น้ำตกของไทย



น้ำตกของไทย




ททท. ได้รวบรวมรายชื่อ 10 ยอดน้ำตกงดงามของเมืองไทยเอาไว้ ...ผู้ที่ชื่นชอบการท่องเที่ยว น่าที่จะหาโอกาสไปเยือนน้ำตก “อันซีนของเมืองไทย” เหล่านี้ดูบ้าง ....เพราะมีความสวยงามไม่แพ้ น้ำตกของต่างประเทศ



ผมขอหมายเหตุเอาไว้ ตั้งแต่เริ่มต้น “เปิดม่าน” ว่า



ข้อมูลที่เขียนในวันนี้ ได้มาจากการค้นคว้านะครับ ...ไม่ใช่ได้มา จากการที่ผมไปเที่ยวน้ำตกด้วยตัวเอง ภาพทุกภาพก็เป็นฝีมือถ่ายภาพ ของผู้อื่นทั้งสิ้น




ผมนำมาจากเว๊ปสาธารณะทั่วไป จนจำไม่ได้แล้วว่า ภาพไหนนำมาจากเว๊ปอะไร เพื่อนๆลองสังเกตข้อความที่ติดมากับภาพนั้นๆนะครับ อาจจะมีชื่อเจ้าของภาพหรือชื่อเว๊ปของเขาติดอยู่



ผมขอขอบพระคุณเจ้าของข้อมูลและเจ้าของภาพทุกท่าน ไว้ ณ โอกาสนี้




เหตุที่อยากค้นคว้า "น้ำตกของไทย" แล้วนำมาเขียนบล็อกเรื่องนี้ เพราะอยากจะให้เพื่อนๆ ชมน้ำตกสวยๆในเมืองไทย และมีความคิดที่จะช่วยกันถนอมหวงแหนรักษาป่าไม้ เพื่อให้น้ำตกทุกแห่งยังคงสวยงามเช่นนี้ต่อไปอีกนานๆ




และหากจะมีคำถามประการใดถึงรายละเอียดของน้ำตก ผมใคร่ขอให้ผู้รู้ หรือผู้ที่เคยไปเที่ยวน้ำตกนั้นๆ ช่วยกรุณาตอบแทนผมด้วยนะครับ








1. น้ำตกแม่ยะ จังหวัดเชียงใหม่
















น้ำตกแม่ยะ เป็นน้ำตกที่มีขนาดใหญ่(ใหญ่สุดของจังหวัดเชียงใหม่) มีความสวยงามไม่แพ้น้ำตกใดๆของเมืองไทย สายน้ำจะไหลลงมาตามหน้าผาสูงชัน ราว 280 เมตร กระทบโขดหินเป็นชั้น ๆ เหมือนม่านน้ำ แล้วไหลลงไปรวมกัน ที่แอ่งน้ำใสข้างล่าง ....ผู้ที่ไปเยือนสามารถจะเล่นน้ำ ณ บริเวณแอ่งน้ำข้างล่างนี้ได้











น้ำตกแม่ยะ เกิดจากต้นน้ำในผืนป่าสูงของยอดดอยอินทนนท์ ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของประเทศ นอกจากที่นี่จะเป็นแหล่งต้นกำเนิดของน้ำตกแม่ยะแล้ว ยังเป็นแหล่งให้กำเนิดน้ำตกที่สวยงามอื่นๆด้วย ….




น้ำตกสวยงามอื่นๆบนดอยอินทนนท์นั้น จะอยู่ริมเส้นทางขึ้นสู่ยอดดอย เช่น น้ำตกแม่กลาง อยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 8 ใกล้ด่านเก็บเงินของอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์, น้ำตกวชิรธาร อยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 21 ด้านขวามือของทางขึ้นยอดดอย โดยจากลานจอดรถ จะต้องเดินเท้าลงไปชมน้ำตก ราว 351 เมตร และ น้ำตกสิริภูมิ อยู่บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 30 แยกขวามือเข้าไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร




รอบๆบริเวณน้ำตกแม่ยะ เป็นป่าไม้พรรณไม้ร่มรื่น น่ามองน่านั่งพักหรือเดินชมป่าแบบสบายใจ หรือผู้มาเยือนอาจเดินศึกษาธรรมชาติของป่าดึกดำบรรพ์บริเวณอ่างกาหลวง ในแถบรอบๆบริเวณนี้ซึ่งมีเส้นทางเดินป่าจัดไว้ให้ด้วย




ในช่วงหน้าฝนเช่นเดือนกรกฎาคม เดือนนี้ ปริมาณน้ำของน้ำตกแม่ยะ จะมีมากและไหลค่อนข้างแรง น่าที่จะคนไทยจะได้ไปเห็นกับตาสักครั้ง











การเดินทาง .....น้ำตกแม่ยะอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ อำเภอจอมทอง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 70 กว่ากิโลเมตร โดยไปตามทางหลวงหมายเลข 108 (เชียงใหม่-ฮอด) ไปประมาณ 58 กิโลเมตร ถึงบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 58(ก่อนจะถึงตลาดอำเภอจอมทอง) เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 1009 (จอมทอง-ดอยอินทนนท์) ประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตร จะถึงลานจอดรถบริเวณน้ำตกแม่ยะ จากนั้นจะต้องเดินเท้าเข้าสู่น้ำตก ระยะทางประมาณ 300 เมตร




อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์มีบ้านพัก เต็นท์สนาม ไว้บริการนักท่องเที่ยว รายละเอียด ติดต่อสอบถามได้ที่ อุทยานแห่งชาติดอยอินทนนท์ ถนนอินทนนท์-จอมทอง กิโลเมตรที่ 31 อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ 50160 หรือติดต่อ ส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. (02) 579-7223, 579-5734













คำเตือน อากาศบนดอยอินทนนท์ จะหนาวเย็นตลอดทั้งปี หากเดินทางไปเที่ยวหรือพักค้างคืน ควรจะนำเสื้อกันหนาว ไปด้วย








2. น้ำตกเอราวัณ จังหวัดกาญจนบุรี











น้ำตกเอราวัณ เป็นน้ำตกใหญ่และสวยงามบนฝั่งแม่น้ำแควใหญ่ อยู่ในพื้นที่ของเขตอุทยานแห่งชาติเอราวัณ หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า "อุทยานแห่งชาติเขาสลอบ" ตั้งอยู่ที่อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี




ธารน้ำตกเอราวัณ จากชั้นบนสุดถึงชั้นล่างสุด มีความยาวประมาณ 2,000 เมตร แบ่งเป็นชั้นใหญ่ๆ ได้ทั้งหมด 7 ชั้น โดยไหลลดหลั่นลงมาท่ามกลางผืนป่าเขียวร่มรื่น มีเถาวัลย์พันเกี่ยวทอดบนต้นไม้ใหญ่ มีกล้วยไม้ป่าบนคาคบไม้ เสียงน้ำและเสียงนกดังระงมไปทั่วป่า




จากลานจอดรถ จะมีทางเดินเท้าเข้าสู่บริเวณน้ำตก ทางอุทยานฯได้จัดเส้นทางเดินไว้ และไม่อนุญาตให้นำอาหารเข้าไปรับประทานที่บริเวณน้ำตก เพื่อรักษาความสะอาดและความเป็นธรรมชาติเอาไว้ เส้นทางเดินประมาณ 500 เมตรก็จะถึงน้ำตกชั้นแรก ด้วยโครงสร้างของผาหินปูน น้ำตกเอราวัณนับเป็นน้ำตกที่มีลีลาการรินไหลของธารน้ำตก ที่มีคนพูดว่า “อ่อนช้อยสวยงาม”




น้ำตกเอราวัณ ชั้นที่ 1







น้ำตกเอราวัณ ชั้นที่ 2







น้ำตกเอราวัณ ชั้นที่ 3 “ ผาน้ำตก”







น้ำตกเอราวัณ ชั้นที่ 4 “ อกนางผีเสื้อ”







น้ำตกเอราวัณ ชั้นที่ 5 “ เบื่อไม่ลง”









เมื่อเดินขึ้นไปจนถึง น้ำตกเอราวัณ ชั้นที่ 7 ชั้นบนสุด จะเห็นธารน้ำแยกตกลงมาเป็น 2 สาย สีขาวของสายน้ำที่ตกลงมาจากหน้าผาสูง หากมองไกลๆ จะมีลักษณะคล้ายงาช้างและหัวของช้าง ที่ยื่นเดินออกมาจากภูผา .....นั่นไง จึงได้ถูกเรียกชื่อว่า "น้ำตกเอราวัณ"





การเดินทาง ….. จากตัวเมืองกาญจนบุรี ใช้เส้นทางสาย กาญจนบุรี-ศรีสวัสดิ์ (ทางหลวงหมายเลข 3199) เมื่อถึงหลักกิโลเมตรที่ 56 แยกซ้าย ข้ามสะพาน เข้าตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ แล้วตรงไปอีกประมาณ 3 กิโลเมตร จะถึงลานจอดรถ แล้วเดินต่อไปอีก 500 เมตร ก็จะถึงตัวน้ำตก รวมระยะทางทั้งสิ้นประมาณ 65 กิโลเมตรจากตัวเมืองกาญจนบุรี




ค่าธรรมเนียมเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท บริเวณน้ำตกเอราวัณ มีบ้านพักและเต็นท์บริการ ติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติเอราวัณ ต.ท่ากระดาน อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี 71250 โทร. 034-574222 , 034-574234 หรือที่ ส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร. (02) 579-7223, 579-5734









3. น้ำตกกรุงชิง จังหวัดนครศรีธรรมราช












น้ำตกกรุงชิง เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติเขาหลวง จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่มียอดเขาหลวง ความสูง1,835 เมตร อันเป็นยอดเขาที่สูงที่สุดของภาคใต้ ที่นี่ยังเป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ จึงเป็นแหล่งต้นน้ำของน้ำตกขนาดใหญ่หลายสาย ทั้งน้ำตกกรุงชิง น้ำตกพรหมโลก(น้ำตกนี้มีบางแอ่งน้ำ ที่ห้ามลงเล่นเพราะมีน้ำวน) น้ำตกกะโรม และน้ำตกอ้ายเขียว












ชื่อ"กรุงชิง"มาจาก "ต้นชิง" พันธุ์ไม้ตระกูลปาล์ม ซึ่งมีอยู่มากในบริเวณนั้น การเข้าชมน้ำตกกรุงชิง จะต้องเดินเท้าจากที่ทำการอุทยานฯ ผ่านเส้นทางเดินป่าระยะทาง 3.8 กิโลเมตร เข้าไปถึงน้ำตก ใช้เวลาเดินเท้าประมาณ 1 ชั่วโมง เส้นทางบางช่วงจะเป็นทางเดินลาดชัน แต่ก็เดินไปพร้อมกับศึกษาเส้นทางธรรมชาติของป่า ได้อย่างน่าจะสนุก..... อุอุ ของดีจะต้องได้มายาก เป็นธรรมดา




น้ำตกกรุงชิง มีด้วยกัน 7 ชั้น ชั้นที่ 7 ชื่อว่า วังเรือบิน …..ชั้นที่ 6 ชื่อว่า หนานต้นตอ ….. ชั้นที่ 5 ชื่อว่า หนานโจน …… ชั้นที่ 4 ชื่อว่า หนานจน ……ชั้นที่ 3 ชื่อว่า หนานปลิว ……ชั้นที่ 2 ชื่อว่า หนานฝนแสนห่า …….และชั้นที่ 1 ชื่อว่า หนานมัดแพ





น้ำตกกรุงชิง ชั้นที่ 7 “ วังเรือบิน”







น้ำตกกรุงชิง ชั้นที่ 5 “ หนานโจน”








น้ำตกกรุงชิง ชั้นที่ 2 “ หนานฝนแสนห่า”









น้ำตก ชั้นที่ 2 ที่ชื่อว่า "หนานฝนแสนห่า" นั้น สายน้ำจะตกลงจากหน้าผาสูงชัน ประมาณ 80 เมตร กระแสน้ำแผ่เป็นผืนกว้าง กระจายออกมาเป็นละออง ราวสายฝน ไม่จับตัวกันเป็นเกลียวเหมือนน้ำตกอื่นๆ นี่แหละจึงเป็นที่มาของชื่อ “ฝนแสนห่า”




เป็นน้ำตกที่สวยงาม.....สวยงามขนาดที่แบ๊งค์ชาติ เคยนำภาพของน้ำตกชั้นนี้ ไปลงพิมพ์บนธนบัตรไทย




ผู้ที่เคยไปเที่ยวบอกว่า “ ทาก” ที่น้ำตกกรุงชิงยังคงพอมี ไปครั้งหลังๆ เจอทากแค่ 6 ตัวเท่านั้น ซึ่งนับว่าค่อนข้างน้อยสำหรับความเป็นป่าอุดมสมบูรณ์ …. เพราะนกเงือก และทาก นับเป็นตัววัดความอุดมสมบูรณ์ของป่าได้ ....ถ้าหากมีทากน้อย แสดงว่าป่านั้นลดความอุดมสมบูรณ์ลงไปมาก





การเดินทาง….. น้ำตกกรุงชิงอยู่ที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาหลวง ต.กรุงชิง กิ่งอำเภอนบพิตำ จ.นครศรีธรรมราช ….เดินทางออกจากตัวเมืองนครศรีธรรมราช ไปตามเส้นทาง 4015 แล้วเลี้ยวขวาเข้าเส้นทาง 4016 สายนครศรีธรรมราช-พรหมคีรี เส้นทางจะผ่านทางเข้าน้ำตกพรหมโลก น้ำตกอ้ายเขียว น้ำตกยอดเหลือง ถึงสามแยกเหรง เลี้ยวซ้ายไปทางกิ่งอำเภอนบพิตำ แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ เส้นทางหมายเลข 4186 ถึงบ้านห้วยพาน เลี้ยวซ้ายเข้าเส้นทาง 4188 ไปอีกสักพัก สังเกตทางซ้ายมือจะพบป้ายทางเข้าน้ำตกกรุงชิง แล้วต้องเข้าไปตามทางลูกรังอีก 8 กิโลเมตรจึงจะถึงน้ำตก สรุปว่า จากเมืองนครไปที่น้ำตกกรุงชิง จะต้องขับรถไป ระยะทางประมาณ 70 กิโลเมตร ก็ราวชั่วโมงนิดหน่อย





