แม้นานเนาก็ยังห่วงยอดดวงเสน่หา...
 
 

หนังสือเล่มแรก

เป็นนิยายเรื่องแรกที่เขียน
เขียนเพราะอยากเขียน เขียนเพราะต้องเขียน
ไม่เขียนไม่ได้ อยูไม่ได้
ขอบคุณโครงการทมยันตีอะวอร์ด ที่ทำให้มีคนหลวมตัวยอมพิมพ์และจัดจำหน่ายให้

"ออกญา" โดย "กรกุณารี"

นามปากกาเอามาจากชื่อจริง "กรุณา"
ขยับสระไปอีกนิด เติมไปอีกหน่อย ก็ได้ชื่อนามปากกากรกุณารี (กอน-กุ-นา-รี)
อ่านยาก แต่จริงใจ...
เพื่อนบางคนอ่านว่า กาลกิณี บางคนก็ว่า กรุณากาลี

เพื่อนพูดเล่น แต่เราเสียใจนิดๆและติดตรึง...

สำนักพิมพ์ ณ บ้านวรรณกรรม หลวมตัวพิมพ์และจัดจำหน่ายให้ ตั้งแต่เดือนตุลาคม๒๕๔๙
ได้ค่าลิขสิทธิ์ครั้งแรกเมื่อเมษายน ๒๕๕๐ โดยต้องไปรับเองที่สำนักพิมพ์ อีกสองงวดทางสำนักพิมพ์บอกว่าจะให้เมื่อไหร่แล้วจะบอก
ค่าลิขสิทธิ์ที่ได้เอาไปทำบุญซุ้มประตูวัดหมด
เพราะชอบสถาปัตยกรรมซุ้มประตูวัดมาก...

เบื้องหลังการเขียน "ออกญา"

รำพึงขึ้นมาในคืนหนึ่งของเดือนมิถุนายน ๔๘ ว่าจะเขียนถึงออกญาเสนาภิมุข หรือยามาดะ นางามาสะ
ยังจำภาพหมอนที่กำลังโน้มตัวลงไปนอนได้ แวบหนึ่งก่อนหัวจะถึงหมอน ความคิดนั้นก็แล่นปราดเข้ามา และเมื่อนอนทับความคิดนั้นแนบไปกับหมอน ก็วางพล็อตคร่าวๆในความสลัวรางของค่ำคืนนั้น มีสามีนอนอยู่ข้างๆ ราวกับจะช่วยบอกว่า คนญี่ปุ่นเองก็อยากจะรู้ว่า คนไทยนึกคิดอย่างไรกับคนของเขา...

แล้วการค้นคว้าก็เกิดขึ้น

ไปพิพิธภัณฑ์ที่เมืองซากุระ เพื่อดูเรือสำเภาตราแดงกับสามีและลูกในวันรุ่งขึ้น ยังได้เห็นปีนสั้นปืนยาว เขียนกำกับไว้ข้างใต้ว่า "มาจากอยุธยา"
รู้สึกตื้นๆอยู่ในอก...

เว็บไซต์ทั้งภาษาไทยและญี่ปุ่นถูกระดมอ่านนับแต่วันนั้น เพื่อเทียบเคียงขัอมูลด้านประวัติศาสตร์ หนังสือประวัติศาสตร์หลายเล่มส่งมาจากเมืองไทยเมื่อสั่งซื้อทางออนไลน์ และการไปห้องสมุดประชาชนที่นี่ก็เริ่มขึ้น จึงได้พบว่า ญี่ปุ่นมีแหล่งค้นคว้าที่สะดวกและเอื้ออำนวยเหลือเกิน ต่างกับบางประเทศอย่างเปรียบเทียบกันมิได้...
น่าน้อยใจนัก...

กำหนดตัวละครสำคัญ

พล็อตเรื่องถูกวางคร่าวๆ รวมทั้งตัวละครสำคัญ และฉากอื่นๆ ทุกอย่างเขียนเป็นตารางลำดับตามพ.ศ.ที่ค้นได้จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ของทั้งสองภาษา
หลังจากนั้นก็ใส่สีสันของ "นิยาย" ด้วยการเติมฉากให้เป็นไปตามฤดูกาลที่ผันเปลี่ยน และลักษณะภูมิประเทศของทั้งสองประเทศ

ระหว่างที่ "ทำงาน" ไม่มีความคิดว่าจะส่งไปสำนักพิมพ์ใด ด้วยยังมืดมิดอยู่ทั้งแปดด้านสำหรับนักเขียนหน้าใหม่และโนเนม
รู้อยู่อย่างเดียวเท่านั้นว่า "ต้องเขียน"

ชะรอย "ออกญาเสนาภิมุข" จะปรารถนาให้เรื่องของเขาได้ปรากฎ ความมุ่งมั่นนั้นไม่คลอนคลายไปแม้สักนิดเดียว ไม่ว่าจะมีอุปสรรคใดๆ และอุปสรรคที่สำคัญที่สุดคือ ความขี้เกียจ ซึ่งเป็นโทษสมบัติที่มีติดตัวมาแต่กำเนิด ลบล้างอย่างไรก็ไม่อาจหายไปจากกายได้

