รู้จักพริกมากแค่ไหน



รู้จักพริกมากแค่ไหน








ท่านเชื่อหรือไหมว่า

1. มีการค้นพบว่าประเทศจีนเป็นประเทศแรกที่มีการปลูกพริก
.......เชื่อ..ไม่เชื่อ!!!

2. ญี่ปุ่นไม่สามารถปลูกพริกได้
.......เชื่อ..ไม่เชื่อ!!!

3. พริกขี้หนูไทย”จิ๋วแต่แจ๋ว”เผ็ดอันดับหนึ่งของโลก
........เชื่อ..ไม่เชื่อ!!!

4. ความเผ็ดที่สุดของตัวพริกอยู่ที่เมล็ด
.......เชื่อ..ไม่เชื่อ!!!

5. สารที่สกัดจากพริกนำไปใช้เป็นยาลดความอ้วนได้แล้ว
........เชื่อ..ไม่เชื่อ!!!



ถ้าท่านต้องการจะตรวจสอบคำตอบ โปรดอ่านข้างล่างให้ละเอียดหน่อย......




ต่อไปนี้คือความจริง

# 1 ข้อมูลพื้นฐานของพริก







พริกกับพริกไทย แม้ว่าจะมีชื่อพริกเหมือนกัน รสชาติเผ็ดร้อนทำนองเดียวกัน แต่ถ้านับวงศาคณาญาติดูแล้ว พืชทั้งสองชนิดนี้จะไม่มีความเกี่ยวพันกันเลย ...พริกเป็นผักอยู่ในวงศ์โซลานาซิอี (Solanaceae) วงศ์เดียวกันกับมะเขือเทศ ท่านลองสังเกตแกนกลางดูซิ จะพบว่ามันคล้ายกัน



มะเขือเทศ






พริกจัดอยู่ในสกุลแคปซิคัม (Capsicum) ซึ่งมีอยู่ด้วยกันประมาณ 25 ชนิด (species) แต่ที่นิยมปลูกกันทั่วไปจะมีเพียง 5 ชนิด (species) เท่านั้น



# 2 ถิ่นกำเนิด

พริกมีถิ่นกำเนิดดั้งเดิมอยู่ในทวีปอเมริกาใต้ นักโบราณคดีค้นพบพริกในหลุมศพของชาวเปรูในยุคก่อนประวัติศาสตร์ การแพร่กระจายของพริกในสมัยนั้นเกิดขึ้นได้โดยนก เมื่อนกคาบพริกไป ณ ที่ต่างๆ เมล็ดพริกที่ตกลงมาทำให้พริกต้นใหม่งอกขึ้น


ชนเผ่าดั้งเดิมในทวีปอเมริกาใต้และอเมริกากลางรับประทานพริกมานานหลายพันปี ก่อนที่ คริสโตเฟอร์ โคลัมบัส จะสำรวจพบทวีปอเมริกา แถวหมู่เกาะอินเดียตะวันตก และเขาได้นำพืชนี้กลับไปยังประเทศสเปนแทนพริกไทยพืชที่เขากำลังไปค้นหา โดยโคลัมบัสเรียกชื่อพืชใหม่ของเขาว่า พริกแดง (red pepper) ตามลักษณะสีของผลเพื่อเปรียบเทียบกับพริกไทยดำ (black pepper)


ต่อมาพริกก็มีการแพร่กระจายไปปลูกยังประเทศต่างๆ ในทวีปเอเชีย และแอฟริกา เมื่อชาวยุโรปนำเข้าไปยังประเทศนั้นๆ ทั้งในลักษณะล่าอาณานิคมและมีการติดต่อทางการค้า




# 3 การปลูกพริก

ปัจจุบันพริกมีปลูกทั่วไปในส่วนต่างๆของโลก แต่มีสายพันธุ์แตกต่างกันไป ทำให้ผลของพริกมีขนาด รูปร่าง สี และกลิ่น แตกต่างกัน ที่นิยมปลูกกันมากคือ ในอัฟริกา,บาฮามาส์ และเม็กซิโก พริกชี้ฟ้าที่มีจำหน่ายทั่วโลกส่วนใหญ่ ปลูกมาจาก ประเทศไทย อินเดีย เม็กซิโก ตุรกี ญี่ปุ่น ยูการดา ไนจีเรีย และเอธิโอเปีย


พริกสามารถปลูกได้ดีในเขตร้อน ดีกว่าปลูกในเขตอบอุ่น ประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่ปลูกพริกได้ผลผลิตดี สภาพที่เหมาะกับการปลูก คือ ดินร่วนปนทราย มีการระบายน้ำดี มีอินทรีย์วัตถุปานกลางถึงสูง มีความเป็นกรดเป็นด่างของดิน (pH) ประมาณ 6.0-6.8 ต้นทุนการผลิต / ไร่ ในสภาพไร่ จะมีราคาถูกกว่าต้นทุนการผลิต / ไร่ในสภาพสวน


พริกมีการปลูกโดยทั่วไปในทุกภูมิภาคของประเทศไทย จังหวัดที่มีการปลูกพริกมาก คือ จังหวัดอุบลราชธานี ,ศรีสะเกษ, ขอนแก่น, เลย, กาฬสินธุ์, นครสวรรค์, อุตรดิตถ์, เชียงใหม่, ลพบุรี, พระนครศรีอยุธยา, กาญจนบุรี, นครปฐม, ตราด, สุราษฏร์ธานี, และนครศรีธรรมราช



พริกปลอดสารพิษจาก ต.ท่าข้าม อ.พุนพิน จ.สุราษฎณ์ธานี






การเรียกชื่อพริกที่ปลูกกัน จะมีผู้เรียกแตกต่างกันไปตามแต่ละภาค เช่น ดีปลี ดีปลีขี้นก ปะแกว หมักเพ็ด พริกแด้ พริกซ่อม เป็นต้น


พริกที่นิยมปลูกในประเทศไทยมีอยู่ 2 กลุ่ม คือ กลุ่มพริกหวาน ได้แก่ พริกหยวก กับกลุ่มพริกเผ็ด ได้แก่ พริกขี้หนู พริกขี้หนูสวน (พริกชี้ฟ้า บางตำราบอกว่าอยู่ในกลุ่มพริกหวาน)


หมายเหตุ : พริกที่พบมากในประเทศไทยได้แก่ พริกชี้ฟ้า (Capsicum annuum Linn.) พริกขี้หนู (Capsicum frutecens Linn.) และ พริกขี้หนูสวน (Capsicum minimum Roxb.) ซึ่งแต่ละชนิดก็แบ่งย่อยเป็นหลายพันธุ์อีก







วิธีการปลูก ปลูกโดยการเพาะกล้าด้วยเมล็ด อัตรา 50 กรัม / ไร่ เมื่ออายุ 30 วัน ย้ายลงแปลงเพาะปลูก หลุมละ 1 ต้น ระยะปลูก 80 x 80 ซม.จำนวนต้น / ไร่ 2,500-3,000 ต้น การให้น้ำอาศัยน้ำฝนในสภาพไร่ ควรเลือกช่วงปลูกประมาณเดือนพฤษภาคม หากเป็นในเขตชลประทานให้น้ำแบบพ่นฝอย และควรคลุมฟางเพื่อป้องกันการระเหยของน้ำในดิน ไม่ควรจะใช้แกลบคลุมดิน เพราะถ้าเกิดการพรวนดินกลบโคน แกลบจะเกิดการสลายตัว พริกจะชะงักการเจริญเติบโตได้


