บารัค โอบามา







บารัค โอบามา








บารัค โอบามา (Barack Obama) ได้รับการยกย่องจาก นิตยสารไทม์ ให้เป็น บุคคลแห่งปี ของ นิตยสารไทม์ (Person of the Year) ประจำปี พ.ศ.2551 หรือ ค.ศ.2008 ในทุกๆปี นิตยสารไทม์ ฉบับสุดท้ายของปี จะทำการยกย่องบุคคลหรือกลุ่มบุคคล ที่ได้สร้างผลกระทบมากที่สุดต่อเหตุการณ์ในระหว่างปี ….จัดมา 83 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี ค.ศ. 1927




บารัค โอบามา พบปะกับจอร์จ ดับเบิลยู บุช ในห้องทำงานรูปไข่ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551






นาย บารัค โอบามา ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คนที่ 44 สังกัดพรรค พรรคเดโมแครต ปัจจุบันอายุ 47 ปี จะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2009 (อีกประมาณ 30 วัน) โดยรองประธานาธิบดี ที่จะเข้ารับตำแหน่งและทำงานด้วยกัน คือ นาย โจ ไบเดน







นาย บารัค โอบามา ( Barack Obama) มีชื่อเต็มว่า บารัค ฮุสเซน โอบามา ที่ 2 (Barack Hussein Obama II) เขาเกิดเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม ค.ศ. 1961 ที่ เมืองโฮโนลูลู มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐอเมริกา



ใบสูติบัตร ของ บารัค โอบามา






เขาสมรสกับ น. ส.มิเชล โอบามา มีลูกสาวด้วยกัน 2 คน คือ มาเลีย แอน (เกิดปี 1998) และ นาตาชา "ซาชา" (เกิดปี 2001)












โอบามา นับถือ ศาสนา คริสต์ นิกายโปรแตสแตนท์ มีอาชีพเป็น ทนายความ และเป็นคนอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนแรกที่เป็นประธานาธิบดี ของประเทศสหรัฐอเมริกา







โอบามา เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกวุฒิสภาจาก มลรัฐอิลลินอยส์ เมื่อวันที่ 4 มกราคม ค.ศ. 2005 จนกระทั่งถึงวันที่ 16 พฤศจิกายน 2008 จึงลาออกเพื่อเป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต ลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ค.ศ. 2008







โอบามา จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และกฎหมายจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด







เขาเคยทำงานเป็นอาจารย์คณะนิติศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยชิคาโก ระหว่างปี ค.ศ. 1992 - 2004 และเป็นทนายสิทธิพลเมือง ก่อนที่จะหันมาสนใจการเมือง เขาเคยสมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา ในการเลือกตั้งปี 2000 แต่ไม่ชนะการเลือกตั้ง จึงหันมาหาเสียงสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา และได้ดำรงตำแหน่งเป็น สมาชิกวุฒิสภาแห่งรัฐอิลลินอยส์







ในระหว่างการทำหน้าที่ในสภาคองเกรสที่ 109 โอบามา ได้เรียกร้องให้มี การควบคุมการใช้อาวุธ และเรียกร้องให้มีการแถลงการณ์ในเรื่องการใช้จ่ายเงินของรัฐบาลให้สาธารณชนได้ทราบ ในช่วงเวลานี้ เขาเคยไปเยือนยุโรปตะวันออก ตะวันออกกลาง และอาฟริกาอย่างเป็นทางการ







ในระหว่างการทำหน้าที่ในสภาคองเกรสที่ 110 โอบามาได้เรียกร้องให้มี การดูแลปัญหาอาชญากรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ การดูแลสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลงหรือสภาวะโลกร้อน การดูแลการก่อการร้ายด้วยอาวุธนิวเคลียร์ และการให้การดูแลต่อทหารผ่านศึกสงครามอิรัก และสงครามอัฟกานิสถาน




















ชีวิตในวัยเด็กจนถึงวัยทำงาน


บารัค โอบามา เป็นบุตรของนายบารัค โอบามา ซีเนียร์ ชาวเมืองเซียยา ประเทศเคนยา และนางแอนน์ ดันแฮม ชาวเมืองวิชิทอ รัฐแคนซัส ประเทศสหรัฐฯ ซึ่งคุณแม่ของเขามีเชื้อสายตระกูล มาจากอังกฤษ ไอร์แลนด์ และเยอรมนี



โดยคุณพ่อคุณแม่พบรักกัน ขณะศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยฮาวาย ที่มานัว ซึ่งคุณพ่อของเขาได้เข้าศึกษาในฐานะนักเรียนต่างชาติ และได้แต่งงานกัน เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1961 แต่ต่อมาเขาทั้งสองได้แยกกันอยู่ เมื่อโอบามา อายุได้เพียง 2 ปี และหลังจากนั้นก็หย่าขาดจากกัน