อุปสรรคที่ไม่อาจเรียกได้เต็มปากนักมีมาอีกระลอก เมื่อสำนักพิมพ์แจ่มใสเมลมาบอกว่า ผ่านข้อสอบให้เป็นนักแปลอิสระกับสำนักพิมพ์ และขอให้แปลนิยายญี่ปุ่นเรื่องหนึ่ง

รับแปลตลอดข้อหาไม่มีข้อกังขาใดๆทั้งสิ้น เพราะอยากมีโอกาส "เกิด" ในโลกวรรณกรรม
เมื่อเซ็นสัญญาแล้วจึงได้พบว่า นิยายวิทยาศาสตร์เรื่องที่ได้รับมอบหมายให้แปล เป็นนิยายสยองขวัญ...
แค่นั้นยังไม่พอ ยังเป็นนิยายที่เขียนโดยนักเขียนนิยายวิทยาศาสตร์ที่ไม่มีคุณลักษณะรังสรรค์ "วรรณกรรม"

เสียเวลาไปสองเดือนกับหน้าที่รับผิดชอบที่ได้ตัดสินใจไปแล้ว ๕๐๕ หน้ากระดาษหนาหนักและแน่นเอี้ยดไปด้วยข้อมูลทางด้านพยาธิ พันธุกรรม ดีเอ็นเอ สายพันธุ์ลิง รูปภาพของจิตรกรเอกของโลก ห้องทดลอง และแม้แต่ความรู้ด้านการแพทย์ ที่คนเขียนชาวญี่ปุ่นเจ้าของเรื่องได้ไปก๊อปปี้มาแปะไว้ใน "วรรณกรรม" ของเขา
และ "คนคัดนิยาย" ก็ได้ไปหยิบมาให้สำนักพิมพ์อีกที

อารมณ์ต่อเนื่องเพื่อเขียน "ออกญา" หายไปกว่าสองเดือน และดูเหมือนจะเรียกคืนไม่ได้เสียด้วย
เพราะหลังจากที่แปลนิยายสยองขวัญสั่นประสาทจบ ก็ไม่อาจดึงอารมณ์สุนทรีที่เคยมีมาก่อนหน้านี้คืนได้ ภาพนิยายที่แปลไปยังคงวกวนเวียนอยู่ในสมอง และแน่นอนว่าไม่ใช่ภาพที่รื่นรมย์

ผ่านเวลามาจนถึงเดือนพฤศจิกายน อารมณ์ก็ยังไม่อาจหวนคืนไปยังสมัยอยุธยาตอนกลางได้
แต่แม่วาดและยามาดะ อีกทั้งตัวละครสำคัญอื่นๆก็ยังวนเวียนอยู่ในห้วงคำนึง เหมือนจะเชิญชวนให้หวนสู่กาลนั้นอีกครั้ง

โครงการที่เข้าร่วมด้วย ได้รับรู้ด้วยการอ่านผ่านอินเตอร์เนต เอาละ... ส่งที่นี่ละกัน...

ต้นธันวาคมปี ๔๙ ใจเริ่มร้อนรน ด้วยยังเขียนไปไม่ถึงไหนเลย แต่ก็ทำจนได้ เขาว่าให้ได้อย่างต่ำ ๒๐๐ หน้า
เขียนได้พอดีเป๊ะ แบบฉิวเฉียดมาก

ส่งต้นฉบับ ๒๙ ธันวาคม ๔๘
เป็นลำดับที่ ๙๙ ของผู้ส่งทั้งหมด ๑๕๓ เรื่อง
บอกกับตัวเองว่า "ไม่เข้ารอบก็บ้าแล้ว"
อหังการถึงปานนั้น...


ต่อภาค ๒

กรกุณารี




 

Create Date : 03 กรกฎาคม 2550   
Last Update : 3 กรกฎาคม 2550 15:05:20 น.   
Counter : 1538 Pageviews.  


1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  

majoreenu
 
Location :
Chiba Japan

[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]




ข้อความในหน้านี้
เป็นของที่เจ้าของสงวน
ห้ามเอาไปไม่บังควร
จงคิดครวญให้จงนาน

อาจโดนตบกะโหลก
เอาหัวโขกเสียบประจาน
เพราะเจ้าของเป็นคนพาล
ทรงเสน่ห์และเล่ห์กล

ฮุ ๆ ฮุ ๆ ๆ
อีกฮุ ๆ ฮุ ๆ ๆ

สร้อยสัตตบรรณ
เจ้าของบล็อก

....................................................

สร้อยสัตตบรรณ หรือกรกุณารี
ก็คนคนเดียวกัน...

ฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯฯ


ความคิดถึงที่อ่านได้
[Add majoreenu's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com