บริเวณน้ำตกจะมีที่พักไว้ให้บริการ... ติดต่อที่ ส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร. (02) 579-7223, 579-5734 หรือติดต่อที่ หน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาหลวง น้ำตกกรุงชิง โทร.075-309 644 หรือถ้าต้องการจะล่องแก่งกรุงชิง ก็ติดต่อศูนย์บริการท่องเที่ยว อบต.กรุงชิง โทร. 01-2282051 หรือสอบถามข้อมุลเพิ่มเติม ที่ ททท. สำนักงานภาคใต้ เขต 2 สนามหน้าเมือง ถ.ราชดำเนิน อ.เมือง จ.นครศรีฯ โทร. 075 – 346 515









4. น้ำตกพลิ้ว จังหวัดจันทบุรี












น้ำตกพลิ้ว เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงทางภาคตะวันออกของไทย อยู่ในเขตเทือกเขาสระบาป อำเภอแหลมสิงห์ จังหวัดจันทบุรี อยู่ในความดูแลของอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 84,062.50 ไร่ ครอบคลุมท้องที่อำเภอเมือง อำเภอแหลมสิงห์ อำเภอขลุง และอำเภอมะขามของจังหวัดจันทบุรี




บริเวณนี้ยังเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีเทือกเขาสูงสลับซับซ้อน เป็นแหล่งกำเนิดของต้นน้ำลำธารหลายสาย …ทางเดินเข้าน้ำตกจะร่มรื่นไปด้วยพรรณไม้ เป็นน้ำตกที่นักท่องเที่ยวสามารถจะขับรถเข้าไปถึงน้ำตกได้สะดวก มีน้ำไหลตลอดปี ....ปกติน้ำจะใส จนสามารถมองเห็นพื้นล่างที่เป็นหินและทรายในระดับความลึกกว่า 2 เมตรได้











บริเวณน้ำตกจะมีปลาใหญ่น้อยหลายชนิดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะปลาพลวงหิน ซึ่งจะพบได้ที่น้ำตกแห่งนี้ และในบางน้ำตกเท่านั้น

















น้ำตกพลิ้วมี 3 ชั้น จากทางขึ้น เดินไปประมาณ 200 เมตร จะเห็น อลงกรณ์เจดีย์ อยู่ทางขวามือ เป็นเจดีย์ศิลาแลง ซึ่งรัชกาลที่ 5 โปรดฯ ให้สร้างไว้ ส่วนทางซ้ายมี สถูปพระนางเรือล่ม อันเป็นที่บรรจุ พระอังคารของพระนางเจ้าสุนันทากุมารีรัตน์ พระบรมราชเทวี ….. สถูปและอลงกรณ์เจดีย์นี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงโปรดฯ ให้สร้างขึ้น เนื่องจากพระองค์เคยเสด็จประพาสน้ำตกพลิ้ว เมื่อปี พ.ศ. 2417 และทรงชื่นชมประทับใจกับน้ำตกนี้เป็นอย่างยิ่ง













คำว่า "พลิ้ว" บางคนบอกว่าเป็นภาษาชอง ซื่งเป็นภาษาของเจ้าของถิ่นเดิม แปลว่า ทรายหรือหาดทราย แต่บางคนบอกว่า "พลิ้ว" คงจะได้ชื่อมาจาก ต้นไม้ชนิดหนึ่งซึ่งชอบขึ้นบนที่ดินปนทราย เป็นไม้เถา มีดอกเป็นช่อ มีผลเล็กขนาดลูกเกด สีเหลืองอมแดง ขึ้นอยู่ทั่วไปในแถบนี้











น้ำตกพลิ้ว เป็นน้ำตกที่สามารถไปเที่ยวได้ทั้งปี เพราะจะมีน้ำไหลตลอดปี แต่ผู้คนจะนิยมไปเที่ยวชมตั้งแต่เดือนพฤษภาคมเป็นต้นไปเป็นส่วนใหญ่ เพราะเป็นช่วงฤดูผลไม้ เงาะ มังคุด ทุเรียน สละ กระท้อน ของจังหวัดจันทบุรีออกให้ชิมและชมเป็นขวัญตาด้วย …. เปิดให้เข้าชมน้ำตกตั้งแต่เวลา 06.00 - 18.00 น. ทุกวัน ค่าธรรมเนียมเข้าชม ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท












การเดินทาง….. น้ำตกพลิ้วอยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรี ประมาณ 14 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 3 ถนนสุขุมวิท แล้วแยกซ้ายไปทางบ้านพลิ้ว อำเภอแหลมสิงห์ ไปอีกประมาณ 2 กิโลเมตร ก็จะถึงน้ำตก ถนนขับรถสะดวกสบายเพราะลาดยางตลอดสาย เหมาะกับการไปเที่ยวพักผ่อน





ทางอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว จัดบ้านพักไว้บริการจำนวน 3 หลัง พักได้ หลังละ 8 คน ราคาหลังละ 600-800 บาท และค่ายพักแรม พักได้ 20-30 คน ราคาหลังละ 200-500 บาท ติดต่อ สำรองที่พักได้ที่ กรมป่าไม้ โทร. (02) 579-7223, 579-5734









5. น้ำตกแม่สุริน จังหวัดแม่ฮ่องสอน












เป็นน้ำตกชั้นเดียวที่ยิ่งใหญ่และสวยงาม ตัวน้ำตกแม่สุรินนั้นแม้จะไม่ใหญ่แต่สูงมาก นับเป็นน้ำตกที่สูงที่สุดของภาคเหนือ ลักษณะของสายน้ำจะไหลจากหน้าผาสูงประมาณ 100 เมตร ตกลงมาสู่แอ่งน้ำเบื้องล่างระหว่างหุบเขา ลักษณะพื้นที่โดยรอบเป็นป่าสนและป่าดิบ ซึ่งบางครั้งจะสามารถพบเห็น เก้ง กวาง หมี ลิง และนกหลายชนิด




ด้านบนสุดเป็นบริเวณที่กางเต็นท์ของนักท่องเที่ยว ซึ่งมีทางเดินลงมาดูข้างล่างได้ ใช้เวลาเดินลงและเดินขึ้นประมาณ 3 ช.ม. ขาเดินลง จะเร็วและง่ายหน่อย แต่ขาเดินขึ้นหรือปีนขึ้น ... คุณเอ๊ยยย เหนื่อยหอบ เหงื่อซกเลย แต่น้ำก็เย็นเจี๊ยบฉ่ำใจ .....อุอุ ก้อมัน ...น้ำตกอยู่บนภูเขา จ.แม่ฮ่องสอน











นักท่องเที่ยวที่ต้องการจะไปชมน้ำตกแม่สุริน ค่าธรรมเนียมชมน้ำตก ผู้ใหญ่ 20 บาท เด็ก 10 บาท รถยนต์ 30 บาท ควรจะไปในช่วงเดือนพฤศจิกายนถึงเดือนธันวาคม เพราะจะได้ชมทุ่งดอกบัวตองบานสะพรั่งบนดอยแม่อูคอ ซึ่งเป็นทางผ่านไปทางน้ำตก ... อาจจะตั้งค่ายพักแรมที่ดอยแม่อูคอ และใช้เวลาในช่วงกลางวัน ไปชมน้ำตกแม่สุริน ซึ่งอยู่ลึกเข้าไปจากทุ่งบัวตอง ประมาณ 11 กิโลเมตร





การเดินทาง…… น้ำตกแม่สุริน อยู่ในเขตบ้านแม่สุริน ตำบลแม่ยวมน้อย อำเภอขุนยวม จังหวัดแม่ฮ่องสอน การเดินทางใช้เส้นทางหลวง หมายเลข 108 (แม่ฮ่องสอน - ขุนยวม) ถึงอำเภอขุนยวม แล้วแยกขวาเข้าไปอีกประมาณ 50 กิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับไปทุ่งดอกบัวตอง ที่ดอยแม่อูคอ ห่างจากทุ่งบัวตอง ราว 11 กม. ใช้ถนนของกรมทางหลวงชนบท สาย แม่อูคอ - บ้านหัวฮะ




อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุริน มีบริการบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว ติดต่อ อุทยานแห่งชาติน้ำตกแม่สุริน ต.ปางหมู อ.เมืองแม่ฮ่องสอน โทร.0-5361-2996 หรือส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร. (02) 579-7223, 579-5734









6. น้ำตกเขาสอยดาว จังหวัดจันทบุรี












น้ำตกเขาสอยดาว อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว น้ำตกอยู่ห่างจากที่ทำการเขตฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ มีน้ำไหลตลอดปี มี 16 ชั้น แต่ละชั้น จะสวยงามแตกต่างกัน ... ชั้นที่ 5 ชื่อว่า “งาจ้าวพงพี” ชั้นที่ 6 ชื่อว่า “ ผานางลื่น” ชั้นที่ 7 ชื่อว่า “วังผีเสื้อ” ชั้นที่ 9 ซึ่งมีคนพูดกันว่า สวยที่สุด ชื่อว่า “ วังพญางิ้วดำ”




บริเวณรอบน้ำตก จะแวดล้อมไปด้วยป่าดงดิบชื้นที่สมบูรณ์ มีสิ่งน่าสนใจให้ชมมากมาย ทั้งต้นไม้ยักษ์และพรรณไม้หลากชนิด โดยเฉพาะป่ากระวาน ซึ่งว่ากันว่า ดีที่สุดในโลก และเป็นดินแดนแหล่งดูนก ดูผีเสื้อ ที่ดีที่สุดในแถบผืนป่าตะวันออกทีเดียว เพราะจะมีผีเสื้อหลากหลายชนิด ให้ชมให้ศึกษา ยิ่งหากไปถูกจังหวะเวลา จะมีโอกาสได้ชม ราชินีแห่งป่าเขาสอยดาวหรือดอกโสกเขา ที่จะพากันบานสะพรั่งต้อนรับทั้งราวป่าในช่วงฤดูหนาว












พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว มีสภาพภูมิประเทศเป็นภูเขาสลับซับซ้อน มียอดเขาสูง 2 ยอด คือ ยอดสอยดาวเหนือ สูงประมาณ 1,556 เมตร และยอดสอยดาวใต้ สูงประมาณ 1,675 เมตร สภาพป่ายังอุดมสมบูรณ์ทำให้เป็นต้นกำเนิดของธารน้ำหลายสาย แล้วไหลรวมกันและตกลงมาเป็น น้ำตกเขาสอยดาว ท่ามกลางป่าที่ยังคงความเป็นธรรมชาติมากๆ





ผู้สนใจไปเที่ยว จะสามารถเดินขึ้นน้ำตกด้วยตนเองได้ถึงชั้นที่ 9 รวมระยะทางประมาณ 2.5 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินขึ้น 1 ชั่วโมงเศษ ซึ่งจะพบทั้งความงามและความตื่นเต้นท้าทาย …สำหรับน้ำตกชั้นที่ 10–16 จะต้องใช้เจ้าหน้าที่นำทาง เพราะจะไม่มีทางเดินที่กำหนดไว้แน่นอน หากไม่มีคนนำทางอาจจะเดินหลงทางได้ การเดินตามผู้นำทางไปถึงชั้นที่ 16 จะต้องใช้เวลาอีกประมาณ 1 ชั่วโมง






ถ้าชอบความตื่นเต้นหวาดเสียว การเล่นน้ำที่น้ำตกสอยดาวตรงชั้นที่ 6 ที่ชื่อว่า “ ผานางลื่น” จะหวาดเสียวมาก ตรงนี้จะมีแผ่นหินเอียงลาดที่บางคนเรียกว่า สไลเดอร์ แต่ลื่นมาก ผู้ที่ชื่นชอบความท้าทาย จะปล่อยตัวให้ก้นลื่นไถลไปตามลาดหินกลางน้ำตก ลงไปยังแอ่งน้ำเบื้องล่าง ที่สูงประมาณ 7 ม. ซึ่งจะอันตรายมากหากลื่นตกลงไปผิดจังหวะ หรือพุ่งเลยแอ่งน้ำนั้น ....โฮะโฮะ แค่เขียนก็ไม่อยากจะนึกถึงภาพ ”เปลหาม”













สิ่งที่น่าสนใจ ในบริเวณน้ำตกเขาสอยดาว มีหลายอย่าง



- ต้นไม้ยักษ์ ....เมื่อเดินจากทางเข้าไปยังน้ำตกชั้นแรก ประมาณ 200 ม. ทางขวามือจะพบกับต้นไม้ยักษ์ หรือต้นพระเจ้าห้าพระองค์ ซึ่งเป็นไม้ยืนต้นที่ขึ้นอยู่ในป่าดงดิบชื้น รอบลำต้นขนาดประมาณ 20 คนโอบ ....อูว์ว์ ใหญ่ยักษ์อะไร ขนาดนั้น โดยเฉพาะ พูพอนหรือรากขนาดใหญ่ของต้นไม้นี้ซึ่งโผล่ขึ้นมาเหนือผิวดิน สูงถึง 5 ม. แยกแขนงเป็นซอกหลืบจนดูคล้ายโพรงถ้ำ











- ดอกโสกเขา จำนวนมาก.... ซึ่งเป็นแหล่งน้ำหวานของผีเสื้อและแมลงต่าง ๆ ...ถือกันว่า ดอกโสกเขา เป็นราชินีแห่งป่าเขาสอยดาว ช่วงเดือนธันวาคม – เมษายน ของทุกปี ดอกโสกขาวจะผลิช่อดอก สีส้มแดง บานไปทั่วทั้งแนวป่า ....ต้นโสกเขาเป็นไม้ยืนต้น ลำต้นสูงเต็มที่ประมาณ 10 เมตร มีใบประกอบแบบขนนก เรียงสลับใบย่อย 3-7 คู่ รูปใบ มีลักษณะเป็นรูปไข่หรือใบหอก กว้างประมาณ 2-8 ซม. ยาวประมาณ 8-10 ซม. รากมีสรรพคุณทางยา ใช้ต้มน้ำเพื่อดื่มแก้ยาพิษ หรือยาเบื่อ