หลังจากนั้น แอนน์ ดันแฮม คุณแม่ของเขา ก็ได้แต่งงานใหม่กับ โลโล ซูโตโร และได้พาครอบครัวไปอยู่ที่บ้านเกิดของสามีใหม่ ในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อปีค.ศ. 1967 ซึ่งตอนนั้นโอบามา มีอายุได้เพียง 6 ปี



โอบามา ได้เข้าเรียนที่โรงเรียนในท้องถิ่นของกรุงจาการ์ตา จนกระทั่งอายุได้ 10 ขวบ จึงได้ย้ายกลับโฮโนลูลูบ้านเกิด ไปอยู่กับครอบครัวของคุณแม่ และได้เข้าเรียนที่โรงเรียนปูนาฮัว ตั้งแต่เกรด 5 จนสำเร็จการศึกษาในปี 1979




ระหว่างที่กำลังศึกษาอยู่ระดับไฮสคูล นั้น เขายอมรับว่า เคย เสพกัญชา, โคเคน และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งเขาเปิดเผย ณ ที่เวทีประชุมพลเมืองสำหรับประธานาธิบดี ในปี 2008 ว่า เป็นความล้มเหลวที่เกี่ยวกับศีลธรรมความดีงาม







หลังจากจบไฮสกูล โอบามา ก็ได้ย้ายไปเรียนต่อที่ลอสแอนเจลิส ที่วิทยาลัยออกซิเดนทอล (Occidental College) เป็นเวลา 2 ปี จากนั้นจึงได้ย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในมหานครนิวยอร์ก สาขารัฐศาสตร์ เน้นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ



โอบามา สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย ในปี 1983 และได้เข้าทำงานในบริษัทธุรกิจระหว่างประเทศและกลุ่มวิจัยสาธารณประโยชน์แห่งนิวยอร์ก ที่มหานครนิวยอร์ก







หลังจาก 4 ปีที่อยู่ในนิวยอร์ก โอบามา ก็ได้ย้ายไปอยู่ที่ชิคาโก โดยได้รับการว่าจ้างเป็นผู้อำนวยการโครงการพัฒนาชุมชน (DCP) ซึ่งเป็นองค์กรชุมชนที่ริเริ่มจัดตั้งจากศาสนา ...ประกอบด้วย 8 โบสถ์คาทอลิก ในโลสแลนด์ พูลแมนตะวันตก และ ริเวอร์เดล ทางด้านใต้ของเมืองชิคาโก







เขาได้ทำงานอยู่ที่นั่นเป็นเวลา 3 ปี ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ค.ศ. 1985 จนถึง เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1988 ระหว่างที่เขาทำงานอยู่ในตำแหน่งผู้อำนวยการโครงการพัฒนาชุมชน (DCP)นี้ ผู้ร่วมงานได้เพิ่มขึ้นจาก 1 คน เป็น 13 คน และงบประมาณประจำปี เพิ่มขึ้นจากปีละ 7 หมื่นเหรียญสหรัฐ เป็น 4 แสนเหรียญสหรัฐ โดยทำการช่วยเหลือเกี่ยวกับโปรแกรมการฝึกอบรม, การกวดวิชาเพื่อเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย และองค์กรสิทธิของผู้เช่าที่ดิน ในแอลเจลด์ การ์เดนส์ (Altgeld Gardens)







โอบามา ยังได้ทำงานเป็นที่ปรึกษาและผู้สอนในมูลนิธิกามาลีล (Gamaliel Foundation) ซึ่งเป็นอีกสถาบันหนึ่งเกี่ยวกับองค์กรชุมชน และในกลางปี ค.ศ. 1988 เขาได้เดินทางไปยุโรปเป็นครั้งแรก เป็นเวลา 3 สัปดาห์ และไปเคนยา 5 สัปดาห์ ซึ่งเขาได้พบญาติๆ ชาวเคนยาหลายคนเป็นครั้งแรกด้วย



จากนั้นเขาเข้าเรียนต่อด้านกฎหมาย ที่มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ในปี ค.ศ. 1988 และเพียงในสิ้นปีแรกเขาก็ได้รับคัดเลือกจากการแข่งขันในการเขียน บวกกับเกรดการเรียนของเขา ทำให้ได้เข้าไปเป็น บรรณาธิการคนหนึ่งของวารสาร Harvard Law Review



