การดื่มน้ำ
การดื่มน้ำ
1. คุณสมบัติของน้ำ
น้ำ เป็นของเหลวที่ไม่มีรส ไม่มีกลิ่น ไม่มีสี น้ำแข็งบริสุทธิ์ก็จะใส ไม่มีสี น้ำในสถานะแก๊ส ที่ระเหยขึ้นไปบนอากาศ เราก็มองไม่เห็นมัน.... แต่สีของน้ำในแหล่งน้ำธรรมชาติ เมื่อรวมกันมากๆจะเป็นสีโทนน้ำเงินอ่อนๆ
น้ำ เป็นของเหลวโปร่งใส พืชใต้น้ำจะสามารถรับแสงสว่างที่ส่องทะลุลงไปได้ แต่แสงอุลตร้าไวโอเลตจะส่องผ่านน้ำได้เพียงเล็กน้อย
.คิดจินตนาการเอา หากเกิดสงครามการแผ่รังสีล้างโลก เราควรจะหลบลงไปอยู่ใต้ทะเล ก็จะรอดชีวิต
จุดเดือดของน้ำ ขึ้นอยู่กับความกดดันของบรรยากาศ เช่น น้ำจะเดือดที่อุณหภูมิ 100 องศาเซลเซียสที่ระดับน้ำทะเล แต่บนยอดเขาเอเวอเรสต์ น้ำจะเดือดที่อุณหภูมิ 68 องศาเซลเซียส
น้ำมีขั้วแม่เหล็ก จึงมีคุณสมบัติของการยึดติด เช่น หยดเล็กจะถูกดึงดูดเข้าหาหยดใหญ่กว่า และมีคุณสมบัติของการแทรกซึม ได้แก่ การดูดน้ำจากใต้ดินผ่านทางรูเล็กๆของรากและผ่านขึ้นไปเลี้ยงลำต้นและกิ่งก้านของต้นไม้
น้ำเป็นตัวทำละลาย สามารถละลายสสาร ได้แก่ เกลือ น้ำตาล กรด ด่าง และแก๊สบางชนิด เช่น ออกซิเจน คาร์บอนไดออกไซด์ แต่ ไขมัน น้ำมัน และสารเผ็ดของพริก เป็นสสารที่ไม่ละลายน้ำ
น้ำเมื่อแข็งตัว จะขยายตัว 9% เป็นผลให้น้ำแข็งเบากว่าน้ำและลอยอยู่บนน้ำ สำหรับน้ำที่อยู่ใต้แผ่นน้ำแข็งจะมีอุณหภูมิที่ 4 องศาเซลเซียส ซึ่งปลาในเขตหนาวสามารถมีชีวิตอยู่ในน้ำได้
2. ความสำคัญของน้ำต่อร่างกาย
น้ำ มีส่วนสำคัญต่อสุขภาพของคนเราเป็นอย่างมาก เพราะมันเป็นส่วนประกอบส่วนใหญ่ของร่างกาย โดยเฉลี่ยแล้วคนที่มีน้ำหนัก 70 กิโลกรัม จะมีปริมาณน้ำในร่างกาย 40 - 50 ลิตร หรือประมาณ 2 ใน 3 ของน้ำหนักตัว ทั้งนี้เพราะ
ในเลือด มีน้ำ 83% ในกล้ามเนื้อ มีน้ำ 75% ในสมอง มีน้ำ 74% ในกระดูก มีน้ำ 22% เป็นต้น
แม้ว่าน้ำดื่ม จะไม่มีสารอาหารเหมือนอาหารชนิดอื่น แต่น้ำดื่มก็เป็นองค์ประกอบสำคัญมากที่คนเราต้องรับเข้าไป เพื่อช่วยระบบการย่อยอาหาร ช่วยนำพาสารอาหารไปเลี้ยงเซลล์ต่างๆของร่างกาย ช่วยรักษาอุณหภูมิในร่างกายให้เหมาะสม โดยขับความร้อนออกมาทางเหงื่อ ทางน้ำลาย หรือทางปัสสาวะ ช่วยขับสารพิษและของเสียออกจากร่างกาย ช่วยให้เกิดความชุ่มชื้นบริเวณดวงตา, หู, จมูก, และเนื้อเยื่อในลำคอ ช่วยรักษาความชุ่มชื้นบริเวณผิวหนัง ทำให้ผิวหนังไม่แห้ง เต่งตึง เป็นต้น
หากคนเราขาดน้ำ ...ขอให้ลองนึกถึงวันที่แดดจัดมากๆ หรือวันที่ออกกำลังกายจนเหงื่อออกมากๆ คนเราจะอ่อนเพลีย ขาดพลังงาน ไร้เรียวแรง มีอาการคลื่นไส้ อยากอาเจียน หากร่างกายขาดน้ำแบบกะทันหัน อาจจะเพราะเสียเลือดจำนวนมาก แบบนี้นับเป็นเคสสำคัญที่ต้องอยู่ใกล้ชิดหมอ เพราะอาจจะถึงช๊อคและหมดสติได้