การเก็บเกี่ยวพริก เริ่มเก็บเกี่ยวครั้งแรกเมื่ออายุประมาณ 100-120 วัน โดยเก็บเกี่ยวผลที่ห่ามไปถึงสุก ผลผลิตที่เก็บได้ควรนำไว้ในที่ร่มและไม่ควรกองสุมกัน เพราะอาจจะทำให้เกิดการเน่าเสียได้



# 4 การบริโภคพริก






คนไทยบริโภคพริกอย่างกว้างขวาง บางคนกินเผ็ดมาก บางคนกินเผ็ดปานกลาง บางคนกินเผ็ดน้อย แต่มีเหมือนกันที่บางคนไม่ยอมกินเผ็ดเลย แต่มีอยู่จำนวนน้อย เพราะแกง ต้มยำ ยำ รวมทั้งน้ำจิ้มต่างๆของอาหารคาวไทยประกอบขึ้นมาจากพริกทั้งนั้น


พริกมีรูปร่างของผลที่แตกต่างกันออกไป มีทั้งยาวรี กลม หรือบุบบู้บี้ สำหรับตามขนาดผล มีตั้งแต่ไม่ถึงนิ้วจนกระทั่งถึงหลายนิ้ว หรือทรงกลมขนาดเท่าหัวแม่มือ ส่วนสีสันก็มีมากมาย เช่น สีเขียว แดง ม่วง เหลือง ส้ม ขาว ความนวลที่ผิวของผลพริกนั้นขึ้นอยู่กับพันธุ์หรืออายุ ส่วนความเผ็ดกลับไม่มีความสัมพันธ์ใดๆกับขนาดของผล เช่น พริกขี้หนูมีรูปร่างยาวรี ขนาดเล็กแต่เผ็ดร้อน แม้จะมีขนาดผลเล็กแต่ก็มีฤทธิ์ของความเผ็ดมาก ต่างกับพริกหยวกที่มีขนาดยาวและใหญ่กว่า กลับเผ็ดน้อยกว่า





ผลพริกสามารถกินได้ทั้งในรูปสด หรือแห้ง หรือในรูปปรุงแต่ง เช่น พริกดอง พริกเผา หรือพริกแกง อาหารไทยนั้นมีชื่อเสียงในด้านรสชาติกลมกล่อมบวกความเผ็ด และพริกก็มีส่วนอย่างมากที่ทำให้อาหารไทยโด่งดังไปทั่วโลก ทั้งต้มยำกุ้ง ส้มตำ แกงเขียวหวาน และผัดไทย ล้วนแล้วแต่มีพริกประกอบอยู่ในอาหารทั้งสิ้น


ผลผลิตของพริกในประเทศไทยส่วนใหญ่จะใช้เพื่อบริโภคในครัวเรือน และเพื่อการอุตสาหกรรม พบว่าพริกมีการส่งออกเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ในรูปพริกแห้ง ซอสพริก เครื่องแกง น้ำพริกเผา และน้ำพริกแบบต่าง ๆ อย่างไรก็ตามประเทศไทยเราก็ยังมีการนำเข้าพริกจากต่างประเทศด้วย ในลักษณะพริกแห้งเม็ดใหญ่ และผลิตภัณฑ์ยารักษาโรค


คนหลายๆชาติ ก็ใช้พริกเป็นส่วนประกอบในอาหารเช่นเดียวกันกับคนไทย มีรายงานว่า

คนอเมริกัน บริโภคพริก 1.5 มิลลิกรัม / คน / วัน

คนอินเดีย บริโภคพริก 2.5 กรัม / คน / วัน

คนไทย บริโภคพริก 5 กรัม / คน / วัน

คนเม็กซิโก บริโภคพริก 20 กรัม / คน / วัน




# 5 ในพริกมีอะไร





1. พริกมีวิตามิน C สูง เป็นแหล่งของกรด ascorbic acid ซึ่งสารเหล่านี้จะช่วยขยายเส้นโลหิตในลำไส้และกระเพาะอาหาร เพื่อให้ดูดซึมอาหารได้ดีขึ้น ช่วยร่างกายขับถ่าย ของเสีย และช่วยนำธาตุอาหารไปยังเนื้อเยื่อของร่างกาย (tissue)

พริกขี้หนูสดและพริกชี้ฟ้าสด มีปริมาณวิตามิน ซี 87.0 - 90 มิลลิกรัม / 100 g


2. พริกมีสารเบต้า – แคโรทีน หรือวิตามิน A สูง สังเกตที่ผิวของพริกจะมีสีสันสดใส ทั้งเขียว เหลือง แดง (พริกขี้หนูสดมี 140 .77 RE )


3. พริกมีสารสำคัญอีก 2 ชนิด ได้แก่ Capsaicin และ Oleoresin โดยเฉพาะสาร Capsaicin ที่ นำมาใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร และผลิตภัณฑ์รักษาโรค ในอเมริกามีผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายในชื่อ Cayenne สำหรับฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร


4. Capsaicin ยังมีคุณสมบัติ ลดความเจ็บปวดของกล้ามเนื้อ หัวไหล่ แขน บั้นเอว และส่วนต่างๆของร่างกาย มีผลิตภัณฑ์ที่จำหน่ายทั้งชนิดเป็นโลชั่นและครีม ( Thaxtra - P Capsaicin)


แต่การใช้ในปริมาณที่มากเกินไป อาจจะมีผลกระทบต่ออาการหยุดชะงักการทำงานของกล้ามเนื้อได้เช่นกัน เพื่อความปลอดภัย USFDA ได้กำหนดให้ใช้สาร capsaicin ได้ ที่ความเข้มข้น 0.75 % เมื่อใช้เป็นยารักษาโรค


5. สีของพริกมีหลากหลายสี มีทั้ง เขียว แดง เหลือง ส้ม ม่วง และสีงาช้าง โดยเฉพาะเมื่อนำไปปลูกในเขตร้อนชื้นที่ได้รับแสงแดดตลอดทั้งวัน จะมีสี( colorant) ที่สดใสมาก ซึ่งสามารถนำไปใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งการปรุงแต่งรสชาติและสีสัน(colouring spice) รวมทั้งแนวโน้มในอนาคต การผสมสีในอาหารจะมาจากธรรมชาติเป็นส่วนใหญ่ด้วย






# 6 พริกลดความอ้วนได้จริงหรือ

หลายคนมองหาสมุนไพรตามธรรมชาติมาใช้เพื่อลดความอ้วน สารสกัดจากพริกก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีการชักชวนให้ใช้ จากการศึกษาพบว่า Capsaicin เป็นสารในพริกที่ให้รสเผ็ดร้อน ซึ่งถูกกล่าวอ้างว่า จะช่วยเพิ่มการเผาผลาญอาหารและลดความอยากอาหารได้


แต่จริงๆแล้วจากการศึกษาพบว่า Capsaicin อาจช่วยลดปริมาณอาหารที่รับประทานได้เพียงประมาณ 200 กิโลแคลอรี่เท่านั้น และพบว่าการรับประทานอาหารรสเผ็ด จะไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงการใช้ออกซิเจน การใช้ไขมันของร่างกาย หรือการใช้อุณหภูมิของร่างกาย


และยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการยืนยันว่า การใช้ Capsaisin เป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะมีผลต่อการเพิ่มการเผาผลาญพลังงานของร่างกายได้