พอขึ้นปีที่สอง ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1990 เขาก็ได้รับคัดเลือกเป็น ประธานของ Harvard Law Review ในตำแหน่งหัวหน้าบรรณาธิการ(อาสาสมัครเต็มเวลา) และกำกับควบคุมนักเขียนถึง 80 คน โอบามา นับเป็นชาวผิวดำคนแรกที่ได้รับคัดเลือกเป็น ประธานของ Law Review …. ข่าวการคัดเลือกนี้ ได้มีการรายงานในวงกว้าง ตามด้วยประวัติส่วนตัวที่ละเอียดในสื่อระดับประเทศ







ระหว่างฤดูร้อน เขาได้กลับไปชิคาโก ซึ่งเขาทำงานเป็นทนายความฝึกงานช่วงปิดภาคฤดูร้อน ที่สำนักงานกฎหมายของ Sidley & Austin ในปี ค.ศ. 1989 และ ที่สำนักงานกฎหมายของ Hopkins & Sutter ในปี ค.ศ. 1990



หลังจากจบปริญญาทางกฎหมาย Juris Doctor จากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ในปี 1991 เขาก็ได้ย้ายกลับไปชิคาโก และเริ่มงานเขียนหนังสือเล่มแรก ชื่อ “Dreams from My Father : A Story of Race and Inheritance” ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี 1995







ในหนังสือ “Dreams from My Father : A Story of Race and Inheritance” หรือ ในชื่อภาษาไทย “บารัค โอบามา ผมลิขิตชีวิตตัวเอง” เป็นอัตชีวประวัติที่บอกเล่าเรื่องราวชีวิต ความคิด และมุมมองที่มีต่อเรื่องสีผิว .....โอบามา มักจะบอกในภายหลังว่า เขาไม่ได้เขียนหนังสือเล่มนี้ เพราะเป็นคนเด่นดัง แต่ต้องการบันทึกเรื่องราวของเชื้อชาติ และมรดกทางปัญญาที่สืบทอดจากบรรพบุรุษ สะท้อนความเหลื่อมล้ำในสังคม และเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่แสวงหาตัวตน









ช่วงปี 1993 และ 2002 โอบามาเข้าทำงานเป็นผู้ช่วยในคณะกรรมการบริหารกองทุนไม้แห่งชิคาโก องค์กรที่ช่วยจัดสรรเงินทุนให้กับประชาชนและชุมชนที่ถูกเอารัดเอาเปรียบเปรียบในชิคาโก …… ต่อมาในปี 1999 ก็ได้เข้าเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริหารด้วยความช่วยเหลือของ บิล อาเยอร์ส



ต่อมาเขาก็รับงานสอนนอกเวลา ที่วิทยาลัยกฎหมาย ของมหาวิทยาลัยชิคาโก โอบามา สอนวิชากฎหมายรัฐธรรมนูญ รวมเวลา 12 ปี เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย 4 ปี (1992-1996) และเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยอาวุโส 8 ปี (1996-2004)







โอบามา เคยเป็นสมาชิกสรรหา ของบอร์ดบริหารแห่งพันธมิตรสาธารณะแห่งชิคาโก ในปี ค.ศ. 1992 และได้ลาออกไปก่อนที่ มิเชล ภรรยาของเขาจะเข้ามาเป็นผู้อำนวยการใหญ่ ของพันธมิตรสาธารณะแห่งชิคาโก ในต้นปี ค.ศ. 1993







และ เขายังเคยเป็น สมาชิกของบอร์ดบริหาร หลายที่ เช่น สภาทนายความเพื่อสิทธิพลเมืองภายใต้กฎหมายแห่งชิคาโก, ศูนย์กลางเพื่อเทคโนโลยีเพื่อนบ้าน, ศูนย์ลูจีเนียเบิร์นโฮป (Lugenia Burns Hope Center) เป็นต้น








สมาชิกสภานิติบัญญัติ แห่งรัฐอิลลินอยส์, 1997-2004


โอบามา ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภา แห่งรัฐอิลลินอยส์ ในปี ค.ศ. 1996 แทนที่ตำแหน่งของวุฒิสมาชิก อลิซ ปาล์มเมอร์ จากเขตปกครองที่ 13 … เมื่อได้รับการเลือกตั้งแล้ว โอบามา ก็ได้รับการสนับสนุนจากผู้สนับสนุนพรรคการเมืองทั้ง 2 พรรคใหญ่ ให้มีการปฏิรูปกฎหมายจริยธรรมและสุขภาพ







เขาสนับสนุนกฎหมายเรื่อง การเพิ่มเครดิตภาษีให้กับแรงงานผู้มีรายได้ต่ำ เจรจาเรื่อง การปฏิรูปสังคมสงเคราะห์ และเพิ่มเงินสมทบสำหรับการดูแลเด็กเล็ก ในปี ค.ศ. 2001







