถูกเช็ดออกด้วยเสื้อผ้า หรือถูกน้ำชะล้างออกไปเร็วเกินควร

5. ควรทายาวันละประมาณ 2 - 3 ครั้ง ยกเว้นจะมีการบอกวิธีทายาเป็นอย่างอื่น

#16 ล่อยุงด้วยถุงเท้า

ใช้ปี๊บขนมปังแบบที่มีฝาปิดใหญ่ ราคาประมาณ 20 บาทต่อปี๊บ(ซื้อจากร้านขายขนม) นำมาล้างให้สะอาด นำถุงเท้าของลูกหลานหรือของตนเองสัก 2 - 3 คู่ เป็นถุงเท้าที่ใช้หลายวันแล้ว สกปรกแล้ว อับชื้น และยิ่งเหม็นมากเท่าไหร่ ยิ่งดี เพราะยุงชอบกลิ่นถุงเท้าใช้แล้วของคนเรา

นำถุงเท้ามาใส่ไว้ในปี๊บ แล้วนำปี๊บเปิดฝา วางไว้ในที่ร่มครึ้มนอกบ้าน ใต้ต้นไม้ก็ได้ ถ้าในบ้านมียุงมาก ก็อาจจะวางไว้อีกใบตามมุมอับมืดในบ้าน ทิ้งไว้ข้ามคืน ใกล้รุ่งยุงจะบินหาที่หลบ และจะเข้าไปอยู่ในปี๊บจำนวนมาก ตอนสายๆประมาณ 8 - 9 โมงเช้า จึงมาปิดฝาปิ๊บ และนำปี๊บไปตากแดด ฆ่ายุงได้ตายเรียบนับร้อยๆตัว

#17 วาดภาพบนร่างกาย

#18 ประดิษฐ์จากหลอดกาแฟ

#19 ไทยมีเรือดำน้ำ

เรือดำน้ำเป็นของเอกชน อยู่ที่ทะเลพัทยา จ.ชลบุรี ให้บริการนำผู้สนใจไปชมปะการังใต้ทะเล บริเวณเกาะล้าน และชมการแสดงใต้ทะเล เช่น ดำสคูบ้า ให้อาหารปลา จับปลา

การนั่งเรือดำน้ำ มีหลายเที่ยว รอบเช้า 8:00 9:00 10:00 11:00 และ12:00 น. รอบบ่าย มีในเวลา 13:00 14:00 15:00 16:00 และ17:00 น.

ราคาต่อเที่ยว ประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ 990 บาท เด็ก (3-12 ปี) 740 บาท หากสำรองที่นั่งจะได้ลดราคา 5% ติดต่อทางเว๊ปไซต์ที่โชว์อยู่ในภาพ

# 20 ไทยเคยมีหิมะตก

ฤดูหนาวที่จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2498 เวลา 18.00 น.เศษ หลังจากมีฝนตกเล็กน้อย ลูกเห็บขนาดเล็กและเกล็ดน้ำแข็งบางๆสีขาวคล้ายปุยหิมะก็ตกลงมาอย่างมากมาย ดูขาวโพลนไปทั่วพื้นดิน ดูที่ภาพบน ส่วนในภาพล่าง ถ่ายในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้นหลังหิมะตก 14 ชั่วโมง หิมะนี้ละลายหายไปหมดหลังหิมะตก 38 ชั่วโมง.

เรื่องที่เขียนมา เชื่อได้ครับ

yyswim

Create Date : 22 พฤศจิกายน 2549

Last Update : 15 เมษายน 2552 22:40:02 น.

32 comments

Counter : 5930 Pageviews.

โอ้ววว หิมะตกที่เมืองไทยจริงๆๆ หรือ ดีจังเลย อยากให้มีอีก....

โดย: fluffyboy101

วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:41:45 น.

เผอิญ เปนคนใจง่ายน่ะครับ
เชื่อตามที่ จขบ บอก ทุกข้อเลยยยยยยยยย

โดย: Commencer

วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:10:28 น.

หิมะตกนี่ ณ วันนี้ขอแค่หนาวขึ้นมาสักหน่อยก็ดีแล้วครับ ร้อนตับแลบ

ข้อมูลน่าสนใจมากๆ เลยครับ

โดย: อธติ23 (อธติ23

) วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:17:24:18 น.

ขอบคุณสำหรับความรู้ค่ะ

โดย: แอน (thattron

) วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:18:39:10 น.

ขอบคุณครับพี่สิน ความรู้ดีเยี่ยมทุกเรื่องครับ
ที่ชอบมากคือเรื่องเรือดำน้ำ เพราะเปิดให้บริการเป็นครั้งแรกในวันคล้ายวันเกิดของผม
ถ้าผมรู้แต่แรก ผมคงไปร่วมฉลองแน่ ๆ เลยครับ

โดย: basbas

วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:03:11 น.