# 7 ทำใมพริกจึงเผ็ด

ในพริก สารเคมีที่ชื่อว่า แคปไซซิน (capsaicin)เป็นตัวการสำคัญที่ทำให้พริกเผ็ด แคปไซซินเป็นสารหลักของสารในกลุ่มแคปไซซินอยด์ (capsaicinoids) ซึ่งสารในกลุ่มนี้นอกจากแคปไซซินแล้ว ยังมีไฮโดรแคปไซซิน (hydrocapsaicin) ซึ่งเป็นสารให้ความเผ็ดเช่นเดียวกัน แต่เผ็ดน้อยกว่า โดยทั่วไปแคปไซซินอยด์จะประกอบด้วยแคปไซซิน 70% และไฮโดรแคปไซซิน 22% และสารอื่นๆ อีก 8%


เผ็ดนั้นเผ็ดแค่ไหน ผู้ที่บุกเบิกการวัดค่าความเผ็ดของพริกเป็นคนแรก คือ วิลเบอร์ สโควิลล์ (Willbur Scoville) นักวิทยาศาสตร์ชาวเยอรมัน เมื่อปี พ.ศ. 2455 วิธีการนั้นคือการทำให้สารละลายที่สกัดได้จากพริกเจือจางลงเรื่อยๆ จนกระทั่งสารละลายนั้นไม่มีความเผ็ดเหลืออยู่เลย พร้อมกับจดบันทึกว่า ต้องทำการเจือจางทั้งหมดกี่ครั้ง ถ้ามีการเจือจางมากครั้งก็แสดงว่าพริกนั้นเผ็ดมาก ถ้าเจือจางน้อยครั้งก็แสดงว่าเผ็ดน้อย วิธีการวัดดังกล่าวได้รับความนิยมเรื่อยมา


จนกระทั่งในระยะหลังได้มีการใช้เครื่องมือที่เรียกว่า เอชพีแอลซี (HPLC - high pressure liquid chromatography) เข้ามาช่วยวัด โดยเครื่องมือดังกล่าวนี้ จะวัดปริมาณของสารแคปไซซินในพริกแต่ละชนิดโดยตรง


และจากการใช้เครื่องมือวัดความเผ็ดนี้ ทำให้สามารถแยกแยะพริกได้ตามความเผ็ด ดังนี้


เผ็ดอันดับที่หนึ่ง ฮาบาเนโรแดง ซาวีนา (Red Savina Habanero) มีความเผ็ดมากที่สุด ระดับ 580,000 หน่วย นับว่าเผ็ดที่สุดในโลก ปลูกแพร่กระจายในอเมริกากลางและอเมริกาใต้


เผ็ดอันดับที่สอง ฮาบาเนโร (Habanero) มีความเผ็ดมากๆ ระดับ 200,000-500,000 หน่วย ปลูกแพร่กระจายในอเมริกากลางและอเมริกาใต้



พริกขี้หนู






เผ็ดอันดับที่สาม พริกขี้หนู (Thai Bird Pepper) พริกสก็อต บอนเนท (Scotch Bonnet) และพริกจาเมก้า (Jamaica Hot) มีความเผ็ดมาก ระดับ 100,000-350,000 หน่วย


เผ็ดอันดับที่สี่ พริกชี้ฟ้า (Cayenne) มีความเป็นพริกเล็กน้อย-ปานกลาง ระดับ 30,000-50,000 หน่วย


เผ็ดอันดับที่ห้า พริกหยวก หรือ พริกหวาน (Bell Pepper หรือ Italian Sweet) เป็นพริกที่ไม่เผ็ด มีความเผ็ดเป็น 0-30,000 หน่วย



หมายเหตุ : จขบ.เพิ่งทราบจากการค้นคว้ามาเขียนครั้งนี้ ว่า พริกขี้หนู มีสายพันธ์ Capsicum frutescens L. คำว่า frutescens หมายถึง เป็นพุ่มเตี้ย (shrubby of bushy) พริกเด่นในกลุ่มนี้ ได้แก่ พริกทาบาสโก ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการผลิตซอสพริกทาบาสโกอันเลื่องชื่อ และพริกขี้หนูของไทย …โฮะโฮะ สองพริกที่ดังคนละมุมโลก เป็นสายพันธ์เดียวกัน


ส่วนพริกชี้ฟ้า มีสายพันธ์ Capsicum annuum L. คำว่า annuum แปลว่า รายปี หรือประจำปี เป็นพันธุ์ที่นิยมปลูกทั่วโลก สามารถผสมข้ามพันธุ์ได้ง่าย ทำให้มีหลากหลายสายพันธุ์ เช่น พันธุ์นิวเม็กซิโก พันธุ์จาลาปีโน (Jalapeno) พันธุ์เบลล์ (Bell) พันธุ์แวกซ์ (Wax) พันธุ์ที่คนไทยรู้จักกันดี คือ พริกชี้ฟ้า…..สรุปคือ พริกชี้ฟ้า เป็นคนละสายพันธ์กับพริกขี้หนู




# 8 ตรงไหนของพริกที่เผ็ด

ส่วนใหญ่บริเวณที่พบสารแคปไซซินที่ผลพริก จะอยู่บริเวณเยื่อแกนกลางสีขาว หรือเรียกว่า "รก" (placenta) ส่วนของเนื้อผลพริก เปลือกผล และเมล็ดนั้น จะมีสารแคปไซซินอยู่บ้างแต่น้อยมาก ซึ่งคนทั่วไปมักจะคิดว่า เมล็ดคือส่วนของพริกที่เผ็ดที่สุด



เยื่อแกนกลางของพริกที่เผ็ดสุด






ปริมาณของสารแคปไซซิน จะมีความแตกต่างกันออกไปตามชนิดและสายพันธุ์ของพริก กล่าวคือ ปริมาณของสารแคปไซซิน มากน้อยเรียงตามลำดับ ดังนี้


พริกขี้หนู 18.2 ppm. (ส่วนในล้านส่วน)

พริกเหลือง 16.7 ppm.

พริกชี้ฟ้า 4.5 ppm.

พริกหยวก 3.8 ppm.

พริกหวาน (พริกยักษ์) 1.6 ppm.


อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพริกจะเผ็ด แต่ปริมาณสารแคปไซซินที่พริก ก็ไม่ได้มีมากมายหรอก เพราะว่าพริกที่มีสารนี้เพียงเล็กน้อยก็สามารถทำให้เผ็ดได้ ตัวอย่างเช่น พริกชี้ฟ้า 1 กิโลกรัม จะสามารถสกัดสารแคปไซซินออกมาได้เพียง 2.13 กรัมเท่านั้น



# 9 การแก้ไขเมื่อเผ็ด

เนื่องจากสารแคปไซซินสามารถละลายในน้ำได้เพียงเล็กน้อย แต่ละลายได้ดีในไขมัน ในน้ำมัน และในแอลกอฮอล์ ดังนั้นถ้าต้องการบรรเทาความเผ็ดของอาหารในปาก ควรดื่มแอลกอฮอล์หรือกินอาหารที่มีไขมันหรือน้ำมันเป็นส่วนประกอบมากกว่าการดื่มน้ำ เพราะน้ำที่ดื่มมีผลเพียงช่วยบรรเทาอาการแสบร้อนได้เท่านั้น ความเผ็ดยังไม่ได้ลดลง เพราะว่าน้ำไม่สามารถทำละลายสารแคปไซซินได้ดีนัก