- ดูนก ดูผีเสื้อ ....ตลอดเส้นทางการเดินเท้าสู่น้ำตก ชั้นที่ 1-16 จะเป็นจุดชมนก ชมผีเสื้อที่ดีที่สุด ยิ่งกว่านั้นแถวบริเวณไหล่เขา อาจจะมีโอกาสได้พบกับ นกขุนแผนหัวแดง นกขุนแผนอกส้ม นกพญาปากกว้างลายเหลือง รวมทั้งนกเฉพาะถิ่น อย่าง ไก่ฟ้าหลังขาวจันทบูร นกสาลิกาเขียวหางสั้น นกกระทาจันทบูร และผีเสื้ออีกนับสิบชนิด เช่น ผีเสื้อนิโกร ผีเสื้อหางติ่งนางละเวง ผีเสื้อหางติ่งชะอ้อน เป็นต้น ......ในระหว่างเดือนธันวาคม-เมษายนของทุกปี จะเป็นช่วงที่เหมาะแก่การดูผีเสื้อ เพราะจะมีผีเสื้อในช่วงนั้นจำนวนมากที่สุด




- หากต้องการดูป่ากระวาน ควรจะติดต่อเจ้าหน้าที่นำทางให้นำไปดู เพราะจากน้ำตกชั้นที่ 16 ซึ่งเป็นชั้นบนสุด จะมีเส้นทางเดินเท้าแยกไปอีกประมาณ 1 ชม.เศษ ป่ากระวานที่นี่ นับเป็นป่ากระวานที่ดีที่สุด ชาวบ้านมักจะเข้ามาหาของป่า โดยเฉพาะกระวาน และไม้กฤษณา ....ซึ่งปัจจุบันทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ จะอนุญาตให้ชาวบ้านขึ้นไปเก็บกระวาน และจัดการดูแลต้นกระวานได้เป็นครั้งคราว ...โดยเรียกกันว่าให้ขึ้นไปสวนกระวาน





- เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ ....เส้นทางนี้ อยู่ทางด้านหลังอาคารของที่ทำการเขตฯ เป็นพื้นที่เปิดสำหรับผู้สนใจศึกษาธรรมชาติป่า มีเส้นทางเดินเท้าประมาณ 2.5 กม. สองข้างทางเป็นป่าดงดิบชื้น สภาพทางไม่สูงชันมาก ระหว่างทางมีจุดน่าสนใจ เช่น ต้นไทรยักษ์ขนาดกว่าสิบคนโอบ ที่แผ่รากออกมาคล้ายถ้ำย่อม ๆ คร่อมลำธาร .....มีพันธุ์ไม้หลากหลายชนิด เช่น เร่ว กระวาน กะทือ ต้นยาง สำหรับต้นตะเคียนหิน ตะเคียนทอง ต้นมะหาด แต่ละต้นจะมีขนาดใหญ่มาก หากมาเที่ยวในช่วงเดือนธันวาคม-เมษายน จะได้เห็นดอกโสกเขา ชูช่อสีส้มแดง ให้เห็นตลอดทาง ขณะที่รอบๆบริเวณก็หอมอบอวลไปด้วยดอกมะลิป่า จำปีป่า จำปูน และมีโอกาสได้เห็นนกเฉพาะถิ่น รวมทั้งผีเสื้อที่มีอยู่มากมายหลายชนิด



















การเดินทาง ......เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว อยู่ห่างจากตัวเมืองจันทบุรีประมาณ 70 กิโลเมตร ไปตามทางหลวงหมายเลข 317 ที่มุ่งสู่อำเภอสระแก้ว ผ่านอำเภอโป่งน้ำร้อน ถึงหลักกิโลเมตรที่ 22 ก่อนจะถึงตลาดปะตง จะมีทางแยกซ้ายมือ เข้าไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว และน้ำตกเขาสอยดาวอยู่ห่างออกไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร





ที่พักและสิ่งอำนวยความสะดวก ...... เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว มีเรือนพักขนาดใหญ่ สามารถเข้าพักได้ 20 คนขึ้นไป โดยเสียค่าธรรมเนียม 300 บาท/คืน และมีเรือนรับรองติดแอร์ด้วย นอกจากนั้นยังมีห้องบรรยาย ฉายสไลด์ รวมทั้งมีวิทยากรบรรยายสภาพทั่วไปของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฯ เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นไปอย่างถูกต้อง ....มีลานกางเต็นท์ บริเวณแคมป์ไฟ อันนี้ไม่เสียค่าบริการ หากต้องการนำรถเข้าไปในพื้นที่ ควรจะติดต่อเจ้าหน้าที่ด้วย เวลาเปิดให้เข้าชม 06.00-18.00 น. …หากต้องการติดต่อล่วงหน้า เชิญที่ สถานีพัฒนาและส่งเสริมการอนุรักษ์สัตว์ป่าทรายขาว ตู้ ปณ.15 อำเภอสอยดาว จันทบุรี 22180 หรือ ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า กรมป่าไม้ กรุงเทพฯ โทร. 0 -2579 9776











หมายเหตุที่ 1 : เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเขาสอยดาว เป็นผืนป่าอนุรักษ์ในรูปแบบของ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า รูปแบบของการจัดการ จึงมีกฎระเบียบที่เข้มงวดกว่าอุทยานแห่งชาติ โดยเหตุที่ว่า เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิดตามธรรมชาติ ที่จะไม่ถูกรบกวนจากมนุษย์




ซึ่งจากการสำรวจพบว่า มีสัตว์ป่าในเขตฯเขาสอยดาว ไม่น้อยกว่า 562 ชนิด จำนวนแมลงไม่น้อยกว่า 94 ชนิด สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมจำนวน 125 ชนิด มีสัตว์ขนาดใหญ่ได้แก่ ช้าง เสือ กระทิง เลียงผา หมี จำพวกนก ไม่น้อยกว่า 280 ชนิด ชนิดที่สำคัญได้แก่ ไก่ฟ้าหลังขาว ไก่ฟ้าพญาลอ นกกระทาดงจันทบูรณ์ สัตว์เลื้อยคลานไม่น้อยกว่า 89 ชนิด และสัตว์สะเทินน้ำสะเทินบก ไม่น้อยกว่า 31 ชนิด โดยเฉพาะ กบ อกหนาม ซึ่งเป็นสัตว์เฉพาะถิ่น ที่พบเฉพาะในเขตฯเขาสอยดาวเพียงแห่งเดียวเท่านั้น





ดังนั้นหากมีความประสงค์จะเข้าไปในพื้นที่ จึงจำเป็นต้องขออนุญาตจากกรมป่าไม้เสียก่อน เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 15 วันสำหรับการเข้าไปในพื้นที่และพักแรมภายในเขตฯ แต่หากเป็นการไปทัศนศึกษาภายในวันเดียว โดยไม่มีการพักแรม ก็สามารถกระทำได้แบบไม่ยากนัก






กบ อกหนาม









หมายเหตุที่ 2 : มีกระทู้เรื่องขอข้อมูลไปเที่ยวน้ำตกเขาสอยดาว ซึ่งมีคนโพสต์เอาไว้ แล้วมีคนเข้ามาตอบ ผมขอนำมาให้เพื่อนๆ อ่านประกอบนะครับ …..




“ ผมเคยไปที่นี่ เมื่อตอนอยู่ ม.4ครับ ฮ่าๆๆ นานมากแล้ว เป็นครั้งแรกเลย ที่เดินป่าอย่างจริงๆจังๆ ไม่มีวันลืมที่นี่เลย จำได้....ไปกับค่ายอนุรักษ์ที่โรงเรียน ไม่ได้เตรียมตัวอะไรไปเลยนอนหนาวเหน็บ ของที่เอาไปก็ไม่ได้นำเอาของที่มีประโยชน์ไป ก่อไฟก็ไม่เป็น หุงข้าวนี่ไม่ต้องพูดถึง กางเต็นท์ยังไม่เป็นเลย ฮ่าๆๆ ดังนั้นข้อมูลของผมอาจจะเชยระเบิด เพราะมันนานมาแล้ว เอาเท่าที่จำความได้ก็แล้วกันนะทั่น ถนนหนทางเป็นยังไง ลำบากมากมั๊ย? ....ลาดยางยาวเลยครับ พอถึงทางแยกเข้าเขตฯจะเป็นลูกรัง ซึ่งลึกเข้าไปจากถนนใหญ่ ....เค้าให้พักในเขตน้ำตกมั๊ย? ......สบายมาก ลองไปติดต่อดู แต่ทางขึ้นเขา เอาการละครับ ชันดี แต่ไม่ตลอดทั้งหมด จะชันเป็นช่วงๆครับ ....นอกจากน้ำตกแล้ว มีอะไรให้เที่ยวอีก? มี ยอดเขาไงครับ สูงXXX ม. จำไม่ได้ เพราะตอนนั้นยังไม่ได้สนใจอะไร? น้ำน่ะ มีตลอดเส้นทาง .....มีอะไรอีก?.....มีสารพัดเลย พรรณไม้แปลกๆ ตรึม แต่จำไม่ได้เลยซักต้น ฮ่าๆๆ ขอให้สนุก ผมช่วยได้เท่านี้ล่ะครับ เพราะไปมานานมากโขแล้วทั่น ฮ่าๆๆ....”





อีกท่านเขียนบอกว่า “ป่าสอยดาว เป็นป่าที่ผมชอบมาก ไปเที่ยวบ่อยแทบจะเป็นป่าประจำตัวแล้ว อยากจะแนะนำข้อมูลให้ เขาสอยดาวนี่ มีน้ำตกที่สวยงามมาก มีชั้นทั้งหมด 16 ชั้น แต่ผมเห็นส่วนใหญ่ เล่นกันแค่ชั้น 5 และชั้น 6 เพราะนอกจากนี้ไป ทางจะลื่น แต่ช่วงนี้คงไม่เท่าไหร่ ชั้นที่สวยงามที่สุดคือ ชั้น 9 และชั้น 10 เป็นน้ำตกจากหน้าผาสูง ....ขอแนะนำ หยุดแค่ชั้นนี้พอแล้ว เพราะชั้น 16 เป็นลำธารธรรมดาเหมือนชั้นล่างเลย ขึ้นไปก็ไม่คุ้มเหนื่อย ขอแนะนำว่า ข้างบนจะเปลี่ยวและรกมาก .....ชั้นล่างถึงชั้น 16 พวกผมเดินไปกับคนนำทาง ใช้เวลาแค่ชั่วโมงเดียว แต่เดินแบบคนเดินป่าเป็นนะครับ เอ่อ ผมมีเส้นทางเดินลัดไปชั้น 16 ให้คุณ คือคุณต้องข้ามลำธารไปอีกฝั่งหนึ่ง(จากชั้นล่าง) เดินไปครึ่งชั่วโมงก็จะทะลุไปชั้น 16 เลย แต่จะไม่ผ่านชั้นน้ำตกนะครับ




.....ถามว่าน้ำมากไหม? น้ำมากพอสมควร สวยดี ....กางเต็นท์ได้ ตรงลานที่พักบ้านรับรอง สะอาดด้วย มีอาหารขายถึง 6 โมงเย็น ....ส่วนการเดินทาง เป็นถนนลาดยางตลอด จนถึงน้ำตก สะดวกมาก เข้าได้ถึง 2 ทุ่มน่ะ ผู้หญิงเดินได้สบายมากสำหรับน้ำตกนี้ อ้อ ตลาดปะตง ก็คือชื่อเดิม ของอำเภอสอยดาวนั่นแหละ



..... ขอตอบข้อมูลที่ถามนะครับ 1.ห้องน้ำสะดวก สะอาดใช้ได้ อยู่ตรงที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ส่วนที่ตัวน้ำตก ผมไม่แน่ใจ 2.อากาศหนาว คาดว่าน่ะ แต่อากาศมักจะไม่แน่นอน ฝนก็พอมี 3.ที่นี่กางเต็นท์ ดูดาวได้ แต่อาจเห็นไม่มาก เพราะอยู่ในพื้นที่ที่ไม่สูง ขอแนะนำว่า ถ้าอยากเที่ยวป่าเขาสอยดาวให้ถึงแก่นจริงๆ ไปที่ บึงซีโต้ ซิครับ เป็นบึงน้ำอยู่บนยอดเขาสอยดาวใต้ ตรงที่นั่น จะเห็นดาวชัด เห็นฝั่งเขมรเลย เนื่องจากอยู่สูงมาก ป่าก็เป็นธรรมชาติมาก ขากลับพวกผมยังเคยเจอหมีปีนจากต้นยาง แต่มันหนีพวกเราน่ะ ป่าโบราณที่นี่เหมือนที่น้ำตกแม่ยะ แถวดอยอินทนนท์เลย แต่ที่นี่สวยมาก เพราะจะไม่ค่อยมีคนขึ้น ขนาดพวกผม ชายฉกรรจ์ ขึ้นตั้งแต่ 7 โมงเช้า ถึง ห้าโมงเย็น ทางไม่ชันเหมือนภูกระดึงหรอก แต่รก เดินไกล และทากเยอะ




....ตอนผมไป เคยติดต่อป่าไม้ แต่แกพาพวกเราหลง ต่อมาพวกเราเลยติดต่อพรานนำทาง เก่งมากเลย มีน้ำใจอัธยาศัยดี เทคแคร์ตลอด อาชีพเสริมของพรานคนนี้ คือวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เข้าไปถามหาเลย ชื่อวินัย ส่วนค่านำทาง ผมตังค์หมด เลยให้คนละ 700 (เพราะไป 2 วัน) ถ้ามีตังค์ จะให้ไปคนละพัน เพราะแกบริการดีเหลือเกิน เขาลูกนี้สวยมากครับ น่าทะนุถนอม ผมหวงมาก(แม้จะไม่ใช่ของเรา) แต่ประทับใจและภูมิใจที่พิชิต เขายอดที่สูงที่สุดของภาคตะวันออกได้




.....เอ่อ ขอแนะนำว่า อย่าเอาอย่างผมนะ คือ ผมไม่ได้ติดต่อเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ผมไปกันเองกับชาวบ้าน .....อันนี้ไม่ดีครับ การเข้าไป ควรจะบอกให้เจ้าหน้าที่เขารู้ หวังว่าข้อมูลนี้คงจะเป็นประโยชน์นะครับ”














“ผมเพิ่งไปมา ช่วงนี้น้ำเยอะ ถ้าจะขึ้นทางน้ำตก ต้องลงมาก่อน18.00 น.นะครับ มีผีเสื้อพอสมควร ถ้าจะค้างบนน้ำตก บนยอดน่ะ ควรจะต้องติดต่อ จนท.เขาก่อน เพื่อเขาจะได้รับทราบ และควรแวะตุนเสบียงจากในตลาดไปเสียก่อน”





หวังว่าหลังจากอ่านคำตอบของกระทู้นี้ คงจะได้ข้อมูลเพิ่มขึ้น





(ยังมีต่อ)









โดย yyswim













Create Date : 13 กรกฎาคม 2550
Last Update : 8 พฤษภาคม 2551 0:51:59 น. 50 comments
Counter : 14183 Pageviews.