ผมอยากจะเปรียบเทียบ คนที่ขาดน้ำในร่างกาย จะคล้ายๆกับไม้ประดับในสวนที่ถูกลืมรดน้ำ เห็นสภาพของมันแล้วรู้สึกสงสารจับใจ มันสลบ เฉา คออ่อน ไร้เรี่ยวแรง และซีด แต่เมื่อผมเติมน้ำให้กับมันเท่านั้นแหละ ในวันรุ่งขึ้น มันก็ชูก้าน ชูใบ รับแดด เห็นสีสันของมันแล้ว อู้ว์ อู้ว์ นี่แหละความสำคัญของน้ำต่อชีวิตคนเรา
3. การดื่มน้ำ
ในวันหนึ่งๆ ปอดจะขับน้ำออกมาทางระบบหายใจ ประมาณ 2 แก้วต่อวัน(400 C.C.) และผิวหนังก็ขับน้ำออกมาทางเหงื่อด้วย ประมาณ 2 แก้วต่อวัน(400 C.C.) ..ในวันที่อากาศหนาว ปอดจะขับน้ำออกมามากขึ้น เพื่อชดเชยการขับออกมาทางเหงื่อที่มีจำนวนน้อยลง ...และในวันที่คนเราออกกำลังกาย ร่างกายจะขับน้ำออกมามากทั้งทางระบบหายใจ และทางเหงื่อ ทำให้คนเรารู้สึกกระหายน้ำ ต้องการน้ำเข้าไปชดเชยในร่างกาย ...สำหรับการขับออกมาทางปัสสาวะโดยไต คนปกติจะปัสสาวะประมาณ 8 ครั้งต่อวัน ก็ประมาณวันละ 4 แก้ว(800 C.C.)
เมื่อน้ำถูกขับออกมาจากร่างกาย ประมาณ 8 แก้วต่อวัน(1,600 C.C.) ร่างกายก็ต้องการรับน้ำกลับเข้าไปประมาณ 8 แก้วเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตาม หากใครดื่มน้ำมากเกินไปกว่าที่ร่างกายขับออกมา ก็ไม่เป็นไร ดื่มมาก ร่างกายก็ขับออกมามาก ...ร่างกายจะมีกลไก ขับน้ำออกมาเร็วขึ้นและมากขึ้นทางปัสสาวะ เช่นเมื่อดื่มน้ำหรือดื่มเบียร์เข้าไปมากๆ ...และในทางกลับกัน หากร่างกายสูญเสียน้ำออกมามากเกินไป จะเป็นเพราะการเสียเลือดหรือเป็นเพราะท้องเดินท้องเสีย กลไกของร่างกายก็จะทำให้เหงื่อของคนเราออกมาน้อยลง และปัสสาวะก็ออกมาน้อยลงกว่าปกติด้วย
หมายเหตุ : น้ำ 1 ลิตร เท่ากับ 1000 C.C. ...นึกถึง ขวดโค๊กลิตร
ดังนั้นวันหนึ่งๆ คนเราควรจะดื่มน้ำประมาณวันละ 8 แก้ว(1,600 C.C.) แต่บางคนที่ดื่มน้ำน้อย แล้วดื่มน้ำแกง น้ำซุป อาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว รวมทั้งทานผักและผลไม้ทดแทน ก็นับว่าใช้ได้ ...เชื่อว่าร่างกายจะได้รับน้ำเพียงพอเช่นเดียวกัน เพราะหากร่างกายขาดน้ำเมื่อใด กลไกของร่างกายจะบอกให้เรารู้โดยการกระหายน้ำ และปัสสาวะออกมาสีเหลือง แบบนี้ก็ควรจะดื่มน้ำเพิ่มเติมบ้าง