เขาเป็นประธานร่วมในเรื่องของกฎหมายว่าด้วยการปกครอง เขาสนับสนุนกฎระเบียบที่เสนอโดยผู้ว่าการรัฐ Ryan เพื่อควบคุมเงินกู้ใช้จ่าย และการให้จำนองที่เอาเปรียบ เพื่อลดปัญหาบ้านถูกยึด







ต่อมา โอบามา ได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกวุฒิสภาแห่งรัฐอิลลินอยส์ อีกสองครั้ง คือ ในปี ค.ศ. 1998 และในปี ค.ศ. 2002 แต่ ในปี ค.ศ. 2000 นั้น เขาแพ้การเลือกตั้งแบบไพรแมรี เพื่อชิงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งสหรัฐอเมริกา เขาแพ้ต่อ นาย บอบบี รัช เจ้าของตำแหน่งคนเก่า ด้วยคะแนนเสียง 2 ต่อ 1







ในเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2003 โอบามา ได้เป็นประธานคณะกรรมการบริการสุขภาพและมนุษย์ แห่งสมาชิกวุฒิสภาแห่งรัฐอิลลินอยส์ … ในระหว่างการเลือกตั้งทั่วไปในปี ค.ศ. 2004 เพื่อหาวุฒิสมาชิกแห่งสหรัฐอเมริกานั้น โอบามา ได้ลาออกจากสมาชิกวุฒิสภาแห่งรัฐอิลลินอยส์ ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2004 และได้เริ่มหาเสียงเพื่อรับการเลือกตั้งเป็น สมาชิกวุฒิสภาแห่งสหรัฐอเมริกา







และเขาก็ได้รับเลือกตั้งให้เป็น วุฒิสมาชิกของสหรัฐอเมริกา ด้วยคะแนนเสียงถึงร้อยละ 70 ขณะที่คู่แข่งขันได้คะแนนเสียงไปเพียงร้อยละ 27 เท่านั้น ชัยชนะอันท่วมท้นของโอบามาครั้งนี้ ถือเป็นชัยชนะครั้งยิ่งใหญ่ ที่มีความต่างของคะแนนมากที่สุด ในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของรัฐอิลลินอยส์ ทีเดียว









สมาชิกวุฒิสภา, 2005-2008


โอบามา ได้สาบานตนในฐานะเป็นสมาชิกวุฒิสภา เมื่อวันที่ 4 มกราคม ค.ศ. 2005 เนื่องจากเป็นครั้งแรกที่เขาได้เข้ามาทำงานที่วอชิงตัน เขาจึงได้ตั้งคณะที่ปรึกษาที่มีความสามารถสูงมาช่วยเหลือการทำงาน .....เขาว่าจ้าง ทอม แดสเชิล อดีตหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของประธานวุฒิสภาแห่งพรรคเดโมแครต เข้ามาเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของเขา .....ว่าจ้าง โรเบิร์ต รูบิน อดีตรักษาการหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม ให้เป็นผู้อำนวยการฝ่ายนโยบาย ......และให้ ซาแมนตา พาวเวอร์ ผู้นำด้านสิทธิมนุษยชน และการต่อต้านการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์, แอนโทนี เลค กับ ซูซาน ไรซ์ อดีตเจ้าหน้าที่บริหาร สมัยประธานาธิบดีคลินตัน เป็นที่ปรึกษาด้านนโยบายต่างประเทศ เป็นต้น







ชื่อของ โอบามา ถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์สมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐอเมริกา เพราะเขาเป็นอเมริกันผิวสีคนที่ 5 ในประวัติศาสตร์ ที่ได้เข้ามาเป็นสมาชิกวุฒิสภาของสหรัฐอเมริกา และเป็นคนที่ 3 ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน เขาเป็นสมาชิกวุฒิสภาเพียงคนเดียว ที่เป็นสมาชิกของ Congressional Black Caucus







นิตยสาร GQ Weekly นิตยสารที่เป็นกลางของสหรัฐอเมริกา ได้ยกย่องโอบามา ว่า เป็น "นักประชาธิปไตยผู้ซื่อสัตย์" จากผลการวิเคราะห์การโหวตให้คะแนนเสียง สมาชิกวุฒิสภาทั่วประเทศ ในปี 2005-2007 และนิตยสาร National Journal จัดว่าเขาเป็นสมาชิกวุฒิสภาที่ "มีความเป็นเสรีนิยมมากที่สุด" จากการโหวตในปี 2007







ในเดือนมกราคม ปี 2007 โอบามา ได้รับมอบหมายให้เป็น คณะกรรมการวุฒิสภาเพื่อดูแลเกี่ยวกับสาธารณสุข, การศึกษา, แรงงาน และเงินสงเคราะห์ผู้ที่ไม่มีบ้าน และสวัสดิการของรัฐ …และ เขาเป็นประธานคณะกรรมการวุฒิสภายุโรปอีกด้วย