อีกอย่าง ความเผ็ดร้อนในปากสามารถลดลงได้ ด้วยอาหารที่มีมะเขือเทศ และอาหารที่มี casein เช่น นม และการรับประทานเกลือ








# 10 สารพัดประโยชน์จากพริก

1. ช่วยบรรเทาอาการไข้หวัด ทำให้การหายใจสะดวกสบาย สารแคปไซซินที่อยู่ในพริกมีคุณสมบัติช่วยลดนํ้ามูกหรือสารกีดขวางระบบการหายใจ อันเนื่องมาจากการเป็นไข้หวัด ไซนัสหรือโรคภูมิแพ้ต่างๆ และยังช่วยบรรเทาอาการไอ ด้วยเหตุนี้สารแคปไซซินจึงเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของยาหลายชนิด


2. ช่วยลดการอุดตันของเส้นเลือด พริกช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดี และช่วยลดความดัน เพราะสารพวกเบตาแคโรทีนและวิตามินซี ช่วยเสริมสร้างผนังหลอดเลือดให้แข็งแรง เพิ่มการยืดตัวของผนังหลอดเลือด ทำให้ปรับตัวเข้ากับแรงดันระดับต่างๆ ได้ดียิ่งขึ้น


3. ช่วยลดปริมาณสารคอเลสเทอรอล สารแคปไซซินช่วยป้องกันมิให้ตับสร้างคอเลสเทอรอลชนิดไม่ดี (LDL-low density lipoprotein) ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมให้สร้างคอเลสเทอรอลชนิดดี (HDL-high density lipoprotein)


4. ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็ง พริกเป็นพืชที่มีวิตามินซีสูง การบริโภคอาหารที่มีวิตามีนซีมากๆ จะช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งได้


5. ช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวด มนุษย์เรารู้จักใช้พริกเพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดมาแต่โบราณกาล เช่น ลดการปวดฟัน บรรเทาอาการเจ็บคอ และการอักเสบของผิวหนัง ในปัจจุบันมีการใช้สารแคปไซซินเป็นส่วนประกอบของขี้ผึ้ง ใช้ทาบรรเทาอาการปวด อันเนื่องมาจากผดผื่นคันและอาการผื่นแดงที่เกิดบริเวณผิวหนัง รวมทั้งอาการปวดที่เกิดจากเส้นเอ็น โรคเกาท์หรือโรคข้อต่ออักเสบ

6. ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียซึ่งปนเปื้อนในอาหารได้


7. ช่วยเสริมสร้างสุขภาพดีและอารมณ์แจ่มใส สารแคปไซซินมีส่วนในการส่งสัญญาณให้ต่อมใต้สมองสร้างสารเอนดอร์ฟินขึ้น


8. พริกเพื่อการป้องกันตัว ในราว พ.ศ. 2528 ได้มีการผลิตสเปรย์ป้องกันตัวโดยใช้พริกเป็นส่วนประกอบสำคัญ สเปรย์ดังกล่าวนี้ไม่ก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต แต่การฉีดเข้าตาโดยตรงจะมีผลทำให้ตามองไม่เห็นเป็นเวลาสองสามนาที ซึ่งนานเพียงพอที่จะแก้ไขสถานการณ์ต่างๆ ได้


9. พริกใช้ไล่แมลงวัน กรีดผลพริกชี้ฟ้าสด ผ่าออกเสียบเอาไว้กับไม้เสียบแหลมๆหลายๆชิ้น ปักไม้เอาไว้บริเวณที่ตากปลาเค็ม ปลาสลิด กุ้งแห้ง หมูหรือเนื้อแดดเดียว เพื่อไล่แมลงวันไม่ให้มาตอม สิ่งของที่ตากไว้







10. ใช้พริกช่วยตกแต่งประดับอาหารในถ้วย ทำให้อาหารมีสีสันสวยงาม ดูน่ารับประทาน


จากคำถามข้างบนสุด ถ้าท่านตอบ ไม่เชื่อๆๆๆๆ ทุกข้อ

ก็แปลว่าท่านรู้จักพริก ระดับพระอาจารย์ แล้วครับ...ขอปรบมือให้










โดย yyswim



Create Date : 20 ตุลาคม 2549
Last Update : 20 ตุลาคม 2549 16:32:40 น. 53 comments
Counter : 15766 Pageviews.

 
หวัดดีค้าบ ได้เจิมด้วยเนอะ

โห ได้ความรู้เพิ่มตั้งเยอะแน่ะ
พึ่งรู้นะคับว่าพริกเป้นตระกูลเดียวกับมะเขือเทศ เป้นไปได้ไงหว่า

ไปล่ะคับ ทนไม่ไหวแล้ว อยู่นานๆแล้วแสบลิ้น
ต้องรีบไปดื่มน้ำก่อน เผ็ดจิงๆๆ


โดย: mingky วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:17:09:24 น.  

 
ขอตอบคำถามก่อนนะ ก่อนที่จะไปอ่านเฉลย

ข้อ 1-2 ไม่รู้

ข้อ 3 - ไม่เชื่อ พริกที่เผ็ดที่สุดของโลกรู้สึกจะเป็นพริกเม็กซิกัน

ข้อ 4 - เคยได้ยินว่า ความเผ็ดอยู่ที่ผิวในของเปลือกพริกนะ

ข้อ 5 - ไม่เชื่อ ได้ยินมาว่าความร้อนจากพริกมีปริมาณไม่มากพอที่จะทำให้เกิดการเผาผลาญไขมันได้

ตอบเสร็จแล้ว ...
กลับขึ้นไปทำความรู้จักกับน้องพริกต่อดีกว่า


โดย: ซีบวก วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:17:19:10 น.  

 
ฮ่า - ฮ่า

habanero นี่แหละ เพื่อนชาวอเมริกาใต้คนหนึ่งเห็นเรากินเผ็ดเก่งเหลือเกิน
เลยเอาพริกนี้มาใส่สปาเก็ตตี้ซอสให้เรากิน
.....
.....
ขอบอกว่าสุดยอด.... ตักกินไปคำเดียว น้ำตาไหลพรากเลย




ปอ-ลอ
แต่มันเผ็ดสะใจดีนะ


วันนี้เขียนเรื่องดีอีกละสิน ... ขอบคุณนะ


โดย: ซีบวก วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:17:25:30 น.  

 
โอ้ โห ข้อมูลเพียบ..



โดย: zaesun วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:17:29:21 น.  

 
ข้อมูลบางอย่างบอกได้เลยค่ะว่าไม่รู้ .. นึกไม่ถึงด้วยล่ะค่ะ ... แต่ว่าได้ประโยชน์จริงๆ ...

ไม่เผ็ดก็ไม่เรียกว่าพริก และเรียกว่าพริกแต่ว่าไม่ได้ลองกินก็ไม่เผ็ดอ่ะนะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:17:49:45 น.  

 
ได้รู้เรื่องพริกๆมากขึ้นเยอะเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่าประโยชน์ของพริกจะมีมากมายขนาดนั้น คิดว่ามีแต่ความเผ็ดร้อนอย่างเดียวนะเนี่ย ไม่ค่อยชอบทานเผ็ดๆน่ะค่ะ เผลอทานเผ็ดทีไรปวดท้องทุกทีเลย

have a nice weekend ค่ะ คุณสิน


โดย: random-4 วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:17:53:40 น.  