 



7. น้ำตกขุนพอง จังหวัดเลย




040





เป็นน้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในอุทยานแห่งชาติภูกระดึง เกิดขึ้นจากลำธารหลายสาย ไหลมารวมกัน ได้แก่ลำธารวังกวาง, ธารสวรรค์, ธารพระองค์, ธารถ้ำสอ แล้วจึงรวมเป็นน้ำตก เป็นน้ำตกที่อยู่ในป่าปิด ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวในฤดูฝน เพราะการเดินทางจะเสี่ยงอันตรายและไม่สะดวก จะให้เที่ยวได้เฉพาะในฤดูหนาวและฤดูร้อน คือ ตั้งแต่ปลายเดือนพฤศจิกายนถึงกลางเดือนมิถุนายน และต้องทำเรื่องขออนุญาตก่อนจะขึ้นไปชม




ระยะทางจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เดินทางด้วยเท้าสู่น้ำตกขุนพอง ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. จะต้องเดินผ่านป่าสนและป่าดงดิบระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร เสียงดังของสายน้ำตก จะได้ยินแต่ไกลก่อนที่จะได้เห็นตัวน้ำตกจริงๆ แล้วทุกคนจะต้องปีนลงสู่ หนทางสูงชันเบื้องล่างอย่างระมัดระวัง แล้วภาพน้ำตกสวยงามก็จะปรากฏให้เห็น คุ้มค่ากับระยะเวลาและความยากลำบาก



สายน้ำ ที่ตกรุนแรงแบบถาโถมลงมา ตกลงมาเป็นชั้นๆจากที่สูง สูงไม่น้อยกว่า 60 เมตรบวกกับสีแดงสดของใบเมเปิ้ล สร้างความสวยงามและแปลกตาแบบไม่น่าเชื่อว่า” จะมีภาพแบบนี้ที่น้ำตกของไทยเรา” …. นับเป็นความงามกลางป่าใหญ่ที่น้อยคนนักจะได้เห็น เปรียบเสมือนเป็นเพชรเม็ดงามกลางป่าปิดทีเดียว



041




042





ที่จริงหากใครจะขึ้นภูกระดึง ผมอยากจะแนะนำว่า ควรจะมีเวลาในการท่องเที่ยวบนภูกระดึง สัก 3 วัน จึงจะคุ้มค่ากับการเดินทางฝ่าความสูงชันขึ้นไป และควรจะหาโอกาสไปชมน้ำตกอื่นๆด้วย ...เช่น น้ำตกวังกวาง น้ำตกถ้ำสอเหนือ น้ำตกถ้ำสอใต้ น้ำตกเพ็ญพบ น้ำตกโผนพบ และน้ำตกหงษ์ทอง เพราะเป็นน้ำตกที่มีธารน้ำใส น้ำเย็น และสวยงามเช่นกัน เพียงแต่มีขนาดไม่ใหญ่เท่าน้ำตกขุนพองเท่านั้น และควรจะเลือกไปเที่ยวบนภูกระดึง ในช่วงหลังฤดูฝนต่อฤดูหนาว คือราวเดือนตุลาคมถึงธันวาคมเท่านั้น เพราะหลังจากนั้นน้ำตกจะมีน้ำน้อย ไม่ค่อยสวย



043




การเดินทาง…….อุทยานแห่งชาติภูกระดึง ตั้งอยู่ที่ หมู่ 1 บ้านศรีฐาน ตำบลศรีฐาน อำเภอภูกระดึง จังหวัดเลย ...จากตัวเมืองเลย ใช้ทางหลวงหมายเลข 201 (เลย-ภูกระดึง) แยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2019 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 276 ประมาณ 8 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง ..... หรือจากกรุงเทพฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน ผ่านตัวเมืองสระบุรี แล้วเลี้ยวขวา เข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 21 ผ่าน เขตจังหวัดลพบุรี เพชรบูรณ์ เมื่อผ่านบ้านถ้ำพระ ไปประมาณ 10 กิโลเมตร จะพบสี่แยกใหญ่ ให้เลี้ยวขวาเข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 12 สู่อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ เมื่อผ่านอำเภอคอนสาร ไปแล้วจะพบสามแยกใหญ่ ให้เลี้ยวซ้ายเข้า เส้นทางหลวงหมายเลข 201 สู่จังหวัดเลย จากนั้นแยกซ้าย เข้าเส้นทางหลวงหมายเลข 2019 บริเวณหลักกิโลเมตรที่ 276 ประมาณ 8 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานฯ



อุทยานแห่งชาติภูกระดึง มีบ้านพักสำหรับนักท่องเที่ยว เป็นเรือนแถว 2 หลัง เต็นท์ 300 หลัง และนักท่องเที่ยวสามารถจะนำเต็นท์ของตัวเองขึ้นไปได้ โดยให้กางเต็นท์ในบริเวณที่จัดไว้เท่านั้น เสียค่าธรรมเนียมคนละ 5 บาท ติดต่อสำรองที่พักที่ กรมป่าไม้ โทร (02) 579-7223, 579-5734 หรือที่ทำการอุทยานแห่งชาติภูกระดึง โทร. (042) 812-534 ต่อ 146 ……สำหรับอาหารและเครื่องดื่ม ในฤดูท่องเที่ยวจะมีร้านค้าหลายร้าน ตั้งอยู่ที่เชิงภูและบนยอดภู ซึ่งทางอุทยานฯ จะมีการจัดการที่เป็นระเบียบ สะอาด ราคายุติธรรม และยังมีร้านค้า และแคร่พัก เป็นเพิงไม้ไผ่ เรียงรายอย่างเป็นระเบียบตลอดสองข้างทางที่เดินขึ้นด้วย ส่วนลูกหาบนั้น สามารถติดต่อได้ ณ ที่ทำการอุทยานฯ ก่อนจะเดินทางขึ้นภูกระดึง




044





หมายเหตุอีกแล้ว : หมายเหตุที่ 1 : ภูกระดึงได้รับการจัดตั้งเป็น อุทยานแห่งชาติ เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2502 นับเป็นอุทยานแห่งชาติลำดับที่สอง ถัดจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ครอบคลุมพื้นที่ 217,575 ไร่ ลักษณะภูมิประเทศเป็นภูเขาหินทรายยอดตัด มีที่ราบบนยอดภูกระดึง ประมาณ 60 ตารางกิโลเมตร หรือประมาณ 37,500 ไร่ มีความสูงระหว่าง 400-1,200 เมตรจากระดับน้ำทะเล จุดสูงสุดอยู่ที่บริเวณ คอกเมย คือมีความสูง 1,316 เมตร ….บนภูกระดึง มีธรรมชาติที่นักท่องเที่ยวประทับใจหลายอย่าง ทั้งการชมพระอาทิตย์อัสดงที่ผาหล่มสัก, การสำรวจพรรณไม้นานาชนิด(เช่น ไฟเดือนห้าที่แดงสด และดงป่าสนอันกว้างใหญ่) และการชมน้ำตกขุนพองที่สวยงามแปลกตา ...ในช่วงวันหยุดยาว จะมีนักท่องเที่ยวขึ้นไปบนภูกระดึงราวหนึ่งหมื่นคน หากหยุด 4 วันมักจะเดินทางขึ้น 1 วัน, ท่องน้ำตก 1 วัน, เลียบผา 1 วัน, ลง 1 วัน. หากหยุด 3 วันมักจะเดินทางขึ้น 1 วัน เที่ยว 1 วัน ลง 1 วัน คนที่มีสุขภาพที่ดี อาจจะสามารถเดินเที่ยวเส้นทางน้ำตกพร้อมกับเส้นทางหน้าผาได้ภายในวันเดียว แต่จะไม่เหมาะกับผู้ที่มีสุขภาพไม่ดี





หมายเหตุที่ 2 : มีกระทู้ใน Pantip ตั้งกระทู้โดยคุณใบไผ่_npc เล่าถึงการเดินทางไปเที่ยวน้ำตกขุนพองว่า


045 ทางลงสู่ น้ำตกขุนพอง




046 ใกล้แล้วครับ เดินคนเดียวก็ไปเรื่อยๆ





ได้ยินเสียงน้ำตกจากหน้าผาอย่างแรง ถึงแล้วครับ น้ำตกขุนพองที่หมายของการเดินทาง เคยคิดไว้ว่าถ้าบ่าย 2 โมงยังมาไม่ถึงขุนพอง เราจะหันหลังกลับ แต่เรามาถึงตอนเที่ยงพอดี ...มองจากทางด้านบนแล้ว ขุนพองยิ่งใหญ่มาก หน้าน้ำแบบนี้ต่างจากช่วงธันวาคม ......เราเดินลงสู่ชั้นล่างครับ ทางลงชันและลื่นมาก เพราะฝนและมีละอองของน้ำตก นำเอาละอองน้ำไปคลุมทางเดิน ….แต่ที่สุดเราก็ “ ลงมาถึงแล้ว!!!! สายน้ำแห่งขุนพอง”




047




048




049




050




051




052





โดย: yyswim วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:19:12 น.  

 



8. น้ำตกเหวนรก จังหวัดนครนายก




053





น้ำตกเหวนรก ตั้งอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทางด้านอำเภอปากพลี จังหวัดนครนายก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ที่สุดของภาคกลางเลยก็ว่าได้ ด้วยสภาพผืนป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของคลองสมอปูน และยังมีสายธารเล็กๆอีกหลายสาย ที่ไหลมารวมกัน เป็นธารน้ำตกเหวนรก ซึ่งไหลตกลงจากหน้าผา สูงดิ่งชันราว 90 องศา เป็น 3 ชั้นใหญ่ๆด้วยกัน โดยชั้นแรกมีความสูงราว 60 เมตร และไหลลงสู่ผาน้ำตกชั้นที่ 2 และชั้นที่ 3 ที่มีความสูงรวมกันกว่า 100 เมตร ตกลงสู่หุบธารที่ขนาบด้วยผาสูงชันเป็นรูปตัว V




ความสูงชันของผาน้ำตก กับปริมาณของน้ำมากมายมหาศาลนี้ ทำให้สายน้ำไหลตกลงกระทบแผ่นผาเบื้องล่างจนเกิดเสียงดังสนั่นก้องไปทั้งหุบเขา และเกิดละอองไอลอยคลุมไปทั่วบริเวณ จนดูลึกลับและน่าเกรงขาม ทำให้ผู้คนขนานนามน้ำตกนี้ว่า "น้ำตกเหวนรก"




054





ยิ่งสูงชัน ยิ่งสวย ...ยิ่งน้ำมาก ยิ่งสวย ในภาพยนตร์ของฮอลลีวู้ดที่เข้ามาถ่ายทำในไทย เรื่อง “ The Beach” ที่มี ลีโอนาโด ดิ คาปริโอ นำแสดง ก็ได้ใช้น้ำตกเหวนรก เป็นฉากหนึ่งของการถ่ายทำ ...และนักท่องเที่ยวคนไทยทั้งหลายก็ชอบที่จะไปเที่ยวน้ำตกเหวนรกในหน้าฝนในเดือนกรกฎาคม ก็ในเดือนนี้นี่เอง เพราะต่างคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ต้องการจะเห็นความดุและความยิ่งใหญ่แบบเต็มๆ ของน้ำตกแห่งนี้




055





นักท่องเที่ยวสามารถจะเดินทางไปชมน้ำตกเหวนรก ชั้นแรกได้ โดยทางอุทยานฯ ได้จัดทำบันไดให้เดินลงไปตามผาหิน และบริเวณหน้าอ่างน้ำตกก็จะมีระเบียงยื่นออกไปให้ชมน้ำตกด้วย แต่จะสามารถลงไปได้แค่ชั้นแรกนี้เท่านั้น เพราะชั้นล่างลงไปอีก 2 ชั้น เป็นผาหินชัน ซึ่งเป็นเส้นทางที่อันตรายมาก ทางอุทยานฯ ได้ปิดตาย ไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเดินลงไป



056





มีข้อแนะนำ… นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวชมน้ำตกเหวนรก ในช่วงที่มีน้ำมากไหลแรง ไม่ควรจะเข้าไปอยู่ใกล้ริมผาของน้ำตกจนเกินไป เพราะผาหินจะลื่น และกระแสน้ำที่พัดแรงจะปะทะหินเป็นระลอก ทำให้เกิดคลื่นพัดกวาดขึ้นมาเป็นระยะๆ นักท่องเที่ยวที่เข้าไปอยู่ใกล้บริเวณนี้ อาจจะถูกคลื่นกวาดลงไปในสายน้ำที่เชี่ยวกราก ตกลงสู่เหวนรกเบื้องล่างได้ เพราะขนาดช้างป่าก็ยังถูกพัดกวาดตกลงไปเสียชีวิตเป็นจำนวนหลายตัวแล้ว ...จะแปลกอะไรกับคน หากจะถูกพัดพาลงไปอีกบ้าง จึงควรที่จะไปเที่ยวน้ำตกแห่งนี้ในหน้าฝน อย่างคนมีสติ



อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นอกจากจะมีน้ำตกเหวนรกแล้ว ยังมีน้ำตกสวยงามอื่นๆ เช่น น้ำตกเหวสุวัต ตั้งอยู่สุดถนนธนะรัชต์ น้ำตกผากล้วยไม้ น้ำตกเหวไทร และน้ำตกเหวประทุน อีกด้วย




057





การเดินทาง....... ทำได้ 2 เส้นทางด้วยกัน คือ จากกรุงเทพฯ ไปตามถนนพหลโยธิน เลี้ยวขวาไปสู่นครนายก และใช้ทางหลวงหมายเลข 33 ถนนสุวรรณศร ที่มุ่งไปสู่จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อไปถึงสี่แยกเนินหอมแล้ว จะพบทางแยกซ้ายมือ ขึ้นสู่เขาใหญ่ (ทางหลวงหมายเลข 3077) และที่บริเวณกิโลเมตรที่ 21-22 จะพบทางแยกเข้าสู่ น้ำตกเหวนรก จอดรถไว้ที่ปากทาง และต้องเดินเท้าเข้าไปอีก 1 กิโลเมตร .... อีกเส้นทางหนึ่ง จากกรุงเทพฯ โดยถนนพหลโยธิน ผ่านรังสิต สระบุรี เลี้ยวขวาเข้าทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2 หรือถนนมิตรภาพ ผ่านมวกเหล็กถึงปากช่อง บริเวณกิโลเมตรที่ 56 มีป้ายบอกทางแยกไปเขาใหญ่ ให้ชิดซ้ายข้ามสะพานลอย เข้าสู่ถนนธนะรัชต์ ประมาณ 23 กิโลเมตร จะถึงด่านตรวจของอุทยานฯ เขาใหญ่ จากนั้นเส้นทางจะขึ้นเขาสูงชัน คดเคี้ยวไปอีกราว 15 กิโลเมตร ก็จะถึงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ....ซึ่งหากจะไปเที่ยวชมน้ำตกเหวนรก จะต้องใช้เส้นทางหมายเลข 3077 หรือเส้นทางที่จะลงมาสู่จังหวัดปราจีนบุรี



สำหรับที่พักแรม ทางอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้จัดพื้นที่กางเต็นท์ไว้บริเวณผากล้วยไม้ มีห้องน้ำและร้านค้า มีอาหารบริการ แต่ต้องแจ้งขออนุญาตเข้าพักเสียก่อน ณ ที่ทำการบนอุทยานฯ ก่อน 16.00 น..