ในงานนี้ โอบามาได้ปฏิบัติภารกิจในการไปดูงานที่ ทวีปยุโรปตะวันออก, ตะวันออกกลาง, เอเชียกลาง และแอฟริกา ... โอบามา ได้พบกับ มาห์มุด อับบาส ก่อนที่ มาห์มุด อับบาส จะได้เป็นประธานาธิบดีปาเลสไตน์ และยังได้ประณามการทุจริตของรัฐบาลเคนยา ในการกล่าวสุนทรพจน์ ที่มหาวิทยาลัยไนโรบี ประเทศเคนยา









การหาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งประธานาธิบดี


ในเดือนกุมภาพันธ์ ปี ค.ศ. 2007 โอบามา ได้ประกาศบนเวทีหน้าอาคาร Old State Capitol ในนครสปริงฟิลด์ รัฐอิลลินอยส์ว่า เขาจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกา ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ค.ศ. 2008







โอบามา เลือกสถานที่นี้เพราะเป็นสถานที่ซึ่งอดีตประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์น กล่าวปราศรัยเมื่อปี ค.ศ. 1858 และเขาอ้างถึงคำปราศรัยของประธานาธิบดีลินคอล์น ในการที่จะรวมประเทศที่แตกแยกให้เป็นหนึ่งเดียว



ก่อนหน้าที่ โอบามา จะประกาศต่อหน้าสาธารณชนหนึ่งสัปดาห์นั้น ในที่ประชุมคณะกรรมการพรรคเดโมแครต ระดับประเทศ (DNC) ในการหาเสียงชิงชัยตำแหน่งตัวแทนพรรค โอบามา ได้เรียกร้องให้ยุติการหาเสียงแบบโจมตีคู่แข่ง (negative campaigning), โอบามา ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของการยุติสงครามอิรัก การประหยัดพลังงาน และการประกันชีวิตแบบสากล ซึ่งเขาได้นำมาเป็นประเด็นหลักในอภิปรายหาเสียง ซึ่งปรากฏว่าเขาได้รับความนิยมจากคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความเปลี่ยนแปลง และกลุ่มชาวอเมริกันผิวดำ







ช่วงเดือนมกราคม ปี ค.ศ. 2008 ในการเลือกตั้งเพื่อชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครต บารัค โอบามา ต้องเจอคู่แข่งคนสำคัญ คือ นางฮิลลารี คลินตัน เริ่มตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งแรก ที่รัฐนิวแฮมป์เชียร์ ซึ่งเขาพ่ายไปก่อน







แต่กลับมาเอาชนะได้ในการเลือกตั้งแบบครั้งแรก และคอคัส ที่รัฐไอโอวา, เนวาดา และเซาท์แคโรไลนา โดยในวันซุปเปอร์ทิวส์เดย์ (Super Tuesday) นั้น เขาสามารถเก็บแต้มได้เหนือ นางฮิลลารี คลินตัน 20 แต้ม ..... จากนั้นก็มาทำลายสถิติได้งบเพิ่มอีกภายในสองเดือนแรกของปี 2008



หลังจากซุปเปอร์ทิวส์เดย์แล้ว โอบามาก็ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งแบบไพแมรี และคอคัส ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึง 11 ครั้ง … แล้วคะแนนของ โอบามา และ คลินตัน ก็กลับมาสูสีกันในการแข่งขันวันที่ 4 มีนาคม ในการเลือกตั้งที่ รัฐเวอร์มอนต์, เท็กซัส, โอไฮโอ และโรดไอแลนด์ แล้วส่งท้ายเดือนมีนาคม ด้วยชัยชนะของโอบามาใน ไวโอมิง และมิสซิสซิปปี







และที่สุด ในวันที่ 3 มิถุนายน ค.ศ. 2008 โอบามา ก็มีคะแนนคณะผู้แทนรวมเหนือกว่า นางฮิลลารี คลินตัน







ระหว่างเดือนเมษายน พฤษภาคม และมิถุนายน โอบามา ได้รับชัยชนะใน รัฐนอร์ทแคโรไลนา, ออริกอน ขณะที่ นางฮิลลารี คลินตัน ชนะ ในรัฐเพนซิลวาเนีย, อินเดียนา, เวสต์เวอร์จิเนีย, เคนทักกี, เปอร์โตริโก, เซาท์ดาโคตา …. ระหว่างนั้น โอบามา ถูกรับรองจากภายในพรรค ให้เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี ในนามพรรคเดโมแครต มากกว่า นางฮิลลารี คลินตัน .. ในวันที่ 31 พฤษภาคม โอบามายังคงได้รับชัยชนะเหนือ คลินตัน อย่างต่อเนื่อง