บล็อกนี้ได้ความรู้..และมีภาพสวยๆๆแยอะจังค่ะ

ขอให้จขบ มีแต่ความสุขนะค่ะ

โดย: catt.&.cattleya.. (catt.&.cattleya..

) วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:29:52 น.

จริงหรือคะเนี่ย หิมะตกที่เชียงราย
อยากให้มีอีกจัง

โดย: mungkood

วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:21:44:21 น.

มาเยี่ยมครับ
อ่านหนังสือสอบ
ว่างแล้วอ่ะ

โดย: man@ (manatto

) วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:36:18 น.

ไม่รู้ก็รู้กันวันนี้ล่ะค่ะ สิ่งดีมีประโยชน์ เพราะไม่ได้กล่าวอ้างกันลอยๆ เพราะมีคำอธิบายเป็นหลักฐาน แบบนี้รู้แล้วก็ต้องปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง เพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ ^_^

โดย: JewNid

วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:47:18 น.

และแล้วข้าพเจ้าก็ได้รับรู้ว่า เรานี่ช่างโง่งมยิ่งนัก มีอะไรที่เราไม่รู้อีกตั้งเยอะเนอะ

ขอบคุณนะคะ

โดย: gluhp

วันที่: 22 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:32:47 น.

เชื่อเสียยิ่งกว่าเชื่อครับคุณสิน
แล้วก็เชื่อด้วยว่า รูปสวยทั้งน้านน
ชอบครับ

โดย: กุมภีน

วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:12:37:15 น.

เรื่องที่เขียนวันนี้ น่าเชื่อทุกเรื่องเลยค่ะ

11 น้ำผึ้ง - ส่วนใหญ่จะเก็บใส่ขวดวางไว้ข้างนอก
12 น้ำแข็งก้อน - รักษาพวกอาการกระทกได้ดีทีเดียว
13 น้ำอัดลม - ไม่ชอบดื่มเป็นการส่วนตัว เพราะรู้สึกว่าทำให้ฟันผุ
14 ดื่มน้ำเย็น - จากเหตุผลสนับสนุน ควรเชื่อค่ะ แต่เราก็ชอบนะ แล้วเครื่องดื่มมึนเมา รวมอยู่ด้วยหรือเปล่าคะ
15 ยาทา - เป็นความรู้ที่ดีทีเดียว
16 ถุงเท้า - ไม่อยากจะทำ เพราะถุงเท้านี่แหล่ะค่ะ
17 เขียนภาพ - ถ้าดูก็สวยดีค่ะ แต่ไม่คิดอยากจะทำ
18 หลอดกาแฟ - ความคิดสร้างสรรค์ค่ะ
19 เรือดำน้ำ - ไม่เคยไปใช้บริการเลยค่ะ
20 หิมะ - ยังไม่เกิดเลยค่ะ ไว้รอดูครั้งหน้าดีกว่า

โดย: mda IP: 203.159.12.16 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:13:37:33 น.

ฝนเคยได้ยินมาเหมือนกันว่า การดื่มเครื่องดื่มเย็นๆ หลังอาหารนี่ไม่ดีต่อสุขภาพ คนจีน ถึงได้นิยมดื่มน้ำอุ่นๆ หลังอาหาร คนจีน ส่วนใหญ่ถึงมีสุขภาพดี .. ฝนเองก็เคยจะลองทำ แต่ว่า ถ้าอาหาร ร้อนๆ แล้วจะให้ดื่มน้ำอุ่นๆ บางทีก็ทำใจไม่ได้น่ะค่ะ

อืมม์ รูปวาดบนเรือนร่างนี่ น่าทึ่ง น่ะค่ะ สวยและได้อารมณ์มากๆ .. ส่วนรูปปลานี่ก็ ไอเดีย ดีจริงๆ ค่ะ

เอา หลอด มาประดิษฐ์ ได้เริ่ดขนาดนี้ คนคิด เจ๋ง และ เยี่ยมยอดจริงๆ เลย

เพิ่งรู้นะคะเนี่ยว่า หิมะ เคยตกที่เชียงรายด้วย .. แต่ใจจริงฝนอยากให้ เมืองไทย มี หิมะตก เหมือนกันนะคะเนี่ย

โดย: น้ำฝน Malee30 (Malee30

) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:15:12:42 น.