โดย: yyswim วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:20:51 น.  

 



9. น้ำตกห้วยขมิ้น จังหวัดกาญจนบุรี




058




059





น้ำตกห้วยขมิ้น ได้ชื่อว่าเป็นนางพญาแห่งผืนป่ากาญจนบุรี ตั้งอยู่บริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ ด้วยสภาพของโครงสร้างผาน้ำตกที่เป็นหินปูน ทำให้ลีลาการไหลของน้ำดูงดงามเป็นเชิงชั้น ค่อยๆไหลลดหลั่นลงสู่แอ่งน้ำเบื้องล่าง



แบ่งออกเป็น 7 ชั้น โดยแต่ละชั้น จะมีชื่อเฉพาะ เช่น ...ชั้นที่ 1 ชื่อ ดงว่าน ...ชั้นที่ 3 ชื่อ วังหน้าผา....ชั้นที่ 4 ชื่อ ฉัตรแก้ว ...ชั้นที่ 5 ชื่อ ไหลจนหลง ...... ชั้นที่ 6 ชื่อ ดงผีเสื้อ ….ชื่อของน้ำตก ชั้นอื่นๆ เช่น ม่านขมิ้น ร่มเกล้า



060 ชั้นที่ 1 ชื่อ ดงว่าน




061




062





063 ชั้นที่ 3 ชื่อ วังหน้าผา




064




065 ชั้นที่ 4 ชื่อ ฉัตรแก้ว





066





รอบๆข้างน้ำตก จะร่มรื่นไปด้วยพรรณไม้ป่านานาชนิด มีทางเดินเท้าสำหรับการขึ้นไปชมน้ำตกแต่ละชั้น ทำให้สะดวกดี น้ำก็ใส และไม่ไหลรุนแรงเกินไป



067 เส้นทางลัด เดินชมน้ำตกห้วยขมิ้น 7 ชั้น




068 กรี๊ดดดด




069 สะ หนูก มากกก






ช่วงที่เหมาะสำหรับการไปเที่ยวน้ำตกห้วยขมิ้น คือ ในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ช่วงหน้าฝนเช่นในเดือนกรกฎาคมนี้ เขาไม่ได้ห้ามไปเที่ยว แต่เพราะทางเข้าเป็นถนนลูกรัง ทำให้ถนนเป็นหลุมโคลน รถอาจติดหล่มได้ จะไม่สะดวกต่อการเดินทาง …ค่าเข้าชม ผู้ใหญ่ 80 บาท, รถ 30 บาท เด็กๆ ฟรี



070




071





ในบริเวณอุทยานฯ มีบ้านพักและสถานที่กางเต็นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยว สอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติเขื่อนศรีนครินทร์ โทร. 0 3451 6667, 0 3457-0529, 0 3457-4842 หรือที่ส่วนอุทยานแห่งชาติ กรมป่าไม้ โทร. (02) 579-7223, 579-5734




072 บ้านพักราคาค่าเช่า 900 บาทต่อหลัง




073 นอนได้ 3 คน





074 ปกติเต็นท์จะกางบนสนาม แต่เมื่อคืนฝนตก ก็เลยเป็นแบบนี้





การเดินทาง…… ใช้เส้นทางสายกาญจนบุรี-เอราวัณ ผ่านถ้ำพระธาตุห้วยพุมุด (วัดพุมุด) เข้าถึงบริเวณน้ำตกห้วยขมิ้น รวมระยะทางประมาณ 104 กิโลเมตร ....อุอุ ไกลสักหน่อย หากเทียบกับน้ำตกอื่นๆ และเส้นทางไปน้ำตก ก็ยังคงเป็นถนนดิน แต่ใช้การได้ดีในหน้าแล้ง แต่จะลื่นและเป็นหล่มโคลนในหน้าฝน ...จึงควรจะเดินทางไปเที่ยวน้ำตกห้วยขมิ้นด้วยรถที่มีกำลังขับเคลื่อนสูง หรืออาจจะเช่ารถสองแถวจากตัวเมือง หรือเช่าที่ตลาดเขื่อนศรีนครินทร์ หรือเดินทางโดยทางเรือ โดยลงเรือที่ท่าหม่องกระแทะ หรือท่าเรือท่ากระดาน ซึ่งอยู่ห่างจากทางแยกเข้าเขื่อนศรีนครินทร์ประมาณ 12 กิโลเมตร




075




076




077





หมายเหตุ : มีกระทู้ถามตอบ เรื่องการเดินทางไปน้ำตกห้วยขมิ้น อยู่ที่เว๊ปนี้ ใครสนใจอยากจะไป กรุณาอ่านเพิ่มเติมเสียก่อน ... กดที่นี่…. อุอุ หากใครคิดจะไปโดยรถเก๋ง รถเก๋งพังแน่ ครับ




โดย: yyswim วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:22:26 น.  

 



10. น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก




078




079





น้ำตกทีลอซู อยู่ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง จังหวัดตาก เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ของผืนป่าตะวันตก ต้นน้ำเกิดจากห้วย กล้อท้อ ซึ่งเป็นลำน้ำใหญ่ในป่าดงดิบที่อุดมสมบูรณ์ บริเวณรอยต่อชายแดนไทย-พม่า มีปริมาณน้ำมากมหาศาล และด้วยโครงสร้างของน้ำตกที่ไหลจากผาหินปูน ทำให้น้ำตกทีลอซู มีจำนวนชั้นลดหลั่นลงมามากมายหลายชั้น ตกลงสู่ลำธารเบื้องล่างไม่ขาดสายตลอดทั้งปีท่ามกลางป่าดงดิบ ที่จะได้ยินเสียงนก เสียงแมลงร้องระงมป่า




080





น้ำตกทีลอซู มีความสูงจากระดับน้ำทะเล 900 เมตร ความกว้างของน้ำตกประมาณ 500 เมตร คำว่า "ทีลอซู" เป็นภาษากะเหรี่ยง แปลว่า น้ำตกดำ ...ทำไมถึงเรียกว่าน้ำตกดำ ก็ไม่รู้ซินะ เพราะน้ำตกที่ทุกคนมองเห็น มันเป็นสีเขียวปนขาว คล้ายๆกับมีน้ำนมผสมอยู่(สีขาวเพราะเป็นฟองอากาศนั่นเอง) หรือคำว่า "ดำ"ในทีนี้ อาจหมายถึง ความชุ่มฉ่ำอุดมสมบูรณ์ของดินที่น้ำตกไหลผ่านหรือเปล่า? ....อาจจะเป็นได้นะ เพราะมีพรรณไม้ทั้งน้อยและใหญ่หลากหลายพันธุ์ ดูเขียวสดเจริญสมบูรณ์



แต่ของดี ของงาม ไม่ใช่จะได้มาแบบง่ายๆ ...จะต้องแลกมาด้วยความยากลำบากของการเดินทางและระยะทางพอสมควร ...จากบริเวณเขตรักษาพันสัตว์ป่าอุ้มผางที่จะตัดเข้าสู่บริเวณน้ำตกนั้น เป็นเส้นทางวิบากจะต้องเดินป่าราว 2 กิโลเมตร ไม่มีร้านค้า ร้านอาหาร และบริการใด ๆ นอกเสียจากเสียงของสายน้ำและเสียงของลม …สภาพทั่วไปของน้ำตกทีลอซู เป็นป่าดงดิบที่ปกคลุมไปด้วยพืชพันธุ์เขียวขจี ยังคงความเป็นธรรมชาติที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ถึงขนาดบริษัทนำเที่ยวโฆษณาในแผ่นพับของตนเองว่า ...“ ทีลอซู มหัศจรรย์แห่งน้ำตก ติดอันดับ 1 ใน 5 ของเอเชีย”



081





โดยปกติ พื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ทางกรมป่าไม้จะไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวได้ ยกเว้นแต่อนุโลมให้เข้าไปศึกษาธรรมชาติ โดยกำหนดกฎเกณฑ์การเข้าไปเอาไว้ ฉะนั้นผู้ที่จะเข้าไปทุกคน จึงต้องปฏิบัติตามกฎเกณฑ์นั้นอย่างเคร่งครัด และควรจะช่วยกันดูแลรักษาธรรมชาติอันเปราะบางของเมืองไทย ด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษ



082





083





นักท่องเที่ยวทุกคนจะต้องขออนุญาตก่อน โดยผ่านการประทับตรา สป.7 จากกรมป่าไม้ (ติดต่อผ่านชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวและอนุรักษ์อุ้มผาง ตั้งอยู่ที่ กิโลเมตรที่ 163 ถนนแม่สอด-อุ้มผาง ตรงข้ามกับโรงเรียนอุ้มผาง พิทยาคม) ซึ่งทางกรมป่าไม้ มีสิทธิ์ที่จะอนุญาตหรือไม่ก็ได้ โดยจะคำนึงถึงจำนวนนักท่องเที่ยวที่เขตพื้นที่ จะสามารถรองรับได้ นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปโดยไม่ขออนุญาตล่วงหน้า หรือเดินทางไปกันเป็นคณะใหญ่มากๆ ในช่วงวันหยุดเทศกาลต่างๆ อาจจะต้องผิดหวัง




การเดินทาง……. คือเดินทางไปอุ้มผาง อำเภอหนึ่งของจังหวัดตาก โดยใช้เส้นทางตาก-แม่สอด (ทางหลวงหมายเลข 105) และเปลี่ยนเป็นเส้นทางแม่สอด-อุ้มผาง (ทางหลวงหมายเลข 1090) ทางลาดยางตลอดสาย แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ เนื่องจากแถวนั้น ถนนบนภูเขาจะมีความคดโค้งวกวน จนได้ชื่อว่าเป็น”แผ่นดินดอยลอยฟ้า” ระยะทาง 168 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง รถที่จะเข้าไปควรจะเป็นรถที่มีสมรรถนะสูง และผู้ขับจะต้องไม่ประมาท เพราะจะผ่านเส้นทางที่ทั้งแคบ วกวน(1,219โค้ง)และสูงชัน



เมื่อถึงอุ้มผางแล้ว สามารถเดินทางสู่น้ำตกทีลอซู โดยทางรถยนต์ ใช้เส้นทางอุ้มผาง-แม่กลองใหม่-แม่จัน ถึงหลักกิโลเมตรที่ 20 จึงเลี้ยวซ้ายเข้าสู่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง ขับไปอีกประมาณ 26 กิโลเมตร เส้นทางนี้ควรจะใช้รถปิกอัพที่มีกำลังดี หรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น เพราะถนนเป็นร่องลึก บางช่วงสูงชัน และหากเข้าไปในช่วงหน้าฝน อย่างในเดือนกรกาคมเดือนนี้ รถจะเข้าไม่ได้



ทางเขตฯ จะ ปิดทางเข้า-ออก ตรงหน่วยพิทักษ์ป่าห้วยหนองหลวง ในช่วงเวลา 18.30-06.00 น. ของวันใหม่ นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าไปเที่ยวชมน้ำตกทีลอซูโดยไม่ค้างคืน จึงควรจะออกจากน้ำตก ก่อนเวลา 17.00 น. สำหรับนักท่องเที่ยวที่ได้รับอนุญาตให้พักค้างคืน(ซึ่งทางเขตฯ ได้จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวไว้ไม่เกินวันละ 300 คน) จะต้องเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ รวมทั้งอาหาร และน้ำดื่มไปให้พร้อม และต้องพักในบริเวณที่ทางเขตฯ จัดไว้ให้เท่านั้น ….ส่งเสียงเอะอะตีกลองเล่นดนตรียามวิกาล ก็ไม่ควรทำ.



084





บล็อกเรื่องนี้ ยาวมาก นะครับ ..... แต่เชื่อมั๊ย? จขบ.ก็ต้องค้นเยอะเหมือนกัน


ที่ต้องค้นเยอะ เพราะแต่ละเว๊ป จะบอกข้อมูลมาไม่ค่อยจะตรงกัน ก็เลยต้องเช็คให้แน่ใจเสียก่อน หากยังมีข้อผิดพลาดที่ใดอีก ผมต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย .... เพราะผมเองไม่เคยได้ไปเที่ยวน้ำตกเหล่านี้หรอกครับ(เพราะไม่ค่อยจะว่าง แถมรังเกียจพวกทากและยุง) ….แต่นิสัยแท้ๆแล้ว เป็นคนชอบน้ำครับ ชอบทั้งทะเลและน้ำตก เพราะว่ามันอร่อยดี ...อิอิ ยำทะเล ลาบน้ำตก



ขนาดเดสต์ทอปพีซี และเดสต์ทอปโน๊ตบุ๊ค ...ก็ยังเซ็ตภาพน้ำตกโชว์เอาไว้ และสกรีนเซฟเวอร์ ก้อเซ็ตเป็นรูปคลื่นในทะเล



ขอบคุณนะครับ ที่ทนอ่านจนจบ.......