ในวันที่ 3 มิถุนายน จากผลการนับของทุกรัฐแล้ว โอบามา มีคะแนนนิยมเหนือกว่า คลินตัน และในวันเดียวกันนี้ เขาได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ ภายหลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ ใน เซนท์ พอล, รัฐมินนิโซตา







หลังจากนั้น นางฮิลลารี คลินตัน จึงได้ยุติบทบาทการหาเสียงตั้งแต่วันนั้น และหันมาสนับสนุนโอบามา …… โอบามาจึงประกาศชัยชนะ และเป็นชาวผิวดำคนแรกที่ได้เป็นตัวแทนพรรคเดโมแครต เพื่อเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิบดี







วันที่ 23 สิงหาคม ค.ศ. 2008 โอบามา ได้เลือก โจ ไบเดน (Joe Biden) จากมลรัฐ เดลาแวร์ ให้เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่ง รองประธานาธิบดี ในนามพรรคเดโมแครต ณ ศูนย์ประชุมใหญ่พรรคเดโมแครต ...และนางฮิลลารี คลินตัน ได้กล่าวสุนทรพจน์สนับสนุน โอบามา อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งเรียกร้องให้ โอบามา เป็นตัวแทนพรรค ในการชิงตำแหน่งประธานาธิบดี โดยได้รับการตะโกนแสดงความยินดีอย่างกึกก้อง



โจ ไบเดน







ในวันที่ 28 สิงหาคม โอบามา กล่าวสุนทรพจน์ท่ามกลางผู้สนับสนุนประมาณ 84,000 คน และผู้ที่ดูทางโทรทัศน์อีกราว 38 ล้านคน ....ในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์นั้น โอบามา ได้รับให้เป็นตัวแทนของพรรคเดโมแครต ลงสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีอย่างเป็นทางการ และนำเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับนโยบายของเขา







หลังจากนาย จอห์น แมคเคน ซึ่งเป็นตัวแทนจากพรรครีพับลิกัน เข้ามาโต้วาทีกับ โอบามา นั้น ปรากฏว่า โพลจากหลายสำนัก บ่งชี้ว่า คะแนนนิยมของ โอบามา ทิ้งห่างจากนายจอห์น แมคเคน อย่างขาดลอย และหลังจากนั้นยังมีการโต้วาทีระหว่าง บารัค โอบามา กับ จอห์น แมคเคน กันอีกถึงสามครั้ง ในช่วงเดือนกันยายน ถึง เดือนตุลาคม ปี 2008 ซึ่งหลังจากการโต้วาที โอบามา ก็ได้รับชัยชนะจากโพลต่างๆทุกครั้ง







ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2008 นางแมดาลีน ดันแฮม คุณยายของโอบามา เสียชีวิตจากโรคมะเร็ง ขณะอายุ 86 ปี แต่เขาเพิ่งทราบข่าวในวันถัดมา คือวันที่ 3 พฤศจิกายน ก่อนการเลือกตั้งเพียงวันเดียว




ได้รับเลือกให้เป็นประธานาธิบดี คนที่ 44


สำหรับการเลือกตั้งจริงนั้น บารัค โอบามา ได้รับคะแนนความนิยม 53% ผลการเลือกตั้งทั่วประเทศ 364 คะแนน เอาชนะนาย จอห์น แมคเคน พรรครีพับลีกัน ที่ได้คะแนนความนิยม 46% และผลการเลือกตั้งทั่วประเทศ 162 คะแนน ทำให้ บารัค โอบามา กลายเป็น ประธานาธิบดีเชื้อสายอเมริกัน – แอฟริกัน คนแรกในประวัติศาสตร์ และเป็นประธานาธิบดีคนแรกที่เกิดในรัฐที่ไม่ได้ติดกับอเมริกา(มลรัฐฮาวาย) ทันทีที่ได้รับเลือกเข้ามา



บารัค โอบามา กับ ภรรยา







ในการกล่าวสุนทรพจน์ ในชัยชนะของเขา โอบามา ได้ป่าวประกาศต่อหน้าฝูงชนเรือนแสนที่สนับสนุนเขาให้เป็นประธานาธิบดี ในชิคาโก ว่า "อเมริกาได้เข้ามาสู่จุดเปลี่ยนแปลงแล้ว"