คุณบัว.....เห็นรูปคุณบัวกวาดหิมะที่หน้าบ้าน เท่ครับ สุดจะเท่ อากาศหนาวกี่องศาแล้วครับที่โน่น

คุณCommencer……เชื่อได้ครับ คัดแต่เรื่องที่น่าสนใจมานำเสนอ

คุณอธติ23.....ผมขอบคุณนะครับที่ชอบอ่านข้อมูล

ขอบคุณถึง....คุณแอนด้วยครับ

น้องบาส.....พรุ่งนี้จะเปิดรั้วบ้านให้เข้าไปอวยพรวันเกิดได้....ตั้งแต่เวลาไหน

สุขี สุขีล่วงหน้าครับ เพี๊ยง ....ขออย่าให้รูดซิปติด เกงใน

คุณ catt.&.cattleya.......ขอบคุณครับที่ชอบเรื่องนี้

ขอเชิญแวะมาได้เสมอ

โดย: yyswim

วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:04:59 น.

คุณมังคุด......หิมะตกเมื่อหลายปีที่แล้วครับ สมัยเชียงรายยังมีป่าไม้อุดมสมบูรณ์มาก

ยังสงสัยว่า เมื่อสมัยนั้นถนนพหลโยธิน จะมีสภาพอย่างไร

แมน.......เมื่อสอบเสร็จแล้ว ผมหายใจโล่งแทน ครับ

ครานี้ ก็เข้าสู่โปรแกรมทริป ทุกวีคเอนต์ละคร้าบ

คุณนิด.......เขียนเรื่องนี้เสร็จ ผมก็คิดอยากจะให้คุณได้อ่าน น่ะครับ

ขอบคุณจริงๆ ที่คุณเข้ามาอ่าน

โดย: yyswim

วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:14:38 น.

คุณglhp….ผมก็เด็กโง่คร้าบ ยังมีอีกหลายสิ่งหลายอย่าง ที่อ่อนแอ

กุมภีณ......เข้ามาชมว่ารูปสวย เหอเหอ ปลื้ม

เดี๋ยว ไปเยี่ยมนะ

คุณmda……ผมก็ยังไม่เคยดูหิมะตกในไทย ฝนดาวตก ก็ยัง …เรือดำน้ำก็ยัง โฮะโฮะ แพงจัง แบบนี้ ขอดำไปดูเองละกัน

ที่เห็นบ่อยๆ ก้อน้ำท่วม กับฝนผิดฤดูครับ

คุณน้ำฝน.....ทางนอรเวย์ หิมะตกบ้างหรือยังครับ คงจะดูอ้วนท้วนเพราะเสื้อผ้าที่สวม

แต่น่ารักดีครับ ตอนพูดแล้วมีควันออกจากปาก

โดย: yyswim

วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:19:40 น.

แวะมาเยี่ยมอ่าน
belive it or not ครับ

โดย: เ ม ฆ ค รึ่ ง ฟ้ า

วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:19:35:38 น.

มาเยี่ยม blog นี้ได้อาหารสมองเพียบเช่นเคยค่ะ

เตรียมข้อมูลดีขนาดนี้ไม่เชื่อได้งัยคะ

โดย: random-4

วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:20:34:52 น.

พี่สินครับ 24 ธันวาคม 2547 เรือดำน้ำเปิดให้บริการครั้งแรกครับพ้ม....ตามหลักฐานที่พี่สินเขียนไว้
ไม่ใช่ 24 พฤศจิกายน
พี่สินไปอ่านเรื่องใหม่ของผมก่อน
อีก 1 เดือนครับ ผมจะเปิดบ้านฉลองวันเกิด

โดย: basbas

วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:22:01:01 น.

เอากาแฟมาเสริฟจ๊า
ต้องลองทำที่ดักยุงดูละที่บ้านเยอะเลย ได้ผลยังไงจะมาขยายให้ฟังจ๊า

โดย: บ้านโคกโจด (my_oom

) วันที่: 23 พฤศจิกายน 2549 เวลา:23:31:29 น.

เชื่อหรือไม่ ?

เชื่อเจ้าค่ะ โดยเฉพาะน้ำผึ้งเนี่ย บำรุงผิวคิคิ

แต่ที่เชื่อสุดๆก็รูปวิวที่คุณสินเอามาลง งามจริงๆ

สบายดีนะคะ

โดย: รวมการเฉพาะกิจ

วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:6:34:26 น.

หลายเรื่องมีสาระมากเลยนะครับ

โดย: Bluejade

วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:7:02:02 น.

ไปขุดข้อมูลพวกนี้มาจากไหนอ่ะครับ มันช่างมากมายมหาศาลเหลือเกิ๊น ยอดมากเรย พระเจ้าจอร์ช ขอบคุณมากคับ

ถูกใจวิธีจับยุงนี่แหล่ะ ถุงเท้าเหม็นๆมีเยอะเลยตอนนี้ เสร็จเราแน่

โดย: ปอมปอม

วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:14:02:47 น.