 
ผมได้ความรู้เรื่องพริกขึ้นอีกเยอะเลยครับ ปรกติเห็นแต่แม่เอาพริกมาโขก ผมก็ช่วยแม่โขกประจำ เห็นแม่บอกว่า พริก นี่มันเผ็ด แต่ว่า อร่อย ครับ ผมล่ะอยากจะลองจัง


รักษาสุขภาพนะครับ ผมไม่ค่อยสบาย แม่ฝนเลยอดไปเที่ยวเลยครับ




โดย: Malee30 วันที่: 20 ตุลาคม 2549 เวลา:18:26:49 น.  

 
ไม่น่าล่ะครับ เวลาไปนั่งกินกับแกล้มในวงเหล้า พวกที่กินเหล้าถึงได้กินของเผ็ดกันเก่ง ที่แท้มันแพ้ทางแอลกอฮอล์นี่เอง

เวลาผมกินเผ็ดทีไร คันหัวทุกทีเลยครับ


โดย: T_Ang วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:1:17:26 น.  

 


โดย: ดำรงเฮฮา วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:1:33:42 น.  

 
อ่านไปเผ็ดไปค่ะ ..

เจ๊ตอบได้ชัวร์ๆก็ข้อสองนี่แหละค่ะ .. ตามประสาคนคุ้นเคย ..

เย็นนี้เจ๊จะแวะไปว่ายน้ำ .. วันเสาร์เย็นๆคนน่าจะเยอะ ที่สระว่ายน้ำใน sport club ที่เจ๊ไปว่าย มีสอนเต้นแอโรบิกในน้ำด้วยนะคะ เกินครึ่งของนักเรียนที่ไปเรียนอายุหกสิบอัพค่ะ .. เห็นคนแก่ญี่ปุ่นชอบออกกำลังกายแล้ว ดีจังเลยค่ะ ..


โดย: เจ๊ว่าแล้ว วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:12:10:26 น.  

 
ชอบทานอาหารที่มีพริกเป็นส่วนประกอบเพราะช่วยให้รสชาติมันอร่อยขึ้นค่ะแต่ว่าตอนนี้ทานเผ็ดมากไม่ค่อยได้สงสารเจ้าตัวน้อยค่ะดิ้นมากๆเวลาทานเผ็ด ข้อสอง ไม่น่าจะใช่เพราะแถวบ้านที่ญี่ปุ่น ก็เห็นเขาปลูกพริกกันนะค่ะ บางทีเขายังเก็บมาฝากเราเลยนะค่ะ


โดย: erina วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:12:25:08 น.  

 
อารมณ์ไหนครับเนี่ย 5555 ชอบพริกป่น กับพริกไทย


โดย: stawahna (stawahna ) วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:13:01:24 น.  

 
ตามมาเก็บความรู้ครับพี่สิน


โดย: Due_n วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:16:38:54 น.  

 
แม่โสมคลั่งพริกเผ็ดๆ ทุกชนิดค่ะ

ห่วงไส้ตัวเองเหมือนกัน


โดย: โสมรัศมี วันที่: 21 ตุลาคม 2549 เวลา:22:39:19 น.  

 
ได้แต่ปลูกพริกแต่ไม่เคยรู้เรื่องพวกนี้มาก่อนเลย จริงหรือที่ญี่ปุ่นปลูกไม่ได้
ผมก็ชอบพริก แต่ไม่ชอบกินนะ เพราะไม่ชอบเผ็ด
แต่ผมปลูกต้นพริกไว้เป็นไม้ประกับ หลายต้น
เวลาออกดอกเป็นสีขาว ก็สวยได้อารมณ์แบบเย็นสบายๆแบบหนึ่ง
เมื่อเริ่มจะแก่ จะเป็นสีเขียวๆ แดงๆ ก็ได้อารมณ์อีกอย่าง
ครั้นแก่แล้ว เป็นสีแดงทั้งต้น จะได้อารมณ์ร้อนสุดๆสวยมากครับ
เห็นภาพประกอบแล้ว ทำให้นึกถึงที่อยู่บนต้นจังเลย



หน่อไม้ดอง


โดย: หน่อไม้ดอง IP: 58.8.71.244 วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:1:38:32 น.  

 


1. จากข้อมูล นักโบราณคดีค้นพบว่าประเทศเปรูมีการปลูกพริกกันมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ ….หากถามว่าประเทศจีน จึงไม่เชื่อ


2. ประเทศญี่ปุ่นส่งออกพริกชี้ฟ้าไปยังประเทศต่างๆ และประเทศญี่ปุ่นมีการปลูกพริกหวานเพื่อใช้บริโภคในประเทศ….หากถามว่าประเทศญี่ปุ่นไม่มีการปลูกพริก จึงไม่เชื่อ


3. พริก Red Savina Habanero เผ็ดอันดับที่หนึ่งของโลก มีปลูกในหลายประเทศแถบอเมริกากลาง และอเมริกาใต้….หากถามว่าพริกขี้หนูของไทยเผ็ดอันดับหนึ่งของโลก จึงไม่เชื่อ





4. ความเผ็ดที่สุดของตัวพริก อยู่ที่ รก หรือเหยื่อแกนกลางสีขาว….. หากถามว่า อยู่ที่ เมล็ด จึงไม่เชื่อ


5. ยังไม่มีหลักฐานทางวิชาการยืนยันว่า การใช้ Capsaisin ซึ่งเป็นสารให้ความเผ็ดร้อนในพริก ไปเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจะมีผลต่อการเพิ่มการเผาผลาญพลังงานของร่างกายได้ ….ข้อนี้ จึงไม่เชื่อ เช่นเดียวกัน


โดย: yyswim วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:9:08:10 น.  

 

คุณมิ๊งค์…..ขอบคุณครับที่มาเจิม ทานเผ็ดได้ไหมครับ ถ้าบังเอิญทาน ควรจะแก้เผ็ดโดยการอมเกลือแทนการดื่มน้ำนะครับ หายไวกว่า


ซี…..อุอุ เคยกินเผ็ดระดับโลกมาแล้ว ได้ใจผมเลย เพราะผมกินเผ็ด ขอบคุณมากที่นำรูปสวยๆพริกยอดเผ็ดมาฝาก โฮะโฮะ แต่เสียดายวันนี้รูป เจ๊ง ซะแล้ว….ไม่เป็นไร รูปแบบนี้ผมมีในโกดังหลายรูป ถ้ามันเจ๊งจริงๆ เดี๋ยวผมจะนำรูปมาโพสต์ใหม่เอง

นาย สมกับระดับด๊อกเต๊อะ ตอบสิ่งที่รู้ถูกหมด โฮะโฮะ ขอปรบมือให้


โดย: yyswim วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:9:23:07 น.  

 

คุณแม่zaesun……ขอบคุณกั๊บ ที่เข้ามาเยี่ยม ข้อมูลหนักไปนิ๊ดนะกั๊บ


คุณนิด…..ไม่เผ็ดก็ไม่เรียกว่าพริก แต่เรียกว่า ดีปลี ปะแกว หมักเพ็ด พริกแด้ …โฮะโฮะ ป้มแซวแล๊นน

ป่าดำ ที่บล๊อกบ้านของคุณนิด ก็มีข้อมูลเจ๋งเป้งกั๊บ


โดย: yyswim วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:9:29:40 น.  