เมื่อ โอบามา ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง ก็มีการเฉลิมฉลองตามท้องถนนทั่วไปในสหรัฐและทั่วโลกอย่างทันที บทบรรณาธิการหลายแห่งเขียนว่า ภาพลักษณ์ของสหรัฐฯ ในสายตาของต่างชาติ ซึ่งดูย่ำแย่ระหว่างการบริหารภายใต้การนำของ จอร์จ ดับเบิลยู บุช นั้น โอบามา จะต้องปรับปรุงให้ดีขึ้น และจะมีความวิตกกังวลในเรื่องของกฎหมายเกี่ยวกับปืน ที่จะกลายเป็นข้อจำกัดในระหว่างการบริหารของ โอบามา ที่อาจจะนำไปสู่การลักลอบค้าอาวุธปืนข้ามชาติในสหรัฐฯ







บารัค โอบามา มีกำหนดจะเข้าทำพิธีสาบานตนเป็นประธานาธิบดี อย่างเป็นทางการ ในวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2009 และเขาจะได้ รหัสโค้ดเนม ในการลงนามต่างๆ (Secret Service codename ) คือ "Renegade"










งานเขียนของโอบามา


1. Dreams from My Father : A Story of Race and Inheritance, (1995). Time Books an imprint of Crown Publishers, Division of Random House, NY



2. The Audacity of Hope : Thoughts on Reclaiming the American Dream,(2006). Crown Publishers, Division of Random House, NY



3. Change We Can Believe In : Barack Obama's Plan to Renew America's Promise, (2008). Three Rivers Press, an imprint of Crown Publishers, Division of Random House, NY









Merry Christmas ครับ




yyswim






Create Date : 21 ธันวาคม 2551
Last Update : 21 ธันวาคม 2551 1:00:27 น. 15 comments
Counter : 8021 Pageviews.

 
ถือว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ของอเมริการ
ได้เลยนะคะกับการได้ผู้นำอย่างบารัค โอบาม่า
ช่วงที่ดูทีวีและได้ฟังสุนทรพจน์ของเค้า ต้องบอกว่า
เค้าพูดได้ดี มีอิทธิพล ฟังแล้วขนลุกเลยคะ เพราะว่า
คำพูด และก็สิ่งที่เค้าได้สื่อออกมามันเหมือนเป็น
พลังของคนมากหมู่ที่หวังกับเค้าเอาไว้ หวังว่า
ยังไงเค้าต้องทำสิ่งที่เลวร้าย และเริ่มจะตกต่ำ
ของเมกาให้ฟื้นคืนมาได้ดีอีกครั้งค่ะ ...


ฟังสุนทรพจน์ของเค้าหลายรอบมาก เพราะข่าวออก
บ่อยจริงๆ ช่วงได้รู้ผลว่าชนะการเลือกตั้ง ...
ตอนนั้นอยู่กรุงเทพ นั่งดู CNN กับหมู่อเมริกันชน
ตอนกินอาหารเช้า ก็ได้คุยกับเค้าเหล่านั้น เค้าก็บอกว่า
ดีล่ะ ได้เลือกตั้ง ได้เปลี่ยนแปลง ความหวัง
เหมือนถูกยกสูงหน่อย ... เอ๊า เราก็คงพูดเหมือนกัน
กับผู้นำคนใหม่ของบ้านเราเมืองเรานะค่ะคุณสิน


โดย: JewNid วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:8:13:21 น.  

 
blog ที่แล้ว โอบามาร์ค
blog นี้ โอบาม่า...


คนหนึ่งจบสถาบันสุดยอดของ UK
อีกคนก็จบสถาบันสุดยอดของ USA
แถมเดือนเกิดก็เดือนเดียวกันอีก...

มีสื่อหลายสื่อ นำมาเปรียบเทียบกัน
เล่นเอาคนบางคน อกจะแตกตาย(ฮา)

เห็นได้ชัดเจนว่าการเมืองยุคนี้เป็นยุคของคนหนุ่มจริงๆ
เฒ่าชแลแดก่ชราก็คงต้องม้วนเสื่อกลับบ้านไปเลี้ยงหลานๆ...


ปล. ใบสูติบัตรของบ้านเค้า ดูไปแล้วคล้ายๆกับใบเพ๊ดของหมาเลยครับ (ผมผู้จริงๆน๊า)


โดย: merf1970 วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:12:36:07 น.  

 
ชีวิตเค้าน่าเอาไปทำหนังแห๊ะ


โดย: Ta Pling วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:15:26:32 น.  

 
เพิ่งรู้จักชื่อ โอบาม่า ช่วงเลือกตั้งนี่แหละ

ถือเป็นคนหนุ่มที่มาแรงมาก


โดย: ร่มไม้เย็น วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:19:16:39 น.  

 
Change !!!

หวังว่าโลกนี้จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นในเร็ววันครับ


โดย: jonykeano วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:19:43:13 น.  

 

ได้ครับตามนั้น
Best Topical Blog

สมควรแล้วล่ะครับ
ครบเครื่องรอบรู้ ทันเหตุการณ์จริงๆ เลยนะครับ



โดย: ฟ้าสดใส ทะเลสีคราม วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:20:42:17 น.  