โอ้โห...ได้ความรู้เพียบเช่นเคยครับผม
ขอบคุณคร๊าบ

โดย: พลทหารไรอัน

วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:17:36:23 น.

มาทักทายวันศุกร์สุดสัปดาห์ พรุ่งนี้วันหยุดขอให้มีความสุขนะจ๊ะ

โดย: แอน (thattron

) วันที่: 24 พฤศจิกายน 2549 เวลา:21:12:46 น.

ตามชื่อบล็อกที่ว่า เชื่อหรือไม่ 2

คุณสินว่าอะไรผมเชื่อทั้งนั้นล่ะ แหมก็คนเคยแวะเยี่ยมเยียนบล็อกกันอยู่บ่อย ๆ

ว่าไงก็ตามนั้นล่ะครับท่าน

โดย: ดำรงเฮฮา

วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:1:15:40 น.

สวัสดีค่ะ คุณสิน สบายดีนะคะ

ไม่มีใครตาย จากการออกกำลังกาย

เอาจากข้างบนบล้อกของคุณสิน คิคิ ต้องขยันออกกำลังกาย น้ำหนักขึ้น 2 โล คิคิ

โดย: รวมการเฉพาะกิจ

วันที่: 25 พฤศจิกายน 2549 เวลา:9:23:47 น.

สุดยอด ช่างสรรหามาฝากจริงๆ
ขอบคุณมากๆค่ะ

โดย: p_tham

วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:4:31:39 น.

เมฆครึ่งฟ้า……55555 believe it or not

คุณrandom……ไปเชียงใหม่กับน้องสาวขอให้ปลอดภัยและสนุกนะครับ ขอบคุณที่ชอบอ่านเรื่องนี้

น้องบาส……พี่ จำเดือนเกิดของน้องบาสผิดไปครับ น้องบาสเกิดในคืนที่ฝรั่งรับประทานอาหารอาหารอร่อยๆพอดี และนับเป็นวันรวมครอบครัวของฝรั่งด้วย

คุณครูบ้านโคกโจด……..ผมเป็นคนกินกาแฟครับ ได้กลิ่นกาแฟหอม น่ากินทีเดียว ขอบคุณนะครับ

ปัญหาเรื่องไล่แมลงวัน ร้ายกาจกว่าไล่ยุงหรือเปล่า ขอเอาใจช่วยให้สำเร็จนะครับ

โดย: yyswim

วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:02:59 น.

คุณหนิง……รูปวิว ผมนำมาจาก //www.webshots.com โหลดฟรีครับกดที่นี่

Bluejade…….ขอบคุณครับที่ชอบเรื่องนี้

ปอมปอม…….เรื่องทุกเรื่อง ผมนำมาจากเว๊ปต่างๆ ผมไม่ค่อยได้ซื้อหนังสือหรอก ไม่ค่อยมีตังค์ ก็อ่านเยอะ อ่านเยอะ แล้วก็นำมารวบรวมอีกที

เจฟ……เจฟเข้ามาเยี่ยม เออ บ้านนาย คนไปอวยพรวันเกิดให้นายคึกคักเนอะ ยินดีด้วย ขอให้มีเพื่อนเยอะๆแบบนี้ตลอดไป

โดย: yyswim

วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:08:43 น.

คุณแอน.......ขอให้มีเวลาพักผ่อนและออกกำลังกายในวันหยุดนะครับ

ดำฮา…….ขอบคุณที่เข้ามาอ่านบ่อยๆ บ้านนี้เขียนสำนวนโคตรขำ ยังไม่เป็นเลย ยังอ่อนหัดมาก

คุณหนิง……ช่วงนี้ อากาศหนาว เห็นใจเลยครับ ทำให้ได้ออกรอบค่อนข้างน้อย เมืองไทยยังแดดเปรี้ยงๆอยู่เลยครับ ออกกำลังกายได้ทุกวัน สบาย สบาย

คุณp_tham……ขอบคุณ คำชมครับ แอบปลื้มเล็กๆก่อนจะไปออกกำลังกายตอนเย็น

โดย: yyswim

วันที่: 26 พฤศจิกายน 2549 เวลา:16:20:11 น.

เป็นความรู้รอบตัวจริงๆ
แอบชื่นชมคนเขียนบล็อกนี้
ขอบคุณที่เอาสิ่งที่น่าสนใจมาเผยแพร่ค่ะ

โดย: ตั๊ก IP: 124.198.165.52 วันที่: 15 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:6:03:55 น.

yyswim

Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์

Rss Feed

Smember

ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]

บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก

ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ

เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548

เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.

เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม

Latest Blogs

New Comments

Group Blog

All Blogs

Friends' blogs

[Add yyswim's blog to your web]

Links

BlogGang.com

MY VIP Friends