คิดว่า บล็อกเรื่องหน้าจะเสนอเรื่อง “ โรงเรียน 7-Eleven” ครับ






โดย: yyswim วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:23:40 น.  

 



ข้อควรระวังในการเที่ยวน้ำตก




1. หากจะไปเที่ยวในฤดูฝน ควรจะตรวจตรา สังเกต ฟังข่าว เรื่องระดับน้ำ สีของน้ำ ความขุ่นของน้ำ ความเชี่ยวของน้ำ เอาไว้ให้ดี หากสังเกตว่าผิดสังเกต ควรจะรีบออกมาหรือหาทางปีนป่ายขึ้นที่สูง


2. การเดินเที่ยวน้ำตก หากไม่ชำนาญและต้องเดินข้ามน้ำตกไปมาบ่อยครั้ง ควรสู้ทนยอมเปียกกางเกงเปียกเสื้อผ้าด้วยการเดินลุยน้ำ จะดีกว่า เพราะการกระโดดข้ามไปมาตามก้อนหินบ่อยๆ อาจจะเสี่ยงต่อการลื่นล้มได้


3. รองเท้าที่ใช้เดินเที่ยวน้ำตก ไม่ควรจะสวมรองเท้าแตะหรือฟองน้ำ แต่ควรจะสวมรองเท้ายางที่รัดส้น และพื้นใต้รองเท้าอ่อน


4. ไม่หยอกล้อแกล้งกัน ไม่ไถลตัวลงจากทางลาด ไม่เดินแบบคนใจลอย ไม่ชะโงกมองที่หน้าผา เพราะอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้


5. หากจะตั้งแคมป์พักแรม ควรจะตั้งบนที่สูงจากสายน้ำพอสมควร เพราะอาจเกิด
น้ำป่าไหลหลากโดยไม่รู้ตัว


6. เชื่อฟังป้ายตักเตือนที่ทางอุทยาน ทำเตือนไว้ เช่น ป้ายห้ามลงเล่นน้ำในบางบริเวณ เพราะตรงนั้นเป็นแอ่งน้ำวน ก็ไม่ควรจะดื้อฝ่าฝืน


7. ไม่ควรจะเล่นน้ำตก ในที่ลับตาคนเดียว หรือปีนขึ้นชั้นบนของน้ำตกเพียงคนเดียว เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น จะไม่มีใครช่วยเหลือ


8. ระมัดระวังอย่าให้การเที่ยวน้ำตก เป็นการไปรบกวนสัตว์หรือทำลายธรรมชาติ






โดย: yyswim วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:26:42 น.  

 
แวะมาชมภาพน้ำตกสวย ๆ น่ะ

ชอบน้ำตกทีลอซีที่สุด


โดย: Link_conner55 วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:28:10 น.  

 
เซฟบล็อกเนื้อหาวันนี้เอาไว้เลยล่ะคะ เพราะกะว่าสักวันหนึ่งคงจะได้มีโอกาสในการไปเยือนน้ำตกของเมืองไทย ...

อย่างน้อยจากบล็อกวันนี้ คงขอราวๆ 5 ที่ก่อน แล้วที่อื่นที่สวยๆ รอกันต่อไป .. บ้านเราน้ำตกสวยๆ เพียบเลย บางภาพสวยกว่าน้ำตกเมืองนอกอีกแน่ะคะ


ว่าแต่ว่าน้ำตกที่หมายถึงน้ำตกลงมาจากหน้าผาก็สวยงามน่าเล่น น่าไปเยือน แต่ว่าน้ำตกที่เป็นอาหารชนิดหนึ่งของชาวอิสานก็น่ากิน ...ว่าแล้วหิวจัง ...ติดเป็นภาพแรกเต็มสองตา ยังนึกว่าถูกหลอกเรื่องน้ำตกซะแล้วสิค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:12:47 น.  

 



ความรัก......?

ความรักเหมือนอยู่ในกองไฟ ที่เหน็บหนาว
ความรักเหมือนชัยชนะ ที่พ่ายแพ้
ความรักเหมือนความเจ็บไข้ ที่ไม่รู้จักตาย
ความรักเหมือนความจริง ที่เป็นเท็จ
ความรักเหมือนความสุภาพ ที่บ้าคลั่ง
ความรักเป็นทุกสิ่ง ทั้งที่ไม่ได้เป็นอะไรเลย.

♣♣♣♣♣♣♣♣

สวัสดีค่ะ เจี๊ยบเข้ามาทักทายค่ะ
ขอบคุณมากน่ะค่ะที่เข้ามาทักทายกัน
คืนนี้หลับฝันดีน่ะค่ะ แล้วพรุ่งนี้พบกันใหม่

รายาสุรีย์ โทณะวณิก (เจี๊ยบ)
วันที่ ๑๓ กรกฏาคม ๒๕๕๐

♣♣♣♣♣♣♣♣



โดย: Jeab (rayasuree2526 ) วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:46:56 น.  

 




เห็นภาพแรกยิ้มเลยดี.
10 ยอดน้ำตกงดงามของเมืองไทย
เพิ่งไปมา 3 ที่เอง
แต่ถ้าคิดรวมน้ำตกที่ไปเกิน 10 ที่แน่ๆ

น้ำตกกรุงชิง
เป็นที่ที่ดี.ว่าจะๆได้ไปหลายครั้งมาก
แต่ไม่ได้ไปสักที
มีเหตุให้ไม่ได้ไปซ๊าทุกครั้ง





โดย: d__d (มัชชาร ) วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:05:05 น.  

 
ชอบทั้งหมด สวยมาก
ขอบคุณ จขบ. ที่ค้นคว้ามาแชร์กัน
เรื่องหน้าแค่ชื่อเรื่องก็น่าสนใจแล้ว
จะแวะมาอีก


โดย: JD IP: 124.121.56.78 วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:11:53 น.  

 
อยากไปเที่ยวน้ำตกมากๆ เลยเป็นความใฝ่ฝันเลยก็ว่าได้

ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยไปเลย


โดย: โลกนี้ยังมีเมฆอยู่ วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:23:44 น.  

 
ต่อมอยากเที่ยวผลิตสารเคมีมากระตุ้นเราอีกแย้ว
เคยไปแสมสี่ที่เองหละ


โดย: Piterek วันที่: 13 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:17:52 น.  

 

ชอบน้ำตกพลิ้วมากค่ะ เพราะมีปลาเยอะเลย ธรรมชาติสุดๆค่ะ บุ๋มไม่เคยไปเลยซักที่ที่กล่าวถึงทั้งหมดเนี้ยค่ะ

เคยไปที่เดียวคือ น้ำตกป่าละอู เพราะอยู่ที่หัวหิน บ้านตัวเองหน่ะค่ะ

นอนหลับฝันดีนะคะ


โดย: Htervo วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:2:11:10 น.  

 
มีน้ำตกมากมายหลายแบบเลยนะครับเนี่ย
บางแบบก็เอาไว้ชื่นชมอย่างเดียว บางแบบก็เล่นน้ำได้
ผมชอบแบบที่เล่นน้ำได้มากกว่าครับ น้ำในน้ำตกมันเย็นดี

มีหลายอันที่เคยไป และบางอันก็ไม่รู้จักเลย
เอราวัณนี่เคยไปแน่ๆ ครับ ผมไม่ได้ขึ้นไปถึงชั้นบนสุดหรอก
น้ำตกบนภูกระดึงก็เคยไป แต่มันไม่ค่อยมีน้ำนะครับ สงสัยว่าตอนนั้นจะไปหน้าร้อน

น้ำตกเหวนรกดูน่าสนใจมากๆ ครับ
จำได้ว่ามีฉากหนึ่งในเรื่อง the beach ที่ลีโอกระโดดลงมาจากยอดน้ำตก
ไม่รู้ว่าเป็นที่นี่หรือเปล่า ท่าทางน่ากลัว+น่าเล่นเชียวหละ

น้ำตกห้วยขมิ้นดูสวยนะครับ คงเล่นน้ำได้สะใจ
น้ำตกทีลอซูมันช่างใหญ่และน่าอัศจรรย์อะไรอย่างนี้
แต่เคยได้ข่าวว่ามันถล่มลงมานะครับ ไม่รู้ว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง

น้ำตกที่ผมเคยไปส่วนใหญ่จะเป็นน้ำตกเล็กๆ ตามเกาะครับ เช่น เกาะกูด เกาะเต่า
พอไปเกาะแล้วผมชอบแวะไปดูน้ำตกด้วย
แล้วก็มวกเหล็กครับ ใกล้ดี ไปบ่อยสุดเลยมั้ง

รออ่านเรื่อง 7-11 ครับ
กำลังสนใจหาข้อมูลเปิดร้านอยู่พอดี


โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:4:09:44 น.  

 
เฮีนสิน ชอบน้ำตกที่ทานได้รูปแรกค่ะ แต่ขอแบบสุกนะคะ


ส่วนน้ำตกสุดยอดท้อปเท็นของไทย ได้แต่ชื่นชมความสวยค่ะ .....น้ำตกทีลอซู จังหวัดตาก vote

เฮียสบายดีนะคะ


โดย: law of nature วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:5:34:56 น.  

 
emoemoemo

คิดว่าน้ำตกรูปแรกสุดยอดที่สุดแล้วค่ะ emo

น้ำตกสวยทั้งน้านเลยนะคะ แต่อยากไป " ทีลอซู " ที่สุดอ่ะค่ะ ไม่รู้ขึ้นไหวป่าว ยังไงก้อขอชมว่าข้อมูงสุดยอดเหมือนเดิม ยกนิ้วให้ค่ะ

ขอบคุณที่ไปเยี่ยมที่ blog บ่อยๆ นะคะ


โดย: rd_lam วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:42:55 น.  

 


คุณ Link_conner55.......ขอบคุณครับที่เข้ามาเยี่ยม ทีลอซู น้ำตกมหัศจรรย์ 1 ใน 5 ของเอเซีย


คุณนิด....... มีคนบอกว่า เหตุที่เรียกอาหาร(ภาพแรก)ว่า “น้ำตก” เพราะตอนที่ย่างหมูบนเตา มันจะเกิดน้ำตกขึ้นที่เนื้อหมู เขาจะไม่ย่างหมู จนหมูแห้ง เพราะเนื้อหมูจะกระด้างและไม่หวาน เขาจะนำเนื้อหมูขึ้นจากเตา ตอนช่วงเกิดน้ำตกนั่นแหละ อุอุ

เที่ยงนี้ ผมจะจกข้าวเหนียว ส้มตำ ลาบหมู ไก่ย่าง ละครับ กินด้วยกันมั๊ย?


คุณเจี๊ยบ.......ขอบคุณครับคุณเจี๊ยบที่เข้ามาเยี่ยม ตอนนี้ที่บล๊อกบ้านคุณมีเพลงสากลจังหวะเย็นๆ ร้องโดยนักร้องเสียงทรงพลังนะครับ เพราะดีครับ


คุณดี.......น้ำตกกรุงชิง เป็นน้ำตกที่เมืองนคร เมืองดังเรื่อง จตุคาม เป็นน้ำตกที่ในอดีตยิ่งใหญ่มาก เพราะเกิดจากเขาหลวง เขาที่สูงที่สุดของภาคใต้(ผมมองจากเกาะ บ้านผม ก็มองเห็นเขาหลวงครับ) เสียดายครับคุณดี ...ตอนนี้สายน้ำที่น้ำตกกรุงชิงน้อยลง ทากก็น้อยลง เพราะเขาหลวง มีการแผ้วถางป่า ทำไร่สวน ไปมากแล้ว

ไม่เหมือนกับน้ำตกห้วยขมิ้น หรือน้ำตกทีลอซู ที่เกิดจากเทือกเขาชายแดนไทย-พม่า ซึ่งยังคงความอลังการ น้ำยังค่อนข้างมาก

หากอยากจะเห็นน้ำตกที่มีสายน้ำมาก ของทางใต้ ผมเสนอว่า น้ำตกบาโจ ที่เมืองนราธิวาส ครับ เกิดจากเทือเขาสันกาลาคีรี(ไม่แน่ใจว่าจะสะกดถูกหรือเปล่า) เทือกเขาแห่งนี้ อยู่ติดมาเลเซีย ยังมีทากเยอะ นกเงือกก็ยังมีครับ





โดย: yyswim วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:45:08 น.  

 


คุณ J D……ขอบคุณเจ๊ ที่เข้ามาเยี่ยมเสมอๆ บล๊อกเรื่องหน้า ยังหารูปภาพไม่ได้ครับ


คุณ โลกนี้ยังมีเมฆอยู่......หากมีคุณเมฆ โลกนี้ก็จะยังมีน้ำฝน และมีน้ำตกครับ

เกิดมายังไม่เคยไป(กิน)น้ำตก เหรอครับ อิอิ ล้อแล้นนน


คุณ Piterek.....ไปแค่ แสมสี่ที่ ก็นับว่าเก่งแล้ว เพราะจขบ. ยังไปน้อยกว่าคุณ


คุณบุ๋ม......น้ำตกป่าละอู ของจังหวัดประจวบ เกิดจากเทือกเขาชายแดนไทย-พม่า อยู่ห่างจากถนนเพชรเกษม ประมาณ 100 กิโล ถนนลาดยาง แถบนั้นยังเป็นป่าร่มครึ้ม

ผมชอบครับ น้ำตกป่าละอู น้ำเยอะดี มีตั้งหลายชั้น ผีเสื้อเป็นมิตรดี จะจับมาเกาะบนบ่า มันก็ไม่ว่า แถวนั้นอาหารป่าก็เยอะ โฮะโฮะ ไปทีไร กินเก้งกวางหมูป่าทุกครั้ง คุณบุ๋มเคยทานบ้างมั๊ย?




โดย: yyswim วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:46:33 น.  