มีเคล็ดลับสำหรับคนที่ต้องการสุขภาพแข็งแรงและผิวดี มาบอก.... คือ ควรดื่มน้ำสะอาดให้ได้วันละ 10 แก้ว(2,000 C.C.) มีสูตรวิธีดื่มน้ำเพื่อสุขภาพ คือ 1 2 3 3 1 หมายถึง เช้าตื่นนอนดื่มน้ำสะอาด 1 แก้ว(น้ำอุ่นยิ่งดี) ตอนสาย 2 แก้ว ตอนเที่ยงถึงบ่ายให้ได้ 3 แก้ว ตอนเย็นอีก 3 แก้ว และก่อนนอน 1 แก้ว ....ที่สำคัญคือ ไม่ควรดื่มน้ำอัดลมแทนน้ำ เพราะดื่มน้ำอัดลมบ่อยๆ จะทำให้อ้วน และมีน้ำตาลมากเกินไปในร่างกายจะไม่ดีต่อสุขภาพหลายอย่าง ยิ่งกว่านั้นในน้ำอัดลม ยังมีสารฟอสเฟตที่ใช้ควบคุมความเป็นกรด หากดื่มบ่อยๆมากๆ จะทำให้ร่างกายดูดซึมแคลเซียมได้น้อย อันเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุน และฟันผุ
ยังมีเรื่องที่เกี่ยวข้องน่าสนใจของการดื่มน้ำ... ซึ่งผมขอทำลิ๊งก์ไว้ให้ เผื่อว่าใครจะประสงค์อ่าน
4. น้ำดื่มที่แพงที่สุดในโลก เรื่องนี้มีผู้เผยแพร่ในหลายเว๊ป ในบล็อกแก๊งค์เราก็มี เพราะต่างก็นำมาจากฟอร์เวิร์ดเมล์ ขอเชิญเพื่อนๆเปิดอ่าน ในเว๊ป teenee.com
5. ในอดีต เมืองไทยเราเคยมีการทดสอบว่า น้ำดื่มยี่ห้อหนึ่งสะอาดกว่าน้ำดื่มบรรจุขวดยี่ห้ออื่นๆในท้องตลาดทุกยี่ห้อ ...แถมในการทดสอบ พยายามจะอธิบายว่า น้ำประปาจากก๊อก ก็ยังสะอาดกว่าน้ำดื่มบรรจุขวดยี่ห้ออื่นๆ... ข้อมูลที่ทำลิ๊งก์ไว้นี้ จะเปิดเผยว่า การทดสอบนั้นที่แท้เป็นกลลวงของบริษัทน้ำดื่ม ยี่ห้อของผู้จัดให้มีการทดสอบนั่นเอง
6. น้ำดื่ม มีวันหมดอายุด้วยหรือ? ถ้าอยากรู้ ขอเชิญเปิดอ่านที่นี่... เอามาจาก 108 ซองคำถาม
7. ดื่มน้ำเย็นจัด ลดขีดความสามารถสมอง อุ อุ อุ ผมเคยเจอ ตอนทานอะไรเย็นเจี๊ยบ มันแปลบจี๊ดเข้าไปในสมอง โห งง ตัวเอง คิดอะไรไม่ออกเลย ...สำหรับเรื่องนี้ แม้บางคนจะไม่เชื่อ แต่ จขบ. ก็อยากจะบอกว่า ตอนทานข้าว อย่าดื่มน้ำแข็งเปล่า ประเภทเย็นเจี๊ยบตามเข้าไป มันไม่เข้ากันหรอก ไขมันในอาหารมันจะไม่ยอมละลายในกระเพาะ ... เรื่องดื่มน้ำเย็นจัด เรื่องนี้ มีเขียนกันอยู่ในหลายเว๊ป แต่ขอนำเว๊ปบอร์ดของ กรมทรัพยากรน้ำ มาให้เพื่อนๆได้อ่าน เพราะมีเรื่องอื่นๆเกี่ยวกับน้ำดื่ม ให้เลือกอ่านได้ด้วย
8. เรื่องสุดท้าย....วิธีสังเกตตู้น้ำดื่ม ก่อนหยอดเหรียญ... ผมเองก็ใช้บริการ ตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ ทุกสัปดาห์ เรื่องนี้สำหรับผม ค่อนข้างน่าสนใจ ..สั้นๆ น่านำไปใช้สังเกต เพราะมีตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญให้เลือกบริการใกล้บ้าน หลายยี่ห้อและหลายตู้ หากใครสนใจอ่านเชิญกดที่นี่
รักคนอ่านครับ
Create Date : 08 ตุลาคม 2551 |
Last Update : 8 ตุลาคม 2551 23:30:53 น. |
|
16 comments
|
Counter : 3192 Pageviews. |
|
|
|
เข้ามาก็ได้รับความรู้ดีดี ทุกวันนี้พยายามลดน้ำอัดลมลงแล้วดื่มน้ำสะอาดแทน เพราะโดนคุณหมอสั่งให้ควบคุมน้ำตาล ก็ดีนะครับประหยัดด้วยได้ประโยชน์มากกว่าด้วย