 

คุณrandom…..หากทานพริกแล้วเผ็ดและปวดท้อง ก็ทานน้อยมาก หรือไม่ทานนะครับ ยังมีพืชผักอีกหลายชนิดที่ทานแล้วได้คุณค่าไม่แตกต่างจากพริก

ผมเองทานเผ็ดมานานมากแล้ว ก็เลยไม่เป็นอะไร….เชื่อมั๊ย บางครั้งทานแกงส้มของคนกรุงเทพ จนเพื่อนแซวว่า เหมือนกับทานแกงจืด ก็ มันไม่เผ็ดอ่ะ

วีคเอนด์ คุณยังทำงานเนาะ …ผมเข้าใจครับ เพราะคุณต้องรับผิดชอบ วันหลังเขียนเรื่องงาน หรือลักษณะต่างๆของลูกค้านะครับ ผมจะรีบเหาะไปอ่าน อ้อ ช่วยมาสะกิดด้วยนะครับ


หลานกรานต์…..โฮะโฮะ น่ารักครับ คุณแม่ฝน โขลกพริกเหรอครับ ระวังอย่าไปนั่งใกล้ๆนะครับ เดี๋ยวพริกอาจกระเด็นเข้าตา คงจะแสบตาแย่ เรื่องทานพริก คุณแม่ฝนคงทานได้แน่ เพราะเคยเห็นส้มตำ ไม่รู้ว่าคุณพ่อของหลานเริ่มทานอาหารแบบมีพริกบ้างได้แล้วหรือยัง

จากข้อมูล ที่จขบ.ค้นคว้ามา แต่ไม่ได้เขียนลงไปในบล๊อก คือ นอรเวย์เป็นประเทศหนึ่งที่นำเข้าพริกแห้ง และพริกแปรรูปในลักษณะต่างๆ เช่น ซอสพริก เครื่องแกง น้ำจิ้ม น้ำพริกเผา


โดย: yyswim วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:9:44:29 น.  

 

ต๋อง….กินเผ็ดแล้วคันหัว โฮะโฮะ ผมว่าคงจะไม่แปลกนะ ผมเองกินเผ็ดแล้วจะน้ำมูกไหล และเหงื่อออกบนหัว

เรื่องกินพริกพร้อมกับแอลกอฮอล์ แล้วไม่ค่อยเผ็ด เพราะสารในพริกละลายง่ายในแอลกอฮอล์ คนที่กินเหล้าจึงไม่ค่อยแสบปากแสบลิ้น เป็นข้อมูลที่บางคนในวงเหล้ารู้มานาน แต่คนที่ไม่กินเหล้าก็ไม่ต้องเสียใจ เพราะนมก็สามารถละลายสารในพริกได้ดีกว่าน้ำเปล่า …โฮะโฮะ เชียร์ให้ดื่มนมในวงเหล้า คงถูกเบิ๊ดกาโหลกแน่


ดำฮา……สาทู๊!!!!


โดย: yyswim วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:9:55:19 น.  

 

เจ๊ว่าแล้ว….ข้อสอง เจ๊ต้องตอบถูกชัวร์ ในญี่ปุ่นปลูกพริกได้ โดยเฉพาะพริกหวาน

ขอให้ว่ายน้ำให้สนุกนะครับ ยามนี้ที่สระที่ผมว่ายอยู่ เด็กเยอะมั่กมาก เพราะเด็กปิดเทอมในช่วงนี้ เสียงดังเจี๊ยวจ๊าว สนุกครึกครื้นไปอีกแบบ วันหน้าผมจะเขียนเรื่องออกกำลังกายซักที ห่างจากเขียนเรื่องนี้มานาน ชักคิดถึง


คุณerina…..จากญี่ปุ่น เข้ามาช่วยยืนยันอีกแรงว่า ที่ญี่ปุ่นปลูกพริกได้

หลานตัวเล็กในท้อง ช่วงนี้ต้องการสิ่งมีคุณประโยชน์จากคุณแม่มาก …7-8เดือน ใกล้มากแล้วนะครับ คงจะดิ้นบ่อย ผมยังไม่ได้ทายเพศลูกสาวของคุณเลย ผมทายว่าได้ลูกสาวครับ ญาติทางเหนือคงจะตื่นเต้นไม่น้อยกว่าญาติทางญี่ปุ่นนะครับ ขอให้สมหวังและปลอดภัยนะครับ


โดย: yyswim วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:10:07:06 น.  

 

คุณโก้…..ชอบพริกป่น ชอบพริกไทย ก็พืชสมุนไพรนะครับ …อารมณ์เผ็ดเหมือนคนไทยคนอื่นๆ

ช่วงนี้มีคนทานเจกันเยอะครับ คุณโก้ คุณโอ๊ต ร่วมวงกะเขาหรือเปล่า แต่ผมเปล่าครับ


ดิว…..คณะวิทย์ ครบรอบ 40 ปีแล้ว เป็นผู้หลักผู้ใหญ่ที่ภูมิฐานแล้วน้อง


โดย: yyswim วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:10:13:54 น.  

 

แม่โสม…..ทานเผ็ดได้ เขาว่าเป็นคนสวย และมีเงินครับ อิอิ ขอให้ถูกหวยไวๆ


หน่อไม้ดอง…อิอิ คนนี้รวยอยู่แล้ว มะต้องอวยพร กะได้มั๊ง

โอ๊ะ เพิ่งรู้ว่าชอบพริก เลี้ยงพริก มองพริก แต่มะกินพริก เฮ้อ เสียดายยย


โดย: yyswim วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:10:19:58 น.  

 
ชอบดูพริกสีสวยดี แต่ไม่ชอบกินอะครับสงสารมันออก

จรงิ ๆ แล้วผมกินเผ็ดไม่เก่งเลยอ่า กินแล้วน้ำตาไหลยังกะคนอกหัก


โดย: 90210 วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:17:37:10 น.  

 
มาเม้นต์


โดย: rd_lam วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:18:09:30 น.  

 
อืม จะจำเอาไว้คับ ถ้าเผลอทานพริกหยิบเกลืือเข้าปากดีก่าเนอะ

ผมทานเผ็ดได้นิดหน่อยอ่ะ แต่ก้อชอบกินนะ
โดยเฉพาะน้ำพริกเห้นแล้วน้ำลายหก


โดย: mingky วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:19:48:45 น.  

 
โห...ข้อมูลเรื่องพริกเยอะจัง.....แต่ก็ยอมรับเลยว่า เพิ่งมารู้อะไรเกี่ยวกับพริกที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลย นอกจาก กิน กิน กิน และกิน ขอบคุณมากจ้า


โดย: แกงส้มไข่ชะอม วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:20:33:38 น.  

 
แวะมาเยี่ยมเลยได้ความรู้เรื่องพริกกลับไปมากมาย ขอบคุณที่สรรหาเรื่องดีๆมาฝากให้อ่าน


โดย: หนุ่มร้อยปี (หนุ่มร้อยปี ) วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:22:07:40 น.  

 
ไม่จริงมั้ง

จุกินเหล้า แต่ไม่กินเผ็ดอ่ะ

อยู่ที่คนมากกว่ามั้ง...

บางคนคุ้นชินอยู่กับการกินเผ็ด เพื่อนจุไม่กินเหล้า กินพริกซะขยาดเลยอ่ะคะ

ส่วนขี้เมาอย่างจุ กินได้นิดๆ หน่อยๆ ไม่ไหว เปลืองเหล้าค่ะ เพราะกินเผ็ดไม่ได้


โดย: กระจ้อน วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:22:52:41 น.  