 
เราชอบประธานาธบดีท่านนี้นะค่ะ
ไม่มีเหตุผลค่ะ
ชอบค่ะ




โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:21:20:52 น.  

 
สวัสดีครับพี่สิน


สคส.ของผมทำง่ายมากครับ
คือใช้รูปถ่าย กระดาษชานอ้อย
แล้วก็กาวสเปรย์ครับ

อ้อ...ที่ขาดไม่ได้คือ ตราปั๊มกับข้อความดีดีจากใจของผมครับ อิอิอิ


ยินดีเลยนะครับพี่สิน
ถ้ามีโอกาสขึ้นมาเชียงใหม่
ยิ่งถ้ามีที่ร้าน ผมอยู่ทุกวันยกเว้นวันอาทิตย์ครับ







โดย: ก.วรกะปัญญา (กะว่าก๋า ) วันที่: 21 ธันวาคม 2551 เวลา:22:35:13 น.  

 


โดย: kai (aitai ) วันที่: 22 ธันวาคม 2551 เวลา:17:10:44 น.  

 
ดีจังครับ
กำลังคิดถึงนายกฯของเรา ก็เหลือบไปเห็น Blog ก่อนหน้า
คุณนี้รู้ใจจริงๆ
ส่งให้ภรรยาอ่านด้วยคนไปเลย

สวัสดีปีใหม่ล่วงหน้าครับ


โดย: คนขับช้า วันที่: 22 ธันวาคม 2551 เวลา:23:39:11 น.  

 
โสมรัศมี


โดย: โสมรัศมี วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:9:17:44 น.  

 
สองบล๊อกจับรวมกันเป็นโอบามาร์ค....


โดย: นายรถซุง วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:12:45:57 น.  

 

ความใกล้เคียงกันของ มาร์ค อภิสิทธิ์ กับ บารัค โอบามา



มาร์ค อภิสิทธิ์ เกิดวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ.2507 หรือ ค.ศ.1964 ปัจจุบันอายุ 44 ปี

บารัค โอบามา เกิดวันที่ 4 สิงหาคม พ.ศ.2504 หรือ ค.ศ.1961 ปัจจุบันอายุ 47 ปี


มาร์ค อภิสิทธิ์ เรียนจบด้านเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด ประเทศอังกฤษ และด้านกฎหมาย จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง

บารัค โอบามา เรียนจบระดับปริญญาตรี จากมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และด้านกฎหมายจากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด ประเทศสหรัฐ


มาร์ค อภิสิทธิ์ มีลูกสาวกับลูกชาย

บารัค โอบามา มีลูกสาวสองคน


มาร์ค อภิสิทธิ์ สังกัดพรรคประชาธิปัตย์(Democrat Party)

บารัค โอบามา สังกัดพรรคเดโมแครต


มาร์ค อภิสิทธิ์ : ผลงานหนังสือ

1. มาร์ค เขาชื่อ... อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ. พ.ศ. 2548, ISBN 978-974-93358-1-9

2. การเมืองไทยหลังรัฐประหาร. พ.ศ. 2550, ISBN 978-974-88195-1-8

3. เขียนรัฐธรรมนูญอย่างไรไม่ถูกฉีก. พ.ศ. 2550, ISBN 978-974-7310-66-5

4. ร้อยฝันวันฟ้าใหม่. พ.ศ. 2550, ISBN 978-974-8494-81-4


บารัค โอบามา : ผลงานหนังสือ

1. Dreams from My Father : A Story of Race and Inheritance, (1995). Time Books an imprint of Crown Publishers, Division of Random House, NY

2. The Audacity of Hope : Thoughts on Reclaiming the American Dream,(2006). Crown Publishers, Division of Random House, NY

3. Change We Can Believe In : Barack Obama's Plan to Renew America's Promise, (2008). Three Rivers Press, an imprint of Crown Publishers, Division of Random House, NY




โดย: yyswim วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:14:15:24 น.  

 

ประโยคประทับใจของ บารัค โอบามา



Change will not come if we wait for some other person or some other time. We are the ones we've been waiting for. We are the change that we seek.
Barack Obama

There is not a Black America and a White America and Latino America and Asian America; there's the United States of America .
Barack Obama


ต้องการอ่านเพิ่มเติม เชิญเปิดอ่านที่นี่




โดย: yyswim วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:14:20:41 น.  

 


Merry Christmas And Happy New Year

ขอให้พี่มีความสุขมากๆคิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนา สุขภาพร่างกายแข็งแรงนะคะ ^^


โดย: น้องผิง วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:15:15:08 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.