 


เจฟ......ถ้าจะเปิดร้านค้าปลีก ต้องเคยอยู่กับร้านค้าปลีกมาตั้งแต่เด็ก ต้องเคยเปิดร้าน ปิดร้าน เคยเฝ้าร้าน ซึ่งพวกนี้หากไม่เคยทำ พอทำไปสักพัก จะเบื่อ เชื่อผมเหอะ เบื่อจริงๆ ถ้าไม่เคยทำ ผมมักจะแนะนำ ผู้เริ่มต้นธุรกิจให้ค้าส่ง แทนการค้าปลีก เพราะไม่น่าเบื่อ ยิ่งขายดี ยิ่งสนุก และมีโอกาสเป็นเจ้าพ่อค้าส่งได้ ผู้ค้าส่งใหญ่ ไม่กระจอกนะครับ รวยทีเดียว ผู้ค้าปลีกมักได้กะตังค์น้อย และต้องเฝ้าร้าน

ถ้าคิดว่าก็จ้างเด็ก ซิ ...ขายปลีกจ้างเด็ก อาจจะเงินหายครับ เพราะมีการต่อองราคา ต้องเป็นสินค้าที่ราคาห้ามต่อจึงจะจ้างเด็กขายได้ อ้อ งั้นก็เป็น 7-Eleven

ใช่ครับ 7-Eleven ร้านแบบนี้ ห้ามต่อรองราคา จ้างเด็กขายได้ และขายดีครับ แต่ จะไม่ค่อยรวยหรอก พอเริ่มจะมีลูกค้ามากขึ้น ร้าน 7-Eleven ร้านที่สอง ก็จะมาลงตรงข้ามถนน เชื่อซี มีทุกที่แหละ อุอุ

เรื่องทำธุรกิจ อยากรู้แนวไหน หลังไมค์ หรือ อีเมล์ไปนะ ตอบได้ จะตอบให้เกลี้ยงเลย....เสียดายที่ไม่ค่อยจะนำเรื่องแนวนี้มาเขียน ลงบล๊อก

ขอบคุณทีเข้ามาเมนต์ให้อ่าน ตั้งเยอะ แถมต้องอ่านยาวๆ เกรงใจเหมือนกัน เพราะเจฟ นายมีงานเยอะ และมีเพื่อนบล๊อก เยอะมั่กมาก


คุณเน.......ลาบ น้ำตก หากปรุงสุกเกินไป จะไม่หวาน จะไม่นุ่มครับ แต่หากชอบแบบนั้น ร้านค้าทำให้ได้อยู่แล้ว แถวที่ทำงานผม ก็มีอร่อย เขาจะปรุงให้ผมเป็นพิเศษ อุอุ เผ็ดเป็นพิเศษ ผมทานบ่อยครับ เพราะชอบกินผัก

ทีลอซู อยู่อุ้มผาง จ.ตาก ผมยังไม่เคยไปเหมือนกัน ที่จริงก็มีเด็กม้ง ที่ผมส่งให้เรียนหนังสือ(ตอนนี้เรียนจบแล้ว แต่งงาน มีลูกเล็กๆแล้ว) ก็โทร.มาชวนผมไปบ่อยๆ ยังไม่สบโอกาสไปสักทีครับ




โดย: yyswim วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:48:03 น.  

 

น้ำตกห้วยขมิ้น หากใครคิดจะไปเที่ยว อย่าลืมแวะไปเยี่ยมกองถ่ายภาพยนตร์ พระนเรศวร ภาคที 3 ด้วยนะครับ ไปดูการถ่ายทำให้เห็นกะตา

พอดี ผมเจอในเว๊ปหนึ่ง เขาบอกว่า เรื่องนี้ ถ่ายไม่ไกลจากห้วยขมิ้น ถ่ายมาตั้งแต่ภาคที่ 1 และ 2 แล้วครับ




โดย: yyswim วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:49:11 น.  

 

คุณแม่ของหลานเควิน.....พรุ่งนี้วันสำคัญเนาะ งั้นเดี๋ยวจะนำคุณยาย ไปทานข้าวเย็นที่บ้านในวันนี้ด้วย

จะออกรถตอนนี้เลยนะ


โดย: yyswim วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:51:41 น.  

 
มาบอกคับว่า
ผมไม่เคยไปสักที่เดียวเลยอ่ะ...
เห็นแล้วอยากไปสักครั้ง
คงสดชื่นดี

ว่าแต่...อยากกินน้ำตกภาพแรกที่สุดเลยคับ


โดย: Kurt Narris วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:01:04 น.  

 
ตามพี่ขวดมาห่างๆครับ

ผมไม่เคยเที่ยวที่ไหนเหมือนกัน
อาศัยดูภาพสวยๆที่พี่สินนำมาฝาก
ข้อมูลเพียบเลย

นี่ถ้าผมเรียนมัธยม ผมต้องลอกของพี่แหง๋ๆ

ถ้าพี่ว่างไปฉลองระดับโลกกับรุ่นพี่ผมด้วยนะครับ


โดย: basbas วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:13:39:05 น.  

 
น่าเที่ยวจังเลย

emo


โดย: goodpeople วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:24:03 น.  

 


ความรัก ทำให้เกิดเสียงถอนหายใจและน้ำตา
ความรัก ทำให้เกิดความศรัทธา และการช่วยเหลือผู้อื่น
ความรัก คือความฟุ้งซ่านทั้งปวง มารวมกัน

♣♣♣♣♣♣♣♣

สวัสดีค่ะเจี๊ยบมาขอบคุณค่ะที่ไปทักทายกันอย่างสม่ำเสมอ
ถึงแม้ว่าจะเป็นการ Copy แล้วเอาไปแปะไว้เหมือนกันทุกบ้าน
อย่าโกรธน่ะค่ะ แต่รับรองค่ะว่าเจี๊ยบอ่านทุก Blog ยกเว้นที่มี
ข้อมูลเยอะ ๆจะขอติดไว้ก่อนแต่จะจดชื่อไว้แล้ววันหลังก็จะเข้า
ไปอ่านค่ะสำหรับคืนนี้ Goodnight หลับฝันดีน่ะค่ะ Bye Bye

รายาสุรีย์ โทณะวณิก (เจี๊ยบ)
วันเสาร์ที่ ๑๔ กรกฏาคม ๒๕๕๐

♣♣♣♣♣♣♣♣



โดย: Jeab (rayasuree2526 ) วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:50:19 น.  

 



ภาพสวยๆๆๆ..ภาพแรกหิวจังเลยค่ะมีข้าวเหนียวไหมค่ะนิ
โอ้อออ.เนื้อหาแยอะจังค่ะนิ...

วันนี้เดือนมืด..ท้องฟ้าดูหม่น..แต่ใจมีสุข..หยุดคิดเรื่องเศร้า
แรม 15ค่ำ เดือน 8 วันพระไทยที่ไม่ไร้แสง
ดุจคำคม..พุทธทาสภิกขุ

ความแก่หง่อมย่อมทุกลักทุเลมาก
ดังคนบอกข้ามฟากฝั่งคลองหา
วิธีไต่ไผ่ลำคลานคลำมา
กิริยาแสนทุลักทุเลแล

ถ้าไม่อยากให้ทุลักทุเลมาก
ต้องข้ามฟากให้พ้นก่อนตนแก่
ก่อนตามิดหูหนวกสะดวกแท้
ตรองให้แน่แต่เนินๆรีบเดินเอยฯ

*****************
พ่อแม่คือผู้มีพระคุณสุด
อย่าสดุดปล่อยท่านให้อ้างว้าง
เฝ้าเลี้ยงเราจนใหญ่เพื่อได้ยล
ไม่หวังผลเพียงเติบใหญ่ให้สง่า

อนุโมทนา..กัลยาณมิตรในพระนี้ค่ะ








โดย: catt.&.cattleya.. วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:13:34 น.  

 
สวัสดีตอนหัวรุ่งครับ คุณ yyswim
เห็นน้ำตกแล้วอยากไปเที่ยวครับ ทางใต้ตอนนี้ บางวันก็ร้อนมากๆเลย แต่บางวันฝนก็เทลงมาทั้วันก็มีครับ ตอนนี้โลกร้อน น่ากลัวจังนะ ผมว่า

ผมมีเรื่องเล่านิดหนึ่งเกี่ยวกับเรื่องน้ำตก
คือ ครอบครัวผม เมื่อตอนที่อยู่ นครศรี หลายปีมาแล้ว ก็ได้รู้จักกับน้องคนหนึ่ง ตาบอด อายุประมาณ 25 ปี

วันหนึ่งไปเยี่ยมที่บ้านเขา เราไปกันทั้งครอบครัว ลักษณะยี่ยมบ้านคนไข้ เพราะเขามาป่วยที่โรงพยาบาล ก็พบแม่เขาด้วย ก็พูดถึงน้ำตกกัน แล้วชวนเขาไปเที่ยวนำตกด้วย เพราะเรากะว่าจะไปกันอยู่แล้ว แม่เขาก็อณุญาต เพราะเห็นว่า เราไม่น่าจะไช่พวกหลอกลวง พาลูกเขาไปทำเสียหาย
เขาชอบน้ำตกมาก เขาพูดคำหนึ่งที่ทำให้ผมอึ้งอยู่นานเหมือนกัน คือ เขาบอกว่า ดีใจมากที่ได้มาเที่ยว ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยมาเที่ยวน้ำตกเลย ไม่ทราบว่านำตกเป็นอย่างไร

ตอนนี้น้องคนนี้ แต่งงานกับคนตาบอดเหมือนกัน มีลูกแล้ว 2 คน ดำเนินกิจการเอง นวดแผมโบราณที่นครศรี พอมีเงินจ้างคนตาดีมาดูแลลูกๆ

อ้อลืมบอกไป นำตกนั้นคือ นำตกกะโรม ที่นครศรีครับ

น้องโรสเพิ่งตื่น เขาอยากเขียนอะไรนิดถึงคุณ yyswim ครับ

กู๊ดมอร์นิ่งคะ พอดีหนูเพิ่งตื่น เมื่อวานหนูได้ฟังที่คุณพ่ออ่านเรื่องต่างๆที่ หลายท่านโพสมา และของคุณลุง yyswim ด้วย

ขอบคุณมากนะคะที่ตอบมา ตอนนี้การบ้านของหนูก็เยอะใช้ได้เลยคะ แต่ก็ยังมีคุณพ่อผู้แสนดีคอยช่วยติดตามในแต่ละวิชาอยู่ตลอด เรียกได้ว่าเป็นนักเรียนกันทั้งพ่อทั้งลูกก็ว่าได้เลยคะ คุณพ่อคงคิดว่า จากอายุ 53 ลดลงมากลายเป็น 16 เช่นเดียวกับหนูมั้งคะ ฮิฮิ

บางครั้งก็ยังเคยคิดว่า หนูยังได้เปรียบกว่าเพื่อน ๆ ทุกคนในฃั้น เพราะเพื่อน ๆ เขามีภาระหน้าที่ เช่น เรียนพิเศษ ก็เลยไม่มีเวลาทำการบ้าน เพราะการบ้านที่ครูสั่งเนี่ยขนาดคนตาพิการอย่างหนูบางครั้งยังศรีษะหมุนเลยคะ แต่หนูเนี่ยสิ มีพ่อคอยช่วย ก็คงจะสบาย

แต่หนูกังวลแทนพ่อนะคะ กลัวพ่อจะเหนื่อยเพราะหนู แต่ในบางวิชาหนูก็พิมพ์เองนะคะ มีแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นที่ให้พ่อช่วย เช่น ค้นคว้าสิ่งต่าง ๆ ในอินเทอร์เน็ตเพื่อทำรายงาน เป็นต้นคะ

หนูพิมพ์มาเท่านี้นะคะ หวังว่าลุงวายวายสวิมคงสบายดีนะคะ ส่วนหนูก็สบายดีคะ ( ว่าแต่ว่า ชื่อ วายวายสวิมเนี่ย จะไปสวิมที่สระไหนเหรอคะ ) แหย่เล่นเพื่อเป็นการทิ้งท้ายนะคะ บ๊ายบาย

( โรส เจ้าเดิม รายงาน )



โดย: ทวีศักดิ์ ถาวรรัตน์ และ น้องโรส คนตาพิการ (ผมขาว ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:6:24:03 น.  

 
เคยไปแค่ทีลอซูที่เดียวเอง แต่สวยมากๆทั้ง10ที่เลยนะครับ


โดย: coming soon (The Yearling ) วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:35:22 น.  

 
มาเจอน้ำตกแล้วให้ความรู้สึกเย็นสบายจังเลยคะ
ชอบน้ำตำเอราวัณเพราะสวยดี และเป็นที่เดียวที่เคยไป แหะๆ

แต่ขอบอกว่าพิชิตถึงชั้นเจ็ดมาแล้วค้าบบบ

มีความสุขในวันหยุดนะจ้า...


โดย: fonrin วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:01:42 น.  

 
เคยไปแต่น้ำตกแม่ยะครับ หลายครั้งเลย
เพราะเป็นน้ำตกที่ชอบที่สุด ใครไปใครมาก็ต้องพาไปเที่ยวตลอดครับ

อยากไปให้ครบทั้งสิบแห่งจังเลย


โดย: กะได IP: 203.146.63.185 วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:20:52:15 น.  

 
เห็นน้ำตกสวย ๆ แบบนี้เมืองไทยเรามีที่เที่ยวอีกเยอะเลยเนอะคะ.....

สดชื่นจริง ๆ


โดย: kookkom (the kookkom ) วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:08:36 น.  

 
แวะมาชมภาพน้ำตกสวยๆ ครับ


โดย: คนทับแก้ว วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:10:28 น.  