 
แวะมาเยี่ยมเยียน
ขอบคุณที่แวะเข้ามาบล็อกผมนะครับ
รู้สึกว่าบล็อกของคุณ yyswim มีสาระดีจิงเลยคับ


โดย: Octo (Octo ) วันที่: 22 ตุลาคม 2549 เวลา:23:29:00 น.  

 
พี่สินให้ความรู้เรื่องพริกครบถ้วนเลย
เห็นชื่อเรื่องผมก็เผ็ดจิ๊ดแล้ว
ผมชอบพริกหบวก เพราะไม่เผ็ดครับ


โดย: basbas วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:18:18:08 น.  

 
สวัสดีค่ะ
แหมๆ จขบ. นี่ใจดีจังเลย นอกจากไปอวยพรวันเกิดถึงบล็อกแล้ว ยังให้ความรู้อีกนะคะเนี่ย

ไม่ค่อยรู้เรื่องพริกเท่าไหร่หรอกค่ะ ทานเป็นอย่างเดียว
ขาดพริก ขาดใจ


โดย: ตอง (Kazalong ) วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:19:25:43 น.  

 
ผมชอบทานเผ็ดครับ สะใจดี


ข้อมูลครบถ้วนได้ความรู้มากๆครับ เห็นรูปแรกก็เผ็ดจี๊ดเลยนะนั่น เคยได้ยินมาเหมือนกันครับว่าพริกอะไรไม่รู้ ไม่แน่ใจว่าเป็นบาเนโรแดง ซาวีนาที่เผ็ดที่สุด หรือพริกเม็กซิกันอะไรสักอย่างเนี่ยครับ จำไม่ได้แล้ว อยากรู้มากๆว่าจะเผ็ดขนาดไหนนะเนี่ย

อืมมม ผมเคยทานมะเขือเทศโดยไม่ตั้งใจหลังจากที่ทานเผ็ดไปครับ ได้ผลจริงๆนะ


อืมมม ผมไม่ได้เข้ามาเยี่ยมคุณสินซะนานเลยครับพอดีงานยุ่งมาสักพักใหญ่ๆแล้ว เพราะผมรับงานออกแบบชิ้นใหม่ เป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่เลยทีเดียว ตอนนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการออกแบบครับ ต้องมีการตรวจแบบร่างที่ออกแบบไว้ตามระยะเวลาที่ตกลงกับลูกค้า ผมจึงง่วนกับการนั่งคิดแบบทั้งวันเลย


ไว้มีโอกาสเข้าบล็อกมา จะเเวะมาเรื่อยๆครับคุณสิน


โดย: พ่อน้องโจ วันที่: 23 ตุลาคม 2549 เวลา:22:19:46 น.  

 
ลุงสิน --- เค้าบอกกินพริกเยอะทำให้สายตาสั้นจริงปะ


โดย: err_or วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:8:31:33 น.  

 

90210…..โฮะโฮะ กินพริกแล้วเผ็ดน้ำหูน้ำตาไหล งั้นโปรดทานน้อยๆ
สำหรับผมเนี่ยแปลก กินแล้วน้ำมูก(ใสๆ)ไม่ไหล แปลว่าไม่อร่อย


คุณlam….มาเยี่ยม อิอิ หลานผมเอง
หวัดดีจ๊ะ รู้ว่าเพิ่งทำบล๊อก ขอให้กล้าๆเขียน กล้าๆเมนต์ของเพื่อนๆ


โดย: yyswim วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:9:57:25 น.  

 
เที่ยวนี้ มาแบบ แสบแซ่บ เลยนะคะ
ได้ความรู้เรื่องพริกเยอะดีค่ะ


โดย: VA_Dolphin วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:10:04:11 น.  

 

คุณมิ๊งค์....ผมล่ะ เป็นคนหนึ่งที่ชอบทานผัก ยิ่งมีน้ำพริกกะปิยิ่งชอบ น้ำพริกมะขามก็อีกอย่างที่ชอบทานครับ ไปนอกคราวใด จะนำน้ำพริกแห้งๆไปด้วยทุกครั้ง.....โฮะโฮะ โชคดียังไม่โดนห้าม

ที่เล่ามา ก็คือชอบทานอาหารอะไรๆที่มีรสชาติเผ็ด เคยทอดไข่เจียวโดยใส่พริกขี้หนูบุบๆลงไป3-4เม็ด ...อืมม อร่อยดีครับ


คุณแกงส้ม....หวัดดีครับ วันนี้ผมเขียนเรื่องแนวผัก แต่ครั้งต่อไป คงจะเขียนเรื่องแนวคนครับ หากมีเวลาว่างขอเชิญแวะมานะครับ


โดย: yyswim วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:10:09:19 น.  

 

คุณหนุ่มร้อยปี.....หวัดดีครับ ไม่ได้เจอนานนะครับ สบายดีนะครับ ขอบคุณที่ชอบเรื่องนี้ครับ


คุณจุ......อิอิ ผู้สันทัดสุราเข้ามายืนยันเรื่องพริก ขอบคุณนะคร้าบ

อาหารเผ็ดจากกระทะเดียวกัน เมื่อตักใส่สองจาน จานหนึ่งให้คนกินกะเหล้า อีกจานหนึ่งให้คนกินกะน้ำ
จากข้อมูลบอกว่า คนกินเหล้าจะกินอาหารนี้โดยรู้สึกเผ็ดแต่ไม่นาน เพราะเหล้าจะละลายความเผ็ดในปากลงท้องไป แต่อีกคนหนึ่งจะรู้สึกเผ็ดนานกว่าหน่อยนึง เพราะน้ำไม่ใช่ตัวละลายความเผ็ด รสเผ็ดยังค้างอยู่ในปาก
ที่จริงควรจะมีตัวแปรอื่นๆด้วยครับ เช่น สองคนนี้ควรจะทานเผ็ดเท่ากัน

คุณจุทานเผ็ดไม่ได้ไม่เป็นไร แต่ขอให้ทานผักบ้างนะครับ ในผักมีประโยชน์เยอะมาก สังเกตเถอะว่า ผมมักจะอวยพรให้คนทานผัก


โดย: yyswim วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:10:27:56 น.  

 

คุณOcto….ขอบคุณครับที่มาเยี่ยมบล๊อกบ้านนี้ ที่จริงบางครั้งบ้านนี้ก็มีโจ๊กครับ อิอิ โจ๊กรสสัปดน คงไม่เข้าข่ายสาระนักหรอก


น้องบาส.....พริกหยวกเผ็ดเล็กน้อยครับ แต่ก็พริกเหมือนกัน ในข้าวผัดที่พี่สินสั่ง แม่ค้าเขาจะรู้ใจ จะหั่นพริกชี้ฟ้า หรือไม่ก็พริกหยวกใส่มาให้ด้วยเสมอ อร่อยทุกที น้องบาสอัพบล็อกเรื่องใหม่แล้วยัง เด๋วไปเยี่ยมนะ


โดย: yyswim วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:10:35:43 น.  

 

คุณตอง.....อูยย ผมขาดพริกแทบขาดใจเหมือนกัน กินอาหารฝรั่งทีไร พยายามขอซอสพริกเขา


พ่อน้องโจ.....สมแล้วที่อยู่ใต้ อาหารใต้มีรสค่อนข้างเผ็ดแต่ก็ให้ผักสดมาแกล้ม โฮะโฮะ อร่อย
...เออ ผมเขียนเรื่องขนมจีนปักษ์ใต้อยู่หน่อยนึงครับ ไม่รู้ว่าได้อ่านหรือยังกดที่นี่


ม๋าเอ๋อ......ทานพริกแล้วสายตาสั้น เหอ
...เออ ไม่รู้ดิ แต่จากข้อมูล ในพริกมีทั้งวิตามินซี วิตามินเอ
“พริกมีวิตามิน C สูง เป็นแหล่งของกรด ascorbic acid ซึ่งสารเหล่านี้จะช่วยขยายเส้นโลหิตในลำไส้และกระเพาะอาหาร เพื่อให้ดูดซึมอาหารได้ดีขึ้น ช่วยร่างกายขับถ่าย ของเสีย และช่วยนำธาตุอาหารไปยังเนื้อเยื่อของร่างกาย (tissue) พริกขี้หนูสดและพริกชี้ฟ้าสด มีปริมาณวิตามิน ซี 87.0 - 90 มิลลิกรัม / 100 g

พริกมีสารเบต้า – แคโรทีน หรือวิตามิน A สูง สังเกตที่ผิวของพริกจะมีสีสันสดใส ทั้งเขียว เหลือง แดง (พริกขี้หนูสดมี 140 .77 RE )”

…..ซึ่งวิตามินเอ จะเกี่ยวกะบำรุงสายตา ม้าง


โดย: yyswim วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:10:51:51 น.  

 

คุณVA_dolphin…..เผ็ดไปหน่อย จริงด้วยครับ

พ่อบ้านของคุณสามารถทานอาหารไทยที่มีพริกผสมอยู่บ้างมั๊ยครับ ประเภทต้มยำ แกงเขียวหวาน หรือผัดไทย ...เพราะถ้าขาดพริก น่าจะไม่อร่อยแซบ


โดย: yyswim วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:11:04:04 น.  

 
โห ได้ความรู้เพียบเลย ขอบคุณมาก เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าพริกเป็นญาติกะมะเขือเทศด้วย แต่มะเขือเทศไม่ยักกะเผ็ด เราก็กินพริกเยอะนะ แต่ดูๆ แล้วคงสู้ชาวเม็กซิกันไม่ได้เรย


โดย: ยังคงรักเธอ (takechio ) วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:11:46:48 น.  

 
ขอบคุณมากค่า
ปกติชอบรสจัดค่ะ
โดยเฉพาะเผ็ด
เวลากินข้าวกะเพื่อนโดนด่าทุกที
มันกลัวว่าสายตาจะสั้นอ่ะค่ะ^^'



...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:12:34:37 น.  

 
อ่านช่วงแรกๆ แล้วอดนึกุงหนังสือ "อำ-ไม่อำ" ของใครแล้วหว่า ที่เขียนหนังสือ "ชุดเสี่ยวรักนักสืบ" เลยครับ

พูดถึงความเผ็ด เป็นต้องนึกถึง พริก ทุกคนแหละครับ นับว่ารสเผ็ด แทบจะเป็นรสชาติประจำภาคใต้ไปซ่ะแล้ว

พริกที่ผมชอบมากที่สุดก็คือ พริกหวานครับ เมื่อก่อนตอนยังเรียนอยู่ ทำงานเป็นเด็กเสริฟที่ ซีฟู๊ด ได้กินพริกหวานเป็นครั้งแรก กินแล้วชอบเลยครับ เค้าเอามาทำเป็น สลัดค๊อกเทล .. ทุกวันนี้ไม่ได้เป็นเด็กเสริฟแล้ว ก็เลยอดคร้าบบบ


โดย: merf1970 วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:12:41:27 น.  

 
ดันตอบเชื่อทุกข้อค่ะ 555 มาบล็อกนี้ได้ประโยชน์ดีมากค่ะ


โดย: brasserie 1802 วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:14:19:01 น.  

 
รู้อย่างเดียวครับ ว่าผมไม่กินพริกครับ
ก็มันเผ็ดนิ


โดย: little-joe วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:18:29:11 น.  

 
ขอบคุณมากๆ สำหรับข้อความอวยพรวันเกิดที่บล็อคนะคะ

ที่จริงมีเขียนขอบคุณทุกๆ คนในหน้าล่าสุดแล้วค่ะ แต่อาจจะตาลายนิดหนึ่ง ถ้าว่างก็แวะไปอ่านได้ค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักกันนะคะ


โดย: อุรัสยา วันที่: 24 ตุลาคม 2549 เวลา:22:45:02 น.  

 




สวัสดีตอนตีหนึ่งของ เนเธอร์แลนด์ นะจ้า


มีเพียงหัวใจดวงหนึ่ง
รวมทั้งความคิดถึงและห่วงใย
มอบให้เธอเป็นกำลังแทนสิ่งใด
เท่าที่ใจของฉันนี้มีให้เธอ



** มีความสุขมากๆๆในวันนี้นะจ้า **



โดย: จอมแก่นแสนซน วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:6:07:29 น.  

 
เพิ่งรู้นะครับว่าคนเม็กซิโกกินพริกได้เผ็ดร้อนกว่าคนไทยตั้ง 4 เท่า
สำหรับที่ว่าแกนกลางของพริกเผ็ดสุดนี่ผมก็ว่าอย่างนั้นเพราะผมเขี่ยออกประจำเลยครับ
อ่านจนจบนี่ได้รู้เรื่องพริกมากขึ้นอีกเยอะเลยนะครับผม ขอบคุณครับ

อ้อ... นกที่คาบพริกไปตกในที่ต่างๆ นี่อีกาหรือเปล่าครับ


โดย: พลทหารไรอัน วันที่: 25 ตุลาคม 2549 เวลา:11:34:41 น.  

 
บ่าฮ่า โทษของพริกทำไมบ่าบอก


โดย: รนา IP: 222.123.25.130 วันที่: 21 กันยายน 2551 เวลา:15:17:21 น.  

 
ผมทำรายงานอยู่ได้ภาพเยอะมากขอบคุณคับ ^6^


โดย: ไม่xล่อแถมจน IP: 222.123.212.48 วันที่: 4 พฤศจิกายน 2551 เวลา:19:40:42 น.  

 
ขอคุณครับ


โดย: danchaiครับ IP: 58.10.96.22 วันที่: 5 มีนาคม 2552 เวลา:0:24:35 น.  

 
ขอบคุณข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากสำหรับมือใหม่หัดปลูกพริกอย่างดิฉันแล้ววันนึงจะส่งรูปผลงานมาให้วิจารณ์บ้างค่ะ


โดย: คุณ ฐิ IP: 101.109.14.200 วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:5:06:38 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

yyswim
Location :
กรุงเทพ Thailand

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 40 คน [?]





บล็อกสรรสาระนี้ จขบ.ไม่ได้เขียน-ไม่ได้ถ่ายภาพ-ไม่ได้อัพโหลดคลิปเอง หากแต่ทำหน้าที่เป็นบรรณาธิการบล็อก เสาะหาเรื่องดีๆ รูปสวยๆ คลิปแปลกๆ มาไว้ในบล็อก


ขอขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยม ขอเชิญชมหรืออ่านตามสบาย ไม่ต้องคอมเมนต์ก็ได้ จขบ.ชอบการเข้ามาเยี่ยม แบบกันเอง ง่ายๆ สบายๆ




เริ่มเขียนBlog เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2548


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ.2550 เวลา 23.30 น.


เริ่มนับจำนวนผู้เข้าเยี่ยมชม




Latest Blogs

New Comments
Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add yyswim's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.