 


น้องโรส(คนตาพิการ)และคุณทวีศักดิ์.....ขอบคุณครับที่เข้ามาเยี่ยม เป็นห่วงคุณทวีศักดิ์ว่าจะอ่านให้น้องโรสฟัง ไหวเหรอ? ผมเขียนบล๊อกยาวทีเดียว

พอคุณทวีศักดิ์ กล่าวถึงน้ำตกกะโรม ผมก็รีบค้นหารูปภาพน้ำตกนี้ มาให้เพื่อนๆดูทันที ...เป็นน้ำตกที่ใหญ่โตทีเดียว มีตั้ง 16 ชั้น การเดินจากชั้นที่ 1 ขึ้นไปถึงชั้นที่ 16 มีระยะทางยาวประมาณ 5 กิโล ชั้นที่7 ชื่อว่า “หนานดาดฟ้า” เล่ากันว่าสวยที่สุด จะมีน้ำตกไหลตกลงตามผาหินที่เอียงลาดประมาณ45องศา ในหน้าแล้งจะมีน้ำไหลสายไม่ใหญ่ตกลงมาจากหน้าผา แต่พอถึงหน้าฝน น้ำตกที่มีปริมาณน้ำมากก็จะไหลพรั่งพรูลงมาเต็มทั้งหน้าผาเลย



ลองเทียบขนาดของหน้าผากับขนาดของคน ดูซิครับ ...อื้อฮือ ของจริงในหน้าฝน ต้องน่าตื่นเต้น น่าตื่นตะลึงทั้งภาพและเสียงแน่นอน





และนี่เป็นลำธารระหว่างน้ำตกชั้น5 กับน้ำตกชั้น6 …ขนาดของลำธารกับคน บอกได้เลยว่าน้ำตกนี้ยิ่งใหญ่





น้ำตกกะโรม มีต้นน้ำเกิดจากเทือกเขาหลวงหรือเทือกเขานครศรีธรรมราช อยู่ในท้องที่ตำบลเขาแก้ว อำเภอลานสกา มีที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาหลวงเป็นผู้รับผิดชอบ การเดินทาง...... จากตัวเมืองนครฯ ใช้ทางหลวงหมายเลข 4016 ไป 9 กม. แยกซ้ายเข้าทางหลวง 4015 ไป 20 กม. ซ้ายมือจะมีป้ายบอกทางเข้าน้ำตกอีก 3 กม. ทางเข้าน้ำตก จะอยู่ทางขวามือ



น้องโรส ...ลุงสิน ก็ออกกำลังกายด้วยการ Swim ที่สระทุกวันครับถ้าวันไหนฝนไม่ตก ...วันนี้ก็ไปว่ายมา ว่ายเสร็จฝนลงเลย ...แล้วก็มานั่งดูฟุตบอลทางช่อง7 (แต่ทีมไทยแพ้ออสเตรเลีย 0 : 4) แล้วก้อ มานั่งพิมพ์ตอบคอมเมนต์ให้น้องโรส


ลุงสิน อยากจะช่วยเหลือเรื่องการบ้านของน้องโรส มั่ง? โฮะโฮะ แต่ลุงขาดความรู้... ให้คุณพ่อทวีศักดิ์ช่วยคงจะดีกว่า


ขอบคุณที่มาคอมเมนต์ให้ลุงสินอ่านนะ ...เหนื่อยมั๊ย?










โดย: yyswim วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:17:04 น.  

 



คำประพันธ์ประเภทร้อยกรอง
จึงมีความไพเราะงดงามและมีคุณค่าในแง่สอนใจ
หลวงธรรมาภิมณฑ์ (ถึก จิตรกถึก)


มยุราฟ้อนหาง

ดูดูท่า อย่าเลินเล่อ เผลอบ่อยบ่อย คุมคุมใจ ไว้อย่าปล่อย ไปปร๋อปร๋อ
เหมือนเหมือนอย่าง ทางที่เป็น เช่นพอพอ ตรองตรองใจ ที่ในข้อ ให้ควรควร
เปรียบเปรียบว่า บุตรภรรยา คนใช้ใช้ ปล่อยปล่อยปละ ละให้ ฮึกหวนหวน
เฉยเฉยเสีย ไม่สั่งสอน ข้อนชวนชวน กล้ากล้านัก มักก่อกวน จะแรงแรง
มีมีแต่ ต่างจะดื้อ ถือปึ่งปึ่ง ข้อนข้อนข้าง วางข้อขึง ขึ้นแข็งแข็ง
คล้ายคล้ายช้าง ห่างขอ มักแคลงแคลง ชวนชวนชัก มักระแวง จงจำจำ

♣♣♣♣♣♣♣♣


สวัสดีค่ะ เจี๊ยบมาขอบคุณที่เข้าไปทักทายกัน

และเข้ามา Goodnight หลับฝันดีน่ะค่ะ

รายาสุรีย์ โทณะวณิก (เจี๊ยบ)
วันที่ ๑๖ กรกฏาคม ๒๕๕๐

♣♣♣♣♣♣♣♣



โดย: Jeab (rayasuree2526 ) วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:46:49 น.  

 


คุณKurt Narris......ถ้าอยู่ใกล้ๆ จะเลี้ยงลาบน้ำตก ใกล้ที่ทำงาน รสเด็ดทีเดียวครับ


น้องบาส.....พรุ่งนี้แล้วซินะ วันฉลองให้พี่คนเก่งทั้งสองทีม พี่สินไปไม่ได้ครับ แต่จะรออ่านเหตุการณ์ทางบล๊อก หากน้องบาสจะเล่าให้ฟัง

มองดู พี่มัทนา นะ นั่นละ พี่สินรู้จักดี


คุณgoodpeople......ขอบคุณนะครับที่เข้ามาเยี่ยมบ่อยๆ ...ผมมักจะเขียนเรื่องยาวครับ เขียนน้อยๆยังเขียนไม่ค่อยได้


คุณเจี๊ยบ.....หวัดดีครับ สงสัยจะเข้าใจอะไรผมคลาดเคลื่อน ไม่เป็นไรครับ


หวัดดีครับคุณแคท.....ใจดีนำบุญมาฝากเสมอๆนะครับ


สุ่น.....ผมสู้สุ่นไม่ได้ครับ เพราะผมไม่เคยไปเที่ยวทีลอซู และน้ำตกอีกทั้ง 9 ...อุอุ เคยไปแต่น้ำตกที่ไม่ได้นำมาลงในบล๊อก น่าอาภัพ นิ


คุณ fonrin.....ขึ้นเอราวัณไปถึงชั้น 7 ว้าววว...มองเห็นตรงที่เขาบอกว่า คล้ายงาช้าง และหัวของช้างมั๊ย? คอนเฟิร์มให้หน่อย เหมือนมั๊ย?


กะได.....น้ำตกแม่ยะ เป็นน้ำตกที่สวยครับ ธารน้ำไหลมาจากดอยอินทนนท์ และยังมีป่าดึกดำบรรพ์ ณ บริเวณนั้นให้เดินชมด้วย น่าไปครับ น่าไป


น้องกุ๊กก๋อม......ได้แวะเข้าไปเยี่ยมคุณแม่หลานเควินหรือยัง? เห็นว่าเมื่อวานมีสวีทตัดเค๊ก

เอ่อ เมื่อคืนคุณแม่น้องกุ๊กก๋อมมานอนบ้านน้านะ... อิอิ จะชวนมานอนอีก ชวนน้องกุ๊กก๋อมด้วย


คนทับแก้ว......ขออภัยที่เขียนบล๊อกยาววววมาก

วันนี้นั่งดูบอลไทย-ออสเตรเลีย ทั้งแมทช์ ...เสียดายออสเตรเลีย กะ อิรักเข้ารอบ





โดย: yyswim วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:52:08 น.  

 
น้ำตกน่ากินจัง ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะครับ
ผมเคยไปไม่กี่ที่เอง

ปล. ขอบคุณครับสำหรับคำอธิบายหลังไมค์
กู้ข้อความให้แล้วนะครับ ผมก็ไม่เคยตั้งแบนอะไรไว้ สงสัย มีคำว่าอับ--จนมั๊ง แล้ว script code อยู่ไหนอ่า


โดย: Pichsud วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:03:36 น.  

 
ในบรรดาน้ำตกต่างๆ ตามที่ ททท. ลิสต์ไว้ ผมเคยไปแค่ที่เดียวเท่านั้นครับ คือน้ำตกเอราวัณ

แต่.................................

ทุกๆน้ำตกที่ว่ามา .. ผมชอบน้ำตกในภาพแรก ที่อยู่บนสุด มากที่สุดครับ อิ อิ

ว่าแล้วเดี๋ยวไปหาน้ำตกกะข้าวเหนียวจกดีก่า


โดย: กุมภีน วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:28:49 น.  

 
แวะมาเยี่ยมค่ะ emo

ตอนนี้อัพบล็อกใหม่ล่ะ อย่าลืมไปเยี่ยมนะคะ...


โดย: rd_lam วันที่: 17 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:42:40 น.  

 
เพิ่งบ่นลงบล็อกเรื่องฟุตบอลไทยไปครับ

ดูแล้วก็น่าเสียดายจริงๆ แหละครับ ได้แค่มีลุ้นตลอดเลย แต่ยังไม่ผ่านสักที

ที่น่าเจ็บใจคือเวียดนามเขาผ่านไปได้แล้วสิครับ เซ็งเป็นบ้าเลย


โดย: คนทับแก้ว วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:14:15:24 น.  

 
แวะมาบอกว่า แหม๋ไม่น่ารีบเฉลยเลยอ่ะ อดหนุกไม่ได้คิดเลยอ่ะ อิอิ

รบกวนส่ง code และที่อยู่ มาที่ pichet@aspocomp.co.th


โดย: pichsud IP: 203.154.203.140 วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:30:50 น.  

 
ยอมรับเลยว่า น้ำตกจานแรกน่ากินที่ซู๊ด

ข้อมูลแน่นปึ๊ก สุดยอด
ทั้งสิบแห่งมีที่ยังไม่ได้ไปก็มีนะ
น้ำตกพลิ้ว ที่จันทรบุรี กับน้ำตกแม่สุริน ที่แม่ฮ่องสอน ที่พลาดหลายครั้งที่เพื่อนชวน
น้ำตกมันก็มีเสน่ห์ของมันไปคนละแบบนะและมันขึ้นอยู่กับคนที่ไปด้วย อิอิ


โดย: man@ (manatto ) วันที่: 18 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:30:53 น.  

 
ทราบไหมครับว่าน้ำตกในรูปเป็นน้ำตกอะไร จังหวัดไหน


โดย: ผู้ผ่านมา IP: 124.121.1.47 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:8:58:45 น.  

 
น่าจะอยู่ในภาค ตะวันออก น่ะครับ แต่ไม่รู้ว่าเป็นน้ำตกอะไร


โดย: ผู้ผ่านมา IP: 124.121.1.47 วันที่: 23 พฤศจิกายน 2550 เวลา:14:02:23 น.  

 
สวยมากเลยค่ะ แต่บางทีก็น่ากลัวดี

ขอบคุณมากค่ะ



โดย: แอ๊น IP: 125.26.54.78 วันที่: 20 มกราคม 2551 เวลา:17:17:00 น.  

 
ตามเข้ามาชมภาพน้ำตกสวย ๆ ค่ะ
มีมากมายหลายที่จริง ๆ เลยน่ะค่ะเนี๊ยะ

อยากรู้จังค่ะว่าพี่สินเป็นนักผจนภัยหรือเปล่าน๊ะ ?

เห็นภาพน้ำตกภาพแรกแล้วทำให้เกิดอาการหิว อิอิ
ขแบคุณข้อมูลมากมายกับสถานที่ท่องเที่ยว "น้ำตก " กับภาพเย็นตาเย็นใจสวย ๆ ที่นำมาฝากกันน่ะค่ะ


โดย: sao-aor วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:1:30:04 น.  

 
กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด...5555

เปิดเข้ามาปุ๊บ เจอเลย

น้ำตกไทย

แหมมมมม คุณสิน เล่นซ่ะ...555

ที่เข้ามา อิอิ ก๊เพราะประโคยนี้หล่ะค๊า

..บอกเฉยๆครับ ไม่ต้องไปเยี่ยมก็ได้

5555 ล้อเล่นค๊า

กว่าจะอ่านจบ 555 ข้อมูลวิชาการเพียบ อิอิ ล้อเล่นคร๊าบ
ทั้งเรื่องราวของคุณสิน และที่เพื่อนๆ comment อ่านเพลินดีคร๊าบ เพิ่มรอยยักในสมองดี..

ปองไปมาจริงๆไม่กี่ทีเอง แถมแต่ละแห่งก๊นานนนน จนลืมไปเลย แต่ถามว่าไปอีกมั้ย คงไม่กล้าไปมากกว่าครับ

กลัวครับ กลัวเห็นความเปลี่ยนแปลง ที่มันโดนทำร้าย...ทำลายโดยน้ำมือมนุษย์..

อยากยืนยันความคิดของตัวเองที่ว่า
แม้มีความสวยงามมากเพียงไหน แต่ก๊มีความน่าเกรงขามแฝงไว้มากขึ้นเพียงนั้น แต่สุดท้าย ก๊ไม่พ้น น้ำมือมนุษย์

ขอบคุณมากที่แวะไปเยี่ยมทั้งที่ 35 up และที่ blog ไม่ว่าหรอกคร๊าบ แหมมีหนุ่มๆไปทำให้ blog กระผม กระชุ่มกระชวย..เอิ๊กส์...


โดย: Tahannam วันที่: 8 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:42:05 น.  

 
พอดีเลยคะกำลังทำรายงานเกี่ยวกับน้ำตกอยู่พอดี
ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะคะ

....อ่านแล้วอยากไปเที่ยวขึ้นมาเลยหละ....


โดย: onaru IP: 203.157.72.219 วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2552 เวลา:12:57:59 น.  

 
อยากไปผจยภัยกับเพื่อนๆจังเลย
ไปเที่ยวด้วยกันคงไม่มีอีกแล้ว
คิดถึงพวกแกว่ะ !
หวังว่าคงได้พบเจอกันอีก
รักเพื่อนอย่างพวกแกไปตลอดกาล
เดี่ยวเราจะไปเที่ยวน้ำตกกรุงชิงด้วยกันน่ะ
ไว้เจอกันใหม่นะเพื่อนรัก


โดย: นันท์ IP: 183.89.154.21 วันที่: 11 กรกฎาคม 2553 เวลา:14:29:44 น.  

 
สถานที่เที่ยว


โดย: ภัททิยา IP: 110.49.205.224 วันที่: 5 ตุลาคม 2553 เวลา:22:45:26 น.  

 
เพิ่งจะทราบว่าเมืองไทยมีน้ำตกสวยมากๆ ขอบคุณที่กรุณานำภาพมาให้ชม เห็นแล้วคงจะทำให้คนเราใจเย็นลง ขอบคุณที่เล่าเรื่องราวด้ยค่ะ ได้ความรู้มากมาย
จะตามชมต่อไป


โดย: กานดา IP: 61.7.168.61 วันที่: 5 พฤศจิกายน 2553 เวลา:13:33:47 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.